การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 308

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 308 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 308 – สร้างภูต

 

แต่ไม่ว่าจะมีความรู้สึกมากมายอัดแน่นภายในอกขนาดไหนเลทิเซียก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนอะไรได้

สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงจะจำกัดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอเอง แต่ยังเป็นเหมือนสวนหลังบ้านของศัตรู

ไม่ว่าจะเป็นความโกรธหรือความบ้าคลั่งล้วนไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ในที่แห่งนี้ อีกครั้งเป็นอีกครั้งที่เธอไร้ทางต้าน

มองดูซิลเวียที่กรีดร้องทรมานอยู่เบื้องหน้าเหมือนกับมีคมดาบมากมายกรีดเฉือนลงบนหน้าอกของเธอ

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ซิลเวียเองก็เป็นคนที่เลทิเซียแคร์และให้ความสำคัญ… บางทีเลทิเซียอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

การอยู่กับซิลเวียมันทำให้เธอรู้สึกรำคาญ.. นั่นคือสิ่งที่เลทิเซียแสดงออกต่อซิลเวียก่อนหน้านั้น ซึ่งการแสดงออกแบบนั้นมันต้องทำให้ซิลเวียมีเสียใจบ้าง

สำหรับเลทิเซียบางทีเธอคงมีอคติต่อซิลเวียตั้งแต่วันแรกที่ร่วงลงมาจากฟ้า เลทิเซียคิดอยู่ตลอดว่าเธอนั้นเป็นเหมือนคนที่ตัวเองไม่ชอบมากที่สุด

ไม่สิ ถ้าจะให้พูดเลทิเซียแค่ไม่เข้าใจซิลเวียเท่านั้น ทำไมเธอถึงเกาะติด.. ทำไมเธอถึงพยายามเข้าใกล้

ทำไมเธอถึงพยายามแสดงด้วยการแสดงห่วยๆ ของตัวเองเหมือนจะหลอกเลทิเซีย ทุกอย่างมันทำให้เลทิเซียเกิดอคติต่อซิลเวียไม่รู้ตัว

แต่แน่นอนว่าตลอดช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโตเลทิเซียก็คลุกคลีอยู่กับซิลเวียมาเช่นกัน

และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เลทิเซียก็สัมผัสถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาดขึ้นมาเช่นกัน..

บางครั้งบางที ซิลเวียก็จะทำสีหน้าเหมือนกับพี่เอลน่าในโลกเดิมของเลทิเซีย ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะเธอคิดไปเองก็ได้

แต่บางครั้งซิลเวียก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับพี่สาวไม่มีผิด.. จนบางครั้งเลทิเซียก็เผลอตัวคล้อยตามเธอ..

อาจจะเป็นเพราะแบบนั้นเองที่ทำให้เลทิเซียอคติต่อซิลเวีย เพราะสำหรับเลทิเซียแล้วพี่สาวในโลกเดิมที่เสียไปแล้วนั้น

คือคนที่วิเศษที่สุด เธอนั้นเป็นคนที่พาครอบครัวสามพี่น้องก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นพี่สาวจึงเป็นคนที่สำคัญสำหรับเลทิเซียมาก

ดังนั้นพอซิลเวียที่ทำตัวประหลาดเหมือนพี่ที่ตัวเองทั้งเคารพทั้งบูชา เป็นธรรมดาที่จะไม่พอใจอยู่บ้าง

ดังนั้นเลทิเซียจึงแสดงท่าทางรำคาญที่มีต่อซิลเวียในบางครั้งบางครา หากเป็นเลทิเซียในอดีตเธอคงไม่ได้คิดอะไรมากกับท่าทางของตัวเอง

แต่พอมามองในตอนนี้เลทิเซียกลับรู้สึกผิดต่อซิลเวียเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ซิลเวียไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อตนเองจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร

การกระทำเลทิเซียที่มีต่อซิลเวียควรจะเป็นด้านบวกแต่เลทิเซียกลับถูกอคติบดบังสายตา..

อย่างไรก็ตามเพราะในอดีตเคยอยู่ด้วยกันมานานพอเลทิเซียนั้นเปลี่ยนไปดังนั้นความรู้สึกที่ไม่เคยแสดงออกมาต่อหน้าซิลเวีย

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่อยุ่ด้วยกันมาหรือแม้แต่การที่ซิลเวียไม่เคยมีเจตนาร้ายต่อเลทิเซียเลย แม้เลทิเซียจะแสดงท่าทางเช่นนั้นก็ตาม

ดังนั้นเลทิเซียจึงคิดว่าซิลเวียเองก็เป็นเพื่อนคนสำคัญ.. เธอเป็นคนที่ไม่เคยทิ้งเลทิเซียและอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน

ฝึกด้วยกัน … ความรู้สึกอันดีที่มีต่อซิลเวียไม่ต่างจากความรู้สึกที่เลทิเซียมีให้ต่อคนสำคัญคนอื่นเลย

ในตอนแรกเลทิเซียคงรู้สึกผิดต่อซิลเวียมากๆ แค่นั้นเองแต่แน่นอนว่าเวลาผ่านไป ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมามันก็ขัดเกลาความรู้สึกของทั้งสอง..

ค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาจนท้ายที่สุดจึงสามารถเรียกได้ว่าเพื่อนอย่างเต็มปาก เพราะแบบนั้นแหละ เลทิเซียที่สาบานว่าจะไม่ให้คนสำคัญต้องเจ็บปวดอีกแล้ว

ไม่อยากเห็นเหล่าคนสำคัญหรือไม่อยากเห็นการสูญเสียอีกแล้ว

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ประหลาดหลุดออกมาจากลำคอของเลทิเซีย ความโกรธระเบิดปะทุออกมาจากเบื้องล่าง

ดวงตาที่เงยหน้าขึ้นมองหมึกในร่างสตรีเพศเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แต่มันกลับไม่กลัวสายตานั้น ไม่สิ ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องกลัว

ที่นี่คือดินแดนของมัน ที่นี่มันคือพระเจ้า มันคือผู้ควบคุม กล่าวอีกนัยหนึ่งมันคือ.. พระเจ้า!!

“ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิ ดูไม่เหมือนคนที่สามารถลบข้าได้เลยนะ ฮ่าๆ ”

มันหัวเราะร่าอย่างพึงพอใจ ในขณะที่มือบีบคอซิลเวียแรงขึ้นอีกจนคอเธอแทบจะหักลงตรงนั้น

ในขณะที่ซิลเวียถูกบีบคออย่างแรงจนคอแทบจะหักเธอก็เปิดปากแล้วก็ถุยน้ำลายใส่หน้าอีกฝ่ายพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“ถุย ข้ายังไม่ตายเลยนะไอ้หมึกดำ”

ซิลเวียกล่าวอย่างดูแคลนเสร็จ ในพริบตาต่อมานั้นเองจู่ๆ มือขวาของเธอก็แทงไปที่ตาซ้ายอีกฝ่ายอย่างรุนแรงโดยอีกฝ่ายไม่สามารถหลบหลีกได้

เพราะว่านิ้วซิลเวียนั้นเป็นนิ้วที่มองไม่เห็น ไม่มีทั้งระยะและเวลา ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ราวกับเป็นมือที่มองไม่เห็น

ในชั่วพริบตาที่นิ้วมือขวาถูกแทงเข้าไปในตาของมันนั้นเอง ดวงตาของมันก็ราวกับถูกไฟร้อนแผดเผาลุกไหม้ใส่ดวงตา

ความเจ็บแสบที่ยากจะบรรยายแผ่ซ่านออกมาจากตา ความเจ็บปวดที่ร้อนแผดเผานี่เกิดจากของบางอย่างที่ซิลเวียได้รับเมื่อนานมาแล้ว

แน่นอนว่าในโลกของเหล่าเทพย่อมมีสิ่งที่เหนือจินตนาการของคนทั่วไปมากมาย หนึ่งในนั้นคือนิ้วมรณะเมื่อครู่นี้

นิ้วนั้นไม่มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงหรือสามารถแทงทุกอย่างได้โดยไม่สนพลังป้องกัน.. มันคือพลังของภูต..

จะพูดให้ถูกก็คือซิลเวียได้สร้างภูตเทียมขึ้นมาในความว่างเปล่าแห่งนี้นั่นเอง และภูตที่ว่าคือภูตแห่งเพลิง..

แน่นอนว่าพูดถึงภูตก็ต้องหมายถึงสิ่งที่เรียกว่าแนวคิด.. และแนวคิดก็เป็นสิ่งเหนือล้ำที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจควบคุมแม้แต่เทพ

หรือแม้แต่เลวี่ที่สามารถใช้เวทมนตร์แฟร์รี่ได้ก็จริงก็ไม่สามารถควบคุมภูตได้ คนที่สามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จคงมีแค่เลทิเซีย

แต่ที่ซิลเวียใช้มันไม่ใช่การใช้พลังจากภูตที่อยู่ในต้นกำเนิด.. แต่เป็นการสร้างภูตไฟขึ้นมาเองเพื่อโจมตี… พูดง่ายๆ ก็คือมันคือเพลิงที่จะแผดเผาสรรพสิ่ง

ทันทีที่เพลิงที่มองไม่เห็นลุกไหม้บนดวงตาซ้ายของหมึกในรูปร่างสตรี ก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันบ้างคลั่งของมัน

ความเจ็บปวดที่ถูกไฟแห่งภูตเผาไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถยกอะไรมาเปรียบเทียบได้.. และแน่นอนว่าที่มันแข็งแกร่งขนาดนี้ก็ต้องมีเงื่อนไขมากมาย

เพราะถึงจะบอกว่าสร้างขึ้นมาก็ตาม แต่ก็เป็นการรังสรรค์แนวคิดขึ้นมาในความว่างเปล่าสุดท้ายมันก็หายไปในพริบตา

และการสร้างแนวคิดไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ ต่อให้เป็นซิลเวียเองก็ตามที เธอสามารถสร้างได้เพียงครั้งเดียว

เพราะที่นี่คือความว่างเปล่าที่แท้จริงหากสร้างขึ้นมาแล้วมันต้องหายไปทันทีแน่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีเชื้อเพลิง..

ถึงจะบอกว่าเชื้อเพลิงแต่ก็แค่หมายถึงอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ความว่างเปล่า ไม่ว่าจะเลทิเซีย ซิลเวียหรือแม้แต่ศัตรูตรงหน้า

เพราะในจังหวะที่สร้างมันขึ้นมามันจะหายไป ก็หมายความว่าขอแค่สร้างและจุดให้มันติดบนตัวอีกฝ่ายก่อนก็พอ

เพราะพอภูตแห่งไฟที่เธอสร้างขึ้นมาหายไป.. ไฟก็จะไม่หายตราบใดที่มันแผดเผาบางอย่างอยู่ ซึ่งนั่นก็คืออีกฝ่าย

เพลิงนี้ไม่มีทางดับได้เด็ดขาดหากไม่ใช้ภูตแหงน้ำมาดับ นั่นแหละคือความน่ากลัวที่แท้จริงของไฟแห่งภูตนี้

แถมยังมากไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยาย เพราะภูตแห่งไฟนั้นเปรียบเสมือนกับตัวแทนของไฟทั้งหมด

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไฟที่ลุกไหม้บนตาของหมึกในรูปร่างสตรีตอนนี้.. คือไฟที่รุนแรงและมีพลานุภาพแผดเผาที่ทรมานที่สุดบนต้นกำเนิดแห่งนี้!

“อ้ากกกกกก”

มันกรีดร้องอย่างทรมานมือที่บีบคอซิลเวียอยู่ก็ปล่อยจนทำให้เธอร่วงลงกับพื้น ก่อนที่ซิลเวียจะจับแขนเลทิเซียเอาไว้

“พวกแก.. พวกแก!”

มันกรีดร้อง ไฟที่มองไม่เห็นค่อยๆ แผดเผาเบ้าตาข้างซ้ายจนแม้แต่ดวงตาของมันก็เริ่มไหม้ ผิวหนังก็เริ่มฉีกขาดดูน่ากลัวอย่างยิ่ง

ซิลเวียจับแขนเลทิเซียถอยหลังไปไกล.. เพราะที่แห่งนี้ไม่มีระยะและพื้นที่ที่ชัดเจน บางทีก็ถอยไม่ไป บางทีก็เคลื่อนไหวไม่ได้

แต่บางทีก็หายวับไปไกล.. และพอซิลเวียและเลทิเซียถอยออกไปจู่ๆ ร่างของพวกเธอก็หายวับไปจากสายตาของหมึกที่กำลังถูกไฟแผดเผา

“พวกแก อ้ากกกก ตาข้า ตาข้าๆ ”

มันกรีดร้องโหยหวยเต็มไปด้วยความทรมาน… ซึ่งไฟสุดแสนจะอันตรายนี้ ไม่มีทางที่จะสามารถดับมันได้ด้วยวิธีธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 308

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 308 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 308 – สร้างภูต

 

แต่ไม่ว่าจะมีความรู้สึกมากมายอัดแน่นภายในอกขนาดไหนเลทิเซียก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนอะไรได้

สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงจะจำกัดทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอเอง แต่ยังเป็นเหมือนสวนหลังบ้านของศัตรู

ไม่ว่าจะเป็นความโกรธหรือความบ้าคลั่งล้วนไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ในที่แห่งนี้ อีกครั้งเป็นอีกครั้งที่เธอไร้ทางต้าน

มองดูซิลเวียที่กรีดร้องทรมานอยู่เบื้องหน้าเหมือนกับมีคมดาบมากมายกรีดเฉือนลงบนหน้าอกของเธอ

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ซิลเวียเองก็เป็นคนที่เลทิเซียแคร์และให้ความสำคัญ… บางทีเลทิเซียอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

การอยู่กับซิลเวียมันทำให้เธอรู้สึกรำคาญ.. นั่นคือสิ่งที่เลทิเซียแสดงออกต่อซิลเวียก่อนหน้านั้น ซึ่งการแสดงออกแบบนั้นมันต้องทำให้ซิลเวียมีเสียใจบ้าง

สำหรับเลทิเซียบางทีเธอคงมีอคติต่อซิลเวียตั้งแต่วันแรกที่ร่วงลงมาจากฟ้า เลทิเซียคิดอยู่ตลอดว่าเธอนั้นเป็นเหมือนคนที่ตัวเองไม่ชอบมากที่สุด

ไม่สิ ถ้าจะให้พูดเลทิเซียแค่ไม่เข้าใจซิลเวียเท่านั้น ทำไมเธอถึงเกาะติด.. ทำไมเธอถึงพยายามเข้าใกล้

ทำไมเธอถึงพยายามแสดงด้วยการแสดงห่วยๆ ของตัวเองเหมือนจะหลอกเลทิเซีย ทุกอย่างมันทำให้เลทิเซียเกิดอคติต่อซิลเวียไม่รู้ตัว

แต่แน่นอนว่าตลอดช่วงเวลาตั้งแต่เด็กจนโตเลทิเซียก็คลุกคลีอยู่กับซิลเวียมาเช่นกัน

และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เลทิเซียก็สัมผัสถึงความรู้สึกอันแปลกประหลาดขึ้นมาเช่นกัน..

บางครั้งบางที ซิลเวียก็จะทำสีหน้าเหมือนกับพี่เอลน่าในโลกเดิมของเลทิเซีย ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะเธอคิดไปเองก็ได้

แต่บางครั้งซิลเวียก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับพี่สาวไม่มีผิด.. จนบางครั้งเลทิเซียก็เผลอตัวคล้อยตามเธอ..

อาจจะเป็นเพราะแบบนั้นเองที่ทำให้เลทิเซียอคติต่อซิลเวีย เพราะสำหรับเลทิเซียแล้วพี่สาวในโลกเดิมที่เสียไปแล้วนั้น

คือคนที่วิเศษที่สุด เธอนั้นเป็นคนที่พาครอบครัวสามพี่น้องก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นพี่สาวจึงเป็นคนที่สำคัญสำหรับเลทิเซียมาก

ดังนั้นพอซิลเวียที่ทำตัวประหลาดเหมือนพี่ที่ตัวเองทั้งเคารพทั้งบูชา เป็นธรรมดาที่จะไม่พอใจอยู่บ้าง

ดังนั้นเลทิเซียจึงแสดงท่าทางรำคาญที่มีต่อซิลเวียในบางครั้งบางครา หากเป็นเลทิเซียในอดีตเธอคงไม่ได้คิดอะไรมากกับท่าทางของตัวเอง

แต่พอมามองในตอนนี้เลทิเซียกลับรู้สึกผิดต่อซิลเวียเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ซิลเวียไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อตนเองจึงไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร

การกระทำเลทิเซียที่มีต่อซิลเวียควรจะเป็นด้านบวกแต่เลทิเซียกลับถูกอคติบดบังสายตา..

อย่างไรก็ตามเพราะในอดีตเคยอยู่ด้วยกันมานานพอเลทิเซียนั้นเปลี่ยนไปดังนั้นความรู้สึกที่ไม่เคยแสดงออกมาต่อหน้าซิลเวีย

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่อยุ่ด้วยกันมาหรือแม้แต่การที่ซิลเวียไม่เคยมีเจตนาร้ายต่อเลทิเซียเลย แม้เลทิเซียจะแสดงท่าทางเช่นนั้นก็ตาม

ดังนั้นเลทิเซียจึงคิดว่าซิลเวียเองก็เป็นเพื่อนคนสำคัญ.. เธอเป็นคนที่ไม่เคยทิ้งเลทิเซียและอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน

ฝึกด้วยกัน … ความรู้สึกอันดีที่มีต่อซิลเวียไม่ต่างจากความรู้สึกที่เลทิเซียมีให้ต่อคนสำคัญคนอื่นเลย

ในตอนแรกเลทิเซียคงรู้สึกผิดต่อซิลเวียมากๆ แค่นั้นเองแต่แน่นอนว่าเวลาผ่านไป ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมามันก็ขัดเกลาความรู้สึกของทั้งสอง..

ค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาจนท้ายที่สุดจึงสามารถเรียกได้ว่าเพื่อนอย่างเต็มปาก เพราะแบบนั้นแหละ เลทิเซียที่สาบานว่าจะไม่ให้คนสำคัญต้องเจ็บปวดอีกแล้ว

ไม่อยากเห็นเหล่าคนสำคัญหรือไม่อยากเห็นการสูญเสียอีกแล้ว

เสียงคำรามที่ราวกับสัตว์ประหลาดหลุดออกมาจากลำคอของเลทิเซีย ความโกรธระเบิดปะทุออกมาจากเบื้องล่าง

ดวงตาที่เงยหน้าขึ้นมองหมึกในร่างสตรีเพศเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง แต่มันกลับไม่กลัวสายตานั้น ไม่สิ ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องกลัว

ที่นี่คือดินแดนของมัน ที่นี่มันคือพระเจ้า มันคือผู้ควบคุม กล่าวอีกนัยหนึ่งมันคือ.. พระเจ้า!!

“ดูสภาพเจ้าตอนนี้สิ ดูไม่เหมือนคนที่สามารถลบข้าได้เลยนะ ฮ่าๆ ”

มันหัวเราะร่าอย่างพึงพอใจ ในขณะที่มือบีบคอซิลเวียแรงขึ้นอีกจนคอเธอแทบจะหักลงตรงนั้น

ในขณะที่ซิลเวียถูกบีบคออย่างแรงจนคอแทบจะหักเธอก็เปิดปากแล้วก็ถุยน้ำลายใส่หน้าอีกฝ่ายพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“ถุย ข้ายังไม่ตายเลยนะไอ้หมึกดำ”

ซิลเวียกล่าวอย่างดูแคลนเสร็จ ในพริบตาต่อมานั้นเองจู่ๆ มือขวาของเธอก็แทงไปที่ตาซ้ายอีกฝ่ายอย่างรุนแรงโดยอีกฝ่ายไม่สามารถหลบหลีกได้

เพราะว่านิ้วซิลเวียนั้นเป็นนิ้วที่มองไม่เห็น ไม่มีทั้งระยะและเวลา ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ราวกับเป็นมือที่มองไม่เห็น

ในชั่วพริบตาที่นิ้วมือขวาถูกแทงเข้าไปในตาของมันนั้นเอง ดวงตาของมันก็ราวกับถูกไฟร้อนแผดเผาลุกไหม้ใส่ดวงตา

ความเจ็บแสบที่ยากจะบรรยายแผ่ซ่านออกมาจากตา ความเจ็บปวดที่ร้อนแผดเผานี่เกิดจากของบางอย่างที่ซิลเวียได้รับเมื่อนานมาแล้ว

แน่นอนว่าในโลกของเหล่าเทพย่อมมีสิ่งที่เหนือจินตนาการของคนทั่วไปมากมาย หนึ่งในนั้นคือนิ้วมรณะเมื่อครู่นี้

นิ้วนั้นไม่มีพลังทำลายล้างที่รุนแรงหรือสามารถแทงทุกอย่างได้โดยไม่สนพลังป้องกัน.. มันคือพลังของภูต..

จะพูดให้ถูกก็คือซิลเวียได้สร้างภูตเทียมขึ้นมาในความว่างเปล่าแห่งนี้นั่นเอง และภูตที่ว่าคือภูตแห่งเพลิง..

แน่นอนว่าพูดถึงภูตก็ต้องหมายถึงสิ่งที่เรียกว่าแนวคิด.. และแนวคิดก็เป็นสิ่งเหนือล้ำที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจควบคุมแม้แต่เทพ

หรือแม้แต่เลวี่ที่สามารถใช้เวทมนตร์แฟร์รี่ได้ก็จริงก็ไม่สามารถควบคุมภูตได้ คนที่สามารถควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จคงมีแค่เลทิเซีย

แต่ที่ซิลเวียใช้มันไม่ใช่การใช้พลังจากภูตที่อยู่ในต้นกำเนิด.. แต่เป็นการสร้างภูตไฟขึ้นมาเองเพื่อโจมตี… พูดง่ายๆ ก็คือมันคือเพลิงที่จะแผดเผาสรรพสิ่ง

ทันทีที่เพลิงที่มองไม่เห็นลุกไหม้บนดวงตาซ้ายของหมึกในรูปร่างสตรี ก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันบ้างคลั่งของมัน

ความเจ็บปวดที่ถูกไฟแห่งภูตเผาไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถยกอะไรมาเปรียบเทียบได้.. และแน่นอนว่าที่มันแข็งแกร่งขนาดนี้ก็ต้องมีเงื่อนไขมากมาย

เพราะถึงจะบอกว่าสร้างขึ้นมาก็ตาม แต่ก็เป็นการรังสรรค์แนวคิดขึ้นมาในความว่างเปล่าสุดท้ายมันก็หายไปในพริบตา

และการสร้างแนวคิดไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ ต่อให้เป็นซิลเวียเองก็ตามที เธอสามารถสร้างได้เพียงครั้งเดียว

เพราะที่นี่คือความว่างเปล่าที่แท้จริงหากสร้างขึ้นมาแล้วมันต้องหายไปทันทีแน่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีเชื้อเพลิง..

ถึงจะบอกว่าเชื้อเพลิงแต่ก็แค่หมายถึงอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ความว่างเปล่า ไม่ว่าจะเลทิเซีย ซิลเวียหรือแม้แต่ศัตรูตรงหน้า

เพราะในจังหวะที่สร้างมันขึ้นมามันจะหายไป ก็หมายความว่าขอแค่สร้างและจุดให้มันติดบนตัวอีกฝ่ายก่อนก็พอ

เพราะพอภูตแห่งไฟที่เธอสร้างขึ้นมาหายไป.. ไฟก็จะไม่หายตราบใดที่มันแผดเผาบางอย่างอยู่ ซึ่งนั่นก็คืออีกฝ่าย

เพลิงนี้ไม่มีทางดับได้เด็ดขาดหากไม่ใช้ภูตแหงน้ำมาดับ นั่นแหละคือความน่ากลัวที่แท้จริงของไฟแห่งภูตนี้

แถมยังมากไปด้วยความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยาย เพราะภูตแห่งไฟนั้นเปรียบเสมือนกับตัวแทนของไฟทั้งหมด

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไฟที่ลุกไหม้บนตาของหมึกในรูปร่างสตรีตอนนี้.. คือไฟที่รุนแรงและมีพลานุภาพแผดเผาที่ทรมานที่สุดบนต้นกำเนิดแห่งนี้!

“อ้ากกกกกก”

มันกรีดร้องอย่างทรมานมือที่บีบคอซิลเวียอยู่ก็ปล่อยจนทำให้เธอร่วงลงกับพื้น ก่อนที่ซิลเวียจะจับแขนเลทิเซียเอาไว้

“พวกแก.. พวกแก!”

มันกรีดร้อง ไฟที่มองไม่เห็นค่อยๆ แผดเผาเบ้าตาข้างซ้ายจนแม้แต่ดวงตาของมันก็เริ่มไหม้ ผิวหนังก็เริ่มฉีกขาดดูน่ากลัวอย่างยิ่ง

ซิลเวียจับแขนเลทิเซียถอยหลังไปไกล.. เพราะที่แห่งนี้ไม่มีระยะและพื้นที่ที่ชัดเจน บางทีก็ถอยไม่ไป บางทีก็เคลื่อนไหวไม่ได้

แต่บางทีก็หายวับไปไกล.. และพอซิลเวียและเลทิเซียถอยออกไปจู่ๆ ร่างของพวกเธอก็หายวับไปจากสายตาของหมึกที่กำลังถูกไฟแผดเผา

“พวกแก อ้ากกกก ตาข้า ตาข้าๆ ”

มันกรีดร้องโหยหวยเต็มไปด้วยความทรมาน… ซึ่งไฟสุดแสนจะอันตรายนี้ ไม่มีทางที่จะสามารถดับมันได้ด้วยวิธีธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+