การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 156 ไม่เต็มใจ

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 156 ไม่เต็มใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 156 ไม่เต็มใจ

บทที่ 156 ไม่เต็มใจ

หลังจากจิงเจ้อหรงบอกแม่ของเขาทั้งหมดแล้ว เขาขอให้แม่ช่วยบอกพ่อเรื่องนี้ด้วย

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง แม่จะคุยกับพ่อเอง ยังไงซะพ่อก็ตั้งตารอให้ลูกแต่งงานมานานแล้วเหมือนกัน ถ้าพ่อรู้ว่าลูกเจอคนที่ชอบ ต้องดีใจมากแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นพ่อก็ไม่สนใจภูมิหลังของครอบครัว ตราบใดที่เป็นคนที่ลูกชอบ และเป็นคนดี ทุกอย่างต้องไม่มีปัญหาแน่”

“เฮ่อหลานเป็นคนดีครับ”

คุณนายจิงได้ยินลูกชายเรียกเฮ่อหลานจึงรีบกล่าวขัดอย่างหงุดหงิด “จนถึงตอนนี้ลูกยังเรียกเธอว่าเฮ่อหลาน? ลูกกลายเป็นคนไร้ความสามารถไปตั้งแต่เมื่อไหร่? หลังจากที่ไปพบเธอคราวนี้ลูกจะต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจนสิ!”

“ครับแม่…”

จิงเจ้อหรงยิ้มรับพร้อมรีบออกไป

คุณนายจิงรีบไปเตรียมตัวเพราะเดี๋ยวจะมีสาวน้อยมาที่บ้าน เธอจะต้องต้อนรับแขกให้ดีเพื่อสร้างคะแนนให้กับลูกชาย

เวลานี้ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนกำลังเดินกลับหลังจากซื้อของเสร็จ

เมื่อเห็นทั้งสองคนกลับมา หลี่จงอี้ก็ถามว่า “ซวงเอ๋อร์ พรุ่งนี้ปู่จะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าเสียหน่อย เธอจะไปกับปู่ไหม?”

ถังซวงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายศีรษะแล้วตอบกลับ “คุณปู่ หนูไม่ไปดีกว่าค่ะ คุณปู่ไปเที่ยวกับเพื่อนเก่าก็ไม่ควรพาครอบครัวไปด้วย ถ้าหนูไปคงไม่ดีแน่”

หลังจากได้ยินแล้ว หลี่จงอี้ไม่ได้พูดอะไรตอบ

“อืม ไว้คราวหน้าปู่จะพาเธอไปพบพวกเขานะ”

ขณะนี้ภายในตระกูลฉิน ฉินหรูเหมิ่งเองก็ไปพบคุณปู่ของตนเช่นกัน

“คุณปู่คะ พี่โม่เจ๋อหยวนไม่สนใจฉันเลย แต่เขากลับสนใจแต่ถังซวงจากมณฑลเจียงนั่น ถ้าคุณปู่ได้พบกับคุณปู่โม่อีก คุณปู่ต้องบอกให้เขาบอกกับพี่เจ๋อหยวนว่าอย่าทำแบบนี้นะคะ อีกอย่างเมื่อคราวที่แล้วคุณปู่ไม่ได้คุยเรื่องการแต่งงานของเราสองคนกับคุณปู่โม่หรือคะ? ทำไมเราถึงไม่คุยกันเลยล่ะ”

หลังจากได้ยินสิ่งที่หลานสาวพูดออกมา ผู้เฒ่าฉินก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองพร้อมถามว่า “ครั้งสุดท้ายหลานไม่ได้บอกว่าหลานกับเจ๋อหยวนเป็นคู่รักกันไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงไม่สนใจหลานล่ะ?”

นอกจากนี้เขายังรู้สึกว่าทั้งสองครอบครัวรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างหลานสาวกับโม่เจ๋อหยวนก็ดีมากเช่นกัน ดังนั้นถ้าทั้งสองครอบครัวจะกลายเป็นหนึ่งเดียวย่อมเป็นเรื่องดี แต่เวลานี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลานสาวกับโม่เจ๋อหยวนจะไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิดเสียแล้ว

ฉินหรูเหมิ่งคิดไว้แล้วว่าปู่ของเธอต้องพูดเช่นนี้ เธอไม่พอใจพร้อมกับเม้มปากแล้วพูดต่อ “พี่เจ๋อหยวนไปอยู่ที่มณฑลเจียงเป็นเวลานาน และเขาได้พบกับถังซวงที่นั่น ทั้งสองคนนั้นสนิทกันอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเราต้องห่างเหิน”

“อ่า คราวหน้าถ้าปู่ได้เจอกับผู้เฒ่าโม่ ปู่จะถามเขาอีกครั้งแล้วกัน ถ้าหลานสองคนเหมาะสมกัน อย่างไรก็คงหนีไม่พ้นการแต่งงานอยู่แล้ว”

“ขอบคุณค่ะคุณปู่”

หลังจากได้ยินผู้เฒ่าฉินพูดอย่างนั้นแล้ว ฉินหรูเหมิ่งยิ้มอย่างมีความสุข หากผู้เฒ่าทั้งสองตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของเธอกับโม่เจ๋อหยวนเอง ถังซวงก็ไร้ความหมาย

วันรุ่งขึ้น หลี่จงอี้และผู้เฒ่าโม่ออกไปแต่เช้า พวกเขานัดพบกับผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าหลิว และผู้เฒ่าอู่

“จงอี้… เป็นนายนั่นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า… ทำไมถึงไม่บอกพวกเราว่ามาที่เมืองหลวงล่ะ?”

เมื่อผู้เฒ่าอู่เห็นหลี่จงอี้ เขาระเบิดเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขก่อนจะกล่าวตำหนิเล็กน้อย “หรือนายไม่ถือว่าพวกฉันเป็นเพื่อน?”

หลี่จงอี้ตบไหล่ของผู้เฒ่าอู่แล้วตอบว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น แต่คราวนี้หลานชายของอาโม่มีบางอย่างต้องทำ ฉันเลยแวะไปที่บ้านของเขาก่อนต่างหาก”

หลังจากได้ยินแล้ว คนอื่น ๆ มองไปที่ผู้เฒ่าโม่พร้อมถามว่า “แล้วครอบครัวของนายเป็นยังไงบ้าง?”

ผู้เฒ่าฉินพูดต่อ “ฉันได้ยินจากหรูเหมิ่งว่าเจ๋อหยวนหายดีแล้ว จริงหรือ?”

หลังได้ยินแล้ว ผู้เฒ่าโม่ยิ้มและตอบว่า “ใช่แล้ว ต้องขอบคุณถังซวง หลานสาวของจงอี้ในคราวนี้ ถ้าไม่ได้ทักษะทางการแพทย์ของเธอ เจ๋อหยวนของเราก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง”

หลังได้ยินผู้เฒ่าโม่พูดอย่างนั้นแล้ว คนอื่น ๆ เริ่มสงสัย

“จงอี้ หลานสาวของนายมีความสามารถช่วยชีวิตหลานชายของผู้เฒ่าโม่เลยหรือ?” พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับความขัดแย้งของตระกูลโม่และตระกูลหลู่ อีกทั้งอาการบาดเจ็บของโม่เจ๋อหยวนที่สาหัสมาก แม้แต่หมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงยังไม่สามารถรักษาได้ แต่ตอนนี้หลานสาวของหลี่จงอี้กลับรักษาเขาได้ ทุกคนถึงกับประหลาดใจ

ผู้เฒ่าฉินขมวดคิ้วพร้อมถามว่า “จงอี้ หลานสาวของนาย… สกุลถังงั้นหรือ?” ชื่อนี้คุ้นหูเขามาก เขานึกคิดอยู่นานจนจำได้ว่าถังหรูเหมิ่งหลานสาวพูดถึงเธอก่อนหน้านี้

หลังได้ยินแล้ว คนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นปัญหาด้วยเช่นกัน และมันดูแปลกทันทีที่หลานสาวกลับไม่ได้ใช้สกุลเดียวกัน

หลี่จงอี้ตอบด้วยรอยยิ้ม “ถังซวงเป็นหลานบุญธรรมน่ะ แต่ทำไมล่ะ? ฉันตาดีไหม หลานสาวคนนี้ของฉันมีความสามารถมากเลยนะ”

“อืม หลานสาวของนายยอดเยี่ยมมาก สายตาของนายนับว่าดีจริง ๆ ความสามารถของหลานสาวคนนี้ก็น่าประทับใจ”

“ใช่แล้ว”

รอยยิ้มภูมิใจผุดขึ้นบนใบหน้าของหลี่จงอี้

เป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งที่คนที่ไกลกันจะได้มานั่งพูดคุย หลี่จงอี้และคนทั้งหมดในที่นี้แทบจะไม่ได้พบเจอกันนานหลายทศวรรษ มีเรื่องให้พูดคุยไม่จบสิ้นเมื่อได้มาพบเจอ แต่เวลานี้ผู้เฒ่าฉินกลับมีเรื่องหนักใจ เขาเข้าควงแขนเพื่อนของตนพร้อมลากออกไปคุยเรื่องของฉินหรูเหมิ่งกับโม่เจ๋อหยวน

“เหล่าโม่ ที่ฉันบอกนายคราวที่แล้วเกี่ยวกับเรื่องของเด็กสองคน หรูเหมิ่งกับเจ๋อหยวน เราควรจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนดีไหม?”

หลังจากได้ยินเช่นนี้แล้ว ผู้เฒ่าโม่ตกตะลึงก่อนจะเหลือบมองหลี่จงอี้อย่างไม่รู้ตัว เขาโบกมือและพูดว่า “ไม่ ไม่ได้ คราวที่แล้วเราเพียงพูดคุยกันเล่น ๆ แล้วฉันก็ถามเจ๋อหยวนแล้ว เขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว เลยให้เขาหมั้นหมายกับหรูเหมิ่งไม่ได้แล้ว”

นี่คือสิ่งที่ลูกสะใภ้ใหญ่กล่าวเตือนเขา เพราะเขาเคยถามเจ๋อหยวนแล้ว เช่นนี้เลยไม่สามารถให้สัญญากับผู้เฒ่าฉินได้

“ว่ายังไงนะ… เจ๋อหยวนมีคนที่ชอบแล้วหรือ”

“เป็นหลานสาวของจงอี้?”

เมื่อได้ยินว่ามีคนกล่าวถึงตน หลี่จงอี้รีบตอบว่า “ฉันไม่สนใจหรอกว่าเด็ก ๆ จะคิดยังไง ตราบใดที่พวกเขามีความสุขก็พอแล้ว”

ผู้เฒ่าฉินได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาละทิ้งเรื่องนี้แล้วเข้าประเด็นในเรื่องอื่นแทน

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เฒ่าฉินได้พบกับฉินหรูเหมิ่งหลังกลับมาถึงบ้าน

“หรูเหมิ่ง เจ๋อหยวนมีคนที่เขาชอบแล้ว ในอนาคตปู่จะหาผู้ชายดี ๆ ให้หลานแล้วกัน ตอนนี้หลานอย่าเพิ่งคิดเรื่องแต่งงานเลยดีกว่า”

ความจริงแล้วทุกครั้งที่หลานสาวของเขาพูดถึงโม่เจ๋อหยวน แววตาของเธอจะเป็นประกายยินดี ซึ่งเขาก็เห็นชัดเจนว่าหลานสาวของตนชอบโม่เจ๋อหยวนเพียงใด แต่เพราะโม่เจ๋อหยวนไม่ได้ชอบหลานสาวของเขากลับ ชายชราเลยไม่สามารถบังคับใจของอีกฝ่ายได้ และอีกอย่างก็มีชายหนุ่มอีกมากในเมืองหลวงนี้

“อะไรนะ… คุณปู่โม่พูดแบบนั้นหรือคะ?”

ใบหน้าของฉินหรูเหมิ่งมีเพียงความโศกเศร้าและความไม่เชื่อ เธอกับโม่เจ๋อหยวนเป็นคู่รักที่เติบโตมาด้วยกัน แล้วจู่ ๆ ถังซวงที่โผล่มาจากไหนไม่รู้กลับแย่งชิงผู้ชายของเธอไป และใช่… เธอไม่เต็มใจที่จะปล่อยเขาไป!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด