การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 153

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 153 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 153 – บ้านเกิด

 

บนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเผ่าอสูรอยู่ เผ่าอสูรคือเผ่าที่มีรูปร่างมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสัตว์หรือมอนสเตอร์

ว่าง่ายๆ คือพวกมอนสเตอร์ตามทวีปล้วนคือเผ่าอสูร แต่เผ่าอสูรกับเผ่าปีศาจไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน

ใช่แล้ว แม้แต่เผ่าอสูรในรูปแบบของมนุษย์ก็มีเล่นกัน.. และเผ่าอสูรที่ว่านั่นก็คือข้าเอง.. ชาร์ล็อต

ข้าตื่นขึ้นมาในป่าโดยไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อของตัวข้าเอง.. ข้ามีชีวิตอยู่ในป่าแห่งนี้ด้วยตัวคนเดียวมาไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว

บางครั้งก็ตื่น บางครั้งก็นอน บางครั้งก็กิน… ทำแบบนี้อยู่หลายต่อหลายหนจนกระทั่งในที่สุดข้าก็ได้เห็นคนที่เหมือนกับข้าเข้ามาในป่า

สิ่งนั้นคือ.. ‘มนุษย์’ ข้าเห็นคนที่เหมือนกับข้า ข้าจึงพยายามทักทายพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นข้าผู้ใหญ่ที่ตามมาด้วยก็มาขวางหน้าข้า

เขายกดาบและชี้มาที่หน้าของข้าพลางพูดขึ้น เป็นภาษาที่ข้าไม่รู้จักแต่ก็เข้าใจ

“หยุดอยู่ตรงนั้น แกคงเป็นอสูรสินะถึงแม้จะมีรูปร่างหลอกตาแบบนั้น แต่ข้าเจออสูรมานักต่อนักแล้ว อย่าคิดแม้แต่จะเข้าใกล้”

เขาพูดกับข้าแบบนั้น ก่อนที่จะหันไปอธิบายกับเด็กๆ ที่อยู่ด้านหลังเบาๆ แต่ข้าก็ยังได้ยินเสียงพูดนั้น

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าเป็นอสูรหรืออะไรสักอย่างนั่นแหละ แต่ตอนนั้นข้ายังไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรเลยด้วยซ้ำ

“นี่คืออสูร พวกเจ้าระวังไว้เวลาเล่นในป่าแม้มันจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ยังไงมันก็เป็นแค่อสูรที่เหมือนพวกมอนสเตอร์ที่ทำร้ายผู้อื่น เพราะงั้นพวกเจ้าระวังไว้”

“เอ๋ ท่านพ่อเราจะแยกยังไงว่ามันเป็นปีศาจหรือเป็นคน”

“พวกอสูรน่ะคือสัตว์ประหลาดที่จู่ๆ ก็โผล่มาแบบไร้ต้นตอ ไม่มีพ่อแม่หรือผู้ให้กำเนิด นั่นแหละคืออสูร!”

“เอ๋ น่ากลัวจังเลย”

“ใช่แล้ว เพราะงั้นระวังตัวไว้ให้ดี”

พวกเขาพูดแบบนั้นก็หันมามองข้าด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เหมือนกับว่ามองข้าเป็นปีศาจ

เด็กคนที่ถามก็หันมามองข้าแล้วก็พูดขึ้นว่า

“ท่านพ่อ ทำไมเธอถึงจะเข้ามาหาพวกเราล่ะ”

“นั่นสิ พ่อเองก็ไม่รู้ บางทีมันอาจจะมาทำร้ายพวกเราเหมือนพวกมอนสเตอร์ก็ได้”

“อะไรนะ!”

เด็กคนนั้นวิ่งมาผลักข้าจนล้มลงไปกับพื้นแล้วก็พูดขู่ใส่ข้าว่า “อย่าคิดจะมาทำร้ายท่านพ่อนะ ไอ้อสูรน่าเกลียด ข้าจะปกป้องท่านพ่อเอง!”

“…. ข้า..”

ข้าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ชายคนที่เหมือนจะเป็นพ่อก็เตะข้าจนกลิ้งกลับหลังก่อนที่ข้าจะได้พูด

“เอ๊ะ?”

“จำไว้นะ อย่าผลีผลามเข้าใกล้พวกอสูรอีกนะ! พวกอสูรมันมีความสามารถประหลาดมากมาย หากมันปล่อยออกมาละก็คนที่จะอันตรายจะเป็นลูกนะ มันอาจจะมีคำพูดที่สามารถฆ่าคนได้เลย”

“ข..ข้าขอโทษ ข้าแค่เป็นห่วงท่านพ่อ…”

“อืม…เป็นลูกชายที่ดีจริงๆ เอาล่ะวันนี้เราไปหาอาหารเย็นดีกว่า”

พวกเขาก็เดินจากไป.. ข้าไอออกมาเป็นเลือด ข้าทำอะไรผิด… ข้าแตกต่างจากพวกเขางั้นเหรอ.. ข้าไม่เข้าใจเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นเด็กผู้ชายคนนั้นก็เข้าป่ามาอีก แต่วันนี้ไม่ได้มากับพ่อ แต่มากับกลุ่มคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

ข้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพราะรู้สึกหิว ท้องร้อง…

“เคนจัง นั่นน่ะเหรอคืออสูรที่แม้แต่หัวหน้านายพรานอย่างพ่อเคนจังยังกลัวน่ะ!”

“หึ พ่อข้าไม่ได้กลัวสักหน่อย ท่านพ่อบอกว่าแค่ไม่อยากเป็นเหมือนพวกมัน ไอ้พวกอสูรมอนสเตอร์ที่คอยฆ่ามนุษย์”

“แต่พ่อของเคนจังไม่อยากล้างแค้นเหรอ? ก็พวกมันฆ่าพวกนายพรานในหมู่บ้านไปเยอะนี่น่า”

“ก็บอกแล้วว่า พ่อของข้าน่ะไม่อยากเป็นเหมือนพวกอสูรป่าเถื่อนนี่ เมื่อวานมันยังจะมาทำร้ายข้าอยู่เลย แต่ท่านพ่อก็ช่วยข้าเอาไว้แถมไม่เอาชีวิตมันด้วยนะ”

“ว้าว พ่อเคนจังเท่สุดๆ ไปเลย”

พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน ข้าไม่มีแรงที่จะเงยหน้าขึ้นมองเพราะความหิว แต่พอรู้ตัวอีกทีพวกเขาก็เข้ามาหาข้าแล้ว

“แต่ว่า พวกเราต้องทวงความยุติธรรมให้พวกคนที่ตายไปแล้ว ท่านพ่อบอกว่าอย่าให้มันพูดได้จับเชือกมัดปากมันไว้เลยพวกเรา!”

ว่าแล้วพวกเขาก็วิ่งเข้ามาจับแขนข้าดึงขึ้น ดวงตาข้าเปิดออกความรู้สึกถูกจับแขนบิดเพื่อไม่ให้ต่อต้านมันทำข้าแสบไปทั้งหัวไหล่

“พวกเจ้า.. จะทำอะไ—”

“มัดปากมันไว้เร็ว”

ก่อนที่ข้าจะได้พูดจบก็ถูกเอาเชือกมัดปากไว้ แต่เพราะคนเหล่านี้เหมือนจะรีบร้อนทำให้เชือกที่ถูกปากข้ามันเข้าไปลึกจนข้ารู้สึกคลื่นไส้

ก่อนที่จะได้มีแรงตอบสนองข้าก็ถูกเชือกมัดปากไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องอ้วกออกมา เพราะเชือกมันส่งกลิ่นฉุน

“เกือบไปแล้วพวกเรา.. แต่แค่นี้ก็สามารถจำกัดพลังปีศาจของมันแล้ว! พวกเราช่วยพวกคุณลุงกับคุณพ่อได้แล้ว!”

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณเคยจังจริงๆ!”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แต่ว่าท่านพ่อบอกว่าพวกอสูรน่ะ มันเจ้าเล่ห์พวกเราต้องไม่ประมาทนะ!”

“โอ้ว รับทราบ!!!”

ข้านอนลงพื้นด้วยความเหนื่อยล้า.. ทำไม.. ข้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ข้าทำอะไรผิดกันแน่ ข้าไปทำอะไรให้พวกเขา

นายพราน… มันคืออะไรข้าไปฆ่าตอนไหน ข้าทำอะไรผิดทำไมพวกเขาถึงมีสิทธิ์ที่จะมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น

มีสิทธิ์ที่จะเหยียบย่ำ ทำร้ายและรังเกียจ ทั้งๆที่ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ.. ข้าไม่เข้าใจ

“ว่าแต่เคนจัง ทำไมเจ้าอสูรนี่มันเหมือนมนุษย์จังเลย?”

“อ้อ ท่านพ่อบอกว่ามันเป็นทักษะบางอย่างของพวกอสูรที่จะหลอกมนุษย์น่ะ.. ไม่เชื่อนายก็ดูนั่นสิ”

“อะไรเหรอ?”

“นั่นไง เจ้าไม่เห็นที่สิ่งที่ไอ้อสูรมอนสเตอร์นี่อ้วกออกมาเหรอ มันมีแต่หญ้ากับดอกไม้ คนธรรมดาจะไปกินของแบบนี้ได้ไงล่ะ”

“อ๊ะ.. นั่นมันดอกไม้ที่ข้าแอบมาปลูกไว้นี่น่า ก็ว่าอยู่มันหายไปไหน แต่ว่าเป็นอสูรจริงๆ!”

“เห็นไหมล่ะ…”

“จริงสิ วันนี้พ่อข้าจะเซอร์ไพรสคนทั้งหมู่บ้านนี่น่า รีบกลับกันเถอะ เห็นว่าได้เมนูเนื้อจานใหญ่มาด้วยล่ะ”

“เอ๋?! จริงเหรอ รีบกลับเถอะ”

พวกเขาจากไป.. ทิ้งข้าไว้ใต้ต้นไม้..ทำไม… ทำไมข้า…. ข้าผิดอะไร

ข้าแค่หิว.. ข้าก็กินสิ่งที่กินได้ ข้าไม่มีแรงที่จะไปหาอะไรมากินได้ด้วยตัวเอง ข้าเลยแตกต่างจากพวกเขาอย่างงั้นเหรอ

น้ำใสไหลออกมาจากดวงตาข้า.. ข้ารู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก ข้าไม่รู้ง่ามันคืออะไร แต่มันเจ็บปวดเหลือเกิน

ทรมานเหลือเกิน… ข้าหลับตาลงแล้วก็นอนหลับ… ข้าเจ็บปวดข้าจะนอนพอตื่นมาความเจ็บปวดจะหายไป

ข้าทำแบบนั้นมาตลอด.. แต่ครั้งนี้ข้าตื่นขึ้นมาความเจ็บปวดที่อยู่ภายในอกก็ไม่หายไป ทำไมกันล่ะ

ทำไมข้าต้อง..ทรมานแบบนี้ด้วยล่ะ…

 

……..

[สวยๆ ใสๆ น่ารักต้องอ้วกแตกก่อนนะ เทะเฮะ >////< – ผู้เขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 153

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 153 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 153 – บ้านเกิด

 

บนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเผ่าอสูรอยู่ เผ่าอสูรคือเผ่าที่มีรูปร่างมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสัตว์หรือมอนสเตอร์

ว่าง่ายๆ คือพวกมอนสเตอร์ตามทวีปล้วนคือเผ่าอสูร แต่เผ่าอสูรกับเผ่าปีศาจไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน

ใช่แล้ว แม้แต่เผ่าอสูรในรูปแบบของมนุษย์ก็มีเล่นกัน.. และเผ่าอสูรที่ว่านั่นก็คือข้าเอง.. ชาร์ล็อต

ข้าตื่นขึ้นมาในป่าโดยไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อของตัวข้าเอง.. ข้ามีชีวิตอยู่ในป่าแห่งนี้ด้วยตัวคนเดียวมาไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว

บางครั้งก็ตื่น บางครั้งก็นอน บางครั้งก็กิน… ทำแบบนี้อยู่หลายต่อหลายหนจนกระทั่งในที่สุดข้าก็ได้เห็นคนที่เหมือนกับข้าเข้ามาในป่า

สิ่งนั้นคือ.. ‘มนุษย์’ ข้าเห็นคนที่เหมือนกับข้า ข้าจึงพยายามทักทายพวกเขา แต่พอพวกเขาเห็นข้าผู้ใหญ่ที่ตามมาด้วยก็มาขวางหน้าข้า

เขายกดาบและชี้มาที่หน้าของข้าพลางพูดขึ้น เป็นภาษาที่ข้าไม่รู้จักแต่ก็เข้าใจ

“หยุดอยู่ตรงนั้น แกคงเป็นอสูรสินะถึงแม้จะมีรูปร่างหลอกตาแบบนั้น แต่ข้าเจออสูรมานักต่อนักแล้ว อย่าคิดแม้แต่จะเข้าใกล้”

เขาพูดกับข้าแบบนั้น ก่อนที่จะหันไปอธิบายกับเด็กๆ ที่อยู่ด้านหลังเบาๆ แต่ข้าก็ยังได้ยินเสียงพูดนั้น

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าเป็นอสูรหรืออะไรสักอย่างนั่นแหละ แต่ตอนนั้นข้ายังไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรเลยด้วยซ้ำ

“นี่คืออสูร พวกเจ้าระวังไว้เวลาเล่นในป่าแม้มันจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ยังไงมันก็เป็นแค่อสูรที่เหมือนพวกมอนสเตอร์ที่ทำร้ายผู้อื่น เพราะงั้นพวกเจ้าระวังไว้”

“เอ๋ ท่านพ่อเราจะแยกยังไงว่ามันเป็นปีศาจหรือเป็นคน”

“พวกอสูรน่ะคือสัตว์ประหลาดที่จู่ๆ ก็โผล่มาแบบไร้ต้นตอ ไม่มีพ่อแม่หรือผู้ให้กำเนิด นั่นแหละคืออสูร!”

“เอ๋ น่ากลัวจังเลย”

“ใช่แล้ว เพราะงั้นระวังตัวไว้ให้ดี”

พวกเขาพูดแบบนั้นก็หันมามองข้าด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร เหมือนกับว่ามองข้าเป็นปีศาจ

เด็กคนที่ถามก็หันมามองข้าแล้วก็พูดขึ้นว่า

“ท่านพ่อ ทำไมเธอถึงจะเข้ามาหาพวกเราล่ะ”

“นั่นสิ พ่อเองก็ไม่รู้ บางทีมันอาจจะมาทำร้ายพวกเราเหมือนพวกมอนสเตอร์ก็ได้”

“อะไรนะ!”

เด็กคนนั้นวิ่งมาผลักข้าจนล้มลงไปกับพื้นแล้วก็พูดขู่ใส่ข้าว่า “อย่าคิดจะมาทำร้ายท่านพ่อนะ ไอ้อสูรน่าเกลียด ข้าจะปกป้องท่านพ่อเอง!”

“…. ข้า..”

ข้าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ชายคนที่เหมือนจะเป็นพ่อก็เตะข้าจนกลิ้งกลับหลังก่อนที่ข้าจะได้พูด

“เอ๊ะ?”

“จำไว้นะ อย่าผลีผลามเข้าใกล้พวกอสูรอีกนะ! พวกอสูรมันมีความสามารถประหลาดมากมาย หากมันปล่อยออกมาละก็คนที่จะอันตรายจะเป็นลูกนะ มันอาจจะมีคำพูดที่สามารถฆ่าคนได้เลย”

“ข..ข้าขอโทษ ข้าแค่เป็นห่วงท่านพ่อ…”

“อืม…เป็นลูกชายที่ดีจริงๆ เอาล่ะวันนี้เราไปหาอาหารเย็นดีกว่า”

พวกเขาก็เดินจากไป.. ข้าไอออกมาเป็นเลือด ข้าทำอะไรผิด… ข้าแตกต่างจากพวกเขางั้นเหรอ.. ข้าไม่เข้าใจเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นเด็กผู้ชายคนนั้นก็เข้าป่ามาอีก แต่วันนี้ไม่ได้มากับพ่อ แต่มากับกลุ่มคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

ข้านั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพราะรู้สึกหิว ท้องร้อง…

“เคนจัง นั่นน่ะเหรอคืออสูรที่แม้แต่หัวหน้านายพรานอย่างพ่อเคนจังยังกลัวน่ะ!”

“หึ พ่อข้าไม่ได้กลัวสักหน่อย ท่านพ่อบอกว่าแค่ไม่อยากเป็นเหมือนพวกมัน ไอ้พวกอสูรมอนสเตอร์ที่คอยฆ่ามนุษย์”

“แต่พ่อของเคนจังไม่อยากล้างแค้นเหรอ? ก็พวกมันฆ่าพวกนายพรานในหมู่บ้านไปเยอะนี่น่า”

“ก็บอกแล้วว่า พ่อของข้าน่ะไม่อยากเป็นเหมือนพวกอสูรป่าเถื่อนนี่ เมื่อวานมันยังจะมาทำร้ายข้าอยู่เลย แต่ท่านพ่อก็ช่วยข้าเอาไว้แถมไม่เอาชีวิตมันด้วยนะ”

“ว้าว พ่อเคนจังเท่สุดๆ ไปเลย”

พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน ข้าไม่มีแรงที่จะเงยหน้าขึ้นมองเพราะความหิว แต่พอรู้ตัวอีกทีพวกเขาก็เข้ามาหาข้าแล้ว

“แต่ว่า พวกเราต้องทวงความยุติธรรมให้พวกคนที่ตายไปแล้ว ท่านพ่อบอกว่าอย่าให้มันพูดได้จับเชือกมัดปากมันไว้เลยพวกเรา!”

ว่าแล้วพวกเขาก็วิ่งเข้ามาจับแขนข้าดึงขึ้น ดวงตาข้าเปิดออกความรู้สึกถูกจับแขนบิดเพื่อไม่ให้ต่อต้านมันทำข้าแสบไปทั้งหัวไหล่

“พวกเจ้า.. จะทำอะไ—”

“มัดปากมันไว้เร็ว”

ก่อนที่ข้าจะได้พูดจบก็ถูกเอาเชือกมัดปากไว้ แต่เพราะคนเหล่านี้เหมือนจะรีบร้อนทำให้เชือกที่ถูกปากข้ามันเข้าไปลึกจนข้ารู้สึกคลื่นไส้

ก่อนที่จะได้มีแรงตอบสนองข้าก็ถูกเชือกมัดปากไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องอ้วกออกมา เพราะเชือกมันส่งกลิ่นฉุน

“เกือบไปแล้วพวกเรา.. แต่แค่นี้ก็สามารถจำกัดพลังปีศาจของมันแล้ว! พวกเราช่วยพวกคุณลุงกับคุณพ่อได้แล้ว!”

“เรื่องนี้ต้องขอบคุณเคยจังจริงๆ!”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า แต่ว่าท่านพ่อบอกว่าพวกอสูรน่ะ มันเจ้าเล่ห์พวกเราต้องไม่ประมาทนะ!”

“โอ้ว รับทราบ!!!”

ข้านอนลงพื้นด้วยความเหนื่อยล้า.. ทำไม.. ข้าต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ข้าทำอะไรผิดกันแน่ ข้าไปทำอะไรให้พวกเขา

นายพราน… มันคืออะไรข้าไปฆ่าตอนไหน ข้าทำอะไรผิดทำไมพวกเขาถึงมีสิทธิ์ที่จะมองข้าด้วยสายตาแบบนั้น

มีสิทธิ์ที่จะเหยียบย่ำ ทำร้ายและรังเกียจ ทั้งๆที่ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ.. ข้าไม่เข้าใจ

“ว่าแต่เคนจัง ทำไมเจ้าอสูรนี่มันเหมือนมนุษย์จังเลย?”

“อ้อ ท่านพ่อบอกว่ามันเป็นทักษะบางอย่างของพวกอสูรที่จะหลอกมนุษย์น่ะ.. ไม่เชื่อนายก็ดูนั่นสิ”

“อะไรเหรอ?”

“นั่นไง เจ้าไม่เห็นที่สิ่งที่ไอ้อสูรมอนสเตอร์นี่อ้วกออกมาเหรอ มันมีแต่หญ้ากับดอกไม้ คนธรรมดาจะไปกินของแบบนี้ได้ไงล่ะ”

“อ๊ะ.. นั่นมันดอกไม้ที่ข้าแอบมาปลูกไว้นี่น่า ก็ว่าอยู่มันหายไปไหน แต่ว่าเป็นอสูรจริงๆ!”

“เห็นไหมล่ะ…”

“จริงสิ วันนี้พ่อข้าจะเซอร์ไพรสคนทั้งหมู่บ้านนี่น่า รีบกลับกันเถอะ เห็นว่าได้เมนูเนื้อจานใหญ่มาด้วยล่ะ”

“เอ๋?! จริงเหรอ รีบกลับเถอะ”

พวกเขาจากไป.. ทิ้งข้าไว้ใต้ต้นไม้..ทำไม… ทำไมข้า…. ข้าผิดอะไร

ข้าแค่หิว.. ข้าก็กินสิ่งที่กินได้ ข้าไม่มีแรงที่จะไปหาอะไรมากินได้ด้วยตัวเอง ข้าเลยแตกต่างจากพวกเขาอย่างงั้นเหรอ

น้ำใสไหลออกมาจากดวงตาข้า.. ข้ารู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก ข้าไม่รู้ง่ามันคืออะไร แต่มันเจ็บปวดเหลือเกิน

ทรมานเหลือเกิน… ข้าหลับตาลงแล้วก็นอนหลับ… ข้าเจ็บปวดข้าจะนอนพอตื่นมาความเจ็บปวดจะหายไป

ข้าทำแบบนั้นมาตลอด.. แต่ครั้งนี้ข้าตื่นขึ้นมาความเจ็บปวดที่อยู่ภายในอกก็ไม่หายไป ทำไมกันล่ะ

ทำไมข้าต้อง..ทรมานแบบนี้ด้วยล่ะ…

 

……..

[สวยๆ ใสๆ น่ารักต้องอ้วกแตกก่อนนะ เทะเฮะ >////< – ผู้เขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+