การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 60 ราบรื่น(รีไรท์)

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 60 ราบรื่น(รีไรท์) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 60 ราบรื่น(รีไรท์)

บทที่ 60 ราบรื่น(รีไรท์)

หลังจากที่ถังซวงและถังเซวี่ยได้รับข้อสอบแล้ว พวกเธอก็เริ่มทำทันที

เดิมทีถังซวงคิดว่าจะค่อย ๆ ทำ และเขียนคำตอบที่ไม่โดดเด่นเกินไป แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว เธอจะทำการทดสอบตามระดับปกติของเธอ

ถังซวงอ่านและตอบคำถามอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงข้อเขียนเรียงความ เธอก็คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเริ่มเขียน เมื่อถังซวงเขียนทุกอย่างเสร็จ เธอกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเวลาผ่านไปเพียงห้าสิบนาทีเท่านั้น

ถังซวงหยิบกระดาษทั้งหมดขึ้นมาและยืนขึ้นส่งข้อสอบทันที

ตงเฟินตกตะลึงเมื่อเห็นถังซวงยื่นข้อสอบมา จากนั้นหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความดูถูก เด็กสาวอาจไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ดังนั้นเธอจึงส่งกระดาษเปล่ามาเลยเสียมากกว่า

แต่เมื่อตงเฟินเห็นกระดาษคำตอบของถังซวง เธอก็ผงะไปขณะหนึ่ง เนื่องจากกระดาษคำตอบของเด็กสาวนั้นสะอาดมากและลายมือของเด็กสาวก็สวยงาม แถมช่องว่างสำหรับตอบคำถามทั้งหมดก็เต็มไปด้วยคำตอบ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ตงเฟินขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่าเธอเรียนรู้ด้วยตัวเองจริง ๆ?

แต่คนในชนบทจะเรียนรู้ความรู้ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเรียนในโรงเรียนประถมทั้งหกปีโดยไม่มีใครสอนได้อย่างไร?

ก่อนที่เธอจะทันคิดอะไร ถังเซวี่ยที่อยู่ด้านหลังก็ยื่นกระดาษข้อสอบให้ตงเฟินเช่นกัน “อาจารย์คะ เราทำข้อสอบภาษาจีนเสร็จแล้ว เราจะเริ่มการทดสอบคณิตศาสตร์ต่อได้เลยไหมคะ?”

ตงเฟินเห็นกระดาษคำตอบที่ถังเซวี่ยยื่นให้และพบว่าพวกเธอทำเสร็จแล้วจริง ๆ สองพี่น้องทำได้ค่อนข้างเร็ว แต่ยังไงซะตงเฟินก็ยังไม่รู้ว่าทั้งสองจะทำได้ถูกต้องมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเธอคิดว่าได้คะแนนครึ่งหนึ่งก็ไม่เลวสำหรับเด็กทั้งสองแล้ว

ด้านครูโจวที่อยู่ด้านข้างก็ตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นจึงรีบแจกข้อสอบคณิตศาสตร์ต่อทันที

ถังซวงและถังเซวี่ยทำข้อสอบคณิตศาสตร์ได้เร็วกว่าภาษาจีน ถังซวงใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงสำหรับการทดสอบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ส่วนถังเซวี่ยช้ากว่าสักเล็กน้อย แต่ก็ใช้เวลาเพียงสี่สิบห้านาทีเท่านั้นในการทำข้อสอบให้เสร็จและส่ง

“อาจารย์คะ เราทำข้อสอบเสร็จหมดแล้ว คุณจะตรวจดูคะแนนตอนนี้เลยไหมคะ หรือต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะทราบผลหรือคะ?” ถังซวงมองไปที่พวกเขาสองคนแล้วถามอย่างอยากรู้

ตงเฟินที่ไม่ชอบพี่น้องคู่นี้โดยสัญชาตญาณ จึงไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ในที่สุดอาจารย์โจวก็พูดขึ้นว่า “เราจะตรวจข้อสอบทันทีเลยจ้ะ แต่เราไม่คิดว่าพวกเธอจะสอบเสร็จเร็วขนาดนี้ ดังนั้นฉันจะไปเรียกอาจารย์ใหญ่ก่อนนะ”

“ได้ค่ะ”

ถังซวงและถังเซวี่ยนั่งรอเงียบ ๆ ในห้องเรียน ตงเฟินเริ่มตรวจข้อสอบภาษาจีนแล้ว แต่หลังจากที่เธอให้ตรวจไปสองสามข้อแรก เธอพบว่าถังซวงทำถูกทั้งหมด เธอไม่อยากเชื่อในสายตาของตัวเอง และลงมือตรวจต่อไป แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือถังซวงตอบได้ถูกต้องทั้งหมด

ขณะที่สีหน้าของตงเฟินมีความสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจารย์ใหญ่จินก็พาหลินหมิงซู่ และคนอื่น ๆ มา “คุณหลิน ผมไม่คิดว่าเด็ก ๆ ของคุณจะเก่งขนาดนี้เลย เวลาเพิ่งผ่านไปไม่เท่าไหร่เอง เราจะตรวจคำตอบและให้คะแนนในทันที ตราบใดที่พวกเธอผ่านการทดสอบ ก็จะได้รับใบรับรองสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาได้เลย”

หลินหมิงซู่ยิ้มเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น และพูดว่า “งั้นรบกวนอาจารย์ใหญ่จินด้วยนะครับ”

“ไม่มีปัญหา ๆ”

ขณะที่พูด อาจารย์ใหญ่จินมองครูโจวและคนอื่น ๆ และพูดว่า “รีบตรวจข้อสอบเข้านะ”

ครูโจวพยักหน้าอย่างรีบร้อน รับกระดาษทดสอบคณิตศาสตร์มาและเริ่มตรวจสอบทันที

อีกด้าน เฮ่อหลานเดินไปหาลูกสาวทั้งสองอย่างกระวนกระวายและรอดูคะแนนอย่างกังวลเช่นกัน แม้ว่าเธอจะมั่นใจในตัวลูกสาวของเธอ แต่เธอก็ยังกังวลอยู่ดี เพราะผลลัพธ์ยังไม่ออกมาเลย

ส่วนโม่เจ๋อหยวนที่ยืนอยู่ข้างถังซวง และเชื่อในตัวสองพี่น้อง ดังนั้นเเขาจึงไม่มีสีหน้าเป็นกังวลปรากฏบนใบหน้าเลย

หากแต่คนที่กังวลมากที่สุดน่าจะเป็นอาจารย์ใหญ่จิน เนื่องจากเขาต้องการเอาใจหลินหมิงซู่ แต่ก็ไม่กล้าทำให้มันโจ่งแจ้งเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น หากคะแนนของถังซวงกับถังเซวี่ยไม่ผ่านจริง ๆ เขาก็ไม่สามารถละเมิดกฎและมอบใบรับรองให้ได้

แต่ในไม่ช้า อาจารย์ใหญ่จินก็สังเกตเห็นว่าการแสดงออกของอาจารย์ทั้งสองแปลกไปมาก หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น เป็นไปได้ไหมว่า… จะตอบผิดเกือบทั้งหมด?”

เฮ่อหลานได้ยินคำพูดนั้นและรีบหันไปมองทันที

ครูโจวเป็นคนแรกที่ตอบสนอง เธอถือข้อสอบคณิตศาสตร์ของถังซวงกับถังเซวี่ย และพูดอย่างไม่เชื่อสายตาว่า “ไม่… ใช่… เอาล่ะ ทั้งสองคนได้คะแนนเต็มในข้อสอบคณิตศาสตร์ค่ะ” ในที่สุด ครูโจวก็อดถามไม่ได้ว่า “เธอสองคนเรียนรู้ด้วยตัวเองจริง ๆ หรือ? นี่มันดีกว่านักเรียนส่วนใหญ่ซะอีก”

อาจารย์ใหญ่จินก็ประหลาดใจเช่นกันเมื่อได้ยินสิ่งนี้

เดิมทีเขาคิดว่าแค่พอผ่านก็ไม่เลวแล้ว แต่กลายเป็นว่าพวกเธอได้คะแนนคณิตศาสตร์เต็ม ต้องบอกเลยว่ามีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพียงสองคนในโรงเรียนของพวกเขาเท่านั้นที่ได้คะแนนเต็มในวิชาคณิตศาสตร์ แต่พี่น้องคู่นี้เองก็ทำได้คะแนนเต็มจริง ๆ “พวกเธอน่าทึ่งมาก”

หลินหมิงซู่ยิ้มและพูดขึ้น “ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยฉลาดมาก น่าเสียดายที่พวกเธอจะเริ่มเรียนช้าไปหน่อย แถมยังไม่เคยเข้าโรงเรียนมาก่อน ไม่อย่างนั้นตอนนี้พวกเธอคงได้ไปโรงเรียนมัธยมแล้ว”

“ใช่ ๆ เด็กสองคนนี้เหมือนแค่อ่านหนังสือเท่านั้น พวกเธอสามารถทำข้อสอบได้ด้วยการศึกษาด้วยตนเอง มันน่าทึ่งมาก พวกเธอต้องได้รับอนุญาตให้เข้าโรงเรียนแล้วนะ”

ในตอนท้าย อาจารย์ใหญ่จินมองไปที่ตงเฟิน และถามว่า “คุณตง กระดาษคำตอบภาษาจีนของเด็กทั้งสองคน คุณตรวจเสร็จแล้วหรือยัง?”

สีหน้าของตงเฟินดูไม่ค่อยสู้ดีนัก และพูดด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อว่า “ตรวจเสร็จแล้วค่ะ”

“ได้กี่คะแนน?”

แม้ว่าเธอจะไม่พอใจแค่ไหน แต่คะแนนก็ออกมาแล้ว ดังนั้นตงเฟินจึงมอบข้อสอบทั้งสองฉบับให้ทันที

อาจารย์ใหญ่จินมองและพบว่ากระดาษคำตอบแผ่นหนึ่งได้คะแนนเก้าสิบเก้า และอีกแผ่นหนึ่งได้คะแนนเก้าสิบเจ็ด

ตงเฟินรู้อยู่แล้วว่าเธอได้ให้คะแนนไปเท่าไหร่ ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะหักคะแนนมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีที่ให้หักคะแนนจริง ๆ

เมื่อเห็นคะแนนแล้ว อาจารย์ใหญ่จินก็ยกยิ้มทันที “ผลการสอบของเด็กสองคนนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ ผมจะเตรียมใบรับรองสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาให้พวกเธอเดี๋ยวนี้ แล้วจากนั้นพวกเธอก็จะสามารถเข้าโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งในตำบลได้เลย”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวสองคนของเธอทำได้ดีเพียงใดในการสอบ ใบหน้าของเฮ่อหลานก็เต็มไปด้วยความภูมิใจ “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย พวกลูกเก่งมาก”

โม่เจ๋อหยวนก็มีความสุขเช่นกัน “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเสวี่ย ยินดีด้วยนะ”

เมื่อได้ยินคำชื่นชมและคำแสดงความยินดีจากทุกคน ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดว่า “ขอบคุณทุกคนนะคะ เสี่ยวเซวี่ยกับฉันยังต้องพยายามกันหนักต่อไปอีกเยอะเลย”

ด้านอาจารย์ใหญ่จินก็ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และเตรียมใบรับรองสำเร็จการศึกษาให้สำหรับถังซวงและถังเซวี่ยทันที เดิมทีเขาต้องการเชิญหลินหมิงซู่ และคนอื่น ๆ ไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน หากแต่หลินหมิงซู่ปฏิเสธ

“อาจารย์ใหญ่จิน วันนี้ผมรบกวนคุณมากแล้ว ควรเป็นผมที่ต้องเลี้ยงคุณเสียมากกว่า แต่วันนี้ผมขอพาเด็ก ๆ กลับบ้านก่อนนะครับ แล้ววันหลังผมจะเลี้ยงอาหารค่ำคุณเอง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อาจารย์ใหญ่จินจึงรีบพูดว่า “ครับ ๆ คุณหลิน ไปทำธุระคุณก่อนเถอะครับ”

หลังจากที่เดินทางมาไกลแล้ว เฮ่อหลานก็หลุดจากภวังค์ความตื่นเต้น เธอขอบคุณหลินหมิงซู่อย่างจริงใจ จากนั้นก็เชิญเขา “หมิงซู่คะ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยสอบผ่าน พรุ่งนี้คุณมากินข้าวที่บ้านเรานะคะ แล้วฉันจะเชิญปู่หลี่มาด้วย”

หลินหมิงซู่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ตกลงครับ”

วันต่อมา หลินหมิงซู่พาโม่เจ๋อหยวนไปที่หมู่บ้านเถาฮวา หากแต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ต้องถามทางเพื่อตามหาบ้านของสามแม่ลูกอีกแล้ว และเมื่อพวกเขามาถึง หลี่จงอี้ก็มาถึงก่อนเสียแล้ว

“คุณปู่คะ ดื่มชาก่อนค่ะ”

หลังจากที่หลี่จงอี้รับถ้วยชามา เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “เอาล่ะ ๆ ซวงเอ๋อร์กับเสี่ยวเซวี่ยของเรานี่ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ นะ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *