ราชินีพลิกสวรรค์ 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บันไดสวรรค์หรือ จุดสิ้นสุดการทดสอบอย่างนั้นหรือ”

“หรือว่านี่จะเป็นการทดสอบรายการสุดท้าย”

“คำนวณเวลาก็จวนแล้ว”

“เช่นนั้นยังรออะไรอยู่ รีบขึ้นไปเร็ว!”

“จุดสิ้นสุดการทดสอบหรือ อย่าบอกนะว่าภารกิจสุดท้ายคือยอดบันไดหินนี้”

น่าจะเป็นเช่นนั้น”

“รีบไป!”

“บนบันไดหินนี่เป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบจริงหรือ คงเป็นภารกิจที่มีคะแนนมากแน่นอน รีบเดินสิ อย่าให้ใครแย่งไปได้ก่อน”

“แต่ว่าบันไดหินอยู่ตรงนี้ พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีใครขึ้นไปก่อนหรือมีใครตามมาทีหลัง”

“หึ หากข้างหน้ามีคนก็ฆ่าเอาคะแนน หากมีคนตามมาข้างหลังก็ถือว่าพวกเขาโชคร้ายก็แล้วกัน”

เริ่มมีบันไดหินมากมายปรากฏขึ้นในสนามทดสอบเพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมทดสอบเดินขึ้นไป

ในเวลาเดียวกันพวกของเจียงหลีทั้งสี่คนเดินขึ้นมาบนบันได้หินใกล้จุดสิ้นสุดมาเรื่อยๆ

“พวกเจ้าสังเกตหรือเปล่าว่ายิ่งเดินขึ้นไปยิ่งรู้สึกว่าเท้ายิ่งหนักขึ้น” เจียงเฮ่านำความสงสัยในใจพูดออกมา

“ข้าก็รู้สึกเช่นนี้ เจ้าไม่พูด ข้ายังคิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้าหมดแรงเอง” ลู่เสวียนตอบอย่างทันควัน

หลังจากทั้งสองพูดจบก็หันไปมองพวกเจียงหลีสองคน

เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วฝีเท้าของเจียงหลีเบากว่าเล็กน้อย แต่ก็สามารถมองออกว่าทุกย่างก้าวที่นางลดเท้าลงและยกขึ้นความเบาต่างลดลงจากก่อนหน้านี้

แล้วมู่ชิงเกอล่ะ

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าฝีเท้าของมู่ชิงเกอเบาและรวดเร็วมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะจงใจเดินช้าๆ เป็นเพื่อนเจียงหลีก็เกรงว่าอาจเดินนำไปข้างหน้าตั้งนานแล้ว

ทำไมเขาแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

เขาแข็งแกร่งมาก

ทั้งสองแอบตกใจ สายตาที่มองมู่ชิงเกอพลันแปรเปลี่ยน โดยเฉพาะเจียงเฮ่า เขาไม่รู้มาก่อนว่าน้องสาวคู่ควรรู้จักกับคนที่เก่งกาจขนาดนั้น

“บันไดหินนี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่กลับมีผลต่อประสิทธิภาพของร่างกาย ยิ่งปีนยิ่งสูงก็ยิ่งสามารถเอาชนะพลังร่างกายของเราและขับไล่สิ่งสกปรกออกไปได้” จู่ๆ มู่ชิงเกอก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมองไปทางสองคนนั้น

เจียงหลีก็ดูอย่างจริงจัง “ถึงจะช้าไปสักหน่อยก็อย่าหยุด พอหยุดชะงักประสิทธิภาพของการฝึกร่างกายก็จะสูญหายไป”

ทั้งสองตกใจแล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักแน่น

เมื่อครู่ตอนรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าพวกเขาเคยคิดอยากจะพักจริงๆ เพียงแต่เมื่อมองไปทางผู้หญิงอย่างเจียงหลีที่ไม่มีหยุดพัก พวกเขาจึงรู้สึกเละอายใจ

เฉียดฉิวๆ!

หลังจากเตือนสติสองคนนั้นแล้ว ทั้งสี่ก็เดินขึ้นบันไดหินต่อ

ตลอดทางยิ่งปีนขึ้นก็ยิ่งสูง ป่าเขาลำเนาไพรข้างล่างค่อยๆ ผลุบหายไปกลายเป็นเมฆหมอกโอบล้อมรอบกาย เมื่อช้อนสายตาขึ้นมองก็ยังคงไม่เห็นปลายทางของบันไดหิน

หรือบางทีปลายบันไดหินอาจซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเมฆหมอก

เดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะมันนานเสียจนลืมเวลาไปแล้ว

เสียงหอบหายใจของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนกระหืดหอบหนัก เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลพลั่กจากแก้มของพวกเขาหยดลงบนขึ้นบันไดหิน

แม้กระทั่งเจียงหลีก็ยังมีสีหน้าตึงเครียด เส้นผมเปียกชื้นแนบใบหน้า

“เดินต่อไป อย่าเพิ่งท้อ” เจียงหลีตะโกนเสียงดังพร้อมกับเดินขึ้นไปอีกขั้น

ลู่เสวียนและเจียงเฮ่าเห็นเง่าร่างของเจียงหลีที่เดินนำหน้าก็กัดฟันรีบตามขึ้นไปติดๆ

ในบรรดาสามคนเจียงหลีดีหน่อยแต่ก็เริ่มหมดแรงเช่นกัน ขาทั้งสองข้างของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนเริ่มอ่อนราวกับว่าไม่ใช่ตนเองเสียแล้ว

พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าปีนบันไดหินจะเหนื่อยขนาดนี้

หากยามนี้เจอศัตรูเข้า พวกเขาไม่มีแรงสู้กลับไปอย่างแน่นอน แต่ยังโชคดี พวกเขาเดินมาตั้งนานแล้วไม่ยักเห็นใครสักคน ข้างหลังก็ไร้ร่องรอยคนที่ตามมา

“สรุปว่าต้องนานอีกเท่าไรกว่าจะถึง” ลู่เสวียนกระหืดหอบเงยหน้ามองข้างหน้าอย่างหมดหวัง

“ใกล้แล้ว อดทนหน่อย” เจียงหลีเอ่ยตอบ

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพียงการปลอบใจเขาเท่านั้นแต่ลู่เสวียนก็ยังยอมถอนหายใจแล้วเดินขึ้นต่อไป

หนึ่งก้าว! สองก้าว! สามก้าว!

บนบันไดหินนี้ทำได้เพียงพึ่งพาตนเอง ใครก็มิสามารถช่วยเหลือได้

ในที่สุดเจียงหลีก็เหยียบเท้าไปที่บันไดหินขั้นสุดท้าย ตู้ม! ในขณะที่นางถึงบันไดขั้นสุดท้าย หมอกควันสีเทาก็ระเบิดออกมาจากภายในร่างกายของนางแล้วสูญสลายไร้ร่องรอย ทันใดนั้นความเหนื่อยล้าทั่วร่างพลันหายไปด้วยและร่างกายของนางก็เบาขึ้นมาก

นางรู้สึกประหลาดใจก็เลยรีบโคจรพลังวิญญาณจึงพบความน่าทึ่ง หลังจากขึ้นสู่ขั้นบันไดนี้พบว่าพลังวิญญาณของนางโคจรได้ราบรื่นมากกว่าเดิม

“รู้สึกถึงประโยชน์ของมันแล้วใช่ไหม” มู่ชิงเกอยืนข้างกายนางแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เจียงหลีกำมือทั้งสองข้างแน่นแล้วพยักหน้าหงึกหงัก

จนกระทั่งเจียงเฮ่ากับลู่เสวียนตามขึ้นมา สิ่งสกปรกสีเทาก็ถูกสกัดออกจากร่างกายของพวกเขาเหมือนกันและพวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจียงหลี

เมื่อได้รับประโยชน์ ทันใดนั้นเขาสองคนก็รู้สึกไม่น่าบ่นมาตลอดทางเลย

“พวกเราเข้าไปกันเถอะ” เจียงหลีพูดจบก็หันกลับไปมองประตูหินโค้งที่เชื่อมกับบันไดหิน

ข้างในประตูนั้น อาจจะเป็นสถานที่ทดสอบแห่งสุดท้ายก็ได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่าภารกิจทดสอบสุดท้ายจะเป็นสิ่งใด

ประตูหินปิดสนิท แต่ทว่ากลับถูกผลักเปิดได้อย่างง่ายดาย

เมื่อประตูหินถูกผลักเปิดออกแสงอันแรงกล้าก็ส่องมาจากประตูและปกคลุมคนทั้งสี่ไว้ ในบรรดาสี่คนมีเพียงมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในห้วงอากาศ

ในชั่วพริบตาแสงจ้าพลันหานไป การมองเห็นกลับคืนมา

พวกเจียงหลีทั้งสี่ปรากฏตัวขึ้นแล้วในจัตุรัสที่ใหญ่เกินกว่าจะล้อมรอบได้

อีกทั้งสนามจัตุรัสแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขา

“เจียงหลี!”

เสียงที่ไม่เป็นมิตรแสดงความไม่พอใจดังขึ้นและดึงดูดความสนใจของพวกเจียงหลีทั้งสี่คนทันที

จากนั้นเมื่อพวกเขามองเห็นคนที่พอจะมองเห็นได้กลับทำให้เจียงหลีหรี่ตาลง คนที่ถูกนางกำจัดออกอย่างเฉียนจวิ้นปรากฏตัวอยู่ที่นี่จริงด้วย

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ผู้คุ้มกันของเขาก็คอยปกป้องเขาเช่นกัน

“โจวยวน?”

เจียงหลีได้ยินน้ำเสียงตกใจของลู่เสวียนดังขึ้นมาข้างหู

นางมองข้ามไปในที่ไม่ห่างจากเฉียนจวิ้นก็เห็นโจวยวนกำลังใช้แววตาเกลียดแค้นจ้องมองมาที่พวกเขาไม่วางตา

“คนที่ตกรอบไปแล้ว เหตุใดจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” เจียงหลีเอ่ยถามเสียงต่ำด้วยความแปลกใจในน้ำเสีย

“อา! ทำไมถึงเป็นเจ้า”

“หึๆ คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้าเจ้าฆ่าข้า คราวนี้ถึงตาข้าเอาคืนบ้างแล้ว”

“เหตุใดผู้ที่ตกรอบถึงยังมีชีวิตอยู่”

“เสียแรงที่ข้านับถือเจ้าเหมือนพี่น้อง แต่เจ้ากลับลงมือกับข้าหนักขนาดนี้”

“…”

ในจัตุรัสมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันบางคนประหลาดใจ บางคนโกรธและบรรยากาศระหว่างพวกเขาก็ตึงเครียดมาก

ผู้ที่ถูกกำจัดออกเมื่อไม่กี่วันก่อนต่างพากันมาฟื้นคืนชีพที่นี่ การกำหนดบททดสอบนี้คืออะไร

“การทดสอบรายการสุดท้ายไม่มีการให้คะแนน วิธีเดียวที่จะชนะคะแนนคือกำจัดฝ่ายตรงข้ามและเอาคะแนนมา ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีวิธีการและสิบคนสุดท้ายที่มีคะแนนสูงสุดการทดสอบจะสิ้นสุดลง สำหรับผู้เข้าสอบที่ตกรอบก่อน นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเจ้าที่จะพลิกตัวกลับมา ดังนั้นจงรับมือให้ดี”

เหนือจัตุรัสในความว่างเปล่าของท้องฟ้ามีเสียงโบราณคร่ำครึมาอ่านกฎเกณฑ์การประเมินขั้นสุดท้าย

แน่นอนว่าเมื่อกฎนี้ออกมาหลายคนก็ก่นด่าด่าไปถึงมารดา!

เจียงหลีก็อดสบถออกมาไม่ได้ “คุณสมบัติของกฎนี่เป็นหลุมหรือไง” เมื่อเห็นชัยชนะอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นมันก็มาถึง

เป็นเรื่องกะทันหันที่ตั้งรับไม่ทันจริงๆ ทำเอาใครหลายคนหวาดเสียวไม่น้อย

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 238 เจ้ามีคุณสมบัติเป็นหลุมหรือไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“บันไดสวรรค์หรือ จุดสิ้นสุดการทดสอบอย่างนั้นหรือ”

“หรือว่านี่จะเป็นการทดสอบรายการสุดท้าย”

“คำนวณเวลาก็จวนแล้ว”

“เช่นนั้นยังรออะไรอยู่ รีบขึ้นไปเร็ว!”

“จุดสิ้นสุดการทดสอบหรือ อย่าบอกนะว่าภารกิจสุดท้ายคือยอดบันไดหินนี้”

น่าจะเป็นเช่นนั้น”

“รีบไป!”

“บนบันไดหินนี่เป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบจริงหรือ คงเป็นภารกิจที่มีคะแนนมากแน่นอน รีบเดินสิ อย่าให้ใครแย่งไปได้ก่อน”

“แต่ว่าบันไดหินอยู่ตรงนี้ พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีใครขึ้นไปก่อนหรือมีใครตามมาทีหลัง”

“หึ หากข้างหน้ามีคนก็ฆ่าเอาคะแนน หากมีคนตามมาข้างหลังก็ถือว่าพวกเขาโชคร้ายก็แล้วกัน”

เริ่มมีบันไดหินมากมายปรากฏขึ้นในสนามทดสอบเพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าร่วมทดสอบเดินขึ้นไป

ในเวลาเดียวกันพวกของเจียงหลีทั้งสี่คนเดินขึ้นมาบนบันได้หินใกล้จุดสิ้นสุดมาเรื่อยๆ

“พวกเจ้าสังเกตหรือเปล่าว่ายิ่งเดินขึ้นไปยิ่งรู้สึกว่าเท้ายิ่งหนักขึ้น” เจียงเฮ่านำความสงสัยในใจพูดออกมา

“ข้าก็รู้สึกเช่นนี้ เจ้าไม่พูด ข้ายังคิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะข้าหมดแรงเอง” ลู่เสวียนตอบอย่างทันควัน

หลังจากทั้งสองพูดจบก็หันไปมองพวกเจียงหลีสองคน

เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วฝีเท้าของเจียงหลีเบากว่าเล็กน้อย แต่ก็สามารถมองออกว่าทุกย่างก้าวที่นางลดเท้าลงและยกขึ้นความเบาต่างลดลงจากก่อนหน้านี้

แล้วมู่ชิงเกอล่ะ

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าฝีเท้าของมู่ชิงเกอเบาและรวดเร็วมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะจงใจเดินช้าๆ เป็นเพื่อนเจียงหลีก็เกรงว่าอาจเดินนำไปข้างหน้าตั้งนานแล้ว

ทำไมเขาแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้

เขาแข็งแกร่งมาก

ทั้งสองแอบตกใจ สายตาที่มองมู่ชิงเกอพลันแปรเปลี่ยน โดยเฉพาะเจียงเฮ่า เขาไม่รู้มาก่อนว่าน้องสาวคู่ควรรู้จักกับคนที่เก่งกาจขนาดนั้น

“บันไดหินนี้ดูเหมือนจะธรรมดา แต่กลับมีผลต่อประสิทธิภาพของร่างกาย ยิ่งปีนยิ่งสูงก็ยิ่งสามารถเอาชนะพลังร่างกายของเราและขับไล่สิ่งสกปรกออกไปได้” จู่ๆ มู่ชิงเกอก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นมองไปทางสองคนนั้น

เจียงหลีก็ดูอย่างจริงจัง “ถึงจะช้าไปสักหน่อยก็อย่าหยุด พอหยุดชะงักประสิทธิภาพของการฝึกร่างกายก็จะสูญหายไป”

ทั้งสองตกใจแล้วพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักแน่น

เมื่อครู่ตอนรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าพวกเขาเคยคิดอยากจะพักจริงๆ เพียงแต่เมื่อมองไปทางผู้หญิงอย่างเจียงหลีที่ไม่มีหยุดพัก พวกเขาจึงรู้สึกเละอายใจ

เฉียดฉิวๆ!

หลังจากเตือนสติสองคนนั้นแล้ว ทั้งสี่ก็เดินขึ้นบันไดหินต่อ

ตลอดทางยิ่งปีนขึ้นก็ยิ่งสูง ป่าเขาลำเนาไพรข้างล่างค่อยๆ ผลุบหายไปกลายเป็นเมฆหมอกโอบล้อมรอบกาย เมื่อช้อนสายตาขึ้นมองก็ยังคงไม่เห็นปลายทางของบันไดหิน

หรือบางทีปลายบันไดหินอาจซ่อนอยู่ในส่วนลึกของเมฆหมอก

เดินหน้าต่อไปโดยไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไหร่แล้ว เพราะมันนานเสียจนลืมเวลาไปแล้ว

เสียงหอบหายใจของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนกระหืดหอบหนัก เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลพลั่กจากแก้มของพวกเขาหยดลงบนขึ้นบันไดหิน

แม้กระทั่งเจียงหลีก็ยังมีสีหน้าตึงเครียด เส้นผมเปียกชื้นแนบใบหน้า

“เดินต่อไป อย่าเพิ่งท้อ” เจียงหลีตะโกนเสียงดังพร้อมกับเดินขึ้นไปอีกขั้น

ลู่เสวียนและเจียงเฮ่าเห็นเง่าร่างของเจียงหลีที่เดินนำหน้าก็กัดฟันรีบตามขึ้นไปติดๆ

ในบรรดาสามคนเจียงหลีดีหน่อยแต่ก็เริ่มหมดแรงเช่นกัน ขาทั้งสองข้างของเจียงเฮ่าและลู่เสวียนเริ่มอ่อนราวกับว่าไม่ใช่ตนเองเสียแล้ว

พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าปีนบันไดหินจะเหนื่อยขนาดนี้

หากยามนี้เจอศัตรูเข้า พวกเขาไม่มีแรงสู้กลับไปอย่างแน่นอน แต่ยังโชคดี พวกเขาเดินมาตั้งนานแล้วไม่ยักเห็นใครสักคน ข้างหลังก็ไร้ร่องรอยคนที่ตามมา

“สรุปว่าต้องนานอีกเท่าไรกว่าจะถึง” ลู่เสวียนกระหืดหอบเงยหน้ามองข้างหน้าอย่างหมดหวัง

“ใกล้แล้ว อดทนหน่อย” เจียงหลีเอ่ยตอบ

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพียงการปลอบใจเขาเท่านั้นแต่ลู่เสวียนก็ยังยอมถอนหายใจแล้วเดินขึ้นต่อไป

หนึ่งก้าว! สองก้าว! สามก้าว!

บนบันไดหินนี้ทำได้เพียงพึ่งพาตนเอง ใครก็มิสามารถช่วยเหลือได้

ในที่สุดเจียงหลีก็เหยียบเท้าไปที่บันไดหินขั้นสุดท้าย ตู้ม! ในขณะที่นางถึงบันไดขั้นสุดท้าย หมอกควันสีเทาก็ระเบิดออกมาจากภายในร่างกายของนางแล้วสูญสลายไร้ร่องรอย ทันใดนั้นความเหนื่อยล้าทั่วร่างพลันหายไปด้วยและร่างกายของนางก็เบาขึ้นมาก

นางรู้สึกประหลาดใจก็เลยรีบโคจรพลังวิญญาณจึงพบความน่าทึ่ง หลังจากขึ้นสู่ขั้นบันไดนี้พบว่าพลังวิญญาณของนางโคจรได้ราบรื่นมากกว่าเดิม

“รู้สึกถึงประโยชน์ของมันแล้วใช่ไหม” มู่ชิงเกอยืนข้างกายนางแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เจียงหลีกำมือทั้งสองข้างแน่นแล้วพยักหน้าหงึกหงัก

จนกระทั่งเจียงเฮ่ากับลู่เสวียนตามขึ้นมา สิ่งสกปรกสีเทาก็ถูกสกัดออกจากร่างกายของพวกเขาเหมือนกันและพวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับเจียงหลี

เมื่อได้รับประโยชน์ ทันใดนั้นเขาสองคนก็รู้สึกไม่น่าบ่นมาตลอดทางเลย

“พวกเราเข้าไปกันเถอะ” เจียงหลีพูดจบก็หันกลับไปมองประตูหินโค้งที่เชื่อมกับบันไดหิน

ข้างในประตูนั้น อาจจะเป็นสถานที่ทดสอบแห่งสุดท้ายก็ได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่าภารกิจทดสอบสุดท้ายจะเป็นสิ่งใด

ประตูหินปิดสนิท แต่ทว่ากลับถูกผลักเปิดได้อย่างง่ายดาย

เมื่อประตูหินถูกผลักเปิดออกแสงอันแรงกล้าก็ส่องมาจากประตูและปกคลุมคนทั้งสี่ไว้ ในบรรดาสี่คนมีเพียงมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในห้วงอากาศ

ในชั่วพริบตาแสงจ้าพลันหานไป การมองเห็นกลับคืนมา

พวกเจียงหลีทั้งสี่ปรากฏตัวขึ้นแล้วในจัตุรัสที่ใหญ่เกินกว่าจะล้อมรอบได้

อีกทั้งสนามจัตุรัสแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขา

“เจียงหลี!”

เสียงที่ไม่เป็นมิตรแสดงความไม่พอใจดังขึ้นและดึงดูดความสนใจของพวกเจียงหลีทั้งสี่คนทันที

จากนั้นเมื่อพวกเขามองเห็นคนที่พอจะมองเห็นได้กลับทำให้เจียงหลีหรี่ตาลง คนที่ถูกนางกำจัดออกอย่างเฉียนจวิ้นปรากฏตัวอยู่ที่นี่จริงด้วย

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ผู้คุ้มกันของเขาก็คอยปกป้องเขาเช่นกัน

“โจวยวน?”

เจียงหลีได้ยินน้ำเสียงตกใจของลู่เสวียนดังขึ้นมาข้างหู

นางมองข้ามไปในที่ไม่ห่างจากเฉียนจวิ้นก็เห็นโจวยวนกำลังใช้แววตาเกลียดแค้นจ้องมองมาที่พวกเขาไม่วางตา

“คนที่ตกรอบไปแล้ว เหตุใดจึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” เจียงหลีเอ่ยถามเสียงต่ำด้วยความแปลกใจในน้ำเสีย

“อา! ทำไมถึงเป็นเจ้า”

“หึๆ คิดไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ก่อนหน้าเจ้าฆ่าข้า คราวนี้ถึงตาข้าเอาคืนบ้างแล้ว”

“เหตุใดผู้ที่ตกรอบถึงยังมีชีวิตอยู่”

“เสียแรงที่ข้านับถือเจ้าเหมือนพี่น้อง แต่เจ้ากลับลงมือกับข้าหนักขนาดนี้”

“…”

ในจัตุรัสมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันบางคนประหลาดใจ บางคนโกรธและบรรยากาศระหว่างพวกเขาก็ตึงเครียดมาก

ผู้ที่ถูกกำจัดออกเมื่อไม่กี่วันก่อนต่างพากันมาฟื้นคืนชีพที่นี่ การกำหนดบททดสอบนี้คืออะไร

“การทดสอบรายการสุดท้ายไม่มีการให้คะแนน วิธีเดียวที่จะชนะคะแนนคือกำจัดฝ่ายตรงข้ามและเอาคะแนนมา ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีวิธีการและสิบคนสุดท้ายที่มีคะแนนสูงสุดการทดสอบจะสิ้นสุดลง สำหรับผู้เข้าสอบที่ตกรอบก่อน นี่เป็นโอกาสเดียวของพวกเจ้าที่จะพลิกตัวกลับมา ดังนั้นจงรับมือให้ดี”

เหนือจัตุรัสในความว่างเปล่าของท้องฟ้ามีเสียงโบราณคร่ำครึมาอ่านกฎเกณฑ์การประเมินขั้นสุดท้าย

แน่นอนว่าเมื่อกฎนี้ออกมาหลายคนก็ก่นด่าด่าไปถึงมารดา!

เจียงหลีก็อดสบถออกมาไม่ได้ “คุณสมบัติของกฎนี่เป็นหลุมหรือไง” เมื่อเห็นชัยชนะอยู่ตรงหน้า ทันใดนั้นมันก็มาถึง

เป็นเรื่องกะทันหันที่ตั้งรับไม่ทันจริงๆ ทำเอาใครหลายคนหวาดเสียวไม่น้อย

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+