กระบี่จงมา 839.2 ต่างเป็นจุดอ่อนของกันและกัน

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 839.2 ต่างเป็นจุดอ่อนของกันและกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หยวน​ฮว่า​จิ้งกล่าว​ “ยังไง​ต่อ​? ยัง​จะมีอะไร​อย่าง​อื่น​ได้​อีก​หรือ​ นี่​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​ง่ายดาย​ที่สุด​หรอก​หรือ​? สุดท้าย​ก็​ให้​ข้า​เป็น​คน​สังหาร​อิ่น​กวาน​อย่างไร​ล่ะ​”

ซ่งซวี่​ส่ายหน้า​ “จะทำ​เรื่อง​แบบนี้​ไม่ได้​เด็ดขาด​! ทุกวันนี้​ขอบเขต​ของ​ขู่​โส่ว​ไม่สูง เรื่อง​ของ​การหลอม​กระจก​ เดิมที​ก็​ไม่มีประสบการณ์​ใดๆ​ ให้​เอา​มาเป็น​บทเรียน​ได้​ อีก​ทั้ง​ขู่​โส่ว​ยัง​เสี่ยงอันตราย​ทำ​เรื่อง​นี้​เป็นครั้งแรก​ ยาก​ที่จะ​รับรอง​ได้​ว่า​จะไม่มีเรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​แม้กระทั่ง​ตัว​ขู่​โส่ว​เอง​ก็​ยัง​คิดไม่ถึง​เกิดขึ้น​ ปี​นั้น​ใน​เมื่อ​ราชครู​ตั้ง​กฎ​ข้อ​นี้​ขึ้น​มาเพื่อ​พวกเรา​โดยเฉพาะ​ ไม่อนุญาต​ให้​พวกเรา​ร่าย​ใช้เวท​นี้​ตามใจ​ ต้อง​เป็น​เพราะ​รู้​ถึงระดับ​อันตราย​ของ​เรื่อง​นี้​มาล่วงหน้า​อย่าง​แน่นอน​”

ขู่​โส่ว​ถามหยั่งเชิง​ “หาก​ข้า​คิด​จะรักษา​ ‘ภาพจริง​’ ของ​คันฉ่อง​บาน​นี้​เอาไว้​ อันที่จริง​ทุกวัน​จะต้อง​เผาผลาญ​เงิน​เทพ​เซียน​ไป​มากมาย​ ไม่สู้วันใด​พวกเรา​สามารถ​เอาชนะ​…อิ่น​กวาน​ท่าน​นั้น​ได้​จริงๆ​ แล้ว​ค่อย​ให้​เขา​มาอยู่​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​คันฉ่อง​ของ​ข้า​ ค่อย​แยกร่าง​เขา​ดีกว่า​ไหม​?”

ซ่งซวี่​พยักหน้า​ “สามารถ​ทำ​เช่นนี้​ได้​ พวกเรา​อย่า​ปล่อย​ให้​เกิดเรื่อง​แทรกซ้อน​เลย​”

หยวน​ฮว่า​จิ้งส่ายหน้า​ ยิ้ม​บาง​ๆ กล่าวว่า​ “ข้า​ไม่ได้​โง่สักหน่อย​ แน่นอน​ว่า​จะต้อง​สะบั้น​ความคิด​และ​ความทรงจำ​ทั้งหมด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ทิ้ง​ไป​ ไม่ปล่อย​ให้​หลง​เหลืออยู่​แม้แต่น้อย​ ถึงเวลา​นั้น​เมื่อ​อยู่​ข้าง​กาย​ข้า​ก็​จะเป็น​เพียง​โครง​ว่างเปล่า​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​และ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​เท่านั้น​ อีก​ทั้ง​ข้า​ก็​สามารถ​รับประกัน​กับ​เจ้าได้​ว่า​หาก​ไม่ถึงที่สุด​จริงๆ​ จะไม่ยอมให้​ ‘คน​ผู้​นี้​’ เผย​กาย​บน​โลก​เด็ดขาด​ เว้น​เสีย​จากว่า​เป็น​สถานการณ์​อับจน​ของ​สาย​แผนภูมิ​ดิน​พวกเรา​จริงๆ​ ถึงจะให้​เขา​ลงมือ​ เพื่อ​เป็น​ฝีมือ​เทพ​เซียน​ที่​ช่วย​พลิกกลับ​สถานการณ์​ให้​กับ​พวกเรา​”

พริบตา​นั้น​

ท่ามกลาง​ความ​มืดมิด​ที่​มองไม่เห็น​ ขู่​โส่ว​ถึงกับ​ได้ยิน​เสียงทุ้ม​นุ่ม​อ่อนโยน​ที่​ต่อให้​ตาย​อย่างไร​ก็​คิดไม่ถึง​ มัน​ดัง​ออก​มาจาก​คันฉ่อง​หยุด​วารี​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่อยู่​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​ของ​ตน​ นี่​ทำให้​ขู่​โส่ว​ตกใจ​จน​หน้าเผือดสี​

ได้ยิน​เพียง​ว่า​มีคน​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “พลิกกลับ​สถานการณ์​? จะทำให้​พวก​เจ้าสมปรารถนา​”

ขู่​โส่ว​พลัน​เก็บ​ดวงจิต​กลับมา​ ทำ​จิต​แห่ง​มรรคา​ให้​มั่นคง​ จำแลง​เป็น​ดวงจิต​เมล็ด​งาหมาย​จะไป​ตรวจสอบ​กระจก​โบราณวัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​บาน​นั้น​

คิดไม่ถึง​ว่า​จิตวิญญาณ​ของ​ขู่​โส่ว​เปลี่ยน​มาเป็น​ไม่มั่นคง​ใน​ทันใด​ กระอัก​เลือด​ไม่หยุด​ ยื่นมือ​มากด​ตรง​หัวใจ​ พยายาม​จะสกัด​ขวาง​ของ​สิ่งหนึ่ง​ไว้​สุดกำลัง​ ทว่า​คันฉ่อง​หยุด​วารี​บาน​นั้น​กลับ​ ‘กรีด​ผ่า​’ หัวใจ​ของ​ขู่​โส่ว​ออก​ด้วยตัวเอง​ ก่อน​จะหล่น​กระแทก​ลงพื้น​ กระจก​โบราณ​คว่ำ​หน้า​ จึงเห็น​ว่า​มีตัวอักษร​โบราณ​แกะสลัก​ไว้​เป็น​วง​ ลักษณะ​คล้าย​กลอน​ย้อน​ที่​อ่าน​กลับไปกลับมา​ได้​ ‘ใจคน​หนึ่ง​ตาราง​ชุ่น​ ใจฟ้าหนึ่ง​ตาราง​จ้าง’ ‘สิ่งที่​ข้า​พบเห็น​ ขุนเขา​พลิก​หมุน​วารี​หยุด​ไหล​’ ‘ใช้คน​ส่องกระจก​ จริง​เท็จ​มีไม่มี’

ขู่​โส่ว​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​หมาย​จะกด​กระจก​โบราณ​ที่​เหมือน​ก่อ​กบฏ​บาน​นั้น​เอาไว้​

กระจก​โบราณ​พลัน​พลิกกลับ​ หงาย​หน้า​ขึ้น​ด้านบน​ ปล่อย​ประกาย​แสงจ้าแสบตา​ ประหนึ่ง​ดวงตะวัน​ที่​ลอย​พ้น​ออก​มาจาก​ผิว​มหาสมุทร​ ร่าง​ของ​ขู่​โส่ว​พลัน​ปลิว​กระเด็น​ออก​ไป​ ร่วง​รูด​มาตาม​กำแพง​อย่าง​อ่อนระโหย​

คนใน​คันฉ่อง​คือ​บุรุษ​หนุ่ม​ที่​สวม​ชุด​ยา​วสี​ขาว​หิมะ​คน​หนึ่ง​ สะพาย​กระบี่​ สีหน้า​พร่า​เลือน​ พอ​จะมองเห็น​ได้​อย่าง​เลือนราง​ว่า​บน​ศีรษะ​ของ​เขา​ปัก​ปิ่น​เต๋า​สีหมึก​ดำ​สนิท​ บน​ข้อมือ​สวม​ประคำ​สีขาว​หิมะ​ เปลือย​เท้า​ไม่สวมใส่​รองเท้า​ ใบหน้า​ประดับ​ยิ้ม​น้อย​ๆ เป่า​ลม​ออกมา​เบา​ๆ หนึ่ง​ที​ จากนั้น​ก็​ยก​มือขึ้น​เช็ดหน้า​กระจก​เบา​ๆ

หน้า​กระจก​เหมือน​ประตู​ที่​เปิด​ออก​ ด้านใน​ห้อง​อบอวล​ไป​ด้วย​ปราณ​กระบี่​

บุรุษ​ชุด​ขาว​สะพาย​กระบี่​ผู้​นั้น​เดิน​ก้าว​หนึ่ง​ออกมา​ เรือน​กาย​ใน​คันฉ่อง​ที่​เดิมที​เล็ก​จิ๋ว​เหมือน​เมล็ด​งาก็​พลัน​ขยาย​ใหญ่​เท่า​คน​ปกติ​ เรือน​กาย​สูงเพรียว​ ดวงตา​ทั้งคู่​เป็น​สีทอง​ มือ​ข้าง​ที่​ถือ​ประคำ​ลัทธิ​พุทธ​ไพล่​อยู่​ด้านหลัง​ มือซ้าย​แบ​ฝ่ามือวาง​เป็น​แนวนอน​อยู่​เบื้องหน้า​ ห้า​อสนี​มารวมตัวกัน​ เขา​ยืน​อยู่​ใน​ห้อง​ด้วย​ท่วงท่า​สุขุม​เยือกเย็น​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “โชค​และ​เคราะห์​ไร้​ประตู​ ล้วน​เป็น​คน​ที่​เรียกหา​มัน​มาเอง​ ทำดี​ทำชั่ว​ล้วน​ได้รับ​การ​ตอบสนอง​ ประหนึ่ง​เงาตาม​ติดตัว​”

เขา​กระทืบเท้า​เบา​ๆ โรงเตี๊ยม​ทั้ง​หลัง​ก็​เข้าไป​อยู่​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ของ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​นก​ใน​กรง​

“เมื่อ​ปัญญาชน​ได้ยิน​เต๋า​ ย่อม​ปฏิบัติตาม​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ เคาะ​ถามด่าน​ใจ คือ​การ​ขึ้น​เขา​ตามหา​เซียน​ บังเอิญ​เจอ​ผู้​ปลีก​วิเวก​ ประหนึ่ง​เจอ​จิต​แห่ง​เต๋า​”

‘เฉิน​ผิง​อัน​’ ผู้​นี้​หันหน้า​ไป​มอง​ขู่​โส่ว​ที่นั่ง​แปะ​ติด​กำแพง​แล้ว​คลี่​ยิ้ม​ กระจก​โบราณ​ที่อยู่​บน​พื้น​ถูก​ลมปราณ​ที่​แท้จริง​กลุ่ม​หนึ่ง​ชัก​นำมา​จึงพุ่ง​ทะยาน​รวดเร็ว​ราว​กระบี่​บิน​ ตรง​ดิ่งไป​ปัก​ตรึง​ที่​หัวใจ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ “คืนให้​เจ้าแล้ว​ วันหน้า​จำไว้​ว่า​เก็บ​ไว้​ให้​ดี​ หาก​ยังมี​วันหน้า​ล่ะ​ก็​นะ​”

หัวใจ​ของ​ขู่​โส่ว​ถูก​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​ตัวเอง​ระเบิด​ใส่อย่าง​ต่อเนื่อง​ ลำคอ​คล้าย​ถูก​คน​กำ​แล้ว​กระชาก​ดึง​ให้​เกิด​วง​โค้ง​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​ แขนขา​ทั้ง​สี่ชักกระตุก​อย่าง​ที่​ไม่อาจ​ควบคุม​ตัวเอง​ได้​ จากนั้น​ก็​ปริ​แตก​ไป​ทีละ​ชุ่น​ โอสถ​ทอง​ดวง​หนึ่ง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ถูก​บีบ​ออก​มาจาก​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ แล้ว​มาลอย​อยู่​ตรงหน้า​ขู่​โส่ว​ทั้งอย่างนั้น​

ส่วน​ใน​การ​มองเห็น​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ กระบี่​บิน​สอง​เล่ม​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้งและ​ซ่งซวี่​ที่​หลังจาก​ถูก​พวกเขา​เรียก​ออกมา​แล้วก็​คล้าย​บิน​อยู่​กลางอากาศ​ช้าๆ ช้าจน​ ‘คน’​ ที่​มีความอดทน​อย่าง​เขา​ยัง​รู้สึก​ว่า​ช้าเกินไป​แล้ว​

เขา​ ‘เดิน​ก้าว​ไป​อย่าง​เนิบ​ช้า’ เบี่ยง​ตัว​ ‘เดินผ่าน​’ กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​มีแสงสีทอง​ไหลริน​ของ​ซ่งซวี่​ จากนั้น​ก็​มาหยุด​อยู่​ตรงหน้า​ ‘เย่​หลา​ง’ กระบี่​บิน​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้ง ปล่อย​ให้​กระบี่​บิน​ ‘ขยับ​’ เข้าหา​ตัวเอง​ทีละ​นิด​ ทีละ​นิด​

เขา​เพียง​หรี่ตา​จ้องมอง​กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​ ดีดนิ้ว​หนึ่ง​ที​ สิ่งปลูกสร้าง​ทั้งหมด​ใน​ห้อง​ล้วน​ไม่เหลืออยู่​ ราวกับว่า​สรรพสิ่ง​และ​สีสัน​ทั้งหมด​ใน​ฟ้าดิน​ล้วน​ถูก​กวาด​หาย​ไป​เกลี้ยง​ ภาพวาด​ขาว​ดำ​ที่​ไร้​ความสำคัญ​ล้วน​ถูก​สลาย​ทิ้ง​ไป​หมด​ หลง​เหลืออยู่​เพียงแค่​บุคคล​ที่​มีสีสัน​สิบเอ็ด​คน​ซึ่งอยู่​ใน​ม้วน​ภาพ​ของ​จิต​ธรรม​

ผู้ฝึก​ตน​สาย​แผนภูมิ​ดิน​อีก​แปด​คน​ที่อยู่​นอก​ห้อง​ก็​เข้ามา​ใน​ฟ้าดิน​แห่ง​นี้​พร้อมกัน​ด้วย​ ทุกคน​ยังคง​ค้าง​อยู่​ใน​ท่า​เดิม​ก่อนหน้า​นั้น​ เด็กหนุ่ม​โก่​ว​ฉุน​ที่​หลังจาก​เดินเล่น​เสร็จ​แล้วก็​กลับ​เข้ามา​ใน​ห้อง​ วาง​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​พาด​ขวาง​ไว้​บน​หัวเข่า​ กำลัง​มอง​ตัวอักษร​ที่​แกะสลัก​สอง​คำ​ว่า​ ‘ก้าวไกล​’ ผี​สาว​ก่าย​เยี่ยน​กำลัง​พูดคุย​ยิ้มแย้ม​กับ​หัน​โจ้วจิ่น​ ฝ่าย​หัน​โจ้วจิ่น​มีสีหน้า​เหม่อลอย​เล็กน้อย​ เณร​น้อย​โฮ่ว​แจว๋​เพิ่งจะ​กลับ​มาถึงโรงเตี๊ยม​ ยัง​เดิน​อยู่​บน​ถนน​ กำลัง​ยก​เท้า​ข้าง​หนึ่ง​ อวี๋อวี๋​ก้มหน้า​ลง​ เรือน​กาย​โน้ม​ลง​ไป​ด้านหน้า​ ราวกับ​กำลัง​นับ​ของ​อะไร​อยู่​ สุย​หลิน​ยังคง​นั่งขัดสมาธิ​หล่อหลอม​เศษชิ้นส่วน​ร่าง​ทอง​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ เต้า​ลู่​เก๋​อห​ลิ่ง​อยู่​ใน​ท่า​เปิด​หนังสือ​ใน​มือ​…

เขา​งอ​นิ้วชี้​เข้ากับ​นิ้วโป้ง​แล้ว​ดีด​เบา​ๆ หมากเม็ด​หนึ่ง​ก็​ถือกำเนิด​ขึ้น​มา ถูกจับ​โยน​ขึ้น​สูง ก่อน​จะหล่น​ลง​บน​พื้น​ช้าๆ หลังจากที่​เสียง​หล่น​ลง​น้ำ​ดัง​ขึ้น​ ฟ้าดิน​ก็​มีกระดาน​หมาก​กระดาน​หนึ่ง​ปรากฏ​

จากนั้น​ค่อย​ใช้สอง​นิ้ว​คีบ​ ‘เย่​หลา​ง’ กระบี่​บิน​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้งที่​ค่อยๆ​ ขยับ​เข้ามา​ใกล้​ตรงหน้า​เอาไว้​ เดิน​ไปหา​หยวน​ฮว่า​จิ้ง หัน​ปลาย​กระบี่​ กระชาก​เบา​ๆ หนึ่ง​ที​กระบี่​บิน​ก็​แทง​เข้าที่​หว่าง​คิ้ว​ของ​ฝ่าย​หลัง​ ปลาย​กระบี่​บิน​แทง​ทะลุ​ศีรษะ​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้งไป​โดยตรง​ เขา​เหล่​ตา​มอง​หยวน​ฮว่า​จิ้ง ยิ้ม​บาง​ๆ ส่ายหน้า​ เอ่ย​วิจารณ์​ว่า​ “ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ เรือน​กาย​บอบบาง​เหมือน​กระดาษ​เปียก​”

พริบตา​นั้น​ผู้ฝึก​ตน​แปด​คน​ที่​ ‘มาเป็น​แขก​’ ซึ่งคืนสติ​ได้​ใน​ชั่วพริบตา​ก็​สังเกตเห็น​สภาพ​อัน​น่าอนาถ​ร่อแร่​ใกล้​ตาย​ของ​ขู่​โส่ว​ อวี๋อวี๋​รีบ​เรียก​เซียน​กระบี่​เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​ออกมา​ งอ​เข่า​เล็กน้อย​ กระโจน​ออก​ไป​เบื้องหน้า​ใน​เสี้ยว​วินาที​ บน​กระดาน​หมาก​ใต้​ฝ่าเท้า​มีแสงกระบี่​สาด​พวยพุ่ง​ขึ้น​สู่ท้องฟ้า​ คล้าย​กับ​กลายเป็น​กรงขัง​แห่ง​แล้ว​แห่ง​เล่า​ที่​ขัด​ขวางทาง​ไป​ของ​นาง​ โชคดี​ที่​องค์​รักษ์​เซียน​กระบี่​ออก​กระบี่​ไม่หยุด​ จึงฟัน​เส้นตรง​แสงกระบี่​พวก​นั้น​ทิ้ง​ไป​ได้​ ใน​ใจอวี๋อวี๋​ไม่เหลือ​ความคิด​วุ่นวาย​ใดๆ​ นาง​คือ​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​ จะต้อง​ถ่วงเวลา​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​อยู่ดีๆ​ ก็​มาหาเรื่อง​พวกเขา​อีกครั้ง​เอาไว้​ให้ได้​ชั่วขณะ​ ถึงจะมีโอกาส​ตอบโต้​เสี้ยว​หนึ่ง​

เขา​ยิ้ม​มอง​แม่นาง​น้อย​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​การทหาร​คน​นั้น​ ไม่กลัว​ตาย​ก็​จะไม่ต้อง​ตาย​แล้ว​หรือ​? มาหา​ข้า​ เจ้าก็​จะหา​เจอ​แล้ว​หรือ​?

หาง​ตา​เหลือบ​ไป​เห็น​เซียน​กระบี่​เด็กหนุ่ม​ที่​ยังคง​รักษา​ ‘จิตวิญญาณ​ที่​แท้จริง​เสี้ยว​หนึ่ง​’ และ​เนื้อหนังมังสา​ของ​เซียน​กระบี่​เอาไว้​ได้​ พอ​สายตา​เหลือบ​ไป​เห็น​ จิต​ก็​พุ่ง​ไป​ถึงทันที​

ฟัน​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​จาก​ตรงกลาง​ ผ่า​หนึ่ง​ออก​เป็น​สอง​

นาง​จึงเหมือน​ถูก​ผี​บังตา​อยู่​ตลอด​

อวี๋อวี๋​ที่​เดิมที​อยู่​ห่าง​จาก​คน​ผู้​นั้น​ไม่ถึงสิบ​จั้ง พอ​คืนสติ​อีกครั้ง​กลับมา​ปรากฏตัว​อยู่​ห่าง​ไป​ร้อย​พัน​จั้ง หลังจากนั้น​ไม่ว่า​นาง​จะกระโจน​ไป​ข้างหน้า​แค่​ไหน​ ก็​ต้อง​กระเด็น​หวือ​เป็น​เส้นโค้ง​ถอย​กลับมา​…สรุป​ก็​คือ​ไม่อาจ​ขยับ​ระยะห่าง​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ให้​เข้ามา​อยู่​ใกล้​ใน​รัศมี​สิบ​จั้งได้​

ฟ้าดิน​พลิกกลับ​ อวี๋อวี๋​ที่อยู่​บน​เส้นทาง​ถูก​คน​ผู้​นั้น​ปั่นหัว​จน​อยู่​ใน​สภาพการณ์​ที่​น่า​เหลือเชื่อ​

เต้า​ลู่​เก๋​อห​ลิ่ง​เรียก​เวท​ย้าย​ขุนเขา​บท​หนึ่ง​ออกมา​กระแทก​ใส่เรือน​กาย​ที่​สวม​ชุด​สีขาว​หิมะ​จาก​สี่ด้าน​แปด​ทิศ​ เพียงแต่ว่า​ขุน​เขาใหญ่​ตั้ง​ตระหง่าน​แต่ละ​ลูก​ล้วน​ถูก​แสงกระบี่​เล็ก​บาง​เส้น​แล้ว​เส้น​เล่า​ฟัน​ให้​ร่วงหล่น​ลงพื้น​จาก​กลางอากาศ​ กระแทก​ลง​บน​กระดาน​หมาก​แล้ว​แหลก​สลาย​ไป​ไม่มีเหลือ​

เขา​พลัน​มาโผล่​อยู่​ข้าง​กา​ยอ​วี๋อวี๋​ มือหนึ่ง​กด​เข้าที่​ใบหน้า​ของ​นาง​

เรือน​กาย​ขอ​งอ​วี๋อวี๋​ร่วง​กระแทก​ลงพื้น​ดัง​โครม​ ทว่า​จิตวิญญาณ​ทั้งหมด​กลับ​ถูก​คน​ผู้​นี้​กระชาก​ออกมา​

เขา​ส่ายหน้า​ “อยู่​ใน​กรงขัง​มานาน​ ได้​หวนคืน​สู่ธรรมชาติ​ พูดถึง​ข้า​ ไม่ใช่พวก​เจ้า”

มอง​จิตวิญญาณ​ของ​อวี๋อวี๋​ที่​ถูก​กัก​อยู่​ใน​มือ​ ดวงตา​สีทอง​ที่​บริสุทธิ์​คู่​นั้น​ของ​เขา​ก็​มีแสงสีทอง​ไหลริน​วูบวาบ​ “ฟ้าดิน​ดั่ง​ห้อง​ที่ว่างเปล่า​ พวก​เจ้าก็​เป็น​แค่​ฝุ่นผง​ใน​ห้อง​ที่จะ​มีหรือไม่​มีก็ได้​เท่านั้น​”

ระหว่าง​ที่​พูด​ความคิด​ก็​ขยับ​ไป​ด้วย​ ท่อง​สอง​คำ​ว่า​ “ดอกไม้​บาน​”

ลู่​ฮุย​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ถูก​กระบี่​ยาว​หลาย​สิบ​เล่ม​แทง​ทะลุ​ร่าง​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​จึงแน่นิ่ง​ขยับ​ไม่ได้​ คล้าย​กับ​ว่า​ตรงจุด​เดิม​มีกอ​ดอกไม้​สีเลือด​กอ​หนึ่ง​เบ่งบาน​ออกมา​

ร่าง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ผี​ก่าย​เยี่ยน​ถูก​แสงกระบี่​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ตัด​สลับ​ฟัน​ใส่ ทั้งตัว​คน​ทั้ง​ชุด​กระโปรง​ ชุด​คลุม​อาคม​ เสื้อเกราะ​จิน​อู​ ล้วน​ถูก​กรีด​ออก​เป็น​ชิ้นๆ​ มาก​เกิน​จะนับ​

คน​ผู้​นั้น​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เวท​กระบี่​ที่​คิดค้น​ขึ้น​เอง​บท​นี้​เพิ่งจะ​ตั้ง​ชื่อว่า​เสี้ยว​จันทร์​ หาก​เปลี่ยนเป็น​วิชา​หมัด​ก็ได้​เหมือนกัน​ เรี่ยวแรง​ย่อม​ไม่น้อย​”

เด็กหนุ่ม​โก่​ว​ฉุน​ถูก​ตัด​แขน​ตัด​ขา​

นักพรต​เก๋​อห​ลิ่ง​ถูก​ยันต์​นับ​ร้อย​นับ​พัน​ห่อหุ้ม​ให้​อยู่​ใน​ช่อง​สี่เหลี่ยม​ช่อง​หนึ่ง​บน​กระดาน​หมาก​

คน​ผู้​นั้น​ผลุบโผล่​อย่าง​ลึกลับ​ มาหยุด​อยู่​ด้านหลัง​สุย​หลิน​ “ยันต์​กัก​กระบี่​ไม่ได้​มีความหมาย​มาก​นัก​ อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ข้า​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​คน​หนึ่ง​ด้วย​”

หนึ่ง​หมัด​ผ่าน​ไป​ ต่อย​ทะลุ​หัวใจ​ด้านหลัง​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​สำนัก​ห้า​ธาตุ​คน​นี้​

กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​ซ่งซวี่​ถูก​สอง​นิ้ว​ของ​คน​ผู้​นั้น​ยัน​ปลาย​กระบี่​กับ​ด้าม​กระบี่​เอาไว้​แล้ว​บด​อัด​จน​มัน​ปริ​แตก​

เขา​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​เบา​ๆ ใช้ปราณ​กระบี่​สร้าง​ทวน​ยาว​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​มาบน​มือ​ แทง​เข้าที่​ลำคอ​ของ​ลู่​ฮุย​อาจารย์​คำ​เดียว​ ระเบิด​พายุ​ลมกรด​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ภพ​ตาม​ไป​ ปลาย​ทวน​จึงงัด​ร่าง​ของ​ฝ่าย​หลัง​ลอย​ขึ้น​สูง

เขา​เหมือน​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ “เป็น​อย่างไร​?”

นาที​ถัดมา​ ข้าง​กาย​ของ​ ‘เฉิน​ผิง​อัน​’ ที่​สวม​ชุด​คลุม​ตัว​ยา​วสี​ขาว​หิมะ​ผู้​นี้​ก็​มีคน​ชุด​เขียว​ปรากฏตัว​ ยืน​หันหลังให้กัน​ ราวกับว่า​ชั่วขณะ​ถัดไป​ทั้งสองฝ่าย​จะเดินสวน​ไหล่​ผ่าน​กัน​ไป​

เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​ เพียง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มีกระบี่​เย่​โหย​ว​เพิ่ม​มาหนึ่ง​เล่ม​ก็​เลย​ได้เปรียบ​ ยัง​ดี​ ข้า​มีนก​ใน​กรง​เพิ่ม​มาหนึ่ง​เล่ม​ ถือว่า​หายกัน​แล้ว​”

นก​ใน​กรง​สอง​เล่ม​ เขา​เรียก​ออกมา​ก่อน​ จึงเป็น​ฝ่าย​ชิงความได้เปรียบ​มาครอง​ นก​ใน​กรง​ของ​ตน​ฝ่าย​หลัง​จึงได้​แต่​อยู่​ข้างนอก​ อันที่จริง​ก็​เท่ากับ​ว่า​ไม่มีแล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “หยุด​มือ​ได้​แล้ว​”

เขา​เชิดหน้า​ขึ้น​น้อย​ๆ มอง​นักพรต​น่าสงสาร​ที่​ถูก​ทวน​ยาว​ใน​มือ​งัด​เสย​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​ “พวกเรา​ไม่ได้​เจอกัน​นาน​มาก​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ไม่คิด​อย่างนั้น​”

‘เฉิน​ผิง​อัน​’ ที่อยู่​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ หากว่า​กัน​ใน​บาง​ความหมาย​ก็​คล้าย​จิต​มาร​ตน​หนึ่ง​ที่​เดิมที​ควร​ปรากฏ​ตอน​เป็น​คอขวด​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ ทุกวันนี้​เพิ่งจะ​มาปรากฏตัว​กลับ​ทำให้​กลายเป็น​เหมือน​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​ละทิ้ง​ความเป็นมนุษย์​ทั้งหมด​ไป​มากกว่า​

จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​เมื่อ​เขา​เทียบ​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ กลับ​เหมือน​ผู้ฝึก​กระบี่​บริสุทธิ์​ที่​ฟ้าดิน​มิอาจ​พันธนาการ​ได้​มากกว่า​

ฟ้าดิน​เล็ก​นก​ใน​กรง​แห่ง​หนึ่ง​ ปราณ​กระบี่​อึมครึม​อัด​แน่น​ ใน​ขุนเขา​สายน้ำ​หมื่น​ลี้​ไม่มีสีสัน​แม้แต่น้อย​ ฟ้าดิน​เหมือน​หิมะ​ที่​สะสมมานาน​นับ​หมื่น​ปี​

เขา​มอง​หยวน​ฮว่า​จิ้ง ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ “สนุก​มาก​เลย​ใช่หรือไม่​ ราวกับ​คน​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่คิด​ว่า​ตัวเอง​ทำ​เรื่อง​ที่​ผิด​ต่อ​มโนธรรม​ใน​ใจ จึงไม่กลัว​ว่า​ผี​จะมาเคาะ​ประตู​ แต่​ดัน​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​มาทันที​ จากนั้น​พอ​สาบาน​ว่า​หาก​ทำ​เรื่อง​ที่​ไร้​จิตสำนึก​เมื่อไหร่​ขอให้​ฟ้าผ่า​หัว​ บังเอิญ​นัก​ ดัน​มีเสียง​ฟ้าร้อง​ดัง​เป็น​ระลอก​ นี่​ถือว่า​เป็น​จิต​ศรัทธา​จึงทำให้เกิด​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ เหนือ​หัว​ไป​สามฉื่อ​มีเทพ​มองดู​อยู่​หรือไม่​?”

กลางอากาศ​เหนือศีรษะ​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้งมีอสนี​ที่​พลานุภาพ​สวรรค์​น่า​ครั่นคร้าม​ผ่า​เปรี้ยง​ลงมา​ เพียงแต่ว่า​กลับ​ถูก​เวท​อสนี​อีก​บท​หนึ่ง​ที่​ราวกับว่า​ถือกำเนิด​จาก​โลก​มนุษย์​ ผุด​จาก​ล่าง​พุ่ง​สู่ด้านบน​กระแทก​ชน​กัน​จน​แหลก​สลาย​ไป​พอดี​

เขา​ถอนหายใจ​ “แบบนี้​น่า​กลุ้ม​มาก​แล้ว​นะ​”

ยกตัวอย่างเช่น​แผนการ​บางอย่าง​ของ​เขา​ อย่าง​การ​ลอบ​ขโมย​ดวงวิญญาณ​ของ​หยวน​ฮว่า​จิ้ง พลิกกลับ​จาก​แขก​มาเป็น​เจ้าบ้าน​ชั่วคราว​ มีหุ่นเชิด​ที่​เขา​สามารถ​บังคับ​ได้​ตามใจชอบ​เพิ่ม​มาอีก​สิบ​ตน​ วิธีการ​อำพราง​ซ่อน​แฝงที่​คล้ายคลึง​กัน​นี้​สามารถ​มีเยอะ​ๆ ได้​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​เดา​ได้​แล้ว​ รู้​แล้ว​

ข้า​กับ​ข้า​ คือ​จุดอ่อน​ของ​กันและกัน​

ยังคง​เป็น​เพราะ​ตน​มาถึงเร็ว​เกินไป​ ไม่อย่างนั้น​เขา​ก็​สามารถ​หล่อหลอม​ทั้ง​สิบเอ็ด​คน​ของ​ต้า​หลี​อย่าง​ช้าๆ ได้​ เท่ากับ​ว่า​หนึ่ง​คน​ได้​ชดเชย​สิบสอง​แผนภูมิ​ดิน​ได้​ครบถ้วน​!

ใน​ช่วงเวลา​ระหว่าง​นี้​ วิชา​อภินิหาร​ เวท​คาถา​ทั้งหลาย​ของ​อีก​สิบเอ็ด​คน​ที่​เหลือ​ใน​แผนภูมิ​ดิน​ ล้วน​สามารถ​ถูก​เขา​รื้อถอน​ออกมา​ทีละ​อย่าง​ เรียนรู้​จน​เข้าใจ​กระจ่าง​ จน​เชี่ยวชาญ​ สุดท้าย​นำมาใช้​ให้​เกิด​ประโยชน์​กับ​ตัวเอง​

แต่​ก็​ช่างเถอะ​ บน​โลก​นี้​ไหน​เลย​จะมีเรื่อง​ดี​ที่​ได้​ครอบครอง​ผลประโยชน์​ไป​เสีย​ทั้งหมด​ อะไร​ที่​มากเกินไป​ก็​ไม่ดี​

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด