การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 126 ถังซวงไม่ต้องการพวกคุณแล้ว

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 126 ถังซวงไม่ต้องการพวกคุณแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 126 ถังซวงไม่ต้องการพวกคุณแล้ว

บทที่ 126 ถังซวงไม่ต้องการพวกคุณแล้ว

แม่เฒ่าถังโกรธมาก เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เธอทนไม่ได้จึงเดินไปจัดการพวกหญิงชราปากไม่มีหูรูดพวกนั้น

แต่คนเหล่านั้นจะยืนเฉยได้อย่างไร? หญิงชราทั้งหลายจึงล้อมและทุบตีแม่เฒ่าถังด้วยกัน เมื่อถังเจี้ยนกั๋วผ่านมา ก็เห็นแม่ของตนกำลังถูกทุบตี จึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยทันที

“โอ๊ย… ตายแล้ว ชายร่างใหญ่ทุบตีคนแก่… ทำไมถึงทำแบบนี้?”

ในหมู่พวกเขามีหญิงชราที่ไม่คุ้นเคยกับแม่เฒ่าถังและถังเจี้ยนกั๋ว ดังนั้นก่อนที่จะได้ทำอะไร เธอก็เริ่มโวยวายและร้องไห้อย่างหนัก

หญิงชราคนอื่น ๆ เองก็เริ่มต่อว่าถังเจี้ยนกั๋วทั้งน้ำตา แม้ว่าจะมีหลายคน แต่พวกเขาก็เป็นคนแก่และผู้หญิงเท่านั้น แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังเจี้ยนกั๋ว

เมื่อเห็นหญิงชราจำนวนมากชี้มาที่เขาพร้อมต่อว่า ถังเจี้ยนกั๋วก็โกรธมาก “เห็นได้ชัดว่าพวกป้ากำลังทำร้ายแม่ฉัน ฉันแค่กันพวกป้าออกไป แล้วตอนนี้ป้ากำลังพูดถึงอะไรกัน?”

“ไม่ได้ตีอะไร ดูเสื้อผ้าฉันสิ แกฉีกมันทิ้งหมดแล้ว”

“ใช่แล้ว ผมของฉันก็ยุ่งเหยิงไปหมด แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นการทุบตีรึไง”

ถังเจี้ยนกั๋วหน้าแดงด้วยความโกรธในขณะที่หญิงชราหลายคนส่งเสียงร้องน่ารำคาญ และครั้งนี้เขาต้องการที่จะทุบตีใครสักคนจริง ๆ แล้ว

เมื่อเห็นถังเจี้ยนกั๋วแบบนี้ หญิงชราก็ยังไม่กลัว “เหอะ… ถังเจี้ยนกั๋ว แกรู้ไหมว่าทำไมแม่ของแกถึงมาทำร้ายเรา? เราแค่พูดความจริง และหล่อนก็รับไม่ได้”

“ใช่ เราแค่พูดว่าชีวิตของเฮ่อหลานดีขึ้นหลังจากออกจากตระกูลถัง ญาติของยายเฒ่าเฮ่อมาตามหา และตอนนี้พวกเขากำลังสร้างบ้านใหม่ให้เธอ และเราก็ได้ยินมาว่าตอนนี้เธอมีครอบครัวใหม่แล้ว คนรักของเฮ่อหลานเป็นถึงผู้นำระดับสูงอีกต่างหาก ดูจากรูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอแล้ว เขายังดูเป็นคนเมืองมากกว่าคนในเมืองเสียอีก พอทั้งสองคนยืนข้างกันแล้วดูเหมาะกันมากเลยด้วย”

“โว้ยยยย…!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังเจี้ยนกั๋วไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างและเตรียมที่จะวิ่งไปข้างหน้าด้วยความโกรธ

แม่เฒ่าถังเห็นอย่างนั้นก็ห้ามเขาทันที เธอรีบดึงลูกชายคนเล็กของเธอกลับมา เธอสู้กับหญิงชราเหล่านี้ไม่ได้ก็จริง แต่ลูกชายของเธอเป็นคนตัวใหญ่และเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอนหากเขาลงมือกับหญิงชราเหล่านี้ นั่นจะยิ่งแล้วใหญ่หากมีคนบาดเจ็บขึ้นมา พวกเขาจะไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้หรือไง?

ในเวลานี้ หัวหน้าหมู่บ้านถังเยว่หมินก็มาและเห็นความวุ่นวายที่นี่ เขาตะโกนเสียงดัง “ถังเจี้ยนกั๋ว! นายกำลังจะทำอะไร!?”

ถังเจี้ยนกั๋วหน้าแดงด้วยความโกรธ ถ้าแม่เฒ่าถังไม่ได้ดึงเขาไว้ ป่านนี้เขาคงไปจัดการหญิงแก่พวกนั้นนานแล้ว แต่เขาก็ยังมีสติพอ ชายหนุ่มรู้ว่าหากยังดื้อดึง จะถูกแทงข้างหลังแน่นอน จึงรั้งตัวเองไว้

แม้ว่าแม่เฒ่าถังเองก็โกรธเช่นกัน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ใจต้องการ ดังนั้นแม่เฒ่าจึงลากถังเจี้ยนกั๋วกลับบ้านทันที

หลังจากกลับถึงบ้าน แม่เฒ่าถังไม่สามารถอดกลั้นไว้ได้อีก เธอชี้ไปที่ลูกชายคนเล็กแล้วพูดว่า “ดูสิ่งที่แกทำสิ ทำไมแกถึงเลือกนังแม่ม่ายหลิวคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อน ตอนนี้แกคงไม่ได้หย่ากับเฮ่อหลาน ตอนนี้มันควรเป็นพวกญาติตระกูลเฮ่อกำลังสร้างบ้านให้ตระกูลถังของเราสิ ฉันได้ยินมาว่าคราวนี้พวกเขาสร้างอาคารจริง ๆ สร้างอาคาร!”

ในตอนท้ายดวงตาอิจฉาของแม่เฒ่าถังแดงก่ำ

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังเจี้ยนกั๋วกำหมัดแน่นด้วยใบหน้าอดกลั้น แต่เขาไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่สะท้อนอยู่ในใจขณะนี้คือข้อเท็จจริงที่ว่า เฮ่อหลานมีคนรักใหม่ นังสารเลวเฮ่อหลานไปมีคนรักใหม่จริง ๆ และดูเหมือนว่าจะคบกับผู้ชายคนนั้นมานานแล้ว

เมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กของเธอเงียบไป แม่เฒ่าถังจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจี้ยนกั๋ว ฉันกำลังพูดกับแก แกได้ยินฉันไหม?”

ในเวลานี้ แม่ม่ายหลิวเพิ่งกลับมาจากข้างนอกและสีหน้าของเธอก็บึ้งตึงมาก เธอมักจะได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเฮ่อหลานตลอดทาง และในขณะเดียวกันเธอก็มักจะถูกเยาะเย้ย

ตอนนี้เมื่อแม่เฒ่าถังเห็นแม่ม่ายหลิว เธอโกรธมากจนอดสาปแช่งไม่ได้

“นังแม่ม่ายต่ำต้อย ทำไมแกถึงยังมีหน้ากลับมาอีก ออกไปทำอะไรข้างนอกได้ทุกวัน?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่ม่ายหลิวก็อดน้อยใจไม่ได้ เธอตวาดกลับว่า “ลูกชายของคุณก็ยังไม่ตาย แต่มาเรียกฉันว่าแม่ม่ายเนี่ยนะ? ทำไม… อยากให้ลูกชายของคุณตายก่อนกำหนดนักรึไง?” เธอเข้าใจแล้ว ไม่มีใครในครอบครัวนี้ปฏิบัติกับเธอดีเลย แล้วทำไมเธอต้องทนกับการดูหมิ่นเหล่านี้ด้วย

“กรี๊ดด…! นังสารเลว ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้น ๆ!”

แม่เฒ่าถังทนไม่ได้เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นและระบายความไม่พอใจออกมาในเวลาเดียวกัน “ถ้าไม่ใช่เพราะแก เจี้ยนกั๋วกับเฮ่อหลานของเราคงไม่เป็นอย่างนี้ พวกเขาคงไม่หย่าร้างกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของแก นังชาติชั่ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่ม่ายหลิวก็หัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า… งั้นฉันจะบอกความจริงกับคุณก็ได้ แม้ว่าจะไม่มีฉัน เฮ่อหลานก็คงจะหย่ากับถังเจี้ยนกั๋วอยู่ดี”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ถังเจี้ยนกั๋วมองที่เธอด้วยดวงตามืดมน และถามว่า “เธอหมายความว่ายังไง?” เขานึกถึงเรื่องระหว่างเฮ่อหลานกับชายคนนั้นทันที เป็นไปได้ไหมว่าทั้งสองคบกันก่อนหน้าที่เธอจะหย่ากับเขา

แม้แต่แม่เฒ่าถังก็หยุดและมองไปที่แม่ม่ายหลิวด้วยความงุนงง

เมื่อเห็นความไม่เชื่อบนใบหน้าของพวกเขา แม่ม่ายหลิวก็หัวเราะออกมา

“รู้ไหมว่าทำไมจู่ ๆ วันนั้นฉันก็มาหาพวกคุณที่บ้าน? มันเป็นเพราะถังซวงรู้เรื่องของเรา เธอขู่ว่าถ้าฉันไม่มาแต่งงานกับคุณ เธอจะทำให้ทุกคนรู้และจะทำให้เราสองคนถูกนินทา ฮ่าฮ่าฮ่า… เป็นถังซวงเองต่างหากที่ไม่ต้องการตระกูลถังของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว”

“อะไรนะ… เป็นไปไม่ได้”

แม่เฒ่าถังปฏิเสธทันทีว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

ถังเจี้ยนกั๋วมองแม่ม่ายหลิวอย่างสั่นไหวแล้วถามว่า “ถังซวงไปหาเธอจริง ๆ หรือ?”

“เหอะ… ก็ใช่น่ะสิ มันเป็นเรื่องจริง เธอจงใจให้คุณกับเฮ่อหลานหย่ากัน เธอต้องการแยกพวกแกสามแม่ลูกไปให้ไกลจากตระกูลถัง ตอนนี้คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าตั้งแต่ออกจากตระกูลถังไป ชีวิตของสามแม่ลูกดีแค่ไหน”

“หึ… นังเด็กนี่!”

แม่เฒ่าถังนึกถึงถังซวง และรู้สึกว่านังเด็กนั่นอาจจะทำเรื่องนี้จริง ๆ “เจี้ยนกั๋ว เราจะปล่อยมันไปไม่ได้นะ”

ก่อนที่ถังเจี้ยนกั๋วจะพูดอะไร แม่ม่ายหลิวก็พูดออกมาเมื่อได้ฟังก็ราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็น

“คุณคิดว่าคุณจะทำอะไรได้งั้นหรือ? เฮ่อหลานในตอนนี้ไม่ใช่คนที่คุณจะไปทำอะไรก็ได้หรอกนะ” หลังจากพูดแบบนี้เธอก็เพิกเฉยต่อแม่เฒ่าถังกับถังเจี้ยนกั๋ว และกลับไปที่ห้องของเธอ

ถังเจี้ยนกั๋วมองไปที่แม่ม่ายหลิวที่กำลังเดินออกไปด้วยดวงตาที่มืดมน

ในอีกด้านหนึ่ง ถังซวงซึ่งถูกตระกูลถังเกลียดชังมองไปที่เฮ่อเจียรุ่ยอย่างตกตะลึงและพูดว่า “พี่เจียรุ่ย ทำไมพี่กับลุงไม่บอกเราล่ะ ถ้ารู้เร็วกว่านี้ พวกเราคงมาที่นี่แล้ว”

เฮ่อเจียรุ่ยหัวเราะเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้

“น้องซวง ฉันกับพ่อจะจัดการเรื่องนี้เอง เธอกับอาหญิงไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะเอาแบบให้ดูหลังจากฉันวาดเสร็จแล้วนะ ถ้ามีอะไรที่อยากแก้ก็บอกได้เลย”

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่จริงใจของเฮ่อเจียรุ่ย ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เธอพยักหน้าและพูดว่า “ตกลงค่ะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *