การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 354 ช่วยดูแล

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 354 ช่วยดูแล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 354 ช่วยดูแล

บทที่ 354 ช่วยดูแล

ถังเซวี่ยกลับมาที่ห้องของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม เธอมีความสุขกับของขวัญที่ได้รับมาก

ส่วนถังซวงและจิงเจ้อหรงเดินออกมาพูดคุยกัน

“ซวงเอ๋อร์ พ่อถามลุงหลิวเชามาแล้วนะ เขาไม่ได้รู้จักมักจี่กับหลิวก่วงซิ่วเท่าไหร่ ต่อให้หลิวก่วงซิ่วสร้างปัญหาอะไรไว้ ตระกูลหลักจะไม่เข้าช่วยเหลือเด็ดขาด”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “ดีค่ะ”

จิงเจ้อหรงกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ก่อนจะพูดว่า “หลิวก่วงซิ่วคนนั้นอันตรายจริง ๆ โชคดีที่วันนี้คุณชายซ่างอยู่กับป้าเกอของลูก ไม่อย่างนั้นหลิวก่วงซิ่วกับแม่คงจะรังแกป้าเกอของลูกมากกว่านี้แน่”

ถังซวงไม่คิดว่าเกอชิงเหม่ยจะได้พบเจอกับหลิวก่วงซิ่วอีกครั้ง

“คน ๆ นี้แปลกจริง ๆ คราวหน้าถ้าป้าเกอออกไปข้างนอก หนูจะออกไปด้วยค่ะ”

จิงเจ้อหรงยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า “ไม่เป็นไร พ่อบอกเรื่องนี้กับหลิวเชาแล้ว เขาจะไปจัดการกับหลิวก่วงซิ่วเอง พ่อมั่นใจว่าหลิวเชารู้ว่าควรทำยังไง”

ถังซวงโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น

“ขอบคุณค่ะพ่อ”

จิงเจ้อหรงที่ได้ยินคำขอบคุณจากถังซวง เขาลูบศีรษะเธอแผ่วเบาก่อนจะพูดต่อว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องขอบคุณหรอกยังไงพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน รีบกลับไปพักผ่อนได้แล้ว”

เกอชิงเหม่ยไม่รู้จริง ๆ ว่าเวลานี้ทั้งถังซวงและคนอื่น ๆ กำลังวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องของตน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังพูดคุยกับซ่างสยงเยี่ยเกี่ยวกับงานภายในโรงงาน

“คุณชายซ่างไม่ต้องกังวลนะคะ ต่อไปจะมีงานปักสองด้านเพิ่มขึ้น และฉันจะพยายามอย่างหนักเพื่อส่งงานให้มากขึ้นค่ะ”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ซ่างสยงเยี่ยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นรบกวนสหายเกอรักษาคุณภาพของงานปักสองด้านให้คงที่ด้วยนะครับ เพราะทุกคนชอบงานปักที่ประณีตนี้มาก ๆ เลยครับ”

จากนั้นทั้งสองก็กล่าวสรุปถึงการส่งงานครั้งต่อไป และพูดคุยรายละเอียดถึงงานปักที่มีลวดลายเฉพาะ

หลังพูดคุยกันเสร็จแล้ว ซ่างสยงเยี่ยก็พูดถึงวันกลับของเขา “สหายเกอ อีกวันสองวันผมจะกลับเมืองก่างเฉิงแล้วนะครับ ผมจะรอวันที่เราได้พบกันอีกครั้ง”

ได้ยินซ่างสยงเยี่ยพูดอย่างนั้นแล้ว เกอชิงเหม่ยประหลาดใจเล็กน้อย “คุณชายซ่างไม่ตามหาญาติแล้วหรือคะ?”

“ถ้าสองวันนี้ผมยังหาไม่พบ ก็คงต้องกลับก่อนแล้วล่ะครับ มีเรื่องมากมายรอผมอยู่ที่ก่างเฉิง” สุดท้ายแล้วหลานชายของเขาก็กำลังช่วยดูแลงานเหล่านั้น แต่ซ่างหมิงซูยังไม่สามารถจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ที่ซับซ้อนได้ เขาจึงต้องกลับไปจัดการมันด้วยตัวเอง

ได้ยินอย่างนั้นเกอชิงเหม่ยถอนหายใจเบา ก่อนจะพูดว่า “อย่างนั้นก็ไม่รู้เลยค่ะว่าการนัดหมายครั้งต่อไปของเราจะเป็นเมื่อไหร่”

“สหายเกอ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ถ้ามีเวลาคุณต้องไปเที่ยวเมืองก่างเฉิงให้ได้นะครับ และผมจะต้อนรับคุณเอง”

เกอชิงเหม่ยก็อยากจะไปที่นั่นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก เธอจึงตอบกลับอย่างสบาย ๆ ว่า “อย่างนั้นถ้ามีโอกาสฉันจะไปเยี่ยมนะคะ”

“ยินดีครับ”

หลังจากผ่านไปสองวัน ซ่างสยงเยี่ยก็ยังไม่ได้รับข่าวจากลุงของตน เขาจึงต้องออกจากเมืองหลวงไปพร้อมความผิดหวัง

ซึ่งวันนี้เกอชิงเหม่ยตื่นแต่เช้าเพื่อไปส่งเขา และถังซวงก็ไปด้วยเช่นกัน

“คุณชายซ่างคะ ไว้กลับมาเมืองหลวงใหม่นะคะ”

ได้ยินคำพูดของถังซวงแล้ว ซ่างสยงเยี่ยยิ้มกว้างก่อนจะตอบกลับ “ครับ ผมจะมาอีกแน่นอน”

เกอชิงเหม่ยโบกมือลาซ่างสยงเยี่ย “เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะคุณชายซ่าง”

เมื่อมองหญิงสาวที่มีใบหน้าบอบบางและท่าทางอ่อนโยนตรงหน้าที่กำลังยกยิ้มให้กับตน ซ่างสยงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะหันมองเธออีกครั้ง เขารู้สึกว่าเกอชิงเหม่ยก็เป็นคนที่น่าสนใจไม่น้อย แม้ในคราวแรกอาจจะไม่ดึงดูด แต่หลังจากรู้จักกันไปสักพัก เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจและมีเสน่ห์มาก “ลาก่อนครับสหายเกอ”

“ค่ะ”

หลังจากซ่างสยงเยี่ยขึ้นรถไฟไปแล้ว เกอชิงเหม่ยพาถังซวงกลับบ้าน แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอไม่พักผ่อนแต่อย่างใด เธอยังคงทำงานต่อ ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานเธอเขียนจดหมายถึงฉินซิวเหนียงที่โรงงานเย็บปัก โดยบอกกล่าวเรื่องงานปักสองด้านที่ต้องเพิ่มปริมาน หลังจากนั้นเธอจึงเริ่มวาดภาพบนกระดาษเพื่อจะออกแบบลายปัก

“ป้าเกอ กำลังออกแบบงานอยู่หรือคะ?”

เกอชิงเหม่ยหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำถามนั้น ก่อนจะพูดว่า “ป้าวาดรูปออกแบบอะไรพวกนั้นไม่เป็นหรอกจ้ะ ป้าแค่วาดโครง ๆ ไว้เพื่อให้มองเห็นภาพ ลองดูสิ เธออาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป้ากำลังวาดอะไรอยู่”

ถังซวงชำเลืองมองมันเล็กน้อย และรู้สึกว่าเธอพอที่จะเข้าใจได้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแนะนำ “ป้าเกอคะ เสี่ยวเซวี่ยวาดรูปเก่งมาก ป้าลองบอกเธอว่าอยากได้รูปอะไร เธอน่าจะวาดให้ได้นะคะ”

“จริงด้วย ทำไมป้าลืมเสี่ยวเซวี่ยไปเลยนะ”

เกอชิงเหม่ยตบหน้าผากตัวเองก่อนจะเรียกหาเสี่ยวเซวี่ย “เสี่ยวเซวี่ย ป้าวาดภาพออกแบบสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็น หนูช่วยออกแบบให้ป้าได้ไหม? เดี๋ยวป้าจะบอกสิ่งที่ป้าต้องการแล้วให้หนูลองวาดมันดู แบบนี้ได้ไหมจ๊ะ?”

“หนูจะลองดูค่ะ”

ถังเซวี่ยไม่เคยวาดภาพตามคำบอกของคนอื่นมาก่อน เมื่อเริ่มต้นเธอจึงค่อนข้างประหม่าเล็กน้อยเพราะกังวลว่าจะทำได้ไม่ดีพอ แต่เมื่อเธอเริ่มลงมือวาด พร้อมรับคำชมจากถังซวงและเกอชิงเหม่ย ถังเซวี่ยก็วาดได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับความคิดของเกอชิงเหม่ย จึงได้ภาพห้องเล็ก ๆ ที่สวยงามออกมา เธอรีบนำภาพให้เกอชิงเหม่ยดูพร้อมถามไปว่า “ป้าเกอคะ ป้าอยากได้แบบนี้ไหมคะ?”

เกอชิงเหม่ยมองภาพที่ถังเซวี่ยวาดก่อนจะพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น “เสี่ยวเซวี่ย หนูเก่งมากเลยจ้ะ ป้าอยากได้แบบนี้เลย” จากนั้นเธอก็บอกเล่าความคิดของตัวเองและขอให้ถังเซวี่ยลองวาดแบบอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

ยากมากที่ถังเซวี่ยจะได้นั่งวาดภาพเช่นนี้ เวลานี้เธอจึงคว้าโอกาสนี้เอาไว้และเริ่มลงมือ

เกอชิงเหม่ยและถังซวงเฝ้ามองจากด้านข้างไม่ห่าง จนเกอชิงเหม่ยพูดขึ้นมาว่า “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย จำลานเล็ก ๆ ที่แม่ของพวกหนูซื้อไว้ก่อนหน้านี้ได้ไหม? เดิมทีเธอจะใช้มันเพื่อสร้างโรงงานเย็บปักใช่ไหมล่ะ แต่ว่าตอนนี้เธอกำลังท้องไม่มีเวลาจะทำเรื่องพวกนั้น ตอนนี้ฉันอยู่ในเมืองหลวงแล้ว ฉันเลยจะดูแลลานเล็ก ๆ นี้แทนก่อนน่ะจ้ะ”

ถังซวงพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยิน “อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าช่วงหลังมานี่แม่ดูหายเครียดขึ้นมา เป็นเพราะมีป้าเกอช่วยดูแลนี่เอง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ให้แม่หนูดูแลลูก ๆ ไปน่ะดีที่สุด เรื่องอื่นเดี๋ยวป้าดูแลเอง”

ถังเซวี่ยวาดภาพไม่หยุดมือ เมื่อวาดเสร็จแล้วเธอหยิบยกให้เกอชิงเหม่ยดูทันที

ยิ่งเกอชิงเหม่ยมองดู เธอยิ่งรู้สึกชื่นชมปนประหลาดใจมากเท่านั้น “เสี่ยวเซวี่ย หนูวาดภาพได้ดีมากเลยจ้ะ ป้าอยากทำให้ลานเล็ก ๆ นั่นเป็นแบบนี้จริง ๆ เอาล่ะ เดี๋ยวป้าต้องเอาไปให้อาหลานดูก่อนว่าเธอชอบไหม ถ้าเธอเห็นด้วยป้าก็จะหาคนมาจัดการเรื่องนี้ทันที”

จากนั้นเกอชิงเหม่ยหยิบภาพที่ถังเซวี่ยวาดให้และเดินไปหาเฮ่อหลาน

แน่นอนว่าเฮ่อหลานไม่คัดค้านอะไร และให้เกอชิงเหม่ยดำเนินการทุกอย่างได้เลย เกอชิงเหม่ยจึงพาถังซวงและถังเซวี่ยไปที่ลานเล็ก ๆ นั้น

“ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ที่นี่จะเป็นสถานที่ตั้งโรงงานเย็บปักในเมืองหลวงของพวกเรานับจากวันนี้ไป เดี๋ยวหลังจากอาหลานคลอด ค่อยให้เธอกลับมาดูแลที่นี่ด้วยตัวเองนะ”

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังซวงและถังเซวี่ยมาที่นี่ ลานเล็ก ๆ แห่งนี้มีพร้อมทุกอย่างแล้ว และพวกเธอรู้สึกว่ามันเหมาะมาก ถังเซวี่ยเอาตลับเมตรออกมาเพื่อวัดขนาดของสิ่งต่าง ๆ แล้วกลับไปแก้ไขภาพที่ตนเองวาด

ทว่าในขณะที่ทั้งสามคนกำลังจะกลับ พวกเธอไม่คิดเลยว่าจะได้พบเจอกับคนกลุ่มหนึ่งมายืนขวางทางเอาไว้

—————————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด