หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หมุนกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless L…

ตอนที่ 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่

[แก้ไขชื่อแม่ทัพ เฉียงโหวจิน เป็น เฉียโหวจิน นะคะเนื่องจากต้นฉบับแปลมาผิด]

แต่เมื่อดาบอุดรวายุแห่งโจวเกือบจะตกลงบนเวทีหิน เขาก็หมุนตัวและหันฝ่ามือตัวเองลงพื้นคลื่นสายลมพัดโหมกระหนาออกมาจากฝ่ามือของเขาปะทะกับพื้นและผลักดันตัวของเขากลับขึ้นไป

เขาใช้เท้าถีบตัวขึ้นจนสร้างเสียงระเบิดขึ้นมากลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งกระโจนขึ้นไปอีกครั้งและตรงไปยังด้านบนสุด

ในเวลาเดียวกัน เหล่าจอมยุทธที่อยู่ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 นั้นก็กาลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เหล่าผู้เข้าแข่งขันในงานประชุมกระบี่ต่อก็เข้าปะทะกันที่ละคู่ ๆ และการต่อสู้นั้นก็ทําให้งานประชุมกระบี่นี้เร่าร้อนจนถึงขั้นสุด

ประกายแสงจากดาบที่ส่องประกาย และปราณกระบี่ถูกยิงไปมาทั่วทุกหนแห่ง จนท่าให้โครงสร้างของทั้งหอคอยเหล็กส่ายไปมาอยู่เรื่อย ๆ

โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดพร้อมกับดาบอัสนีคํารามและดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือต้านทานไม่ให้ดาบอดรวายแห่งโจวขึ้นมาด้านบนได้

ดาบอดรวายุแห่งโจวพุ่งไปมาอยู่ระหว่างชั้นที่ 9 และชั้นที่ 10
พร้อมกับดาบที่อยู่ในมือขวาของเขาและแท่งเหล็กที่อยู่ในมือซ้าย เขาช่างว่องไวราวกับวานร

เขาพุ่งตัวไปมาระหว่างชั้นล่างและชั้นบนสุดของพื้นเหล็ก เพื่อที่จะได้กระโดดขึ้นจากมุมที่ต่างกัน แต่การโจมตีของเขาก็ยังถูกโจวจวนจีปัดป้องเอาไว้อยู่ดี

ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับล้าน โจวฉวนจีนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากที่สุด

ด้วยดาบที่อยู่ในมือทั้งสองข้างนี้ เขาดูราวกับนักแสดงเดี่ยวผู้กวัดแกว่งดาบอยู่บนเวที ท่วงท่าของเขานั้นสง่างามราวกับนกกระเรียนที่ร่ายรําพร้อมทั้งท่วงทํานองที่ดัง ก้องมาจากขลุ่ย

เทียบกับเขาแล้ว ดาบอุดรวายุแห่งโจวนั้นเสียเปรียบสุด ๆ แม้แต่ในด้านความงดงามของวิชาดาบ เขาก็ยังไม่อาจเทียบกับโจวฉวน จีได้เลยแม้แต่นิดเดียว

เสี่ยหรูโหยวขมวดคิ้วขณะที่ผู้อาวุโสท่านอื่น ๆ ที่เป็นผู้คุมกฎแห่งสํานักเสี่ยต่างก็เบิกตากว้างราวกับว่าพวกเขาพึ่งเห็นผี

“จิตดาบ… นั้นมันวิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีของพวกเรางั้นหรอ?”

เสี่ยหวโหยวถามผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเขาด้วยเสียงค่อย

เป็นธรรมดาที่เขาจะประทับใจในวิชาดาบระดับทมิฬขั้นสูงสุด

แต่เขาไม่แน่ใจว่านั้นใช่วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีจริงรึเปล่า

ผู้อาวุโสพยักหน้าอย่างเหม่อลอยก่อนจะพูด “ใช่แล้ว…นั่นคือวิชาเพลงดาบขลุ่ย หยก 36 วิถี…แล้วจิตดาบนั่น…นั่นคือจิตดาบของวิชานั้นจริง ๆ…”

วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาที่เขาชอบมาก

แต่มาตอนนี้ จู่ๆก็มีคนบรรลจิตดาบวิชานั้นไปได้แล้ว

ในตอนนั้นเอง ความรู้สึกเคารพที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นค่าพูดได้ก็ท่วมท้นอยู่ภายในใจเขา

วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาดาบที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายมากมันมีทั้งหมด 36 รูปแบบ ซึ่งสามารถทําให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวได้เลยทีเดียว

โจวฉวนจีสลับไปมาระหว่างจิตดาบกระเรียนขาวและเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีโดยที่ยังคงจิตดาบไว้ได้อยู่

เทียบกับคู่แข่งคนอื่น ๆ เขานั้นแตกต่างกว่าใคร

ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณเท่านั้น แค่ท่วงท่าอย่างเดียว เขาก็ยังเก่งกว่ายอดกระบี่จาวฉงหลายขุมนัก

ดวงตาของเจียงจือน้อยเปล่งประกายขณะที่คอยเฝ้ามองอยู่ท่ามกลางฝูงชน และ ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน

ถึงแม่โจวฉวนจีจะตัวเล็ก แต่เขาก็ดูยิ่งใหญ่มากเมื่อเริ่มใช้ดาบประลองยุทธ จนทําให้เล่าผู้ชมต่างก็ต้องอุทานออกมา

ปรมาจารย์แห่งวิถีกระ!!

นี่มันท่วงท่าระดับปรมาจารย์ชัด ๆ

ไม่จําเป็นต้องมีคําอธิบายใด ๆ ทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันแสดงให้เห็นในการต่อสู้หมดแล้ว

โจวฉวนจได้แสดงออกมาให้เห็นหมดแล้ว

“เทพกระบี่โจว…ช่างสมกับฉายาจริง ๆ…”

“สลับไปมาระหว่าง 2 จิตดาบได้สบาย ๆ แถมติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียวด้วย… เขาจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวจะมองเขาเป็นคู่แข่งน่ะ ถ้ามองข้ามเรื่องระดับวรยุทธไป นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้าได้เห็นคนที่บรรลุในวิถีกระบี่แบบนี้น่ะ”

“เขานี่แหละปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ของจริงล่ะ!”

“ดาบอุดรวายุแห่งโจวโครตกระจอกเลยว่ะ! ดูเทพกระบี่โจวสิ! นี่แหละความยิ่งใหญ่ของจอมกระบี่ล่ะ!”

ผู้ชมนับล้นต่างแสดงความเห็นกันอย่างตื่นเต้น เสียงของพวกเขาดังสุด ๆ แต่ก็ไม่อาจกลบเสียงดาบที่กระทบกระทั่งกันได้

เมื่อได้เห็นการฉายเดี่ยวของโจวฉวนจีแบบนี้แล้ว ยังจะมีใครกล้าพูดอีกว่าโจวฉวนจีนั้นไม่สมกับฉายาของเขาเองน่ะ?

แม้แต่แม่ทัพระดับที่ 3 ของมหาจักรวรรดิโจวอย่างเฉียโหวจินยังถึงกับถอนหายใจ

“ช่างสมเป็นเทพกระบโจวซะจริง เขาจะต้องได้เข้าตารางจัดอันดับยอดฝีมือของมหาจักรวรรดิโจวหลังจากจบงานประชุมกระบี่นี้แน่”

ไม่มีใครปฏิเสธความคิดของเขา

นั่นก็เพราะพวกเขาต่างก็ชื่นชมในตัวโจวฉวนจี

ในขณะเดียวกันชายหนุ่มในชุดสีเหลืองก็พยายามเขย่งเท้ายืนมองอยู่ท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าของเขานั้นดูดีมากทีเดียว และดูเหมือนผู้หญิงนิดหน่อย

นั่นก็คือองค์หญิงฉวนหยา ผู้มีพรสวรรค์รวมวิถีนั้นเอง!

ก่อนหน้านี้ที่เมืองกลืนเมฆา นางโดนฉวงฮัยเฉิงจับตัวเอาไว้ ถ้าไม่ได้โจวฉวนจีช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาล่ะก็นางคงจะโดนพวกเผ่าปีศาจจับตัวไปแล้ว

แต่นางก็ยังไม่ให้อภัยโจวฉวนที่ปล่อยให้นางร่วงลงไปแบบนั้นอยู่ดี

นางเกือบตายเพราะตกจากที่สูงแล้ว

พอนางได้ยินว่าเทพกระบี่โจวตั้งใจจะเข้าร่วมงานประชุมกระบี่ด้วย นางก็แอบหนีออกมาจากพระราชวังก่อนจะแต่งตัวเป็นผู้ชายเพื่อมาดูการต่อสู้

ก่อนหน้าที่นางจะได้เห็นโจวฉวนจีที่อยู่บนยอดสุดของหอคอย นางยังเกลียดเขาอยู่เลยแต่มาตอนนี้ นางกลับชื่นชมในตัวเขาสุด ๆ

แถมนางยังตะโกนร้องให้เขาอีกว่า “เทพกระบี่โจว! ล้มเจ้านั้นให้ได้นะ!”

เมื่อทุกคนเอาแต่สนใจและร้องเชียร์ให้กับโจวฉวนจี ดาบอดรวายุแห่งโจวก็เริ่มรู้สึกแย่สุด ๆ

เขาครามขึ้นมาในใจโว้ย! ไอหมอนี่มันใช่จิตดาบต่อเนื่องได้ยังไงกันวะเนี่ย? แถมยังเปลี่ยนจิตดาบเป็นว่าเล่นอีก…แม่งเอ้ย!

“งั้นข้าจะสู้กับเจ้าด้วยพลังทั้งมีที่มีแล้วกัน!”

ทันใดนั้นเอง ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากตัวเขา เขากระโดดขึ้นจากด้านหลังของโจวฉวน

ราวกับว่าโจวฉวนจีมีตาหลัง เขาฟันเข้าหาศัตรูด้วยดาบทั้งสองเล่มพร้อมกันท่วงท่าการเคลื่อนไว้ของเขานั้นรวดเร็วและไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ แถมยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม

ในทางกลับกัน จิตสังหารแผ่กระจายออกมาผ่านแววตาของดาบอุดรวายุแห่งโจวมือทั้งสองข้างของเขาถือดาบเอาไว้ และลมกรรโชกแรงก็ปรากฎหมุนวนออกมารอบดาบของเขาในตอนที่จะฟัน

ในคราวนี้ เขารวมเอาพลังวิญญาณทั้งหมดออกมา แม้แต่กล้ามแขนของเขาก็ยังใหญ่ขึ้น

แสงสะท้อนจากดาบที่เย็นเฉียบราวกับตะวันที่ฉายแสงกระจายไปทั่วฟากฟ้ามาก เสียจนทําให้ผู้คนต่างต้องหรี่ตาลงรวมทั้งตัวโจวฉวนจีเอง

แกร๊ง

เมื่อดาบทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน ดาบอัสนีคารามก็ปลิวลอยออกไปเพราะแรงปะทะ โจวจวนจีรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่มือของเขา จนต้องถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ

มันเป็นฉากที่ทําให้ทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลใจไปตาม ๆ กัน

แม้แต่เพียงฉือน้อยยังต้องเอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอแทบจะกระเด้งออกมาจากปากเลยทีเดียว

ดาบอุดรวายุแห่งโจวยิ้มกว้างไม่ว่าวิชาดาบของเจ้าจะร้ายกาจสักแค่ไหน แต่พลังวิญญาณของเจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!

ตอนโจวฉวนกําลังจะร่วงลงจากชั้นบนสุดนั้นเอง เขาก็ใช้นิ้วเท้าเกี่ยวแท่งเหล็กที่อยู่ข้างใต้หลังคาเอาไว้ ดาบมังกรสีชาดปรากฏออกมาด้านหลังของเขา ก่อนจะผลักเขากลับขึ้นไป

ผู้ชมนับล้านต่างเบิกตากว้าง

นั่นมันวิชาดาบอะไรกัน?

ดาบนั่นมีชีวิตหรอ?

โจวฉวนกลับขึ้นไปยังชั้นบนสุด ในขณะที่ดาบอดรวายุแห่งโจวก้าวเท้าข้างนึงลงไปบนพื้นของชั้นบนสุดแล้ว

ทันใดนั้น ดาบไร้ลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นข้างโจวฉวนจี

มีเพียงเขาที่เห็นเท่านั้น

จากนั้น เขาก็ร่ายวิชาขยายวิถีกระบี่ขึ้นมาภายในใจและใช้มันกับดาบไร้ลักษณ์

ฟืบบบบ!

หน้าอกของดาบอุดรวายุแห่งโจวโดนแทงจนทะลุเลือดพุ่งกระจายออกมาจากบาดแผล

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อในสายตาพร้อมทั้งเบิกตากว้าง

เกิดอะไรขึ้น?

ร่างกายของเขาล้มลง โจวฉวนจมองเขาที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นไกลออกไป

โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดและมองลงมายังคู่ต่อสู้ของเขา แววตาของเขาดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขากําลังมองเจ้าสิ่งที่ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขาเลย

ดวงตาของดาบอดรวายุแห่งโจวเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ความโกรธาสุมอยู่ภายในใจเขา

ไม่! ข้าจะมาแพ้แบบนี้ไม่ได้

เขาครามขึ้นมาในใจ แม้เขาจะเจ็บหนักขนาดไหน แต่เขาก็เปลี่ยนพลังวิญญาณในร่างกายของเขาและเตรียมพร้อมที่จะพุ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง

ทันใดนั้นเอง โจวฉวนจีก็เขวี่ยงดาบอัสนีคารามตรงมายังดาบอดรวายุแห่งโจว ดาบเล่มนั้นบินหมุนวนและพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วประสานกับสายฟ้า

ตู้มมมมม!

ดาบอัสนครามแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าฟาดที่รุนแรงเสียจนสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์

ฟ้าผ่าด้วยความเร็วแสง !

ดาบอุดรวายุแห่งโจวที่กาลังร่วงลงไปอยู่นั้น ก็ไม่อาจจะหลบได้ทันเวลา

ขณะที่ฝูงชนเฝ้ามองอยู่ สายฟ้าก็ฟาดลงมายังดาบอุดรวายุแห่งโจวและทําให้เขาร่วงลงไป และเพราะฐานของหอคอยนั้นมีความกว้างที่มาก สายฟ้าจึงฟาดลงมาโดนเสาเหล็กพอดี ซึ่งมันทําให้เหล่าคู่แข่งที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นต่างก็รู้สึกหวาดผวากันไปหมด

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า

ฟ้าผ่าลงมายังบนผืนดิน!

ดาบอดรวายุแห่งโจวกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจังจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบนเวทีนั้น เต็มไปด้วยฝุ่นควันจนตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไง

ณ ตอนนี้ ดาบอุดรวายุแห่งโจวได้ถูกกําจัดแล้ว!

ผู้ชมนับล้านต่างตกอยู่ในความเงียบสงัด

พร้อมกับดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือ โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดของหอคอย เขาดูน่าเกรงขามสุด ๆ พร้อมทั้งชุดสีดําสนิทที่กําลังพลิ้วไหวไปตามสายลมสะกดให้เหล่า ผู้ที่อยู่ใต้สรวงสวรรค์นั้นต้องตกอยู่ในความตะลึงงัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่

Now you are reading หมื่นกระบี่ทะลวงสวรรค์ I Have Countless Legendary Swords! Chapter 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย หมุนกระบี่ทะลวงสวรรค์ | Have Countless L…

ตอนที่ 64 : ปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่

[แก้ไขชื่อแม่ทัพ เฉียงโหวจิน เป็น เฉียโหวจิน นะคะเนื่องจากต้นฉบับแปลมาผิด]

แต่เมื่อดาบอุดรวายุแห่งโจวเกือบจะตกลงบนเวทีหิน เขาก็หมุนตัวและหันฝ่ามือตัวเองลงพื้นคลื่นสายลมพัดโหมกระหนาออกมาจากฝ่ามือของเขาปะทะกับพื้นและผลักดันตัวของเขากลับขึ้นไป

เขาใช้เท้าถีบตัวขึ้นจนสร้างเสียงระเบิดขึ้นมากลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งกระโจนขึ้นไปอีกครั้งและตรงไปยังด้านบนสุด

ในเวลาเดียวกัน เหล่าจอมยุทธที่อยู่ชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 นั้นก็กาลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

เหล่าผู้เข้าแข่งขันในงานประชุมกระบี่ต่อก็เข้าปะทะกันที่ละคู่ ๆ และการต่อสู้นั้นก็ทําให้งานประชุมกระบี่นี้เร่าร้อนจนถึงขั้นสุด

ประกายแสงจากดาบที่ส่องประกาย และปราณกระบี่ถูกยิงไปมาทั่วทุกหนแห่ง จนท่าให้โครงสร้างของทั้งหอคอยเหล็กส่ายไปมาอยู่เรื่อย ๆ

โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดพร้อมกับดาบอัสนีคํารามและดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือต้านทานไม่ให้ดาบอดรวายแห่งโจวขึ้นมาด้านบนได้

ดาบอดรวายุแห่งโจวพุ่งไปมาอยู่ระหว่างชั้นที่ 9 และชั้นที่ 10
พร้อมกับดาบที่อยู่ในมือขวาของเขาและแท่งเหล็กที่อยู่ในมือซ้าย เขาช่างว่องไวราวกับวานร

เขาพุ่งตัวไปมาระหว่างชั้นล่างและชั้นบนสุดของพื้นเหล็ก เพื่อที่จะได้กระโดดขึ้นจากมุมที่ต่างกัน แต่การโจมตีของเขาก็ยังถูกโจวจวนจีปัดป้องเอาไว้อยู่ดี

ท่ามกลางสายตาของผู้ชมนับล้าน โจวฉวนจีนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนได้มากที่สุด

ด้วยดาบที่อยู่ในมือทั้งสองข้างนี้ เขาดูราวกับนักแสดงเดี่ยวผู้กวัดแกว่งดาบอยู่บนเวที ท่วงท่าของเขานั้นสง่างามราวกับนกกระเรียนที่ร่ายรําพร้อมทั้งท่วงทํานองที่ดัง ก้องมาจากขลุ่ย

เทียบกับเขาแล้ว ดาบอุดรวายุแห่งโจวนั้นเสียเปรียบสุด ๆ แม้แต่ในด้านความงดงามของวิชาดาบ เขาก็ยังไม่อาจเทียบกับโจวฉวน จีได้เลยแม้แต่นิดเดียว

เสี่ยหรูโหยวขมวดคิ้วขณะที่ผู้อาวุโสท่านอื่น ๆ ที่เป็นผู้คุมกฎแห่งสํานักเสี่ยต่างก็เบิกตากว้างราวกับว่าพวกเขาพึ่งเห็นผี

“จิตดาบ… นั้นมันวิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีของพวกเรางั้นหรอ?”

เสี่ยหวโหยวถามผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังเขาด้วยเสียงค่อย

เป็นธรรมดาที่เขาจะประทับใจในวิชาดาบระดับทมิฬขั้นสูงสุด

แต่เขาไม่แน่ใจว่านั้นใช่วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีจริงรึเปล่า

ผู้อาวุโสพยักหน้าอย่างเหม่อลอยก่อนจะพูด “ใช่แล้ว…นั่นคือวิชาเพลงดาบขลุ่ย หยก 36 วิถี…แล้วจิตดาบนั่น…นั่นคือจิตดาบของวิชานั้นจริง ๆ…”

วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาที่เขาชอบมาก

แต่มาตอนนี้ จู่ๆก็มีคนบรรลจิตดาบวิชานั้นไปได้แล้ว

ในตอนนั้นเอง ความรู้สึกเคารพที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นค่าพูดได้ก็ท่วมท้นอยู่ภายในใจเขา

วิชาเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีเป็นวิชาดาบที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายมากมันมีทั้งหมด 36 รูปแบบ ซึ่งสามารถทําให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวได้เลยทีเดียว

โจวฉวนจีสลับไปมาระหว่างจิตดาบกระเรียนขาวและเพลงดาบขลุ่ยหยก 36 วิถีโดยที่ยังคงจิตดาบไว้ได้อยู่

เทียบกับคู่แข่งคนอื่น ๆ เขานั้นแตกต่างกว่าใคร

ไม่เพียงแต่พลังวิญญาณเท่านั้น แค่ท่วงท่าอย่างเดียว เขาก็ยังเก่งกว่ายอดกระบี่จาวฉงหลายขุมนัก

ดวงตาของเจียงจือน้อยเปล่งประกายขณะที่คอยเฝ้ามองอยู่ท่ามกลางฝูงชน และ ไม่ใช่แค่เธอคนเดียว ฮวงเหลี่ยนชินก็เช่นกัน

ถึงแม่โจวฉวนจีจะตัวเล็ก แต่เขาก็ดูยิ่งใหญ่มากเมื่อเริ่มใช้ดาบประลองยุทธ จนทําให้เล่าผู้ชมต่างก็ต้องอุทานออกมา

ปรมาจารย์แห่งวิถีกระ!!

นี่มันท่วงท่าระดับปรมาจารย์ชัด ๆ

ไม่จําเป็นต้องมีคําอธิบายใด ๆ ทั้งนั้น เพราะทุกอย่างมันแสดงให้เห็นในการต่อสู้หมดแล้ว

โจวฉวนจได้แสดงออกมาให้เห็นหมดแล้ว

“เทพกระบี่โจว…ช่างสมกับฉายาจริง ๆ…”

“สลับไปมาระหว่าง 2 จิตดาบได้สบาย ๆ แถมติดขัดเลยแม้แต่นิดเดียวด้วย… เขาจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”

“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิกระบี่แห่งมหาจักรวรรดิโจวจะมองเขาเป็นคู่แข่งน่ะ ถ้ามองข้ามเรื่องระดับวรยุทธไป นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้าได้เห็นคนที่บรรลุในวิถีกระบี่แบบนี้น่ะ”

“เขานี่แหละปรมาจารย์แห่งวิถีกระบี่ของจริงล่ะ!”

“ดาบอุดรวายุแห่งโจวโครตกระจอกเลยว่ะ! ดูเทพกระบี่โจวสิ! นี่แหละความยิ่งใหญ่ของจอมกระบี่ล่ะ!”

ผู้ชมนับล้นต่างแสดงความเห็นกันอย่างตื่นเต้น เสียงของพวกเขาดังสุด ๆ แต่ก็ไม่อาจกลบเสียงดาบที่กระทบกระทั่งกันได้

เมื่อได้เห็นการฉายเดี่ยวของโจวฉวนจีแบบนี้แล้ว ยังจะมีใครกล้าพูดอีกว่าโจวฉวนจีนั้นไม่สมกับฉายาของเขาเองน่ะ?

แม้แต่แม่ทัพระดับที่ 3 ของมหาจักรวรรดิโจวอย่างเฉียโหวจินยังถึงกับถอนหายใจ

“ช่างสมเป็นเทพกระบโจวซะจริง เขาจะต้องได้เข้าตารางจัดอันดับยอดฝีมือของมหาจักรวรรดิโจวหลังจากจบงานประชุมกระบี่นี้แน่”

ไม่มีใครปฏิเสธความคิดของเขา

นั่นก็เพราะพวกเขาต่างก็ชื่นชมในตัวโจวฉวนจี

ในขณะเดียวกันชายหนุ่มในชุดสีเหลืองก็พยายามเขย่งเท้ายืนมองอยู่ท่ามกลางฝูงชน ใบหน้าของเขานั้นดูดีมากทีเดียว และดูเหมือนผู้หญิงนิดหน่อย

นั่นก็คือองค์หญิงฉวนหยา ผู้มีพรสวรรค์รวมวิถีนั้นเอง!

ก่อนหน้านี้ที่เมืองกลืนเมฆา นางโดนฉวงฮัยเฉิงจับตัวเอาไว้ ถ้าไม่ได้โจวฉวนจีช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาล่ะก็นางคงจะโดนพวกเผ่าปีศาจจับตัวไปแล้ว

แต่นางก็ยังไม่ให้อภัยโจวฉวนที่ปล่อยให้นางร่วงลงไปแบบนั้นอยู่ดี

นางเกือบตายเพราะตกจากที่สูงแล้ว

พอนางได้ยินว่าเทพกระบี่โจวตั้งใจจะเข้าร่วมงานประชุมกระบี่ด้วย นางก็แอบหนีออกมาจากพระราชวังก่อนจะแต่งตัวเป็นผู้ชายเพื่อมาดูการต่อสู้

ก่อนหน้าที่นางจะได้เห็นโจวฉวนจีที่อยู่บนยอดสุดของหอคอย นางยังเกลียดเขาอยู่เลยแต่มาตอนนี้ นางกลับชื่นชมในตัวเขาสุด ๆ

แถมนางยังตะโกนร้องให้เขาอีกว่า “เทพกระบี่โจว! ล้มเจ้านั้นให้ได้นะ!”

เมื่อทุกคนเอาแต่สนใจและร้องเชียร์ให้กับโจวฉวนจี ดาบอดรวายุแห่งโจวก็เริ่มรู้สึกแย่สุด ๆ

เขาครามขึ้นมาในใจโว้ย! ไอหมอนี่มันใช่จิตดาบต่อเนื่องได้ยังไงกันวะเนี่ย? แถมยังเปลี่ยนจิตดาบเป็นว่าเล่นอีก…แม่งเอ้ย!

“งั้นข้าจะสู้กับเจ้าด้วยพลังทั้งมีที่มีแล้วกัน!”

ทันใดนั้นเอง ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาจากตัวเขา เขากระโดดขึ้นจากด้านหลังของโจวฉวน

ราวกับว่าโจวฉวนจีมีตาหลัง เขาฟันเข้าหาศัตรูด้วยดาบทั้งสองเล่มพร้อมกันท่วงท่าการเคลื่อนไว้ของเขานั้นรวดเร็วและไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ แถมยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม

ในทางกลับกัน จิตสังหารแผ่กระจายออกมาผ่านแววตาของดาบอุดรวายุแห่งโจวมือทั้งสองข้างของเขาถือดาบเอาไว้ และลมกรรโชกแรงก็ปรากฎหมุนวนออกมารอบดาบของเขาในตอนที่จะฟัน

ในคราวนี้ เขารวมเอาพลังวิญญาณทั้งหมดออกมา แม้แต่กล้ามแขนของเขาก็ยังใหญ่ขึ้น

แสงสะท้อนจากดาบที่เย็นเฉียบราวกับตะวันที่ฉายแสงกระจายไปทั่วฟากฟ้ามาก เสียจนทําให้ผู้คนต่างต้องหรี่ตาลงรวมทั้งตัวโจวฉวนจีเอง

แกร๊ง

เมื่อดาบทั้งสองเล่มเข้าปะทะกัน ดาบอัสนีคารามก็ปลิวลอยออกไปเพราะแรงปะทะ โจวจวนจีรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่มือของเขา จนต้องถอยหลังออกมาตามสัญชาตญาณ

มันเป็นฉากที่ทําให้ทุกคนต่างก็รู้สึกกังวลใจไปตาม ๆ กัน

แม้แต่เพียงฉือน้อยยังต้องเอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอแทบจะกระเด้งออกมาจากปากเลยทีเดียว

ดาบอุดรวายุแห่งโจวยิ้มกว้างไม่ว่าวิชาดาบของเจ้าจะร้ายกาจสักแค่ไหน แต่พลังวิญญาณของเจ้าก็ยังอ่อนแอเกินไปอยู่ดี!

ตอนโจวฉวนกําลังจะร่วงลงจากชั้นบนสุดนั้นเอง เขาก็ใช้นิ้วเท้าเกี่ยวแท่งเหล็กที่อยู่ข้างใต้หลังคาเอาไว้ ดาบมังกรสีชาดปรากฏออกมาด้านหลังของเขา ก่อนจะผลักเขากลับขึ้นไป

ผู้ชมนับล้านต่างเบิกตากว้าง

นั่นมันวิชาดาบอะไรกัน?

ดาบนั่นมีชีวิตหรอ?

โจวฉวนกลับขึ้นไปยังชั้นบนสุด ในขณะที่ดาบอดรวายุแห่งโจวก้าวเท้าข้างนึงลงไปบนพื้นของชั้นบนสุดแล้ว

ทันใดนั้น ดาบไร้ลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นข้างโจวฉวนจี

มีเพียงเขาที่เห็นเท่านั้น

จากนั้น เขาก็ร่ายวิชาขยายวิถีกระบี่ขึ้นมาภายในใจและใช้มันกับดาบไร้ลักษณ์

ฟืบบบบ!

หน้าอกของดาบอุดรวายุแห่งโจวโดนแทงจนทะลุเลือดพุ่งกระจายออกมาจากบาดแผล

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อในสายตาพร้อมทั้งเบิกตากว้าง

เกิดอะไรขึ้น?

ร่างกายของเขาล้มลง โจวฉวนจมองเขาที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นไกลออกไป

โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดและมองลงมายังคู่ต่อสู้ของเขา แววตาของเขาดูสงบนิ่ง ราวกับว่าเขากําลังมองเจ้าสิ่งที่ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขาเลย

ดวงตาของดาบอดรวายุแห่งโจวเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ความโกรธาสุมอยู่ภายในใจเขา

ไม่! ข้าจะมาแพ้แบบนี้ไม่ได้

เขาครามขึ้นมาในใจ แม้เขาจะเจ็บหนักขนาดไหน แต่เขาก็เปลี่ยนพลังวิญญาณในร่างกายของเขาและเตรียมพร้อมที่จะพุ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง

ทันใดนั้นเอง โจวฉวนจีก็เขวี่ยงดาบอัสนีคารามตรงมายังดาบอดรวายุแห่งโจว ดาบเล่มนั้นบินหมุนวนและพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็วประสานกับสายฟ้า

ตู้มมมมม!

ดาบอัสนครามแปรเปลี่ยนเป็นสายฟ้าฟาดที่รุนแรงเสียจนสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์

ฟ้าผ่าด้วยความเร็วแสง !

ดาบอุดรวายุแห่งโจวที่กาลังร่วงลงไปอยู่นั้น ก็ไม่อาจจะหลบได้ทันเวลา

ขณะที่ฝูงชนเฝ้ามองอยู่ สายฟ้าก็ฟาดลงมายังดาบอุดรวายุแห่งโจวและทําให้เขาร่วงลงไป และเพราะฐานของหอคอยนั้นมีความกว้างที่มาก สายฟ้าจึงฟาดลงมาโดนเสาเหล็กพอดี ซึ่งมันทําให้เหล่าคู่แข่งที่อยู่ใกล้ ๆ แถวนั้นต่างก็รู้สึกหวาดผวากันไปหมด

เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นอีกครั้งบนท้องฟ้า

ฟ้าผ่าลงมายังบนผืนดิน!

ดาบอดรวายุแห่งโจวกระแทกเข้ากับพื้นอย่างจังจนฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบนเวทีนั้น เต็มไปด้วยฝุ่นควันจนตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเป็นตายร้ายดียังไง

ณ ตอนนี้ ดาบอุดรวายุแห่งโจวได้ถูกกําจัดแล้ว!

ผู้ชมนับล้านต่างตกอยู่ในความเงียบสงัด

พร้อมกับดาบเด็ดสุกรที่อยู่ในมือ โจวฉวนจียืนอยู่ ณ ชั้นบนสุดของหอคอย เขาดูน่าเกรงขามสุด ๆ พร้อมทั้งชุดสีดําสนิทที่กําลังพลิ้วไหวไปตามสายลมสะกดให้เหล่า ผู้ที่อยู่ใต้สรวงสวรรค์นั้นต้องตกอยู่ในความตะลึงงัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+