ราชินีพลิกสวรรค์ 264 เจ้าไม่มีทางได้ใจนางหรอก

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 264 เจ้าไม่มีทางได้ใจนางหรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รู้สึกเช่นไร

หรงจิ่งแอบเลิกคิ้วกับประโยคนี้ที่ดูเหมือนยั่วยุเล็กน้อย ลู่เจี้ยต้องการทำอะไรกันแน่ เขายิ้มเล็กน้อยและพูดเสียงเรียบ “นายน้อยเป็นผู้เก่งกาจมากจริงๆ และเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หรงจิ่งมิอาจเอาชนะท่านได้”

ความถ่อมตนของเขา กลับมิได้ทำให้ลู่เจี้ยภาคภูมิใจ

ลู่เจี้ยมองไปที่เขาด้วยแววตาลุ่มลึกเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้

ภายใต้การจ้องมองของเขา จิตใจที่เงียบสงบของหรงจิ่งกลับร้อนรน

“ข้าได้ยินมาว่าห้องของคุณชายจิ่งมีรูปวาดขององค์หญิงเสวียนเทียนจริงหรือไม่”

การสอบถามกะทันหันเช่นนี้ ทำให้รอยยิ้มของหรงจิ่งแข็งทื่อและถึงกับ ‘สะดุ้ง’ ในใจ และในขณะนั้นเองเขาดูเหมือนรู้สึกอับอายหลังจากทำความผิดแล้วถูกจับได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นหรงจิ่งก็กลับมาสงบนิ่งเช่นเดิม “นายน้อยลู่รู้ทุกการจัดวางในห้องของข้าดีจริงๆ”

ประโยคนี้เป็นการตอบคำถามของลู่เจี้ยอย่างอ้อมๆ โดยไม่ต้องสงสัย

ภายในห้องของเขาแขวนรูปวาดที่วาดเจียงหลีด้วยตัวเองไว้จริงๆ

ทำไมถึงวาดรูปนั้นได้ หรงจิ่งก็ไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน ราวกับว่าหลังจากที่ได้พูดคุยกับลู่เจี้ยครั้งที่แล้ว อีกฝ่ายได้เอ่ยถึงเจียงหลี ทำให้เขานึกถึงเรื่องรางต่างๆ ของหญิงสาวผู้นี้ หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขารู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาฝันถึงใบหน้าอันเล็กๆ และความยืนหยัดไม่ยอมจำนนนั้นในตอนกลางดึก ซึ่งความทรงจำเหล่านี้ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

ในที่สุดเขาก็หยิบพู่กันและวาดรูปนางอย่างเงียบๆ

“องค์หญิงเสวียนเทียนงดงาม ทำให้คุณชายจิ่งผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรปฏิบัติต่อนางพิเศษเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องปกติ” ลู่เจี้ยด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเขาทำให้ความสับสนผุดขึ้นในดวงตาของหรงจิ่ง

ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงระหว่างเจียงหลีและลู่เจี้ยนั้น เขาพูดได้เลยว่าชัดเจนที่สุด และตกใจกับความรักอันลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสองที่มองเห็นกับตาตัวเอง

จนบางครั้งเขาก็สงสัยว่าเป็นเพราะเขาอิจฉาลู่เจี้ยที่มีคนคอยปกป้องอย่างสุดหัวใจอยู่เคียงข้าง จึงทำให้เขาปรากฏความรู้สึกบางอย่างต่อเจียงหลีอย่างสาธยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

นี่หรือที่เรียกกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างอากับหลาน…

เขาไม่คิดว่าลู่เจี้ยจะเป็นคนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านั้น

แต่ทว่า ลู่เจี้ยพูดคำเหล่านี้ออกมาได้อย่างชัดเจนเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร

หรงจิ่งเป็นคนใจกว้าง แม้ความลับในใจจะถูกเปิดเผย เขาก็ไม่ปกปิดต่อไป “องค์หญิงเสวียนเทียนเป็นผู้หญิงที่แปลกและเป็นผู้หญิงที่ดี”

“ใช่ แต่น่าเสียดายนัก เจ้าไม่มีทางได้ใจนาง” ลู่เจี้ยโค้งมุมปากขึ้น ซึ่งรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความชั่วร้าย

หรงจิ่งขมวดคิ้วและครุ่นคิดความหมายของคำพูดลู่เจี้ย

ลู่เจี้ยพูดต่อ “ใจของนางอยู่กับข้า เจ้าก็รู้ ข้ามีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ถึงแม้ข้าจะจากไป ก็จะนำหัวใจของนางไปด้วย”

หรงจิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก

ทันใดนั้น เขาก็พูดด้วยเสียงดุดัน “ลู่เจี้ย เจ้าไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเช่นนั้น”

“ข้าใช่” ลู่เจี้ยยิ้มบางๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นทำให้หรงจิ่งมองไม่ออกว่าจริงหรือปลอม

หรงจิงลุกขึ้นดัง ฉึบ อย่างรวดเร็ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ทำตัวไม่สงบนิ่งต่อหน้าลู่เจี้ย เขาด่าทอลู่เจี้ย “เจ้ายอมให้นางอยู่คนเดียวและมีชีวิตอยู่ด้วยความคิดถึงอย่างนั้นหรือ ให้นางโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนตายทั้งเป็นอย่างนั้นหรือ เจ้าเห็นแก่ตัวถึงขั้นให้นางรักใครไม่ได้อีกเลย!”

เจียงหลีรักใครไม่สำคัญ ผู้หญิงดีเช่นนี้ หรงจิ่งรู้สึกเพียงว่านางควรได้พบเจอกับรักดีๆ

“เจ้าสงสารรึ” ลู่เจี้ยถามอย่างติดตลก

หรงจิ่งหรี่ตาและนั่งลงช้าๆ แล้วสบตาลู่เจี้ยและถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “เจ้าต้องการทำอะไร ตกลกเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่”

ลู่เจี้ยยิ้มและพูดว่า “จะรักคนอื่นได้อีกหรือไม่ เป็นเรื่องของหลีเอ๋อร์ ไม่เกี่ยวกับข้า เพียงแต่ข้าสามารถทำทุกอย่างเพื่อนาง คนอื่นทำได้หรือไม่ จะทำเหมือนกับข้าที่วางแผนและทำลายล้างทุกสิ่งเพื่อนางได้หรือไม่ หัวใจของหลีเอ๋อร์หยิ่งผยองยิ่งนัก คนทั่วไปจะสามารถสัมผัสกับหัวใจของนางได้อย่างไร ดังนั้น แม้ว่าข้าจะตายไป นางก็เป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น”

“…” หรงจิ่งนั่งเงียบ

คบหากับลู่เจี้ยมาได้ปีกว่า หลายสิ่งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่กระจ่าง ตอนนี้ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ลู่เจี้ยมิได้สถาปนาราชวงศ์จยาเซียนเพื่อตระกูลลู่ แต่เพื่อเจียงหลี!

เขาหมดพละกำลังทั้งหมดไปกับการวางแผน การจัดการและการปูทางให้กับนาง ความตั้งใจนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้

“เจ้าสงสารนางหรือ” ลู่เจี้ยเอ่ยขึ้นกะทันหัน

ขณะนี้ ได้ปรากฏแสงวูบวาบในดวงตาของหรงจิ่ง และหัวใจที่อยู่นอกโลกีย์ของเขาดูเหมือนจะกระตุกหนึ่งที

ท่าทางของเขาตอนนี้ได้สะท้อนเข้าไปในดวงตาส่วนลึกของลู่เจี้ย และภายใต้การจ้องมองเช่นนี้ หรงจิ่งที่อยากจะโต้แย้งก็มิอาจทำได้

ลู่เจี้ยลุกขึ้นยืนช้าๆ และมองตรงเข้าไปในดวงตาของหรงจิ่งแล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า “หากเจ้าสงสารนาง ก็ลองเข้าใกล้นางดู ดูสิว่าเจ้าจะสามารถคว้าหัวใจของนางที่อยู่กับข้าไปได้หรือไม่”

ดวงตาที่ชัดเจนของหรงจิ่งฉายแววตกใจ และมองไปที่ลู่เจี้ยด้วยความเหลือเชื่อ

นี่ลู่เจี้ยหมายความว่าอย่างไร

สนับสนุนให้เขาตามจีบเจียงหลีหรือ

“หรงจิ่ง” ลู่เจี้ยเรียกชื่อเขาและดึงสติเขากลับมา

เขามองไปที่รอยยิ้มของลู่เจี้ยที่ค่อยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าและฟังเขาพูดต่อ

“เจ้าแพ้ข้าหลายครั้งจนทำให้ข้าดูแคลนเจ้าแล้ว เจ้าสามารถเอาชนะข้าด้วยการชนะใจของหลีเอ๋อร์ได้หรือไม่”

รอยยิ้มของลู่เจี้ยเต็มไปด้วยความท้าทาย

ดูเหมือนว่าเขากำลังเขียนคำท้าทายถึงหรงจิ่ง

หรงจิ่งหายใจเข้าลึกๆ และพูดกับเขาอย่างจริงจัง “เจียงหลีไม่ใช่สิ่งของ และหัวใจของนางจะอยู่กับใครก็ไม่เกี่ยวข้องกับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้”

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ” ลู่เจี้ยยิ้มอย่างทะเล้น

หรงจิ่งขยิบตา เม้มริมฝีปากและไม่พูด จากนั้น ก็หันหลังเดินออกจากตำหนักของลู่เจี้ยไป

ลู่เจี้ยจ้องมองจนเขาจากไปและมิได้พูดรั้งเข้าไว้ เขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำไปแล้วและหรงจิ่งก็ตกหลุมพรางของเขาและไม่สามารถหลุดพ้นไปได้

เขาเคยพูดไปแล้วว่าเมื่อหรงจิ่งหวั่นไหวต่อเจียงหลี ก่อให้เกิดความประหลาดใจ และตั้งแต่วินาทีที่นางทำให้เขาสั่นไหว หรงจิ่งก็ถูกลิขิตให้กลายเป็นหมากตัวหนึ่งในมือของเขาแล้ว

“นายน้อย” หลังจากหรงจิ่งจากไป เงาก็เดินออกมาจากความมืดและมาที่ด้านข้างของลู่เจี๋ย “เหตุใดต้องทำถึงเช่นนั้น”

ลู่เจี้ยหุบยิ้มและเขาพูดช้าๆ ว่า “ข้าต้องการมอบของขวัญให้หลีเอ๋อร์ นี่คือก้าวสุดท้ายแล้ว หากมีหรงจิ่งมาเข้าร่วมด้วย จะราบรื่นและง่ายขึ้นมาก หากข้ามีเวลาเพียงพอ ก็ไม่อยากให้ของขวัญชิ้นนี้มีร่องรอยของหรงจิ่งปรากฎอยู่ด้วยหรอก จะเสียเปรียบเขาเกินไปแล้ว”

“นายน้อยจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณชายจิ่งจะทำตามแผนที่ท่านคิดไว้” เงาถามอย่างไม่แน่ใจ

ลู่เจี้ยพยักหน้า “หรงจิ่งเป็นคนที่มีความหยิ่งผยองในใจอยู่เต็มเปี่ยม เพียงแต่ว่าบุคลิกของเขานิ่งเงียบ และเข้าใจโลกอย่างถ่องแท้ ดังนั้น เขาจึงไม่แข่งขันกับผู้อื่นง่ายๆ และเพิกเฉยต่อชัยชนะและความพ่ายแพ้ แต่ทว่า เมื่อมีคนปลุกความหยิ่งผยองในตัวของเขาอย่างต่อเนื่อง และเอาชนะเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่สนใจอย่างไร แต่ก็ได้ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความอยากเอาชนะไว้ในใจเขาแล้ว บัดนี้ ข้าให้โอกาสนั้นกับเขา ผลของชัยชนะคือสิ่งที่เขาปรารถนา เขาจะไม่ทำตามที่ข้าต้องการได้อย่างไร”

“แล้วเขา…รู้หรือไม่ว่าท่านกำลังคิดร้ายกับเขาอยู่” เงาถามอย่างลังเล

ลู่เจี้ยยิ้มอย่างเฉยเมย “รู้แล้วจะทำไม ไม่รู้แล้วจะทำไม ล้วนมิอาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้”

เงาทั้งตกใจและนับถือในคราเดียวกัน นายน้อยของเขาสามารถเล่นงานทุกคนให้หัวหมุนได้ เว้นแต่…

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 264 เจ้าไม่มีทางได้ใจนางหรอก

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 264 เจ้าไม่มีทางได้ใจนางหรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รู้สึกเช่นไร

หรงจิ่งแอบเลิกคิ้วกับประโยคนี้ที่ดูเหมือนยั่วยุเล็กน้อย ลู่เจี้ยต้องการทำอะไรกันแน่ เขายิ้มเล็กน้อยและพูดเสียงเรียบ “นายน้อยเป็นผู้เก่งกาจมากจริงๆ และเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หรงจิ่งมิอาจเอาชนะท่านได้”

ความถ่อมตนของเขา กลับมิได้ทำให้ลู่เจี้ยภาคภูมิใจ

ลู่เจี้ยมองไปที่เขาด้วยแววตาลุ่มลึกเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้

ภายใต้การจ้องมองของเขา จิตใจที่เงียบสงบของหรงจิ่งกลับร้อนรน

“ข้าได้ยินมาว่าห้องของคุณชายจิ่งมีรูปวาดขององค์หญิงเสวียนเทียนจริงหรือไม่”

การสอบถามกะทันหันเช่นนี้ ทำให้รอยยิ้มของหรงจิ่งแข็งทื่อและถึงกับ ‘สะดุ้ง’ ในใจ และในขณะนั้นเองเขาดูเหมือนรู้สึกอับอายหลังจากทำความผิดแล้วถูกจับได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นหรงจิ่งก็กลับมาสงบนิ่งเช่นเดิม “นายน้อยลู่รู้ทุกการจัดวางในห้องของข้าดีจริงๆ”

ประโยคนี้เป็นการตอบคำถามของลู่เจี้ยอย่างอ้อมๆ โดยไม่ต้องสงสัย

ภายในห้องของเขาแขวนรูปวาดที่วาดเจียงหลีด้วยตัวเองไว้จริงๆ

ทำไมถึงวาดรูปนั้นได้ หรงจิ่งก็ไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน ราวกับว่าหลังจากที่ได้พูดคุยกับลู่เจี้ยครั้งที่แล้ว อีกฝ่ายได้เอ่ยถึงเจียงหลี ทำให้เขานึกถึงเรื่องรางต่างๆ ของหญิงสาวผู้นี้ หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขารู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาฝันถึงใบหน้าอันเล็กๆ และความยืนหยัดไม่ยอมจำนนนั้นในตอนกลางดึก ซึ่งความทรงจำเหล่านี้ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น

ในที่สุดเขาก็หยิบพู่กันและวาดรูปนางอย่างเงียบๆ

“องค์หญิงเสวียนเทียนงดงาม ทำให้คุณชายจิ่งผู้มีชื่อเสียงเกรียงไกรปฏิบัติต่อนางพิเศษเช่นนี้ ย่อมเป็นเรื่องปกติ” ลู่เจี้ยด้วยรอยยิ้ม

คำพูดของเขาทำให้ความสับสนผุดขึ้นในดวงตาของหรงจิ่ง

ความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงระหว่างเจียงหลีและลู่เจี้ยนั้น เขาพูดได้เลยว่าชัดเจนที่สุด และตกใจกับความรักอันลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสองที่มองเห็นกับตาตัวเอง

จนบางครั้งเขาก็สงสัยว่าเป็นเพราะเขาอิจฉาลู่เจี้ยที่มีคนคอยปกป้องอย่างสุดหัวใจอยู่เคียงข้าง จึงทำให้เขาปรากฏความรู้สึกบางอย่างต่อเจียงหลีอย่างสาธยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

นี่หรือที่เรียกกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างอากับหลาน…

เขาไม่คิดว่าลู่เจี้ยจะเป็นคนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านั้น

แต่ทว่า ลู่เจี้ยพูดคำเหล่านี้ออกมาได้อย่างชัดเจนเช่นนี้ มันหมายความว่าอย่างไร

หรงจิ่งเป็นคนใจกว้าง แม้ความลับในใจจะถูกเปิดเผย เขาก็ไม่ปกปิดต่อไป “องค์หญิงเสวียนเทียนเป็นผู้หญิงที่แปลกและเป็นผู้หญิงที่ดี”

“ใช่ แต่น่าเสียดายนัก เจ้าไม่มีทางได้ใจนาง” ลู่เจี้ยโค้งมุมปากขึ้น ซึ่งรอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความชั่วร้าย

หรงจิ่งขมวดคิ้วและครุ่นคิดความหมายของคำพูดลู่เจี้ย

ลู่เจี้ยพูดต่อ “ใจของนางอยู่กับข้า เจ้าก็รู้ ข้ามีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ถึงแม้ข้าจะจากไป ก็จะนำหัวใจของนางไปด้วย”

หรงจิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก

ทันใดนั้น เขาก็พูดด้วยเสียงดุดัน “ลู่เจี้ย เจ้าไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเช่นนั้น”

“ข้าใช่” ลู่เจี้ยยิ้มบางๆ ซึ่งรอยยิ้มนั้นทำให้หรงจิ่งมองไม่ออกว่าจริงหรือปลอม

หรงจิงลุกขึ้นดัง ฉึบ อย่างรวดเร็ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ทำตัวไม่สงบนิ่งต่อหน้าลู่เจี้ย เขาด่าทอลู่เจี้ย “เจ้ายอมให้นางอยู่คนเดียวและมีชีวิตอยู่ด้วยความคิดถึงอย่างนั้นหรือ ให้นางโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนตายทั้งเป็นอย่างนั้นหรือ เจ้าเห็นแก่ตัวถึงขั้นให้นางรักใครไม่ได้อีกเลย!”

เจียงหลีรักใครไม่สำคัญ ผู้หญิงดีเช่นนี้ หรงจิ่งรู้สึกเพียงว่านางควรได้พบเจอกับรักดีๆ

“เจ้าสงสารรึ” ลู่เจี้ยถามอย่างติดตลก

หรงจิ่งหรี่ตาและนั่งลงช้าๆ แล้วสบตาลู่เจี้ยและถามด้วยเสียงเคร่งขรึม “เจ้าต้องการทำอะไร ตกลกเจ้าต้องการทำอะไรกันแน่”

ลู่เจี้ยยิ้มและพูดว่า “จะรักคนอื่นได้อีกหรือไม่ เป็นเรื่องของหลีเอ๋อร์ ไม่เกี่ยวกับข้า เพียงแต่ข้าสามารถทำทุกอย่างเพื่อนาง คนอื่นทำได้หรือไม่ จะทำเหมือนกับข้าที่วางแผนและทำลายล้างทุกสิ่งเพื่อนางได้หรือไม่ หัวใจของหลีเอ๋อร์หยิ่งผยองยิ่งนัก คนทั่วไปจะสามารถสัมผัสกับหัวใจของนางได้อย่างไร ดังนั้น แม้ว่าข้าจะตายไป นางก็เป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น”

“…” หรงจิ่งนั่งเงียบ

คบหากับลู่เจี้ยมาได้ปีกว่า หลายสิ่งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่กระจ่าง ตอนนี้ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ลู่เจี้ยมิได้สถาปนาราชวงศ์จยาเซียนเพื่อตระกูลลู่ แต่เพื่อเจียงหลี!

เขาหมดพละกำลังทั้งหมดไปกับการวางแผน การจัดการและการปูทางให้กับนาง ความตั้งใจนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้

“เจ้าสงสารนางหรือ” ลู่เจี้ยเอ่ยขึ้นกะทันหัน

ขณะนี้ ได้ปรากฏแสงวูบวาบในดวงตาของหรงจิ่ง และหัวใจที่อยู่นอกโลกีย์ของเขาดูเหมือนจะกระตุกหนึ่งที

ท่าทางของเขาตอนนี้ได้สะท้อนเข้าไปในดวงตาส่วนลึกของลู่เจี้ย และภายใต้การจ้องมองเช่นนี้ หรงจิ่งที่อยากจะโต้แย้งก็มิอาจทำได้

ลู่เจี้ยลุกขึ้นยืนช้าๆ และมองตรงเข้าไปในดวงตาของหรงจิ่งแล้วพูดอย่างช้าๆ ว่า “หากเจ้าสงสารนาง ก็ลองเข้าใกล้นางดู ดูสิว่าเจ้าจะสามารถคว้าหัวใจของนางที่อยู่กับข้าไปได้หรือไม่”

ดวงตาที่ชัดเจนของหรงจิ่งฉายแววตกใจ และมองไปที่ลู่เจี้ยด้วยความเหลือเชื่อ

นี่ลู่เจี้ยหมายความว่าอย่างไร

สนับสนุนให้เขาตามจีบเจียงหลีหรือ

“หรงจิ่ง” ลู่เจี้ยเรียกชื่อเขาและดึงสติเขากลับมา

เขามองไปที่รอยยิ้มของลู่เจี้ยที่ค่อยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าและฟังเขาพูดต่อ

“เจ้าแพ้ข้าหลายครั้งจนทำให้ข้าดูแคลนเจ้าแล้ว เจ้าสามารถเอาชนะข้าด้วยการชนะใจของหลีเอ๋อร์ได้หรือไม่”

รอยยิ้มของลู่เจี้ยเต็มไปด้วยความท้าทาย

ดูเหมือนว่าเขากำลังเขียนคำท้าทายถึงหรงจิ่ง

หรงจิ่งหายใจเข้าลึกๆ และพูดกับเขาอย่างจริงจัง “เจียงหลีไม่ใช่สิ่งของ และหัวใจของนางจะอยู่กับใครก็ไม่เกี่ยวข้องกับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้”

“เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ” ลู่เจี้ยยิ้มอย่างทะเล้น

หรงจิ่งขยิบตา เม้มริมฝีปากและไม่พูด จากนั้น ก็หันหลังเดินออกจากตำหนักของลู่เจี้ยไป

ลู่เจี้ยจ้องมองจนเขาจากไปและมิได้พูดรั้งเข้าไว้ เขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำไปแล้วและหรงจิ่งก็ตกหลุมพรางของเขาและไม่สามารถหลุดพ้นไปได้

เขาเคยพูดไปแล้วว่าเมื่อหรงจิ่งหวั่นไหวต่อเจียงหลี ก่อให้เกิดความประหลาดใจ และตั้งแต่วินาทีที่นางทำให้เขาสั่นไหว หรงจิ่งก็ถูกลิขิตให้กลายเป็นหมากตัวหนึ่งในมือของเขาแล้ว

“นายน้อย” หลังจากหรงจิ่งจากไป เงาก็เดินออกมาจากความมืดและมาที่ด้านข้างของลู่เจี๋ย “เหตุใดต้องทำถึงเช่นนั้น”

ลู่เจี้ยหุบยิ้มและเขาพูดช้าๆ ว่า “ข้าต้องการมอบของขวัญให้หลีเอ๋อร์ นี่คือก้าวสุดท้ายแล้ว หากมีหรงจิ่งมาเข้าร่วมด้วย จะราบรื่นและง่ายขึ้นมาก หากข้ามีเวลาเพียงพอ ก็ไม่อยากให้ของขวัญชิ้นนี้มีร่องรอยของหรงจิ่งปรากฎอยู่ด้วยหรอก จะเสียเปรียบเขาเกินไปแล้ว”

“นายน้อยจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณชายจิ่งจะทำตามแผนที่ท่านคิดไว้” เงาถามอย่างไม่แน่ใจ

ลู่เจี้ยพยักหน้า “หรงจิ่งเป็นคนที่มีความหยิ่งผยองในใจอยู่เต็มเปี่ยม เพียงแต่ว่าบุคลิกของเขานิ่งเงียบ และเข้าใจโลกอย่างถ่องแท้ ดังนั้น เขาจึงไม่แข่งขันกับผู้อื่นง่ายๆ และเพิกเฉยต่อชัยชนะและความพ่ายแพ้ แต่ทว่า เมื่อมีคนปลุกความหยิ่งผยองในตัวของเขาอย่างต่อเนื่อง และเอาชนะเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่สนใจอย่างไร แต่ก็ได้ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความอยากเอาชนะไว้ในใจเขาแล้ว บัดนี้ ข้าให้โอกาสนั้นกับเขา ผลของชัยชนะคือสิ่งที่เขาปรารถนา เขาจะไม่ทำตามที่ข้าต้องการได้อย่างไร”

“แล้วเขา…รู้หรือไม่ว่าท่านกำลังคิดร้ายกับเขาอยู่” เงาถามอย่างลังเล

ลู่เจี้ยยิ้มอย่างเฉยเมย “รู้แล้วจะทำไม ไม่รู้แล้วจะทำไม ล้วนมิอาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้”

เงาทั้งตกใจและนับถือในคราเดียวกัน นายน้อยของเขาสามารถเล่นงานทุกคนให้หัวหมุนได้ เว้นแต่…

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+