การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 220

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 220 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 220 – ในฐานะพี่ชาย

 

“อ่อก”

สติของเลมิสทาเรียพร่าเลือน แต่ทว่าแสงในดวงตาของเธอยังไม่หายไป เธอคำรามเสียงแหบพร่าแม้คอจะถูกฟันของเลทิเซียเจาะทะลุไปจนถึงหลอดลม

มือสองข้างสะบัดใส่หน้าเลทิเซียเล็บสองข้างข่วนใส่ใบหน้าเลทิเซีย เพื่อที่จะดึงกรามของเลทิเซียที่งับคอตัวเองอยู่ออก

แต่เลทิเซียกลับไม่สนใจบาดแผลบนหน้าจนดวงตาถูกทำลายไปทั้งสองข้างเธอสะบัดร่างงของเลมิสทาเรียอย่างทารุณ เหมือนกับจรเข้ได้เหยื่อ

หรือจิ้งจอกโจมตีศัตรู จนเลมิสทาเรียไม่หายใจและตายคาปากของเลทิเซียลมหายใจหยุดนิ่ง และการดิ้นรนหยุดลง

เลทิเซียแม้ดวงตาจะมืดบอดแต่เธอก็สามารถสัมผัสทุกอย่างรอบด้านได้ผ่านจิตสัมผัส และบาดแผลของเซเรสในที่สุดก็สามารถรักษาได้

ความเป็นจริงฝีมือการรักษาของเลทิเซียนั้นอยู่เหนือกว่าหมอบนโลกนี้ไปไกลมาก เพราะในโลกเดิมเขาอยู่นั้นมันมีกระทั่งการสร้างอวัยวะเทียม

ที่มีจุลินทรีย์ราวกับอวัยวะของจริงเลย ดังนั้นความเข้าใจต่อโครงสร้างของอวัยวะภายในเลทิเซียรู้ดีกว่าคนบนโลกนี้เยอะ

แถมยังมีของสะดวกสบายอย่างเวทมนตร์อีก ที่เป็นปัญหาคือการรั้งให้เซเรสไม่ตาย เพราะร่างกายมนุษย์นั้นอ่อนแอ

ถึงแม้ในเชิงกายภาพร่างกายเซเรสอาจจะแข็งแกร่งกว่าเธอ แต่พูดในแง่ความตายยากปีศาจเหนือกว่ามนุษย์

ดังนั้นเธอจึงไม่ตายทันที อาจจะเป็นเพราะทั้งๆ ที่ถูกควักหัวใจไปแล้วไม่ตายทันที ทำให้มีเรื่องเล่าว่าปีศาจนั้นมีสองหัวใจ

ทั้งที่ความจริงแค่เพราะปีศาจมีพลังเวทเยอะ แม้หัวใจหายไปร่างกายก็จะใช้พลังเวทในการขับเคลื่อนเม็ดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย

อย่างน้อยก็ภายในสิบนาทีจะไม่ตายในทันทีอย่างแน่ แน่นอนว่าทุกอย่างมันเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดของปีศาจเหมือนที่มนุษย์ไม่สามารถกลั้นหายใจจนตายนั่นแหละ

ภายใต้การรักษาของเลทิเซียหน้าอกของเซเรสก็ถูกปิด หัวใจกลับมาเต้นดังเดิมโชคดีที่เลทิเซียรั้งเธอให้ไม่ตายได้

ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะรักษาบาดแผลนั้นเอง เสียงจากที่ห่างไกลก็ดังขึ้น เป็นเพราะพลังรักษาทั้งหมดถูกถ่ายเทไปหาเซเรส

ทำให้สภาพเลทิเซียยังไม่ฟื้นฟู แม้ตาสองข้างจะถูกทำลายแต่เธอก็ยังได้ยินเสียง

“ยิงได้!!!”

ตามมาด้วยเสียงห่าฝนของลูกธนู แถวนี้มีต้นไม้อยู่ไม่น้อย ธนูยิงมาจากระยะไกลขนาดนั้นไม่มีทางโดนแน่ๆ

แน่นอนว่าฟังจากเสียงที่อยู่ไกลออกไปนะ แต่ถ้านั่นมันธนูธรรมดาละก็นะ.. เพราะถ้าเป็นธนูไฟทุกอย่างจะกลับกัน

แน่นอนว่าเลทิเซียยกระโดดถอยหลังหอบเอาร่างเซเรสและร่างสเตฟานี่ที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา ไม่ทันได้รักษาบาดแผลเธอเก็บทั้งคู่ลงมิติพิเศษที่สร้างขึ้นใหม่

และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลูกธนูลูกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปักที่ไหล่ขวาเลทิเซียที่สูญเสียตา ความแสบร้อนแผ่ซ่านไปทั่วไหล่

ธนูไฟ! แต่แค่นั้นยังพอว่าเพราะในวินาทีต่อมาหัวธนูก็เหมือนจะคำสั่งบางอย่างทำงาน

“ตู้ม”

เสียงกรีดร้องดังออกจากปากเลทิเซียไหล่ของเธอแหว่งเป็นรู ส่วนแขนขวาก็เหมือนจะขาดได้แทบทุกเวลา

สภาพของเลทิเซียในยามนี้เหมือนกับซอมบี้ไม่มีผิด หน้าอกเป็นรู ไหล่ถูกระเบิด ตาสองข้างมีเลือดไหลออกมา แต่ยังไม่ตาย

อายความร้อนแผ่ออกมาจากทุกสารทิศเพราะเหมือนอีกฝ่ายจะต้องการเผาเลทิเซียทั้งเป็นแน่นอนว่าห่างไกลออกไปมีไบรอัสยืนอยู่

ด้านหลังเขามีกองทัพนับแสนราวกับกำลังจะไปทำสงคราม สำหรับทหารเหล่านี้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์สงครามก็จริง

แต่พวกเขาก็ถูกฝึกมาดีเช่นกัน แม้จะมีคำถามมากมายว่าทำไมองค์ราชาถึงทรงเสด็จออกมาสั่งการเอง แถมเอากองทัพนับแสนมาทำไม

เหล่าผู้บัญชาการที่งงกับคำสั่งแต่ก็ยิงธนูไฟตามคำสั่ง เรียกกองทหารนับแสนมาเพื่อเผาป่า.. นี่มันเรื่องอะไร…?

นี่เป็นแผนสำรองของเลมิสทาเรียและไบรอัส กองทัพเหล่านี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อกำจัดเลทิเซียโดยตรงแต่อย่างใด

พวกเขาแค่เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ก่อนเพราะไม่ว่าจะชิงร่างเลทิเซียสำเร็จหรือไม่คนที่มาหาเรื่องเขาจะต้องเป็นอาณาจักรอาเดฟแน่ๆ

เพราะเลทิเซียนี่เป็นลูกสาวของผู้กล้าและเทพธิดานั่น

แต่เรื่องน่าตลกก็คือ ไม่เพียงแต่ไม่สำเร็จแต่ยังต้องใช้กองทัพที่เตรียมจัดการกับเหตุคับขันอีก

ในตอนนั้นเองท่ามกลางป่าที่ลุกไปด้วยกองไฟมีคนคนหนึ่งเดินออกมา ทหารทุกคนอ้าปากค้างมีคนอยู่ในนั้นจริงๆ ?

ในขณะที่พวกเขาขมวดคิ้วจ้องไปที่เงาร่างที่เดินออกมาจากกองไฟสลับไปหาไบรอัส..

“ท่านพี่…”

เลมิสทาเรียยังไม่ตาย! แม้สภาพในตอนนี้เธอยังเหมือนตอนที่ถูกเลทิเซียฆ่า คอถูกกัดจนแหว่งบาดแผลสาหัสทั่วร่าง

ไม่เพียงแค่นั้นที่เท้ายังมีไฟไหม้จนเห็นกระดูกอีกต่างหาก ทหารทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างพากันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

นี่คนตรงหน้าไปเจอสัตว์ประหลาดอะไรมา.. แน่นอนว่าตัวตนของเลมิสทาเรียไม่ได้ถูกเปิดเผย แม้คนทั้งโลกจะรู้ว่าไบรอัสมีน้องสาว

แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าน้องสาวไบรอัสหน้าตายังไง แต่จากการเรียกเมื่อกี้เหล่าทหารคงพอคาดเดากันได้บ้างแล้ว

แต่ว่า.. ถ้าคนตรงหน้าเป็นผู้กล้าที่ว่าเป็นน้องสาวของไบรอัส.. แล้วไปเจอตัวอะไรมาถึงได้มีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้

หรือมันจะเกี่ยวข้องกับที่ท้องฟ้าตอนนี้กลายเป็นยามค่ำ ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางวัน พวกเขาไปยั่วปีศาจชนิดไหนกัน

มังกรเหรอ แต่ของแบบนั้นไม่น่าจะมีเหลืออยู่บนทวีปนี้อีกแล้ว หรือว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดลึกลับที่ยังไม่เคยเผยตัวตน

แต่เลมิสทาเรียเป็นถึงผู้กล้าเชียวนะ.. สัตว์ประหลาดที่ทำให้ผู้กล้ามีสภาพเวทนาเหมือนตายไปแล้วทั้งเป็นนี่… อาณาจักรนี้มีสัตว์ประหลาดแบบนั้นอาศัยอยู่งั้นเหรอ!!

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นไปทั่วกองทัพ พอไบรอัสเห็นน้องสาวเขาก็พอเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันทีรีบวิ่งไปหาเลมิสทาเรีย

“เจ้า….”

“ข้าตายไปแล้ว.. ตอนนี้เหลือวิญญาณแค่เจ็ดดวงเท่านั้น…”

“ทำไมเจ้าถึงได้โง่ขนาดนี้ ถ้าไม่ไหวก็ให้รีบหนีออกมา รู้ไหมว่าถ้าวิญญาณที่หลอมรวมแล้วหายไปต่อให้แค่วิญญาณเดียวก็ตาม ดวงวิญญาณของเจ้าก็ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถหลอมรัววิญญาณไปเป็นร้อยปีน่ะ”

ไบรอัสบ่นพร้อมกับรักษาบาดแผลเลมิสทาเรียด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ บาดแผลของเลมิสทาเรียหายวับไปในพริบตาเดียว

“ถ้าหากข้าทำได้ ข้าทำไปนานแล้ว.. ท่านพี่.. เด็กนั่นน่ะมันสัตว์ประหลาด”

“หึ.. สัตว์ประหลาดหรือจอมมาร แต่บังอาจมาฆ่าน้องข้าเห้นทีว่าจะหนีไม่ได้แล้วล่ะ”

ไบรอัสกัดฟันพูดหลังจากคิดถึงสภาพบาดแผลของเลมิสทาเรียเส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้าของเขา..

เขาไม่ได้คิดว่าการที่ตัวเองทำเรื่องเหล่านี้ลงไปมันผิด เพราะว่าทุกอย่างที่พวกเขาทำไปก็เพื่อพวกเขาสองคน

ต่อให้ต้องฆ่าไปมากแค่ไหน ต่อให้จะผ่านศพไปมากเท่าไหร่พวกเขาจะยังก้าวต่อไป.. เพื่อไปให้ถึงปลายทางที่พวกเขาวาดฝันไว้

และในตอนนี้ มันมีไอ้หมากในกระดานตัวหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะเดินตามที่วางไว้ แผนนับร้อยปีพังไม่เป็นท่า

แต่เรื่องแบบนั้นจะยังไงก็ช่างสำหรับเขา หากแผนพังก็ถอยกลับไปตั้งหลักก็พอ เขารู้ว่าเด็กที่ชื่อเลทิเซียน่ะแข็งแกร่งไม่งั้น..คงทำน้องสาเขาไม่ได้ขนาดนี้

การถอยไปตั้งหลักถือเป็นแผนกการที่ดีที่สุด แต่จะมีใครบ้างที่ทนเห็นน้องสาวตัวเองตายไปแล้วทนนิ่งเฉยได้

นี่ถ้าหากเพราะไม่ผสานรวมวิญญาณไปละก็ ชีวิตพวกเขาคงมีชีวิตเดียว น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาคงลาจากโลกไปแล้ว

ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้าง.. แต่เขาต้องล้างแค้นให้น้องสาวเขาให้ได้.. นี่ไม่ใช่ฐานะผู้ชั่วร้ายหรือผู้กล้าอะไรทั้งสิ้น

แต่ในฐานะพี่ชาย!

ใช่แล้วความโกรธของเขามันเหมือนกับตอนที่… เลทิเซียโกรธเมื่อเลวี่ถูกทำร้ายไม่มีผิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 220

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 220 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 220 – ในฐานะพี่ชาย

 

“อ่อก”

สติของเลมิสทาเรียพร่าเลือน แต่ทว่าแสงในดวงตาของเธอยังไม่หายไป เธอคำรามเสียงแหบพร่าแม้คอจะถูกฟันของเลทิเซียเจาะทะลุไปจนถึงหลอดลม

มือสองข้างสะบัดใส่หน้าเลทิเซียเล็บสองข้างข่วนใส่ใบหน้าเลทิเซีย เพื่อที่จะดึงกรามของเลทิเซียที่งับคอตัวเองอยู่ออก

แต่เลทิเซียกลับไม่สนใจบาดแผลบนหน้าจนดวงตาถูกทำลายไปทั้งสองข้างเธอสะบัดร่างงของเลมิสทาเรียอย่างทารุณ เหมือนกับจรเข้ได้เหยื่อ

หรือจิ้งจอกโจมตีศัตรู จนเลมิสทาเรียไม่หายใจและตายคาปากของเลทิเซียลมหายใจหยุดนิ่ง และการดิ้นรนหยุดลง

เลทิเซียแม้ดวงตาจะมืดบอดแต่เธอก็สามารถสัมผัสทุกอย่างรอบด้านได้ผ่านจิตสัมผัส และบาดแผลของเซเรสในที่สุดก็สามารถรักษาได้

ความเป็นจริงฝีมือการรักษาของเลทิเซียนั้นอยู่เหนือกว่าหมอบนโลกนี้ไปไกลมาก เพราะในโลกเดิมเขาอยู่นั้นมันมีกระทั่งการสร้างอวัยวะเทียม

ที่มีจุลินทรีย์ราวกับอวัยวะของจริงเลย ดังนั้นความเข้าใจต่อโครงสร้างของอวัยวะภายในเลทิเซียรู้ดีกว่าคนบนโลกนี้เยอะ

แถมยังมีของสะดวกสบายอย่างเวทมนตร์อีก ที่เป็นปัญหาคือการรั้งให้เซเรสไม่ตาย เพราะร่างกายมนุษย์นั้นอ่อนแอ

ถึงแม้ในเชิงกายภาพร่างกายเซเรสอาจจะแข็งแกร่งกว่าเธอ แต่พูดในแง่ความตายยากปีศาจเหนือกว่ามนุษย์

ดังนั้นเธอจึงไม่ตายทันที อาจจะเป็นเพราะทั้งๆ ที่ถูกควักหัวใจไปแล้วไม่ตายทันที ทำให้มีเรื่องเล่าว่าปีศาจนั้นมีสองหัวใจ

ทั้งที่ความจริงแค่เพราะปีศาจมีพลังเวทเยอะ แม้หัวใจหายไปร่างกายก็จะใช้พลังเวทในการขับเคลื่อนเม็ดเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกาย

อย่างน้อยก็ภายในสิบนาทีจะไม่ตายในทันทีอย่างแน่ แน่นอนว่าทุกอย่างมันเป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดของปีศาจเหมือนที่มนุษย์ไม่สามารถกลั้นหายใจจนตายนั่นแหละ

ภายใต้การรักษาของเลทิเซียหน้าอกของเซเรสก็ถูกปิด หัวใจกลับมาเต้นดังเดิมโชคดีที่เลทิเซียรั้งเธอให้ไม่ตายได้

ในขณะที่เลทิเซียกำลังจะรักษาบาดแผลนั้นเอง เสียงจากที่ห่างไกลก็ดังขึ้น เป็นเพราะพลังรักษาทั้งหมดถูกถ่ายเทไปหาเซเรส

ทำให้สภาพเลทิเซียยังไม่ฟื้นฟู แม้ตาสองข้างจะถูกทำลายแต่เธอก็ยังได้ยินเสียง

“ยิงได้!!!”

ตามมาด้วยเสียงห่าฝนของลูกธนู แถวนี้มีต้นไม้อยู่ไม่น้อย ธนูยิงมาจากระยะไกลขนาดนั้นไม่มีทางโดนแน่ๆ

แน่นอนว่าฟังจากเสียงที่อยู่ไกลออกไปนะ แต่ถ้านั่นมันธนูธรรมดาละก็นะ.. เพราะถ้าเป็นธนูไฟทุกอย่างจะกลับกัน

แน่นอนว่าเลทิเซียยกระโดดถอยหลังหอบเอาร่างเซเรสและร่างสเตฟานี่ที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมา ไม่ทันได้รักษาบาดแผลเธอเก็บทั้งคู่ลงมิติพิเศษที่สร้างขึ้นใหม่

และในเวลาเดียวกันนั้นเอง ลูกธนูลูกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาปักที่ไหล่ขวาเลทิเซียที่สูญเสียตา ความแสบร้อนแผ่ซ่านไปทั่วไหล่

ธนูไฟ! แต่แค่นั้นยังพอว่าเพราะในวินาทีต่อมาหัวธนูก็เหมือนจะคำสั่งบางอย่างทำงาน

“ตู้ม”

เสียงกรีดร้องดังออกจากปากเลทิเซียไหล่ของเธอแหว่งเป็นรู ส่วนแขนขวาก็เหมือนจะขาดได้แทบทุกเวลา

สภาพของเลทิเซียในยามนี้เหมือนกับซอมบี้ไม่มีผิด หน้าอกเป็นรู ไหล่ถูกระเบิด ตาสองข้างมีเลือดไหลออกมา แต่ยังไม่ตาย

อายความร้อนแผ่ออกมาจากทุกสารทิศเพราะเหมือนอีกฝ่ายจะต้องการเผาเลทิเซียทั้งเป็นแน่นอนว่าห่างไกลออกไปมีไบรอัสยืนอยู่

ด้านหลังเขามีกองทัพนับแสนราวกับกำลังจะไปทำสงคราม สำหรับทหารเหล่านี้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์สงครามก็จริง

แต่พวกเขาก็ถูกฝึกมาดีเช่นกัน แม้จะมีคำถามมากมายว่าทำไมองค์ราชาถึงทรงเสด็จออกมาสั่งการเอง แถมเอากองทัพนับแสนมาทำไม

เหล่าผู้บัญชาการที่งงกับคำสั่งแต่ก็ยิงธนูไฟตามคำสั่ง เรียกกองทหารนับแสนมาเพื่อเผาป่า.. นี่มันเรื่องอะไร…?

นี่เป็นแผนสำรองของเลมิสทาเรียและไบรอัส กองทัพเหล่านี้ไม่ได้สร้างมาเพื่อกำจัดเลทิเซียโดยตรงแต่อย่างใด

พวกเขาแค่เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ก่อนเพราะไม่ว่าจะชิงร่างเลทิเซียสำเร็จหรือไม่คนที่มาหาเรื่องเขาจะต้องเป็นอาณาจักรอาเดฟแน่ๆ

เพราะเลทิเซียนี่เป็นลูกสาวของผู้กล้าและเทพธิดานั่น

แต่เรื่องน่าตลกก็คือ ไม่เพียงแต่ไม่สำเร็จแต่ยังต้องใช้กองทัพที่เตรียมจัดการกับเหตุคับขันอีก

ในตอนนั้นเองท่ามกลางป่าที่ลุกไปด้วยกองไฟมีคนคนหนึ่งเดินออกมา ทหารทุกคนอ้าปากค้างมีคนอยู่ในนั้นจริงๆ ?

ในขณะที่พวกเขาขมวดคิ้วจ้องไปที่เงาร่างที่เดินออกมาจากกองไฟสลับไปหาไบรอัส..

“ท่านพี่…”

เลมิสทาเรียยังไม่ตาย! แม้สภาพในตอนนี้เธอยังเหมือนตอนที่ถูกเลทิเซียฆ่า คอถูกกัดจนแหว่งบาดแผลสาหัสทั่วร่าง

ไม่เพียงแค่นั้นที่เท้ายังมีไฟไหม้จนเห็นกระดูกอีกต่างหาก ทหารทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างพากันกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

นี่คนตรงหน้าไปเจอสัตว์ประหลาดอะไรมา.. แน่นอนว่าตัวตนของเลมิสทาเรียไม่ได้ถูกเปิดเผย แม้คนทั้งโลกจะรู้ว่าไบรอัสมีน้องสาว

แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าน้องสาวไบรอัสหน้าตายังไง แต่จากการเรียกเมื่อกี้เหล่าทหารคงพอคาดเดากันได้บ้างแล้ว

แต่ว่า.. ถ้าคนตรงหน้าเป็นผู้กล้าที่ว่าเป็นน้องสาวของไบรอัส.. แล้วไปเจอตัวอะไรมาถึงได้มีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้

หรือมันจะเกี่ยวข้องกับที่ท้องฟ้าตอนนี้กลายเป็นยามค่ำ ทั้งๆ ที่เป็นตอนกลางวัน พวกเขาไปยั่วปีศาจชนิดไหนกัน

มังกรเหรอ แต่ของแบบนั้นไม่น่าจะมีเหลืออยู่บนทวีปนี้อีกแล้ว หรือว่าจะเป็นสัตว์ประหลาดลึกลับที่ยังไม่เคยเผยตัวตน

แต่เลมิสทาเรียเป็นถึงผู้กล้าเชียวนะ.. สัตว์ประหลาดที่ทำให้ผู้กล้ามีสภาพเวทนาเหมือนตายไปแล้วทั้งเป็นนี่… อาณาจักรนี้มีสัตว์ประหลาดแบบนั้นอาศัยอยู่งั้นเหรอ!!

เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นไปทั่วกองทัพ พอไบรอัสเห็นน้องสาวเขาก็พอเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทันทีรีบวิ่งไปหาเลมิสทาเรีย

“เจ้า….”

“ข้าตายไปแล้ว.. ตอนนี้เหลือวิญญาณแค่เจ็ดดวงเท่านั้น…”

“ทำไมเจ้าถึงได้โง่ขนาดนี้ ถ้าไม่ไหวก็ให้รีบหนีออกมา รู้ไหมว่าถ้าวิญญาณที่หลอมรวมแล้วหายไปต่อให้แค่วิญญาณเดียวก็ตาม ดวงวิญญาณของเจ้าก็ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถหลอมรัววิญญาณไปเป็นร้อยปีน่ะ”

ไบรอัสบ่นพร้อมกับรักษาบาดแผลเลมิสทาเรียด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ บาดแผลของเลมิสทาเรียหายวับไปในพริบตาเดียว

“ถ้าหากข้าทำได้ ข้าทำไปนานแล้ว.. ท่านพี่.. เด็กนั่นน่ะมันสัตว์ประหลาด”

“หึ.. สัตว์ประหลาดหรือจอมมาร แต่บังอาจมาฆ่าน้องข้าเห้นทีว่าจะหนีไม่ได้แล้วล่ะ”

ไบรอัสกัดฟันพูดหลังจากคิดถึงสภาพบาดแผลของเลมิสทาเรียเส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้าของเขา..

เขาไม่ได้คิดว่าการที่ตัวเองทำเรื่องเหล่านี้ลงไปมันผิด เพราะว่าทุกอย่างที่พวกเขาทำไปก็เพื่อพวกเขาสองคน

ต่อให้ต้องฆ่าไปมากแค่ไหน ต่อให้จะผ่านศพไปมากเท่าไหร่พวกเขาจะยังก้าวต่อไป.. เพื่อไปให้ถึงปลายทางที่พวกเขาวาดฝันไว้

และในตอนนี้ มันมีไอ้หมากในกระดานตัวหนึ่งที่ไม่แม้แต่จะเดินตามที่วางไว้ แผนนับร้อยปีพังไม่เป็นท่า

แต่เรื่องแบบนั้นจะยังไงก็ช่างสำหรับเขา หากแผนพังก็ถอยกลับไปตั้งหลักก็พอ เขารู้ว่าเด็กที่ชื่อเลทิเซียน่ะแข็งแกร่งไม่งั้น..คงทำน้องสาเขาไม่ได้ขนาดนี้

การถอยไปตั้งหลักถือเป็นแผนกการที่ดีที่สุด แต่จะมีใครบ้างที่ทนเห็นน้องสาวตัวเองตายไปแล้วทนนิ่งเฉยได้

นี่ถ้าหากเพราะไม่ผสานรวมวิญญาณไปละก็ ชีวิตพวกเขาคงมีชีวิตเดียว น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาคงลาจากโลกไปแล้ว

ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้าง.. แต่เขาต้องล้างแค้นให้น้องสาวเขาให้ได้.. นี่ไม่ใช่ฐานะผู้ชั่วร้ายหรือผู้กล้าอะไรทั้งสิ้น

แต่ในฐานะพี่ชาย!

ใช่แล้วความโกรธของเขามันเหมือนกับตอนที่… เลทิเซียโกรธเมื่อเลวี่ถูกทำร้ายไม่มีผิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+