การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 340

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 340 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 340 – ความตายที่คืบคลาน

 

ภายใต้ความตึงเครียดของทวีปที่กำลังลุกเป็นไฟเช่นนี้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเลทิเซียที่ลอยอยู่บนอากาศ

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มองดูทสึรุที่เคลื่อนไหวออกจากโรงเรียนไปยังชายแดนทวีป ซึ่งใช้เวลาหลายวันเพราะถึงแม้จะใกล้แต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดไปกลับวันเดียว

และพอมาถึงทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดเธอก็เห็นกองเรือของจักรวรรดิมังกร

และกองเรือของโจรสลัดอยู่ ซึ่งทะเลนี้ควรจะแบ่งแยกแผ่นดินใหญ่ออกจากเกาะที่มองไม่เห็น บัดนี้กับพื้นดินถูกก่อสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนสะพานเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่กับที่ไหนสักแห่งที่อยู่อีกฟากของทะเล

ซึ่งนั่นแน่นอนว่ามันต้องไปเชื่อมกับเกาะของเผ่าผู้พิทักษ์แน่ และเหมือนจะมีกองเรือของจักรวรรดิคอยกำกับจำนวนของพวกผู้พิทักษ์ที่ติดเชื้อ

ไม่ให้มันออกมามากเกินควบคุมนั่นเอง.. ทสึรุเห็นเช่นนี้ เธอก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมา ทุกอย่างเป็นฝีมือของจักรพรรดิมังกรจริงๆ

อันที่จริงใช่ว่าพวกผู้กล้าหรือจอมมารจะไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้ แต่แค่การระบาดมันมากเกินไป พวกเขาไม่มีใครกล้าทิ้งอาณาจักรตัวเองเพื่อมาสืบหาต้นตอ

เพราะพวกเขาไม่ว่างขนาดนั้น จริงอยู่หากมาที่แห่งนี้แล้วหยุดต้นตอได้ก็คงดีไป.. แต่ทว่าใครจะดูแลอาณาจักร?

ยอมเสียสละอาณาจักรตัวเองเพื่อช่วยทวีป? แน่นอนว่าพวกเขาไม่คิดเช่นนั้น.. ภัยอันตรายนี้มันไม่ได้แผ่กระจายอย่างเชื่องช้า

เพราะยิ่งผ่านไปมันยิ่งมากขึ้น ยิ่งมากขึ้น กลายเป็นว่าทั่วทุกมุมทวีปเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย..

และในขณะเดียวกันทสึรุที่มาเจอต้นตอ.. เธอไม่คิดมากตัดสินใจที่จะทำลายสะพานเชื่อมของเกาะที่มองไม่เห็นกับแผ่นดินใหญ่..

และ..กำจัดกองเรือของจักรวรรดิ.. เธอเริ่มการต่อสู้โดยทันที ทำลายสะพานเชื่อมระหว่างนี้ด้วยเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งและยึดเรือของโจรสลัดมาอย่างง่ายดาย

ที่บอกว่าง่ายดายมันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะว่าทุกคนทั้ง 34 คนและทสึรุล้วนแต่เป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์และ..เป็นนักรบ

ในโรงเรียนลิเบอร์แม้บอกว่าเป็นนักเรียน แต่ก็มีการสอบหรือการเอาตัวรอดนอกโรงเรียนอยู่เสมอ บางครั้งถึงต้องออกไปผจญภัยในโลกกว้างนอกทวีปแห่งนี้ด้วยซ้ำ

แน่นอนว่านักเรียนทุกคนไม่ใช่เด็กนักเรียนเป็นธรรมดา แต่เป็นนักเรียนที่มากประสบการณ์ในการต่อสู้

ก็อย่างว่าโรงเรียนลิเบอร์คือหนึ่งในโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปทั้งห้าเลยนะ ถ้าหากแค่โจรสลัดยังสู้ไม่ได้ก็คงตอบไม่ได้ว่าหากจบออกไปจะสามารถปกครองอาณาจักรได้

และด้วยความที่คนทั้งหมดเหล่านี้คืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะเหล่านั้นอีกที การยึดเรือจึงดำเนินไปอย่างง่ายดาย

พวกเธออาศัยเรือลำนี้บุกฝ่าโจมตีออกไปแปดทิศ บ้างก็ลอบโจมตี บ้างก็แอบติดต่อและล่ออีกฝ่ายมาเชือดทิ้ง

พวกเธอราวกับอสรพิษตัวน้อยที่งดงามไม่มีผิด.. และด้วยความที่ทสึรุเป็นคนรอบคอบ.. นี่เป็นการต่อสู้เพื่อเลทิเซีย..

เธอฝึกให้ทั้ง 34 คนเหล่านี้มีจิตสังหารด้วยซ้ำ.. ดังนั้นคนทุกคนที่ถูกลอบโจมตีนั้นคงไม่ต้องบอกก็เดาได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน

โดนถ่วงลงทะเลไปจนหมด.. เรียกได้ว่าโหดร้ายทารุณอย่างถึงที่สุด แน่นอนว่าเหล่าเด็กสาวอาจจะรู้สึกผิดหรือรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

แม้จะเคยฆ่าสัตว์อสูรมาไม่น้อยแต่การฆ่าคนก็เป็นครั้งแรก.. แต่เมื่อนึกถึงความโหดร้ายของพวกมันความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ หายไป..

และกลายเป็นเฉยชาในที่สุด.. ส่วนทสึรุนั้นไม่รู้สึกอะไรมาตั้งแต่แรก.. ไม่สิ เธอน่ะหากเพื่อเลทิเซียเธอสามารถฆ่าได้ทุกชีวิต.. เรื่องนี้เธอตัดสินใจไปนานแล้ว

ตั้งแต่ที่อยู่ในชิ้นส่วนเวหา.. ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน..

ภายใต้การบุกโจมตีแบบลับๆ นี้ ทางฝั่งหัวหน้าทักที่นำกองทัพเรือนี้ที่มาจากจักรวรรดิมังกรก็ได้รับข่าวสารเรื่องที่เกิดขึ้น

มันไม่ได้ตื่นกลัวหรือตกใจ กลับกันยิ่งรู้สึกดูถูกพวกโจรสลัดก็แค่เด็กที่มีแต่ผู้หญิงยังสู้ไม่ได้ ถึงแบบนั้นยังกล้าเรียกว่าโจรสลัดอีกเหรอ

ภายใต้ความประมาทเลินเล่อของมันนี้.. ทสึรุพากองทัพนักรบสตรีของเธอบุกฝ่าไปถึงกองทัพเรือหลัก.. และก็ต่อสู้กับพวกจักรวรรดิมังกรอย่างดุเดือด

และก็อย่างที่คาดไว้ พวกจักรวรรดิมังกรต่างพากันเป็นลูกหลานของมังกร มีพละกำลังและเวทมนตร์ที่สูงส่ง

โดยเฉพาะหัวหน้าทักอีกฝ่ายยิ่งมีพลังเวทสูงส่ง ภายใต้การต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่าน ในที่สุดทสึรุก็สามารถตัดหัวผู้นำทัพอีกฝ่ายได้

แต่มันเหมือนจะไม่ยอมแพ้ ระเบิดเรือเพื่อหวังสังหารทุกคนไปด้วย แต่ทสึรุและพรรคพวกไหวตัวทันโดดลงทะเลและกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่..

แค่นี้ก็ปิดการเพิ่มพวกผู้พิทักษ์ที่ติดเชื้อได้แล้ว.. และในตอนนั้นเองข่าวก็ถูกส่งมาผ่านอุปกรณ์สื่อสารหาทสึรุว่า

“เลทิเซียหายไป..มีโอกาสตายมากกว่ารอด เพราะอาณาจักรอาเดฟปิดอาณาจักรเลวิเนียไม่สามารถออกมาได้ มีข่าวว่าก่อนจะปิดประเทศมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ ของจักรพรรดิมังกร และเทพที่ชื่อซิลเวียก็หายไปพร้อมกัน.. มีโอกาสที่จะถูกฆ่า”

ดวงตาของทสึรุเบิกกว้างด้วยความสับสน แต่ยังไม่จบเพราะยังมีรายงานต่ออีกว่า

“กองทัพของจักรวรรดิมังกรบุกฝ่าแปดทิศควบคุมพวกฝูงสัตว์ประหลาดไร้สติบุกโจมตีโรงเรียนทั้งห้า.. หวังจะทำลายโรงเรียนทั้งห้า ฉีกสัญญาในอดีต..”

“และเผ่ากึ่งมนุษย์และศาสนจักรโอโรโบรอสเองก็เริ่มเคลื่อนไห—”

ทสึรุตัดสายทันที.. ดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอไม่เชื่อว่าเลทิเซียจะตายแต่ว่า.. ใจหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติ..

จากคำอธิบายของเจมิลี่เมื่อหลายวันก่อนคือ.. มันกลัวเลทิเซีย และเลทิเซียหายไปมันจึงเริ่มดำเนินการทันที..

หากถ้าคำว่า..หายไป.. ในที่นี้คือไม่ใช่หายไปจากโรงเรียนแต่เป็น.. หายไปจากโลกล่ะ.. ดวงตาของเธอสั่นสะท้านหัวใจเต้นระรัว..

ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนหวนคืนกลับมาสู่หัวของเธอ.. เลทิเซียจะตาย.. จะไม่ได้คุยอีกแล้ว.. จะไม่ได้เห็นหน้าอีกแล้ว..

ดวงตาของเธอแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย..

“ไม่!เธอต้องไม่ตาย”

ทสึรุหน้ามืดทะมึน ถือหอกวารีพิชิตสวรรค์มุ่งหน้ากลับโรงเรียนลิเบอร์พร้อมกับนักรบหญิงทั้ง 34 คนบุกฝ่าแปดทิศ

สังหารทุกอย่างที่ขวางทาง.. โรงเรียนลิเบอร์ที่เลทิเซียปกป้อง..ในตอนนี้เธอไม่อยู่.. ทสึรุต้องปกป้อง.. ต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้!!

เธอกวาดทำลายล้างทุกอย่างอยู่เบื่อหน้าสังหารผู้นำทัพของจักรวรรดิมังกร ฆ่าสัตว์ประหลาดที่ตายไปแล้วแต่ยังลุกขึ้นมาฆ่าคน

เธอบุกโจมตีจากหลังกองทัพพวกมันบุกฝ่าไปทางโรงเรียนลิเบอร์ แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนก่อนหน้า

เพราะเผ่าผู้พิทักษ์นั้นแข็งแกร่งกว่าพวกจักรวรรดิมังกรไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า.. หากทสึรุไม่มีหอกก็คงบุกฝ่าไม่ไหว

ภายใต้การบุกฝ่าทั้ง 35 คนรวมทสึรุบุกไปถึงหน้าโรงเรียนและยืนปกป้องทางเข้าโรงเรียนอย่างสุดความสามารถ

ทุกคนเห็นภาพนี้ .. แต่กลับไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้กับกองทัพที่ไม่ตาย.. เพราะว่าก่อนที่ทสึรุจะมาถึงเหล่าครูบาอาจารย์ต่างพากันไปตายจนแทบหมด

นักเรียนทุกคนหวาดกลัว.. และมองเห็นทสึรุเป็นดั่งแสงสว่างในความมืด.. การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ .. บาดแผลทุกอย่างเต็มเนื้อเต็มตัว

ดวงตาของเธอโชนแสงแห่งความบ้าคลั่ง คนทั้งสามสิบสี่คนเองก็ไม่ต่างกัน พวกเธอราวกับนักรบเลือดเหล็กที่เหยียบย่ำอยู่บนกองซากศพ

ประสบการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ทุกวินาทีพวกเธอเก่งขึ้นทุกครั้งที่ต่อสู้ ทุกครั้งที่คาร่าร่ายหมัดโจมตีออกไปแม้แต่เผ่าผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งยังแหลกกระจุย

ดวงตาของทสึรุยังมีเพียงอย่างเดียวคือ.. ปกป้องที่แห่งนี้.. เพื่อเลทิเซียที่ต้องการปกป้อง.. ปกป้องแทนเลทิเซีย….

บนท้องฟ้าอันเลือนรางดวงตาของเลทิเซียเบิกกว้างด้วยความสับสน..

“ไม่.. ทสึรุ.. หนีไป.. หนีไป…”

ดวงตาของเธอสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด.. หากการปกป้องโรงเรียน..ปกป้องบ้านของเธอมันแลกมาด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ของทสึรุ..

เลทิเซียไม่ต้องการ.. แต่เสียงของเลทิเซียไม่อาจส่งไปถึงโลกเบื้องล่างได้.. เธอยิ่งดิ้นแรงมากขึ้นอีกทำให้แทบหลุดออกจากมือของซิลเวีย..

“ไม่.. เลทิเซีย.. นี่มันก็แค่ภาพลวงตา คิดให้ดีๆ สิ ที่นี่คือความว่างเปล่า พวกเรายังเคลื่อนไหวไม่ได้.. นี่ยังเป็นความว่างเปล่า!”

“ไม่มีทางที่ความว่างเปล่าจะเชื่อมเข้ากับต้นกำเนิดได้หรอก จำที่ข้าพูดไม่ได้หรือไง ต้นกำเนิดกับความว่างเปล่าคือศัตรูกัน เพราะงั้นนี่มันแค่ภาพลวงตา”

“ตอนนี้พวกเราต้องหลบหนีนะ”

ซิลเวียพยายามเกลี้ยกล่อมเลทิเซียด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี เพราะห่างไกลออกไปยังมีการปะทะกันของไวท์กับนิล ซึ่งไวท์เองก็อาการย่ำแย่ลงทุกครั้งที่ปะทะ

“ไม่.. ไม่ได้.. ทสึรุ..ไวท์ … ขอร้อง.. หยุดทีเถอะ.. หนีไปเถอะ..”

เลทิเซียแทบจะเป็นบ้า.. ภาพความตายของสเตฟานี่ปรากฏขึ้นมา.. เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มอันแสนเศร้าพร้อมกับจากไป

ภาพการตายของโคลเอ้ที่เจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด.. ภาพการตายที่แกว่งไปมาพร้อมกับเชือกที่รัดคอของเซเรส..

แม้แต่การจากไปอันไร้ซึ่งเสียงของอันน่า..

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่”

“ขอร้องล่ะ.. หยุดเถอะ”

“ได้โปรด..หยุดทีเถอะ”

นี่เป็นอีกครั้ง..ที่เลทิเซียรู้สึกว่าตนเองนั้นอ่อนแอ..และไร้พลังอย่างถึงที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 340

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 340 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 340 – ความตายที่คืบคลาน

 

ภายใต้ความตึงเครียดของทวีปที่กำลังลุกเป็นไฟเช่นนี้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเลทิเซียที่ลอยอยู่บนอากาศ

ดวงตาของเธอเบิกกว้าง มองดูทสึรุที่เคลื่อนไหวออกจากโรงเรียนไปยังชายแดนทวีป ซึ่งใช้เวลาหลายวันเพราะถึงแม้จะใกล้แต่ก็ไม่ได้ใกล้ขนาดไปกลับวันเดียว

และพอมาถึงทะเลอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดเธอก็เห็นกองเรือของจักรวรรดิมังกร

และกองเรือของโจรสลัดอยู่ ซึ่งทะเลนี้ควรจะแบ่งแยกแผ่นดินใหญ่ออกจากเกาะที่มองไม่เห็น บัดนี้กับพื้นดินถูกก่อสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนสะพานเชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่กับที่ไหนสักแห่งที่อยู่อีกฟากของทะเล

ซึ่งนั่นแน่นอนว่ามันต้องไปเชื่อมกับเกาะของเผ่าผู้พิทักษ์แน่ และเหมือนจะมีกองเรือของจักรวรรดิคอยกำกับจำนวนของพวกผู้พิทักษ์ที่ติดเชื้อ

ไม่ให้มันออกมามากเกินควบคุมนั่นเอง.. ทสึรุเห็นเช่นนี้ เธอก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมา ทุกอย่างเป็นฝีมือของจักรพรรดิมังกรจริงๆ

อันที่จริงใช่ว่าพวกผู้กล้าหรือจอมมารจะไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้ แต่แค่การระบาดมันมากเกินไป พวกเขาไม่มีใครกล้าทิ้งอาณาจักรตัวเองเพื่อมาสืบหาต้นตอ

เพราะพวกเขาไม่ว่างขนาดนั้น จริงอยู่หากมาที่แห่งนี้แล้วหยุดต้นตอได้ก็คงดีไป.. แต่ทว่าใครจะดูแลอาณาจักร?

ยอมเสียสละอาณาจักรตัวเองเพื่อช่วยทวีป? แน่นอนว่าพวกเขาไม่คิดเช่นนั้น.. ภัยอันตรายนี้มันไม่ได้แผ่กระจายอย่างเชื่องช้า

เพราะยิ่งผ่านไปมันยิ่งมากขึ้น ยิ่งมากขึ้น กลายเป็นว่าทั่วทุกมุมทวีปเต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวาย..

และในขณะเดียวกันทสึรุที่มาเจอต้นตอ.. เธอไม่คิดมากตัดสินใจที่จะทำลายสะพานเชื่อมของเกาะที่มองไม่เห็นกับแผ่นดินใหญ่..

และ..กำจัดกองเรือของจักรวรรดิ.. เธอเริ่มการต่อสู้โดยทันที ทำลายสะพานเชื่อมระหว่างนี้ด้วยเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งและยึดเรือของโจรสลัดมาอย่างง่ายดาย

ที่บอกว่าง่ายดายมันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะว่าทุกคนทั้ง 34 คนและทสึรุล้วนแต่เป็นอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์และ..เป็นนักรบ

ในโรงเรียนลิเบอร์แม้บอกว่าเป็นนักเรียน แต่ก็มีการสอบหรือการเอาตัวรอดนอกโรงเรียนอยู่เสมอ บางครั้งถึงต้องออกไปผจญภัยในโลกกว้างนอกทวีปแห่งนี้ด้วยซ้ำ

แน่นอนว่านักเรียนทุกคนไม่ใช่เด็กนักเรียนเป็นธรรมดา แต่เป็นนักเรียนที่มากประสบการณ์ในการต่อสู้

ก็อย่างว่าโรงเรียนลิเบอร์คือหนึ่งในโรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปทั้งห้าเลยนะ ถ้าหากแค่โจรสลัดยังสู้ไม่ได้ก็คงตอบไม่ได้ว่าหากจบออกไปจะสามารถปกครองอาณาจักรได้

และด้วยความที่คนทั้งหมดเหล่านี้คืออัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะเหล่านั้นอีกที การยึดเรือจึงดำเนินไปอย่างง่ายดาย

พวกเธออาศัยเรือลำนี้บุกฝ่าโจมตีออกไปแปดทิศ บ้างก็ลอบโจมตี บ้างก็แอบติดต่อและล่ออีกฝ่ายมาเชือดทิ้ง

พวกเธอราวกับอสรพิษตัวน้อยที่งดงามไม่มีผิด.. และด้วยความที่ทสึรุเป็นคนรอบคอบ.. นี่เป็นการต่อสู้เพื่อเลทิเซีย..

เธอฝึกให้ทั้ง 34 คนเหล่านี้มีจิตสังหารด้วยซ้ำ.. ดังนั้นคนทุกคนที่ถูกลอบโจมตีนั้นคงไม่ต้องบอกก็เดาได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน

โดนถ่วงลงทะเลไปจนหมด.. เรียกได้ว่าโหดร้ายทารุณอย่างถึงที่สุด แน่นอนว่าเหล่าเด็กสาวอาจจะรู้สึกผิดหรือรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

แม้จะเคยฆ่าสัตว์อสูรมาไม่น้อยแต่การฆ่าคนก็เป็นครั้งแรก.. แต่เมื่อนึกถึงความโหดร้ายของพวกมันความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ หายไป..

และกลายเป็นเฉยชาในที่สุด.. ส่วนทสึรุนั้นไม่รู้สึกอะไรมาตั้งแต่แรก.. ไม่สิ เธอน่ะหากเพื่อเลทิเซียเธอสามารถฆ่าได้ทุกชีวิต.. เรื่องนี้เธอตัดสินใจไปนานแล้ว

ตั้งแต่ที่อยู่ในชิ้นส่วนเวหา.. ตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน..

ภายใต้การบุกโจมตีแบบลับๆ นี้ ทางฝั่งหัวหน้าทักที่นำกองทัพเรือนี้ที่มาจากจักรวรรดิมังกรก็ได้รับข่าวสารเรื่องที่เกิดขึ้น

มันไม่ได้ตื่นกลัวหรือตกใจ กลับกันยิ่งรู้สึกดูถูกพวกโจรสลัดก็แค่เด็กที่มีแต่ผู้หญิงยังสู้ไม่ได้ ถึงแบบนั้นยังกล้าเรียกว่าโจรสลัดอีกเหรอ

ภายใต้ความประมาทเลินเล่อของมันนี้.. ทสึรุพากองทัพนักรบสตรีของเธอบุกฝ่าไปถึงกองทัพเรือหลัก.. และก็ต่อสู้กับพวกจักรวรรดิมังกรอย่างดุเดือด

และก็อย่างที่คาดไว้ พวกจักรวรรดิมังกรต่างพากันเป็นลูกหลานของมังกร มีพละกำลังและเวทมนตร์ที่สูงส่ง

โดยเฉพาะหัวหน้าทักอีกฝ่ายยิ่งมีพลังเวทสูงส่ง ภายใต้การต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่าน ในที่สุดทสึรุก็สามารถตัดหัวผู้นำทัพอีกฝ่ายได้

แต่มันเหมือนจะไม่ยอมแพ้ ระเบิดเรือเพื่อหวังสังหารทุกคนไปด้วย แต่ทสึรุและพรรคพวกไหวตัวทันโดดลงทะเลและกลับคืนสู่แผ่นดินใหญ่..

แค่นี้ก็ปิดการเพิ่มพวกผู้พิทักษ์ที่ติดเชื้อได้แล้ว.. และในตอนนั้นเองข่าวก็ถูกส่งมาผ่านอุปกรณ์สื่อสารหาทสึรุว่า

“เลทิเซียหายไป..มีโอกาสตายมากกว่ารอด เพราะอาณาจักรอาเดฟปิดอาณาจักรเลวิเนียไม่สามารถออกมาได้ มีข่าวว่าก่อนจะปิดประเทศมีการเคลื่อนไหวแปลกๆ ของจักรพรรดิมังกร และเทพที่ชื่อซิลเวียก็หายไปพร้อมกัน.. มีโอกาสที่จะถูกฆ่า”

ดวงตาของทสึรุเบิกกว้างด้วยความสับสน แต่ยังไม่จบเพราะยังมีรายงานต่ออีกว่า

“กองทัพของจักรวรรดิมังกรบุกฝ่าแปดทิศควบคุมพวกฝูงสัตว์ประหลาดไร้สติบุกโจมตีโรงเรียนทั้งห้า.. หวังจะทำลายโรงเรียนทั้งห้า ฉีกสัญญาในอดีต..”

“และเผ่ากึ่งมนุษย์และศาสนจักรโอโรโบรอสเองก็เริ่มเคลื่อนไห—”

ทสึรุตัดสายทันที.. ดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอไม่เชื่อว่าเลทิเซียจะตายแต่ว่า.. ใจหนึ่งก็รู้สึกว่ามันไม่ปกติ..

จากคำอธิบายของเจมิลี่เมื่อหลายวันก่อนคือ.. มันกลัวเลทิเซีย และเลทิเซียหายไปมันจึงเริ่มดำเนินการทันที..

หากถ้าคำว่า..หายไป.. ในที่นี้คือไม่ใช่หายไปจากโรงเรียนแต่เป็น.. หายไปจากโลกล่ะ.. ดวงตาของเธอสั่นสะท้านหัวใจเต้นระรัว..

ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนหวนคืนกลับมาสู่หัวของเธอ.. เลทิเซียจะตาย.. จะไม่ได้คุยอีกแล้ว.. จะไม่ได้เห็นหน้าอีกแล้ว..

ดวงตาของเธอแดงก่ำเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย..

“ไม่!เธอต้องไม่ตาย”

ทสึรุหน้ามืดทะมึน ถือหอกวารีพิชิตสวรรค์มุ่งหน้ากลับโรงเรียนลิเบอร์พร้อมกับนักรบหญิงทั้ง 34 คนบุกฝ่าแปดทิศ

สังหารทุกอย่างที่ขวางทาง.. โรงเรียนลิเบอร์ที่เลทิเซียปกป้อง..ในตอนนี้เธอไม่อยู่.. ทสึรุต้องปกป้อง.. ต้องปกป้องเอาไว้ให้ได้!!

เธอกวาดทำลายล้างทุกอย่างอยู่เบื่อหน้าสังหารผู้นำทัพของจักรวรรดิมังกร ฆ่าสัตว์ประหลาดที่ตายไปแล้วแต่ยังลุกขึ้นมาฆ่าคน

เธอบุกโจมตีจากหลังกองทัพพวกมันบุกฝ่าไปทางโรงเรียนลิเบอร์ แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนก่อนหน้า

เพราะเผ่าผู้พิทักษ์นั้นแข็งแกร่งกว่าพวกจักรวรรดิมังกรไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า.. หากทสึรุไม่มีหอกก็คงบุกฝ่าไม่ไหว

ภายใต้การบุกฝ่าทั้ง 35 คนรวมทสึรุบุกไปถึงหน้าโรงเรียนและยืนปกป้องทางเข้าโรงเรียนอย่างสุดความสามารถ

ทุกคนเห็นภาพนี้ .. แต่กลับไม่มีใครกล้าออกมาต่อสู้กับกองทัพที่ไม่ตาย.. เพราะว่าก่อนที่ทสึรุจะมาถึงเหล่าครูบาอาจารย์ต่างพากันไปตายจนแทบหมด

นักเรียนทุกคนหวาดกลัว.. และมองเห็นทสึรุเป็นดั่งแสงสว่างในความมืด.. การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ .. บาดแผลทุกอย่างเต็มเนื้อเต็มตัว

ดวงตาของเธอโชนแสงแห่งความบ้าคลั่ง คนทั้งสามสิบสี่คนเองก็ไม่ต่างกัน พวกเธอราวกับนักรบเลือดเหล็กที่เหยียบย่ำอยู่บนกองซากศพ

ประสบการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ทุกวินาทีพวกเธอเก่งขึ้นทุกครั้งที่ต่อสู้ ทุกครั้งที่คาร่าร่ายหมัดโจมตีออกไปแม้แต่เผ่าผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งยังแหลกกระจุย

ดวงตาของทสึรุยังมีเพียงอย่างเดียวคือ.. ปกป้องที่แห่งนี้.. เพื่อเลทิเซียที่ต้องการปกป้อง.. ปกป้องแทนเลทิเซีย….

บนท้องฟ้าอันเลือนรางดวงตาของเลทิเซียเบิกกว้างด้วยความสับสน..

“ไม่.. ทสึรุ.. หนีไป.. หนีไป…”

ดวงตาของเธอสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด.. หากการปกป้องโรงเรียน..ปกป้องบ้านของเธอมันแลกมาด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ของทสึรุ..

เลทิเซียไม่ต้องการ.. แต่เสียงของเลทิเซียไม่อาจส่งไปถึงโลกเบื้องล่างได้.. เธอยิ่งดิ้นแรงมากขึ้นอีกทำให้แทบหลุดออกจากมือของซิลเวีย..

“ไม่.. เลทิเซีย.. นี่มันก็แค่ภาพลวงตา คิดให้ดีๆ สิ ที่นี่คือความว่างเปล่า พวกเรายังเคลื่อนไหวไม่ได้.. นี่ยังเป็นความว่างเปล่า!”

“ไม่มีทางที่ความว่างเปล่าจะเชื่อมเข้ากับต้นกำเนิดได้หรอก จำที่ข้าพูดไม่ได้หรือไง ต้นกำเนิดกับความว่างเปล่าคือศัตรูกัน เพราะงั้นนี่มันแค่ภาพลวงตา”

“ตอนนี้พวกเราต้องหลบหนีนะ”

ซิลเวียพยายามเกลี้ยกล่อมเลทิเซียด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี เพราะห่างไกลออกไปยังมีการปะทะกันของไวท์กับนิล ซึ่งไวท์เองก็อาการย่ำแย่ลงทุกครั้งที่ปะทะ

“ไม่.. ไม่ได้.. ทสึรุ..ไวท์ … ขอร้อง.. หยุดทีเถอะ.. หนีไปเถอะ..”

เลทิเซียแทบจะเป็นบ้า.. ภาพความตายของสเตฟานี่ปรากฏขึ้นมา.. เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มอันแสนเศร้าพร้อมกับจากไป

ภาพการตายของโคลเอ้ที่เจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด.. ภาพการตายที่แกว่งไปมาพร้อมกับเชือกที่รัดคอของเซเรส..

แม้แต่การจากไปอันไร้ซึ่งเสียงของอันน่า..

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่”

“ขอร้องล่ะ.. หยุดเถอะ”

“ได้โปรด..หยุดทีเถอะ”

นี่เป็นอีกครั้ง..ที่เลทิเซียรู้สึกว่าตนเองนั้นอ่อนแอ..และไร้พลังอย่างถึงที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+