การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 218

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 218 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 218 – แขนและดวงตา

 

“โกหกน่า.. ล้อกันเล่นใช่ไหม…”

เลมิสทาเรียสำลักลมหายใจออกมา เธอไม่ใช่คนเลินเล่อขนาดที่ว่าวางแผนไว้ชั้นเดียว หากทำไม่สำเร็จยังมีแผนสำรอง

หากพลาดยังมีแผนรองรับอีกซ้อน.. เรียกได้ว่าเธอเองก็เป็นคนที่ฉลาดแกมโกงเช่นกัน… เพียงแต่ว่า..

ไม่ว่าจะคาดการณ์ไว้มากแค่ไหนภาพตรงหน้ามันก็เกินจริงยิ่งกว่าที่คาดเอาไว้ เรียกได้ว่าภาพตรงหน้านี้มันแหกทุกแนวคิดที่เธอรู้จักหรือเข้าใจมาตลอดหลายร้อยปีเลย

เธอรู้ว่าเลทิเซียเป็นจอมมารและพอจะเดาได้ลางๆ ว่า คนตรงหน้านี้อาจจะไม่เหมือนคนอื่น ถึงจะไม่รู้หลักการว่าทำยังไงถึงใช้เวทมนตร์ได้สองรูปแบบ

แต่สิ่งที่เธอคาดไว้คืออย่างน้อยหากคนตรงหน้านี้สภาพสมบูรณ์ละก็ พวกเธอสองพี่น้องอาจจะสู้ไม่ไหวเลยก็ว่าได้

บางทีอาจจะเป็นจอมมารที่ไม่ถูกผนึกพลังเพราะเป็นจอมมารคนที่สิบสาม และอาจจะเหนือกว่าจอมมารก่อนถูกผนึกพลังไปหลายขั้น

ใช่ เธอประเมินเลทิเซียไว้สูงขนาดนั้นแหละ.. แต่ทว่าภาพตรงหน้านี้มันทำลายความเชื่อมั่นทุกอย่างของเธอ

สามารถเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้… และถ้าหากนั่นเป็นการใช้เวทมนตร์แล้วมันคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่.. แต่ว่านี่มันแค่จำนวนออร่าที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้น

หากใช้พลังเวทจำนวนมากขนาดนี้ในการแทรกแซงเวทมนตร์ในแบบของมนุษย์ ไม่ใช่ว่าจะสามารถพลิกแผ่นดิน.. ทวีปได้เลยหรือไง…?

เหงื่อเลมิสทาเรียไหลพราก ทุกอย่างพังหมดเลย ไม่ว่าจะแผนการที่มากด้วยเล่ห์กล หรือลึกลับซับซ้อนแค่ไหน..

ทว่าเมื่อเจอความแข็งแกร่งที่แท้จริงตรงหน้า… ทุกอย่างเป็นเหมือนละครตลก.. ห่างกันเกินไป!

หากปลดผนึกของปราชญ์บัดซบนั่นได้ พวกเธออาจจะสู้ได้เพราะได้รับพลังจากวิญญาณเก้าดวง

แต่ตอนนี้.. อย่าว่าแต่สู้เลยจะหนียังไงให้รอดมากกว่า!

เลมิสทาเรียกัดฟันเล็กน้อยพึมพำ

“อีกไม่นานท่านพี่ต้องมาถึงแน่ๆ .. พร้อมกับแผนสำรอง.. แต่ข้าจะทนถึงตอนนั้นได้หรือเปล่า…”

เธอพึมพำด้วยความหมดหวัง… ก่อนที่จะส่ายหน้าพร้อมกับกุมหน้าอก

“ไม่.. ข้าต้องทนให้ได้.. ต่อให้ต้องสละวิญญาณทั้งแปด…”

เธอกัดฟันพูดไม่คิดจะวิ่งหนีอีกต่อไป เพราะเธอเองก็มีประสบการณ์โชกโชน เธอรู้ว่าหากหันหลังให้ศัตรูที่มีพลังมากขนาดนี้

คงตายในทันทีอย่างแน่นอน แต่ทว่าพอเธอหยุดลงและหันหน้ากลับมานั้นเอง เลทิเซียก็เหมือนจะลอยอยู่ต่อหน้าเธอเสียแล้ว

“เคลื่อนที่ไม่สนระยะหรือเวลา?!”

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เลทิเซียเคลื่อนที่.. ราวกับว่ามันไม่มีพื้นที่หรือเวลามาให้นับถอยหลังว่าในอีกกี่เมตรจะถึง ในอีกกี่วินาทีถึงจะถึง

ราวกับทะลุออกนอกมิติที่สี่ไปและมาอยู่ตรงหน้า สีหน้าของเลมิสทาเรียซีดเผือด โชคยังดีที่เธอมีประสบการณ์การต่อสู้มาเยอะ

เพราะในจังหวะที่เลทิเซียกำหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานสีดำทมิฬโอบล้อมกำปั้นเธอก็วาดฝ่ามือออกไปกำปั้นขวาของเลทิเซียด้วยเวทไร้ตรรกะ

แต่ทว่าทันทีที่เธอจะทำให้ทุกอย่างไร้ตรรกะแต่มันกลับพังทลายลงต่อหน้าเธอ

“บัดซบเอ้ย”

เธอร้องอกมาด้วยความเสียใจฝ่ามือที่รับกำปั้นขวาของเลทิเซียก็แตกหักพังทลาย

เวทมนตร์ไร้ตรรกะคือการแทรกแซงแขนงหนึ่ง.. สุดท้ายแล้วมันก็คือการแทรกแซง อย่างที่บอกว่าการแทรกแซงเวทมนตร์นั้น

มันเหมือนกับการโกงอย่างหนึ่ง หากมนุษย์มีพลังในแก้วน้อยเกินไปจึงจำเป็นต้องเจาะรูของแก้วเพื่อให้เกิดความเป็นจริงตามที่ตนต้องการ

ถ้าเช่นนั้นแล้ว.. สำหรับปีศาจที่สามารถสร้างของจากความว่างเปล่าได้ล่ะ.. ใช่มันถูกสร้างขึ้นจากจำนวนพลังเวทที่เต็มแก้วจนล้นออกมา

เพื่อให้กลายเป็นความจริง ผลลัพธ์ทั้งคู่ล้วนเหมือนกัน.. แต่ทว่าหากปีศาจได้เข้าใจโครงสร้างของการแทรกแซงเวทมนตร์ล่ะ..

พวกเขาก็เพียงแค่สร้างโครงสร้างความเป็นจริงขึ้นมาอุดรูของความเป็นจริงที่มนุษย์แทรกแซงให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ก็พอ

หรือก็คืออุดรูบนแก้วที่มนุษย์แทรกแซงมันออกมา! แน่นอนว่าทันทีที่เวทไร้ตรรกะของเลมิสทาเรียไร้ผลเธอก็เข้าใจทุกอย่างทันที

แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้…มันควรจะเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่ร่ายใช้เวทมนตร์ พูดอีกแบบก็คือ… ต้องเข้าใจระบบโครงสร้างการแทรกแซงที่จะใช้ออกก่อนที่อีกฝ่ายจะแทรกแซงเสร็จ

กล่าวคือ… ต้องสร้างของทดแทนก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้เวทมนตร์..

“นี่เธอเห็นอนาคตหรือไง?!”

เลมิสทาเรียบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าที่น่าประหลาดใจคือมืออีกข้างของเลมิสทาเรียกลับตบไปที่ข้อศอกของเลทิเซีย

อย่างไม่ทันตั้งตัว.. เลมิสทาเรียที่แสดงเวทมนตร์ตัวเองให้เลทิเซียเห็นแถมอีกฝ่ายยังใช้ทั้งเวทมนตร์มนุษย์และปีศาจได้

เรื่องแบบนี้ไม่ได้เหนือกว่าความคาดเดาของเธอเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงใช้มืออีกข้างโจมตีไปที่ข้อศอกใช้เวทไร้ตรรกะเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ!

เสียงกระดูกหักดังออกจากแขนของเลทิเซียทำให้แขนขวาเธอหักห้อยอยู่ทั้งแบบนั้น ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นแทบจะในทันที…

แต่ถ้าพูดถึงการคาดเดาแผนของศัตรูแล้ว.. จะมีใครคิดมากไปกว่าเลทิเซียล่ะ เพราะแทบจะทันทีที่ข้อศอกเธอหัก

สิ่งที่เลมิสทาเรียคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น..

เลทิเซียใช้แขนที่หักแทงออกไปข้างหน้าและกระดูกที่หักก็ทะลุข้อศอกออกมาเป็นเหมือนคมดาบที่แหลมคมแทงไปที่ตาขวาของเธอ

“อ้ากกกก”

เลมิสทาเรียตะโกนออกมาพร้อมกับถอยกรูดไปด้านหลังทันที ตาขวามืดบอดหากมองไปที่แขนขวาของเลทิเซียตอนนี้

จะเห็นกระดูกสีขาวที่แหลมคมโผล่ออกมาจากข้อศอก และตรงบาดแผลที่กระดูกโผล่ออกมามีลูกตาของเลมิสทาเรียติดข้อศอกเลทิเซียออกมาด้วย

โชคดีที่เธอตอบสนองทัน ใช้เวทไร้ตรรกะใส่ดวงตาขวา ไม่ให้มันทรงผลกระทบต่อประสาทอื่นๆ ของตัวเอง…

“ยัยนี่… มันบ้าไปแล้ว” เธอไม่ได้พูดแต่คิดอยู่ในใจ… เธอไม่เคยเห็นคนบ้าขนาดนี้มาก่อนแถมอีกฝ่ายยังเป็นเด็กที่ตัวเล็กๆ เองนะ

ไม่คิดว่า.. เลทิเซียจะซ้อนแผนตัวเอง.. ยอมให้เธอหักแขนเพื่อที่จะทำลายดวงตาของเธอเพียงข้างหนึ่ง

ถึงมันอาจจะสามารถรักษาได้ก็จริงนะ.. แต่ว่าความเจ็บปวดที่รู้สึกถึงมันก็ไม่ได้หายไปสักหน่อยนี่น่า..

ดังนั้นคำพูดคำเดียวที่เลมิสทาเรียสามารถอธิบายเด็กผู้หญิงตรงหน้านี้ได้คือ… บ้าไปแล้วแน่ๆ

และภาพอันน่าตกใจมันยังไม่หยุด เพราะเลทิเซียใช้มือซ้ายดึงลูกตาของเลมิสทาเรียออกจากศอกแล้วก็.. แขนที่หักก็ฟื้นฟูกลับมาทันที

“…..”

ฟื้นฟูบาดแผลทันที.. ต่อให้เธอใช้เวทมนตร์ไร้ตรรกะ แต่แผลก็ไม่ได้หายเร็วขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนกำลังสู้อยู่ จะมีเวลาส่วนไหนไปแบ่งสมาธิกัน

เธอได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ.. ในเมื่อเป็นแบบนี้เธอก็ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน..

ดวงตาของเลมิสทาเรียแข็งกร้าวขึ้นมาทันใด.. เธอก็จะทุ่มสุดตัวแล้วเช่นกัน

 

……..

[คำเตือน ฉากหลังจากนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน เอาเถอะ มันอาจจะไม่ได้หนักหนาสาหัาเหมือนฉากปวดตับดราม่าก็ได้ แต่ก็ถือว่าเตือนแล้วน้า…. อย่าว่าผมน้าาาา อ้อ แล้วก็ลืมความฝลดใฝลซื่อบื้อและกาวแดกของน้องเลทิเซียไปได้เลยในฉากต่อสู้นี้ (?) – ผู้เขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม 218

Now you are reading การถือกำเนิดจอมมารผู้เหนือโลกที่สิบสาม Chapter 218 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 218 – แขนและดวงตา

 

“โกหกน่า.. ล้อกันเล่นใช่ไหม…”

เลมิสทาเรียสำลักลมหายใจออกมา เธอไม่ใช่คนเลินเล่อขนาดที่ว่าวางแผนไว้ชั้นเดียว หากทำไม่สำเร็จยังมีแผนสำรอง

หากพลาดยังมีแผนรองรับอีกซ้อน.. เรียกได้ว่าเธอเองก็เป็นคนที่ฉลาดแกมโกงเช่นกัน… เพียงแต่ว่า..

ไม่ว่าจะคาดการณ์ไว้มากแค่ไหนภาพตรงหน้ามันก็เกินจริงยิ่งกว่าที่คาดเอาไว้ เรียกได้ว่าภาพตรงหน้านี้มันแหกทุกแนวคิดที่เธอรู้จักหรือเข้าใจมาตลอดหลายร้อยปีเลย

เธอรู้ว่าเลทิเซียเป็นจอมมารและพอจะเดาได้ลางๆ ว่า คนตรงหน้านี้อาจจะไม่เหมือนคนอื่น ถึงจะไม่รู้หลักการว่าทำยังไงถึงใช้เวทมนตร์ได้สองรูปแบบ

แต่สิ่งที่เธอคาดไว้คืออย่างน้อยหากคนตรงหน้านี้สภาพสมบูรณ์ละก็ พวกเธอสองพี่น้องอาจจะสู้ไม่ไหวเลยก็ว่าได้

บางทีอาจจะเป็นจอมมารที่ไม่ถูกผนึกพลังเพราะเป็นจอมมารคนที่สิบสาม และอาจจะเหนือกว่าจอมมารก่อนถูกผนึกพลังไปหลายขั้น

ใช่ เธอประเมินเลทิเซียไว้สูงขนาดนั้นแหละ.. แต่ทว่าภาพตรงหน้านี้มันทำลายความเชื่อมั่นทุกอย่างของเธอ

สามารถเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้… และถ้าหากนั่นเป็นการใช้เวทมนตร์แล้วมันคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่.. แต่ว่านี่มันแค่จำนวนออร่าที่ถูกปล่อยออกมาเท่านั้น

หากใช้พลังเวทจำนวนมากขนาดนี้ในการแทรกแซงเวทมนตร์ในแบบของมนุษย์ ไม่ใช่ว่าจะสามารถพลิกแผ่นดิน.. ทวีปได้เลยหรือไง…?

เหงื่อเลมิสทาเรียไหลพราก ทุกอย่างพังหมดเลย ไม่ว่าจะแผนการที่มากด้วยเล่ห์กล หรือลึกลับซับซ้อนแค่ไหน..

ทว่าเมื่อเจอความแข็งแกร่งที่แท้จริงตรงหน้า… ทุกอย่างเป็นเหมือนละครตลก.. ห่างกันเกินไป!

หากปลดผนึกของปราชญ์บัดซบนั่นได้ พวกเธออาจจะสู้ได้เพราะได้รับพลังจากวิญญาณเก้าดวง

แต่ตอนนี้.. อย่าว่าแต่สู้เลยจะหนียังไงให้รอดมากกว่า!

เลมิสทาเรียกัดฟันเล็กน้อยพึมพำ

“อีกไม่นานท่านพี่ต้องมาถึงแน่ๆ .. พร้อมกับแผนสำรอง.. แต่ข้าจะทนถึงตอนนั้นได้หรือเปล่า…”

เธอพึมพำด้วยความหมดหวัง… ก่อนที่จะส่ายหน้าพร้อมกับกุมหน้าอก

“ไม่.. ข้าต้องทนให้ได้.. ต่อให้ต้องสละวิญญาณทั้งแปด…”

เธอกัดฟันพูดไม่คิดจะวิ่งหนีอีกต่อไป เพราะเธอเองก็มีประสบการณ์โชกโชน เธอรู้ว่าหากหันหลังให้ศัตรูที่มีพลังมากขนาดนี้

คงตายในทันทีอย่างแน่นอน แต่ทว่าพอเธอหยุดลงและหันหน้ากลับมานั้นเอง เลทิเซียก็เหมือนจะลอยอยู่ต่อหน้าเธอเสียแล้ว

“เคลื่อนที่ไม่สนระยะหรือเวลา?!”

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เลทิเซียเคลื่อนที่.. ราวกับว่ามันไม่มีพื้นที่หรือเวลามาให้นับถอยหลังว่าในอีกกี่เมตรจะถึง ในอีกกี่วินาทีถึงจะถึง

ราวกับทะลุออกนอกมิติที่สี่ไปและมาอยู่ตรงหน้า สีหน้าของเลมิสทาเรียซีดเผือด โชคยังดีที่เธอมีประสบการณ์การต่อสู้มาเยอะ

เพราะในจังหวะที่เลทิเซียกำหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังงานสีดำทมิฬโอบล้อมกำปั้นเธอก็วาดฝ่ามือออกไปกำปั้นขวาของเลทิเซียด้วยเวทไร้ตรรกะ

แต่ทว่าทันทีที่เธอจะทำให้ทุกอย่างไร้ตรรกะแต่มันกลับพังทลายลงต่อหน้าเธอ

“บัดซบเอ้ย”

เธอร้องอกมาด้วยความเสียใจฝ่ามือที่รับกำปั้นขวาของเลทิเซียก็แตกหักพังทลาย

เวทมนตร์ไร้ตรรกะคือการแทรกแซงแขนงหนึ่ง.. สุดท้ายแล้วมันก็คือการแทรกแซง อย่างที่บอกว่าการแทรกแซงเวทมนตร์นั้น

มันเหมือนกับการโกงอย่างหนึ่ง หากมนุษย์มีพลังในแก้วน้อยเกินไปจึงจำเป็นต้องเจาะรูของแก้วเพื่อให้เกิดความเป็นจริงตามที่ตนต้องการ

ถ้าเช่นนั้นแล้ว.. สำหรับปีศาจที่สามารถสร้างของจากความว่างเปล่าได้ล่ะ.. ใช่มันถูกสร้างขึ้นจากจำนวนพลังเวทที่เต็มแก้วจนล้นออกมา

เพื่อให้กลายเป็นความจริง ผลลัพธ์ทั้งคู่ล้วนเหมือนกัน.. แต่ทว่าหากปีศาจได้เข้าใจโครงสร้างของการแทรกแซงเวทมนตร์ล่ะ..

พวกเขาก็เพียงแค่สร้างโครงสร้างความเป็นจริงขึ้นมาอุดรูของความเป็นจริงที่มนุษย์แทรกแซงให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ก็พอ

หรือก็คืออุดรูบนแก้วที่มนุษย์แทรกแซงมันออกมา! แน่นอนว่าทันทีที่เวทไร้ตรรกะของเลมิสทาเรียไร้ผลเธอก็เข้าใจทุกอย่างทันที

แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้…มันควรจะเกิดขึ้นแทบจะทันทีที่ร่ายใช้เวทมนตร์ พูดอีกแบบก็คือ… ต้องเข้าใจระบบโครงสร้างการแทรกแซงที่จะใช้ออกก่อนที่อีกฝ่ายจะแทรกแซงเสร็จ

กล่าวคือ… ต้องสร้างของทดแทนก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้เวทมนตร์..

“นี่เธอเห็นอนาคตหรือไง?!”

เลมิสทาเรียบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด แต่ทว่าที่น่าประหลาดใจคือมืออีกข้างของเลมิสทาเรียกลับตบไปที่ข้อศอกของเลทิเซีย

อย่างไม่ทันตั้งตัว.. เลมิสทาเรียที่แสดงเวทมนตร์ตัวเองให้เลทิเซียเห็นแถมอีกฝ่ายยังใช้ทั้งเวทมนตร์มนุษย์และปีศาจได้

เรื่องแบบนี้ไม่ได้เหนือกว่าความคาดเดาของเธอเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงใช้มืออีกข้างโจมตีไปที่ข้อศอกใช้เวทไร้ตรรกะเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ!

เสียงกระดูกหักดังออกจากแขนของเลทิเซียทำให้แขนขวาเธอหักห้อยอยู่ทั้งแบบนั้น ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นแทบจะในทันที…

แต่ถ้าพูดถึงการคาดเดาแผนของศัตรูแล้ว.. จะมีใครคิดมากไปกว่าเลทิเซียล่ะ เพราะแทบจะทันทีที่ข้อศอกเธอหัก

สิ่งที่เลมิสทาเรียคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น..

เลทิเซียใช้แขนที่หักแทงออกไปข้างหน้าและกระดูกที่หักก็ทะลุข้อศอกออกมาเป็นเหมือนคมดาบที่แหลมคมแทงไปที่ตาขวาของเธอ

“อ้ากกกก”

เลมิสทาเรียตะโกนออกมาพร้อมกับถอยกรูดไปด้านหลังทันที ตาขวามืดบอดหากมองไปที่แขนขวาของเลทิเซียตอนนี้

จะเห็นกระดูกสีขาวที่แหลมคมโผล่ออกมาจากข้อศอก และตรงบาดแผลที่กระดูกโผล่ออกมามีลูกตาของเลมิสทาเรียติดข้อศอกเลทิเซียออกมาด้วย

โชคดีที่เธอตอบสนองทัน ใช้เวทไร้ตรรกะใส่ดวงตาขวา ไม่ให้มันทรงผลกระทบต่อประสาทอื่นๆ ของตัวเอง…

“ยัยนี่… มันบ้าไปแล้ว” เธอไม่ได้พูดแต่คิดอยู่ในใจ… เธอไม่เคยเห็นคนบ้าขนาดนี้มาก่อนแถมอีกฝ่ายยังเป็นเด็กที่ตัวเล็กๆ เองนะ

ไม่คิดว่า.. เลทิเซียจะซ้อนแผนตัวเอง.. ยอมให้เธอหักแขนเพื่อที่จะทำลายดวงตาของเธอเพียงข้างหนึ่ง

ถึงมันอาจจะสามารถรักษาได้ก็จริงนะ.. แต่ว่าความเจ็บปวดที่รู้สึกถึงมันก็ไม่ได้หายไปสักหน่อยนี่น่า..

ดังนั้นคำพูดคำเดียวที่เลมิสทาเรียสามารถอธิบายเด็กผู้หญิงตรงหน้านี้ได้คือ… บ้าไปแล้วแน่ๆ

และภาพอันน่าตกใจมันยังไม่หยุด เพราะเลทิเซียใช้มือซ้ายดึงลูกตาของเลมิสทาเรียออกจากศอกแล้วก็.. แขนที่หักก็ฟื้นฟูกลับมาทันที

“…..”

ฟื้นฟูบาดแผลทันที.. ต่อให้เธอใช้เวทมนตร์ไร้ตรรกะ แต่แผลก็ไม่ได้หายเร็วขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนกำลังสู้อยู่ จะมีเวลาส่วนไหนไปแบ่งสมาธิกัน

เธอได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจ.. ในเมื่อเป็นแบบนี้เธอก็ต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน..

ดวงตาของเลมิสทาเรียแข็งกร้าวขึ้นมาทันใด.. เธอก็จะทุ่มสุดตัวแล้วเช่นกัน

 

……..

[คำเตือน ฉากหลังจากนี้มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน เอาเถอะ มันอาจจะไม่ได้หนักหนาสาหัาเหมือนฉากปวดตับดราม่าก็ได้ แต่ก็ถือว่าเตือนแล้วน้า…. อย่าว่าผมน้าาาา อ้อ แล้วก็ลืมความฝลดใฝลซื่อบื้อและกาวแดกของน้องเลทิเซียไปได้เลยในฉากต่อสู้นี้ (?) – ผู้เขียน]

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+