กระบี่จงมา 890.2 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 890.2 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉิน​ผิง​อัน​ฉวยโอกาส​ตอนที่​เว่ย​ป้อ​เหม่อลอย​ ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “เสี่ยว​โม่ ระดับ​ขั้น​คือ​อะไร​?”

เสี่ยว​โม่ตอบ​ตามตรง​อย่าง​สัตย์​จริง​ “อาวุธ​กึ่ง​เซียน​”

เว่ย​ป้อ​กำลังจะ​แข็งใจ​ยื่นมือ​ไป​รับ​ของขวัญ​

เฉิน​ผิง​อัน​รีบ​ใช้มือหนึ่ง​คว้า​มือ​ของ​เว่ย​ซาน​จวิน​เอาไว้​ อีก​มือหนึ่ง​กด​ข้อมือ​ของ​เสี่ยว​โม่ พูด​บ่นว่า​ “ล้วน​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ จะเกรงใจ​กัน​ไป​ไย​ เสี่ยว​โม่อ่า​ เจ้าเห็น​เว่ย​ซาน​จวิน​ของ​พวกเรา​เป็น​ใคร​ เก็บ​ไป​เลย​ เก็บ​ไป​เลย​”

เว่ย​ป้อ​หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “เสี่ยว​โม่อ่า​ เฉิน​ผิง​อัน​พูด​มีเหตุผล​ ล้วน​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ เจ้าจะเกรงใจ​ไป​ไย​ ของขวัญ​นี้​ข้า​จะรับ​ไว้​แล้ว​ แล้วก็​ขอให้​ข้า​ได้​เอ่ย​ประโยค​เกรงใจ​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​เจ้าด้วย​ งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​คราวหน้า​จะขาด​พี่​เสี่ยว​โม่ไป​ได้​อย่างไร​ ต่อให้​เป็น​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ที่​จัด​ขึ้น​เพื่อ​เสี่ยว​โม่โดยเฉพาะ​ก็​ยัง​จัด​ให้ได้​”

หาก​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ทำ​เช่นนี้​ เว่ย​ซาน​จวิน​ก็​ยัง​ไม่แน่ใจ​ แต่​ยิ่ง​เฉิน​ผิง​อันเป็น​เช่นนี้​ เว่ย​ป้อ​ก็​ยิ่ง​รู้​ว่า​หาก​ตน​ไม่รับ​ของขวัญ​เอาไว้​ต้อง​เสียใจ​จน​ไส้เขียว​แน่​

ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​หรือไม่​?

หาก​ข้า​ผู้อาวุโส​ยัง​ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​จะสามารถ​จัด​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ได้​หลายครั้ง​ขนาด​นั้น​หรือ​? ชื่อเสียง​ฉาวโฉ่​ระบือ​ไป​ถึงอุตรกุรุทวีป​โน่น​แล้ว​!

หลิ่ว​จงหลง​ไร้​ศัตรู​ทัด​ทานบน​โต๊ะ​สุรา​ แพร่​กัน​ออก​ไป​ได้​อย่างไร​?

แล้ว​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ของ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​บ้าน​ตน​ แรกเริ่ม​สุด​เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​?

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ไป​ยัง​เว่ย​ซาน​จวิน​

สอง​ชิ้น​เยอะ​เกินไป​หน่อย​หรือไม่​ ชิ้น​เดียว​พอ​ไหม​

เว่ย​ป้อ​มอง​เจ้าขุนเขา​เฉิน​

ไสหัวไป​

สายตา​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ยังคง​หนักแน่น​

ต้น​ไผ่​ที่​ก่อนหน้านี้​กว่า​ข้า​จะใช้เงินทอง​ของจริง​ซื้อ​มาจาก​ฮูหยิน​ภูเขา​ชิงเสิน​ได้​อย่าง​ไม่ง่าย​ล่ะ​? ข้า​มอบให้​ภูเขา​พี​อวิ๋น​เปล่าๆ​ นะ​?

เว่ย​ซาน​จวิน​ตอบกลับ​ด้วย​เสียงหัวเราะ​เย็นชา​

เรื่อง​ไหน​ก็​ส่วน​เรื่อง​นั้น​ ข้า​กับ​สหาย​สี่จู๋แค่​พบ​เจอ​ก็​เหมือน​รู้จัก​กัน​มานาน​ เจ้ามีหน้า​ขวาง​ ข้า​ก็​มีหน้า​รับ​ไว้​

เพื่อนบ้าน​สอง​คน​ เวลานี้​แม้เงียบงัน​ไม่ส่งเสียง​กลับ​เหนือกว่า​การ​พูดคุย​กัน​ออกเสียง​เสีย​อีก​

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​ว่า​ถึงอย่างไร​ฝีมือ​ของ​ตน​ก็​ด้อย​กว่า​คน​เขา​ จึงได้​แต่​หุบ​มือ​กลับมา​ สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​เอ่ย​ “เสี่ยว​โม่อ่า​ พวกเรา​สามารถ​รอ​เทียบเชิญ​ของ​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ครั้ง​ต่อไป​ได้​แล้ว​ ถึงอย่างไร​โอกาส​ก็​หา​ได้​ยาก​ เป็นเรื่อง​ดี​ที่​ไม่ได้​พบ​เจอ​ได้​บ่อยๆ​”

เว่ย​ป้อ​เก็บ​ขวาน​หยก​เขียว​และ​เย​ว่​หยก​เหลือง​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “จะดื่มเหล้า​หรือ​ดื่ม​ชา ล้วน​ฟังพวก​เจ้า”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​หึหึ​ถามว่า​ “ดื่ม​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​ได้​หรือไม่​เล่า​?”

เว่ย​ป้อ​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ตามใจ​”

เสี่ยว​โม่รู้สึก​ว่า​คุณชาย​บ้าน​ตน​กับ​เว่ย​ซาน​จวิน​มีความสัมพันธ์​ที่​ลึกล้ำ​ต่อกัน​จริงๆ​ ดูท่า​ของขวัญ​ที่​มอบให้​ไป​จะไม่เสียเปล่า​

ใน​ภูเขา​พี​อวิ๋น​มีอะไร​? บน​ยอดเขา​มีเมฆหลาก​สี มีต้นไม้​เขียวขจี​ มีศาลา​หอ​เรือน​

วันนี้​ใน​ภูเขา​มีเรื่อง​อะไร​? สหาย​รัก​ได้​กลับมา​พบ​เจอ​หน้า​ ร่ำสุรา​ดอก​สน​ ใช้น้ำ​ฤดูใบไม้ผลิ​ชงชา

สุรา​ดอก​สน​ที่​เว่ย​ซาน​จวิน​หมัก​เอง​กับ​มือ​รสชาติ​เลิศ​ล้ำ​ เพียงแต่ว่า​ชื่อเสียง​ไม่โด่งดัง​เท่า​เหล้า​หมัก​ตำหนัก​ฉางชุน​ก็​เท่านั้น​

จะว่า​ไป​แล้ว​ ใน​อาณาเขต​ของ​ขุนเขา​เหนือ​ ใคร​จะกล้า​ดื่ม​สุรา​ดอก​สน​ของ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ง่ายๆ​ บ้าง​เล่า​? ก็​มีแค่​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​เท่านั้น​ถึงจะมีโอกาส​ได้​ดื่ม​สัก​กา​

เหล้า​หมัก​ตระกูล​เซียน​ที่​แพง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​ นอกจาก​ภูเขา​ชิงเสิน​แห่ง​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​แล้วก็​คือ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​นั่นเอง​

น้ำพุ​คือ​น้ำพุ​หยก​มรกต​ที่​มีเฉพาะ​ใน​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ซึ่งติดอันดับ​หนึ่ง​ใน​น้ำพุ​ที่​มีชื่อเสียง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​

อันที่จริง​เรื่อง​ของ​การประเมิน​น้ำพุ​มาจาก​ฝีมือ​ของ​คน​เชื่อ​ดาบ​สำนัก​โม่อย่าง​ต่งสุ่ย​จิ่ง เนื่องจาก​น้ำพุ​สามแห่ง​ที่​ติดอันดับ​ล้วน​ถูก​เขา​เหมา​มาเป็น​ของ​ตัวเอง​หมด​แล้ว​

ใบชา​คือ​ชาใหม่​ก่อน​และ​หลัง​ช่วง​ฝน​ธัญพืช​ที่​หน่วน​ซู่น้อย​ส่งมาให้​ มาจาก​ต้น​ชาป่า​เก่าแก่​หลาย​ต้น​บน​ยอดเขา​ไฉ่อวิ๋น​ หน่วน​ซู่รับผิดชอบ​เด็ด​ใบชา​ จากนั้น​ค่อย​ให้​พ่อครัว​เฒ่าเป็น​คน​ผัด​ใบชา​เอง​กับ​มือ​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ขอให้​ข้า​ได้​เปลี่ยน​จาก​แขก​เป็น​เจ้าบ้าน​สักครั้ง​ ข้า​จะเป็น​คน​ต้ม​ชาเอง​”

หลังจาก​นั่งลง​แล้วก็​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ชุด​เขียว​ ร่าย​เวท​วารี​และ​อัคคี​สอง​บท​

เรื่อง​ของ​การต้ม​ชา ทำได้​อย่าง​คล่องแคล่ว​ดุจ​เมฆคล้อย​น้ำ​ไหล​ มอง​แล้ว​เพลินตา​สบายใจ​

เว่ย​ป้อ​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​จน​ตาหยี​

เด็กหนุ่ม​รองเท้าแตะ​ใน​อดีต​กลับ​มีมาด​สง่างามดุจ​เซียน​เช่นนี้​แล้ว​

กลับ​จาก​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ไป​ยัง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

คืนนี้​หนิง​เหยา​พัก​อยู่​ใน​เรือน​ของ​หน่วน​ซู่น้อย​ หมี่​ลี่​น้อย​มักจะ​มาขอ​นอน​กับ​พี่​หญิง​หน่วน​ซู่เป็นประจำ​อยู่แล้ว​ คราวนี้​ก็​เลย​ตามมา​ด้วย​ ถึงอย่างไร​ที่นั่น​ก็​มีผ้าห่ม​มาก​พอ​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​ชั้นหนึ่ง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​ พอ​ถึงกลางดึก​ก็​ไป​ที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​ตรอก​หนี​ผิง​ ไป​จุด​ตะเกียง​แล้ว​นั่ง​อยู่​ทั้งคืน​โดยที่​ไม่รู้สึก​เปลี่ยวเหงา​

……

เช้าตรู่​วัน​ที่สอง​กลับมา​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​หนิง​เหยา​ก็​ไป​เยือน​หอ​บูชา​กระบี่​อีกครั้ง​

ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​อย่า​งอ​วี๋​เย​ว่​กลับเป็น​เค่อ​ชิงของ​สกุล​เซี่ย​มี่อวิ๋น​แห่ง​ธวัล​ทวีป​

ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าไม่ค่อย​กล้า​พบ​หน้า​เจ้าขุนเขา​เท่าใด​นัก​ จึงรีบ​เตรียมตัว​ออกเดินทาง​ทันที​ ไม่อย่างนั้น​ด้วย​เรื่อง​ลูกศิษย์​ที่​เขา​หลอก​ที​ก็​หลอก​เอา​มาได้​ถึงสอง​คน​ ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าก็​ควรจะ​เผ่น​นาน​แล้ว​ หาก​ยัง​ไม่ยอม​หนี​อย่าง​รู้​กาลเทศะ​ ทำให้​ใคร​บางคน​ไม่ต้อง​เจอ​หน้า​ใจก็​ไม่ต้อง​หงุดหงิด​ อวี๋​เย​ว่​ก็​เริ่ม​กังวล​แล้ว​ว่า​จะถูก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ถามกระบี่​เอา​

อวี๋​เย​ว่​เจอ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​รู้​ความหมาย​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​คร่าวๆ​ แล้ว​ จึงยิ่ง​สบายใจ​ขึ้น​ได้​หลาย​ส่วน​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​สัพยอก​ “อย่า​รู้สึก​ว่า​ข้า​กำลัง​ไล่​คน​เชียว​นะ​”

“มีหรือ​จะกล้า​”

อวี๋​เย​ว่​ยิ้ม​กล่าว​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ บอก​หมี่​อวี้​ว่า​อย่า​โกรธ​เลย​นะ​ หลาย​วันนี้​ที่​ข้า​อยู่​บน​ภูเขา​จงใจเรียก​เขา​ว่า​เซียน​กระบี่​หมี่​เอง​แหละ​ แม้จะบอ​กว่า​ข้า​ไม่มีประโยชน์​กะ​ผายลม​อะไร​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แต่​จะดี​จะชั่ว​ก็​ยัง​รู้​ขนบธรรมเนียม​ของ​ที่นั่น​ วันหน้า​ได้​เจอ​กับ​สหาย​เฒ่าอย่าง​ผู​เห​อ​ก็​จะมีเรื่อง​ให้​คุยโว​บน​โต๊ะ​สุรา​แล้ว​ ฮ่าๆ ตา​เฒ่าผู​อย่าง​เจ้ากล้า​เรียก​หมี่​อวี้​เช่นนี้​ไหม​? ข้า​กล้า​ อีก​ทั้ง​ทุกครั้งที่​เจอ​หน้า​ยัง​เรียก​ว่า​เซียน​กระบี่​ทุกครั้ง​ด้วย​”

หาก​จะบอ​กว่า​อวี๋​เย​ว่​ไม่รู้สึก​ประ​ห​วัน​พรั่นพรึง​เลย​ นั่น​ก็​คือ​การ​โกหก​คนอื่น​แล้ว​ยัง​โกหก​ตัวเอง​ โชคดี​ที่​แม้ทุกครั้ง​หมี่​อวี้​จะมีสายตา​ไม่เป็นมิตร​ แต่กลับ​ไม่เคย​ลงมือทำ​อะไร​จริงจัง​

อวี๋​เย​ว่​หุบ​ยิ้ม​ เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “รบกวน​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​อีก​เรื่อง​ ช่วย​นำ​ความ​ข้า​ไป​บอก​เซียน​กระบี่​หมี่​ด้วยว่า​ ความเคารพ​ใน​ใจข้า​อวี๋​เย​ว่​ที่​มีต่อ​หมี่​อวี้​ ไม่ได้​เสแสร้ง​แม้แต่น้อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ ยิ้ม​ถามว่า​ “คำพูด​ดี​ๆ แบบนี้​ ทำไม​ไม่ไป​พูด​ต่อหน้า​หมี่​อวี้​เล่า​”

อวี๋​เย​ว่​เป็น​คน​ตรงไปตรงมา​ หัวเราะ​ฮ่าๆ ตอบ​ “ก่อนหน้านี้​ปากเปราะ​ เรียก​ว่า​เซียน​กระบี่​หมี่​บ่อย​เข้า​ก็​แอบ​หวาดกลัว​เขา​หมี่​อวี้​เช่นกัน​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ข้า​เอง​ก็​กังวล​ว่า​หมี่​อวี้​จะไม่เห็น​คำพูด​จาก​ใจจริง​นี้​เป็นจริงเป็นจัง​ หาก​ให้​อิ่น​กวาน​เป็น​คนพูด​ หมี่​อวี้​ต้อง​ยินดี​เชื่อ​แน่นอน​ ข้า​ไม่ขาดทุน​ แล้ว​ยัง​ได้​กำไร​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ หันหน้า​ไป​มอง​เด็ก​สอง​คน​ที่​ไม่กล้า​จะมอง​หนิง​เหยา​ตรงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​ถุงใบ​เล็ก​สอง​ใบ​ที่​เตรียม​ไว้​แล้ว​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยื่น​ส่งให้​อวี๋​ชิงจางและ​เฮ้อ​เซียงถิง​ ยิ้ม​อธิบาย​ว่า​ “เงิน​เกล็ด​หิมะ​สามร้อย​เหรียญ​ ข้า​คำนวณ​มาเป็น​เงินร้อน​น้อย​สามเหรียญ​แล้ว​ นี่​คือ​ข้อกำหนด​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ออก​เดินทางไกล​จะต้อง​ได้รับ​เงินก้อน​นี้​ พวก​เจ้ายัง​ไม่ได้​กราบไหว้​เซียน​กระบี่​เรียน​วิชา​อย่าง​เป็นทางการ​ ข้า​จึงไม่ได้​ลบ​ชื่อ​พวก​เจ้าออกจาก​ทำเนียบ​ศาล​บรรพ​จารย์​ยอดเขา​จี้เซ่อ​ ดังนั้น​จะละเลย​กฎ​ข้อ​นี้​ไป​ไม่ได้​”

อวี๋​ชิงจางและ​เฮ้อ​เซียงถิง​ต่าง​ก็​รับ​ถุงเงิน​ที่​มีน้ำหนัก​เบา​ไป​ แต่​ความรู้สึก​ของ​พวกเขา​กลับ​หนักอึ้ง​

เด็ก​ที่​ชอบ​อ่าน​ตำรา​อย่าง​เฮ้อ​เซียงถิง​ปลุก​ความกล้า​เอ่ย​ว่า​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ เป็น​พวกเรา​ที่​ไม่รู้ความ​”

อวี๋​ชิงจางเงียบ​ไป​พักใหญ่​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ ขอโทษ​นะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ต้อง​คิด​เช่นนี้​ เดิมที​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เป็น​ความผิด​ความถูก​อะไร​ ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​โชควาสนา​ เรื่อง​บางอย่าง​ ข้า​ที่อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นั้น​จำเป็นต้อง​ทำ​ พวก​เจ้าเอง​ก็​อยู่​ใน​สถานการณ์​ของ​ตัวเอง​ ย่อม​ต้อง​มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ วันนี้​ต้อง​จากลา​กัน​แล้ว​ ข้า​ก็​จะเอ่ย​ความในใจ​กับ​พวก​เจ้าแล้วกัน​ หาก​พวก​เจ้าไม่คิด​เช่นนั้น​ ไม่ทำตัว​ห่างเหิน​กับ​ข้า​ ข้า​ที่​เป็น​อิ่น​กวาน​กลับ​กลายเป็น​ว่า​จะรู้สึก​ไม่ดี​ แล้ว​จะต้อง​ดูแคลน​พวก​เจ้า”

เด็ก​ทุก​คนใน​ใต้​หล้า​นี้​คงจะ​เติบโต​ไป​พร้อม​ๆ กับ​เหตุผล​กระมัง​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​ตำรา​ออกมา​อีก​หนึ่ง​ปึก​ ด้าน​บนสุด​คือ​สำเนา​ของ​ ‘คัมภีร์​เวท​กระบี่​’ เป็น​สำเนา​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​คัดลอก​ด้วยตัวเอง​

และ​ยังมี​ตำรา​อีก​สอง​สามเล่ม​ที่​เป็น​ตำรา​อริยะ​ปราชญ์​และ​ผลงาน​ปัญญาชน​ที่​ซื้อ​มาจาก​ร้านหนังสือ​ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​

มอบให้​เฮ้อ​เซียงถิง​ที่​ชอบ​อ่าน​ตำรา​ทั้งหมด​ เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ว่า​ “‘คัมภีร์​เวท​กระบี่​’ เล่ม​นี้​ ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​พวก​เจ้าควร​อ่าน​อย่าง​ละเอียด​ ส่วน​ตำรา​เล่ม​อื่นๆ​ ที่​เหลือ​ก็​อ่าน​ไป​ตาม​ความชอบ​ จะอ่าน​หรือไม่​ อ่าน​มาก​อ่าน​น้อย​ก็​ตามแต่​ใจ”

เฮ้อ​เซียงถิง​รับ​ตำ​รามา​ แล้ว​ประสานมือ​คารวะ​ขอบคุณ​อย่าง​จริงจัง​ต่อ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อาจารย์​เฉิน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

อวี๋​ชิงจางทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​ ยกมือ​เกา​หัว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​หยอกล้อ​ “ตอนนี้​เปลี่ยนใจ​ยัง​ทัน​นะ​”

เด็ก​สอง​คน​ยิ้ม​กว้าง​ นี่​น่าจะ​เป็นครั้งแรก​ที่​พวกเขา​ยิ้ม​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​เห็น​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​รอยยิ้ม​จาก​ใจจริง​ด้วย​

“กราบไหว้​อาจารย์​ที่​ดี​ก็​ต้อง​ยิ่ง​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ ต่อให้​อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ไม่ใช่ว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​เด็กหนุ่ม​ทุกคน​จะได้รับ​การ​ถ่ายทอดวิชา​จาก​ผู้อาวุโส​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​เป็น​อาจารย์​กัน​ทุกคน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ไป​กด​ศีรษะ​เด็ก​ทั้งสอง​เบา​ๆ “ฝึก​ตน​ก็​เพื่อ​ชีวิต​ที่​ดี​ยิ่งกว่า​เดิม​ แต่​ชีวิต​คน​ไม่ได้​มีแค่​การ​ฝึก​ตน​เท่านั้น​ เหตุผล​ข้อ​นี้​พวก​เจ้ายัง​ไม่ต้อง​เข้าใจ​ก็ได้​”

เด็ก​ทั้งสอง​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​

เฉิน​ผิง​อัน​ดึง​มือ​กลับมา​ ใช้เสียง​ใน​ใจพูดว่า​ “ผู้​ถวาย​งานอ​วี๋​ ขอ​ข้า​พูดมาก​สักหน่อย​ วันหน้า​ต้อง​ควบคุม​พวกเขา​ให้​เข้มงวด​ ไม่อาจ​จับจ้อง​แต่​การ​ฝึก​ตน​และ​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ของ​พวกเขา​ ไม่ได้​บอ​กว่า​จะต้อง​คอย​ดุด่า​ แต่​ให้​คอย​ใส่ใจใน​ทุกๆ​ ด้าน​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ ต่อให้​ใหญ่​แค่​ไหน​ก็​ใหญ่​ไม่เท่า​เรื่อง​การ​วางตัว​เป็น​คน​ ต่าง​ก็​พูด​กัน​ว่า​ตระกูล​ร่ำรวย​รัก​บุตรชาย​หญิง​ เรื่อง​แรก​ที่​ทำ​ต้อง​เป็นเรื่อง​เงินทอง​ที่​มีให้​พวกเขา​ใช้จน​พอใจ​ ความรัก​ของ​ผู้อาวุโส​เป็น​ความรู้สึก​ปกติ​ของ​คน​ทั่วไป​ แต่​หา​กรัก​มาก​เกิน​ก็​ง่าย​ที่จะ​เลี้ยง​ให้​พวกเขา​มีนิสัย​เย่อหยิ่ง​เอาแต่ใจ​ หาก​เย่อหยิ่ง​เอาแต่ใจ​ตั้งแต่​อายุ​ยัง​น้อย​จะกลายเป็น​บุคคล​ที่​มีคุณธรรม​มีปัญญา​ได้​อย่างไร​?”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​อวี๋​ชิงจางกับ​เฮ้อ​เซียงถิง​ต่าง​ก็​มีชาติกำเนิด​ยากจน​ จู่ๆ ก็ได้​เปลี่ยน​สภาพแวดล้อม​ ชีวิต​ดีขึ้น​ใน​ฉับพลัน​ ดังนั้น​จึงยิ่ง​ต้อง​ระวัง​เรื่อง​นี้​ พวกเรา​ที่​เป็น​อาจารย์​ เป็น​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ สั่งสอน​ด้วย​คำพูด​และ​กระ​ทำให้​เห็น​เป็น​ตัวอย่าง​คือ​สิ่งที่​สำคัญ​ยิ่งกว่า​มอบ​ตำรา​ลับ​ล้ำค่า​ให้​พวกเขา​เสีย​อีก​ เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ใต้​หล้า​นี้​คน​ที่​ไม่จำเป็นต้อง​หาเงิน​ด้วยตัวเอง​ที่สุด​คือ​ใคร​ ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​”

“เรื่อง​หยุมหยิม​ทั่วไป​บางอย่าง​ คน​เป็น​ผู้อาวุโส​มิอาจ​ทำแทน​ได้​เด็ดขาด​ และ​มารยาท​คำสั่งสอน​ประจำ​ตระกูล​บางอย่าง​ที่​มิอาจ​ขาด​ก็​จะต้อง​สั่งสอน​ซ้ำไปซ้ำมา​ให้ได้​ ใน​เมื่อ​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​แล้ว​ ก็​ต้อง​ทะนุถนอม​โชควาสนา​ส่วน​นี้​ให้​ดี​ แล้วก็​ต้อง​ให้​พวก​เด็ก​ๆ บ่ม​เพาะ​นิสัย​ที่​ไม่มองข้าม​ชีวิต​ของ​ผู้อื่น​ แม้ว่า​อวี๋​ชิงจางและ​เฮ้อ​เซียงถิง​จะเป็น​เพื่อนรัก​กัน​ แต่​นิสัย​มีความต่าง​ ต้อง​ให้​อวี๋​ชิงจางที่​ติดตาม​ท่าน​เดินทางไกล​หมื่น​ลี้​อ่าน​ตำรา​ให้​มาก​ๆ เปิด​โลกทัศน์​ให้​กว้าง​ขึ้น​ เปิด​จิตใจ​ให้​กว้างขวาง​ ส่วน​เฮ้อ​เซียงถิง​ที่​นอกจาก​จะอ่าน​ตำรา​แล้วก็​ให้​หัด​สังเกต​เรื่องราว​ยิบ​ย่อย​รอบกาย​ให้​มาก​ จะเอาแต่​อ่าน​ตำรา​อย่าง​เดียว​จน​ถูก​หลักการ​เหตุผล​พันธนาการ​จน​มีนิสัย​คร่ำครึ​ไม่ได้​ ต้อง​หัด​เรียนรู้​ที่จะ​เอา​มาใช้จริง​บ้าง​”

“ข้า​พูดมาก​ไป​สักหน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​หยัน​ตัวเอง​ ประโยค​ที่​เอ่ย​แฝงแวว​ขออภัย​แล้วก็​ไม่พูด​อะไร​มาก​อีก​

เพราะ​ถึงอย่างไร​ตอนนี้​อวี๋​เย​ว่​ต่างหาก​ที่​ถึงจะถือว่า​เป็น​อาจารย์​ของ​เด็ก​สอง​คน​ในนาม​

อันที่จริง​การ​พูด​แบบนี้​ไม่ค่อย​เหมาะสม​ โชคดี​ที่​อวี๋​เย​ว่​ไม่ใช่ผู้อาวุโส​ที่​จิตใจ​คับแคบ​ ไม่อย่างนั้น​การ​เอ่ย​ประโยค​เหล่านี้​อาจ​ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​ถูก​อาฆาตแค้น​เอา​ได้​

อวี๋​เย​ว่​ทอดถอนใจ​พูด​จาก​ใจจริง​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ นี่​เรียก​ว่า​พูดมาก​เสีย​ที่ไหน​ นี่​คือ​เวท​กระบี่​ คือ​มรรค​กถา​”

นึกถึง​การพบกัน​ครั้งแรก​ที่​เกาะ​ยวน​ยาง​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ท่าน​นี้​มีความ​มาดมั่น​ มีปณิธาน​ห้าว​เหิม​ถึงเพียงใด​

แต่​วันนี้​ขณะที่​กำลังจะ​จากลา​กัน​ คำพูด​จาก​ใจจริง​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ทำให้​อวี๋​เย​ว่​ตระหนัก​ได้​ว่า​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ แท้จริง​แล้ว​ยัง​เป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่ง คือ​จอม​ปราชญ์​น้อย​ที่​อ่าน​ตำรา​อริยะ​ปราชญ์​มาอย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​

“ข้า​มีแค่​เรื่อง​เดียว​ที่​ไม่ขอ​เอ่ย​ถ้อยคำ​เกรงใจ​อะไร​กับ​ผู้​ถวาย​งานอ​วี๋”​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ต่อ​อี​กว่า​ “ท่าน​ห้าม​ปล่อย​ให้​เด็ก​สอง​คน​นี้​ถูก​คน​รังแก​อยู่​ข้างนอก​ทั้งๆ ที่​พวกเขา​เป็น​ฝ่าย​มีเหตุผล​เด็ดขาด​ ไม่มีเรื่องราว​หรือ​น้ำใจ​ใน​โลก​มนุษย์​อะไร​ที่​ต้อง​คิดถึง​แค่​สถานการณ์​โดยรวม​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ ผู้ฝึก​กระบี่​จำเป็นต้อง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​”

“ไม่ว่า​จะเป็น​ด้าน​นิสัยใจคอ​หรือ​การกระทำ​ใดๆ​ ข้า​จะไม่ยอมให้​เด็ก​ๆ ที่​ต้อง​พลัด​จาก​บ้านเกิด​อย่าง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เหล่านี้​ล้วน​กลาย​มาเป็น​ว่า​…มิอาจ​เทียบ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ได้​ติด​ กลายเป็น​ว่า​ไม่เหมือน​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อีกต่อไป​ หาก​วันใด​ข้า​ค้นพบ​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ ผู้​ถวาย​งานอ​วี๋​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต้อง​ขอโทษ​แล้ว​”

“ข้า​จะเปลี่ยน​มาเป็น​คน​สั่งสอน​พวกเขา​แทน​”

ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าเอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “อวี๋​เสีย​ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​จะไม่ทำให้​อาจารย์​เฉิน​ผิดหวัง​เด็ดขาด​”

ไม่เหมือนกับ​ความคิด​ที่​ละเอียดอ่อน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

หนิง​เหยา​ยังคง​ทำ​เหมือน​อย่าง​ที่​เคย​เป็นมา​ ฉวยโอกาส​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจพูดคุย​กับ​อวี๋​เย​ว่​เอ่ย​สั่งสอน​เด็กน้อย​สอง​คน​ของ​บ้านเกิด​ และ​นาง​ก็​ยังคง​คร้าน​จะใช้เสียง​ใน​ใจอยู่​เหมือนเดิม​

“อวี๋​ชิงจาง คุณสมบัติ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ของ​เจ้า แค่​ถือว่า​พอใช้ได้​เท่านั้น​ ตัว​เจ้าเอง​เป็น​วัตถุดิบ​อย่างไร​ ตัว​เจ้าย่อม​รู้ดี​ที่สุด​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ต้อง​มานะ​หมั่นเพียร​ ไม่ใช่ว่า​มาถึงใต้​หล้า​ไพศาล​แล้​วจะ​ลืม​กำพืด​ อย่า​เรียนรู้​เอาอย่าง​คำพูด​ทำนอง​ที่ว่า​เทียบ​กับ​คน​ที่อยู่​สูงก​ว่าไม่ได้​ เทียบ​กับ​คน​ที่อยู่​ต่ำกว่า​เหลือแหล่​อะไร​นั่น​ จำไว้​ว่า​อ่าน​ตำรา​ให้​มาก​ๆ เจอ​กับ​เรื่อง​อะไร​ก็​ต้อง​หัด​ใช้สมอง​ เรียนรู้​เอาอย่าง​อิ่น​กวาน​ของ​พวก​เจ้าให้​มาก​”

“เฮ้อ​เซียงถิง​ อย่า​ปล่อย​ให้​อวี๋​ชิงจางทิ้ง​ระยะห่าง​มากเกินไป​ ภายใน​เวลา​หกสิบ​ปี​ อย่าง​มาก​สุด​อนุญาต​ให้​เจ้าห่าง​แค่​ครึ่ง​ขอบเขต​เท่านั้น​ ความมั่นใจ​นี้​อย่า​ให้​ร่วง​ดิ่ง​ลง​ไป​ ถอย​ไป​พูด​หนึ่ง​ก้าว​ ฝึก​กระบี่​สามารถ​ฝึก​ให้​ขอบเขต​ไต่​ทะยาน​อย่าง​เชื่องช้า​ได้​ แต่​เป็น​คน​อย่า​ได้​จิตใจ​คับแคบ​ชั่วร้าย​ เมื่อ​จิตใจ​เที่ยงตรง​จิตวิญญาณ​ก็​แจ่มกระจ่าง​ จิต​แห่ง​กระบี่​ใสสะอาด​ไม่ว่า​เวท​กระบี่​อะไร​ก็​ล้วน​ใช้ได้ผล​”

หนิง​เหยา​พูด​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ “พวก​เจ้าสอง​คน​จงจำคำ​ที่​ข้า​สอน​ทุก​คำ​ไว้​ให้​ขึ้นใจ​”

อวี๋​ชิงจางกับ​เฮ้อ​เซียงถิง​พูด​เสียงสั่น​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ “จำได้​แล้ว​ขอรับ​!”

ความลับ​และ​เรื่อง​วงใน​บางอย่าง​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี ห่าน​ขาวใหญ่​ผู้​นั้น​เคย​เล่า​ให้​ฟังแล้ว​

ขอบเขต​หยก​ดิบ​ ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​และ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ใหม่เอี่ยม​!

ใช้กระบี่​สังหาร​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้นสูง​

พก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​เพียงลำพัง​ เมื่อ​การ​ถามกระบี่​ครั้งหนึ่ง​ผ่าน​ไป​ ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ก็​ถูก​ทำร้าย​จน​บาดเจ็บสาหัส​

ทุกวันนี้​คือ​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี!

สำหรับ​ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​ทั้ง​เก้า​คน​แล้ว​ พวกเขา​ไม่รู้สึก​ว่า​ประหลาด​ มีแค่​ความคิด​เดียว​เท่านั้น​

หนิง​เหยา​สมกับ​เป็น​หนิง​เหยา​

ใต้​หล้า​นี้​หา​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ ‘ต่อให้​จะแค่​เหมือน​หนิง​เหยา​’ สัก​คน​ก็​หาไม่​เจอ​แล้ว​

อวี๋​เย​ว่​เงี่ยหู​ตั้งใจฟัง​ อันที่จริง​ผู้เฒ่า​ก็​ไม่ได้ดี​ไป​กว่า​เด็ก​ทั้งสอง​คน​สัก​เท่าไร​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด