การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 358

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 358 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 358 – การเดินทางข้ามเวลา

 

และในวันนั้นเอง.. วินาทีนั้นเอง… ไม่สิ คงจำกัดทุกสิ่งอย่างด้วยคำว่าเวลาไม่ได้ในดินแดนแห่งนี้เพราะ..ทันทีที่สายตาเลทิเซียกวาดผ่านที่แห่งหนึ่ง..

บนฟ้าที่มีเพียงความมืดที่แต่งแต้มด้วยแสงดาราที่รังสรรค์มาจากต้นกำเนิดที่แท้จริง.. มันอาจจะไม่ใช่บนฟ้าก็ได้แต่เป็นบนพื้น..

หรือด้านซ้ายหรือขวา.. เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แม้แต่เลทิเซีย.. ทว่าทันทีที่เธอมองไปนั้นเธอกลับเห็นบันไดแสงบันไดหนึ่ง..

มันชัดเจนเหนือสิ่งอื่นใด… บันไดแสงนี้เป็นขั้นๆ … ต่อขึ้นไปจนถึงประตูสีขาวบานหนึ่ง ไม่รู้ว่าเลทิเซียตาฝาดไปเองหรือเปล่า

เพราะในทันทีที่เลทิเซียมองเห็นเธอราวกับมองเห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่แสนจะธรรมดา ธรรมดาอย่างหาที่เปรียบ

คนคนนั้นเป็นสตรีผมสีไหนไม่อาจจะจำแนกได้ แต่รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิงเธอคนนั้นกำลังนั่งจ้องมองหนังสือในมือ..

หนังสือในมือเธอนั้นพอเลทิเซียมองเห็นเธอราวกับเห็นโลกทุกอย่างทั้งใบ.. ไม่ว่าจะเป็นผืนหญ้า ดอกไม้ สิงสาราสัตว์..

…และ..เธอเห็นแม้แต่ชื่อตัวเองที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนั้น

แม้สตรีนางนั้นจะไม่ได้มองมาทางนี้ แต่เลทิเซียกลับรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังมองมาที่ตัวเองเสียอย่างน่าประหลาด!

“แม่มด” (Witch)

ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดขึ้นมาแบบนั้น แต่ทันทีที่ทุกอย่างบังเกิดขึ้นคำพูดที่เลทิเซียไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็หลุดออกมาจากปากอย่างน่าเหลือเชื่อ

แต่ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ามามันเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป เพราะในแทบจะทันทีร่างกายของเลทิเซียก็ถูกเหวี่ยงดึงลงกลับคืนสู่ต้นกำเนิดดั้งเดิมของเธอ

ร่างกายของเลทิเซียสั่นสะท้านเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเธอนึกถึงเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นก็ขนลุกอย่างช่วยไม่ได้

เธอรีบสะบัดความคิดทั้งหมดออกไป.. ก่อนที่จะก้มมองลงไปที่มือตัวเอง มือสองข้างนี้มีพลังแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง..

“นี่มัน…”

เลทิเซียพึมพำเบาๆ พลางวาดมือไปข้างหน้าเป็นแนวตั้งจากบนลงล่าง.. วินาทีที่เธอทำเช่นนั้นราวกับว่าภาพตรงหน้าเธอถูกฝ่ามือเลทิเซียตัดแยกออกจากกัน

ภายในรอยแยกที่เลทิเซียแยกออกนั้นข้างในมีกระแสบางอย่างที่พุ่งไหลผ่านราวกับกระแสน้ำเป็นแนวตรง

กระแสนี้ไม่ได้พุ่งออกมายังด้านนอกแต่ภายในนั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยระลอกอันรุนแรง บางทีหากคนธรรมดาเข้าไปพวกเข้าคงจะไม่มีทางดับหรือสลาย

แต่ติดวนเวียนอยู่สายน้ำแห่งกาลเวลานี้จนท้ายที่สุดกก็จิตใจแตกสลายราวกับซากศพที่มีชีวิตเลยกระมัง

แต่สำหรับเลทิเซียนั้นเธอไม่ลังเลที่จะก้าวขาเข้าไปในรอยแยกนั้นทันทีพร้อมกับกล่าวพึมพำว่า..

“สเตฟานี่.. โคลเอ้.. เซเรส.. อันน่า.. ซิลเวีย.. ไวท์.. ทสึรุ.. ชาร์ล็อต…รอก่อนนะ.. ฉันจะไปช่วยพวกเธอเดี๋ยวนี้แหละ.. ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตนี้ก็ตาม”

เพียงพริบตาที่ร่างกายเลทิเซียเหยียบย่างเข้าสู่โลกแห่งกระแสกาลเวลา.. ร่างกายเลทิเซียราวกับเป็นกรวดในน้ำ..

ปากกระอักเลือดคำใหญ่ออกมาทันที.. สมองราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ .. แม้เลทิเซียจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่การทวนกระแสน้ำแห่งกาลเวลาระดับต้นกำเนิดที่แท้จริงนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลตัวเกินไป

แต่ทว่าเลทิเซียไม่เคยคิดจะยอมถอย เธอกัดริมฝีปากเบาๆ .. ยกมือขึ้นสร้างลูกบาศก์สีดำออกมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับขยายให้มันห่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้

ยังดีที่ผลออกมาเป็นบก เพราะกระแสน้ำแห่งกาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเลทิเซียได้อีกต่อไป.. แต่ว่าวันนี้เธอรีดเค้นสร้างลูกบาศก์นี้ออกมาสองรอบแล้ว

ท่านี้ไม่ใช่ท่าที่ใช้พลังงานนิดหน่อย แต่ทุกครั้งที่ใช้ต้องใช้พลังทุกอย่างในร่างกายถึงจะสร้างมาได้ ดังนั้นเลทิเซียที่รีดเค้นพลังทั้งหมดออกมาถึงสองรอบแบบนี้มันส่งผลให้ผมของเธอยุ่งเหยิง

ร่างกายซูบผอมลงไปหลายส่วน.. สภาพของเธอในยามนี้ไม่น่าดูเท่าไหร่ ไม่มีแรงกระทั่งเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำทำให้ผมของเธอปกปิดใบหน้าตัวเองเอาไว้

เธอก้าวเดินทวนกระแสกาลเวลาไปอย่างช้าๆ .. รอบด้านนั้นมีภาพฉากต่างๆ อยู่.. เป็นฉากที่ชาร์ล็อตตาย..

ก้าวไปอีกก้าวก็เป็นฉากที่ทสึรุต่อสู้และโดดลงทะเลสาบพร้อมกับคนอีกสามสิบสี่คนและทำลายสะพานทิ้ง..

ก้าวไปอีกก้าวก็เป็นภาพต่างๆ ในโลก.. ไม่ใช่แค่ทวีปที่เลทิเซียอยู่..

หนึ่งปีก่อน..สองปีก่อน..

ห้าปีก่อน..

สิบปีก่อน…

“เริ่มจากชาร์ล็อต..”

สิบห้าปีก่อน..

ยี่สิบปีก่อน….

ในขณะที่เลทิเซียมองภาพที่ไหลย้อนกลับไปเหล่านี้นั้น.. ตรงหน้าเธอพลันมีพายุลึกลับปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันจนแม้แต่เลทิเซียก็ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ในตอนนี้เป็นเวลายี่สิบกว่าปีก่อน และก่อนที่เลทิเซียจะทันได้ตกใจ เสียงอามาเระที่ไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นในหัวของเลทิเซีย

“เลทิเซีย ระวังพายุกาลเวลา!!”

แต่มันช้าไปหนึ่งก้าว พายุกาลเวลาโหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ร่างเลทิเซีย จนจี้สีแดงที่อยู่ในมือหลุดออกจากมือไป

ดวงตาเลทิเซียหดเล็กลงแทบจะทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาว่า

“ไม่นะ!”

เธอพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับจะคว้าเอาจี้ แต่ตอนนั้นเองภาพของต้นเหตุที่ทำให้เกิดพายุกาลเวลาก็ฉายออกมา..

ในป่าแถวอาณาจักรอาเดฟมีทารกคนหนึ่งใช้เวทมนตร์เร่งเวลาของโลกพร้อมกับยิงพลุที่สร้างจากพลังเวทออกมา หากว่ากันตามตรงทารกนั้นคงทำอะไรเลทิเซียในตอนนี้ไม่ได้..

แต่น่าเสียดายทารกนั่นคือเลทิเซียเอง! เพราะผลกระทบจากการเร่งเวลาของเลทิเซียทารกแถมยังยิงพลุเวทมนตร์ขึ้นมาแทบจะทันทีนั้นส่งผลให้เกิดพายุแห่งกาลเวลาขึ้น

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเลทิเซียย้อนเวลามันเจอกับตัวเองในอดีตจึงส่งผลให้การระเบิดของพลุนั้นรุนแรงจนน่าตื่นตะลึง

ผสมผสานกับพลังอันพิลึกพิลั่นที่คิดว่าทารกนั้นก็เป็นเลทิเซีย ลูกบาศก์จึงกระตุ้นพลังเลทิเซียทารกขึ้นส่งผลให้พายุแห่งกาลเวลายิ่งแปรปรวนเข้าไปอีก

โชคยังดีที่เพียงพริบตาเดียวมันก็หายไปแล้ว… แต่ลูกบาศก์นั้นกลับสลายหายไปก่อนส่งผลให้เลทิเซียนั้นถูกพายุแห่งกาลเวลาพัดอย่างรุนแรง

แต่ก็ยังดีที่เหมือนจี้สีแดงจะลอยกลับมาเพราะกาลสลายของพายุกาลเวลาพอดี เลทิเซียจึงฉวยโอกาสคว้าเอาจี้สีแดงมาไว้ในมือพร้อมกับถูกพัดออกจากห้วงแห่งการย้อนอดีต..

……

และในดินแดนอันพิศวงนั้น..

ทันทีที่เลทิเซียจากที่แห่งนี้ไป..

โรส.. ก็ปรากฏตัวขึ้นมาในดินแดนอันพิศวงแห่งนั้น ผมสีทองยาวของเธอสยายออกไปราวกับโลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงหรืออะไรทั้งสิ้น

เธอมองไปยังทิศเดียวที่เลทิเซียมองไป.. แต่ว่าตรงนั้นมันราวกับไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว..

ทว่าโรสก็ไม่ได้สนใจนานมากนัก.. เธอก็พูดขึ้น..

“เอาล่ะ.. แค่นี้..ทุกอย่างก็ใกล้จบแล้ว เราไปหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งกันเถอะ..”

โรสกล่าวแบบนั้นก็สลายหายไปจากนั้น….

……

หลังจากที่อาจารย์ชิสุกับผู้หญิงผมสีขาวจากออกมาจากจุดที่เลทิเซียอยู่ ผู้หญิงผมสีขาวก็พูดขึ้น

“จริงๆ .. เธอไม่จำเป็นต้องบอกเธอคนนั้นก็ได้นะ เพราะยังไงอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอก็จะรู้วิธีด้วยตัวเธอเอง”

พอหญิงสาวผมสีขาวกล่าวแบบนั้น อาจารย์ชิสุก็มองไปที่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ.. เธอจ้องไปที่ผู้หญิงผมสีขาว

“บู้ๆ .. ฉันไม่ใช่มารดาแห่งสรรพสิ่งอีกแล้วนะ ตอนนี้ฉันคือชิสึกุต่างหากล่ะ.. ฉันจะไปรู้มุมมองของเทพแบบนายได้ไงล่ะ ริวคุง”

“อีกอย่าง.. ฉันแค่อยากจะช่วยเธอน่ะ.. เพราะว่า…”

หญิงสาวผมสีขาวจ้องไปที่อาจารย์ชิสุ.. ก่อนจะมองไปทางที่จากมาพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง

“เธอค่อนข้างเลอะเลือนแล้วนะเนี่ย”

“นายพึมพำอะไรน่ะ?”

“เปล่า.. ฉันแค่บอกว่าเธอเลอะเลือน.. แต่ไม่เป็นไรนะ ฉันเข้าใจว่าคนแก่อายุเยอะเลอะเลือนง่ายน่ะ”

“ห๊า… ร่างกายนี้น่ะ.. อายุไม่ถึงสามสิบเลยนะจะบอกให้.. ริวคุงนั่นแหละที่แก่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 358

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 358 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 358 – การเดินทางข้ามเวลา

 

และในวันนั้นเอง.. วินาทีนั้นเอง… ไม่สิ คงจำกัดทุกสิ่งอย่างด้วยคำว่าเวลาไม่ได้ในดินแดนแห่งนี้เพราะ..ทันทีที่สายตาเลทิเซียกวาดผ่านที่แห่งหนึ่ง..

บนฟ้าที่มีเพียงความมืดที่แต่งแต้มด้วยแสงดาราที่รังสรรค์มาจากต้นกำเนิดที่แท้จริง.. มันอาจจะไม่ใช่บนฟ้าก็ได้แต่เป็นบนพื้น..

หรือด้านซ้ายหรือขวา.. เรื่องนี้ไม่มีใครรู้แม้แต่เลทิเซีย.. ทว่าทันทีที่เธอมองไปนั้นเธอกลับเห็นบันไดแสงบันไดหนึ่ง..

มันชัดเจนเหนือสิ่งอื่นใด… บันไดแสงนี้เป็นขั้นๆ … ต่อขึ้นไปจนถึงประตูสีขาวบานหนึ่ง ไม่รู้ว่าเลทิเซียตาฝาดไปเองหรือเปล่า

เพราะในทันทีที่เลทิเซียมองเห็นเธอราวกับมองเห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่แสนจะธรรมดา ธรรมดาอย่างหาที่เปรียบ

คนคนนั้นเป็นสตรีผมสีไหนไม่อาจจะจำแนกได้ แต่รู้แค่ว่าเป็นผู้หญิงเธอคนนั้นกำลังนั่งจ้องมองหนังสือในมือ..

หนังสือในมือเธอนั้นพอเลทิเซียมองเห็นเธอราวกับเห็นโลกทุกอย่างทั้งใบ.. ไม่ว่าจะเป็นผืนหญ้า ดอกไม้ สิงสาราสัตว์..

…และ..เธอเห็นแม้แต่ชื่อตัวเองที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนั้น

แม้สตรีนางนั้นจะไม่ได้มองมาทางนี้ แต่เลทิเซียกลับรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังมองมาที่ตัวเองเสียอย่างน่าประหลาด!

“แม่มด” (Witch)

ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดขึ้นมาแบบนั้น แต่ทันทีที่ทุกอย่างบังเกิดขึ้นคำพูดที่เลทิเซียไม่เคยสัมผัสมาก่อนก็หลุดออกมาจากปากอย่างน่าเหลือเชื่อ

แต่ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ว่ามามันเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป เพราะในแทบจะทันทีร่างกายของเลทิเซียก็ถูกเหวี่ยงดึงลงกลับคืนสู่ต้นกำเนิดดั้งเดิมของเธอ

ร่างกายของเลทิเซียสั่นสะท้านเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อเธอนึกถึงเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นก็ขนลุกอย่างช่วยไม่ได้

เธอรีบสะบัดความคิดทั้งหมดออกไป.. ก่อนที่จะก้มมองลงไปที่มือตัวเอง มือสองข้างนี้มีพลังแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง..

“นี่มัน…”

เลทิเซียพึมพำเบาๆ พลางวาดมือไปข้างหน้าเป็นแนวตั้งจากบนลงล่าง.. วินาทีที่เธอทำเช่นนั้นราวกับว่าภาพตรงหน้าเธอถูกฝ่ามือเลทิเซียตัดแยกออกจากกัน

ภายในรอยแยกที่เลทิเซียแยกออกนั้นข้างในมีกระแสบางอย่างที่พุ่งไหลผ่านราวกับกระแสน้ำเป็นแนวตรง

กระแสนี้ไม่ได้พุ่งออกมายังด้านนอกแต่ภายในนั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยระลอกอันรุนแรง บางทีหากคนธรรมดาเข้าไปพวกเข้าคงจะไม่มีทางดับหรือสลาย

แต่ติดวนเวียนอยู่สายน้ำแห่งกาลเวลานี้จนท้ายที่สุดกก็จิตใจแตกสลายราวกับซากศพที่มีชีวิตเลยกระมัง

แต่สำหรับเลทิเซียนั้นเธอไม่ลังเลที่จะก้าวขาเข้าไปในรอยแยกนั้นทันทีพร้อมกับกล่าวพึมพำว่า..

“สเตฟานี่.. โคลเอ้.. เซเรส.. อันน่า.. ซิลเวีย.. ไวท์.. ทสึรุ.. ชาร์ล็อต…รอก่อนนะ.. ฉันจะไปช่วยพวกเธอเดี๋ยวนี้แหละ.. ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตนี้ก็ตาม”

เพียงพริบตาที่ร่างกายเลทิเซียเหยียบย่างเข้าสู่โลกแห่งกระแสกาลเวลา.. ร่างกายเลทิเซียราวกับเป็นกรวดในน้ำ..

ปากกระอักเลือดคำใหญ่ออกมาทันที.. สมองราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ .. แม้เลทิเซียจะแข็งแกร่งขนาดไหน แต่การทวนกระแสน้ำแห่งกาลเวลาระดับต้นกำเนิดที่แท้จริงนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลตัวเกินไป

แต่ทว่าเลทิเซียไม่เคยคิดจะยอมถอย เธอกัดริมฝีปากเบาๆ .. ยกมือขึ้นสร้างลูกบาศก์สีดำออกมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับขยายให้มันห่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้

ยังดีที่ผลออกมาเป็นบก เพราะกระแสน้ำแห่งกาลเวลาไม่สามารถทำอะไรเลทิเซียได้อีกต่อไป.. แต่ว่าวันนี้เธอรีดเค้นสร้างลูกบาศก์นี้ออกมาสองรอบแล้ว

ท่านี้ไม่ใช่ท่าที่ใช้พลังงานนิดหน่อย แต่ทุกครั้งที่ใช้ต้องใช้พลังทุกอย่างในร่างกายถึงจะสร้างมาได้ ดังนั้นเลทิเซียที่รีดเค้นพลังทั้งหมดออกมาถึงสองรอบแบบนี้มันส่งผลให้ผมของเธอยุ่งเหยิง

ร่างกายซูบผอมลงไปหลายส่วน.. สภาพของเธอในยามนี้ไม่น่าดูเท่าไหร่ ไม่มีแรงกระทั่งเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำทำให้ผมของเธอปกปิดใบหน้าตัวเองเอาไว้

เธอก้าวเดินทวนกระแสกาลเวลาไปอย่างช้าๆ .. รอบด้านนั้นมีภาพฉากต่างๆ อยู่.. เป็นฉากที่ชาร์ล็อตตาย..

ก้าวไปอีกก้าวก็เป็นฉากที่ทสึรุต่อสู้และโดดลงทะเลสาบพร้อมกับคนอีกสามสิบสี่คนและทำลายสะพานทิ้ง..

ก้าวไปอีกก้าวก็เป็นภาพต่างๆ ในโลก.. ไม่ใช่แค่ทวีปที่เลทิเซียอยู่..

หนึ่งปีก่อน..สองปีก่อน..

ห้าปีก่อน..

สิบปีก่อน…

“เริ่มจากชาร์ล็อต..”

สิบห้าปีก่อน..

ยี่สิบปีก่อน….

ในขณะที่เลทิเซียมองภาพที่ไหลย้อนกลับไปเหล่านี้นั้น.. ตรงหน้าเธอพลันมีพายุลึกลับปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันจนแม้แต่เลทิเซียก็ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ในตอนนี้เป็นเวลายี่สิบกว่าปีก่อน และก่อนที่เลทิเซียจะทันได้ตกใจ เสียงอามาเระที่ไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นในหัวของเลทิเซีย

“เลทิเซีย ระวังพายุกาลเวลา!!”

แต่มันช้าไปหนึ่งก้าว พายุกาลเวลาโหมกระหน่ำซัดเข้าใส่ร่างเลทิเซีย จนจี้สีแดงที่อยู่ในมือหลุดออกจากมือไป

ดวงตาเลทิเซียหดเล็กลงแทบจะทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาว่า

“ไม่นะ!”

เธอพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับจะคว้าเอาจี้ แต่ตอนนั้นเองภาพของต้นเหตุที่ทำให้เกิดพายุกาลเวลาก็ฉายออกมา..

ในป่าแถวอาณาจักรอาเดฟมีทารกคนหนึ่งใช้เวทมนตร์เร่งเวลาของโลกพร้อมกับยิงพลุที่สร้างจากพลังเวทออกมา หากว่ากันตามตรงทารกนั้นคงทำอะไรเลทิเซียในตอนนี้ไม่ได้..

แต่น่าเสียดายทารกนั่นคือเลทิเซียเอง! เพราะผลกระทบจากการเร่งเวลาของเลทิเซียทารกแถมยังยิงพลุเวทมนตร์ขึ้นมาแทบจะทันทีนั้นส่งผลให้เกิดพายุแห่งกาลเวลาขึ้น

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเลทิเซียย้อนเวลามันเจอกับตัวเองในอดีตจึงส่งผลให้การระเบิดของพลุนั้นรุนแรงจนน่าตื่นตะลึง

ผสมผสานกับพลังอันพิลึกพิลั่นที่คิดว่าทารกนั้นก็เป็นเลทิเซีย ลูกบาศก์จึงกระตุ้นพลังเลทิเซียทารกขึ้นส่งผลให้พายุแห่งกาลเวลายิ่งแปรปรวนเข้าไปอีก

โชคยังดีที่เพียงพริบตาเดียวมันก็หายไปแล้ว… แต่ลูกบาศก์นั้นกลับสลายหายไปก่อนส่งผลให้เลทิเซียนั้นถูกพายุแห่งกาลเวลาพัดอย่างรุนแรง

แต่ก็ยังดีที่เหมือนจี้สีแดงจะลอยกลับมาเพราะกาลสลายของพายุกาลเวลาพอดี เลทิเซียจึงฉวยโอกาสคว้าเอาจี้สีแดงมาไว้ในมือพร้อมกับถูกพัดออกจากห้วงแห่งการย้อนอดีต..

……

และในดินแดนอันพิศวงนั้น..

ทันทีที่เลทิเซียจากที่แห่งนี้ไป..

โรส.. ก็ปรากฏตัวขึ้นมาในดินแดนอันพิศวงแห่งนั้น ผมสีทองยาวของเธอสยายออกไปราวกับโลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงหรืออะไรทั้งสิ้น

เธอมองไปยังทิศเดียวที่เลทิเซียมองไป.. แต่ว่าตรงนั้นมันราวกับไม่มีอะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว..

ทว่าโรสก็ไม่ได้สนใจนานมากนัก.. เธอก็พูดขึ้น..

“เอาล่ะ.. แค่นี้..ทุกอย่างก็ใกล้จบแล้ว เราไปหลบอยู่ที่ไหนสักแห่งกันเถอะ..”

โรสกล่าวแบบนั้นก็สลายหายไปจากนั้น….

……

หลังจากที่อาจารย์ชิสุกับผู้หญิงผมสีขาวจากออกมาจากจุดที่เลทิเซียอยู่ ผู้หญิงผมสีขาวก็พูดขึ้น

“จริงๆ .. เธอไม่จำเป็นต้องบอกเธอคนนั้นก็ได้นะ เพราะยังไงอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอก็จะรู้วิธีด้วยตัวเธอเอง”

พอหญิงสาวผมสีขาวกล่าวแบบนั้น อาจารย์ชิสุก็มองไปที่อีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ.. เธอจ้องไปที่ผู้หญิงผมสีขาว

“บู้ๆ .. ฉันไม่ใช่มารดาแห่งสรรพสิ่งอีกแล้วนะ ตอนนี้ฉันคือชิสึกุต่างหากล่ะ.. ฉันจะไปรู้มุมมองของเทพแบบนายได้ไงล่ะ ริวคุง”

“อีกอย่าง.. ฉันแค่อยากจะช่วยเธอน่ะ.. เพราะว่า…”

หญิงสาวผมสีขาวจ้องไปที่อาจารย์ชิสุ.. ก่อนจะมองไปทางที่จากมาพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่าง

“เธอค่อนข้างเลอะเลือนแล้วนะเนี่ย”

“นายพึมพำอะไรน่ะ?”

“เปล่า.. ฉันแค่บอกว่าเธอเลอะเลือน.. แต่ไม่เป็นไรนะ ฉันเข้าใจว่าคนแก่อายุเยอะเลอะเลือนง่ายน่ะ”

“ห๊า… ร่างกายนี้น่ะ.. อายุไม่ถึงสามสิบเลยนะจะบอกให้.. ริวคุงนั่นแหละที่แก่”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+