หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless Lege…

 

ตอนที่ 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ

 

สีหน้าของฉวงฮุ้ยเฉิงเหี้ยมโหดขึ้นมาทันทีที่ยินคําสบถที่เต็มไปด้วยความโกรธของโจวฉวนจี แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

ตาแก่ชิงถึงกับโกรธทันทีเมื่อได้ยิน จู่ ๆ ร่างกายของเขาก็สูงขึ้น และกล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนเสื้อผ้าแทบฉีกขาด เขาจ้องมองไปยังโจวฉวนจีและพูดว่า “กล้าดียังไง! เจ้ากล้าดียังไงบังอาจมาดูถูกนายน้อย…นี่เจ้าอยากตายนักใช่มั้ยห้ะ?”

 

ถึงแม้เทพกระบี่โจวจะมีพรสวรรค์มาก แต่อะไรคือเหตุผลที่ทําให้สุนัขตัวนี้มันเลี้ยงไม่เชื่องกันนะ?

 

“ฉวนจี… ระวังตัวด้วยนะ…” เจียงฉือน้อยพูดเตือนเขา

 

เธอได้เห็นมากับตาตัวเองถึงสิ่งที่ฉวงฮุ้ยเฉิงได้ทําลงไป เขาเป็นเหมือนกับปีศาจจริง ๆ

 

ในสายตาของเธอ โจวฉวนจียังอ่อนแอเกินกว่าจะล้มฉวงฮุ้ยเฉิงได้

 

แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อในตัวเขา

 

เพราะน้องชายตัวน้อยของเธอมักสร้างปาฏิหาริย์ให้เห็นเสมอยังไงล่ะ

 

ภายใต้หน้ากากสีเงิน สายตาของโจวฉวนจีแทบลุกเป็นไฟด้วยความโกรธและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

ในโลกใบนี้เจียงฉือน้อยคือคนสําคัญที่สุดสําหรับเขา เขาไม่เคยใช้กําลังกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว นับประสาอะไรกับตีเธอ

 

เพราะงั้นการที่ต้องมาเห็นเธอบาดเจ็บแบบนี้ เขาเลยรู้สึกแย่สุด ๆ จนถ้าทําได้เขาก็อยากจะเจ็บแทน

 

ในตอนนี้ เขาลืมความกลัวทั้งหมดที่เคยมีต่อราชวงศ์ปีศาจกู่หลาน

 

ถึงเขาจะต่อกรกับฉวงฮุ้ยเฉิงไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องทํา

 

ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม แต่เขาก็พร้อมที่จะสู้สุดชีวิตกับคนที่มันกล้าทําร้ายเจียงฉือน้อย

 

เขาเดินตรงไปยังฉวงฮุ้ยเฉิงพร้อมกับดาบในมือ ใบดาบที่ถูกลากไปตามพื้นสร้างเสียงแหลมที่ดังจนเสียดหู

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงขมวดคิ้ว เขาไม่คิดเลยว่าไอเด็กคนนี้จะโกรธเขาแค่เพียงเพราะเด็กสาวตัวน้อย ๆ คนเดียว

 

เป็นไปได้มั้ยว่านั่นจะเป็นน้องสาวของเทพกระบี่โจวนะ?

 

เขาลองคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี

 

เขาน่ะชอบพวกมีพรสวรรค์ แต่ความโกรธที่เขามีอยู่ตอนนี้ก็ขัดกับความรู้สึกตนเองเสียเหลือเกิน

 

ขณะนั้นเอง ตาแก่ชิงก็เดินตรงไปยังโจวฉวนจี

 

“ไอเด็กเหลือขอ ในเมื่อเจ้าไม่คิดจะยอมรับโอกาสที่ข้าอุตส่าห์มอบให้ งั้นก็ตายซะเถอะ!”

 

เสียงหัวเราะของตาแก่ชิงเริ่มน่ากลัวและสยดสยองมากขึ้นรูปลักษณ์ปีศาจของเขาเผยออกมาให้เห็นชัดเจน เมื่อจู่ ๆ เขี้ยวแหลมคม 2 ซี่ก็งอกขึ้นมาจากปากของเขา

 

ณ สนามฝึก จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพยายามจะพูดบางอย่างกับโจวฉวนจี แต่ก็ไม่มีแรงมากพอจะทําได้

 

เขารู้ว่าฉวงฮุ้ยเฉิงนั้นทรงพลังแค่ไหน และโจวฉวนจีไม่มีทางจะเอาชนะเขาได้แน่

 

แต่ถ้าเกิดเทพกระบโจวล้มฉวงฮุ้ยเฉิงได้ล่ะ?

 

ถ้าหากเทพกระบี่โจวมีเรื่องเข้ากับราชวงศ์ปีศาจกู่หลานล่ะก็ เขาต้องไม่รอดแน่ ๆ เว้นเสียแต่เขาจะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในวังหลวงของมหาจักรวรรดิโจวได้

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ด้านข้างของฉวงฮุ้ยเฉิงและถูกทําให้ขยับไม่ได้อยู่นั้น ก็มองไปยังโจวฉวนจี

 

เขายังจําได้ดีถึงความทรงพลังของเทพกระบี่ก่อนหน้านี้ เทพกระบี่โจวเป็นดั่งแสงสว่างแห่งความหวังอันริบหรีในสายตาของเขา

 

ผู้คนที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วสนามฝึกบ้างก็ยังไม่ตายบ้าง ก็ยังมีชีวิตอยู่ บางคนก็ถูกซากอาคารที่ถล่มลงมาทับเอาไว้ และบางคนก็ล้มนอนลงอยู่กลางถนน

 

ในช่วงเวลานั้น พวกเขาทั้งหมดต่างฝากความหวังไว้กับจอมกระบีหน้าเด็กคนนั้น

 

ตาแก่ชิงและโจวฉวนจีเข้าใกล้กันมากขึ้นและมากยิ่งขึ้น

 

แต่เด็กน้อยกลับเมินตาแก่ชิง สายตาของเขาจับจ้องแต่เพียงฉวงฮุ้ยเฉิงเท่านั้น

 

“เทพกระบี่โจว…ล้มมันให้ได้นะ…”

 

เสียงอันอ่อนแรงของคนที่อยู่ใต้ซากบ้านถล่มดังลอยออกมา

 

ปั้งงง!

 

โจวฉวนจีพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยขาขวาของเขาทันที่จนพื้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และพุ่งตรงไปยังฉวงฮุ้ยเฉิง

 

ตาแก่ชิงยกมือขวาขึ้นด้วยความหนักอึ้ง มือของเขากลายเป็นกรงเล็บสัตว์ร้าย และขยายใหญ่ขึ้นจนผิดกับขนาดร่างกาย

 

มันดูราวกับพัดขนาดใหญ่ที่ทุบตรงไปยังโจวฉวนจี การโจมตีด้วยฝ่ามือนั้นรุนแรงมากเสียจนทําให้ภูเขาแตกเป็นเสียงๆ ได้

 

ในตอนที่โจวฉวนจีเกือบจะโดนทุบเข้าใส่ เขาก็พุ่งตรงไปยังด้านหลังของตาแก่ชิงทันทีด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ตู้มมมมม

 

การโจมตีด้วยฝ่ามือของตาแก่ชิงพลาดเป้าและตีเข้ากับพื้น พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ และรอยแตกนั้นก็แผ่ขยายเป็นระลอกคลื่นกว้างออกไปราวกับใยแมงมุม

 

ก่อนที่เขาจะทันได้หันกลับไป โจวฉวนจีก็พุ่งตรงกลับไปยัง ฉวงฮุ้ยเฉิงอีกครั้งด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ด้วยดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือ เขาก็เปิดใช้งานจิตดาบสะบั้นสามชีพจรทันที

 

จิตใจของเขาหลอมรวมเข้ากับดาบ!

 

เขาและดาบราชาโลกันตร์ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ถึงอย่างนั้น ในสายตาของเขา เจ้าชายปีศาจนั้นก็ไร้ซึ่งช่องโหว่อยู่ดี

 

โจวฉวนจีพุ่งแทงตรงไปยังอีกฝ่าย และประกายแสงเย็นวาบก็สว่างจ้าขึ้นมา มากเสียจนชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นต้องหลับตาลง

 

“หึ!”

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงถอนหายใจอย่างเหยียดหยาม ฝ่ามือซ้ายของเขานั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า และคลื่นพลังปีศาจก็พุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของเขา

 

ตู้มมมมม!

 

โจวฉวนจีรู้สึกได้เพียงลมกรรโชกแรงที่พัดออกมาจากอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้า การไหลเวียนปราณและเลือดของเขายุ่งเหยิงไปหมดจากการโจมตีนั้น เลือดพ่นออกมาจากปากของเขา และร่างของเขาก็ปลิวลอยออกไปราวกับว่าวที่เชือกขาด

 

เขาลอยออกไปเหนือหัวตาแก่ชิงไกลหลายสิบหลา และตกลงข้าง ๆ ตัวเจียงฮือน้อย

 

“ฉวนจี!”

 

เจียงฉือน้อยร้องออกมา เธอรีบดันร่างตัวเองขึ้นจากพื้นและพยายามที่จะลุกขึ้น

 

ในตอนนั้นเอง เขาก็กระโดดขึ้นมาทันทีราวกับปลาดีดตัว

 

เขาไม่ได้คายเลือดที่ติดอยู่ในลําคอออกมา แต่กลับกลืนมันลงไปแทน และยังคงมองตรงไปยังเจ้าชายปีศาจด้วยความเดือดดาล

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงมองเขาด้วยความเฉยเมย และพูดว่า “เทพกระบี่โจว ถึงเจ้าจะมีพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่มากก็จริง แถมยังมีวัตถุวิเศษขั้นสูงคอยช่วยเจ้าอยู่ด้วย แต่เจ้าก็ยังเป็นแค่จอมยุทธระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 อยู่ดี ยังไงเจ้าก็ล้มข้าไม่ได้หรอกนะ”

 

“จงคุกเข่าและหมอบกราบยอมรับความผิดของเจ้าตั้งแต่ตอนนี้เสียเถอะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งสอง”

 

ถ้าพวกเขาเป็นคนอื่นล่ะก็ ฉวงฮุ้ยเฉิงคงจะฆ่าทิ้งไปแล้ว

 

แต่ด้วยพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่ของโจวฉวนจีที่มีมากเป็นพิเศษ เขาเลยฆ่าโจวฉวนจีไม่ลง

 

โจวฉวนจีส่งสัญญาณมือบอกเจียงฉือน้อยให้ถอยออกไปห่าง ๆ

 

เขามองลงไปและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “รักษาบาดแผลของเจ้าเสียเถอะ ส่วนเจ้าพวกนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”

 

ตาแก่ชิงที่ได้ยินแบบนั้น ก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ เขาพูดกับฉวงฮุ้ยเฉิงว่า “นายน้อย ไอเด็กเวรนี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ ! เขาอยากจะฆ่าท่านด้วยซ้ํา เพราะงั้นปล่อยให้ข้าได้กินมันด้วยเถอะ!”

 

ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยหลา ที่ทางเข้าของตรอกแห่งหนึ่ง

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงเอียงหัวแอบสังเกตการณ์การต่อสู้พลางขมวดคิ้วหนัก เขาไม่คิดเลยว่าฉวงฮุ้ยเฟิงจะมาปรากฏตัวเอาในเมืองกลืนเมฆาแบบนี้

 

ดูเหมือนเมืองกลืนเมฆาจะเจอภัยพิบัติใหญ่เข้านะ

 

การที่ได้เห็นเทพกระบี่โจวตั้งใจจะท้าทายอํานาจฉวงฮุ้ยเฟิง แบบนี้ เขาก็สบถออกมาเงียบ ๆ ในใจ ช่างบ้าบินอะไรขนาดนี้

 

เขาอยากจะชวนเจ้าเด็กนั่นให้เข้ากลุ่มด้วย เพราะงั้นเขาจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นตายที่นี่แน่

 

อีกด้านหนึ่งของสนามฝึก จางหรูหยุที่หลบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังต้นไม้ที่ล้มลงมา ก็มองไปข้างหน้าด้วยความกังวลใจ เขาบ่นพึมพํากับตนเองว่า “ทําไมท่านพ่อถึงใช้เวลานานขนาดนี้นะ…?”

 

การที่เมืองกลืนเมฆาถูกเจ้าชายปีศาจบุกรุกเข้ามาได้แบบนี้ มันเป็นความอับอายอันใหญ่หลวงของอาณาจักรเหมันต์แดนใต้เชียวล่ะ

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จางเถียนเจียนก็กําลังเตรียมตัวป้องกันการรุกรานของราชวงศ์ปีศาจกู่หลานอยู่แล้ว เพราะงั้นเขาก็ควรจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่นาน

 

ก็ได้แต่หวังว่า เทพกระบี่โจวจะรับมือกับเขาได้นานพอจนกว่าพ่อของเขาจะมาถึง

 

ในตอนนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่พวกเดียวที่มองไปยังโจวฉวนจี

 

เหล่าสามัญชนและจอมยุทธที่บาดเจ็บอยู่ต่างก็มองตรงไปยังเขาเช่นกัน เกือบทุกคนที่อยู่รอบ ๆ นั้นต่างบาดเจ็บสาหัสและเคลื่อนไหวไม่ได้

 

เมื่อพวกเขาเห็นว่าโจวฉวนจีดูจะล้มฉวงฮุ้ยเฉิงไม่ได้ พวกเขาก็เริ่มตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

“แม่งเอ้ย…เจ็บโคตรเลย…”

 

โจวฉวนจียืดคอและยืนขึ้นมา พลางอดทนกับความเจ็บปวดทั่วร่างกาย

 

การโจมตีด้วยฝ่ามือเมื่อกี้นี้ทําให้เขารู้สึกเหมือนว่ากระดูกซี่โครงจะหักไปหลายซี แถมอวัยวะภายในของเขายังรู้สึกเหมือนกับว่ากลายเป็นคลื่นแม่น้ําและคลื่นทะเลที่โหมกระหน่ำ

 

จางหรูหยูพูดพลางขมวดคิ้วว่า “งั้นก็ช่างเถอะ ฆ่ามันซะ”

 

เมืองกลืนเมฆานั้นพังยับเยินไปหมด และในไม่ช้าข่าวนี้ก็คงจะไปถึงเมืองหลวงของอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ เพราะงั้นเขาต้องรีบพาองค์หญิงฉวนหยากลับไปให้ได้เร็วที่สุด

 

ในเมื่ออัจฉริยะแห่งวิถีกระบี่ไม่ยอมจํานนต่อเขา ก็คงจะต้องฆ่าอีกฝ่ายทิ้งซะตั้งแต่ตรงนี้

 

“รับทราบ!”

 

ตาแก่ชิงยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางหัวเราะออกมาอย่างสยดสยอง ใบหน้าปีศาจนั้นทําให้เหล่าผู้คนต่างรู้สึกสั่นกลัวเข้าไปยันกระดูก

 

เขาเดินตรงไปยังโจวฉวนจี พลางเลียริมฝีปากและพูดอย่างเย็นชาว่า “มีพรสวรรค์มากขนาดนี้ เนื้อสด ๆ ของเจ้าต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลย”

 

โจวฉวนจีหายใจเข้าลึก ๆ พลางกําดาบราชาโลกันตร์ในมือขวาเอาไว้ในลักษณะหันไปด้านหลัง ใบมือนั้นตั้งอยู่ในแนวราบเสมอกับใบหน้าของเขา

 

ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากภายในกายของเขา และควันสีดําก็แผ่กระจายออกมาทั่วตัวของเขา ควันสีดํานั้น ค่อย ๆ กลายเป็นเงาจาง ๆ ของราชาโลกันตร์และห่อหุ้มทั่วร่างของเขา

 

ตาแก่ชิงหยุดเดิน และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“ไอแก่เวร เจ้าอยากจะกินข้างั้นหรอ? ขออนุญาตดาบในมือข้าก่อนสิ”

 

โจวฉวนจีพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาพลางหรี่ตาลง ตรงข้ามกับแสงเย็นวาบที่สว่างสะท้อนออกมาจากใบดาบ ในตอนนี้แววตาของเขาดูน่ากลัวเป็นที่สุด

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless Lege…

 

ตอนที่ 40 : ถามดาบในมือข้าก่อนสิ

 

สีหน้าของฉวงฮุ้ยเฉิงเหี้ยมโหดขึ้นมาทันทีที่ยินคําสบถที่เต็มไปด้วยความโกรธของโจวฉวนจี แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

ตาแก่ชิงถึงกับโกรธทันทีเมื่อได้ยิน จู่ ๆ ร่างกายของเขาก็สูงขึ้น และกล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนเสื้อผ้าแทบฉีกขาด เขาจ้องมองไปยังโจวฉวนจีและพูดว่า “กล้าดียังไง! เจ้ากล้าดียังไงบังอาจมาดูถูกนายน้อย…นี่เจ้าอยากตายนักใช่มั้ยห้ะ?”

 

ถึงแม้เทพกระบี่โจวจะมีพรสวรรค์มาก แต่อะไรคือเหตุผลที่ทําให้สุนัขตัวนี้มันเลี้ยงไม่เชื่องกันนะ?

 

“ฉวนจี… ระวังตัวด้วยนะ…” เจียงฉือน้อยพูดเตือนเขา

 

เธอได้เห็นมากับตาตัวเองถึงสิ่งที่ฉวงฮุ้ยเฉิงได้ทําลงไป เขาเป็นเหมือนกับปีศาจจริง ๆ

 

ในสายตาของเธอ โจวฉวนจียังอ่อนแอเกินกว่าจะล้มฉวงฮุ้ยเฉิงได้

 

แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อในตัวเขา

 

เพราะน้องชายตัวน้อยของเธอมักสร้างปาฏิหาริย์ให้เห็นเสมอยังไงล่ะ

 

ภายใต้หน้ากากสีเงิน สายตาของโจวฉวนจีแทบลุกเป็นไฟด้วยความโกรธและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

ในโลกใบนี้เจียงฉือน้อยคือคนสําคัญที่สุดสําหรับเขา เขาไม่เคยใช้กําลังกับเธอเลยแม้แต่นิดเดียว นับประสาอะไรกับตีเธอ

 

เพราะงั้นการที่ต้องมาเห็นเธอบาดเจ็บแบบนี้ เขาเลยรู้สึกแย่สุด ๆ จนถ้าทําได้เขาก็อยากจะเจ็บแทน

 

ในตอนนี้ เขาลืมความกลัวทั้งหมดที่เคยมีต่อราชวงศ์ปีศาจกู่หลาน

 

ถึงเขาจะต่อกรกับฉวงฮุ้ยเฉิงไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องทํา

 

ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม แต่เขาก็พร้อมที่จะสู้สุดชีวิตกับคนที่มันกล้าทําร้ายเจียงฉือน้อย

 

เขาเดินตรงไปยังฉวงฮุ้ยเฉิงพร้อมกับดาบในมือ ใบดาบที่ถูกลากไปตามพื้นสร้างเสียงแหลมที่ดังจนเสียดหู

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงขมวดคิ้ว เขาไม่คิดเลยว่าไอเด็กคนนี้จะโกรธเขาแค่เพียงเพราะเด็กสาวตัวน้อย ๆ คนเดียว

 

เป็นไปได้มั้ยว่านั่นจะเป็นน้องสาวของเทพกระบี่โจวนะ?

 

เขาลองคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี

 

เขาน่ะชอบพวกมีพรสวรรค์ แต่ความโกรธที่เขามีอยู่ตอนนี้ก็ขัดกับความรู้สึกตนเองเสียเหลือเกิน

 

ขณะนั้นเอง ตาแก่ชิงก็เดินตรงไปยังโจวฉวนจี

 

“ไอเด็กเหลือขอ ในเมื่อเจ้าไม่คิดจะยอมรับโอกาสที่ข้าอุตส่าห์มอบให้ งั้นก็ตายซะเถอะ!”

 

เสียงหัวเราะของตาแก่ชิงเริ่มน่ากลัวและสยดสยองมากขึ้นรูปลักษณ์ปีศาจของเขาเผยออกมาให้เห็นชัดเจน เมื่อจู่ ๆ เขี้ยวแหลมคม 2 ซี่ก็งอกขึ้นมาจากปากของเขา

 

ณ สนามฝึก จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจพยายามจะพูดบางอย่างกับโจวฉวนจี แต่ก็ไม่มีแรงมากพอจะทําได้

 

เขารู้ว่าฉวงฮุ้ยเฉิงนั้นทรงพลังแค่ไหน และโจวฉวนจีไม่มีทางจะเอาชนะเขาได้แน่

 

แต่ถ้าเกิดเทพกระบโจวล้มฉวงฮุ้ยเฉิงได้ล่ะ?

 

ถ้าหากเทพกระบี่โจวมีเรื่องเข้ากับราชวงศ์ปีศาจกู่หลานล่ะก็ เขาต้องไม่รอดแน่ ๆ เว้นเสียแต่เขาจะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ในวังหลวงของมหาจักรวรรดิโจวได้

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่ด้านข้างของฉวงฮุ้ยเฉิงและถูกทําให้ขยับไม่ได้อยู่นั้น ก็มองไปยังโจวฉวนจี

 

เขายังจําได้ดีถึงความทรงพลังของเทพกระบี่ก่อนหน้านี้ เทพกระบี่โจวเป็นดั่งแสงสว่างแห่งความหวังอันริบหรีในสายตาของเขา

 

ผู้คนที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่ทั่วสนามฝึกบ้างก็ยังไม่ตายบ้าง ก็ยังมีชีวิตอยู่ บางคนก็ถูกซากอาคารที่ถล่มลงมาทับเอาไว้ และบางคนก็ล้มนอนลงอยู่กลางถนน

 

ในช่วงเวลานั้น พวกเขาทั้งหมดต่างฝากความหวังไว้กับจอมกระบีหน้าเด็กคนนั้น

 

ตาแก่ชิงและโจวฉวนจีเข้าใกล้กันมากขึ้นและมากยิ่งขึ้น

 

แต่เด็กน้อยกลับเมินตาแก่ชิง สายตาของเขาจับจ้องแต่เพียงฉวงฮุ้ยเฉิงเท่านั้น

 

“เทพกระบี่โจว…ล้มมันให้ได้นะ…”

 

เสียงอันอ่อนแรงของคนที่อยู่ใต้ซากบ้านถล่มดังลอยออกมา

 

ปั้งงง!

 

โจวฉวนจีพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยขาขวาของเขาทันที่จนพื้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และพุ่งตรงไปยังฉวงฮุ้ยเฉิง

 

ตาแก่ชิงยกมือขวาขึ้นด้วยความหนักอึ้ง มือของเขากลายเป็นกรงเล็บสัตว์ร้าย และขยายใหญ่ขึ้นจนผิดกับขนาดร่างกาย

 

มันดูราวกับพัดขนาดใหญ่ที่ทุบตรงไปยังโจวฉวนจี การโจมตีด้วยฝ่ามือนั้นรุนแรงมากเสียจนทําให้ภูเขาแตกเป็นเสียงๆ ได้

 

ในตอนที่โจวฉวนจีเกือบจะโดนทุบเข้าใส่ เขาก็พุ่งตรงไปยังด้านหลังของตาแก่ชิงทันทีด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ตู้มมมมม

 

การโจมตีด้วยฝ่ามือของตาแก่ชิงพลาดเป้าและตีเข้ากับพื้น พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ และรอยแตกนั้นก็แผ่ขยายเป็นระลอกคลื่นกว้างออกไปราวกับใยแมงมุม

 

ก่อนที่เขาจะทันได้หันกลับไป โจวฉวนจีก็พุ่งตรงกลับไปยัง ฉวงฮุ้ยเฉิงอีกครั้งด้วย 8 ก้าวทะลวงกระบี่

 

ด้วยดาบราชาโลกันตร์ที่อยู่ในมือ เขาก็เปิดใช้งานจิตดาบสะบั้นสามชีพจรทันที

 

จิตใจของเขาหลอมรวมเข้ากับดาบ!

 

เขาและดาบราชาโลกันตร์ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ถึงอย่างนั้น ในสายตาของเขา เจ้าชายปีศาจนั้นก็ไร้ซึ่งช่องโหว่อยู่ดี

 

โจวฉวนจีพุ่งแทงตรงไปยังอีกฝ่าย และประกายแสงเย็นวาบก็สว่างจ้าขึ้นมา มากเสียจนชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นต้องหลับตาลง

 

“หึ!”

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงถอนหายใจอย่างเหยียดหยาม ฝ่ามือซ้ายของเขานั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า และคลื่นพลังปีศาจก็พุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของเขา

 

ตู้มมมมม!

 

โจวฉวนจีรู้สึกได้เพียงลมกรรโชกแรงที่พัดออกมาจากอีกฝ่ายที่อยู่ตรงหน้า การไหลเวียนปราณและเลือดของเขายุ่งเหยิงไปหมดจากการโจมตีนั้น เลือดพ่นออกมาจากปากของเขา และร่างของเขาก็ปลิวลอยออกไปราวกับว่าวที่เชือกขาด

 

เขาลอยออกไปเหนือหัวตาแก่ชิงไกลหลายสิบหลา และตกลงข้าง ๆ ตัวเจียงฮือน้อย

 

“ฉวนจี!”

 

เจียงฉือน้อยร้องออกมา เธอรีบดันร่างตัวเองขึ้นจากพื้นและพยายามที่จะลุกขึ้น

 

ในตอนนั้นเอง เขาก็กระโดดขึ้นมาทันทีราวกับปลาดีดตัว

 

เขาไม่ได้คายเลือดที่ติดอยู่ในลําคอออกมา แต่กลับกลืนมันลงไปแทน และยังคงมองตรงไปยังเจ้าชายปีศาจด้วยความเดือดดาล

 

ฉวงฮุ้ยเฉิงมองเขาด้วยความเฉยเมย และพูดว่า “เทพกระบี่โจว ถึงเจ้าจะมีพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่มากก็จริง แถมยังมีวัตถุวิเศษขั้นสูงคอยช่วยเจ้าอยู่ด้วย แต่เจ้าก็ยังเป็นแค่จอมยุทธระดับสร้างรากฐานขั้นที่ 6 อยู่ดี ยังไงเจ้าก็ล้มข้าไม่ได้หรอกนะ”

 

“จงคุกเข่าและหมอบกราบยอมรับความผิดของเจ้าตั้งแต่ตอนนี้เสียเถอะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าทั้งสอง”

 

ถ้าพวกเขาเป็นคนอื่นล่ะก็ ฉวงฮุ้ยเฉิงคงจะฆ่าทิ้งไปแล้ว

 

แต่ด้วยพรสวรรค์ในวิถีแห่งกระบี่ของโจวฉวนจีที่มีมากเป็นพิเศษ เขาเลยฆ่าโจวฉวนจีไม่ลง

 

โจวฉวนจีส่งสัญญาณมือบอกเจียงฉือน้อยให้ถอยออกไปห่าง ๆ

 

เขามองลงไปและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “รักษาบาดแผลของเจ้าเสียเถอะ ส่วนเจ้าพวกนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”

 

ตาแก่ชิงที่ได้ยินแบบนั้น ก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธ เขาพูดกับฉวงฮุ้ยเฉิงว่า “นายน้อย ไอเด็กเวรนี่มันบ้าไปแล้วชัด ๆ ! เขาอยากจะฆ่าท่านด้วยซ้ํา เพราะงั้นปล่อยให้ข้าได้กินมันด้วยเถอะ!”

 

ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยหลา ที่ทางเข้าของตรอกแห่งหนึ่ง

 

เสี่ยวเฉิงเฟิงเอียงหัวแอบสังเกตการณ์การต่อสู้พลางขมวดคิ้วหนัก เขาไม่คิดเลยว่าฉวงฮุ้ยเฟิงจะมาปรากฏตัวเอาในเมืองกลืนเมฆาแบบนี้

 

ดูเหมือนเมืองกลืนเมฆาจะเจอภัยพิบัติใหญ่เข้านะ

 

การที่ได้เห็นเทพกระบี่โจวตั้งใจจะท้าทายอํานาจฉวงฮุ้ยเฟิง แบบนี้ เขาก็สบถออกมาเงียบ ๆ ในใจ ช่างบ้าบินอะไรขนาดนี้

 

เขาอยากจะชวนเจ้าเด็กนั่นให้เข้ากลุ่มด้วย เพราะงั้นเขาจะไม่ปล่อยให้เด็กคนนั้นตายที่นี่แน่

 

อีกด้านหนึ่งของสนามฝึก จางหรูหยุที่หลบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังต้นไม้ที่ล้มลงมา ก็มองไปข้างหน้าด้วยความกังวลใจ เขาบ่นพึมพํากับตนเองว่า “ทําไมท่านพ่อถึงใช้เวลานานขนาดนี้นะ…?”

 

การที่เมืองกลืนเมฆาถูกเจ้าชายปีศาจบุกรุกเข้ามาได้แบบนี้ มันเป็นความอับอายอันใหญ่หลวงของอาณาจักรเหมันต์แดนใต้เชียวล่ะ

 

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้จางเถียนเจียนก็กําลังเตรียมตัวป้องกันการรุกรานของราชวงศ์ปีศาจกู่หลานอยู่แล้ว เพราะงั้นเขาก็ควรจะมาถึงที่นี่ในอีกไม่นาน

 

ก็ได้แต่หวังว่า เทพกระบี่โจวจะรับมือกับเขาได้นานพอจนกว่าพ่อของเขาจะมาถึง

 

ในตอนนี้ พวกเขาไม่ใช่แค่พวกเดียวที่มองไปยังโจวฉวนจี

 

เหล่าสามัญชนและจอมยุทธที่บาดเจ็บอยู่ต่างก็มองตรงไปยังเขาเช่นกัน เกือบทุกคนที่อยู่รอบ ๆ นั้นต่างบาดเจ็บสาหัสและเคลื่อนไหวไม่ได้

 

เมื่อพวกเขาเห็นว่าโจวฉวนจีดูจะล้มฉวงฮุ้ยเฉิงไม่ได้ พวกเขาก็เริ่มตกอยู่ในความสิ้นหวัง

 

“แม่งเอ้ย…เจ็บโคตรเลย…”

 

โจวฉวนจียืดคอและยืนขึ้นมา พลางอดทนกับความเจ็บปวดทั่วร่างกาย

 

การโจมตีด้วยฝ่ามือเมื่อกี้นี้ทําให้เขารู้สึกเหมือนว่ากระดูกซี่โครงจะหักไปหลายซี แถมอวัยวะภายในของเขายังรู้สึกเหมือนกับว่ากลายเป็นคลื่นแม่น้ําและคลื่นทะเลที่โหมกระหน่ำ

 

จางหรูหยูพูดพลางขมวดคิ้วว่า “งั้นก็ช่างเถอะ ฆ่ามันซะ”

 

เมืองกลืนเมฆานั้นพังยับเยินไปหมด และในไม่ช้าข่าวนี้ก็คงจะไปถึงเมืองหลวงของอาณาจักรเหมันต์แดนใต้ เพราะงั้นเขาต้องรีบพาองค์หญิงฉวนหยากลับไปให้ได้เร็วที่สุด

 

ในเมื่ออัจฉริยะแห่งวิถีกระบี่ไม่ยอมจํานนต่อเขา ก็คงจะต้องฆ่าอีกฝ่ายทิ้งซะตั้งแต่ตรงนี้

 

“รับทราบ!”

 

ตาแก่ชิงยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางหัวเราะออกมาอย่างสยดสยอง ใบหน้าปีศาจนั้นทําให้เหล่าผู้คนต่างรู้สึกสั่นกลัวเข้าไปยันกระดูก

 

เขาเดินตรงไปยังโจวฉวนจี พลางเลียริมฝีปากและพูดอย่างเย็นชาว่า “มีพรสวรรค์มากขนาดนี้ เนื้อสด ๆ ของเจ้าต้องอร่อยมากแน่ ๆ เลย”

 

โจวฉวนจีหายใจเข้าลึก ๆ พลางกําดาบราชาโลกันตร์ในมือขวาเอาไว้ในลักษณะหันไปด้านหลัง ใบมือนั้นตั้งอยู่ในแนวราบเสมอกับใบหน้าของเขา

 

ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากภายในกายของเขา และควันสีดําก็แผ่กระจายออกมาทั่วตัวของเขา ควันสีดํานั้น ค่อย ๆ กลายเป็นเงาจาง ๆ ของราชาโลกันตร์และห่อหุ้มทั่วร่างของเขา

 

ตาแก่ชิงหยุดเดิน และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“ไอแก่เวร เจ้าอยากจะกินข้างั้นหรอ? ขออนุญาตดาบในมือข้าก่อนสิ”

 

โจวฉวนจีพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาพลางหรี่ตาลง ตรงข้ามกับแสงเย็นวาบที่สว่างสะท้อนออกมาจากใบดาบ ในตอนนี้แววตาของเขาดูน่ากลัวเป็นที่สุด

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+