การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 277

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 277 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 277 – ของฝาก..จากต่างโลก

 

ฮิสครอมที่เห็นเลทิเซียสลายหายไปต่อหน้าต่อตา เขาก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจ เมื่อครู่ที่มีโซ่สีแดงปะปนอยู่ด้วยเพราะโซ่นั้นกำเนิดจากพลังที่เหนือกว่า

ว่ากันว่าโลกสี่มิติของเรานั้นเป็นโลกที่เราสามารถระบุหรือเข้าใจได้ แต่นั่นหาใช่ทั้งหมด.. เพราะโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า..

โลกห้ามิติ.. โลกห้ามิติคือโลกที่มิอาจเข้าใจหรือรับรู้ถึงได้.. หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ หากโลกสี่มิติหรือเอกภพสี่มิตินั้น

มีความยาวที่เป็นอนันต์.. ความกว้างที่เป็นอนันต์ความสูงที่เป็นอนันต์แม้แต่กาลเวลาเองก็ยังเป็นอนันต์

อนันต์คือจำนวนไร้ที่สิ้นสุดนั่นหมายความว่าไม่มีขอบเขตหรือจุดสิ้นสุด.. แล้วโลกห้ามิติคืออะไร.. หากเปรียบเทียบให้ความยาว กว้าง สูงและเวลา

เป็นมิติที่หนึ่งสองสามสี่.. เรียงตามคำกล่าว เอกภพห้ามิตินั้นก็เปรียบเสมือนกับ.. แกนบางอย่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในโลกที่ทุกคนเคยรับรู้..

ซึ่งมีขนาดแกนเป็นอนันต์นั่นเอง แน่นอนว่าแกนมิติที่ถูกนับว่าเป็นมิติที่ห้านั้นไม่มีใครอธิบายได้ว่ามันคืออะไร

ไม่มีใครรับรู้ว่ามันคือแบบไหน.. เพราะการดำรงอยู่ของมันอยู่เหนือความเข้าใจทุกๆ แนวคิด ทุกความเป็นจริงในโลกสี่มิติเลยก็ว่าได้

หากงง.. ก็ลองมองว่าเอาลูกบอลวางไว้บนกระดาษแผ่นหนึ่ง และสมมุติมันขึ้นมาว่า บอลลูกนั้นคือวัตถุสามมิติ

และมีสิ่งมีชีวิตในกระดาษแผ่นนั้นดำรงอยู่ พวกเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่ามีบอลได้วางอยู่บนตัวตน บนอัตลักษณ์บางอย่างของพวกเขา

และหากมองเห็นก็ลองมองดีๆ .. สิ่งที่พวกเขาเห็นจะไม่ใช้วัตถุทรงกรมที่มีมุม แต่จะเป็นแผ่นสีดำที่มีเพียงความกว้าง เพราะพวกเขามิอาจรับรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘ความสูง’ นั่นเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งโลกสี่มิติและโลกห้ามิติก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีใครรู้ว่ามิติที่ห้าคืออะไร…

พูดให้เข้าใจง่ายๆ เลย หากมีใครสักคนที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดและไร้เทียมทานความแข็งแกร่งไร้จุดสิ้นสุดอย่างแท้จริงในโลกสี่มิติ

แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลกห้ามิตินั้น.. ก็ไม่ต่างจากภาพวาดในกระดาษที่พวกเขาสามารถฉีกทิ้งได้ จากโลกสี่มิติกับโลกห้ามิติที่ห่างกันเพียงตัวเลขเพียงหนึ่งเดียว

กลับมีความห่างชั้นเสียยิ่งกว่า… สิ่งที่เรียกว่า อนันต์.. นั่นแหละคือโลกห้ามิติ.. แล้วมันเกี่ยวกันยังไง..

โซ่สีแดงนั้นมีความสามารถที่ตรงกันข้ามกับโซ่สีทอง.. ใช่หากโซ่สีทองลบมิติที่สี่หรือที่เรียกว่ากาลเวลาออกจากสรรพสิ่งได้

เช่นนั้น โซ่สีแดงก็สามารถสร้าง.. มิติที่ห้าเพื่อทำให้ตัวตนของบางสิ่งบางอย่าง.. มีการดำรงอยู่ที่สูงขึ้นไปอีกได้..

แต่สิ่งที่เขาทำไม่ใช่การทำให้เลทิเซียขึ้นไปในโลกห้ามิติ.. แต่เป็นการทำให้โซ่ลบสี่มิตินั้น.. มีการดำรงอยู่ที่สูงขึ้น..

กลับกลายเป็นว่า.. สิ่งที่โซ่ทองลบออกไม่ใช่เวลาของโลกสี่มิติ.. แต่เป็นกาลเวลาของโลกห้ามิติ!!!!

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าแม้แต่การสะท้อนที่เป็นพลังของอามาเระเองก็ล้วนแล้วแต่ไร้ผล.. เพราะว่า.. โซ่ที่พรากชีวิตเลทิเซียไปนั้น.. คือโซ่ที่อยู่เหนือกว่าโลกสี่มิติไปแล้ว!

แต่มีอย่างหนึ่งที่ฮิสครอมไม่ทันได้สังเกต ห่างไกลออกไปบนยอดโบสถ์ที่มีหมอกปกคลุมเป็นชั้นๆ

มีชายคนหนึ่งสวมชุดหรูหราอลังการยืนทอดสายตาไปทางที่ฮิสครอมอยู่ราวกับหมอกเหล่านั้นล้วนไม่สามารถปิดกั้นดวงตาของเขา

คนคนนี้คือ.. หัวใจแห่งพระผู้เป็นเจ้า สันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนจักรโอโรโบรอส!

เขาเห็นฮิสครอมที่กำลังตื่นเต้นดีใจ..

“นี่มันอะไรเนี่ย.. ข้ารู้สึกเหมือนเมื่อกี้หลุดไปอีกโลกอย่างไรอย่างนั้น..”

ฮิสครอมรู้สึกสับสนทั้งดีใจ สิ่งที่เขารู้สึกเมื่อกี้มันราวกับเขาได้กลายเป็นพระผู้เป็นเจ้า.. แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร..

สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับโซ่สีแดงมีเพียงอย่างเดียวคือมันสามารถฟื้นคืนชีพกาลเวลาที่ถูกช่วงชิงไปได้ ว่าง่ายๆ เป็นทางแก้ของพลังลบกาลเวลาของเขานั่นเอง

แต่ไม่คิดว่าพอมาทำแบบนี้จะกลายเป็นสิ่งแปลกประหลาดแบบนี้..

“ประตูแห่งพระเจ้าบานที่ห้า..”

สันตะปาปาพึมพำ.. ดวงตาของเขาเรือนรองด้วยความสนใจ.. ปากพึมพำศัพท์ที่ไม่เข้าใจออกมา

แต่บางทีประตูแห่งพระเจ้าบานที่ห้า.. คงหมายถึงโลกมิติที่ห้านั่นแหละ.. เขาหลับตาลงพึมพำคำบางอย่างออกมา

“เมื่ออสูรปรากฏภัยพิบัติจักมาเยือน.. ในยามนั้น.. ประตูบานที่ห้าจะปรากฏต่อหน้าเจ้า เมื่อก้าวผ่านปริศนาประตูแห่งพระเจ้าทั้งหมดจักปรากฏขึ้น”

ดวงตาเขาค่อยๆ ลืมขึ้นคำทำนายนั้นเกิดขึ้นจริงแล้ว.. ก่อนที่จะหัวเราะร่าอย่างพอใจออกมา

“ฮ่าๆ มันมีอยู่จริง.. ทฤษฎีสตริงมิติทั้งอนันต์ของฉัน.. หึ… แม้แต่มิติที่ห้ายังไม่มีงั้นเหรอ พวกโง่ ตอนนี้ฉันเจอมันแล้ว..อีกไม่นาน.. มิติอนันต์ก็จะมากางอยู่ตรงหน้าของฉัน..”

…..

“ทำไม.. ทำไม.. ทำไม..”

ชาร์ล็อตพึมพำด้วยความสับสน เลือดของเลทิเซียอาบไปทั่วใบหน้าของเธอ.. หัวใจของเธอราวกับถูกแทง..

ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายนี้ ส่งผลให้เธอกรีดร้องออกมา เป็นเสียงกรีดร้องแห่งความสิ้นหวัง.. แต่ภายใต้ความสิ้นหวังของชาร์ล็อต

ฮิสครอมก็ยังรู้สึกตื่นเต้นจนออกนอกหน้า.. แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้ของชาร์ล็อต.. เขาก็เอียงคอด้วยความสงสัย..

“ทำไม.. ยังจำได้อยู่.. ทั้งๆ ที่เด็กนั่นควรจะถูกลบออกจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตไปแล้ว”

การถูกลบจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตนั่นหมายความว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเลทิเซียตั้งแต่อดีตหรือตอนนี้ แม้แต่อนาคตก็ไม่ควรจะมีอยู่บนโลกอีกต่อไป

นั่นแหละคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Time out น่ะ.. แต่ทว่าทำไมชาร์ล็อตถึงจำได้ล่ะ..

“หรือว่า…”

ความคิดที่ยากจะเชื่อก็โผล่เข้ามาในหัวของเขา เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นจริงแท้ๆ แต่พอนึกถึงก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้..

แต่ทว่าฉับพลันนั้นเอง ไหล่ของเขาก็ถูกจับเอาไว้ เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง..

“ใช่.. ฉันไม่ได้ถูกลบออกไป”

“เป็นไปไม่ไ—”

แต่ก่อนที่จะได้แสดงความเห็น ไหล่ของเขาก็ถูกดึงกลับด้านหลังจนหน้าหันไปประจันกับใบหน้าของเลทิเซีย

“ของฝาก..จากต่างโลก”

กำปั้นข้าวเนียนของเลทิเซียถูกกำขึ้น และต่อยใส่ใบหน้าของฮิสครอมจนเกิดเสียงแตกหักของกราม “กรอบ”

ร่างของฮิสครอมปลิวกลับหลังจนไปกระแทกกับซากปรักหักพังที่อยู่ด้านหลังหลายสิบเมตร แต่แรงกระแทกไม่หมดลงร่างเขาทะลุสิ่งปลูกสร้างที่กลายเป็นซากปรักหักพังนับสิบหลังจนเกิดเสียงสนั่นไปทั่วพื้นที่

เลทิเซียสะบัดฝ่ามือขวาที่ต่อยเข้าหน้าฮิสครอมพร้อมกับยกมือซ้ายไปด้านหน้า..

“วิชาดาวไร้ลักษณ์.. หัตถ์ไร้ลักษณ์”

ฉับพลันนั้นเองร่างของฮิสครอมที่ปลิวไปไกลหลายสิบเมตรก็ลอยกลับมา พร้อมกับเลทิเซียที่กำหมัดอีกครั้ง

“ส่วนนี่..ที่นายทำให้..เพื่อนคนสำคัญของฉัน.. เสียใจ”

กำปั้นถูกชกออกไปพร้อมกับร่างฮิสครอมที่ลอยกลับมาใส่หมัดเลทิเซีย แต่ทว่าฮิสครอมเรียกสติกลับคืนมา..

“อย่าให้มันมากนัก”

เขาตะโกนโซ่สีทองและสีแดงม้วนพันกันอีกรอบฉับพลันนั้นเองร่างกายเขาพลันราวกับเป็นพระเจ้าสามารถบงการได้ทุกอย่าง

ควบคุมทุกสรรพสิ่ง.. ได้แม้แต่.. สิ่งที่จะเกิดและสิ่งที่จะมี.. หากโลกนี้เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดบทบาทมาตั้งแต่แรก

เป็นเนื้อเรื่องที่ถูกพระเจ้ารังสรรค์มา.. เขาในตอนนี้ราวกับสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้!!

“ฮ่าๆ .. ข้า.. ข้ากลายเป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าแล้—”

แต่ก่อนที่ทันจะได้พูดจบกำปั้นเล้กๆ ของเลทิเซียก็ต่อยพุ่งทะลุโซ่สองสีของเขาผ่านเข้าไปกระแทกใบหน้าของอีกฝ่ายจนแตกยับ

ร่างของฮิสครอมปลิวดิ่งลงพื้นกลิ้งอยู่หลายตลบพร้อมกับกรีดร้องเสียงหลงออกมา.. เลทิเซียมองกำปั้นตัวเองแล้วแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

“ต่อยได้ด้วยเหรอ ? สมกับเป็นพลังของอามาเระ”

อันที่จริงเลทิเซียที่โดนท่านั้นของอีกฝ่ายเธอก็รู้แต่แรกแล้วมันคือท่าที่อยู่เหนือกว่าความเข้าใจตัวเธอเอง..ในโลกเดิมก็มีอยู่

ไอ้พวกทฤษฎีที่ใช้ในเชิงคณิตศาสตร์น่ะ ก็นะการคำนวณหาค่าต่างๆ ในแล็บเลทิเซียก็ต้องใช้สูตรคณิตหลายๆ อย่าง

ไม่แปลกที่เธอจะรู้พวกทฤษฎีจำนวนเชิงซ้อนหรืออะไรแบบนั้น.. ดังนั้นเมื่อกีเลทิเซียจึงเตรียมรับมือกับท่านั้นของอีกฝ่ายไว้แล้ว

แต่ไม่คิดว่า.. พลังของอีกฝ่ายที่ดำรงอยู่ในโลกห้ามิติจะถูกสะท้อนได้ด้วย.. แต่ทำไมก่อนหน้าถึงสะท้อนไม่ได้ล่ะ..

เลทิเซียได้แต่สงสัย.. อันที่จริงถ้าจะบอกว่าพลังของอามาเระนั้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจต่อพลังของอีกฝ่าย

อีกทั้งหากไม่ตั้งตัวดีๆ การโจมตีทีเผลอแบบนี้ ต่อให้การสะท้อนของอามาเระจะแข็งแกร่ง แต่ก็คงทำงานเองไม่ได้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 277

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 277 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 277 – ของฝาก..จากต่างโลก

 

ฮิสครอมที่เห็นเลทิเซียสลายหายไปต่อหน้าต่อตา เขาก็หัวเราะออกมาอย่างพอใจ เมื่อครู่ที่มีโซ่สีแดงปะปนอยู่ด้วยเพราะโซ่นั้นกำเนิดจากพลังที่เหนือกว่า

ว่ากันว่าโลกสี่มิติของเรานั้นเป็นโลกที่เราสามารถระบุหรือเข้าใจได้ แต่นั่นหาใช่ทั้งหมด.. เพราะโลกนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า..

โลกห้ามิติ.. โลกห้ามิติคือโลกที่มิอาจเข้าใจหรือรับรู้ถึงได้.. หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ หากโลกสี่มิติหรือเอกภพสี่มิตินั้น

มีความยาวที่เป็นอนันต์.. ความกว้างที่เป็นอนันต์ความสูงที่เป็นอนันต์แม้แต่กาลเวลาเองก็ยังเป็นอนันต์

อนันต์คือจำนวนไร้ที่สิ้นสุดนั่นหมายความว่าไม่มีขอบเขตหรือจุดสิ้นสุด.. แล้วโลกห้ามิติคืออะไร.. หากเปรียบเทียบให้ความยาว กว้าง สูงและเวลา

เป็นมิติที่หนึ่งสองสามสี่.. เรียงตามคำกล่าว เอกภพห้ามิตินั้นก็เปรียบเสมือนกับ.. แกนบางอย่างที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในโลกที่ทุกคนเคยรับรู้..

ซึ่งมีขนาดแกนเป็นอนันต์นั่นเอง แน่นอนว่าแกนมิติที่ถูกนับว่าเป็นมิติที่ห้านั้นไม่มีใครอธิบายได้ว่ามันคืออะไร

ไม่มีใครรับรู้ว่ามันคือแบบไหน.. เพราะการดำรงอยู่ของมันอยู่เหนือความเข้าใจทุกๆ แนวคิด ทุกความเป็นจริงในโลกสี่มิติเลยก็ว่าได้

หากงง.. ก็ลองมองว่าเอาลูกบอลวางไว้บนกระดาษแผ่นหนึ่ง และสมมุติมันขึ้นมาว่า บอลลูกนั้นคือวัตถุสามมิติ

และมีสิ่งมีชีวิตในกระดาษแผ่นนั้นดำรงอยู่ พวกเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่ามีบอลได้วางอยู่บนตัวตน บนอัตลักษณ์บางอย่างของพวกเขา

และหากมองเห็นก็ลองมองดีๆ .. สิ่งที่พวกเขาเห็นจะไม่ใช้วัตถุทรงกรมที่มีมุม แต่จะเป็นแผ่นสีดำที่มีเพียงความกว้าง เพราะพวกเขามิอาจรับรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘ความสูง’ นั่นเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งโลกสี่มิติและโลกห้ามิติก็เป็นเช่นนั้น ไม่มีใครรู้ว่ามิติที่ห้าคืออะไร…

พูดให้เข้าใจง่ายๆ เลย หากมีใครสักคนที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุดและไร้เทียมทานความแข็งแกร่งไร้จุดสิ้นสุดอย่างแท้จริงในโลกสี่มิติ

แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลกห้ามิตินั้น.. ก็ไม่ต่างจากภาพวาดในกระดาษที่พวกเขาสามารถฉีกทิ้งได้ จากโลกสี่มิติกับโลกห้ามิติที่ห่างกันเพียงตัวเลขเพียงหนึ่งเดียว

กลับมีความห่างชั้นเสียยิ่งกว่า… สิ่งที่เรียกว่า อนันต์.. นั่นแหละคือโลกห้ามิติ.. แล้วมันเกี่ยวกันยังไง..

โซ่สีแดงนั้นมีความสามารถที่ตรงกันข้ามกับโซ่สีทอง.. ใช่หากโซ่สีทองลบมิติที่สี่หรือที่เรียกว่ากาลเวลาออกจากสรรพสิ่งได้

เช่นนั้น โซ่สีแดงก็สามารถสร้าง.. มิติที่ห้าเพื่อทำให้ตัวตนของบางสิ่งบางอย่าง.. มีการดำรงอยู่ที่สูงขึ้นไปอีกได้..

แต่สิ่งที่เขาทำไม่ใช่การทำให้เลทิเซียขึ้นไปในโลกห้ามิติ.. แต่เป็นการทำให้โซ่ลบสี่มิตินั้น.. มีการดำรงอยู่ที่สูงขึ้น..

กลับกลายเป็นว่า.. สิ่งที่โซ่ทองลบออกไม่ใช่เวลาของโลกสี่มิติ.. แต่เป็นกาลเวลาของโลกห้ามิติ!!!!

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าแม้แต่การสะท้อนที่เป็นพลังของอามาเระเองก็ล้วนแล้วแต่ไร้ผล.. เพราะว่า.. โซ่ที่พรากชีวิตเลทิเซียไปนั้น.. คือโซ่ที่อยู่เหนือกว่าโลกสี่มิติไปแล้ว!

แต่มีอย่างหนึ่งที่ฮิสครอมไม่ทันได้สังเกต ห่างไกลออกไปบนยอดโบสถ์ที่มีหมอกปกคลุมเป็นชั้นๆ

มีชายคนหนึ่งสวมชุดหรูหราอลังการยืนทอดสายตาไปทางที่ฮิสครอมอยู่ราวกับหมอกเหล่านั้นล้วนไม่สามารถปิดกั้นดวงตาของเขา

คนคนนี้คือ.. หัวใจแห่งพระผู้เป็นเจ้า สันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนจักรโอโรโบรอส!

เขาเห็นฮิสครอมที่กำลังตื่นเต้นดีใจ..

“นี่มันอะไรเนี่ย.. ข้ารู้สึกเหมือนเมื่อกี้หลุดไปอีกโลกอย่างไรอย่างนั้น..”

ฮิสครอมรู้สึกสับสนทั้งดีใจ สิ่งที่เขารู้สึกเมื่อกี้มันราวกับเขาได้กลายเป็นพระผู้เป็นเจ้า.. แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร..

สิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับโซ่สีแดงมีเพียงอย่างเดียวคือมันสามารถฟื้นคืนชีพกาลเวลาที่ถูกช่วงชิงไปได้ ว่าง่ายๆ เป็นทางแก้ของพลังลบกาลเวลาของเขานั่นเอง

แต่ไม่คิดว่าพอมาทำแบบนี้จะกลายเป็นสิ่งแปลกประหลาดแบบนี้..

“ประตูแห่งพระเจ้าบานที่ห้า..”

สันตะปาปาพึมพำ.. ดวงตาของเขาเรือนรองด้วยความสนใจ.. ปากพึมพำศัพท์ที่ไม่เข้าใจออกมา

แต่บางทีประตูแห่งพระเจ้าบานที่ห้า.. คงหมายถึงโลกมิติที่ห้านั่นแหละ.. เขาหลับตาลงพึมพำคำบางอย่างออกมา

“เมื่ออสูรปรากฏภัยพิบัติจักมาเยือน.. ในยามนั้น.. ประตูบานที่ห้าจะปรากฏต่อหน้าเจ้า เมื่อก้าวผ่านปริศนาประตูแห่งพระเจ้าทั้งหมดจักปรากฏขึ้น”

ดวงตาเขาค่อยๆ ลืมขึ้นคำทำนายนั้นเกิดขึ้นจริงแล้ว.. ก่อนที่จะหัวเราะร่าอย่างพอใจออกมา

“ฮ่าๆ มันมีอยู่จริง.. ทฤษฎีสตริงมิติทั้งอนันต์ของฉัน.. หึ… แม้แต่มิติที่ห้ายังไม่มีงั้นเหรอ พวกโง่ ตอนนี้ฉันเจอมันแล้ว..อีกไม่นาน.. มิติอนันต์ก็จะมากางอยู่ตรงหน้าของฉัน..”

…..

“ทำไม.. ทำไม.. ทำไม..”

ชาร์ล็อตพึมพำด้วยความสับสน เลือดของเลทิเซียอาบไปทั่วใบหน้าของเธอ.. หัวใจของเธอราวกับถูกแทง..

ความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายนี้ ส่งผลให้เธอกรีดร้องออกมา เป็นเสียงกรีดร้องแห่งความสิ้นหวัง.. แต่ภายใต้ความสิ้นหวังของชาร์ล็อต

ฮิสครอมก็ยังรู้สึกตื่นเต้นจนออกนอกหน้า.. แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้ของชาร์ล็อต.. เขาก็เอียงคอด้วยความสงสัย..

“ทำไม.. ยังจำได้อยู่.. ทั้งๆ ที่เด็กนั่นควรจะถูกลบออกจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตไปแล้ว”

การถูกลบจากอดีต ปัจจุบันและอนาคตนั่นหมายความว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเลทิเซียตั้งแต่อดีตหรือตอนนี้ แม้แต่อนาคตก็ไม่ควรจะมีอยู่บนโลกอีกต่อไป

นั่นแหละคือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Time out น่ะ.. แต่ทว่าทำไมชาร์ล็อตถึงจำได้ล่ะ..

“หรือว่า…”

ความคิดที่ยากจะเชื่อก็โผล่เข้ามาในหัวของเขา เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นจริงแท้ๆ แต่พอนึกถึงก็อดที่จะหวาดกลัวไม่ได้..

แต่ทว่าฉับพลันนั้นเอง ไหล่ของเขาก็ถูกจับเอาไว้ เสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง..

“ใช่.. ฉันไม่ได้ถูกลบออกไป”

“เป็นไปไม่ไ—”

แต่ก่อนที่จะได้แสดงความเห็น ไหล่ของเขาก็ถูกดึงกลับด้านหลังจนหน้าหันไปประจันกับใบหน้าของเลทิเซีย

“ของฝาก..จากต่างโลก”

กำปั้นข้าวเนียนของเลทิเซียถูกกำขึ้น และต่อยใส่ใบหน้าของฮิสครอมจนเกิดเสียงแตกหักของกราม “กรอบ”

ร่างของฮิสครอมปลิวกลับหลังจนไปกระแทกกับซากปรักหักพังที่อยู่ด้านหลังหลายสิบเมตร แต่แรงกระแทกไม่หมดลงร่างเขาทะลุสิ่งปลูกสร้างที่กลายเป็นซากปรักหักพังนับสิบหลังจนเกิดเสียงสนั่นไปทั่วพื้นที่

เลทิเซียสะบัดฝ่ามือขวาที่ต่อยเข้าหน้าฮิสครอมพร้อมกับยกมือซ้ายไปด้านหน้า..

“วิชาดาวไร้ลักษณ์.. หัตถ์ไร้ลักษณ์”

ฉับพลันนั้นเองร่างของฮิสครอมที่ปลิวไปไกลหลายสิบเมตรก็ลอยกลับมา พร้อมกับเลทิเซียที่กำหมัดอีกครั้ง

“ส่วนนี่..ที่นายทำให้..เพื่อนคนสำคัญของฉัน.. เสียใจ”

กำปั้นถูกชกออกไปพร้อมกับร่างฮิสครอมที่ลอยกลับมาใส่หมัดเลทิเซีย แต่ทว่าฮิสครอมเรียกสติกลับคืนมา..

“อย่าให้มันมากนัก”

เขาตะโกนโซ่สีทองและสีแดงม้วนพันกันอีกรอบฉับพลันนั้นเองร่างกายเขาพลันราวกับเป็นพระเจ้าสามารถบงการได้ทุกอย่าง

ควบคุมทุกสรรพสิ่ง.. ได้แม้แต่.. สิ่งที่จะเกิดและสิ่งที่จะมี.. หากโลกนี้เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดบทบาทมาตั้งแต่แรก

เป็นเนื้อเรื่องที่ถูกพระเจ้ารังสรรค์มา.. เขาในตอนนี้ราวกับสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้!!

“ฮ่าๆ .. ข้า.. ข้ากลายเป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าแล้—”

แต่ก่อนที่ทันจะได้พูดจบกำปั้นเล้กๆ ของเลทิเซียก็ต่อยพุ่งทะลุโซ่สองสีของเขาผ่านเข้าไปกระแทกใบหน้าของอีกฝ่ายจนแตกยับ

ร่างของฮิสครอมปลิวดิ่งลงพื้นกลิ้งอยู่หลายตลบพร้อมกับกรีดร้องเสียงหลงออกมา.. เลทิเซียมองกำปั้นตัวเองแล้วแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

“ต่อยได้ด้วยเหรอ ? สมกับเป็นพลังของอามาเระ”

อันที่จริงเลทิเซียที่โดนท่านั้นของอีกฝ่ายเธอก็รู้แต่แรกแล้วมันคือท่าที่อยู่เหนือกว่าความเข้าใจตัวเธอเอง..ในโลกเดิมก็มีอยู่

ไอ้พวกทฤษฎีที่ใช้ในเชิงคณิตศาสตร์น่ะ ก็นะการคำนวณหาค่าต่างๆ ในแล็บเลทิเซียก็ต้องใช้สูตรคณิตหลายๆ อย่าง

ไม่แปลกที่เธอจะรู้พวกทฤษฎีจำนวนเชิงซ้อนหรืออะไรแบบนั้น.. ดังนั้นเมื่อกีเลทิเซียจึงเตรียมรับมือกับท่านั้นของอีกฝ่ายไว้แล้ว

แต่ไม่คิดว่า.. พลังของอีกฝ่ายที่ดำรงอยู่ในโลกห้ามิติจะถูกสะท้อนได้ด้วย.. แต่ทำไมก่อนหน้าถึงสะท้อนไม่ได้ล่ะ..

เลทิเซียได้แต่สงสัย.. อันที่จริงถ้าจะบอกว่าพลังของอามาเระนั้นขึ้นอยู่กับความเข้าใจต่อพลังของอีกฝ่าย

อีกทั้งหากไม่ตั้งตัวดีๆ การโจมตีทีเผลอแบบนี้ ต่อให้การสะท้อนของอามาเระจะแข็งแกร่ง แต่ก็คงทำงานเองไม่ได้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+