การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 270

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 270 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 270 – ชาร์ล็อตงั้นเหรอ–?

 

“ทำไม.. ข้าผิดอะไร…”

ดวงตาไร้ซึ่งแสงของเธอไม่สามารถข่มตาลงหลับได้.. ขอบตาดำคล้ำน่ากลัวผมเผ้ากระเซอะกระเซิงน่าเกลียดน่ากลัว

มีบาดแผลและเลือดอาบโชกไปทั่วทั้งร่างกาย.. เธอไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว.. ทุกครั้งที่เธอถูกเข็มที่มีความร้อนหลายร้อยองศาแทง

เล็บบนนิ้วทุกเล็บที่ถูกถอนอย่างโหดร้ายทารุณ เสียงหัวเราะมีความสุขจากใครที่เธอไม่รู้จักซึ่งเกิดจากความเจ็บปวดของเธอ

ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้.. ตลอดเวลาที่ถูกทรมานคำถามนี้วนซ้ำอยู่ในหัวของเธอตลอดมา..

คนพวกนี้ไม่ฟังแม้แต่คำพูดที่เธอบอก.. ไม่ฟังแม้แต่ความคิดที่เธอจะสื่อ.. ทั้งๆ ที่เป็นคน.. เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเท่ากัน..

แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจจะเสวนา… ทั้งที่บอกจะถามเรื่องบางอย่างกับเธอ.. ทรมาน.. ทรมาน

ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า วนอยู่แบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเทียนที่ให้แสงสว่างในห้องแห่งนี้ดับและถูกจุดใหม่ไปกี่สิบรอบแล้ว

แต่เธอรู้ว่ามันนาน.. ห้าวัน..? สิบวัน..? หรืออาจจะเป็นเดือนเรื่องนั้นไม่มีใครทราบ

ความเจ็บปวดที่เธอได้รับตลอดเวลามันทำให้เธอแทบอยากจะบ้าตาย.. แต่เธอกลับไม่สามารถนอน ไม่สามารถตายได้ด้วยซ้ำ

ทุกครั้งที่สติเธอพร่าเลือนยานั้นก็จะถูกฉีดเข้ามาในร่างของเธออีกครั้ง… มันปลุกเธอจากความตายและดึงสติของเธอกลับพร้อมกับความเจ็บปวด

ทุกครั้ง.. อีกครั้ง.. เป็นอีกครั้ง.. จนท้ายที่สุดดวงตาของเธอก็ดับแสง.. อีกแล้วเหรอ..อีกรอบงั้นเหรอ..

เธอไม่ได้คำตอบ.. ว่าทำไมตนเองต้องมาเจออะไรแบบนี้… บาดแผลทั้งร่างมันเยอะจนน่ากลัว..

แต่ยานั้นกลับสามารถรักษาชีวิตไว้ได้.. เนื่องเพราะมันเป็นยาของเหล่าปีศาจแน่นอนว่ามีผลดีกับมนุษย์เกินคาด

แค่ว่าผลตอบแทนที่ต้องเสียก็มากเกินไป.. ซึ่งมันเหมาะแก่การเอามาทรมานมนุษย์มากกว่าช่วยยื้อชีวิตเสียอีก

ดังนั้นเธอจึงไม่ตาย.. ไม่สิ ตายไม่ได้.. แม้จะผิวซีดเพราะเสียเลือดแต่ยานั้นราวกับทำหน้าที่แทนเลือดได้..

ทุกครั้งที่เธอจะตา เธอก็จะถูกปลุกมาด้วยความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่า….

ผิวแขนและขาทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงอาบโลกไปด้วยเลือด  นั่นไม่ใช่สีแดงของเลือดจากแผลที่ถูกแทง..

แต่เป็นเพราะผิวหนังถูกถลกอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต.. ผิวหนังของเธอถูกถลกออกอย่างช้าๆ ให้สัมผัสกับความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายช้าๆ..

ความเจ็บปวดทั้งหมดมั้งมวลที่เธอได้สัมผัสนั้นเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เพียงแต่มันแทบทำให้เธอบ้าคลั่ง.. น้ำมูก น้ำตาไหลราวกับสายน้ำ

เสียงแหบพร่าแห่งความสิ้นหวังและทรมานมันทำให้เธออยากจะตาย แต่กลับตายไม่ได้..

“…..ทำไม…..”

เธอได้แต่คร่ำครวญด้วยคำพูดที่ไร้เสียง… อาจจะเป็นเพราะเธอมิอาจเปล่งเสียงระบายความเจ็บปวดมันจึงทำให้เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าเดิม

ไร้ซึ่งความช่วยเหลือ.. ไร้ซึ่งคำห่วงใย ไร้ซึ่งความอ่อโยน… มีเพียงทัณฑ์ทรมาน ที่เธอทั้งคร่ำครวญและภาวนาให้ทุกอย่างจบลง

แต่ทุกอย่างที่เธอภาวนานั้นกลับไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ทุกครั้งที่เธอคร่ำครวญขอความช่วยเหลือจากใครมันก็เป็นเหมือนกับค้อนที่ตอกใส่หน้าเธอว่า

ไม่มีใครมาช่วย

ไม่มีใครสนใจ

ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที.. ตัวเธอมันไม่มีใครอยู่แล้ว.. อันน่า เลทิเซียหรือแม้แต่คนคนนั้น.. มันโกหกทั้งเพ..

เป็นเรื่องโกหกที่เธอสร้างมันขึ้นมาเอง..ใช่ ที่อันน่ามีตัวตนขึ้นมาก็เพราะเธอได้ปฏิเสธอันน่า..

ถ้าจะให้พูดว่าอันน่าคือบุคคลที่ห่างไกลจากความรักมากที่สุด.. เธอเองก็คงห่างไกลจากความเกลียดชังที่สุด

เธอไม่เคยรู้ว่าโลกใบนี้มันจะโหดร้ายแบบนี้ ไม่สิ เธอปฏิเสธที่จะรู้จักมันเพราะกลัว.. กลัวว่าจะได้ต่อสู้

กลัวว่าจะได้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวด.. ท่ามกลางความเสียใจ ดังนั้นเธอจึงได้ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าโลกนี้มันมีความโหดร้าย

มีความเจ็บปวด.. เธอหลอกตัวเองมาโดยตลอด หลีกเลี่ยง หลบหนี.. และโยนภาระทุกอย่างให้กับอันน่า..

หากเป็นก่อนหน้าเธอคงไม่รู้ว่าตนเองขาดอะไรไป.. เพราะเธอมีอันน่าคอยอยู่เคียงข้าง

มีอันน่าคอยปกป้องและดูแล.. มีอันน่าคอยเป็นเพื่อนพูดคุย.. สำหรับเธออันน่าคืออีกครึ่งหนึ่งของตัวเธอเอง

เธอจึงไม่กลัว.. แต่มันไม่ใช่ อันน่าก็คืออันน่า เธอก็คือเธอ ตลอดมาเธอเชื่อว่าอันน่าจะคอยจัดการทุกอย่าง

แต่พอมาวันนี้.. เธอถึงได้รู้ว่าความโหดร้ายมันเป็นยังไง… ความโสมมมันมีหน้าตาแบบไหน

ทุกครั้งที่อันน่าช่วยเธอ เธอจะรู้สึกว่าอันน่าทำเกินไป.. แต่ว่ามันไม่ใช่.. ก็เพราะว่าโลกนี้มันเป็นแบบนี้

มันไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือเธอ ไม่มีใครเห็นใจ.. แม้แต่คนเหล่านี้ก็ล้วนไร้ซึ่งเหตุผล.. ไม่ฟังคำพูด

เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว….. เห็น..แก่..ตัว!!!

“ห๊า ทำไมไม่ร้องแล้วเนี่ย?”

แดนัลกล่าวออกมาอย่างสับสน พยายามใช้เข็มร้อนแทงลงไม่ยังผิวหนังของชาร์ล็อตตรงที่ถูกถลกออกอย่างช้าๆ

แต่ดวงตาอันมืดมัวของชาร์ล็อตกลับยังคงมองไปข้างหน้า ปากพึมพำบางอย่าง แต่เพราะคอที่พังเสียหายจึงไม่อาจได้ยินเสียง

แต่แดนัลมั่นใจว่านั่นไม่ใช่เสียงตะโกนแห่งความเจ็บปวดและสิ้นหวัง เพราะแบบนั้นมันจึงทำให้เขาเริ่มสับสน

“ทำไมไม่ร้องแล้วล่ะ?!”

เขาใช้เข็มอีกนับสิบเล่มแทงและลวกใส่ผิวหนังของชาร์ล็อตอย่างโหดร้าย.. แต่เธอกลับยังพึมพำด้วยสีหน้าที่น่ากลัว..

“เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว”

ไม่มีใครรู้ว่าเธอพูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตามทั้งดวงตาที่น่ากลัวที่มองออกไปมันทำให้คนสับสนได้เลยทีเดียว

แต่แดนัลไม่ได้กลัวตรงนั้น ที่เขากลัวคือทำไมอีกฝ่ายไม่ร้องแล้ว.. เขากลัวเรื่องนั้น พยายามทำอยู่หลายวิธีแต่ก็ไม่ร้อง

ชาร์ล็อตมองทุกอย่างด้วยความเกลียดชัง.. อันที่จริงคำถามทุกอย่างมันวนอยู่ในอกเธอตั้งแต่เล็บแรกที่ถูกถอดออกว่า

“ทำไม”

“เธอผิดอะไร”

แต่จนแล้วจนรอดก้ไม่มีใครตอบคำถามเธอ.. ดังนั้น.. เธอจึงตอบด้วยตัวเอง..เพราะว่ามีแค่เธอที่ตอบได้เท่านั้น..

ว่า..มนุษย์น่ะมันบัดซบ เลวทราม เห็นแก่ตัว …. เพราะงั้น… มันถึงได้ทำกับเธอแบบนี้อย่างโหดร้าย..

ไม่สนใจ.. ทุกครั้งที่เธอคร่ำครวญขอร้อง อ้อนวอน สิ่งที่ตอบรับเธอมีเพียงเสียงหัวเราะชอบใจ..

ใช่ มันสนุกกับความสิ้นหวังของเธอ สนุกกับความทรมานของเธอ.. ทำไม.. ทำไม.. ก็เพราะว่ามันเห็นแก่ตัว

มันมีความสุข.. แม้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของเธอ เห็นแก่ตัว.. และในตอนนี้เองก็เช่นกันเมื่อชาร์ล็อตไม่คร่ำครวญ

“ทำไมไม่ร้องวะ ร้องออกมาสิ”

กำปั้นขวาของแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของมันก็ต่อยใส่หน้าชาร์ล็อต แม้จะไม่แรงแต่ชาร์ล็อตก็ไม่ได้ตัวใหญ่ ผสมกับร่างกายของเธอนั้นไม่มีแรงต้านทาน

หมัดนั้นจึงปะทะเข้ากับกรามของเธอจนแตกหัก พร้อมกับฟันที่ร่วงออกมาจากปาก หน้าหันออกไปด้านตรงข้ามที่โดนหมัดปะทะ

“เห็นแก่ตัว”

“ร้องสิวะ”

หมัดซ้ายต่อยเข้าใส่ใบหน้าของเธอจนตาแตกหน้าหันไปด้านทิศตรงกันข้ามอีกครั้งพร้อมกับฟันที่ร่วงลงมาอีกหลายเล่ม

“เห็นแก่ตัว”

“ทำไมไม่ร้อง”

มันหยิบเข็มฉีดยามาฉีดใส่เธออีกจนร่างกายของเธอกระตุกและเกร็งขึ้นราวกับเจอสารกระตุ้นบางอย่าง

“เห็นแก่ตัว”

เธอเข้าใจแล้ว.. โลกใบนี้มันเป็นแบบนี้.. เห็นแก่ตัว โหดร้ายเต็มไปด้วยความเกลียดชัง.. นี่สินะโลกใบนี้

นี่สินะมุมมองที่อันน่าเห็นประจำ.. เธอมองข้าม มองเมินมันมาตลอด.. เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว!!!!

ดวงตาที่แทบปิดสนิทเบิกกว้างขึ้นมาอีกครั้งเพราะยา..

“โลกใบนี้มันเต็มไปด้วย..สวะ”

“ห๊า พูดอะไรวะ”

แดนัลตบหน้าชาร์ล็อตหันมามองหน้าตัวเองด้วยความโกรธ เพราะว่าอีกฝ่ายไม่ร้องมันทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก…

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร.. เพียงแค่เธอตระหนักถึง.. ความโสมมที่ควรชำระของโลกใบนี้..บุคลิกของเธอก็บิดเบี้ยวไปตามกัน..

อาจจะเป็นเพราะ..ผลของการสับเปลี่ยนตัวตนกับอันน่าหรือตัวตนของอันน่าที่ถูกเธอกลืนกิน…

อันน่าเมื่อยามยอมรับและกลืนกินตัวตนของชาร์ล็อตเธอก็มีความอ่อนหวานเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่พึ่งได้สัมผัสกับโลกใบใหม่..

เฉกเช่นเดียวกับชาร์ล็อตในเวลานี้..

“ถุย”

น้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดและฟันในปากถูกถุยใส่หน้าแดนัล … ราวกับว่า.. ตัวเธอได้รับผลกระทบกับด้านลบจน..นิสัยเปลี่ยนไปเป็นราวคนละคน..

…….

…..

[มาแล้วนางเอกของผม~~~  – คนเขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 270

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 270 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 270 – ชาร์ล็อตงั้นเหรอ–?

 

“ทำไม.. ข้าผิดอะไร…”

ดวงตาไร้ซึ่งแสงของเธอไม่สามารถข่มตาลงหลับได้.. ขอบตาดำคล้ำน่ากลัวผมเผ้ากระเซอะกระเซิงน่าเกลียดน่ากลัว

มีบาดแผลและเลือดอาบโชกไปทั่วทั้งร่างกาย.. เธอไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว.. ทุกครั้งที่เธอถูกเข็มที่มีความร้อนหลายร้อยองศาแทง

เล็บบนนิ้วทุกเล็บที่ถูกถอนอย่างโหดร้ายทารุณ เสียงหัวเราะมีความสุขจากใครที่เธอไม่รู้จักซึ่งเกิดจากความเจ็บปวดของเธอ

ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้.. ตลอดเวลาที่ถูกทรมานคำถามนี้วนซ้ำอยู่ในหัวของเธอตลอดมา..

คนพวกนี้ไม่ฟังแม้แต่คำพูดที่เธอบอก.. ไม่ฟังแม้แต่ความคิดที่เธอจะสื่อ.. ทั้งๆ ที่เป็นคน.. เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาเท่ากัน..

แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจจะเสวนา… ทั้งที่บอกจะถามเรื่องบางอย่างกับเธอ.. ทรมาน.. ทรมาน

ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า วนอยู่แบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเทียนที่ให้แสงสว่างในห้องแห่งนี้ดับและถูกจุดใหม่ไปกี่สิบรอบแล้ว

แต่เธอรู้ว่ามันนาน.. ห้าวัน..? สิบวัน..? หรืออาจจะเป็นเดือนเรื่องนั้นไม่มีใครทราบ

ความเจ็บปวดที่เธอได้รับตลอดเวลามันทำให้เธอแทบอยากจะบ้าตาย.. แต่เธอกลับไม่สามารถนอน ไม่สามารถตายได้ด้วยซ้ำ

ทุกครั้งที่สติเธอพร่าเลือนยานั้นก็จะถูกฉีดเข้ามาในร่างของเธออีกครั้ง… มันปลุกเธอจากความตายและดึงสติของเธอกลับพร้อมกับความเจ็บปวด

ทุกครั้ง.. อีกครั้ง.. เป็นอีกครั้ง.. จนท้ายที่สุดดวงตาของเธอก็ดับแสง.. อีกแล้วเหรอ..อีกรอบงั้นเหรอ..

เธอไม่ได้คำตอบ.. ว่าทำไมตนเองต้องมาเจออะไรแบบนี้… บาดแผลทั้งร่างมันเยอะจนน่ากลัว..

แต่ยานั้นกลับสามารถรักษาชีวิตไว้ได้.. เนื่องเพราะมันเป็นยาของเหล่าปีศาจแน่นอนว่ามีผลดีกับมนุษย์เกินคาด

แค่ว่าผลตอบแทนที่ต้องเสียก็มากเกินไป.. ซึ่งมันเหมาะแก่การเอามาทรมานมนุษย์มากกว่าช่วยยื้อชีวิตเสียอีก

ดังนั้นเธอจึงไม่ตาย.. ไม่สิ ตายไม่ได้.. แม้จะผิวซีดเพราะเสียเลือดแต่ยานั้นราวกับทำหน้าที่แทนเลือดได้..

ทุกครั้งที่เธอจะตา เธอก็จะถูกปลุกมาด้วยความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่า….

ผิวแขนและขาทั้งสองข้างกลายเป็นสีแดงอาบโลกไปด้วยเลือด  นั่นไม่ใช่สีแดงของเลือดจากแผลที่ถูกแทง..

แต่เป็นเพราะผิวหนังถูกถลกอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต.. ผิวหนังของเธอถูกถลกออกอย่างช้าๆ ให้สัมผัสกับความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายช้าๆ..

ความเจ็บปวดทั้งหมดมั้งมวลที่เธอได้สัมผัสนั้นเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เพียงแต่มันแทบทำให้เธอบ้าคลั่ง.. น้ำมูก น้ำตาไหลราวกับสายน้ำ

เสียงแหบพร่าแห่งความสิ้นหวังและทรมานมันทำให้เธออยากจะตาย แต่กลับตายไม่ได้..

“…..ทำไม…..”

เธอได้แต่คร่ำครวญด้วยคำพูดที่ไร้เสียง… อาจจะเป็นเพราะเธอมิอาจเปล่งเสียงระบายความเจ็บปวดมันจึงทำให้เจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าเดิม

ไร้ซึ่งความช่วยเหลือ.. ไร้ซึ่งคำห่วงใย ไร้ซึ่งความอ่อโยน… มีเพียงทัณฑ์ทรมาน ที่เธอทั้งคร่ำครวญและภาวนาให้ทุกอย่างจบลง

แต่ทุกอย่างที่เธอภาวนานั้นกลับไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ทุกครั้งที่เธอคร่ำครวญขอความช่วยเหลือจากใครมันก็เป็นเหมือนกับค้อนที่ตอกใส่หน้าเธอว่า

ไม่มีใครมาช่วย

ไม่มีใครสนใจ

ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที.. ตัวเธอมันไม่มีใครอยู่แล้ว.. อันน่า เลทิเซียหรือแม้แต่คนคนนั้น.. มันโกหกทั้งเพ..

เป็นเรื่องโกหกที่เธอสร้างมันขึ้นมาเอง..ใช่ ที่อันน่ามีตัวตนขึ้นมาก็เพราะเธอได้ปฏิเสธอันน่า..

ถ้าจะให้พูดว่าอันน่าคือบุคคลที่ห่างไกลจากความรักมากที่สุด.. เธอเองก็คงห่างไกลจากความเกลียดชังที่สุด

เธอไม่เคยรู้ว่าโลกใบนี้มันจะโหดร้ายแบบนี้ ไม่สิ เธอปฏิเสธที่จะรู้จักมันเพราะกลัว.. กลัวว่าจะได้ต่อสู้

กลัวว่าจะได้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเจ็บปวด.. ท่ามกลางความเสียใจ ดังนั้นเธอจึงได้ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าโลกนี้มันมีความโหดร้าย

มีความเจ็บปวด.. เธอหลอกตัวเองมาโดยตลอด หลีกเลี่ยง หลบหนี.. และโยนภาระทุกอย่างให้กับอันน่า..

หากเป็นก่อนหน้าเธอคงไม่รู้ว่าตนเองขาดอะไรไป.. เพราะเธอมีอันน่าคอยอยู่เคียงข้าง

มีอันน่าคอยปกป้องและดูแล.. มีอันน่าคอยเป็นเพื่อนพูดคุย.. สำหรับเธออันน่าคืออีกครึ่งหนึ่งของตัวเธอเอง

เธอจึงไม่กลัว.. แต่มันไม่ใช่ อันน่าก็คืออันน่า เธอก็คือเธอ ตลอดมาเธอเชื่อว่าอันน่าจะคอยจัดการทุกอย่าง

แต่พอมาวันนี้.. เธอถึงได้รู้ว่าความโหดร้ายมันเป็นยังไง… ความโสมมมันมีหน้าตาแบบไหน

ทุกครั้งที่อันน่าช่วยเธอ เธอจะรู้สึกว่าอันน่าทำเกินไป.. แต่ว่ามันไม่ใช่.. ก็เพราะว่าโลกนี้มันเป็นแบบนี้

มันไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือเธอ ไม่มีใครเห็นใจ.. แม้แต่คนเหล่านี้ก็ล้วนไร้ซึ่งเหตุผล.. ไม่ฟังคำพูด

เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว….. เห็น..แก่..ตัว!!!

“ห๊า ทำไมไม่ร้องแล้วเนี่ย?”

แดนัลกล่าวออกมาอย่างสับสน พยายามใช้เข็มร้อนแทงลงไม่ยังผิวหนังของชาร์ล็อตตรงที่ถูกถลกออกอย่างช้าๆ

แต่ดวงตาอันมืดมัวของชาร์ล็อตกลับยังคงมองไปข้างหน้า ปากพึมพำบางอย่าง แต่เพราะคอที่พังเสียหายจึงไม่อาจได้ยินเสียง

แต่แดนัลมั่นใจว่านั่นไม่ใช่เสียงตะโกนแห่งความเจ็บปวดและสิ้นหวัง เพราะแบบนั้นมันจึงทำให้เขาเริ่มสับสน

“ทำไมไม่ร้องแล้วล่ะ?!”

เขาใช้เข็มอีกนับสิบเล่มแทงและลวกใส่ผิวหนังของชาร์ล็อตอย่างโหดร้าย.. แต่เธอกลับยังพึมพำด้วยสีหน้าที่น่ากลัว..

“เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว.. เห็นแก่ตัว”

ไม่มีใครรู้ว่าเธอพูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตามทั้งดวงตาที่น่ากลัวที่มองออกไปมันทำให้คนสับสนได้เลยทีเดียว

แต่แดนัลไม่ได้กลัวตรงนั้น ที่เขากลัวคือทำไมอีกฝ่ายไม่ร้องแล้ว.. เขากลัวเรื่องนั้น พยายามทำอยู่หลายวิธีแต่ก็ไม่ร้อง

ชาร์ล็อตมองทุกอย่างด้วยความเกลียดชัง.. อันที่จริงคำถามทุกอย่างมันวนอยู่ในอกเธอตั้งแต่เล็บแรกที่ถูกถอดออกว่า

“ทำไม”

“เธอผิดอะไร”

แต่จนแล้วจนรอดก้ไม่มีใครตอบคำถามเธอ.. ดังนั้น.. เธอจึงตอบด้วยตัวเอง..เพราะว่ามีแค่เธอที่ตอบได้เท่านั้น..

ว่า..มนุษย์น่ะมันบัดซบ เลวทราม เห็นแก่ตัว …. เพราะงั้น… มันถึงได้ทำกับเธอแบบนี้อย่างโหดร้าย..

ไม่สนใจ.. ทุกครั้งที่เธอคร่ำครวญขอร้อง อ้อนวอน สิ่งที่ตอบรับเธอมีเพียงเสียงหัวเราะชอบใจ..

ใช่ มันสนุกกับความสิ้นหวังของเธอ สนุกกับความทรมานของเธอ.. ทำไม.. ทำไม.. ก็เพราะว่ามันเห็นแก่ตัว

มันมีความสุข.. แม้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของเธอ เห็นแก่ตัว.. และในตอนนี้เองก็เช่นกันเมื่อชาร์ล็อตไม่คร่ำครวญ

“ทำไมไม่ร้องวะ ร้องออกมาสิ”

กำปั้นขวาของแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของมันก็ต่อยใส่หน้าชาร์ล็อต แม้จะไม่แรงแต่ชาร์ล็อตก็ไม่ได้ตัวใหญ่ ผสมกับร่างกายของเธอนั้นไม่มีแรงต้านทาน

หมัดนั้นจึงปะทะเข้ากับกรามของเธอจนแตกหัก พร้อมกับฟันที่ร่วงออกมาจากปาก หน้าหันออกไปด้านตรงข้ามที่โดนหมัดปะทะ

“เห็นแก่ตัว”

“ร้องสิวะ”

หมัดซ้ายต่อยเข้าใส่ใบหน้าของเธอจนตาแตกหน้าหันไปด้านทิศตรงกันข้ามอีกครั้งพร้อมกับฟันที่ร่วงลงมาอีกหลายเล่ม

“เห็นแก่ตัว”

“ทำไมไม่ร้อง”

มันหยิบเข็มฉีดยามาฉีดใส่เธออีกจนร่างกายของเธอกระตุกและเกร็งขึ้นราวกับเจอสารกระตุ้นบางอย่าง

“เห็นแก่ตัว”

เธอเข้าใจแล้ว.. โลกใบนี้มันเป็นแบบนี้.. เห็นแก่ตัว โหดร้ายเต็มไปด้วยความเกลียดชัง.. นี่สินะโลกใบนี้

นี่สินะมุมมองที่อันน่าเห็นประจำ.. เธอมองข้าม มองเมินมันมาตลอด.. เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว!!!!

ดวงตาที่แทบปิดสนิทเบิกกว้างขึ้นมาอีกครั้งเพราะยา..

“โลกใบนี้มันเต็มไปด้วย..สวะ”

“ห๊า พูดอะไรวะ”

แดนัลตบหน้าชาร์ล็อตหันมามองหน้าตัวเองด้วยความโกรธ เพราะว่าอีกฝ่ายไม่ร้องมันทำให้เขาหงุดหงิดเป็นอย่างมาก…

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร.. เพียงแค่เธอตระหนักถึง.. ความโสมมที่ควรชำระของโลกใบนี้..บุคลิกของเธอก็บิดเบี้ยวไปตามกัน..

อาจจะเป็นเพราะ..ผลของการสับเปลี่ยนตัวตนกับอันน่าหรือตัวตนของอันน่าที่ถูกเธอกลืนกิน…

อันน่าเมื่อยามยอมรับและกลืนกินตัวตนของชาร์ล็อตเธอก็มีความอ่อนหวานเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่พึ่งได้สัมผัสกับโลกใบใหม่..

เฉกเช่นเดียวกับชาร์ล็อตในเวลานี้..

“ถุย”

น้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดและฟันในปากถูกถุยใส่หน้าแดนัล … ราวกับว่า.. ตัวเธอได้รับผลกระทบกับด้านลบจน..นิสัยเปลี่ยนไปเป็นราวคนละคน..

…….

…..

[มาแล้วนางเอกของผม~~~  – คนเขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+