กระบี่จงมา 841.4 บ้านเกิด

Now you are reading กระบี่จงมา Chapter 841.4 บ้านเกิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ก่อนที่​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่แห่ง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​จะเดิน​ขึ้น​สวรรค์​ก็ได้​เลือก​สิบ​แผนภูมิ​ฟ้าเอาไว้​แล้ว​ รอ​จน​เขา​เดิน​ขึ้น​ฟ้า ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​มีสิบ​คน​เข้ามา​เสริม​ชดเชย​ได้​ใน​ชั่วพริบตา​ การชิง​ลงมือ​ก่อนที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ก็​คือ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​เขา​อย่าง​มู่จีแห่ง​กระโจม​เจี่ยเซิน​ ภายหลัง​ก็​คือ​โจว​ชิงเกา​ที่​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ได้​ใน​ก้าว​เดียว​

ฝ่าย​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ชุย​ฉาน​ราชครู​ต้า​หลี​กลับ​เริ่ม​สร้าง​สิบสอง​แผนภูมิ​ดิน​ขึ้น​มา

ภายหลัง​ถึงเป็น​ยี่สิบ​แปด​ดวงดาว​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง การชิง​ลงมือ​ก่อน​ของ​เขา​ก็​คือ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ที่​เขา​รับ​ลูกศิษย์​มาแทน​อาจารย์​ มีฉายา​ว่า​ซาน​ชิง

เจี่ย​เซิงแห่ง​ไพศาล​ใน​อดีต​ มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่ใน​ภายหลัง​ คือ​คน​ที่​มีช่วงเวลา​ใน​การ​ฝึก​ตน​มาอย่าง​ยาวนาน​ เป็น​คน​แรก​สุด​ที่​เริ่ม​วางแผน​จัดวาง​สถานการณ์​

อันที่จริง​ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​ลู่​เฉิน​จะคิดถึง​เรื่อง​นี้​ได้​ช้าว่า​โจว​มี่และ​ชุย​ฉาน​ แต่​ต่อให้​เขา​ลู่​เฉิน​คิดได้​เร็ว​กว่า​นี้​ ก็​ต้อง​เป็น​เพราะ​เกิด​มาก็​มีนิสัย​เกียจคร้าน​ ชอบ​ความ​สบาย​ จึงไม่ยินดี​ที่จะ​ทุ่มเท​แรงกาย​แรงใจ​อย่าง​แน่นอน​

เฟิงอี๋​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “เห​วิน​เซิ่ง เจ้าอย่า​เงียบ​สิ”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าถอนหายใจ​ ยก​มือขึ้น​ชี้ไป​ที่​หัว​ของ​ตัวเอง​ “เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อนหน้านี้​ชุย​ฉาน​จงใจกด​ข่ม​สติปัญญา​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​ ก็​เพราะ​ตั้งใจ​จะลด​ความสามารถ​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​ตัวเอง​ลง​ ส่วน​เมื่อไหร่​เขา​ถึงจะลงมือ​? คง​เป็น​ตอนที่​อา​เหลียง​หวนกลับ​มายัง​ใต้​หล้า​ไพศาล​กระมัง​ บางที​อาจ​เร็ว​กว่า​นั้น​ อะไร​ที่​เรียก​ว่า​ผี​ไม่รู้​เทพ​ไม่เห็น​ก็​คือ​แม้แต่​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่รู้​ ดังนั้น​ชุยตง​ซาน​ที่เกิด​จาก​การ​เบ่ง​จิตวิญญาณ​มาจาก​ชุย​ฉาน​ แม้จะบอ​กว่า​มีจุดประสงค์​บางอย่าง​อยู่​จริง​ คือ​หนึ่ง​ใน​ขั้นตอน​ทั้งหลาย​ของ​สถานการณ์​ใหญ่​ใน​หนึ่ง​ทวีป​ แต่​จุดประสงค์​ที่​ใหญ่​ที่สุด​กลับ​ยัง​เป็น​เพียงแค่​เวท​อำ​พรางตา​อย่างหนึ่ง​เท่านั้น​ หลอกตัวเอง​ก่อน​ถึงจะสามารถ​หลอก​การอนุมาน​บน​มหา​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ทุกคน​ของ​ใต้​หล้า​ได้​ ดังนั้น​สำหรับ​โจว​มี่และ​ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​แล้ว​ นี่​ก็​คือ​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​ใหญ่​ที่สุด​อย่างหนึ่ง​ เพราะ​มีเรื่อง​ไม่คาดฝัน​นี้​ก่อน​ถึงได้​มีเรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​ตามมา​ภายหลัง​”

“หรือ​เจ้าคิด​จริงๆ​ ว่า​โจว​มี่ไม่มีการป้องกัน​สำหรับ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​เลย​? จะเป็นไปได้​อย่างไร​ ต้อง​รู้​ว่า​แผน​ล่าง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​คือ​แผน​บน​ของ​โจว​มี่คนเดียว​ ใน​เมื่อ​โจว​มี่มีการป้องกัน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​และ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​มาก่อน​แล้ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เขา​ยัง​ต้องการ​หอ​บิน​ทะยาน​ที่อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ถ้าอย่างนั้น​มีหรือ​ที่​โจว​มี่จะไม่มีการอนุมาน​วาง​แผนที่​รอบคอบ​แม่นยำ​เลย​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าจุ๊ปาก​พูด​ “ทุกวันนี้​ใต้​หล้า​ไพศาล​ของ​พวกเรา​จะยกทัพ​ไป​โจมตี​เปลี่ยว​ร้าง​ ยัง​ขาด​อะไร​? เงิน​เทพ​เซียน​? แรง​คน​และ​ทรัพยากร​? พลัง​การ​สู้รบ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​? ล้วน​ไม่ใช่ สิ่งเหล่านี้​พวกเรา​ล้วน​เป็น​ฝ่าย​ได้เปรียบ​ทั้งหมด​ สิ่งเดียว​ที่​ขาด​ ขาด​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ใหญ่​ที่​ทำให้​โจว​มี่คาดไม่ถึง​นี้​”

เฟิงอี๋​ฟังจน​ปาก​อ้า​ตาค้าง​ สมอง​ชุย​ฉาน​มีปัญหา​หรือ​ไร​?!

มิน่าเล่า​ปี​นั้น​ที่อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ชุยตง​ซาน​ที่​สามารถ​เล่น​หมากล้อม​หลาก​สีกับ​เจิ้งจวี​จงได้​ เขา​กับ​ฉีจิ้งชุน​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​ที่​ ‘กลาย​มาเป็น​ศัตรู​กันเอง​’ ใช้ศิษย์​น้อง​เล็ก​ในอนาคต​มาเป็น​กระดาน​หมาก​ใน​การ​ประลอง​ ชุย​ฉาน​ล้วน​เสียเปรียบ​ตก​เป็นรอง​ใน​ทุกหนทุกแห่ง​ ตอนนั้น​นาง​ยัง​รู้สึก​ว่า​น่าสนุก​อย่าง​มาก​ มองดู​เด็กหนุ่ม​ที่​มีใฝแดง​กลาง​หว่าง​คิ้ว​ต้อง​สะอึก​อึ้ง​อยู่​เรื่อย​ ขอบเขต​ถดถอย​แล้ว​ถดถอย​อีก​ น่าสนใจ​จะตาย​ไป​ นาง​นิ่งเฉย​ชมเรื่อง​สนุก​อย่าง​ดูดาย​ อันที่จริง​ยัง​รู้สึก​สมน้ำหน้า​เขา​อย่าง​มาก​ และ​ตอนนั้น​ก็​ดื่มเหล้า​ไป​ไม่น้อย​ ผล​คือ​วันนี้​เจ้าซิ่ว​ไฉเฒ่ามาบอก​กับ​ข้า​ว่า​แท้จริง​แล้วน​ั่นเป็น​การกระทำ​ที่เกิด​จาก​ความตั้งใจ​ของ​ซิ่ว​หู่​ผู้​นั้น​? จากนั้น​ฉีจิ้งชุน​ที่​รู้ทัน​เข้าใจ​กัน​มานาน​แล้วก็​แค่​ร่วมมือ​ไป​กับ​เขา​ด้วย​เท่านั้น​? ดี​นัก​นะ​ พวก​เจ้าสอง​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​เห็น​พวกเรา​ทุกคน​เป็น​คนโง่​หรือ​ไร​?

เฟิงอี๋​ตบ​ศีรษะ​ตัวเอง​แล้ว​ส่ายหน้า​อย่าง​แรง​ “ไม่ถูกๆ​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าเจ้าเอง​ก็​พูด​แล้ว​ว่าการ​เดิน​ขึ้น​ฟ้าของ​โจว​มี่คือ​แผน​บน​ของ​เขา​ เหตุใด​ชุย​ฉาน​กับ​ฉีจิ้งชุน​ถึงไม่ขัดขวาง​?! ไม่ใช่ว่า​อุตส่าห์​วางแผน​อย่าง​ตั้งอกตั้งใจ​ แต่​สุดท้าย​แล้ว​กลับ​ต้อง​เหนื่อย​เปล่า​หรอก​หรือ​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหรี่ตา​ “รักษา​หลิว​เสีย​ทวีป​ อุตรกุรุทวีป​และ​ธวัล​ทวีป​เอาไว้​ได้​ เป็นเหตุให้​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​สามทวีป​ไม่สูญเสียดินแดน​ และ​ยิ่ง​ไม่ได้​ถูก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ยึดครอง​แปด​ทวีป​ล้อม​กัก​แผ่นดิน​กลาง​ไว้​แค่​ทวีป​เดียว​ โลก​มนุษย์​ของ​ไพศาล​พวกเรา​มีคนตาย​ไป​เท่าไร​เชียว​? สำหรับ​เฟิงอี๋​แล้ว​กลับ​ถือ​เป็นเรื่อง​ที่​เหนื่อย​เปล่า​หรือ​?”

เฟิงอี๋​ขวัญ​ผวา​อยู่​ใน​ใจ รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​เอ่ย​ขออภัย​ทันที​ “เห​วิน​เซิ่ง เป็น​ข้า​พูด​ผิด​ไป​แล้ว​”

เป็น​เพราะว่า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่มา​เป็น​แขก​ถึงบ้าน​ผู้​นี้​หัวเราะ​ง่าย​ มีสีหน้า​เป็นมิตร​ ใกล้ชิด​กับ​คน​ง่าย​ชวน​ให้​คน​สนิทสนม​ด้วย​มากเกินไป​ จน​ทำให้​เฟิงอี๋​หลงลืม​เรื่อง​หนึ่ง​ ใน​บรรดา​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ทั้งหลาย​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่ง มีใคร​บ้าง​ที่​นิสัย​ดี​? ราชครู​ชุย​ฉาน​ที่​เคย​เอ่ย​ประโยค​ว่า​ ‘ฝ่าบาท​แค่​ฟังอย่าง​เดียว​ก็​พอ​’? จั่ว​โย่ว​ที่​เล่นงาน​ให้​ ‘ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​’ ของ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​กลายเป็น​เพียง​ถ้อยคำ​ที่​ระคายหู​คน​? หลิว​สือ​ลิ่ว​ที่​เคย​ไล่ล่า​เผ่าพันธุ์​น้ำ​ให้​หนี​หัวซุกหัวซุน​ หวัง​เพียง​ให้​ตัวเอง​มีชีวิตรอด​เท่านั้น​? ฉีจิ้งชุน​ที่​บีบ​ให้​บรรพบุรุษ​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​เกือบจะ​ต้อง​สละ​ร่าง​ไป​จาก​โลก​ใบ​นี้​แต่​ดัน​ทำ​ไม่ได้​? หรือ​จะเป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ที่​ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​เพิ่งจะ​ใช้กระบี่​ฟัน​คอ​ไทเฮา​เหนียง​เนียง​ต้า​หลี​ขาด​?

และ​ต้นกำเนิด​แห่ง​ขนบธรรมเนียม​ก็​คือ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าพยักหน้า​ จากนั้น​กะพริบตา​ปริบๆ​ “ข้า​ไม่รู้​สาเหตุ​จริงๆ​ แต่​ข้า​ขึ้นชื่อว่า​มีดี​แค่​รับ​ลูกศิษย์​กับ​สอนหนังสือ​ ไม่ถนัด​เรื่อง​ที่​วกวน​ไปมา​พวก​นี้​ มีศิษย์​ที่​เก่ง​กว่า​ครู​ได้​ก็​เพียงพอ​มาก​ๆ แล้ว​”

อืม​ ข้า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่ถนัด​ แต่​ลูกศิษย์​ทั้งหลาย​ของ​ข้า​ถนัด​มาก​ ลูกศิษย์​คน​แรก​ เสี่ยว​ฉี ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​

ส่วน​จั่ว​โย่ว​กับ​จวิน​เชี่ยน​นั้น​ช่างเถิด​ ล้วน​เป็น​พวก​โง่ที่​หัวรั้น​ ดีแต่​จะวางมาด​ศิษย์​พี่​กับ​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ อยาก​โดน​ด่า​หรือ​ไร​? แล้ว​ยัง​กล้า​บ่นว่า​อาจารย์​ลำเอียง​? แน่นอน​ว่า​ย่อม​ไม่กล้า​

เฟิงอี๋​สงสัย​ใคร่​รู้อยู่​มาก​จริงๆ​ นาง​จึงเอ่ย​ว่า​ “ท่าน​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่ง แค่​บอกใบ้​สัก​คำ​ก็​พอ​ ข้า​ต้อง​มีของ​ตอบแทน​ให้​แน่​! ยกตัวอย่างเช่น​…ข้า​ยินดี​จะช่วย​ศาล​บุ๋น​ เป็น​ฝ่าย​ไป​ทำ​เรื่อง​บางอย่าง​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ส่วน​เรื่อง​คุณ​ความชอบ​ก็​ล้วน​ยก​ให้​กับ​สาย​เห​วิน​เซิ่งทั้งหมด​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าส่ายหน้า​ “อย่า​เลย​ ผู้อาวุโส​ไม่มีความจำเป็น​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​ เงิน​ที่​ได้มา​โดย​ไร้​ความชอบ​ รับ​ไว้​แล้วก็​รู้สึก​ละอายใจ​ สาย​ของ​พวก​ข้า​ไม่ชอบ​เรื่อง​พวก​นี้​หรอก​”

เฟิงอี๋​นั่ง​กลับ​ลง​ไป​บน​ขั้นบันได​ แหงนหน้า​กระดก​เหล้า​ดื่ม​อึก​ใหญ่​ ครั้น​จึงเช็ด​ปาก​ยิ้มเจื่อน​เอ่ย​ว่า​ “พอ​เห​วิน​เซิ่งพูด​แบบนี้​ ข้า​ก็​ไม่กล้า​กลับ​ไป​ที่​เมือง​เล็ก​แล้ว​”

เมื่อก่อน​ไม่รู้สึก​ว่า​อันตราย​สัก​เท่าไร​ ความรู้สึก​ที่​มากกว่า​นั้น​คือ​น่าสนใจ​ เวลานี้​กลับ​เริ่ม​รู้สึก​ขนลุกขนพอง​แล้ว​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​

ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแห่ง​หนึ่ง​ อาณาเขต​ขุนเขา​สายน้ำ​มีน้อย​นิด​แค่นั้น​ จำนวน​คน​ก็​น้อย​นิด​แค่นั้น​

อาจารย์​สอนหนังสือ​ใน​โรงเรียน​ของ​เมือง​เล็ก​ อริยะ​ที่​เคย​พิทักษ์​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ฉีจิ้งชุน​

ชุยตง​ซาน​ที่​เป็น​ศิษย์​หลาน​ใน​ภายหลัง​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​อดีต​ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​

กระบี่​โบราณ​ด้านล่าง​สะพาน​ หนึ่ง​ใน​ห้า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้น​สูงสุด​ ผู้​ครอง​กระบี่​ ปี​นั้น​กลุ่ม​ของ​พวก​เฟิงอี๋​ อันที่จริง​ต่าง​ก็​เคย​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​นาง​เป็น​เพียง​วิญญาณ​กระบี่​

ห​ร่วน​ซิ่ว​ ห​ลี่​หลิ่ว​ เทพ​อัคคี​ เทพ​วารี​ สอง​ใน​ห้า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้น​สูงสุด​

หยาง​เหล่า​โถว​แห่ง​ร้าน​ยา​ ชิงถงเทียน​จวิน​ พระ​เทพ​บิดร​ตะวันออก​ ใน​มือ​ได้​ครอบครอง​หนึ่ง​ใน​หอ​บิน​ทะยาน​ของ​สรวงสวรรค์​เก่า​ บรรพบุรุษ​แห่ง​เซียน​ดิน​ฝ่าย​ชาย​

ช่างเหยา​แห่ง​เตาเผา​มังกร​

อาจารย์​ซาน​ซาน​จิ่ว​โหว​ ผู้​เป็น​ศูนย์รวม​แห่ง​เวท​คาถา​วิชา​อภินิหาร​ บรรพ​จารย์​แห่ง​สาย​ยันต์​และ​การหลอม​โอสถ​ใน​ใต้​หล้า​

ห​ลี่​ซีเซิ่งแห่ง​ถนน​ฝูลวี่​ ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ ‘หนึ่ง​ใน​’ เจ้าลัทธิ​ใหญ่​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ลู่​เฉิน​ที่ตั้ง​แผงลอย​ดูดวง​ เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

จื้อ​กุย​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​ ตัวอ่อน​มังกร​ที่​แท้จริง​ตัว​สุดท้าย​ของ​โลก​

โจว​จื่อ​แห่ง​สำนัก​หยิน​หยาง​ที่​เดิน​เข็น​รถ​ขาย​ถังหู​ลู่​ไป​ทั่ว​ตรอก​ถนน​ ผู้​ที่​ ‘คิด​คำนวณ​ทุกอย่าง​ได้​อย่าง​รอบรู้​’

เฟิงอี๋​ สารถี​เฒ่า บรรพ​จารย์​สาย​ของ​ผู้​ประคับประคอง​มังกร​ บรรพบุรุษ​สกุล​ลู่​สาย​สำนัก​ห้า​ธาตุ​เจ้าประมุข​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​แผ่นดิน​กลาง​

ห​ลี่​เอ้อ​ เจิ้งต้าเฟิงคน​เฝ้าประตู​

ชุยเฉิง​ ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ที่​เดิมที​มีหวัง​ฝ่าทะลุ​ธรณีประตู​ที่​ใหญ่​เทียมฟ้า​ ใช้เรือน​กาย​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​มากลายเป็น​เทพ​

ซ่งจ่างจิ้งอ๋อง​เจ้าเมือง​ที่​รับหน้าที่​เป็น​ขุนนาง​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ใน​ช่วง​ระยะเวลา​หนึ่ง​

‘เจี่ยเฉิง’​ นักพรต​เฒ่าตาบอด​ ผู้​พิฆาต​มังกร​เมื่อ​สามพัน​ปีก่อน​

ห​ร่วน​ฉง ช่างหลอม​กระบี่​อันดับ​หนึ่ง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​

เซี่ยสือ​เทียน​จวิน​ที่​ภูมิลำเนา​อยู่​ตรอก​เถาเย่​ เฉาซีเซียน​กระบี่​ที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​อยู่​ใน​ตรอก​หนี​ผิง​

หนิง​เหยา​ บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สีใน​ปัจจุบัน​

ภายหลัง​เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ก็​เคย​ไป​ปราก​ฎตัว​ที่​เมือง​เล็ก​

ลอง​จินตนาการ​ดู​ ไม่ว่า​บุคคล​ต่างถิ่น​คนใด​ก็​ตามที่​เดินทาง​ไป​ท่องเที่ยว​ ใคร​บ้าง​ที่​กล้า​ก่อเรื่อง​ที่นั่น​ กล้า​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​ผู้​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​?

ประชัน​เรื่อง​เวท​กระบี่​? มรรค​กถา​? วร​ยุทธ​? วิชา​อภินิหาร​? การวางแผน​วาง​อุบาย​?

ต่อให้​เจ้าจะเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ ไม่ว่า​จะเป็น​คน​อย่าง​หนันกวง​จ้าว​ที่​ถูก​สิงกวาน​หาว​ซู่ตัดหัว​ไป​แล้ว​ หรือ​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ บิน​ทะยาน​ผู้ยิ่งใหญ่​ที่​มีฉายา​ว่า​ชิงมี่ หาก​รู้เรื่อง​วงใน​และ​ความจริง​ทั้งหมด​ของ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูเล็ก​ๆ แห่ง​นั้น​มาก่อน​ คาด​ว่า​เวลา​เดิน​พวกเขา​ก็​คงจะ​ยัง​ขาอ่อน​ ความกล้าหาญ​ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะมีมาก​เหมือน​เฉินห​ลิง​จวิน​

อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​ คน​ที่​อายุ​มาก​ย่อม​ไม่กล้า​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​แม้แต่น้อย​ คน​ที่​อายุ​น้อย​ คนนอก​ก็​กล้า​แล้ว​หรือ​? อันที่จริง​ก็​ไม่กล้า​เหมือนกัน​นั่นแหละ​

ปี​นั้น​รุ่น​คน​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ ใน​บรรดา​นั้น​ก็​มีเฉิน​ผิง​อัน​ หลิว​เสี้ยน​หยาง​ ซ่งจี๋ซิน​ หม่า​ขู่​เสวียน​ ห​ลี่​เป่า​ผิง​ ห​ลี่​ไหว​ กู้​ช่าน​ จ้าว​เหยา​ หลิน​โส่ว​อี​ เซี่ยห​ลิง​ ซูเตี้ย​น​ สือห​ลิง​ซาน.​..

แล้ว​ลอง​ย้อนกลับ​ไป​มองดู​ ต่อให้​เป็น​คนใน​ท้องถิ่น​ของ​เมือง​เล็ก​ หรือ​พวก​บุคคล​อย่าง​เฟิงอี๋​นี้​ เมื่อ​เข้าไป​อยู่​ใน​นั้น​ อันที่จริง​ก็​ตก​อยู่​ใน​สถานการณ์​เหมือน​คน​ที่​มอง​ดอกไม้​ท่ามกลาง​กลุ่ม​หมอก​เช่นกัน​

“มีอะไร​ให้​ไม่กล้า​กลับ​ไป​กัน​เล่า​ ตัวตรง​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​เงาจะเอียง​ ใน​ใจไม่มีผี​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ยาม​เดินทาง​ตอนกลางคืน​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “แต่​จะว่า​ไป​แล้วก็​ไม่เหมือน​พวก​เฟิงอี๋​เจ้าจริงๆ​ เรื่องราว​และ​บุคคล​บน​โลก​ใบ​นี้​มีมากมาย​ไร้​ที่​สิ้นสุด​ มนุษย์​อย่าง​พวกเรา​มีเวลา​จำกัด​ บางที​ก็​อาจ​เป็น​เพราะ​สาเหตุนี้​ พวกเรา​ถึงยิ่ง​ควร​ทะนุถนอม​เห็น​ค่า​ใน​การ​เดินทางไกล​บน​โลก​มนุษย์​ให้​มากขึ้น​”

ผู้ฝึก​ตน​ไม่ถือว่า​เป็น​คน​แล้ว​

ใน​สายตา​ของ​คน​บางคน​ โลก​มนุษย์​ก็​คือ​นคร​ที่ว่างเปล่า​

นี่​ไม่ถูกต้อง​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าลุกขึ้น​ยืน​ เตรียม​จะกลับ​ไป​ยัง​ศาล​บุ๋น​ แน่นอน​ว่า​ไม่ลืม​เอา​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​สอง​กา​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เอ่ย​ขอบคุณ​เฟิงอี๋​ว่า​ “หวัง​เพียง​เจ้าบ้าน​ทำให้​แขก​เมามาย​ เมาจน​เห็น​ต่างบ้านต่างเมือง​เป็น​บ้านเกิด​ของ​ตัวเอง​ หาก​มีผู้อาวุโส​อย่าง​เฟิงอี๋​เยอะ​ๆ ก็ช่าง​เป็น​โชคดี​ของ​โลก​มนุษย์​อย่าง​แท้จริง​”

เฟิงอี๋​ลุกขึ้น​ยืน​ตาม​ ถามหยั่งเชิง​ “เห​วิน​เซิ่ง บอก​เหตุผล​กับ​ข้า​ไม่ได้​จริงๆ​ หรือ​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​กล่าว​ “ฟังมาตั้ง​เยอะ​ขนาด​นี้​ หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​ข้า​ ใน​ใจคง​มีคำตอบ​อยู่​นาน​แล้ว​”

เฟิงอี๋​ยื่นมือ​ไป​จับ​ปม​เชือก​หลาก​สี เอ่ย​อย่าง​มีโทสะ​ “เห​วิน​เซิ่ง หาก​เจ้าไม่พูด​ ข้า​ก็​จะคิด​ว่า​ไม่มีเรื่อง​นี้​อยู่แล้ว​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าส่ายหน้า​ แบบนี้​ก็​น่าเบื่อ​แล้ว​ อีก​อย่าง​ข้า​เอง​ก็​ไม่เห็น​เป็น​เรื่องสำคัญ​สักหน่อย​ ส่วน​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ก็​ยิ่ง​เป็น​เช่นนี้​ บุปผา​ที่​เขา​ตัดใจ​บดขยี้​อย่าง​อำมหิต​ได้​ลงคอ​ ไม่ได้​มีแค่​เจ้าเฟิงอี๋​เสียหน่อย​

เฟิงอี๋​ถอนหายใจ​อย่าง​ยอมรับ​ชะตากรรม​ “ใน​เมื่อ​เป็น​คนละเรื่อง​กัน​ สิ่งของ​ข้า​ยังคง​มอบให้​เหมือนเดิม​ เห​วิน​เซิ่งไม่ต้อง​กังวล​ รับรอง​ว่า​ภายหลัง​เมื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​เดินทาง​ไป​เยือน​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ก็​มีแต่​จะถูก​มอง​เป็น​แขก​ผู้มีเกียรติ​ ไม่แน่​ว่า​ให้​ไป​เป็น​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างของ​พื้นที่​มงคล​ที่​ตำแหน่งว่าง​มานาน​หลาย​ปี​ก็​ยัง​ไม่ยาก​”

หนึ่ง​ปี​สิบสอง​เดือน​ ใน​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ก็​มีเทพี​บุปผา​สิบสอง​เดือน​ที่อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูง ใน​บรรดา​เทพี​บุปผา​สิบสอง​คน​นี้​ก็​มีเหนียง​เนียง​เจ้าแห่ง​บุปผา​ของ​พื้นที่​มงคล​ รวมไปถึง​เทพี​บุปผา​เจ้าชะตา​สี่ท่าน​ที่​ดูแล​เรื่อง​การ​ผลิบาน​ของ​บุปผา​ใน​สี่ฤดูกาล​ เหนียง​เนียง​เทพี​บุปผา​สิบสอง​ท่าน​ต่าง​ก็​มีเค่อ​ชิงแห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​ตัวเอง​ และ​ยังมี​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างที่​คล้ายคลึง​กับ​ดอก​โบตั๋น​ของ​ป๋า​ย​เห​ย่อ​ยู่​ด้วย​ แน่นอน​ว่า​ป๋า​ย​เห​ย่​ไม่เคย​รับ​น้ำใจ​ก็​เท่านั้น​ เพราะ​เขา​ไม่เคย​มาเยือน​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​

ดังนั้น​ตำแหน่ง​ว่างเปล่า​อย่าง​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างนี้​ไม่อาจ​คิด​เป็นจริงเป็นจัง​ได้​ ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​การกระทำ​ที่เกิด​จาก​การ​คิด​ไป​เอง​ของ​เทพี​บุปผา​ และ​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างทั่ว​ทั้ง​ใน​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ก็​ยิ่ง​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​ปล่อย​ว่าง​มาหลาย​พันปี​ อันที่จริง​พื้นที่​มงคล​กำลัง​รอคอย​คน​คน​หนึ่ง​ นั่น​คือ​คน​ที่​สามารถ​ช่วงชิง​เชือก​หลาก​สีที่​หล่อหลอม​มาจาก​ชะตาชีวิต​เส้น​แล้ว​เส้น​เล่า​ของ​เทพี​บุปผา​กลับ​มาจาก​มือ​ของ​เฟิงอี๋​ได้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าดวงตา​เป็นประกาย​วาบ​ ผู้อาวุโส​เห็นอกเห็นใจ​คนอื่น​เช่นนี้​ก็​ประเสริฐ​มาก​แล้ว​

เพียงแต่​เขา​ยังคง​ไม่บอก​คำตอบ​นั้น​ ปล่อย​ให้​เจ้าอัดอั้น​จนตาย​ไป​เลย​

เฟิงอี๋​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “ไม่สู้ข้า​จะเดิมพัน​กับ​เห​วิน​เซิ่งดู​ เดิมพัน​ด้วย​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ของ​บรรณาการ​สิบ​ไห​ ถูก​ข้า​ดื่ม​มานาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ก็​เหลืออยู่​อีก​ไม่มาก​แล้ว​ เดิมพัน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่อาจ​ให้​คำตอบ​นั้น​ได้​ เป็น​อย่างไร​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าเกิด​ความสนใจ​ ขยุ้ม​หนวด​เอ่ย​ “หาก​ผู้อาวุโส​ชนะ​แล้​วจะ​เป็น​อย่างไร​? เพราะ​ถึงอย่างไร​โอกาส​ที่​ผู้อาวุโส​จะชนะ​ก็​มีมาก​ ใน​ความเห็น​ของ​ข้า​ ต้อง​เรียก​ว่า​คว้า​ชัยชนะ​ได้​อย่าง​มั่นคง​เลย​ด้วยซ้ำ​ ดังนั้น​หาก​มีแค่​เหล้า​หมัก​สิบ​กา​จะน้อย​ไป​หน่อย​หรือไม่​?”

เฟิงอี๋​กระตุก​มุมปาก​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​สิบ​แปด​ไห​ ข้า​เก็บ​ไว้​เอง​แค่​สอง​ไห​ หาก​ข้า​ชนะ​ เชือก​เส้น​นี้​ก็​จะยัง​มอบให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ แต่​หลังจากที่​เขา​เป็น​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างแล้ว​จำเป็นต้อง​ให้​เทพี​บุปผา​สิบสอง​เดือน​มาขอขมา​ข้า​พร้อมกัน​ หากว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เชือก​ไป​ แล้ว​ไปเที่ยว​เยือน​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ ไม่ว่า​จะได้​เป็น​เค่อ​ชิงไท่​ซ่างหรือไม่​ ขอ​แค่​เขา​ไม่อาจ​ทำให้​เทพี​บุปผา​ยอมรับผิด​ได้​ก็​ต้อง​รับปาก​ข้า​เรื่อง​หนึ่ง​ ยกตัวอย่างเช่น​ต้อง​ปกป้อง​ไม่ให้​โจร​เด็ด​บุปผา​บน​ภูเขา​ถูก​สังหาร​จน​หมดเกลี้ยง​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าทำ​สีหน้า​ตกตะลึง​ “เดิมพัน​เรื่องใหญ่​ขนาด​นี้​ ไม่เหมาะสม​กระมัง​?”

เฟิงอี๋​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ไม่ต้อง​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าถูมือ​ “ช่างเถิด​ๆ เดิมพัน​ก็​เดิมพัน​สิ เดิมพัน​เล็กน้อย​แค่​ให้​พอ​สนุกสนาน​”

เฟิงอี๋​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ คล้าย​กับ​วัก​กระแสน้ำ​เส้น​เล็ก​เส้น​หนึ่ง​มาจาก​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ จากนั้น​หลอม​เป็นลม​เย็น​ระลอก​หนึ่ง​ ให้​มัน​โชย​ไปหา​เฉิน​ผิง​อัน​ที่อยู่​หน้า​ประตู​โรงเตี๊ยม​

เฟิงอี๋​กำลังจะ​เปิดปาก​พูด​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​หยิบ​เหล้า​กา​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ แกว่ง​เบา​ๆ พูด​ด้วย​ความ​มาดมั่น​ว่า​ “ไม่มีทาง​แพ้​ ดังนั้น​จะให้​ข้า​บอก​คำตอบ​แก่​เจ้าก่อน​ก็​ยัง​ได้​”

เฟิงอี๋​ยังคง​ไม่สะทกสะท้าน​ เพียง​ครู่เดียว​ลม​เย็น​ระลอก​นั้น​ก็​กลับมา​ที่​ซุ้มดอกไม้​ของ​ศาล​เทพ​อัคคี​ แทบจะ​ทันทีที่​เฉิน​ผิง​อัน​ได้ยิน​คำพูด​ของ​อาจารย์​ก็​ให้​คำตอบ​ออกมา​ทันใด​ พูด​แค่​สี่คำ​เท่านั้น​ อันที่จริง​เป็น​คำ​ที่​ชุย​ฉาน​เคย​พูด​ตั้งแต่​ปี​นั้น​ที่อยู่​ใน​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​แล้ว​

‘เชิญท่าน​ลง​โอ่ง​’

——

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด