การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 157

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 157 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 – พบเจอ

 

ตอนนี้ยังคงเป็นตอนกลางคืนที่มีเมฆปกคลุมทำให้แสงจันทร์ไม่อาจส่องมาถึงที่แห่งนี้ได้

สภาพเบื้องล่างนี้เละเทะอย่างมากกลิ่นเลือดตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่ โดยมีร่างของคนคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ จ้องมองไปที่กองเนื้อตรงหน้า

ผมสีดำยาวปกคลุมใบหน้ากลิ่นอายที่อบอวลไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจลอยฟุ้ง ราวกับว่าเป็นหญิงสาวที่สูญเสียสามีสุดที่รักไป

เธอค่อยๆ ย่อตัวลง.. เธอไม่ได้มองไปที่ซากศพของซิลฟี่ แต่มองไปที่ชาร์ล็อตที่นอนอยู่เธอเอามือลูบใบหน้าของชาร์ล็อต

แตะไปที่คอของเธอ.. น้ำใสสะอาดหยดลงจากใบหน้าของเธอ ก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างๆ ชาร์ล็อตเงียบๆ

สายตาจ้องไปที่ชาร์ล็อตไม่กะพริบจันทราเคลื่อนจนลาลับตะวันโผล่พ้นพื้นดิน วันเวลาไหลผ่านไปอาจจะหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น

ในที่สุดเปลือกตาของชาร์ล็อตก็ขยับขึ้นเบาๆ ดวงตาของกหญิงสาวคนนั้นก็สั่นไหวเล็กน้อย

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“เจ้า…”

พอชาร์ล็อตเห็นหญิงสาวผมดำเธอก็ตกใจกลัวทันที อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณหรืออะไรสักอย่างที่หวาดกลัวต่อมนุษย์ของเธอ

แต่ก่อนที่ชาร์ล็อตจะได้พูดจบสายตาก็หันไปเห็นซากศพเหม็นโฉ่ของซิลฟี่.. พอเธอเห็นแบบนั้นภาพก่อนที่จะร่วงจากหน้าผาก็วิ่งพรวดกลับเข้ามาในสมอง

ร่างของชาร์ล็อตสั่นสะท้านเธอรีบวิ่งเข้าไปหาซิลฟี่ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ แถมยังส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา

“ซิลฟี่!! ซิลฟี่!!”

“เธอตายไปแล้ว..”

“ไม่. ไม่!! แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว! ข้าไปทำอะไรให้กัน ข้าทำอะไรผิด ทำไมถึงต้องตาย! ข้า..”

เสียงร่ำไห้ของชาร์ล็อตดังขึ้นจนเธอแสบคอ หญิงสาวผมดำคนนั้นพอได้ยินคำพูดของชาร์ล็อตไหล่ของเธอก็สั่นเบาๆ

เธอก้มหัวลงและวางมันลงกับพื้น.. ราวกับว่าศักดิ์ศรีความเป็นผู้ใหญ่ของเธอนั้นไม่มีมาตั้งแต่แรก เธอได้แต่ก้มหัวลงกับพื้น

ราวกับกำลังขอไถ่โทษ..

“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ.. มันเป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉัน…”

แม้ว่าชาร์ล็อตจะเป็นแค่เด็กแต่พอเธอได้ยินคำพูดของหญิงสาวไม่ทราบชื่อคนนี้ เธอก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่า…

บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะดูอยู่ตั้งแต่แรกแต่เธอไม่เข้ามาช่วย และอาจจะเป็นเพราะความโกรธบดบังดวงตา

ทั้งตัวเธอยังไม่ไตร่ตรองหรือเคยสัมผัสกับความโกรธ พอมีคนมาขอโทษเพราะบอกว่าตัวเองผิด ดังนั้นความโกรธและความเศร้าเสียใจจึงหันไปลงที่ผู้หญิงคนนี้

“ทำไม!! เจ้าถึงไม่ช่วย! ทำไม!! เจ้าที่ดูอยู่ถึงไม่ช่วยข้า! ทำไมถึงดูอยู่เฉยๆ! ไอ้การขอโทษแล้วมันทำให้ใครฟื้นคืนกลับมาไหม!?”

เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังของชาร์ล็อตทำเอาหญิงสาวลึกลับคนนั้นเบิกตากว้างพร้อมกับยกหัวขึ้นแล้วฟาดลงกับพื้นพร้อมกัดฟัน

“เป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉันปล่อย…”

บางทีเหตุผลที่เธอเอาหัวฟาดพื้นซ้ำไปซ้ำมาอาจจะพยายามขอการให้อภัยชาร์ล็อต หรือมันอาจจะเป็นเพราะเธออยากจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไหนหญิงสาวก็ล้วนเจ็บปวดจากใจจริง จนหน้าผากเธอเริ่มแตก เลือดไหล แต่เสียงหัวฟาดพื้นยังคงดังเท่าเดิม

“…”

ชาร์ล็อตที่พอเห็นหญิงสาวไม่ทราบชื่อทำเช่นนี้เธอก็อึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะคิดขึ้นมาได้ว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นเพราะเธอคนนี้สักหน่อย

เหตุผลที่เธอไม่ช่วยอาจจะมีเหตุผลส่วนตัว แต่ยังไงก็ตามแต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ

ชาร์ล็อตรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกผิดขึ้นมา เธอรีบวิ่งเข้าไปหยุดผู้หญิงคนนั้นและห้ามปรามเธอไว้แต่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนสติแตกไปแล้ว

“เป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉัน..”

เสียงของเธอพูดซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับเอาหน้าผากฟาดลงกับพื้นชาร์ล็อตรีบพูดห้าม

“หยุดเถอะ.. หยุดเถอะ ข้าขอโทษ นั่นไม่ใช่ความผิดเจ้า..”

“….”

หญิงสาวลึกลับนั้นหยุดชะงักลงก่อนที่จะสงบอารมณ์ความรู้สึกได้ แต่เธอยังคงเงียบงัน ชาร์ล็อตถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ชาร์ล็อตนี่เก่งจังนะ.. อายุแค่นี้ยัง…”

“เจ้ารู้จักชื่อข้าได้ยังไง.. ไม่สิ ถ้าดูอยู่ก็น่าจะรู้สินะ..”

ชาร์ล็อตที่กำลังสงสัยแต่พอนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงไม่ทราบชื่อคนนี้ดูอยู่ก็ไม่แปลกที่จะรู้ชื่อ แต่ว่าที่ชาร์ล็อตสงสัยคือ

ทำไมเธอถึงทำถึงขนาดนั้นเพื่อขอโทษชาร์ล็อตถึงขนาดนี้ด้วยทั้งที่ทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกัน..

แต่เธอก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลา จากที่เธอเรียนรู้มาจากซิลฟี่เมื่อคนตายจะต้องฝังศพเพื่อไม่ให้ศพเน่าเปื่อย

“ก่อนอื่นฝังศพให้ซิลฟี่..”

เธอพูดขึ้น หญิงสาวลึกลับเห็นแบบนั้นเธอยิ่งชื่นชมชาร์ล็อตแม้แต่การสูญเสียคนสำคัญคนเดียวของตัวเอง

เธอก็ยังคงยืนหยัดกลับมาได้ อันที่จริงอาจจะเป็นเพราะเธอไม่สามารถโทษใครได้ เพราะทุกย่างมมันเป็นเพราะเธอที่อ่อนแอ

และแน่นอนหากตอนนี้เธอไม่มีหญิงสาวแปลกๆ อยู่ด้วย เธอคงนั่งร้องไห้จิตตกเป็นแน่ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่

เธอรู้สึกสงบอย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้… หญิงสาวผมดำคนนั้นพยักหน้าเบาๆ เธอยกมือขึ้น

แผ่นดินก็ถูกแยกออกเป็นมุมอย่างสวยงาม ทำให้ชาร์ล็อตอึ้งและหันไปถามด้วยความสงสัยว่า

“นั่นคืออะไร?”

“เวทมนตร์”

ชาร์ล็อตรู้สึกฉงนสนเท่ห์แต่พอได้รับคำตอบเธอก็เข้าใจทันที เพราะซิลฟี่เคยบอกว่าเวทมนตร์คืออะไรไปแล้วแต่เธอไม่คิดว่าการใช้เวทมนตร์จะสะดวกสบายขนาดนี้

หลังจากนั้นพวกเธอทั้งสองก็ฝังร่างซิลฟี่ ชาร์ล็อตจ้องมองหลุมศพซิลฟี่เงียบๆ .. จากนี้ไปจะไม่มีแล้วคนที่คอยให้อาหารเธอ

ไม่มีแล้วเพื่อนที่คอยพูดคุย ทุกอย่างมันมลายหายไปจนหมดสิ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เธอรู้สึกว่าซิลฟี่สำคัญกับตัวเองขนาดนี้

พอเธอหายไปเธอก็เจ็บปวดขนาดนี้ ตั้งแต่ที่พวกเธอรู้จักกัน.. ใช่ มันคงจะเป็นวันนั้น วันที่ซิลฟี่สอนให้เธอรู้จักเนื้อ

เนื้อที่อร่อยนั่น.. ท้องของชาร์ล็อตร้องขึ้น หญิงสาวลึกลับก็เดินมาจากด้านหลังก่อนที่จะยื่นกล่องข้าวกล่องหนึ่งที่มีเนื้ออยู่ด้านใน

ชาร์ล็อตรู้สึกปวดร้าว หากเธอรู้ว่าการที่รับกล่องข้าวมาตอนนั้นจะนำพามาสู่จุดจบนี้ บางทีเธออาจจะปัดมือใส่…

มือของเธอปัดใส่กล่องข้าวจนมันหล่นลงพื้น เข่าเธอค่อยๆ ทรุดลง.. เธอกลัว.. กลัวเหลือเกิน

กลัวที่จะมีจุดจบแบบนี้ เสียงสะอึกของเธอดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงร้องแห่งความโกรธแค้น แต่เป็นเศร้าโศกเสียใจ

เธอกลัวที่จะเจ็บปวดแบบนี้ จนอาจจะปิดกั้นหัวใจของตัวเอง บางทีปมในครั้งนี้มันอาจจะเปลี่ยนเธอไปเป็นคนละคน

ตัวชาร์ล็อตจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปในที่สุด ใช่แล้วทุกอย่างนั้นถูกเปลี่ยนไปตามกระแสของสรรพสิ่ง

ซึ่งอาจจะเกิดจาก สภาพแวดล้อม สิ่งรอบข้างต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยคนหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง

ซึ่งหญิงสาวคนรั้นปฏิเสธสิ่งนั้น.. ใช่ เธอต้องการให้ชาร์ล็อตคือเด็กไร้เดียงสาเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นใครอื่น

ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ คงจะเป็นใครสักคน.. ใครสักคนที่จะไปยืนอยู่ในใจของเธอตรงจุดจุดนั้น

หญิงสาวคนนั้นกัดริมฝีปากเบาๆ เธอไม่ได้ลูบหัวชาร์ล็อตเพื่อปลอบ แต่เธอกอดชาร์ล็อตจากด้านหลัง

“ไม่เป็นไรหรอก.. เธอยังมีฉันและในอนาคตพอเติบโตขึ้นเธอจะต้องเจอคนที่สำคัญแน่ๆ ….”

“แต่ว่า.. ทุกคน..แม้แต่เจ้าเองก็.. อาจจะต้องตายเพราะข้า..”

“….”

หญิงสาวไม่ทราบชื่อเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะยกมือขึ้นชี้ขึ้นท้องฟ้า ท่ามกลางราตรีที่มืดมิดถูกบดบังเสียงจันทราและดวงดาราจะม่านหมอกของก้อนเมฆ

“เรื่องนั้นน่ะ..”

และในพริบตานั้นเองจู่ๆ ก้อนเมฆที่บดบังแสงจากฟากฟ้าที่ลอยอยู่กลางนภาพลันถูกแยกออกจากกันโดยมีจุดที่มือของหญิงสาวคนนั้นชี้ขึ้นไปเป็นจุดศูนย์กลาง

ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ.. เธอค่อยๆ เบิกตากว้างขึ้น…

และหญิงสาวคนนั้นก็พูดขึ้นอีกรอบอย่างมั่นใจว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก.. ก็เพราะว่าฉันน่ะ แข็งแกร่งสุดๆ ยังไงล่ะ”

 

………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 157

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 157 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 – พบเจอ

 

ตอนนี้ยังคงเป็นตอนกลางคืนที่มีเมฆปกคลุมทำให้แสงจันทร์ไม่อาจส่องมาถึงที่แห่งนี้ได้

สภาพเบื้องล่างนี้เละเทะอย่างมากกลิ่นเลือดตลบอบอวลไปทั่วพื้นที่ โดยมีร่างของคนคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ จ้องมองไปที่กองเนื้อตรงหน้า

ผมสีดำยาวปกคลุมใบหน้ากลิ่นอายที่อบอวลไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจลอยฟุ้ง ราวกับว่าเป็นหญิงสาวที่สูญเสียสามีสุดที่รักไป

เธอค่อยๆ ย่อตัวลง.. เธอไม่ได้มองไปที่ซากศพของซิลฟี่ แต่มองไปที่ชาร์ล็อตที่นอนอยู่เธอเอามือลูบใบหน้าของชาร์ล็อต

แตะไปที่คอของเธอ.. น้ำใสสะอาดหยดลงจากใบหน้าของเธอ ก่อนที่เธอจะนั่งลงข้างๆ ชาร์ล็อตเงียบๆ

สายตาจ้องไปที่ชาร์ล็อตไม่กะพริบจันทราเคลื่อนจนลาลับตะวันโผล่พ้นพื้นดิน วันเวลาไหลผ่านไปอาจจะหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น

ในที่สุดเปลือกตาของชาร์ล็อตก็ขยับขึ้นเบาๆ ดวงตาของกหญิงสาวคนนั้นก็สั่นไหวเล็กน้อย

“ตื่นแล้วเหรอ?”

“เจ้า…”

พอชาร์ล็อตเห็นหญิงสาวผมดำเธอก็ตกใจกลัวทันที อาจจะเป็นเพราะสัญชาตญาณหรืออะไรสักอย่างที่หวาดกลัวต่อมนุษย์ของเธอ

แต่ก่อนที่ชาร์ล็อตจะได้พูดจบสายตาก็หันไปเห็นซากศพเหม็นโฉ่ของซิลฟี่.. พอเธอเห็นแบบนั้นภาพก่อนที่จะร่วงจากหน้าผาก็วิ่งพรวดกลับเข้ามาในสมอง

ร่างของชาร์ล็อตสั่นสะท้านเธอรีบวิ่งเข้าไปหาซิลฟี่ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ แถมยังส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา

“ซิลฟี่!! ซิลฟี่!!”

“เธอตายไปแล้ว..”

“ไม่. ไม่!! แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปแล้ว! ข้าไปทำอะไรให้กัน ข้าทำอะไรผิด ทำไมถึงต้องตาย! ข้า..”

เสียงร่ำไห้ของชาร์ล็อตดังขึ้นจนเธอแสบคอ หญิงสาวผมดำคนนั้นพอได้ยินคำพูดของชาร์ล็อตไหล่ของเธอก็สั่นเบาๆ

เธอก้มหัวลงและวางมันลงกับพื้น.. ราวกับว่าศักดิ์ศรีความเป็นผู้ใหญ่ของเธอนั้นไม่มีมาตั้งแต่แรก เธอได้แต่ก้มหัวลงกับพื้น

ราวกับกำลังขอไถ่โทษ..

“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ.. มันเป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉัน…”

แม้ว่าชาร์ล็อตจะเป็นแค่เด็กแต่พอเธอได้ยินคำพูดของหญิงสาวไม่ทราบชื่อคนนี้ เธอก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่า…

บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะดูอยู่ตั้งแต่แรกแต่เธอไม่เข้ามาช่วย และอาจจะเป็นเพราะความโกรธบดบังดวงตา

ทั้งตัวเธอยังไม่ไตร่ตรองหรือเคยสัมผัสกับความโกรธ พอมีคนมาขอโทษเพราะบอกว่าตัวเองผิด ดังนั้นความโกรธและความเศร้าเสียใจจึงหันไปลงที่ผู้หญิงคนนี้

“ทำไม!! เจ้าถึงไม่ช่วย! ทำไม!! เจ้าที่ดูอยู่ถึงไม่ช่วยข้า! ทำไมถึงดูอยู่เฉยๆ! ไอ้การขอโทษแล้วมันทำให้ใครฟื้นคืนกลับมาไหม!?”

เสียงกรีดร้องอันสิ้นหวังของชาร์ล็อตทำเอาหญิงสาวลึกลับคนนั้นเบิกตากว้างพร้อมกับยกหัวขึ้นแล้วฟาดลงกับพื้นพร้อมกัดฟัน

“เป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉันปล่อย…”

บางทีเหตุผลที่เธอเอาหัวฟาดพื้นซ้ำไปซ้ำมาอาจจะพยายามขอการให้อภัยชาร์ล็อต หรือมันอาจจะเป็นเพราะเธออยากจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าจะอย่างไหนหญิงสาวก็ล้วนเจ็บปวดจากใจจริง จนหน้าผากเธอเริ่มแตก เลือดไหล แต่เสียงหัวฟาดพื้นยังคงดังเท่าเดิม

“…”

ชาร์ล็อตที่พอเห็นหญิงสาวไม่ทราบชื่อทำเช่นนี้เธอก็อึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะคิดขึ้นมาได้ว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นเพราะเธอคนนี้สักหน่อย

เหตุผลที่เธอไม่ช่วยอาจจะมีเหตุผลส่วนตัว แต่ยังไงก็ตามแต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ

ชาร์ล็อตรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกผิดขึ้นมา เธอรีบวิ่งเข้าไปหยุดผู้หญิงคนนั้นและห้ามปรามเธอไว้แต่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนคนสติแตกไปแล้ว

“เป็นเพราะฉัน.. เป็นเพราะฉัน..”

เสียงของเธอพูดซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับเอาหน้าผากฟาดลงกับพื้นชาร์ล็อตรีบพูดห้าม

“หยุดเถอะ.. หยุดเถอะ ข้าขอโทษ นั่นไม่ใช่ความผิดเจ้า..”

“….”

หญิงสาวลึกลับนั้นหยุดชะงักลงก่อนที่จะสงบอารมณ์ความรู้สึกได้ แต่เธอยังคงเงียบงัน ชาร์ล็อตถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ชาร์ล็อตนี่เก่งจังนะ.. อายุแค่นี้ยัง…”

“เจ้ารู้จักชื่อข้าได้ยังไง.. ไม่สิ ถ้าดูอยู่ก็น่าจะรู้สินะ..”

ชาร์ล็อตที่กำลังสงสัยแต่พอนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงไม่ทราบชื่อคนนี้ดูอยู่ก็ไม่แปลกที่จะรู้ชื่อ แต่ว่าที่ชาร์ล็อตสงสัยคือ

ทำไมเธอถึงทำถึงขนาดนั้นเพื่อขอโทษชาร์ล็อตถึงขนาดนี้ด้วยทั้งที่ทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องกัน..

แต่เธอก็รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลา จากที่เธอเรียนรู้มาจากซิลฟี่เมื่อคนตายจะต้องฝังศพเพื่อไม่ให้ศพเน่าเปื่อย

“ก่อนอื่นฝังศพให้ซิลฟี่..”

เธอพูดขึ้น หญิงสาวลึกลับเห็นแบบนั้นเธอยิ่งชื่นชมชาร์ล็อตแม้แต่การสูญเสียคนสำคัญคนเดียวของตัวเอง

เธอก็ยังคงยืนหยัดกลับมาได้ อันที่จริงอาจจะเป็นเพราะเธอไม่สามารถโทษใครได้ เพราะทุกย่างมมันเป็นเพราะเธอที่อ่อนแอ

และแน่นอนหากตอนนี้เธอไม่มีหญิงสาวแปลกๆ อยู่ด้วย เธอคงนั่งร้องไห้จิตตกเป็นแน่ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่ามันไม่ใช่

เธอรู้สึกสงบอย่างไม่น่าเชื่อเมื่ออยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้… หญิงสาวผมดำคนนั้นพยักหน้าเบาๆ เธอยกมือขึ้น

แผ่นดินก็ถูกแยกออกเป็นมุมอย่างสวยงาม ทำให้ชาร์ล็อตอึ้งและหันไปถามด้วยความสงสัยว่า

“นั่นคืออะไร?”

“เวทมนตร์”

ชาร์ล็อตรู้สึกฉงนสนเท่ห์แต่พอได้รับคำตอบเธอก็เข้าใจทันที เพราะซิลฟี่เคยบอกว่าเวทมนตร์คืออะไรไปแล้วแต่เธอไม่คิดว่าการใช้เวทมนตร์จะสะดวกสบายขนาดนี้

หลังจากนั้นพวกเธอทั้งสองก็ฝังร่างซิลฟี่ ชาร์ล็อตจ้องมองหลุมศพซิลฟี่เงียบๆ .. จากนี้ไปจะไม่มีแล้วคนที่คอยให้อาหารเธอ

ไม่มีแล้วเพื่อนที่คอยพูดคุย ทุกอย่างมันมลายหายไปจนหมดสิ้น ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เธอรู้สึกว่าซิลฟี่สำคัญกับตัวเองขนาดนี้

พอเธอหายไปเธอก็เจ็บปวดขนาดนี้ ตั้งแต่ที่พวกเธอรู้จักกัน.. ใช่ มันคงจะเป็นวันนั้น วันที่ซิลฟี่สอนให้เธอรู้จักเนื้อ

เนื้อที่อร่อยนั่น.. ท้องของชาร์ล็อตร้องขึ้น หญิงสาวลึกลับก็เดินมาจากด้านหลังก่อนที่จะยื่นกล่องข้าวกล่องหนึ่งที่มีเนื้ออยู่ด้านใน

ชาร์ล็อตรู้สึกปวดร้าว หากเธอรู้ว่าการที่รับกล่องข้าวมาตอนนั้นจะนำพามาสู่จุดจบนี้ บางทีเธออาจจะปัดมือใส่…

มือของเธอปัดใส่กล่องข้าวจนมันหล่นลงพื้น เข่าเธอค่อยๆ ทรุดลง.. เธอกลัว.. กลัวเหลือเกิน

กลัวที่จะมีจุดจบแบบนี้ เสียงสะอึกของเธอดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงร้องแห่งความโกรธแค้น แต่เป็นเศร้าโศกเสียใจ

เธอกลัวที่จะเจ็บปวดแบบนี้ จนอาจจะปิดกั้นหัวใจของตัวเอง บางทีปมในครั้งนี้มันอาจจะเปลี่ยนเธอไปเป็นคนละคน

ตัวชาร์ล็อตจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปในที่สุด ใช่แล้วทุกอย่างนั้นถูกเปลี่ยนไปตามกระแสของสรรพสิ่ง

ซึ่งอาจจะเกิดจาก สภาพแวดล้อม สิ่งรอบข้างต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยคนหนึ่งไปโดยสิ้นเชิง

ซึ่งหญิงสาวคนรั้นปฏิเสธสิ่งนั้น.. ใช่ เธอต้องการให้ชาร์ล็อตคือเด็กไร้เดียงสาเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นใครอื่น

ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ คงจะเป็นใครสักคน.. ใครสักคนที่จะไปยืนอยู่ในใจของเธอตรงจุดจุดนั้น

หญิงสาวคนนั้นกัดริมฝีปากเบาๆ เธอไม่ได้ลูบหัวชาร์ล็อตเพื่อปลอบ แต่เธอกอดชาร์ล็อตจากด้านหลัง

“ไม่เป็นไรหรอก.. เธอยังมีฉันและในอนาคตพอเติบโตขึ้นเธอจะต้องเจอคนที่สำคัญแน่ๆ ….”

“แต่ว่า.. ทุกคน..แม้แต่เจ้าเองก็.. อาจจะต้องตายเพราะข้า..”

“….”

หญิงสาวไม่ทราบชื่อเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะยกมือขึ้นชี้ขึ้นท้องฟ้า ท่ามกลางราตรีที่มืดมิดถูกบดบังเสียงจันทราและดวงดาราจะม่านหมอกของก้อนเมฆ

“เรื่องนั้นน่ะ..”

และในพริบตานั้นเองจู่ๆ ก้อนเมฆที่บดบังแสงจากฟากฟ้าที่ลอยอยู่กลางนภาพลันถูกแยกออกจากกันโดยมีจุดที่มือของหญิงสาวคนนั้นชี้ขึ้นไปเป็นจุดศูนย์กลาง

ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ.. เธอค่อยๆ เบิกตากว้างขึ้น…

และหญิงสาวคนนั้นก็พูดขึ้นอีกรอบอย่างมั่นใจว่า

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก.. ก็เพราะว่าฉันน่ะ แข็งแกร่งสุดๆ ยังไงล่ะ”

 

………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+