การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 194 กลับบ้าน

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 194 กลับบ้าน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 194 กลับบ้าน

บทที่ 194 กลับบ้าน

ร้านของบริษัทเครื่องสำอางซวงฮวา จำกัด เปิดขายในช่วงเช้าและปิดร้านในช่วงบ่ายเพราะสินค้าทั้งหมดถูกขายจนหมดเกลี้ยง

เมื่อพานลี่ฮวากลับมาถึงบ้าน ใบหน้าของเธอยิ่งตื่นเต้น เธอเห็นว่าเวลานี้ถังซวงกำลังยุ่งอยู่ จึงเอ่ยขึ้นว่า “ถังซวงเธอควรจะไปที่ร้านกับฉันเมื่อเช้านี้นะ เธอรู้ไหมยาบำรุงผิวทั้งร้อยชุดที่เธอทำนั้นสุดยอดมากเลย มันขายจนหมดเกลี้ยงในเวลาสั้น ๆ เลยนะ”

ถังซวงได้ยินอย่างนั้นพลันยกยิ้มแล้วตอบกลับว่า “คุณป้าคะ เป็นเพราะคุณป้าที่ขายเก่งต่างหาก”

แต่พานลี่ฮวาโบกมือปฏิเสธ “เรื่องนี้ฉันไม่กล้ารับความดีความชอบทั้งหมดหรอก ทั้งหมดเป็นเพราะสินค้าของเธอมีคุณภาพต่างหาก คนที่รู้จักฉันทั้งหมดเห็นแล้วว่าผิวหน้าของฉันดีขึ้นมาก และยังดูอ่อนเยาว์ขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ของเธอจ้ะ”

“คุณป้าคะ ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณคุณป้าด้วยนะคะ บริษัทนี้เปิดขึ้นได้เพราะมีคุณป้าคอยช่วยเหลืออยู่ด้านหลัง เรื่องนี้คุณป้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวเลยค่ะ”

เมื่อได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นแล้ว พานลี่ฮวาก็ไม่คิดปฏิเสธอีกต่อไป ก่อนจะยิ้มกว้าง “เอาเถอะ อย่างนั้นเราไม่ต้องขอบคุณใครทั้งนั้น มันเป็นเพราะเราทั้งคู่ทำงานหนัก เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะทำอาหารเพิ่มสักหน่อย เราจะได้ฉลองกันนะ”

“ได้ค่ะ”

หลังได้ยินอย่างนี้แล้ว ถังซวงเห็นด้วยทันที แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของพานลี่ฮวาแล้ว หญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า “คุณป้าคะ ฉันเชื่อว่ามันขายหมดแล้วจริง ๆ ด้วยค่ะ เพราะแค่ฉันดูคุณป้ามีความสุขมากขนาดนี้ก็รู้ได้ในทันที”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว พานลี่ฮวาไม่อาจเก็บกั้นความสุขได้

“ใช่ ๆ มันขายหมดแล้ว ซวงเอ๋อร์เธอไม่เห็นตอนที่ฉันบอกกับคุณผู้หญิงพวกนั้นว่า ซื้อได้แค่คนละสองชุด พวกเธออารมณ์เสียกันมากเลยนะ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็สามารถเกลี้ยกล่อมพวกเธอได้ แค่บอกไปว่าถ้ามีสินค้าใหม่ฉันจะรีบแจ้งให้พวกเขาทราบทันที ทุกคนถึงยอม แต่… ซวงเอ๋อร์ การที่เราจะเปิดร้านในทุกสิบวันมันจะไม่น้อยเกินไปหรือจ๊ะ?”

พอได้ยินอย่างนั้น ถังซวงก็พูดอย่างอับจนหนทาง “คุณป้าคะ ถึงฉันจะอยากเปิดร้านวันพรุ่งนี้ แต่มันก็ทำไม่ได้ค่ะ เพราะพวกเราไม่มีสินค้าเหลือเลย หรือว่าคุณป้ามีแผนอยากจะขายอย่างอื่นด้วยหรือเปล่าคะ?”

หลังได้ยินอย่างนั้นแล้ว พานลี่ฮวาก็ถอนหายใจพลางตอบว่า “อืม จริงด้วย ถึงฉันจะอยากเปิดร้านแต่ก็คงทำไม่ได้ เราไม่มีอะไรจะขาย ซวงเอ๋อร์เองก็ต้องทำงานหนักเพื่อผลิตเครื่องสำอางพวกนั้น…” เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ภายในร้านวันนี้ พานลี่ฮวารู้สึกยินดีมากและอยากจะพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ในทุกวันที่เปิดร้าน

ส่วนถังซวงเองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “คุณป้าไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันจะผลิตมันให้มากขึ้นหลังจากกลับไป แต่อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้เราใช้วัตถุดิบชั้นดีจำนวนมาก ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่เน้นปริมาณ แต่จะมุ่งเน้นที่คุณภาพแทนค่ะ”

“จ้ะ ตกลง ฉันเข้าใจแล้ว”

ตอนที่ทั้งสองคิดจะก่อตั้งบริษัทขึ้นด้วยกัน ทั้งสองพูดคุยกันอย่างชัดเจนในเรื่องของผลิตภัณฑ์แล้ว ถังซวงจะเป็นผู้กำหนดทุกสิ่งอย่าง ดังนั้นพานลี่ฮวาจึงไม่คิดโต้แย้งอะไรอีก เธอนำเงินทั้งหมดที่ได้รับในวันนี้ออกมา “ซวงเอ๋อร์ ที่เราตกลงกันไว้ว่าจะแบ่งกันคนละครึ่ง อย่างนั้น 400,000 หยวนนี้เป็นของเธอนะ”

“คุณป้าคะ มันควรเป็นเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว เวลานี้ฉันรับเงินไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”

แต่ถึงอย่างนั้นพานลี่ฮวาก็ยัดสมุดบัญชีเงินฝากใส่ในมือของถังซวงแล้วพูดต่อว่า “เด็กน้อยเอ๋ย ค่าใช้จ่ายในการเปิดธุรกิจไม่ได้มากมายอะไรเลย ทั้งหมดนี้เป็นของเธอนะ” หลังพูดจบแล้ว เธอก็เรียกทุกคนมารับประทานอาหาร “เอาล่ะ เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ ตอนเย็นค่อยว่ากันอีกที”

แม้ว่าบริษัทเครื่องสำอางซวงฮวา จำกัดจะเปิดร้านเพียงครึ่งวัน แต่ผู้หญิงทุกคนในก่างเฉิงต่างทราบดีถึงผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม บางคนพึงพอใจมากหลังจากได้ซื้อยาบำรุงผิวไปแล้ว และบางคนรู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถซื้อสินค้าได้ทันเวลา ซึ่งทำให้บริษัทเครื่องสำอางซวงฮวา จำกัดยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้น…

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็จะกลับบ้านหลังจากฉลองงานเลี้ยงโคมไฟเสร็จสิ้นอยู่ดี

“อาหลาน ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ถ้ามีเวลาพวกเธอต้องกลับมาหาฉันบ้างนะ”

เมื่อหญิงชราเห็นว่าเฮ่อหลานกับลูกสาวกำลังจะกลับ สีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความผิดหวังและโศกเศร้า

ไม่ใช่เพียงหญิงชราเท่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าเฮ่อก็ยังคิดหนัก “ซวงเอ๋อร์ ถ้าอยากจะพักผ่อนก็ให้มาที่เมืองก่างเฉิงนะ”

ถังซวงตอบรับอย่างเชื่อฟัง

“คุณตาคะ ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ ถ้าว่างแล้วพวกเราจะมาที่ก่างเฉิงแน่นอนค่ะ”

“ตกลง ฉันจะรอนะ”

ยังคงเป็นเฮ่อเจียรุ่ยและเฮ่อจื่อกุยที่ไปส่งสามแม่ลูกกลับบ้าน ด้านพานลี่ฮวาเองก็รู้สึกว่าเธอจะไม่ได้พบเจอทั้งสามเป็นเวลานาน จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวฝากฝัง “เดินทางดี ๆ นะ และระวังตัวให้มาก ดูแลตัวเองด้วย แล้วก็อย่าลืมดูแลอาหลานกับเด็ก ๆ ด้วย”

“ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลอาหลาน ซวงเอ๋อร์ และเสี่ยวเซวี่ยเป็นอย่างดีเลย”

แม้ผู้เฒ่าเฮ่อและคนอื่น ๆ จะไม่เต็มใจนัก แต่ทั้งสามแม่ลูกก็ยังยืนกรานจะเดินทางกลับไปที่แผ่นดินใหญ่

ในตอนนี้ เฮ่อหลานนึกถึงความใจดีของผู้อาวุโสเฮ่อและครอบครัวของเฮ่อจื่อกุยที่มีต่อตนและลูกสาว ก็อดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้ แต่เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าในวันข้างหน้าจะกลับมาเยี่ยมเยียนพวกเขาอย่างแน่นอน

ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทาง เฟ่ยไห่ชางเข้ามาพบกับถังซวงเป็นการส่วนตัว และท่าทางของเขาก็ยังคงสุภาพเช่นเคย

“ลุงไห่ ขอบคุณที่มาส่งฉันนะคะ”

เฟ่ยไห่ชางโบกมืออย่างรวดเร็ว “คุณหนูครับ หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกนะครับ”

ถังซวงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ค่ะ” เวลานี้เธอมองเฟ่ยไห่ชางอย่างสงสัย แต่สุดท้ายเธอก็เลิกคิดเรื่องนั้น เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากเกิดเรื่องราวกับซูยี่แล้ว ตระกูลซูต้องเข้ามาสร้างปัญหาให้กับตนอย่างแน่นอน เพราะยังไงอำนาจของตระกูลซูและตระกูลเฮ่อก็ไม่แตกต่างกันมาก แต่มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงนึกถึงเฟ่ยไห่ชาง แต่ก็ไม่คิดจะถามอะไรต่อ หลังจากกลับไปแล้วเธอควรจะไปพูดคุยกับผู้เฒ่าฉีโดยตรง จะเป็นการที่ดีซะกว่า

และนอกจากเฟ่ยไห่ชางแล้ว ยังมีซ่างสยงเยี่ยด้วย

“คุณเฮ่อครับ อีกสักพักผมจะเข้าไปตรวจสอบสินค้าด้วยตัวเอง หวังว่าเวลานั้นเราจะพูดคุยรายละเอียดกันได้อีกครั้งนะครับ”

หลังได้ยินแล้ว เฮ่อหลานพลันตอบรับอย่างรวดเร็ว “ค่ะ ไม่มีปัญหา”

เธอติดต่อกับอาจารย์และศิษย์พี่ก่อนหน้านี้แล้ว พวกเธอเห็นด้วยกับความคิดของเธอ และเวลานี้ทุกคนคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วสำหรับการเปิดโรงงานเย็บผ้า ถ้าซ่างสยงเยี่ยไปที่นั่นด้วยตัวเอง ตัวเธอพร้อมกับอาจารย์และศิษย์พี่ก็พร้อมพูดคุยรายละเอียดด้วยกันได้

หลังจากทุกคนร่ำลากันเสร็จสิ้นแล้ว ถังซวงและคนอื่น ๆ ก็ออกจากก่างเฉิง

เช่นเดียวกับตอนที่มาก่างเฉิงคราวแรก เฮ่อจื่อกุยพาทุกคนแวะพักที่เมืองหยางเฉิงก่อน

แต่สิ่งที่ถังซวงประหลาดใจและคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อทั้งหมดมาถึงเมืองหยางเฉิง พวกเขากลับเห็นจิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวนอยู่ที่นี่ด้วย

“พี่โม่ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”

หลังจากโม่เจ๋อหยวนได้พบกับถังซวงที่ห่างเหินกันไปเนิ่นนาน เขาก็ไม่สามารถเก็บกั้นอารมณ์ได้จึงวิ่งเข้าไปหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วพร้อมกับคว้าแขนของอีกฝ่ายไว้ “ซวงเอ๋อร์ไม่ได้พบกันตั้งนาน”

ถังซวงเองก็ดีใจมากเช่นกันก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “นั่นสิคะ ไม่เจอกันตั้งนาน”

จิงเจ้อหรงที่ยืนอยู่ด้านข้างมองเฮ่อหลานด้วยความคิดถึงก่อนจะเอ่ยออกมาว่า “อาหลาน… ได้พบกันสักทีนะครับ”

“อาเจ้อ…”

แววตาของเฮ่อหลานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจิงเจ้อหรงและโม่เจ๋อหยวนจะมาที่นี่ “พวกคุณมาที่นี่ทำไมหรือคะ?”

“เสี่ยวโม่กับผมมาที่นี่เพื่อมารอรับพวกคุณกลับบ้านครับ”

ขณะพูดอย่างนั้น จิงเจ้อหรงมองเฮ่อจื่อกุยพลางพูดว่า “พี่ใหญ่ครับ ผมกับเสี่ยวโม่จะพาอาหลานและคนอื่น ๆ กลับบ้านเอง หลังจากนี้จะไม่รบกวนพี่ใหญ่กับลูกชายแล้วครับ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด