การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 360 เข้าใจแล้ว

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 360 เข้าใจแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 360 เข้าใจแล้ว

บทที่ 360 เข้าใจแล้ว

ถังเซวี่ยมองชายที่ถูกระเบิดตายไปต่อหน้า ร่างกายของเธอชะงักค้างไปชั่วขณะ

แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่คนเหล่านั้นพูด ถังเซวี่ยก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะทำจิตใจให้สงบลงอย่างรวดเร็ว คนพวกนี้จับกุมเธอและพี่มาที่นี่ อีกทั้งยังต้องการทำเรื่องน่ารังเกียจอย่างนั้นกับพวกเธอ โทษที่พวกมันสมควรได้รับคือความตายเท่านั้น

ทันทีที่ตระหนักได้อย่างนั้น ถังเซวี่ยกระชับสิ่งที่พี่สาวยื่นให้ก่อนหน้าด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ดวงตาลุกไหม้เกรี้ยวกราดจ้องมองผู้คนโดยรอบ

หลังจากนี้ เธอจะไม่ยอมเป็นตัวถ่วงของพี่อีกต่อไป

ถังซวงยิ้มกว้างก่อนจะยกนิ้วให้กับถังเซวี่ย “เสี่ยวเซวี่ย ทำได้ดีมาก”

ถังเซวี่ยมีความสุขมากที่ได้คำชมจากพี่สาว

“พี่ไม่ต้องห่วงฉันนะ ฉันปกป้องตัวเองได้”

“ตกลง อย่างนั้นพี่ไม่ห่วงเธอแล้วนะ”

ถังซวงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ เธอยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย

“นี่… คู่ต่อสู้ของพวกแกคือฉัน อย่าคิดยุ่งกับเสี่ยวเซวี่ยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น… ปัง… ชะตาของพวกแกอาจจะสิ้นสุดแค่นี้ เอาล่ะ เข้ามา”

ชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ฟื้นคืนสติหลังจากการระเบิดก่อนหน้านี้ หันศีรษะกลับมามองถังซวง แต่ยังไม่เคลื่อนไหว พร้อมทั้งคิดในใจว่าสองคนนี้ไม่ธรรมดา ต่อให้มีคนมากก็ไม่สามารถจัดการพวกเธอได้อยู่หมัด ยังไม่นับเรื่องระเบิดในมือของถังเซวี่ยอีก

“เธอเอาระเบิดมาจากไหน?”

ชายหัวโล้นมองถังซวงด้วยแววตาประหลาดใจ

ตอนเขามัดสองพี่น้อง พวกเขาไม่พบสิ่งแปลกปลอมใด ๆ บนร่างกายของพวกหล่อน แน่นอนว่าถ้าระเบิดเหล่านี้ซุกซ่อนอยู่ในร่าง พวกเขาควรจะเห็นก่อนหน้านี้แล้ว แล้วนี่พวกหล่อนเอามันมาจากที่ไหนกัน?

แววตาของถังซวงเย็นชาน่าหวาดหวั่น

“ในที่ ๆ พวกแกไม่มีวันค้นเจอไงล่ะ”

เวลานี้เธอจับจ้องชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ ไม่วางตา

ยิ่งเห็นท่าทีของถังซวง ชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ ต่างสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงถาโถมกดดัน ผู้หญิงตรงหน้ามีความสามารถที่พวกเขาไม่อาจคาดเดา และความโหดเหี้ยมของเธอมันยิ่งกว่านักฆ่ากระหายเลือดเสียอีก

สำหรับถังเซวี่ย พวกเขาไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งกับหล่อนเลย เพราะไม่มีใครอยากถูกระเบิดเป็นเถ้าถ่านในพริบตา

ตอนนี้ดวงตาของถังซวงเต็มไปด้วยความกระหายเลือด เพราะเห็นความหวาดกลัวในแววตาชายหัวโล้นและคนอื่น ๆ

เธอมักจะออมแรงไว้ครึ่งหนึ่งเสมอมา เพราะกลัวว่าจะพลาดท่าไปฆ่าคนโดยไม่ตั้งใจ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเธอสามารถหยิบระเบิดออกจากความว่างเปล่าได้ ทุกคนจึงยิ่งหวาดกลัว

แววตาของถังซวงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง

ก่อนหน้านี้เธอใจดีมากเกินไป คนเหล่านี้คิดข่มเหงทั้งเธอและน้องสาว เพราะอย่างนั้นจะมาบอกว่าเธอโหดร้ายไม่ได้

“อ๊าก…”

ตูม…

สองคนที่อยู่ใกล้กับถังซวงที่สุดล้มลงกับพื้น พวกมันไม่มีโอกาสได้ลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง

ยิ่งเห็นสถานการณ์ตรงหน้า คนอื่น ๆ ยิ่งหวาดกลัว

เมื่อชายหัวโล้นเห็นความหวาดกลัวในแววตาของทุกคน เขาตะโกนเสียงดัง “พวกเรามีคนตั้งเยอะแยะ จะไปกลัวนังนี่ทำไม มันก็แค่เด็กผู้หญิงคนเดียว ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี้เข้าคงจะหัวเราะพวกเราไปแล้ว!”

ทุกคนเริ่มสงบจิตใจลงในไม่ช้า ก่อนจะร่วมมือกันเพื่อหยุดถังซวง

“อา… เข้ามาพร้อมกันเลยสิ ฉันไม่อยากจะจัดการพวกแกทีละคนเหมือนกัน”

ถังซวงยกยิ้มเลียมุมปาก ใบหน้างดงามแปดเปื้อนไปด้วยความชั่วร้าย นี่คือความงามที่อันตรายอย่างแท้จริง

“หึ… อวดดีนักนะ ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าวันนี้เธอจะจัดการพวกเราทั้งหมดได้ยังไง”

จู่ ๆ ชายหัวโล้นก็มั่นใจขึ้นมา เวลานี้เขารู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว หากยิ่งหวาดกลัว พวกเขาจะพ่ายแพ้จริง ๆ

ขณะทั้งสองกำลังพูดคุย ถังซวงกับชายหัวโล้นพุ่งเข้าหากันทันที อีกทั้งพวกลูกสมุนของชายหัวโล้นเป็นคนมีทักษะที่ดีมาก แต่น่าเสียดายที่ศัตรูของพวกเขาคือถังซวง ซึ่งหญิงสาวที่ปลดปล่อยพละกำลังทั้งหมดกำลังสร้างฉากโศกนาฏกรรมยิ่งใหญ่

ตูม…

บางคนไม่มีโอกาสที่จะส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ แต่ทั้งดวงตาและใบหูของพวกเขากลับดับสนิทไปตลอดกาล

“อ๊าก…”

บางคนที่โชคดีหน่อยสามารถหลบการโจมตีของถังซวงโดยไม่ให้มันถูกจุดสำคัญ พวกเขาจึงรอดพ้นจากความตาย ทว่าชีวิตของพวกเขาก็ไม่ต่างจากตกนรก ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะหยัดยืนได้อีกต่อไป

“หัวหน้า ผมว่า… เรารีบหนีกันเถอะครับ นังนี่มันบ้าไปแล้ว ถ้าเราไม่หนีตอนนี้ พวกเราได้เป็นผีเฝ้าที่นี่แน่”

ชายร่างสูงที่ติดตามชายหัวโล้นพูดขึ้นมา เขาอยากถอยแล้ว เพราะต่อให้ยิ่งสู้ก็มีแต่ยิ่งเสี่ยงตายมากเท่านั้น

หลังตระหนักได้อย่างนั้นแล้ว ชายผอมสูงคนนั้นไม่คิดสนใจอะไรอีก เขาวิ่งหนีไปทันที

เมื่อมีคนเริ่มวิ่งหนี คนอื่น ๆ ก็ออกวิ่งตามด้วยเช่นกัน

ชายหัวโล้นมองสถานการณ์ตรงหน้าก็พูดไม่ออก เขาไม่คิดว่าพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมาจะวิ่งหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิตแบบนี้ ทั้งที่พวกเขาทั้งหมดต่างผ่านพ้นสถานการณ์เฉียดตายและนอนจมกองเลือดมาด้วยกันแท้ ๆ

หลังจากเห็นคนเริ่มวิ่งหนี ถังซวงกล่าวเย้ยหยัน “อย่าพยายามวิ่งเลย… เสียแรงเปล่า”

เวลานี้เหลือเพียงชายหัวโล้นยืนอย่างโดดเดี่ยว เพราะคนอื่น ๆ หนีไปหมดแล้ว ถึงพวกเขาจะวิ่งออกไป ถังซวงยังจะสังหารคนเหล่านี้อยู่ เธอไม่คิดปล่อยให้ใครหลบหนีไปทั้งนั้น

เธอไม่กลัวสายตาที่มองมาอีกต่อไป เธอถือเข็มเงินสองสามเล่มในมือ ก่อนจะเขวี้ยงมันใส่ห้าคนที่วิ่งหนีออกไป

“อ๊าก…”

คนที่กำลังวิ่งหนีไป พลันขาอ่อนปวกเปียก ทรุดลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

ถังซวงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และในขณะที่คนพวกนั้นทรุดตัวลงกับพื้น เธอพุ่งกระโจนเข้าหาคนเหล่านั้นก่อนจะใช้ฝ่ามือทุบตีพวกมันอย่างรุนแรง

คราวแรกชายหัวโล้นไม่คิดจะวิ่งหนี แต่เมื่อเห็นสิ่งที่ถังซวงทำ เขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้ หล่อนไม่เพียงแต่มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย การต่อสู้กับอาวุธมากมายที่ไม่รู้จัก อาจเป็นทางเลือกที่โง่เขลา เขาจึงเริ่มออกวิ่งบ้าง

“ไปอยู่ด้วยกันซะ”

ถังซวงคว้าชายที่เพิ่งหมดสติก่อนจะขว้างใส่ชายหัวโล้น

ชายหัวโล้นได้ยินเสียงบางสิ่งพุ่งแหวกอากาศเข้ามาใกล้ เขาก็หันกลับมา

ตูม…

พวกพ้องที่ไม่ได้สติในคราวแรกเปิดเปลือกตาขึ้นหลังจากร่างกระแทกพื้นรุนแรง แต่แม้ว่าจะได้สติกลับมา มุมปากที่มีเลือดสดไหลออกมาบอกชัดแล้วว่าอวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรง

ชายหัวโล้นมองพวกพ้องที่ถูกขว้างมา เขาพยายามหลบร่างนี้จนลืมมองว่าถังซวงเขวี้ยงเข็มสีเงินมาอีกแล้ว ต่อให้เขาจะระวังมากเพียงใด สุดท้ายขาของเขาก็ถูกเข็มเงินเล่นงานและทรุดตัวลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว

“แก… แกเป็นใคร?”

จากข้อมูลที่เขาได้รับมา ถังซวงเป็นเพียงสาวชนบทที่มีวาสนาได้มาอยู่เมืองหลวง จะแข็งแกร่งอย่างนี้ได้ยังไง? ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“อ้าว… พวกแกพาตัวฉันมา ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร?”

ถังซวงกล่าวคำเย้ยหยัน ก่อนจะเดินเข้าหาชายหัวโล้นช้า ๆ แล้วใช้ประโยชน์จากการหยุดนิ่งของอีกฝ่ายพุ่งเข้าโจมตีเขาจนหมดสติในพริบตา

ถังซวงมัดทุกคนเข้ารวมกัน ต่อให้ได้รับบาดเจ็บเธอก็ไม่คิดจะปล่อยไป อีกทั้งพวกที่บาดเจ็บอยู่บนรถเธอก็จับพวกเขามารวมกันไว้เป็นกลุ่มก้อน

ถังเซวี่ยเฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ หลังจากเห็นว่าพี่สาวสามารถจัดการทุกคนได้แล้ว เธอเดินไปด้านหน้าก่อนจะหันมองถังซวงด้วยแววตาชื่นชม “พี่คะ พี่เก่งที่สุดเลย”

เด็กสาวยอมรับว่าเธอกลัวมาก

แต่เธอก็เข้าใจได้ว่าหากคนเหล่านี้ไม่ตาย คงเป็นเธอกับพี่สาวที่ต้องตายแทน จิตใจของเธอจึงเริ่มเข้มแข็งขึ้น “พี่คะ แล้วหลังจากนี้เราจะทำยังไงต่อ?”

ถังซวงชำเลืองมองถังเซวี่ยแล้วพูดว่า “อืม… เราต้องให้พวกมันชดใช้”

ถังซวงมองระเบิดในมือของถังเซวี่ย “ใช้สิ่งนั้น”

ถังเซวี่ยเข้าใจได้ทันที แต่เธอเพิ่งจะผ่านพ้นความหวาดกลัวก่อนหน้ามา และเวลานี้เธอถูกขอให้จัดการระเบิดคนกลุ่มใหญ่ตรงหน้า ความหวาดกลัวจึงค่อย ๆ หวนคืนกลับมาอีกครั้ง

แน่นอนว่าถังซวงไม่คิดให้ถังเซวี่ยทำเรื่องเหล่านี้ เธอหยิบระเบิดในมือของถังเซวี่ยแล้วเดินเข้าหากลุ่มของชายหัวโล้นช้า ๆ

พวกมันหลายคนยังคงมีสติอยู่บ้าง เมื่อเห็นถังซวงเดินเข้าไปใกล้พร้อมด้วยระเบิดในมือ พวกเขาทั้งหมดหวาดกลัวจนลนลาน และเริ่มร้องขอความเมตตาทันที “อย่าทำเลยนะครับ พวกเราผิดไปแล้ว โปรดให้อภัยพวกเราด้วยเถอะครับ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้ว สัญญาเลย”

“ใช่ครับ ใช่ พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว”

ถังซวงไม่หยุดฝีเท้าแม้แต่น้อย คนพวกนั้นจึงรู้สึกโกรธเกรี้ยวแล้วตะโกนว่า “การฆ่าคนมันผิดกฎหมาย ถ้าแกกล้าทำ แกต้องเจอดีแน่”

ถังซวงหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“โอ้… พวกแกก็รู้นี่ว่าการฆ่าคนผิดกฎหมาย แล้วทำไมตอนแกฆ่าใครสักคนถึงไม่คิดเรื่องนี้บ้างล่ะ?”

คนเหล่านี้ชั่วเกินไป มือของพวกมันล้วนแต่เปื้อนเลือด ยิ่งมองการกระทำของพวกมัน เธอยิ่งตระหนักได้ว่ามือคู่นั้นผ่านการสังหารมามากมายเท่าไหร่… หากสังหารคนเหล่านี้ไปเสีย ก็ไม่ต่างอะไรจากการกำจัดขยะให้โลกใบนี้ ถังซวงจึงไม่คิดจะปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด

“ไปเป็นคนดีในชาติหน้าแล้วกัน”

ถังซวงกล่าวคำเฉยเมยก่อนจะโยนระเบิดในมืออย่างสบาย ๆ ขณะเดียวกันเธอวิ่งกลับไปหาถังเซวี่ย แล้วลากจูงอีกฝ่ายถอยห่างออกไปเล็กน้อย

ตูม…

เปลวเพลิงขนาดใหญ่ระเบิดออก เกิดประกายไฟลุกโชนในค่ำคืนมืดมิด

แสงสวางส่องประกายทอดยาวมาที่ใบหน้าของถังซวงและถังเซวี่ย มองเห็นความงดงามของทั้งคู่เด่นชัด

“ระเบิดพวกนั้นอยู่ในรถของพวกมัน” ถังซวงรู้ว่าถังเซวี่ยคงจะต้องสงสัยแต่ไม่รู้จะถามอย่างไร เธอจึงพูดมันก่อน

ได้ยินอย่างนั้น ถังเซวี่ยรีบตอบรับทันที เธอจับมือถังซวงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสดใส “ค่ะพี่ พี่ของฉันเก่งที่สุด เพราะพี่ได้ระเบิดพวกนี้จากรถของพวกมัน เราสองพี่น้องถึงรอดชีวิตกลับไปได้อย่างปลอดภัย”

เห็นดวงตาสดใสและมั่นคงของถังเซวี่ยไร้เดียงสา ถังซวงถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“อืม เรื่องมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ”

ทั้งสองพี่น้องมองหน้ากัน และไม่มีใครคิดจะพูดคุยเรื่องระเบิดอีกต่อไป

ขณะนั้นมีเสียงรถบรรทุกดังกึกก้องจากระยะไกล ไม่นานรถบรรทุกคันนั้นจอดลงต่อหน้าทั้งสองคน และมีคนสองคนพุ่งเข้าหาพวกเธออย่างรวดเร็ว

“ไปเป็นคนดีในชาติหน้าแล้วกัน”

ถังซวงกล่าวคำเฉยเมยก่อนจะโยนระเบิดในมืออย่างสบาย ๆ ขณะเดียวกันเธอวิ่งกลับไปหาถังเซวี่ย แล้วลากจูงอีกฝ่ายถอยห่างออกไปเล็กน้อย

ตูม…

เปลวเพลิงขนาดใหญ่ระเบิดออก เกิดประกายไฟลุกโชนในค่ำคืนมืดมิด

แสงสวางส่องประกายทอดยาวมาที่ใบหน้าของถังซวงและถังเซวี่ย มองเห็นความงดงามของทั้งคู่เด่นชัด

“ระเบิดพวกนั้นอยู่ในรถของพวกมัน” ถังซวงรู้ว่าถังเซวี่ยคงจะต้องสงสัยแต่ไม่รู้จะถามอย่างไร เธอจึงพูดมันก่อน

ได้ยินอย่างนั้น ถังเซวี่ยรีบตอบรับทันที เธอจับมือถังซวงก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสดใส “ค่ะพี่ พี่ของฉันเก่งที่สุด เพราะพี่ได้ระเบิดพวกนี้จากรถของพวกมัน เราสองพี่น้องถึงรอดชีวิตกลับไปได้อย่างปลอดภัย”

เห็นดวงตาสดใสและมั่นคงของถังเซวี่ยไร้เดียงสา ถังซวงถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“อืม เรื่องมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ”

ทั้งสองพี่น้องมองหน้ากัน และไม่มีใครคิดจะพูดคุยเรื่องระเบิดอีกต่อไป

ขณะนั้นมีเสียงรถบรรทุกดังกึกก้องจากระยะไกล ไม่นานรถบรรทุกคันนั้นจอดลงต่อหน้าทั้งสองคน และมีคนสองคนพุ่งเข้าหาพวกเธออย่างรวดเร็ว

“ซวงเอ๋อร์ บาดเจ็บตรงไหนไหม”

“เสี่ยวเซวี่ย…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด