การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวยบทที่ 141 การควบคุม

Now you are reading การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย Chapter บทที่ 141 การควบคุม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 141 การควบคุม

บทที่ 141 การควบคุม

เมื่อถังซวงได้ยินคำพูดของผู้เฒ่าฉี เธอก็ตกตะลึง เมื่อกี้เธอนึกว่าผู้เฒ่าฉีพูดเล่น แต่ตอนนี้เขากลับจริงจังมาก ราวกับที่พูดเป็นเรื่องจริง นี่เขาพยายามจะทำอะไรเนี่ย

ไม่ใช่แค่ถังซวง คนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเช่นกัน

เฉินกวงหยางพูดด้วยความงุนงง “ผู้เฒ่าฉี นี่คุณ…”

ผู้เฒ่าฉีโบกมือทันที ขัดคำพูดของเฉินกวงหยาง และจ้องตาเขา

เฉินกวงหยางเห็นอย่างนั้นก็กลับมามีสติ เขาพยักหน้าให้ชายชรา และทั้งสองก็หันหน้าไปมองอีกฝ่าย

“เหวินจิง นายก็รู้นิสัยใจคอของฉันดี ในเมื่อฉันตัดสินใจมอบโถงยี่ชี่ให้กับคุณถังซวงแล้ว มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ดังนั้นอย่าคิดหวัง โถงยี่ชี่จะไม่เป็นของนายแน่”

เหวินจิงเหลือบมองไปที่ผู้เฒ่าฉี จากนั้นมองไปที่ถังซวงอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ผู้เฒ่าฉี ผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถเป็นผู้สืบทอดของคุณได้ ทำไมคุณถึงตัดสินใจแบบนี้?”

อย่างที่เราทราบกันดีว่าผู้เฒ่าฉีไม่มีทายาท ดังนั้นทุกคนใกล้ตัวเขาจึงมีโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าของโถงยี่ชี่ในอนาคต แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ ผู้เฒ่าฉีจะมอบโถงยี่ชี่ให้กับเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่กี่วัน!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้เฒ่าฉีหัวเราะออกมาทันที

“ถ้าฉันมีลูกสาวอย่างคุณถังซวง ฉันคงตื่นจากความฝันแล้วหัวเราะอย่างยินดี น่าเสียดายที่เธอไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลย แต่เธอกลับช่วยฉันอย่างสุดความสามารถ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ฉันจะมอบโถงยี่ชี่ให้คุณถัง”

เหวินจิงเห็นว่าตาแก่สารเลวตรงหน้าไม่ต้องการปล่อยให้ตนได้โถงยี่ชี่ไป แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับชายชราเสียหน่อยที่จะตัดสินใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้

“เฮ้อ… ผู้เฒ่าฉี เดิมทีผมอยากจะพูดคุยอย่างสันติ แต่น่าเสียดายที่คุณยั่วโมโหผมครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นอย่าหาว่าผมหยาบคายเลย”

หลังจากพูดแบบนี้ เหวินจิงก็ขยับมือ

ในไม่ช้า ทุกคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว ก้าวมาข้างหน้า จับกุมผู้เฒ่าฉีและถังซวงเอาไว้

ถังซวงมองไปที่คนกลุ่มใหญ่ตรงหน้าเธอและขมวดคิ้วอย่างสงสัย ถ้าแค่เธอคนเดียว คงสามารถจัดการไปได้แล้ว แต่ตอนนี้ยังมีเฉินกวงหยางและผู้เฒ่าฉีที่เธอต้องพาพวกเขาสองคนไปด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนยากเกินไปที่จะถอย แต่เธอนำยาติดตัวมาด้วย ซึ่งอาจยังพอมีโอกาสอยู่

แต่ก่อนที่ถังซวงจะวางแผนหลบหนี เฉินกวงหยางก็เข้ามาใกล้อย่างช้า ๆ และพูดเบา ๆ ว่า “น้องสาวไม่ต้องกังวล คนของเราใกล้จะถึงแล้ว เราจะไม่เป็นอะไรแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถังซวงก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่เฉินกวงหยาง

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาดูผ่อนคลายในตอนแรกและรู้สึกกระวนกระวายเมื่อเหล่าหลิวกำลังจะโจมตีเธอ ที่จริงเขาได้เตรียมการไว้แล้ว จากมุมมองนี้ผู้เฒ่าฉีน่าจะรู้เรื่องนี้ด้วย

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ถังซวงก็ผ่อนคลายทันใด

เหวินจิงเห็นทุกการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน แล้วก็หัวเราะออกมา

“พวกแกนี่มันไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ แกคิดว่าจะมีใครมาช่วยพวกแกหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า… คนพวกนั้นถูกฉันจัดการไปแล้ว ดังนั้นฉันขอแนะนำให้พวกแกยอมแต่โดยดีจะดีกว่า เพราะจะไม่มีใครมาช่วยพวกแกได้ทั้งนั้น”

“อะไรนะ…”

เฉินกวงหยางตอบโต้โดยไม่รู้ตัว “เป็นไปไม่ได้”

“เป็นไปไม่ได้? ในเมื่อแกต้องการพาคนมาจับฉัน ฉันก็ต้องจับพวกแกทั้งหมดก่อนสิ เรื่องง่าย ๆ” ในตอนท้าย เหวินจิงหัวเราะเสียงดัง “คิดว่าตัวเองฉลาดนักหรือไง? คิดว่าจะจัดการทุกอย่างได้หรือ? ไร้เดียงสาจริง ๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ การแสดงออกของเฉินกวงหยางก็เปลี่ยนไปในทันที

แม้แต่ท่าทีของผู้เฒ่าฉีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองไปที่เหวินจิง และพูดว่า “ดูเหมือนว่านายจะเตรียมตัวมาดีนะ นายคงอยากจะดึงฉันลงจากเก้าอี้มานานแล้ว และเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของฉันล่ะซิ”

“ฮ่า ๆ… คุณน่าจะลงจากเก้าอี้ไปตั้งนานแล้วจริง ๆ นั่นแหละ ผมแค่เสียใจที่ไม่ได้ลงมือให้เร็วกว่านี้ก็เท่านั้น”

ในตอนท้าย การแสดงออกของเหวินจิงนั้นชัดเจน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แต่ในไม่ช้า เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และรีบขยับไปด้านข้างเพื่อหลบ แต่ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหน เขาก็ยังหนีไม่พ้นการโจมตีอยู่ดี ส่งผลให้แขนของเขาถูกบางอย่างเฉือนเข้า

ถังซวงมองไปยังเหวินจิงที่รอดพ้นจากการโจมตี และส่ายหัวอย่างเสียดาย

“เฮ้อ… น่าเสียดาย แต่…”

มุมปากของถังซวงยกโค้งเล็กน้อย และมีรอยยิ้มในดวงตาของเธอ แม้ว่าเธอจะล้มเหลวในการเล่นงานเหวินจิง แต่ตราบใดที่เธอสามารถสร้างรอยขีดข่วนได้ ก็ไม่เป็นไร เพราะเธอเชื่อว่ามันจะได้ผลในไม่ช้า

การโจมตีของถังซวงเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ผู้คนจำนวนมากไม่ทันตอบสนอง กระทั่งเหวินจิงก็ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “เร็วเข้า! ปกป้องพี่เหวิน!”

เหวินจิงยืนขึ้นช้า ๆ เงยหน้าขึ้นมองถังซวง เขายิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า “ดอกกุหลาบหนามสินะ แต่แบบนี้สิถึงจะดี ฉันล่ะอยากเห็นตอนเธอถูกเด็ดจริง ๆ”

“อ๋อ… นายคงไม่ทันได้เห็นหรอก”

“เธอหมายถึงอะไร?”

เมื่อเห็นรอยยิ้มของถังซวง เหวินจิงก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ในไม่ช้า เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหวินจิงกุมหน้าอกแน่น จ้องมองถังซวงด้วยใบหน้าเคียดแค้นและถามว่า “เธอ… เธอทำอะไรกับฉัน!?”

ในเวลานี้ ผู้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเหวินจิงรีบไปที่ถังซวง แต่เมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เหวินจิงพูด ทุกคนก็เห็นว่าใบหน้าที่มีเลือดฝาดแต่เดิมของเหวินจิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือด

แม้แต่เหล่าหลิวก็มองไปที่เหวินจิงด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นก็จ้องไปที่ถังซวงอย่างตื่นตระหนกเช่นกันและถามว่า “พี่เหวินเป็นแบบนี้ได้ยังไง? เธอทำอะไรกับเขา?”

“ฉันไม่ได้ทำอะไร แค่ทำแบบเดียวกับเขาเอง ชอบวางยาคนอื่นมากนัก แน่นอนว่าฉันก็อยากจะให้เขาได้ลิ้มรสบ้าง เป็นการตอบแทนไง”

เหวินจิงได้ยินคำพูดของถังซวง ก็ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เธอวางยาพิษอะไรฉัน”

ถังซวงเลิกยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พาคนของนายออกไปจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นก็ตายด้วยพิษ”

เหวินจิงจ้องถังซวงเขม็ง ยกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า “เธอเก่งมากนะ แต่แม้ว่าวันนี้พวกฉันจะถอยจากที่นี่ เธอคิดหรือว่าจะหนีไปไหนได้?”

“ฉันไม่รู้หรอกว่าจะหนีไปได้หรือเปล่า แต่ถ้านายไม่ตกลง ฉันเชื่อว่านายจะต้องตายในไม่ช้าแน่ พอนายไม่อยู่ ตอนนั้นคงจะดีไม่น้อย”

เหวินจิงแค่ต้องการเห็นความหวาดหวั่นเพียงเล็กน้อยในดวงตาของเด็กสาวคนนี้ แต่เขารู้สึกว่าคิดผิด เขาเห็นเพียงความเย็นชาในดวงตาของถังซวง เด็กคนนี้ไม่ได้ล้อเล่น เธอจะฆ่าเขาจริง ๆ

เขาเสียสละไปมากเพียงเพื่อให้ได้โถงยี่ชี่ แต่ถ้าเขาตาย สุดท้ายมันจะมีประโยชน์อะไร เหวินจิงจึงรีบตัดสินใจ “ตกลง ฉันจะพาคนออกไป เธอเอายาแก้พิษมาให้ฉัน”

“จุ๊ ๆ… ถ้าฉันให้ยาแก้พิษนายก่อน แล้วเกิดนายกลับคำขึ้นมาฉันจะทำยังไง? เพราะงั้นเอาคนออกไปซะ แล้วฉันจะให้คนส่งยาแก้พิษให้”

เหวินจิงไม่ยอม

“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะทำตามที่พูด? ถ้าเธอไม่ให้ยาแก้พิษกับฉันขึ้นมา ฉันก็ต้องตายสิ”

ในตอนท้าย การแสดงออกของเหวินจิงก็ดูหยาบคายมากขึ้น “เฮ้อ… จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งนี่ ถ้าฉันได้ตัวเธอมา ฉันก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มียาแก้พิษ” เมื่อเหวินจิงพูดจบ เขาก็พยายามที่จะจับถังซวงทันที

แต่ถังซวงแสร้งทำเป็นไม่ตอบสนอง และเมื่อเหวินจิงรีบวิ่งมาหาเธอ เธอก็ใช้โอกาสนี้ควบคุมเหวินจิงไว้ “เหอะ… คิดว่าง่ายงั้นหรือ แต่ขอบคุณนะ เมื่อกี้ฉันยังคิดอยู่เลยว่าจะคุมสถานการณ์ยังไงดี”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด