การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 229 มาถึง

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 229 มาถึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 229 มาถึง

บทที่ 229 มาถึง

เมื่อถังซวงได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าฉีแล้ว เธอตอบกลับว่า “ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไป”

ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้ว ยังไงเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับมันในสักวัน

เมื่อเห็นว่าถังซวงยอมรับแต่โดยดี ผู้เฒ่าฉียิ้มก่อนจะพูดว่า “เอาเถอะ ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็บอกฉันได้ทันที ฉันจะจัดการให้”

“พรุ่งนี้ฉันต้องกลับแล้ว คงจะยุ่งสักพักหนึ่งค่ะ แต่ถ้าฉันจะเข้าเมืองคราวหน้า ฉันจะบอกคุณล่วงหน้านะคะ”

“ดี ๆ”

ผู้เฒ่าฉีตอบกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบสมุดบัญชีหลายเล่มออกมาแล้วมอบให้กับถังซวง

“เธอควรอ่านมันก่อน จะได้เข้าใจสถานการณ์และกิจการภายในโถงยี่ชีของเรา”

ถังซวงไม่ปฏิเสธ หลังรับสมุดบัญชีเหล่านั้นแล้วจึงกล่าวคำลากับผู้เฒ่าฉี

เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก เธอบังเอิญได้พบกับซ่างหมิงซวี่

ส่วนซ่างหมิงซวี่ที่เห็นถังซวง เขาก็ยืดร่างกายขึ้นโดยไม่รู้ตัว พลันยังยกยิ้มอย่างสุภาพบนใบหน้า อีกทั้งยังโบกมือทักทายหญิงสาว

“คุณถังกลับมาแล้ว”

เมื่อเห็นท่าทีของซ่างหมิงซวี่ ถังซวงเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจก่อนจะพยักหน้ารับแล้วพูดว่า

“ฉันเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมคุณลุงคนหนึ่งน่ะค่ะ แล้วนี่… คุณชายซ่างกำลังจะออกไปข้างนอกหรือคะ?”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างหมิงซวี่รีบตอบกลับ “คุณถังเรียกผมว่าหมิงซวี่เฉย ๆ ก็ได้ครับ เอ่อ ผมว่าจะออกไปข้างนอกเพื่อดูว่ามีย่านการค้าอะไรตอนกลางคืนไหมน่ะครับ”

ความจริงแล้วเขาเพิ่งจะลงมา อีกทั้งวางแผนว่าจะถามเกี่ยวกับการทำงานของบ้านพักแห่งนี้ แต่เขากลับพบถังซวงซะก่อน

ทว่าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ลุงของตนเล่าให้ฟังแล้ว เขารู้สึกกลัวผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อย

“คุณชายซ่างไม่ต้องออกไปหรอกค่ะ ในเมืองของเราไม่มีย่านการค้าพวกนั้นหรอก”

ถังซวงและซ่างหมิงซวี่ยังไม่คุ้นเคยกัน และเธอไม่คิดเรียกเขาด้วยชื่อโดยตรง จึงยังเรียกเขาด้วยสรรพนามเดิม

เมื่อซ่างหมิงซวี่ได้ยินอย่างนั้น เขารีบตอบว่า “ครับ อย่างนั้นผมขอตัวกลับห้องก่อน”

เมื่อซ่างหมิงซวี่จากไปแล้ว ถังซวงก็กลับไปที่ห้องของตัวเองเช่นกัน ทว่าเธอกลับพบว่าจิงเจ้อหรงยังไม่กลับ

“ลุงจิงยังไม่กลับอีกหรือคะ?”

“ซวงเอ๋อร์ กลับมาแล้วหรือ ตามจริงคืนนี้ฉันไม่ได้นอนที่นี่นะ แต่ก็เปิดห้องข้าง ๆ ไว้แล้ว ฉันจะไปส่งพวกเธอพรุ่งนี้เช้า”

เดิมทีเขาต้องการให้เฮ่อหลานและถังซวงไปอยู่กับเขา แต่เฮ่อหลานทิ้งซ่างสยงเยี่ยกับซ่างหมิงซวี่ไม่ได้ เขาจึงเปลี่ยนมาอยู่ที่นี่แทน

เมื่อถังซวงได้ยินอย่างนั้น เธอยิ้มแล้วตอบว่า “อย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ”

เดิมทีจิงเจ้อหรงต้องการพูดคุยกับเฮ่อหลานต่อ แต่เมื่อถังซวงกลับมาแล้ว มันไม่สะดวกที่เขาจะอยู่ในห้องนี้ต่อไป

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นแล้วพูดว่า “อาหลาน ซวงเอ๋อร์ อย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

หลังจิงเจ้อหรงออกไปแล้ว เฮ่อหลานพูดขึ้นว่า

“ซวงเอ๋อร์ ลุงจิงของลูกต้องการพาแม่ไปพบกับครอบครัวของเขาน่ะ แล้วแม่ก็ตอบตกลงไปแล้ว”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงไม่แปลกใจนัก ความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับจิงเจ้อหรงก็เสมอต้นเสมอปลายตลอดมา

“ในเมื่อแม่ตอบตกลงแล้ว ก็ไปพบพวกเขาเถอะค่ะ”

พอได้ยินลูกสาวคนโตพูดอย่างนั้น เฮ่อหลานก็ยกยิ้มอย่างมีความสุข

“อาเจ้อกับแม่ตกลงกันแล้ว เราคิดว่าจะไปในวันหยุดฤดูร้อน รอลูกกับเสี่ยวเซวี่ยปิดเทอมเสียก่อน แล้วเราจะไปเที่ยวที่นั่นด้วยกัน ลูกว่าดีไหม?”

“ค่ะ หนูก็อยากพาเสี่ยวเซวี่ยไปเที่ยวที่เมืองหลวงเหมือนกัน”

“แม่เองก็ยังไม่เคยไปเมืองหลวงเลย ไว้เราไปเดินซื้อของด้วยกันนะ”

ถังซวงพูดด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวถึงเวลานั้นให้ลุงจิงไปกับแม่เถอะค่ะ ส่วนพวกเราจะไปซื้อของกันเองดีกว่า”

หลังได้ยินคำพูดลูกสาวแล้ว ใบหน้าของเฮ่อหลานกลายเป็นสีแดงเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าแม่ของตนเขินอาย ถังซวงจึงหยุดพูด แล้วไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวพักผ่อน

วันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นแต่เช้า และจิงเจ้อหรงก็พาพวกเขาไปทานมื้อเช้าแล้วไปส่งพวกเขาที่รถ

“อาหลาน ถึงแล้วบอกผมด้วยนะครับ ถ้าผมเสร็จงานแล้วจะตามไป”

“ค่ะ”

แม้เฮ่อหลานจะเขินอาย แต่เธอก็ไม่อยากแยกจากจิงเจ้อหรง พวกเขาได้พบกันไม่นานเองนะ แม้จะอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอก็ยังอยากจะพูดคุยกับจิงเจ้อหรงต่อ

หลังจากชายหนุ่มได้พูดในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว ทั้งสองก็โบกมือลากัน

รถเริ่มเคลื่อนที่ไปด้านหน้า

ซ่างสยงเยี่ยที่ไม่ได้พูดอะไรเลยก่อนหน้านี้หันมองเฮ่อหลานด้วยรอยยิ้ม

“คุณเฮ่อกับคุณจิงเป็นคู่ที่รักกันดีจริง ๆ นะครับ”

“อาเจ้อเป็นคนดีมากค่ะ พวกเราเลยเข้ากันได้ดี”

เมื่อนึกถึงท่าทีของจิงเจ้อหรงก่อนหน้านี้ แววตาของเฮ่อหลานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งยังยอมรับกับซ่างสยงเยี่ยอย่างตรงไปตรงมาด้วย

ซ่างสยงเยี่ยได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาเดาะลิ้นในใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ระยะทางจากเมืองสู่หมู่บ้านเถาฮวาค่อนข้างไกล การเดินทางจึงค่อนข้างกินเวลานานพอสมควร

“คุณชายซ่างคะ ถึงแล้วค่ะ”

หลังพวกเขาลงจากรถ คนขับรถหันมองเฮ่อหลานด้วยความเคารพแล้วพูดว่า “คุณผู้หญิงครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว เฮ่อหลานต้องการแก้ไขสรรพนาม แต่คนขับไม่ให้โอกาสเธอพูด เขาขับรถออกไปทันที

เฮ่อหลานรู้สึกว่าแก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมา แต่เพราะอีกฝ่ายออกไปแล้ว เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

เวลานี้เธอรีบเดินไปด้านหน้าแล้วพูดว่า “คุณชายซ่างคะ นี่คือหมู่บ้านเถาฮวาค่ะ และโรงงานเย็บปักเถาฮวาของพวกเราอยู่ข้างหน้านี้เองค่ะ ไม่ไกลมาก”

“ครับ เราไปกันเถอะ”

แม้ว่าหมู่บ้านโดยรอบจะค่อนข้างทุรกันดาล แต่สภาพแวดล้อมก็ดูดีมาก ซ่างสยงเยี่ยคิดว่าที่นี่ค่อนข้างดูดีและน่าสนใจเลยทีเดียว

แต่สำหรับซ่างหมิงซวี่แล้ว เขากลับไม่รู้สึกอย่างนั้น เด็กหนุ่มรู้สึกได้เพียงว่านี่คือชนบท ชนบทที่แท้จริง มองไปทางไหนล้วนแต่ทุรกันดาร แต่เขาไม่กล้าพูดออกไป ทำได้แค่โอดครวญในใจเท่านั้น

“อาหลาน กลับมาแล้วหรือ”

เมื่อชาวบ้านเห็นเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ จึงรีบเข้ามาทักทายด้วยความกระตือรือร้น ก่อนจะหันมองซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“สองคนนี้เป็นใครหรือจ๊ะ ฉันไม่เคยเห็นพวกเขาเลย หน้าตาหล่อเหลาเอาการเลยนะ”

แม้ผู้คนในหมู่บ้านจะพูดด้วยสำเนียงต่างไปเล็กน้อย แต่ทั้งลุงและหลานชายก็ยังเข้าใจได้ ทั้งคู่อดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม

แม้ซ่างหมิงซวี่จะไม่ค่อยชื่นชอบหมู่บ้านนี้นัก แต่เขาชื่นชอบเวลาถูกคนอื่นยกยอเสมอ

เฮ่อหลานยิ้มแล้วตอบกลับว่า “ป้าคะ สองคนนี้เป็นเพื่อนของอาจารย์ค่ะ คราวนี้เขามาที่นี่เพื่อมาพบกับอาจารย์และพี่สาว”

เธอยังไม่คิดเปิดเผยตัวตนของซ่างสยงเยี่ยอย่างเป็นทางการ เพราะทั้งสองเพียงตกลงกันทางคำพูดเท่านั้น ยังไม่มีการลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ และเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เธอจึงไม่คิดเปิดเผยมันให้ทุกคนรู้ และสิ่งที่เธอพูดออกไปก็ไม่ใช่การโกหก เธอต้องการพาทั้งสองไปพบกับอาจารย์และพี่สาวจริง ๆ

เมื่อคนอื่น ๆ ได้ยินเฮ่อหลานพูดอย่างนั้นแล้ว จึงไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะพวกเขารู้ดีว่าอาจารย์ของเฮ่อหลานนั้นเก่งกาจมาก

เมื่อเฮ่อหลานพาพวกเขามาถึงโรงงานเย็บปัก ก็มีคนออกมาต้อนรับทันที

“อาหลาน กลับมาแล้วหรือ”

เมื่อเห็นเฮ่อหลานและคนอื่น ๆ เกอชิงเหม่ยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมองซ่างสยงเยี่ยและซ่างหมิงซวี่

เธอรู้ทันทีว่าสองคนนี้คือคนที่น้องสาวบอกกล่าวว่าจะมาซื้องานปักของพวกตน

“อาหลาน อาจารย์รออยู่ข้างในแล้ว เข้ามาก่อน ๆ”

“ค่ะ”

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เข้าไปพบกับซูเหนียนอวิ๋น

เฮ่อหลานเคยแนะนำซูเหนียนอวิ๋นให้รู้จักกับซ่างสยงเยี่ยแล้ว แต่เวลานี้เมื่อทั้งสองได้พบกัน เธอก็ไม่ลืมที่จะแนะนำใหม่อีกครั้ง

พอซ่างสยงเยี่ยได้พบเจอกับผู้เชี่ยวชาญด้านงานปัก เขากล่าวทักทายด้วยความสุภาพ “อาจารย์ซู สวัสดีครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด