เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1) / 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2)

Now you are reading เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา Chapter 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1) / 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1)  

 

 

“ข้ายกให้หรงกุ้ยเฟยเนี่ยนะ?” นัยน์ตาเฟิงหรูชิงดูว่างเปล่า จากนั้นเปลี่ยนเป็นความรู้สึกงุนงงสงสัยและสุดท้ายกลายเป็นความสงบนิ่ง “แต่ทำไมข้าจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดแบบนั้น ป้ายเลือดเหล็กเป็นของตกทอดจากเสด็จแม่ข้า ข้าจะยกให้คนอื่นได้อย่างไร ข้าก็แค่ตอบตกลงให้นางเอาไปดูเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ผ่านมาหลายปีแล้วนางยังไม่ยอมคืนให้ข้า แถมยังทำให้ผู้คนเข้าใจผิดไปมากมายอย่างนั้น”  

 

 

เฟิงหรูซวงอึ้งพูดไม่ออก  

 

 

ตอนที่หรงกุ้ยเฟยหลอกเอาป้ายเลือดเหล็กมาได้ เฟิงหรูซวงไม่ได้อยู่กับนาง ดังนั้น เฟิงหรูซวงจึงไม่รู้ว่าเรื่องป้ายเลือดเหล็กนี่มันอย่างไรกันแน่ รู้เพียงแต่หลังจากเสด็จแม่ของนางมีป้ายนั้นในมือ ผู้คนในใต้หล้าต่างไม่มีใครกล้าล่วงเกินนาง  

 

 

หรือว่า…เฟิงหรูชิงรับปากให้ยืมเพียงไม่กี่วันจริงๆ ?  

 

 

“ท่านพี่ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เฟิงหรูซวงตั้งสติได้ ยิ้มเล็กๆ “ข้าจะกลับไปถามเสด็จแม่ อีกอย่าง เราสองพี่น้องทำไมต้องแบ่งเขาแบ่งเราด้วย ท่านพี่อยากได้สัตว์วิเศษพวกนี้ ข้าจะซื้อให้ท่านเอง”  

 

 

เฟิงหรูซวงตัดสินใจเด็ดขาด ท่าทีมั่นอกมั่นใจ แต่ใครจะรู้ว่าในใจของนางเสียดายสักเพียงใด  

 

 

คราวนี้ สมบัติในบ้านของนางคงหมดลงที่นี่ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ เฟิงหรูซวงกังวลว่าเฟิงหรูชิงจะพูดเรื่องเมื่อครู่นี้ไม่หยุด  

 

 

นางไม่ยอมให้เฟิงหรูชิงพูดถึงเรื่องป้ายเลือดเหล็กอีกเป็นอันขาด!  

 

 

เฟิงหรูชิงยิ้ม หันกลับไปมองเถ้าแก่ร้าน “ไปเอาสัตว์วิเศษที่แพงที่สุดของเจ้าออกมา”  

 

 

เถ้าแก่ร้านอึ้ง สายตาที่แฝงความกังวลมองไปที่เฟิงหรูซวง  

 

 

“ท่านพี่ของข้าให้เจ้าเอาออกมา เจ้าก็เอาออกมาให้นางสิ ถ้าทำให้นางโมโห ระวังเสด็จพ่อของข้าจะยึดโรงค้าสัตว์ของเจ้า”  

 

 

เฟิงหรูซวงเห็นเถ้าแก่ร้านยืนนิ่ง จึงขมวดคิ้วแล้วพูดตำหนิด้วยเสียงไม่สบอารมณ์  

 

 

ความหมายที่สื่อออกไป คือพี่สาวของนางคนนี้เป็นคนไร้ความยำเกรง ทำความชั่วมามากมาย หากมีใครไม่ยอมทำตามความต้องการของนาง นางจะใช้อำนาจกดขี่ข่มเหง ไม่แน่อาจยึดโรงค้าสัตว์ไปก็ได้  

 

 

เป็นดังที่คาด เถ้าแก่ร้านมองดูเฟิงหรูซวงด้วยความซาบซึ้ง ราวกับว่ารู้สึกขอบคุณที่นางอุตส่าห์เตือน จากนั้นจึงรีบสั่งให้คนไปหามสัตว์วิเศษออกมา  

 

 

“ท่านพี่ แบบนี้คงสิ้นเรื่องแล้ว เถ้าแก่ยอมเอาสัตว์วิเศษออกมาให้แล้ว ท่านอย่าให้คนมาเอาเรื่องพวกเขาเลย แบบนี้จะไม่เป็นผลดีกับพระเกียรติของเสด็จพ่อเพคะ”  

 

 

นางหันมาทั้งรอยยิ้ม จากนั้นก็ส่งสายตายิ้มแย้มมามอง  

 

 

เฟิงหรูชิงยิ้มมองดูเฟิงหรูซวงตาไม่กะพริบ “เฟิงหรูซวง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะใจกล้าถึงเพียงนี้ ข้ารู้จักเจ้ามานานหลายปี กลับไม่รู้ว่าเจ้าแอบอ้างพระบัญชาเสด็จพ่อเป็นด้วย”  

 

 

เฟิงหรูซวงอึ้งไป นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ”  

 

 

“หากเจ้าจะป้ายสีใครคงไม่ว่ากัน แต่เจ้ากล้าแอบอ้างพระบัญชา เสด็จพ่อเคยพูดเมื่อไหร่ว่าจะคิดบัญชีกับโรงค้าสัตว์ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี จะจัดการกับโรงค้าสัตว์โดยไม่แยกแยะถูกผิดได้อย่างไรกัน เฟิงหรูซวง เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หรือว่า…เสด็จแม่เจ้ามีชู้อยู่นอกวัง คิดจะแย่งอำนาจเสด็จพ่อ?”  

 

 

ทุกคำของนางช่างรุนแรง ทุกเสียงที่พูดออกมาฟังดูแล้วน่ากลัว  

 

 

เฟิงหรูซวงตกใจทำอะไรไม่ถูก นางตัวสั่น นัยน์ตาของนางไม่ได้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนแต่ก่อน แต่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ท่านพี่ ท่านพูดเหลวไหลอะไรกัน เสด็จแม่ซื่อตรงต่อเสด็จพ่อ นางจะคิดแย่งอำนาจได้อย่างไร ท่านคิดจะปรักปรำเสด็จแม่ข้าใช่หรือไม่”  

 

 

ดูท่าที่เสด็จแม่พูดไว้คงไม่ผิด นับแต่ฟื้นมาคราวนี้ เฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปจริงๆ  

 

 

เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?  

 

 

นางชอบเฟิงหรูชิงคนเดิมมากกว่า เฟิงหรูชิงคนนี้ ช่างน่ารังเกียจนัก  

 

 

“ถ้าใจไม่คิดคด แล้วทำไมต้องทำลายพระเกียรติของเสด็จพ่อด้วย”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2)  

 

 

เฟิงหรูชิงมองไปรอบๆ ผู้คนทั้งหลายในโรงค้าสัตว์ต่างหยุดนิ่งแล้วหันมามองที่เฟิงหรูชิงกับเฟิงหรูซวงนานแล้ว ท่ามกลางหมู่คน นางรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่เย็นชา อยากรู้อยากเห็นและสงสัย…เฟิงหรูชิงมองไปตามสายตาคู่นั้น จึงพบชายหนุ่มชุดผ้าแพรคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางหมู่คน  

 

 

ชายหนุ่มผู้นี้อายุราวๆ สิบแปดสิบเก้าปี หน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าอันอ่อนเยาว์มีรัศมีของความเย็นชา สายตาที่เย็นยะเยือกมองจ้องมาที่เฟิงหรูชิง แต่ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาช่วยเหลืออะไร  

 

 

เมื่อนึกออกว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใคร เฟิงหรูชิงเม้มปากเบาๆ แล้วละลายตาจากเขาหันกลับมามองที่เฟิงหรูซวงซึ่งมีสีหน้าซีดขาวอีกครั้ง  

 

 

เฟิงหรูซวงกำมือแน่น แม้การหายใจนางก็รู้สึกได้ถึงความลำบาก  

 

 

คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นหญิงอ้วนที่ควรตายไปแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงทำให้นางรู้สึกเหมือนโดนกดจมดินได้อย่างนี้ เมื่อถูกเฟิงหรูชิงมองจ้อง นางรู้สึกประหม่าจนไม่รู้จะเอาหน้าไปหลบไว้ที่ไหน  

 

 

โชคดีที่คนของโรงค้าสัตว์หามกรงสัตว์เข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้เฟิงหรูชิงหลุดพ้นจากความอึดอัด นั้นได้ เมื่อความรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจของนางหายไป เฟิงหรูซวงก็สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ สองสามครั้ง มือของนางจับที่อกข้างซ้าย สายตาที่หวาดกลัวมองไปที่เฟิงหรูชิง  

 

 

สายตาของเฟิงหรูชิงในตอนนี้จับจ้องไปที่กรงสัตว์ ในกรงมีหมาป่าลักษณะดีอยู่ตัวหนึ่ง ขนยาวสีขาวโพลนอย่างหิมะ ดูสะอาดและงดงาม ตาของมันมีสีน้ำเงินเข้ม สายตาดุร้ายจ้องไปที่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้า  

 

 

“กรงอันนี้ ทำแบบพิเศษหรือเปล่า หมาป่าสีขาวจะหนีออกมาได้หรือไม่”  

 

 

“องค์หญิง กรงของโรงค้าสัตว์ไม่มีสัตว์วิเศษตัวไหนที่หนีออกมาได้ แต่หมาป่าเทียนซานนิสัยดุร้าย ฝึกยาก องค์หญิงโปรดไตร่ตรองให้ดีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”  

 

 

“ไม่ต้องหรอกเอาตัวนี้แหละ เจ้าส่งคนหามกรงไปที่จวนองค์หญิง ส่วนเงินก็เอาจากเฟิงหรูซวงแล้วกัน” เฟิงหรูชิงยิ้มสะใจ แล้วหันหน้าไปหาเฟิงหรูซวงที่ยืนอยู่ข้างๆ  

 

 

“หรูซวง เงินแค่นี้เจ้าคงจ่ายให้ข้าได้นะ อีกอย่าง ถ้าคราวหน้าเจ้ายังพูดจาใส่ร้ายข้ากับเสด็จพ่อ ข้าจะโมโหเจ้าจริงๆ แล้วนะ” เฟิงหรูซวงปากสั่น ปิดปากเงียบไม่พูดสักคำ  

 

 

ใจนางรู้สึกกระวนกระวายไม่หยุด คิดอยู่ว่าวันนี้ต้องเสียเงินสักเท่าไร  

 

 

“จริงสิ” เฟิงหรูชิงที่กำลังจะเดินออกไปเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางยิ้มแล้วหันหลังมา  

 

 

“เจ้าช่วยบอกหรงกุ้ยเฟยให้ที ว่าป้ายเลือดเหล็กของแม่ข้าที่นางยืมไปดูตั้งหลายปี ถึงเวลาเอามาคืนข้าได้แล้ว ข้าเชื่อว่าหรงกุ้ยเฟยไม่ใช่คนประเภทยืมของคนอื่นไปแล้วไม่ยอมคืน”  

 

 

เฟิงหรูซวงแหงนหน้าขึ้นดูอย่างตกใจ ที่นางยอมเสียเงินมากมายขนาดนี้ก็เพราะไม่อยากให้เฟิงหรูชิงพูดถึงเรื่องป้ายเลือดเหล็กอีก คิดไม่ถึงว่านางจะมองเรื่องแบบนี้ไม่ออก?  

 

 

ก่อนเฟิงหรูชิงจะกลับ นางอยากตามหาชายหนุ่มคนเมื่อกี้ แต่ชายหนุ่มออกไปจากโรงค้าสัตว์แล้ว นางตามหาจนทั่วแต่หาตัวเขาไม่เจอ  

 

 

นางถอนหายใจเบาๆ “เขาไปแล้วก็ช่างเถอะนะ ตอนนี้ข้าก็ออกจากวังหลวงมาแล้ว ความเข้าใจผิดกับคนที่จวนแม่ทัพ…ต้องมีทางคลี่คลายอยู่แล้ว”  

 

 

…  

 

 

ที่ถนนทิศใต้ ดูคึกคักมากด้วยผู้คน  

 

 

เมื่อเฟิงหรูชิงออกมาจากโรงค้าสัตว์ นางตัดสินใจกลับจวนองค์หญิง นางเดินออกมาได้ไม่ไกล จู่ๆ ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งผ่านอากาศ เล็งตรงไปที่หลังศีรษะของนาง  

 

 

ยอดฝีมือจากวังหลวงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับกำลังจะออกมาช่วย แต่ขณะนั้นเองไม่ไกลมากนัก มีหินก้อนหนึ่งลอยมาอย่างเร็ว กระแทกกับลูกธนูดังปัง ทำให้วิถีของธนูเบี่ยงออกแล้วพุ่งเฉียดแก้มของนางไป เฟิงหรูชิงปาดเลือดที่ข้างแก้มของนาง นางเสียวสันหลังจนมีเหงื่อซึมออกมา  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1) / 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2)

Now you are reading เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา Chapter 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1) / 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 27 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (1)  

 

 

“ข้ายกให้หรงกุ้ยเฟยเนี่ยนะ?” นัยน์ตาเฟิงหรูชิงดูว่างเปล่า จากนั้นเปลี่ยนเป็นความรู้สึกงุนงงสงสัยและสุดท้ายกลายเป็นความสงบนิ่ง “แต่ทำไมข้าจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดแบบนั้น ป้ายเลือดเหล็กเป็นของตกทอดจากเสด็จแม่ข้า ข้าจะยกให้คนอื่นได้อย่างไร ข้าก็แค่ตอบตกลงให้นางเอาไปดูเพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่ผ่านมาหลายปีแล้วนางยังไม่ยอมคืนให้ข้า แถมยังทำให้ผู้คนเข้าใจผิดไปมากมายอย่างนั้น”  

 

 

เฟิงหรูซวงอึ้งพูดไม่ออก  

 

 

ตอนที่หรงกุ้ยเฟยหลอกเอาป้ายเลือดเหล็กมาได้ เฟิงหรูซวงไม่ได้อยู่กับนาง ดังนั้น เฟิงหรูซวงจึงไม่รู้ว่าเรื่องป้ายเลือดเหล็กนี่มันอย่างไรกันแน่ รู้เพียงแต่หลังจากเสด็จแม่ของนางมีป้ายนั้นในมือ ผู้คนในใต้หล้าต่างไม่มีใครกล้าล่วงเกินนาง  

 

 

หรือว่า…เฟิงหรูชิงรับปากให้ยืมเพียงไม่กี่วันจริงๆ ?  

 

 

“ท่านพี่ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เฟิงหรูซวงตั้งสติได้ ยิ้มเล็กๆ “ข้าจะกลับไปถามเสด็จแม่ อีกอย่าง เราสองพี่น้องทำไมต้องแบ่งเขาแบ่งเราด้วย ท่านพี่อยากได้สัตว์วิเศษพวกนี้ ข้าจะซื้อให้ท่านเอง”  

 

 

เฟิงหรูซวงตัดสินใจเด็ดขาด ท่าทีมั่นอกมั่นใจ แต่ใครจะรู้ว่าในใจของนางเสียดายสักเพียงใด  

 

 

คราวนี้ สมบัติในบ้านของนางคงหมดลงที่นี่ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ เฟิงหรูซวงกังวลว่าเฟิงหรูชิงจะพูดเรื่องเมื่อครู่นี้ไม่หยุด  

 

 

นางไม่ยอมให้เฟิงหรูชิงพูดถึงเรื่องป้ายเลือดเหล็กอีกเป็นอันขาด!  

 

 

เฟิงหรูชิงยิ้ม หันกลับไปมองเถ้าแก่ร้าน “ไปเอาสัตว์วิเศษที่แพงที่สุดของเจ้าออกมา”  

 

 

เถ้าแก่ร้านอึ้ง สายตาที่แฝงความกังวลมองไปที่เฟิงหรูซวง  

 

 

“ท่านพี่ของข้าให้เจ้าเอาออกมา เจ้าก็เอาออกมาให้นางสิ ถ้าทำให้นางโมโห ระวังเสด็จพ่อของข้าจะยึดโรงค้าสัตว์ของเจ้า”  

 

 

เฟิงหรูซวงเห็นเถ้าแก่ร้านยืนนิ่ง จึงขมวดคิ้วแล้วพูดตำหนิด้วยเสียงไม่สบอารมณ์  

 

 

ความหมายที่สื่อออกไป คือพี่สาวของนางคนนี้เป็นคนไร้ความยำเกรง ทำความชั่วมามากมาย หากมีใครไม่ยอมทำตามความต้องการของนาง นางจะใช้อำนาจกดขี่ข่มเหง ไม่แน่อาจยึดโรงค้าสัตว์ไปก็ได้  

 

 

เป็นดังที่คาด เถ้าแก่ร้านมองดูเฟิงหรูซวงด้วยความซาบซึ้ง ราวกับว่ารู้สึกขอบคุณที่นางอุตส่าห์เตือน จากนั้นจึงรีบสั่งให้คนไปหามสัตว์วิเศษออกมา  

 

 

“ท่านพี่ แบบนี้คงสิ้นเรื่องแล้ว เถ้าแก่ยอมเอาสัตว์วิเศษออกมาให้แล้ว ท่านอย่าให้คนมาเอาเรื่องพวกเขาเลย แบบนี้จะไม่เป็นผลดีกับพระเกียรติของเสด็จพ่อเพคะ”  

 

 

นางหันมาทั้งรอยยิ้ม จากนั้นก็ส่งสายตายิ้มแย้มมามอง  

 

 

เฟิงหรูชิงยิ้มมองดูเฟิงหรูซวงตาไม่กะพริบ “เฟิงหรูซวง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะใจกล้าถึงเพียงนี้ ข้ารู้จักเจ้ามานานหลายปี กลับไม่รู้ว่าเจ้าแอบอ้างพระบัญชาเสด็จพ่อเป็นด้วย”  

 

 

เฟิงหรูซวงอึ้งไป นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ”  

 

 

“หากเจ้าจะป้ายสีใครคงไม่ว่ากัน แต่เจ้ากล้าแอบอ้างพระบัญชา เสด็จพ่อเคยพูดเมื่อไหร่ว่าจะคิดบัญชีกับโรงค้าสัตว์ พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี จะจัดการกับโรงค้าสัตว์โดยไม่แยกแยะถูกผิดได้อย่างไรกัน เฟิงหรูซวง เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร หรือว่า…เสด็จแม่เจ้ามีชู้อยู่นอกวัง คิดจะแย่งอำนาจเสด็จพ่อ?”  

 

 

ทุกคำของนางช่างรุนแรง ทุกเสียงที่พูดออกมาฟังดูแล้วน่ากลัว  

 

 

เฟิงหรูซวงตกใจทำอะไรไม่ถูก นางตัวสั่น นัยน์ตาของนางไม่ได้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนแต่ก่อน แต่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ท่านพี่ ท่านพูดเหลวไหลอะไรกัน เสด็จแม่ซื่อตรงต่อเสด็จพ่อ นางจะคิดแย่งอำนาจได้อย่างไร ท่านคิดจะปรักปรำเสด็จแม่ข้าใช่หรือไม่”  

 

 

ดูท่าที่เสด็จแม่พูดไว้คงไม่ผิด นับแต่ฟื้นมาคราวนี้ เฟิงหรูชิงเปลี่ยนไปจริงๆ  

 

 

เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?  

 

 

นางชอบเฟิงหรูชิงคนเดิมมากกว่า เฟิงหรูชิงคนนี้ ช่างน่ารังเกียจนัก  

 

 

“ถ้าใจไม่คิดคด แล้วทำไมต้องทำลายพระเกียรติของเสด็จพ่อด้วย”  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 28 ชายหนุ่มในจวนแม่ทัพ (2)  

 

 

เฟิงหรูชิงมองไปรอบๆ ผู้คนทั้งหลายในโรงค้าสัตว์ต่างหยุดนิ่งแล้วหันมามองที่เฟิงหรูชิงกับเฟิงหรูซวงนานแล้ว ท่ามกลางหมู่คน นางรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่เย็นชา อยากรู้อยากเห็นและสงสัย…เฟิงหรูชิงมองไปตามสายตาคู่นั้น จึงพบชายหนุ่มชุดผ้าแพรคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางหมู่คน  

 

 

ชายหนุ่มผู้นี้อายุราวๆ สิบแปดสิบเก้าปี หน้าตาหล่อเหลา ใบหน้าอันอ่อนเยาว์มีรัศมีของความเย็นชา สายตาที่เย็นยะเยือกมองจ้องมาที่เฟิงหรูชิง แต่ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาช่วยเหลืออะไร  

 

 

เมื่อนึกออกว่าชายหนุ่มผู้นั้นเป็นใคร เฟิงหรูชิงเม้มปากเบาๆ แล้วละลายตาจากเขาหันกลับมามองที่เฟิงหรูซวงซึ่งมีสีหน้าซีดขาวอีกครั้ง  

 

 

เฟิงหรูซวงกำมือแน่น แม้การหายใจนางก็รู้สึกได้ถึงความลำบาก  

 

 

คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นหญิงอ้วนที่ควรตายไปแล้วแท้ๆ แต่ทำไมถึงทำให้นางรู้สึกเหมือนโดนกดจมดินได้อย่างนี้ เมื่อถูกเฟิงหรูชิงมองจ้อง นางรู้สึกประหม่าจนไม่รู้จะเอาหน้าไปหลบไว้ที่ไหน  

 

 

โชคดีที่คนของโรงค้าสัตว์หามกรงสัตว์เข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้เฟิงหรูชิงหลุดพ้นจากความอึดอัด นั้นได้ เมื่อความรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจของนางหายไป เฟิงหรูซวงก็สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ สองสามครั้ง มือของนางจับที่อกข้างซ้าย สายตาที่หวาดกลัวมองไปที่เฟิงหรูชิง  

 

 

สายตาของเฟิงหรูชิงในตอนนี้จับจ้องไปที่กรงสัตว์ ในกรงมีหมาป่าลักษณะดีอยู่ตัวหนึ่ง ขนยาวสีขาวโพลนอย่างหิมะ ดูสะอาดและงดงาม ตาของมันมีสีน้ำเงินเข้ม สายตาดุร้ายจ้องไปที่ผู้คนที่อยู่ตรงหน้า  

 

 

“กรงอันนี้ ทำแบบพิเศษหรือเปล่า หมาป่าสีขาวจะหนีออกมาได้หรือไม่”  

 

 

“องค์หญิง กรงของโรงค้าสัตว์ไม่มีสัตว์วิเศษตัวไหนที่หนีออกมาได้ แต่หมาป่าเทียนซานนิสัยดุร้าย ฝึกยาก องค์หญิงโปรดไตร่ตรองให้ดีเถิดพ่ะย่ะค่ะ”  

 

 

“ไม่ต้องหรอกเอาตัวนี้แหละ เจ้าส่งคนหามกรงไปที่จวนองค์หญิง ส่วนเงินก็เอาจากเฟิงหรูซวงแล้วกัน” เฟิงหรูชิงยิ้มสะใจ แล้วหันหน้าไปหาเฟิงหรูซวงที่ยืนอยู่ข้างๆ  

 

 

“หรูซวง เงินแค่นี้เจ้าคงจ่ายให้ข้าได้นะ อีกอย่าง ถ้าคราวหน้าเจ้ายังพูดจาใส่ร้ายข้ากับเสด็จพ่อ ข้าจะโมโหเจ้าจริงๆ แล้วนะ” เฟิงหรูซวงปากสั่น ปิดปากเงียบไม่พูดสักคำ  

 

 

ใจนางรู้สึกกระวนกระวายไม่หยุด คิดอยู่ว่าวันนี้ต้องเสียเงินสักเท่าไร  

 

 

“จริงสิ” เฟิงหรูชิงที่กำลังจะเดินออกไปเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางยิ้มแล้วหันหลังมา  

 

 

“เจ้าช่วยบอกหรงกุ้ยเฟยให้ที ว่าป้ายเลือดเหล็กของแม่ข้าที่นางยืมไปดูตั้งหลายปี ถึงเวลาเอามาคืนข้าได้แล้ว ข้าเชื่อว่าหรงกุ้ยเฟยไม่ใช่คนประเภทยืมของคนอื่นไปแล้วไม่ยอมคืน”  

 

 

เฟิงหรูซวงแหงนหน้าขึ้นดูอย่างตกใจ ที่นางยอมเสียเงินมากมายขนาดนี้ก็เพราะไม่อยากให้เฟิงหรูชิงพูดถึงเรื่องป้ายเลือดเหล็กอีก คิดไม่ถึงว่านางจะมองเรื่องแบบนี้ไม่ออก?  

 

 

ก่อนเฟิงหรูชิงจะกลับ นางอยากตามหาชายหนุ่มคนเมื่อกี้ แต่ชายหนุ่มออกไปจากโรงค้าสัตว์แล้ว นางตามหาจนทั่วแต่หาตัวเขาไม่เจอ  

 

 

นางถอนหายใจเบาๆ “เขาไปแล้วก็ช่างเถอะนะ ตอนนี้ข้าก็ออกจากวังหลวงมาแล้ว ความเข้าใจผิดกับคนที่จวนแม่ทัพ…ต้องมีทางคลี่คลายอยู่แล้ว”  

 

 

…  

 

 

ที่ถนนทิศใต้ ดูคึกคักมากด้วยผู้คน  

 

 

เมื่อเฟิงหรูชิงออกมาจากโรงค้าสัตว์ นางตัดสินใจกลับจวนองค์หญิง นางเดินออกมาได้ไม่ไกล จู่ๆ ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งผ่านอากาศ เล็งตรงไปที่หลังศีรษะของนาง  

 

 

ยอดฝีมือจากวังหลวงที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับกำลังจะออกมาช่วย แต่ขณะนั้นเองไม่ไกลมากนัก มีหินก้อนหนึ่งลอยมาอย่างเร็ว กระแทกกับลูกธนูดังปัง ทำให้วิถีของธนูเบี่ยงออกแล้วพุ่งเฉียดแก้มของนางไป เฟิงหรูชิงปาดเลือดที่ข้างแก้มของนาง นางเสียวสันหลังจนมีเหงื่อซึมออกมา  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+