การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 138

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 138 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 138 – คุณพ่อกับคุณแม่

 

ฉันจึงฉวยโอกาสที่ศัตรูหายไปโดยทิ้งของล้ำค่าไว้ ก่อนจะหนีจากไป ฉันรีบเดินเข้าไปเก็บเอาของสิ่งนี้

แต่แน่นอนว่าฉันต้องระมัดระวังมาก เพราะกลัวว่ามันอาจจะเป็นกับดักก็ได้ ในขณะที่ฉันกำลังจะเตรียมตัวเก็บเอาสมบัตินั้นเอง

บนท้องฟ้าก็มีแสงสีขาวพุ่งมาปรากฏขึ้น อะไรอีกละทีนี้?

แต่ว่าที่น่าแปลกใจคือแสงสีขาวนั่นคือแม่ของฉัน เอ่อ.. ถึงจะบอกว่าแม่แต่ไม่ใช่แม่แท้ๆ หรอกนะ เธอเก็บฉันไปเลี้ยงตอนที่ฉันถูกทิ้งน่ะ

พอเธอหันมาเห็นฉันเธอก็รีบบินลงมาด้วยความเร็วสูง ที่แม้แต่ฉันยังตอบสนองไม่ทัน เธอมาจับไหล่ฉันและเหมือนตะพยายามหาจุดไม่ผิดปกติ

“เลทิเซีย ในที่สุดก็เจอแล้ว! ต้องขอบคุณท่านยายของลูกจริงๆ นึกว่าเป็นอะไรไปซะแล้ว ไม่สิ มีตรงไหนบาดเจ็บหรือเปล่า?!”

“เอ่อ.. คือ..”

ฉันไม่ค่อยชินกับท่าทางแบบนั้นสักเท่าไหร่ เพราะว่าปกติเวลาฉันแอบหนีออกจากบ้านไปฝึกเธอคนนี้ไม่เคยแสดงท่าทางแบบนี้มาก่อนเลย

พอเธอแสดงท่าทางแบบนี้ก็ทำให้ฉันไม่รู้จะแสดงออกไปยังไง แต่โชคยังดีที่ตอนนั้นเองก็มีคนตามมา

คนนั้นคือเป็นพ่อที่ไม่จริงของฉันเอง

“เลเวียใจเย็นๆ ก่อนสิ ดูสิ เลทิเซียดูเหนื่อยๆ นะ”

“เอ่อ.. ข้าไม่ได้เป็นเหนื่อยนะ..”

ฉันพูดออกไป แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจกับวิธีพูดของฉัน เวลาฉันแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ พ่อกับแม่ที่ไม่จริงของฉันจะชอบบอกว่า

“ไอ้ ‘ฉัน’ นี่มันหมายความว่าอะไร” ฉันก็งงว่าไอ้แทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ในโลกนี้มันไม่มีเหรอ? ไม่สิ คนอื่นที่พูดแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ มันก็มีนะ

แต่ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ถึงไม่รู้จัก หรือเป็นศัพท์ยุคใหม่ที่ในโลกนี้พึ่งจะปังกันแน่? แต่ก็นะมันยุ่งยากเลยจำใจต้องแทนว่าข้าไป

แต่พอพูดข้าไปมันก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้สิ เลยไม่ค่อยชอบเลย แต่ก็นะเวลาอยู่กับพวกเขาทั้งสอง ต้องจำใจพูดแทนตัวเองเป็น ‘ข้า’ แทน

ก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ว่านะ.. ที่ว่าฉันเหนื่อยนี่ไม่จริงเลยนะ ฉันตอนนี้กำลังตื่นเต้นที่เห็นกองสมบัติตรงหน้าต่างหาก

“นั่นสินะ ขอโทษนะ เลทิเซีย รีบกลับไปพักกันเถอะ ..”

ก็บอกว่าไม่ได้เหนื่อยสักหน่อย แต่เหมือนทั้งสองจะไม่ฟังความเห็นฉันจะลากฉันกลับท่าเดียว แต่ว่าสมบัติของฉัน!

ยังไม่ได้เอามันเลยนะ! แบบนี้ต้องขอความช่วยเหลือสินะ คนที่ช่วยฉันได้ในตอนนี้มีเพียงคนเดียว!

ฉันหันหน้าไปหาทสึรุที่ยืนอยู่ห่างไปไม่ไกลนัก ก่อนที่จะส่งซิกผ่านสายตาไปหาเธอ ฉันเชื่อว่าทสึรุต้องเข้าใจฉันอย่างแน่นอน

“ช่วยฉันที ไม่ก็ไปเอาสมบัตินั้นมาให้หน่อย!”

แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดออกมาจากปาก แค่พูดทางสายตาและพูดด้วยใจเท่านั้น

ฉันหันไปหาเธอและสะบัดสายตาไปทางจุดที่สมบัติชิ้นนั้นอยู่ แต่ฉันไม่กล้าสะบัดหน้า เดี๋ยวสองคนนี้จะคิดว่าฉันปวดคอหรืออะไรอีก

มันจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แต่เพราะไม่ได้หันหน้าไปหาโกเลมนั่นโดยตรงเลยไม่รู้ว่าทสึรุจะเข้าใจไหมว่า ‘สมบัติ’ ที่ฉันหมายถึงคือโกเลม

แถมทสึรุยืนอยู่ตรงกันข้ามกับฉันและด้านหลังฉันคือสมบัติ.. ไม่สิ เธอต้องเข้าใจอย่างแน่นอน ฉันเชื่อแบบนั้น

ทสึรุที่มองหน้ากับฉันเธอก็พยักหน้าให้ สมแล้ว! เธอเข้าใจสินะ ขอบคุณพระเจ้า เธอเดินเข้ามาหาแม่ (ทสึรุเข้าใจว่า.. เลทิเซียบอกให้เธอแนะนำตัวกับแม่ตัวเอง.. แถมหลังจากนี้จะไปเดทกันด้วย)

เธอจะใช้แผนแรกสินะ ให้ฉันเก็บสมบัติเองโดยการทำให้คุณแม่ปลอมๆ ของฉันหยุดลากตัวฉันไปจากที่นี่

“ท่านแม่ของเลทิเซีย”

“อ๊ะ? เธอคือ..?”

“ข้าคือเพื่อนของเลทิเซีย มีชื่อว่าทสึรุ คือว่าเลทิเซียน่ะ …”

เอาเลยสิ พูดเลยทสึรุ! แต่เหมือนคุณแม่ที่เหมือนจะรู้ว่าทสึรุจะพูดอะไรเธอจึงรีบพูดตัดก่อน.. นะ..นี่หรือว่า

เธอคนนี้หญิงสาวที่ชื่อเลเวียคนนี้ รู้ว่าถ้าหากฉันเก็บโกเลมนั้นได้ ฉันจะสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ดีๆ ขึ้นมาได้

เธอจึงพยายามขัดขวางฉันสุดชีวิตสินะ?! ไม่สิ เธอทำไปเพื่ออะไรกันละ อืม.. แล้วทำไมฉันต้องสงสัยว่า ‘ทำไปเพื่ออะไร’ ล่ะ

เพราะปกติแล้วฉันจะไม่คิดแบบนี้นี่น่า.. ปกติฉันจะต้องคิดว่า ‘จะทำตอนไหน’ มากกว่าไม่ใช่เหรอ

สับสนไปหมดเลยแฮะ แต่ในขณะที่ฉันคิดหนักอยู่นั้นเสียงของคุณแม่ปลอมๆ ก็ดังขึ้น

“เพื่อน..? เลทิเซียมีเพื่อน?! ลูเซียโน่คะ!! เลทิเซียมีเพื่อน!!!”

“อะไรนะ เจ้าพูดจริงใช่ไหม?!”

“อะ เอ๋..?”

ทสึรุเหมือนจะงงต่อการตอบสนองของคุณพ่อกับคุณแม่ ฉันเองก็เหมือนกันการแสดงออกแบบนี้มันคือ??

ฉันที่กำลังงงทั้งสองคนนั้นก็มองหน้ากันแล้วก็หัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะลากฉันกับทสึรุจากไป

ฉันได้แต่เหม่อมองไปยังโกเลมที่ทิ้งอยู่ตรงนั้น เอ๊ะ.. ว่าแต่ผู้หญิงที่เป็นโจรสลัดกับนักสืบที่เป็นนักเรียนนั่นหายไปตั้งแต่ตอนไหน?

เฮ้อ หลังจากเสียใจอยู่พักหนึ่งแต่ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าๆ แต่อย่างน้อยก็ได้กลับโรงเรียนแล้วล่ะ

ทสึรุก็ขยับเข้ามาหาฉัน เธอมองเห็นฉันเศร้าเธอก็มาปลอบฉัน ทสึรุนี่ใจดีจริงๆ นะ

“ไม่เป็นไรนะ ถึงเราจะพลาดโอกาสนี้ไป แต่โอกาสหน้าต้องมีอย่างแน่นอน บางทีช่วงเวลาที่ดีอาจจะไม่ได้มาแค่ครั้งเดียวก็ได้นะ”

(ทสึรุหมายถึง โอกาสเดท และช่วงเวลาที่ดีหมายถึงช่วงเวลาที่ทั้งสองอาจจะอยู่ด้วยกันเหมือนเมื่อกี้)

“นั่นสิ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ฉันจะรอนะ ขอบใจนะทสึรุ”

(เลทิเซียหมายถึง โอกาสที่ว่าคือโชคดีๆ จู่ๆ ก็หล่นทับ และมันต้องมีอีกแน่ๆ จะรอตอนที่โชคดีแบบนั้นอีก)

ฉันกับทสึรุคุยกันเงียบๆ แต่เหมือนคุณพ่อกับคุณแม่ที่เป็นคนเลี้ยงฉันมาเหมือนจะมองเห็นที่พวกเราคุยกัน

แล้วทั้งสองก็กระซิบกระซาบกัน อยากจะบอกว่าฉันยังไม่ได้ถอนเวทมนตร์ที่เพิ่มประสาทการรับรู้ทั้งหมดนะ

ฉันได้ยินทุกอย่างที่พวกเขาคุยกันเลย

“ดูสิ เลเวีย เลทิเซียคุยกับคนอื่นอย่างสนิทสนมด้วยล่ะ”

“นั่นสิ บางทีลูกสาวเราอาจจะโตขึ้นในการผจญภัยครั้งนี้แล้วก็ได้นะ คิดถูกจริงๆ ที่ส่งไปเรียนที่โรงเรียนลิเบอร์”

คุณแม่เลี้ยงพูดแบบยิ้มๆ แล้วคุณพ่อเลี้ยงเองก็ยิ้มเหมือนกัน

“นั่นสินะ ยังรู้สึกเหมือนว่าผ่านไปไม่นานเลยนะตั้งแต่ตอนนั้น”

“นั่นสิ..”

“จะว่าไปแล้ว ทำไมถึงรู้ล่ะว่าเลทิเซียอยู่ที่นี่น่ะ”

ฉันที่ฟังอยู่ๆ ก็ไม่รู้จะพูดอะไร แต่พอได้ยินคำถามของพ่อเลี้ยงก็สนอกสนใจขึ้นมา รู้สึกว่าเมื่อกี้คุณแม่เลี้ยงจะบอกว่าขอบคุณยายของฉัน

หรือก็คือแม่ของคุณแม่เลี้ยงบอก ว่าแต่เธอรู้ได้ไงน่ะ? ไม่สิ แม่ของคุณแม่เลี้ยงก็คงจะเป็นเทพเหมือนกันสินะ

คงมีวิธีทำนายสินะ แต่ยังไงกันล่ะ ถ้าหากฉันถูกเทพไล่ล่าจะได้มีวิธีรับมือกับอะไรพวกนี้ด้วย ในขณะที่คิดคุณแม่เลี้ยงก็พูดขึ้น

“ท่านแม่เป็นคนบอกมานะ”

“ทะ..ท่านคนนั้นน่ะเหรอ..?”

เหมือนคุณพ่อเลี้ยงจะดูกลัวๆ แฮะ แต่พอคุณแม่พูดถึงตัวเองเธอก็ทำหน้าแปลกๆ แล้วเธอก็เล่าต่อ

“ท่านแม่ใช้วิชาสื่อวิญญาณ เจ้าก็น่าจะรู้ว่าท่านแม่คือเทพอะไร.. วิชานี้เป็นวิชาของเธอ โดยวิชานี้จะทำให้เธอตามหาวิญญาณที่ต้องการผ่านบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณโดยเนื้อแท้.. แต่ว่านะ..”

“อะไรเหรอ..?”

จู่ๆ เธอก็มองมาที่ฉันก่อนที่จะส่ายหัวรอบคุณพ่อเลี้ยงว่า

“ช่างเถอะ.. ไม่มีอะไร…”

เหมือนคุณพ่อเลี้ยงจะเข้าใจงานเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“จริงสิ.. ท่านแม่ของเจ้ามาทำอะไรเหรอ? ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ยุ่งเอามากๆ เหรอ?”

“เหมือนจะมาตามหาคนน่ะ บอกว่าเป็นคนที่สำคัญกับข้ามาก”

“หรือว่า…”

“คงจะเป็นคู่หมั้นอะไรนั่นแหละ ทั้งๆ ที่ข้าบอกไปแล้วนะว่าข้าไม่ต้องการ ว่าแต่ไอ้คู่หมั้นนั่นมันลงมาโลกมนุษย์สินะ ไปตามหามันแล้วต่อยมันกันเถอะ ยังไงก็ใบ้พลังไม่ได้”

“เดี๋ยวสิ เลเวีย…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด