หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

หลังจากที่ฝึกเขวี่ยงดาบราชาโลกันตร์กว่า 500 ครั้ง ในที่สุด โจวฉวนจีก็บรรลุจิตดาบขยายวิถีกระบี่ได้

 

ด้วยการควบคุมดาบผ่านความคิด จิตของเขา ก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดาบราชาโลกันตร์แล้วพุ่งทะลุภูเขาได้ ภายในดาบเดียว ดาบที่เขวี่ยงออกไปนั้นทะลวงทั้งผืนป่า แสดงให้เห็นพลานุภาพอันทรงพลัง

 

เจียงฉือน้อยเดินไปดูรูที่อยู่บนกําแพงภูเขา และเธอก็เห็นป่าที่อ ยู่อีกด้านหนึ่งของภูเขาผ่านรูนั้นมันทําให้เธอถึงกับสะอึกเลยที เดียว

!

 

ทรงพลังอะไรขนาดนี้ ถ้ามันถูกเขวี่ยงไปใส่ใครสักคนละก็ มันจะ น่าสยดสยองขนาดไหนกันนะ?

 

เธอหันไปมองโจวฉวนจี ราวกับว่าเธอกําลังมองสัตว์ประหลาด ตัวน้อยอยู่

 

เขายกมือขึ้นก่ายหน้าผากพลางมองท้องฟ้า และหัวเราะอย่าง ภาคภูมิใจ “ข้านี่เจ๋งใช้ได้เลยใช่มั้ยล่ะ?”

ปัก!

 

ดาบราชาโลกันตร์ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้านบน และร่อนลงบน มือเขา

 

เขายืดตัวตั้งตรง ยืดอกรับความหล่อเท่ของตัวเอง!

 

เขาทํากระทั่งยักคิ้วให้เธอ รอให้เธอชม

 

แต่เธอกลับกลอกตาใส่และพูดว่า “เจ้าก็เป็นได้แค่เด็กตัวจ้อย ที่ พึ่งรู้วิธีเก๊กหล่อเท่านั้นแหละ”

 

เด็กตัวจ้อย…

 

โจวฉวนจีรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าฟาดหัว และอยากจะตอกกลับ ตามสัญชาตญาณ

 

แต่พอมาคิดดี ๆ แล้วเธอก็พูดถูก เขามันก็เป็นแค่เด็ก 9 ขวบ เท่านั้น เป็นแค่เด็กตัวจ้อยจริง ๆ

 

โจวฉวนจีรู้สึกท้อเล็กน้อย มันต้องใช้เวลานานมากกว่าเขาจะโตกว่านี้

 

เมื่อมองไปที่ใบหน้าอมทุกข์ของเขาแล้ว เจียงฉือน้อยก็เดินไปหา ก่อนจะปลอบด้วยการตบหัวเบา ๆ พลางพูดว่า “ไม่เป็นไรนะ มัน ไม่แย่เลยสักนิดเดียว เจ้าออกจะน่ารักจะตาย อีกอย่างจะเป็นยังไง ถ้าเกิดเจ้าโตขึ้นมาแล้วน่าเกลียดแทนนะ?”

 

นั่นเป็นคําพูดที่เขาเคยใช้เพื่อหยอกเธอมาก่อน โดยบอกว่า ถึงต อนนี้เธอจะยังดูน่ารัก แต่ในอนาคตเธออาจจะดูน่าเกลียดแทนก็ได้

 

โจวฉวนจีเบะปากพลางถอนหายใจ “ทํายังไงข้าถึงจะโตได้เร็วก ว่านี้นะ!”

 

“ทําไมล่ะ? เจ้าอยากทําอะไรหลังจากที่เจ้าโตแล้วล่ะ?” เจียงลือ น้อยถาม

 

“ไว้ค่อยคิดหลังจากที่ข้าได้เมียกับเมียน้อยเป็นสิบคนก่อนละ กัน” โจวฉวนจีตอบ

 

เขาเพียงแค่หยอกเล่นเท่านั้น เขาไม่ได้อยากได้ผู้หญิงเยอะขนาด นั้นหรอก

 

แต่เมื่อเจียงฮือน้อยได้ยิน เธอก็หยิกแก้มน้อย ๆ ของเขา และ พูดตะคอกใส่ “เป็นเด็กเป็นเล็ก เอาแต่คิดเรื่องไม่ดีอยู่เรื่อยเลย

นะ!”

 

เธอเคยคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เธอเลยรู้ว่าเมียและ เมียน้อยนั้นคืออะไร

 

แต่เธอก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น เพราะเธอยังไม่เข้าใจความหมา ยของการแต่งงานสักเท่าไหร่

 

คู่รักที่อยู่ในหมู่บ้านลําธารขจีเคยบอกว่า การแต่งงานนั้นคือกา รอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต และจะไม่มีวันทิ้งกันหรือจากคู่ของตนไป ไหน

 

คู่รักที่มีชีวิตอยู่ด้วยกันหรอ

 

โจวฉวนจีใช้เวลา 1 สัปดาห์เต็มเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับดาบรา ชาโลกันตร์

 

เมื่อเขาอัญเชิญวิญญาณราชาโลกันตร์ที่อยู่ในดาบออกมา ทั่วทั้ง ร่างของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดําเงาจาง ๆ ที่ซ้อนทับทั่ว ร่างของเขานั้นคือ ราชาโลกันตร์ นั่นเอง

 

หลังจากที่สวมวิญญาณราชาโลกันตร์แล้ว ทั้งพลังวิญญาณ ควา มแข็งแกร่ง ความเร็ว กระทั่งประสาทสัมผัสของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่าง มหาศาล

 

แต่มันก็ทําให้เจียงฉือน้อยรู้สึกกลัวมาก เพราะเธอคิดว่าเขาถูกสาป

 

ในวันนี้ โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยขอาใหญ่และน้องสองออก จากหุบเขา

 

พวกเขาเตรียมตัวที่จะเข้าสู่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้ โดยเริ่มจา กการสํารวจเส้นทางถนนก่อน

ตอนนี้โจวฉวนจีก็รวยมากพอแล้ว เขาเลยไม่อยากจะใช้ชีวิตอย่า งคนป่าเถื่อนอีกต่อไป

 

ตราบใดที่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตน พวกลูกสมุนของราชินีแห่งมหา จักรวรรดิโจวก็จะไม่มีทางหาเขาเจอได้ตลอดการเดินทางครั้งนี้ ซี่ งจะใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

 

หลังจากที่บินมาเกือบครึ่งวัน พวกเขาก็เกือบถึงด่านตรวจขอ งอาณาจักรเหมันต์แดนใต้แล้ว โจวฉวนจีหยุดอาใหญ่และน้องสอ งก่อน เพราะพวกมันตัวใหญ่เกินกว่าที่จะพาเข้าไปในเมืองได้

 

“กลับไปยังหุบเขาทันทีเลยนะ อย่าให้โดนจับได้อีกละ เข้า ใจมั้ย?”

 

เขาสั่งพวกวิหคมังกร แค่เจ้า 2 ตัวนี่ก็ตัวใหญ่เท่าตึก 2 ชั้นแล้ว แถมยังดูยิ่งใหญ่เกินไปอีก

 

อาใหญ่และน้องสองผงกหัวของพวกมัน ก่อนจะกางปีกและบิ นจากไป

 

เจียงฉือน้อยจับมือเขาเอาไว้และถามว่า “ฉวนจี พวกเราจะได้ก ลับไปดูหมู่บ้านลําธารขจีเมื่อไหร่หรอ?”

 

หมู่บ้านลําธารขจีนั้นตั้งอยู่นอกชายแดนของอาณาจักรเหมันต์ แดนใต้และอยู่ยังในถิ่นทุรกันดารมาก หนทางที่จะกลับไปได้เร็วที่ สุด คือการเดินทางตัดผ่านอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ไป เพราะว่ากา รอ้อมไปมันเสียเวลามากยังไงล่ะ

 

เขาเอียงหัวและถามเธอ “เจ้าคิดถึงคุณยายหรอ?”

 

ถ้าให้พูดจริง ๆ เขาก็ไม่อยากจะกลับไปหรอก เขากลัวว่าเธอจะ ถูกคุณยายฉุดตัวไป

แต่นั่นมันก็จะเห็นแก่ตัวเกินไป ถ้าเธออยากกลับไป เขาก็พร้อ มจะไปกับเธอด้วย

 

เด็กสาวจ้องมองไปยังดวงตาของเขา ราวกับว่าเธอเข้าใจว่าเขา กําลังคิดอะไรอยู่ เธอเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าตัวน้อย ข้า แค่อยากรู้ว่าตอนนี้คุณยายท่านเป็นยังไงแล้วบ้างเฉย ๆ แต่ก็ช่างเถอะ มันก็ไกลเกินไปด้วยแหละ”

 

เมื่อไม่มีกั่วไปหลี่เป็นคนนําทางให้แล้ว มันก็ยากสําหรับพวกเขา ที่จะตามหาหมู่บ้านลําธารขจีเจอในเวลาสั้น ๆ ได้

 

“รอจนกว่าข้าจะขึ้นระดับบรรลุญาณได้แล้วพวกเราค่อยกลับไป เอางั้นมั้ยล่ะ?”

 

โจวฉวนจีพึมพําออกมา ถ้าหากเขาเลื่อนขึ้นระดับบรรลุญาณได้ แล้วล่ะก็ มันก็ถึงเวลาที่เขาจะได้เริ่มแผนของเขาสักที

 

ก่อนอื่น เขาอยากจะรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของแม่นางจาวฉวนซะก่อน

 

ไม่ว่านางจะเป็นหรือตาย เขาก็จะไปหานางให้ได้

 

เพราะนางคือแม่ของเขาในชาตินี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ฝังเธอ อย่างเหมาะสม

 

ขั้นต่อไปก็คือ เข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิ

โจว

 

เขาอยากจะปรากฏตัวต่อหน้าจักรพรรดิเหยียนแห่งโจวด้วยตัว

ตนอื่น

 

และใช้ความสามารถของเขาดึงความสนใจของจักรพรรดิมาให้

ตราบเท่าที่โจวฉวนจียังมีความสามารถมากกว่าโจวหยาหลง เขา ก็มีโอกาสที่จะเข้าไปยังวังหลวงของมหาจักรวรรดิโจวได้ จากนั้น เขาก็จะหาโอกาสลอบสังหารราชินีซะ

 

พอถึงตอนนั้น ไม่ว่าจักรพรรดิเหยียนแห่งโจวจะโกรธสักแค่ไหน เขาก็ต้องลังเลแน่ว่ามันคุ้มพอที่จะฆ่าเขามั้ย

 

ถ้าให้พูดจริง ๆ เดิมที่จักรพรรดิเหยียนแห่งโจวออกจะเอ็นดูเขา ซะด้วยซ้ํา

 

ถึงแม้องค์จักรพรรดิจะต้องดูเข้มงวดและเย็นชาอยู่เสมอ แต่รอย ยิ้มกว้าง ๆ ก็มักจะปรากฏบนใบหน้าของเขาทุกครั้งที่เจอแม่นาง จาวฉวนและโจวฉวนจี

 

เขาจําได้ว่า ครั้งนึงองค์จักรพรรดิเคยตรัสกับแม่นางจาวฉวนไว้ ว่า ถ้าเขามีพรสวรรค์ที่พิเศษเกินกว่าใครจริง ก็เป็นไปได้ที่จะแต่งตั้ง เขาเป็นรัชทายาทได้

 

และบางทีคําพูดนั่นก็อาจจะเป็นตัวนําพาหายนะมาสู่แม่นา งจาวฉวนก็ได้

 

ทั้งโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ขณะที่เดินตรงไปยังประตูทางเข้า

 

ระหว่างทาง เจียงฉือน้อยก็แอบมองเขาบ้างเป็นครั้งคราว

 

แต่โจวฉวนจีมัวแต่กําลังคิดเรื่องแผนการล้างแค้น เขาเลยไม่ทัน สังเกตว่าเธอมองเขาอยู่

 

“ข้าต้องไปกับโจวฉวนจไม่ว่ายังไงการตาม ถ้าไม่มีข้า ก็ไม่มีใคร เย็บเสื้อให้เขาน่ะสิ”

 

การแสดงออกผ่านสายตาของเธอนั้นช่างอ่อนโยน ถ้าไม่ใช่เพร าะเขาล่ะก็ เธอคงจะตกอยู่ในชะตากรรมอันสุดแสนจะเลวร้ายเพร าะคุณยายของเธอไปแล้ว

 

พอคิดถึงวันเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงที่เขาสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องเธอด้วยแล้วมันก็ยิ่งทําให้เธอรู้ สึกว่าจะทําให้เขาผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด

 

โจวฉวนจีนั้นสําคัญยิ่งกว่าคุณยายของเธอซะอีก

 

หลังจากที่เดินได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงหน้าป ระตูทางเข้า

 

การที่จะเข้าไปได้ พวกเขาจะต้องจ่ายหินวิญญาณระดับหนึ่ง 2 ก้อน และลงทะเบียนยืนยันตัวตนก่อน

 

ประตูทางผ่านนี้มีไว้ก็เพื่อกันไม่ให้พวกผู้ลี้ภัยจากอาณาจักรอื่น เข้ามาได้

 

โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยนั้นดูไม่เหมือนคนไม่ดีเลยซักนิด แถมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของทั้งคู่ที่ดูจะเป็นเด็กที่สุดแสนจะน่า รักแล้ว ก็ทําให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าพวกเขามาจากตระกูลไหนสักตระกุล พวกทหารเลยปล่อยให้ทั้งสองผ่านเข้ามาได้หลังจากที่เก็บหินวิญญาณแล้ว

 

หลังจากที่ผ่านเข้าประตูมาได้แล้ว ทั้งสองก็มองไปยังข้างหน้า และเห็นภาพเงาจาง ๆ ของเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์

 

ใกล้ ๆ พวกเขานั้นมีค่ายทหารอยู่ โดยทหารทุกคนต่างกําลังฝึก ใช้หอกและเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่ทั้งดูแข็งแกร่งและทรงพลัง

 

มีผู้คนจํานวนมากอยู่รอบ ๆ พวกเขา บ้างก็เดินทางเข้าเมือง บ้า งก็เดินทางออกเมือง

 

หลังจากที่เดินไปได้ 500 หลา ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กําลังจะเดิ นทางออกจากเมืองก็ตกใจตาค้างเมื่อได้เห็นโจวฉวนจี เขาขยี้ตา ก่อนจะมองด้วยความประหลาดใจ

 

จู่ ๆ ชายคนนั้นก็วิ่งตรงไปหาโจวฉวนจีและพูดขึ้นอย่างตื่นเต้ นว่า “ท่านเทพกระบี่โจว อะไรทําให้ท่านมาที่นี่กันครับ?”

 

หลังจากที่ผ่านมาปีครึ่ง โจวฉวนจีก็ได้ทําลายฐานกองโจรไปถึง 38 แห่ง และได้ช่วยผู้คนมาเกือบ 2000 คน

และชายหนุ่มคนนั้นก็คือ 1 ในนั้น

 

แต่โจวฉวนจีกลับจําเขาไม่ได้

 

เมื่อชายคนนั้นเห็นโจวฉวนจีขมวดคิ้ว ก็คิดว่าเขาดันทําตัวไม่เคา รพต่อผู้ช่วยชีวิตเขา ก่อนจะพูดพึมพําออกมาอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้ อาวุโส ท่านมาที่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้เพื่อประลองยุทธ์หรือ?” 

 

ถึงโจวฉวนจีจะดูยังเด็ก แต่เขาก็ไม่คิดจะปฏิบัติตัวกับโจวฉวนจี เหมือนเด็กเลยสักนิด

 

จอมยุทธอาวุโสคนนี้จะต้องบรรลุในวิชาบางอย่างและย้อนคืน ความหนุ่มสาวของตัวเองอย่างแน่นอน

 

เขาเคยเห็นวิชาดาบของเทพกระบี่มาก่อน และยังคงจดจําฝังลึก เข้าไปในใจได้ดี ถึงท่วงท่าความสง่างามในการฟันดาบนั้น

 

โจวฉวนจีรู้สึกตกใจ และถามว่า “ประลองยุทธ์อะไรนะ?” 

 

ชายหนุ่มตอบ “เมื่อหนึ่งเดือนก่อน จอมกระบี่แดนเหนือผู้อ งอาจได้เดินทางผ่านมายังอาณาจักรเหมันต์แดนใต้และบังเอิญได้ ยินเรื่องเกี่ยวกับท่านเข้า เขาเลยท้าทายให้ท่านมาประลองยุทธ์ด้วยที่เมืองกลืนเมฆา และประกาศกร้าวอีกว่า ถ้าหากเขาแพ้ท่านล่ะก็ เขาจะยอมเป็นศิษย์ท่าน แต่ถ้าท่านแพ้เขาแล้วล่ะก็ เช่นนั้นฉายา เทพกระบีโจวก็คงเป็นแค่ของเก๊เท่านั้น”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 34 : จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ

 

หลังจากที่ฝึกเขวี่ยงดาบราชาโลกันตร์กว่า 500 ครั้ง ในที่สุด โจวฉวนจีก็บรรลุจิตดาบขยายวิถีกระบี่ได้

 

ด้วยการควบคุมดาบผ่านความคิด จิตของเขา ก็ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับดาบราชาโลกันตร์แล้วพุ่งทะลุภูเขาได้ ภายในดาบเดียว ดาบที่เขวี่ยงออกไปนั้นทะลวงทั้งผืนป่า แสดงให้เห็นพลานุภาพอันทรงพลัง

 

เจียงฉือน้อยเดินไปดูรูที่อยู่บนกําแพงภูเขา และเธอก็เห็นป่าที่อ ยู่อีกด้านหนึ่งของภูเขาผ่านรูนั้นมันทําให้เธอถึงกับสะอึกเลยที เดียว

!

 

ทรงพลังอะไรขนาดนี้ ถ้ามันถูกเขวี่ยงไปใส่ใครสักคนละก็ มันจะ น่าสยดสยองขนาดไหนกันนะ?

 

เธอหันไปมองโจวฉวนจี ราวกับว่าเธอกําลังมองสัตว์ประหลาด ตัวน้อยอยู่

 

เขายกมือขึ้นก่ายหน้าผากพลางมองท้องฟ้า และหัวเราะอย่าง ภาคภูมิใจ “ข้านี่เจ๋งใช้ได้เลยใช่มั้ยล่ะ?”

ปัก!

 

ดาบราชาโลกันตร์ร่วงลงมาจากท้องฟ้าด้านบน และร่อนลงบน มือเขา

 

เขายืดตัวตั้งตรง ยืดอกรับความหล่อเท่ของตัวเอง!

 

เขาทํากระทั่งยักคิ้วให้เธอ รอให้เธอชม

 

แต่เธอกลับกลอกตาใส่และพูดว่า “เจ้าก็เป็นได้แค่เด็กตัวจ้อย ที่ พึ่งรู้วิธีเก๊กหล่อเท่านั้นแหละ”

 

เด็กตัวจ้อย…

 

โจวฉวนจีรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าฟาดหัว และอยากจะตอกกลับ ตามสัญชาตญาณ

 

แต่พอมาคิดดี ๆ แล้วเธอก็พูดถูก เขามันก็เป็นแค่เด็ก 9 ขวบ เท่านั้น เป็นแค่เด็กตัวจ้อยจริง ๆ

 

โจวฉวนจีรู้สึกท้อเล็กน้อย มันต้องใช้เวลานานมากกว่าเขาจะโตกว่านี้

 

เมื่อมองไปที่ใบหน้าอมทุกข์ของเขาแล้ว เจียงฉือน้อยก็เดินไปหา ก่อนจะปลอบด้วยการตบหัวเบา ๆ พลางพูดว่า “ไม่เป็นไรนะ มัน ไม่แย่เลยสักนิดเดียว เจ้าออกจะน่ารักจะตาย อีกอย่างจะเป็นยังไง ถ้าเกิดเจ้าโตขึ้นมาแล้วน่าเกลียดแทนนะ?”

 

นั่นเป็นคําพูดที่เขาเคยใช้เพื่อหยอกเธอมาก่อน โดยบอกว่า ถึงต อนนี้เธอจะยังดูน่ารัก แต่ในอนาคตเธออาจจะดูน่าเกลียดแทนก็ได้

 

โจวฉวนจีเบะปากพลางถอนหายใจ “ทํายังไงข้าถึงจะโตได้เร็วก ว่านี้นะ!”

 

“ทําไมล่ะ? เจ้าอยากทําอะไรหลังจากที่เจ้าโตแล้วล่ะ?” เจียงลือ น้อยถาม

 

“ไว้ค่อยคิดหลังจากที่ข้าได้เมียกับเมียน้อยเป็นสิบคนก่อนละ กัน” โจวฉวนจีตอบ

 

เขาเพียงแค่หยอกเล่นเท่านั้น เขาไม่ได้อยากได้ผู้หญิงเยอะขนาด นั้นหรอก

 

แต่เมื่อเจียงฮือน้อยได้ยิน เธอก็หยิกแก้มน้อย ๆ ของเขา และ พูดตะคอกใส่ “เป็นเด็กเป็นเล็ก เอาแต่คิดเรื่องไม่ดีอยู่เรื่อยเลย

นะ!”

 

เธอเคยคุยกับคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน เธอเลยรู้ว่าเมียและ เมียน้อยนั้นคืออะไร

 

แต่เธอก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้น เพราะเธอยังไม่เข้าใจความหมา ยของการแต่งงานสักเท่าไหร่

 

คู่รักที่อยู่ในหมู่บ้านลําธารขจีเคยบอกว่า การแต่งงานนั้นคือกา รอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต และจะไม่มีวันทิ้งกันหรือจากคู่ของตนไป ไหน

 

คู่รักที่มีชีวิตอยู่ด้วยกันหรอ

 

โจวฉวนจีใช้เวลา 1 สัปดาห์เต็มเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับดาบรา ชาโลกันตร์

 

เมื่อเขาอัญเชิญวิญญาณราชาโลกันตร์ที่อยู่ในดาบออกมา ทั่วทั้ง ร่างของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดําเงาจาง ๆ ที่ซ้อนทับทั่ว ร่างของเขานั้นคือ ราชาโลกันตร์ นั่นเอง

 

หลังจากที่สวมวิญญาณราชาโลกันตร์แล้ว ทั้งพลังวิญญาณ ควา มแข็งแกร่ง ความเร็ว กระทั่งประสาทสัมผัสของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่าง มหาศาล

 

แต่มันก็ทําให้เจียงฉือน้อยรู้สึกกลัวมาก เพราะเธอคิดว่าเขาถูกสาป

 

ในวันนี้ โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยขอาใหญ่และน้องสองออก จากหุบเขา

 

พวกเขาเตรียมตัวที่จะเข้าสู่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้ โดยเริ่มจา กการสํารวจเส้นทางถนนก่อน

ตอนนี้โจวฉวนจีก็รวยมากพอแล้ว เขาเลยไม่อยากจะใช้ชีวิตอย่า งคนป่าเถื่อนอีกต่อไป

 

ตราบใดที่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตน พวกลูกสมุนของราชินีแห่งมหา จักรวรรดิโจวก็จะไม่มีทางหาเขาเจอได้ตลอดการเดินทางครั้งนี้ ซี่ งจะใช้เวลาเดินทางเพียงไม่กี่วันเท่านั้น

 

หลังจากที่บินมาเกือบครึ่งวัน พวกเขาก็เกือบถึงด่านตรวจขอ งอาณาจักรเหมันต์แดนใต้แล้ว โจวฉวนจีหยุดอาใหญ่และน้องสอ งก่อน เพราะพวกมันตัวใหญ่เกินกว่าที่จะพาเข้าไปในเมืองได้

 

“กลับไปยังหุบเขาทันทีเลยนะ อย่าให้โดนจับได้อีกละ เข้า ใจมั้ย?”

 

เขาสั่งพวกวิหคมังกร แค่เจ้า 2 ตัวนี่ก็ตัวใหญ่เท่าตึก 2 ชั้นแล้ว แถมยังดูยิ่งใหญ่เกินไปอีก

 

อาใหญ่และน้องสองผงกหัวของพวกมัน ก่อนจะกางปีกและบิ นจากไป

 

เจียงฉือน้อยจับมือเขาเอาไว้และถามว่า “ฉวนจี พวกเราจะได้ก ลับไปดูหมู่บ้านลําธารขจีเมื่อไหร่หรอ?”

 

หมู่บ้านลําธารขจีนั้นตั้งอยู่นอกชายแดนของอาณาจักรเหมันต์ แดนใต้และอยู่ยังในถิ่นทุรกันดารมาก หนทางที่จะกลับไปได้เร็วที่ สุด คือการเดินทางตัดผ่านอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ไป เพราะว่ากา รอ้อมไปมันเสียเวลามากยังไงล่ะ

 

เขาเอียงหัวและถามเธอ “เจ้าคิดถึงคุณยายหรอ?”

 

ถ้าให้พูดจริง ๆ เขาก็ไม่อยากจะกลับไปหรอก เขากลัวว่าเธอจะ ถูกคุณยายฉุดตัวไป

แต่นั่นมันก็จะเห็นแก่ตัวเกินไป ถ้าเธออยากกลับไป เขาก็พร้อ มจะไปกับเธอด้วย

 

เด็กสาวจ้องมองไปยังดวงตาของเขา ราวกับว่าเธอเข้าใจว่าเขา กําลังคิดอะไรอยู่ เธอเม้มริมฝีปากก่อนจะพูดขึ้น “เจ้าตัวน้อย ข้า แค่อยากรู้ว่าตอนนี้คุณยายท่านเป็นยังไงแล้วบ้างเฉย ๆ แต่ก็ช่างเถอะ มันก็ไกลเกินไปด้วยแหละ”

 

เมื่อไม่มีกั่วไปหลี่เป็นคนนําทางให้แล้ว มันก็ยากสําหรับพวกเขา ที่จะตามหาหมู่บ้านลําธารขจีเจอในเวลาสั้น ๆ ได้

 

“รอจนกว่าข้าจะขึ้นระดับบรรลุญาณได้แล้วพวกเราค่อยกลับไป เอางั้นมั้ยล่ะ?”

 

โจวฉวนจีพึมพําออกมา ถ้าหากเขาเลื่อนขึ้นระดับบรรลุญาณได้ แล้วล่ะก็ มันก็ถึงเวลาที่เขาจะได้เริ่มแผนของเขาสักที

 

ก่อนอื่น เขาอยากจะรู้เกี่ยวกับที่อยู่ของแม่นางจาวฉวนซะก่อน

 

ไม่ว่านางจะเป็นหรือตาย เขาก็จะไปหานางให้ได้

 

เพราะนางคือแม่ของเขาในชาตินี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ฝังเธอ อย่างเหมาะสม

 

ขั้นต่อไปก็คือ เข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิ

โจว

 

เขาอยากจะปรากฏตัวต่อหน้าจักรพรรดิเหยียนแห่งโจวด้วยตัว

ตนอื่น

 

และใช้ความสามารถของเขาดึงความสนใจของจักรพรรดิมาให้

ตราบเท่าที่โจวฉวนจียังมีความสามารถมากกว่าโจวหยาหลง เขา ก็มีโอกาสที่จะเข้าไปยังวังหลวงของมหาจักรวรรดิโจวได้ จากนั้น เขาก็จะหาโอกาสลอบสังหารราชินีซะ

 

พอถึงตอนนั้น ไม่ว่าจักรพรรดิเหยียนแห่งโจวจะโกรธสักแค่ไหน เขาก็ต้องลังเลแน่ว่ามันคุ้มพอที่จะฆ่าเขามั้ย

 

ถ้าให้พูดจริง ๆ เดิมที่จักรพรรดิเหยียนแห่งโจวออกจะเอ็นดูเขา ซะด้วยซ้ํา

 

ถึงแม้องค์จักรพรรดิจะต้องดูเข้มงวดและเย็นชาอยู่เสมอ แต่รอย ยิ้มกว้าง ๆ ก็มักจะปรากฏบนใบหน้าของเขาทุกครั้งที่เจอแม่นาง จาวฉวนและโจวฉวนจี

 

เขาจําได้ว่า ครั้งนึงองค์จักรพรรดิเคยตรัสกับแม่นางจาวฉวนไว้ ว่า ถ้าเขามีพรสวรรค์ที่พิเศษเกินกว่าใครจริง ก็เป็นไปได้ที่จะแต่งตั้ง เขาเป็นรัชทายาทได้

 

และบางทีคําพูดนั่นก็อาจจะเป็นตัวนําพาหายนะมาสู่แม่นา งจาวฉวนก็ได้

 

ทั้งโจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ขณะที่เดินตรงไปยังประตูทางเข้า

 

ระหว่างทาง เจียงฉือน้อยก็แอบมองเขาบ้างเป็นครั้งคราว

 

แต่โจวฉวนจีมัวแต่กําลังคิดเรื่องแผนการล้างแค้น เขาเลยไม่ทัน สังเกตว่าเธอมองเขาอยู่

 

“ข้าต้องไปกับโจวฉวนจไม่ว่ายังไงการตาม ถ้าไม่มีข้า ก็ไม่มีใคร เย็บเสื้อให้เขาน่ะสิ”

 

การแสดงออกผ่านสายตาของเธอนั้นช่างอ่อนโยน ถ้าไม่ใช่เพร าะเขาล่ะก็ เธอคงจะตกอยู่ในชะตากรรมอันสุดแสนจะเลวร้ายเพร าะคุณยายของเธอไปแล้ว

 

พอคิดถึงวันเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงที่เขาสู้ถวายชีวิตเพื่อปกป้องเธอด้วยแล้วมันก็ยิ่งทําให้เธอรู้ สึกว่าจะทําให้เขาผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด

 

โจวฉวนจีนั้นสําคัญยิ่งกว่าคุณยายของเธอซะอีก

 

หลังจากที่เดินได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงหน้าป ระตูทางเข้า

 

การที่จะเข้าไปได้ พวกเขาจะต้องจ่ายหินวิญญาณระดับหนึ่ง 2 ก้อน และลงทะเบียนยืนยันตัวตนก่อน

 

ประตูทางผ่านนี้มีไว้ก็เพื่อกันไม่ให้พวกผู้ลี้ภัยจากอาณาจักรอื่น เข้ามาได้

 

โจวฉวนจีและเจียงฉือน้อยนั้นดูไม่เหมือนคนไม่ดีเลยซักนิด แถมด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของทั้งคู่ที่ดูจะเป็นเด็กที่สุดแสนจะน่า รักแล้ว ก็ทําให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าพวกเขามาจากตระกูลไหนสักตระกุล พวกทหารเลยปล่อยให้ทั้งสองผ่านเข้ามาได้หลังจากที่เก็บหินวิญญาณแล้ว

 

หลังจากที่ผ่านเข้าประตูมาได้แล้ว ทั้งสองก็มองไปยังข้างหน้า และเห็นภาพเงาจาง ๆ ของเมืองที่อยู่ห่างออกไปหลายไมล์

 

ใกล้ ๆ พวกเขานั้นมีค่ายทหารอยู่ โดยทหารทุกคนต่างกําลังฝึก ใช้หอกและเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่ทั้งดูแข็งแกร่งและทรงพลัง

 

มีผู้คนจํานวนมากอยู่รอบ ๆ พวกเขา บ้างก็เดินทางเข้าเมือง บ้า งก็เดินทางออกเมือง

 

หลังจากที่เดินไปได้ 500 หลา ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กําลังจะเดิ นทางออกจากเมืองก็ตกใจตาค้างเมื่อได้เห็นโจวฉวนจี เขาขยี้ตา ก่อนจะมองด้วยความประหลาดใจ

 

จู่ ๆ ชายคนนั้นก็วิ่งตรงไปหาโจวฉวนจีและพูดขึ้นอย่างตื่นเต้ นว่า “ท่านเทพกระบี่โจว อะไรทําให้ท่านมาที่นี่กันครับ?”

 

หลังจากที่ผ่านมาปีครึ่ง โจวฉวนจีก็ได้ทําลายฐานกองโจรไปถึง 38 แห่ง และได้ช่วยผู้คนมาเกือบ 2000 คน

และชายหนุ่มคนนั้นก็คือ 1 ในนั้น

 

แต่โจวฉวนจีกลับจําเขาไม่ได้

 

เมื่อชายคนนั้นเห็นโจวฉวนจีขมวดคิ้ว ก็คิดว่าเขาดันทําตัวไม่เคา รพต่อผู้ช่วยชีวิตเขา ก่อนจะพูดพึมพําออกมาอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้ อาวุโส ท่านมาที่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้เพื่อประลองยุทธ์หรือ?” 

 

ถึงโจวฉวนจีจะดูยังเด็ก แต่เขาก็ไม่คิดจะปฏิบัติตัวกับโจวฉวนจี เหมือนเด็กเลยสักนิด

 

จอมยุทธอาวุโสคนนี้จะต้องบรรลุในวิชาบางอย่างและย้อนคืน ความหนุ่มสาวของตัวเองอย่างแน่นอน

 

เขาเคยเห็นวิชาดาบของเทพกระบี่มาก่อน และยังคงจดจําฝังลึก เข้าไปในใจได้ดี ถึงท่วงท่าความสง่างามในการฟันดาบนั้น

 

โจวฉวนจีรู้สึกตกใจ และถามว่า “ประลองยุทธ์อะไรนะ?” 

 

ชายหนุ่มตอบ “เมื่อหนึ่งเดือนก่อน จอมกระบี่แดนเหนือผู้อ งอาจได้เดินทางผ่านมายังอาณาจักรเหมันต์แดนใต้และบังเอิญได้ ยินเรื่องเกี่ยวกับท่านเข้า เขาเลยท้าทายให้ท่านมาประลองยุทธ์ด้วยที่เมืองกลืนเมฆา และประกาศกร้าวอีกว่า ถ้าหากเขาแพ้ท่านล่ะก็ เขาจะยอมเป็นศิษย์ท่าน แต่ถ้าท่านแพ้เขาแล้วล่ะก็ เช่นนั้นฉายา เทพกระบีโจวก็คงเป็นแค่ของเก๊เท่านั้น”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+