ราชินีพลิกสวรรค์ 426 ช่างเป็นชื่อที่ชัดเจนและแปลกเสียจริง

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 426 ช่างเป็นชื่อที่ชัดเจนและแปลกเสียจริง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เกรง​ว่า​ตัวเอง​จะตาฝาด​ไป​ เขา​ยัง​ขยี้ตา​ของ​ตัวเอง​อย่าง​รุนแรง​หนึ่ง​รอบ​และ​ยืนยัน​อีกครั้ง​

“อ๊ะ​!” หลังจากที่​ชัดเจน​แล้ว​เขา​ก็​ถอยหลัง​ไป​สอง​ก้าว​อย่าง​รวดเร็ว​ สีหน้า​เกรงกลัว​และ​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “นาง​คง​ไม่ได้​ตาม​ข้า​มาเพื่อให้​ข้า​ฆ่านาง​ทิ้ง​หรอก​นะ​!”

หรือว่า​จะหนี​ไป​ดี​

เขา​หมุนตัว​และ​กำลังจะ​ก้าว​หนี​จากไป​

แต่​พอ​นึกถึง​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​สำนักพรต​เสวียน​หมิง​ที่​ได้ยิน​เมื่อวาน​แล้ว​นั้น​ เขา​ก็​หยุด​ทันที​ “อย่า​บอก​นะ​ว่า​เหตุการณ์​ชุลมุน​ของ​สำนักพรต​เสวียน​หมิง​จะมีนาง​เข้าไป​เกี่ยวข้อง​ด้วย​”

คิด​แล้ว​คิด​อีก​ เขา​ก็​ถอย​กลับมา​นั่งลง​ข้างๆ​ เจียง​หลี​ เขา​ยก​มือขึ้น​สอง​นิ้ว​ประกบ​กัน​ปล่อยแสง​ระยิบระยับ​ออกมา​บริเวณ​ปลายนิ้ว​ของ​เขา​และ​วาง​ไป​ที่​ระหว่าง​คิ้ว​ของ​เจียง​หลี​

แสงระยิบระยับ​นั้น​วน​อยู่​บน​ร่างกาย​ของ​เจียง​หลี​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​หาย​ไป​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​

เขา​เก็บ​มือ​ตัวเอง​แล้ว​พึมพำ​ “ยันต์​ธารา​ทมิฬ​หาย​ไป​แล้ว​รึ​ นาง​ทำได้​อย่างไร​กัน​” เขา​ไม่ได้​โง่เขลา​ ตั้งแต่​ที่​เจียง​หลี​ถามถึงวิธี​กำจัด​ยันต์​ธารา​ทมิฬ​นี้​ออก​ จากนั้น​ก็​ให้​ฆ่านาง​ทิ้ง​ซะ เขา​ก็​เดา​ได้​ว่า​เจียง​หลี​ต้อง​โดน​ฤทธิ์​ของ​ยันต์​ธารา​ทมิฬ​มาแน่ๆ​

“หรือว่า​นาง​จะสามารถ​ตาย​แล้ว​ฟื้น​ได้​จริงๆ​” เขา​ยกมือ​เท้าคาง​แล้ว​บ่นพึมพำ​

ทันใดนั้น​เอง​ คิ้ว​ของ​เจียง​หลี​ก็​ขยับ​เบา​ๆ

ปฏิกิริยา​เช่นนี้​ทำให้​เขา​หยุด​คิด​แล้ว​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ย่ำแย่​ว่า​ “หญิง​งามเช่นนี้​ ปล่อยทิ้ง​ไว้​ไม่สนใจ​ ดูเหมือน​จะเกิน​มนุษย์​ไป​หน่อย​นะ​!”

เมื่อ​ครุ่น​แล้ว​ สุดท้าย​เขา​ก็​ตัดสินใจ​อุ้ม​เจียง​หลี​ที่​สลบ​อยู่​บน​พื้น​ขึ้น​มา

ทันใดนั้น​เอง​ เดรัจฉาน​น้อย​ที่อยู่​ใน​อ้อมกอด​ของ​นาง​ ทำให้​เขา​ตกใจ​และ​หัวเราะ​ออกมา​ “เจ้ากับ​สัตว์​เลี้ยงตัว​นี้​ตัว​ติดกัน​จริงๆ​ เลย​เชียว​”

เจียง​หลี​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​หลับใหล​ไป​นาน​แค่​ไหน​ ราวกับว่า​ไม่เคย​หลับ​นาน​เช่นนี้​มาก่อน​

ในขณะที่​นาง​พยายาม​ลืมตา​ตื่นขึ้น​มานั้น​ ก็​เห็น​ว่า​ตัวเอง​อยู่​ใน​เรือน​ที่​ไม่คุ้นเคย​เรือน​หนึ่ง​

หลิว​หลี​! เจียง​หลี​เพิ่ง​ฟื้น​คืนสติ​ขึ้น​มาก็​รีบ​สัมผัส​ที่​บริเวณ​อก​ของ​ตัวเอง​

แน่นอน​ว่า​ใน​อ้อมกอด​ที่​โล่งโจ้ง​ของ​นาง​ ทำให้​ความง่วง​ของ​นาง​หาย​เป็นปลิดทิ้ง​ นาง​รีบ​ลุก​จาก​เตียงนอน​และ​ควานหา​ไป​ทั่ว​ทุก​มุม

ในที่สุด​ก็​เจอ​เจ้าเปี๊ยก​ที่นอน​ห่อตัว​อยู่​มุมเตียง​

ทันทีที่​เห็น​มัน​ เจียง​หลี​ก็​โล่งใจ​เลย​ทันที​ เสียง​หายใจ​ของ​เจ้าเปี๊ยก​ปกติ​และ​สม่ำเสมอ​ ทำให้​นาง​สบายใจ​มากยิ่งขึ้น​ และ​มีความคิด​ตรวจสอบ​สถานที่​ที่​ตนเอง​อาศัย​อยู่​ ณ ตอนนี้​ ว่า​ที่นี่​เป็น​ที่ใด​กัน​

นาง​จำได้​ว่า​ ตนเอง​อยู่​ที่​ป่า​ร้าง​ทุรกันดาร​แห่ง​หนึ่ง​ เหตุใด​นาง​ถึงได้​ตื่น​มาอยู่​ที่​แห่ง​นี้​ได้​

มองดู​สภาพ​ของ​ที่​แห่ง​นี้​แล้ว​…

เป็น​ห้องพัก​ใน​โรง​เตี้ย​มอ​ย่าง​นั้น​หรือ​ เจียง​หลี​เลิกคิ้ว​ขึ้น​ “หรือว่า​ตัว​ข้า​เอง​จะถูก​คน​ช่วยชีวิต​เอาไว้​รึ​” นาง​พึมพำ​ใน​ใจ

ทันใดนั้น​เอง​ ประตู​ห้อง​ก็​ถูก​เปิด​ออก​ เงาร่าง​สูงผอม​คน​หนึ่ง​ก็​เข้ามา​พร้อมกับ​อาหาร​ที่​ยัง​ร้อน​อยู่​ใน​มือ​

เจียง​หลี​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​เขา​ ด้วย​สีหน้าที่​ตกใจ​ แต่กลับ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​

ชาย​คน​นี้​…ไม่คุ้นหน้า​เลย​จริงๆ​

ใน​เมื่อ​เป็น​คนแปลกหน้า​ แล้ว​ทำไม​ถึงช่วย​ข้า​ล่ะ​ ต้องการ​เงินทอง​รึ​ หรือว่า​ต้องการ​ทำ​อะไร​ข้า​

เจียง​หลี​เลิกคิ้ว​ขึ้น​สูงอีก​

“เจ้าฟื้น​แล้ว​หรือ​” ชายหนุ่ม​ที่​เข้ามา​ เห็น​เจียง​หลี​ฟื้น​แล้วก็​ยิ้ม​ด้วย​ความจริงใจ​

รอยยิ้ม​เช่นนี้​ ช่างคุ้น​เหลือเกิน​ เจียง​หลี​หรี่ตา​ลง​ นาง​ถามด้วย​น้ำเสียง​แน่นิ่ง​ “เจ้าเป็น​คน​ช่วย​ข้า​ไว้​หรือ​ แล้ว​นี่​คือ​ที่ไหน​”

ชายหนุ่ม​คน​นั้น​โบกมือ​และ​วาง​อาหาร​ลง​บน​โต๊ะ​ “ก็​ไม่เชิงหรอก​ ข้า​เห็น​ว่า​เจ้าสลบ​อยู่​ข้างทาง​ เลย​รวด​พา​เจ้ากลับมา​ที่​เมือง​ผิง​เล่อ​ด้วย​”

หลังจาก​พูด​จบ​ เขา​ก็​พูด​เสริม​อี​กว่า​ “เจ้าไว้ใจ​เถิด​ เมือง​ผิง​เล่อ​นี้​ไม่ได้​อยู่​ใน​เขต​ของ​สำนักพรต​เสวียน​หมิง​ เจ้ามิต้อง​กังวล​ไป​”

ใน​คำพูด​ของ​เขา​เปิดเผย​ข้อมูล​ออกมา​สอง​อย่าง​ ทำให้​เจียง​หลี​มอง​เขา​อย่าง​สงสัย​ “เจ้ารู้จัก​ข้า​”

คำถาม​ของ​นาง​ ทำให้​ชายหนุ่ม​ที่​ถูก​ถามนั้น​ตกใจ​และ​รีบ​หัน​กลับมา​ชี้ที่​ตัวเอง​ “เจ้า…เจ้าจำข้า​ไม่ได้​แล้ว​รึ​”

“…” ถูก​เขา​ถามกลับ​เช่นนี้​ เจียง​หลี​ก็​ตกใจ​ และ​กล่าว​ด้วย​สายตา​จริงจัง​ว่า​ “ข้า​ควร​รู้จัก​เจ้า”

“…” ชายหนุ่ม​ร้องไห้​ไม่มีน้ำตา​ รู้สึก​การ​เป็น​คนดี​ครั้งนี้​ดูเหมือน​จะสูญเปล่า​เสียแล้ว​

เขา​สับ​เท้า​อย่าง​เร่งรีบ​และ​กล่าว​ด้วย​ความหงุดหงิด​ว่า​ “ทำไม​เจ้าถึงพูดว่า​ไม่รู้จัก​ข้า​ล่ะ​ อย่าง​น้อย​เรา​ก็​เคย​พบ​กันที่​ถ้ำสวรรค์​นะ​ ทั้ง​เจ้าและ​ธิดา​สวรรค์​ชิงหว่าน​ก็​เป็น​ข้า​ที่​ช่วย​ชี้นำ​ พวก​เจ้าถึงได้​รู้​สถานการณ์​ของ​ถ้ำสวรรค์​ไงเล่า​”

“ช้าก่อน​!” เจียง​หลี​ยก​มือขึ้น​ หยุด​คำพูด​ของ​เขา​

นาง​มอง​ไป​ที่​ชายหนุ่ม​อย่าง​ไม่แน่ใจ​ “เจ้าคือ​…เจ้าคือ​จอม​ยุทธ์​หนุ่ม​นั่น​อย่างนั้น​รึ​”

ได้ยิน​นาง​พูด​ชื่อ​เรียก​ของ​ตัวเอง​ที่​นาง​ใช้เรียก​ตอน​อยู่​ถ้ำสวรรค์​นั้น​ ชายหนุ่ม​ก็​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​สดใส​ และ​เอา​หน้าที่​หล่อเหลา​ยื่น​เข้าไป​ใกล้​เจียง​หลี​ “เจ้าจำข้า​ได้​แล้ว​! ข้า​ก็​ว่า​ คน​อย่าง​ข้า​ที่​ทั้ง​สุขุม​และ​หล่อเหลา​เช่นนี้​ จะมีใคร​ที่​เคย​เจอ​ข้า​แล้ว​ไม่รู้จัก​ข้า​กัน​เล่า​”

คำพูด​หลงตัวเอง​นี้​ ทำให้​เจียง​หลี​ยก​มุมปาก​ขึ้น​ นาง​กระแอม​ไอ​และ​กล่าว​อย่าง​ไม่แน่ใจ​ว่า​ “เจ้าคือ​จอม​ยุทธ์​หนุ่ม​จริงๆ​ รึ​ ทำไม​เจ้าตอนนี้​กับ​ตอน​ที่อยู่​ถ้ำสวรรค์​มัน​ช่าง…” รูปร่าง​ของ​ชายหนุ่ม​ที่​ดู​มอมแมม​เหมือน​ขอทาน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​หัว​ของ​นาง​ เทียบ​กับ​ชายหนุ่ม​ที่​สะอาด​ดู​เรียบร้อย​ใน​ตอนนี้​เป็น​คน​เดียวกัน​รึ​

เพราะเหตุใด​นาง​ถึงไม่เชื่อ​ขนาด​นี้​กัน​ล่ะ​

“ตอน​อยู่​ถ้ำสวรรค์​ หาก​ข้า​ไม่แต่งตัว​ต่ำต้อย​หน่อย​ ทอง​นั่น​ของ​ข้า​อาจจะ​นำไปสู่​เหตุ​ร้ายแรง​ได้​นะ​” ชายหนุ่ม​อธิบาย​

“เป็น​เจ้าจริงๆ​ ด้วย​!” ในที่สุด​เจียง​หลี​ก็​แน่ใจ​

ชายหนุ่ม​หัวเราะ​คิกคัก​แล้ว​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​ชี้ที่​ปลายจมูก​ของ​ตัวเอง​ “ก็​เป็น​ข้า​น่ะ​สิ ธิดา​สวรรค์​เจียง​หลี​ เรา​ช่างมีวาสนา​ต่อกัน​จริงๆ​!”

“ใคร​อยู่​ด้านหลัง​กัน​!” ทันใดนั้น​ เจียง​หลี​มอง​ไป​ยัง​ด้านหลัง​ของ​ชายหนุ่ม​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​

ชายหนุ่ม​รีบ​หันหลัง​กลับ​ แต่กลับ​รู้สึก​เหมือน​ถูก​เตะ​อย่าง​รุนแรง​ที่​ก้น​ครั้งหนึ่ง​ โอ๊ย​! เขา​ล้ม​ไป​ด้านหน้า​ เพียงแค่​อีก​นิด​ก็​จะโดน​โต๊ะ​แล้ว​

หลังจากที่​ทรงตัว​ได้​แล้ว​ เขา​ก็​ลูบ​ก้น​และ​หันกลับ​ไป​ท่าทาง​ดู​ขี้เกียจ​ เขา​ใช้มือ​ข้าง​หนึ่ง​พาด​ไว้​ตรง​ขา​ของ​คน​ที่​เพิ่ง​เตะ​ก้น​ของ​เขา​เมื่อ​ครู่​และ​กล่าว​อย่าง​น่าสงสาร​ว่า​ “ข้า​ช่วย​เจ้าไว้​ แต่​เจ้ากลับ​เตะ​ข้า​ บุญคุณ​ทดแทน​ด้วย​ความแค้น​หรือไง​กัน​!”

“เจ้าเป็น​คน​บอก​เอง​ว่า​ ไม่เชิงว่า​ช่วย​” เจียง​หลี​ขมวดคิ้ว​แล้ว​หัวเราะ​ “เตะ​เจ้าเมื่อ​ครู่​ เพราะ​เจ้าหนี​ไป​ตอน​อยู่​ถ้ำสวรรค์​”

ชายหนุ่ม​หัวเราะ​อย่าง​เก้อเขิน​ อธิบาย​อย่าง​ลังเล​ “สถานการณ์​เช่นนั้น​ ข้า​นึก​ว่า​สมอง​เจ้ามีปัญหา​ ไม่หนี​ก็​แปลก​ แต่ว่า​ตอนนี้​ข้า​ว่า​เจ้าก็​มีความสามารถ​เหมือนกัน​นะ​ สำนักพรต​เสวียน​หมิง​ถูก​เจ้าป่วน​จน​วุ่นวาย​ไม่หยุด​ แม้กระทั่ง​ยันต์​ธารา​ทมิฬ​ก็​ถูก​เจ้ากำจัด​ออก​แล้ว​” หลังจากที่​ชายหนุ่ม​กล่าว​จบ​ก็​ยก​นิ้วโป้ง​ให้​กับ​เจียง​หลี​

สำนักพรต​เสวียน​หมิง​ ยันต์​ธารา​ทมิฬ​!

แววตา​เจียง​หลี​เบิก​กว้าง​แล้ว​เอ่ย​ถาม “เกิด​อะไร​ขึ้นกับ​สำนักพรต​เสวียน​หมิง​หรือ​”

เขา​ผงะ​ด้วย​ความประหลาดใจ​ “เจ้าไม่รู้​รึ​”

เจียง​หลี​ส่าย​หัว​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​

เขา​ก็​ไม่คิด​อะไร​ บอก​สิ่งที่​ตนเอง​รู้​ออกมา​ “เมื่อ​ครึ่ง​เดือนก่อน​มีข่าว​ว่า​ใน​สำนักพรต​เสวียน​หมิง​มีคน​ทรยศ​อยาก​จะลอบสังหาร​ท่าน​ประมุข​สำนัก​ แต่​ไม่สำเร็จ​ก่อน​จะหนี​ออก​ไป​ก็ได้​ฆ่าคน​ไป​ไม่น้อย​ แต่​ตอนนี้​คนร้าย​ถูก​จับได้​แล้ว​ล่ะ​”

เขา​หันไป​มอง​เจียง​หลี​ด้วย​สายตา​สนุกสนาน​

เจียง​หลี​ที่​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ “จริง​สิ ข้า​ยัง​ไม่รู้​ชื่อ​เจ้าเลย​ เจ้าชื่อ​อะไร​กัน​ พบกัน​ครั้ง​ที่สอง​เจ้าคง​ไม่ให้​ข้า​เรียก​เจ้าว่า​จอม​ยุทธ์​หนุ่ม​ต่อไป​หรอก​นะ​”

เอ่อ​…

ชายหนุ่ม​ตัว​แข็งทื่อ​ราวกับว่า​คำถาม​นั้น​ได้​แทง​เข้าไป​ใน​หัวใจ​ของ​เขา​ สายตา​เขา​เต็มไปด้วย​ความเจ็บปวด​แล้ว​กล่าว​กับ​เจียง​หลี​ว่า​ “เจ้าไม่อยาก​เรียก​ข้า​ว่า​จอม​ยุทธ์​หนุ่ม​หรือ​”

“หยุด​เลย​นะ​ เจ้าไม่รังเกียจ​ที่​มัน​ดู​เสแสร้ง​ แต่​ข้า​รังเกียจ​ เป็น​ชาย​ผู้​หนึ่ง​ แค่​ชื่อ​ของ​ตัวเอง​ก็​ยัง​อาย​อีก​รึ​” เจียง​หลี​หัวเราะเยาะ​

สีหน้า​ชายหนุ่ม​มืดครึ้ม​ พูด​ชื่อ​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​อ้อมแอ้ม​ “กงเสวี่ยฮ​วา​”

เจียง​หลี​ตกตะลึง​ไป​ชั่วขณะ​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด