การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 228 คิดอย่างรอบคอบ

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 228 คิดอย่างรอบคอบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 228 คิดอย่างรอบคอบ

บทที่ 228 คิดอย่างรอบคอบ

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซวง เฉินกวงหยางยิ้มแล้วตอบว่า “ครับ เดี๋ยวผมจะบอกผู้เฒ่าฉีให้ เขาต้องดีใจมากแน่”

“ค่ะ พี่เฉิน อย่างนั้นพวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ”

ถังซวงโบกมือลาแล้วพาซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่กลับที่พัก

เมื่อมาถึงบ้านพัก ถังซวงก็เห็นว่าจิงเจ้อหรงกับเฮ่อหลานอยู่ที่นี่แล้ว

เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะตอนนี้จิงเจ้อหรงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ถ้าเธอเดาไม่ผิดนี่คือเสื้อผ้าที่แม่ของเธอพยายามทำให้ทันเวลาเพื่อให้เขาโดยเฉพาะ

ในเวลานี้ ใบหน้าของจิงเจ้อหรงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เฮ่อหลานทำให้มันยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลามากขึ้นไปอีก

เมื่ออีกฝ่ายเห็นถังซวงกับคนอื่น ๆ มาถึงแล้ว เขาก้าวไปด้านหน้าก่อนจะพูดกับเธอว่า “ซวงเอ๋อร์กลับมาแล้วหรือ”

จากนั้นหันมองซ่างสยงเยี่ยแล้วพูดว่า “ยินดีต้อนรับคุณชายซ่างสู่เมืองเวิงชานครับ คืนนี้เชิญมาทานมื้อเย็นกับพวกเรานะครับ”

เมื่อซ่างสยงเยี่ยเห็นท่าทีของจิงเจ้อหรงในฐานะเจ้าบ้าน เขาอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วสูง ทว่าก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ครับ”

จิงเจ้อหรงตระเตรียมทุกอย่างจนเรียบร้อย พวกเขาไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารของรัฐ

เมื่อทุกคนมาถึงอาหารก็พร้อมแล้ว หลังจบมื้ออาหาร เขาไปส่งทุกคนที่บ้านพัก “คุณชายซ่าง ผมได้ยินว่าพรุ่งนี้คุณจะไปที่หมู่บ้านเถาฮวา ถ้าอย่างนั้น ไว้ผมจะตามไปทีหลังนะครับ”

แม้เขาอยากจะไปพร้อมกัน แต่ก็มีงานด่วนเข้ามาเมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงไม่สามารถปลีกตัวออกไปได้เลย

“ครับ แล้วเจอกันนะครับ”

แม้ไม่ทราบว่าสถานะของจิงเจ้อหรงคืออะไร แต่ซ่างสยงเยี่ยก็สัมผัสได้ว่าบุคคลนี้ไม่ธรรมดา ทั้งท่าทางและทัศนคติของอีกฝ่ายค่อนข้างดูดีมาก เช่นนี้เขาจึงอุ่นใจไม่น้อย

ส่วนถังซวงยืนอยู่ด้านหลัง เธอจะออกไปข้างนอกในคืนนี้ เลยหันไปพูดกับเฮ่อหลานว่า “แม่คะ เดี๋ยวหนูจะไปหาผู้เฒ่าฉีนะคะ แม่พักผ่อนก่อนได้เลยค่ะ”

“จ้ะ ระวังตัวด้วยนะ”

หลังถังซวงออกไปแล้ว ซ่างสยงเยี่ยก็เดินกลับห้อง แต่เขาพบว่าซ่างหมิงซวี่เดินตามมาด้วย

“หมิงซวี่ ทำไมถึงไม่กลับไปที่ห้องของตัวเองล่ะ?”

ซ่างหมิงซวี่มองซ่างสยงเยี่ยด้วยความสับสนก่อนจะเอ่ยถามว่า “คุณลุงครับ เราจะกลับเมืองก่างเฉิงหลังจากที่เราไปดูโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในวันพรุ่งนี้ไหมครับ?”

สุดท้ายเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ผมได้ยินว่าตระกูลเฮ่อต้องการให้คุณเฮ่อกับลูก ๆ ไปอยู่ด้วยกันที่ก่างเฉิง แต่พวกเขากลับไม่ยินยอมและยังกลับมาที่นี่อีก ผมไม่เข้าใจ เมืองก่างเฉิงทั้งสวยและน่าอยู่มาก แต่ทำไมพวกเขาถึงอยากจะอยู่ในที่แบบนี้กัน”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างสยงเยี่ยชำเลืองมองหลานชายของตัวเองพร้อมพูดขึ้นว่า “หมิงซวี่ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะจากบ้านเกิดของตัวเองไป มันเป็นเรื่องปกติที่คุณเฮ่ออยากจะกลับมาอยู่ที่นี่ อีกอย่างเธอไม่ควรที่จะใช้ความคิดของตัวเองไปตัดสินคนอื่นนะ”

ซ่างหมิงซวี่เม้มปากหลังได้ยินอย่างนั้น แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี อีกทั้งเขายังไม่เข้าใจว่าทำไมลุงของเขาถึงให้ความสำคัญกับเฮ่อหลานและถังซวงมากขนาดนี้

“คุณลุงครับ ถึงงานปักของคุณเฮ่อจะมีคุณภาพยอดเยี่ยม แต่เท่าที่ผมรู้มา งานปักอย่างนี้ไม่เป็นที่นิยมในแผ่นดินใหญ่ แต่กลับขายได้ราคาแพงในเมืองก่างเฉิง แล้วทำไมคุณถึงให้ราคาของเมืองก่างเฉิงกับพวกเขาล่ะครับ? เราสามารถกดราคาพวกเขาได้ด้วยซ้ำ”

หลังเห็นว่าลุงของตนไม่ตอบกลับ ซ่างหมิงซวี่พูดต่อว่า “ถึงคุณเฮ่อจะเป็นคนของตระกูลเฮ่อก็จริง แต่ถ้าพวกเขากลับมาอยู่ที่นี่ มันก็อยู่นอกเหนืออำนาจของตระกูลเฮ่อไม่ใช่หรือครับ? นับประสาอะไรกับการทำธุรกิจ ถึงตระกูลเฮ่อคิดอยากแทรกแซงแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี ทำไมเราต้องมารักษาน้ำใจเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้ด้วย”

ความจริงแล้ว เขาไม่อยากมาเยือนแผ่นดินใหญ่ด้วยซ้ำ

ซ่างสยงเยี่ยมองซ่างหมิงซวี่อย่างไม่สนใจก่อนจะส่ายศีรษะอย่างเอือมระอา

“คุณลุงครับ ผมพูดผิดตรงไหนหรือเปล่า?” ซ่างหมิงซวี่รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าซ่างสยงเยี่ยทำหน้าเบื่อหน่าย

ซ่างสยงเยี่ยไม่มีลูกชาย เพราะอย่างนี้เขาจึงให้ความสำคัญกับหลานชายคนนี้เสมอมา เมื่อได้ยินคำพูดของหลานชายเวลานี้แล้ว เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “เธอรู้เรื่องที่ซูยี่พิการไหม?”

หลังเห็นว่าลุงของตนพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมา ซ่างหมิงซวี่ไม่ได้ตอบกลับในทันที แต่ก็พยักหน้าแล้วตอบว่า “ครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจ และตอนนี้เขาก็ได้รับบทเรียนราคาแพง แถมยังพิการ แต่ที่น่าแปลกคือตระกูลซูกลับไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย”

ซ่างสยงเยี่ยมองซ่างหมิงซวี่แล้วตอบว่า “แต่ฉันรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร”

“อะไรนะครับ… คุณลุงรู้หรือ?”

ซ่างสยงเยี่ยยังคงหยอกล้อ “เธอเองก็รู้จักคนคนนี้ด้วย”

“หา?”

ซ่างหมิงซวี่นึกถึงทุกคนที่เขารู้จัก แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่

ซ่างสยงเยี่ยส่ายศีรษะเบา ๆ หลังเห็นว่าหลานชายกำลังครุ่นคิด ก่อนจะพูดออกมาว่า “เป็นถังซวง”

“อะไรนะ…”

เมื่อซ่างหมิงซวี่ได้ยินอย่างนั้น เขาอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “จะเป็นไปได้ยังไงครับ เธอน่ะหรือ?”

“อืม เป็นเธอ”

ซ่างสยงเยี่ยพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันไม่แปลกใจเลยที่คุณถังสามารถหักแขนของซูยี่ได้ แต่ที่ฉันแปลกใจคือเธอทำให้ตระกูลซูไม่แม้จะเคลื่อนไหวอะไรกับเรื่องนี้เลย”

“ใช่ ถึงเธอจะเป็นคนของตระกูลเฮ่อ แต่ตระกูลซูคงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่ เพราะซูยี่ก็คือลูกชายคนโตของตระกูลซู”

ซ่างสยงเยี่ยหัวเราะเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาพูดต่อว่า “ใช่ ซูยี่เป็นลูกชายคนโตของตระกูลซู เวลานี้ต้องมาพิการเพราะคุณถัง แต่ตระกูลซูกลับไม่เคลื่อนไหว เธอไม่คิดว่ามันแปลกงั้นหรือ? แต่พอวันนี้ที่ได้ไปที่นั่น ฉันถึงรู้คำตอบ”

“คำตอบอะไรหรือครับ?”

ขณะที่ซ่างหมิงซวี่กำลังสับสน เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมลุงของเขาถึงรู้เรื่องราวทั้งหมดหลังจากไปที่ร้านขายของฝากพวกนั้น หรือมันมีอะไรผิดปกติที่นั่น?

“เธอยังเด็กเกินไป เลยไม่ทันสังเกต แต่ฉันรู้ว่าเคยมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหนึ่งในเมืองก่างเฉิง พวกเขาไม่ธรรมดา และกลุ่มนั้นเรียกตัวเองว่าโถงยี่ชี และคนที่พาเราไปร้านขายของฝากในวันนี้คือคนของโถงยี่ชี” นี่คือสิ่งที่เขาสังเกตเห็นป้ายเล็ก ๆ ในมุมหนึ่งของร้าน

“โถงยี่ชี?”

ถังหมิงซวี่ยังไม่เข้าใจ “แต่… แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับถังซวงล่ะครับ?”

“ไม่เห็นหรือว่าคนพวกนั้นเคารพถังซวงขนาดไหน?”

ซ่างหมิงซวี่คิดไตร่ตรองและพบว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ตอนนี้ใบหน้าของเขาเผยความตื่นตระหนกออกมา

“อย่างนั้นถังซวงก็อยู่ในโถงยี่ชีด้วยหรือครับ?”

“ใช่ และสถานะของเธอต้องไม่ธรรมดาแน่”

ซ่างหมิงซวี่อ้าปากค้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นถึงมีอำนาจยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้

ส่วนถังซวงที่ไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังคาดเดาอะไรอยู่ ตอนนี้เธอก็มาถึงบ้านของผู้เฒ่าฉี ทันทีที่มาถึงเธอตรวจสอบชีพจรของเขาอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “เหมือนว่าผู้เฒ่าฉีจะดูแลตัวเองอย่างดีเลยนะคะ สุขภาพของคุณดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ”

หลังได้ยินอย่างนั้น ผู้เฒ่าฉีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ทั้งหมดนี้ ก็ต้องขอบคุณเธอนั่นแหละ”

ถังซวงยิ้มแล้วโบกมือ ก่อนจะหยิบยาที่เตรียมไว้ออกมาแล้วพูดว่า “ผู้เฒ่าฉีคะ ยาพวกนี้ฉันทำมาใหม่เลย หลังทานยาก่อนหน้านี้หมด ให้ทานยาชุดนี้ต่อนะคะ”

“ตกลง ๆ”

ผู้เฒ่าฉีรับยาโดยไม่ถามอะไร ก่อนจะบอกถังซวงเกี่ยวกับเรื่องของโถงยี่ชี

“ตอนนี้คนส่วนใหญ่รู้แล้วว่าเธอเป็นผู้นำคนใหม่ของโถงยี่ชี แต่บางคนก็ยังไม่รู้ ที่ฉันจะบอกก็คือ ไว้คราวหน้าเราค่อยหาโอกาสไปพบพี่น้องทุกคนในโถงยี่ชีแล้วกันนะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด