ราชินีพลิกสวรรค์ 373 ของมีค่าที่ผีเฒ่าทิ้งไว้

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 373 ของมีค่าที่ผีเฒ่าทิ้งไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เช่นนั้นก็ไม่เกิดเป็นคนแล้วกัน

ในตอนที่จักรพรรดิเซ่าตี้พูดคำนี้ออกมา เสินอวี่และอวี้ฉีก็ล้วนแต่มองเขาด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก

อะไรกันที่ทำให้องค์จักรพรรดิที่พวกเขาเคารพนับถือยอมได้ถึงเพียงนี้

ในชั่วขณะนั้น พวกเขาทั้งสองไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย

“ไปเตรียมการได้” เซ่าตี้ออกคำสั่ง

เสินอวี่และอวี้ฉีทำได้เพียงกลืนความตกใจนั้นลงไป แล้วถอยออกไปทำตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิอย่างเงียบๆ

ณ ราชวงศ์จยาเซียน จักรพรรดินีพระองค์หนึ่งที่ถูกโยนลงไปในอ่างอาบน้ำแล้วแช่อยู่ในนั้นทั้งคืน เอ๊ะ ทำไมถึงแช่อยู่ในนั้นทั้งคืน เรื่องนี้ต้องถามตัวเจียงหลีเอง

วันรุ่งขึ้น นางด่าผู้ชายคนหนึ่งในใจทั้งวันแล้วก็สะสางงานบ้านเมืองที่ดองไว้จนเกือบจะหมด พอตกเย็นถึงได้มีเวลาเอาสิ่งของทั้งสามอย่างที่ได้มาจากสุสานโบราณมาดูอย่างละเอียด

ผีเฒ่าหลิงจงตนนั้นบอกว่าของมีค่าทั้งสามอย่างคือน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและกระดูกได้ สองคือเวทย์อาคมหายากและสามคือผลึกหินพลังจิตที่ฮูหยินของเขาทิ้งเอาไว้ให้

เจียงหลีวางกล่องทั้งสามใบไว้ตรงหน้าตัวเอง แล้วนางก็นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลัง มือหนึ่งท้าวคาง ปากก็พูดพึมพำ “ผีเฒ่าหลิงจงรู้ว่าข้าฝึกฝนพลังจิต สามารถตรวจสอบสิ่งของในกล่องได้ แน่นอนว่าคงไม่ได้ทำของปลอมขึ้นมา ดูท่าเขาแล้วคงจะคิดว่าข้าคงตายอยู่ในสุสานโบราณกระมัง”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสุสานโบราณขึ้นมาแววตาของเจียงหลีพลันเปลี่ยนเป็นดุดันทันที

อยู่มาได้ตั้งสองชาติไม่นึกเลยว่าจะโดนผีเฒ่าต้มจนเปื่อยเยี่ยงนี้!

โทษที่นางจิตใจดีเกินไปรึ

แต่ว่าตอนนี้สุสานโบราณได้พังทลายลงไปแล้ว นางก็คงไม่สามารถกลับไปแก้แค้นผีเฒ่าตนนั้นได้ ยังโชคดีที่คำสัญญาของเขามีประโยชน์ นางถึงได้เอากลับมาได้ มิฉะนั้นคงขาดทุนย่อยยับ

กล่องทั้งสามใบถูกเปิดออกแล้ว

หนึ่งในนั้นเป็นของเหลวที่บรรจุอยู่ในขวดหยกใส ส่วนอีกกล่องหนึ่งมีจดหมายวางไว้อยู่ กล่องสุดท้ายก็คือ ‘ผลึกหิน’ ที่แวววาวดุจดวงดาวอย่างไรอย่างนั้น ส่วนขนาดก็ประมาณกำปั้นเด็กทารก

สายตาของเจียงหลีมองไปรอบๆ ของทั้งสามสิ่งนี้ สุดท้ายก็เลือกให้ความสนใจกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วางอยู่ในกล่องนั้น

“ลองเจ้าก่อนก็แล้วกัน” เจียงหลีเลิกคิ้ว เอาขวดหยกออกมาจากกล่องนั้น เพ่งมองขวดหยกที่อยู่ในมืออย่างพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งจึงจะเปิดฝาขวดออกแล้วก็กลืนของเหลวในขวดที่ไม่รู้ว่าคืออะไรลงไป

ซี๊ดดด!

เพิ่งจะดื่มเข้าไป ทันใดนั้นในร่างกายของเจียงหลีก็รู้สึกเหมือนโดนไฟแผดเผา เจ็บปวดจนคลายมือออก ขวดที่ว่างเปล่าก็ตกลงไปในกล่องจนเกิดเสียงดังขึ้น

“นี่คงไม่ใช่ยาพิษหรอกกระมัง!” เจียงหลีเจ็บปวดจนหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วล้มลงบนเตียง

ชั่วพริบตาเดียว เสื้อผ้าของเจียงหลีก็เปียกเหงื่อเต็มไปหมดราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำอย่างไรอย่างนั้น

สมควรตาย!

เจ็บปวดเหลือเกิน!

มือของเจียงหลีกำผ้าห่มไว้แน่น ใบหน้าซีดขาวจนเขียวคร้าม สิ่งที่เรียกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นกำลังเปลี่ยนแปลงร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เส้นเลือดไปถึงกระดูกตั้งแต่เลือดเนื้อไปถึงผิวหนัง

ภายในร่างกายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ของเจียงหลี น้ำศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเปลวไฟสีเงิน เผาไหม้อยู่ในร่างกายของนาง ราวกับคลื่นในทะเลที่ซัดสาดอย่างรุนแรง จู่โจมทุกส่วนภายในร่างกายของนางอย่างไม่หยุดหย่อน

เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา เจียงหลีเจ็บปวดจนเกือบจะหมดสติไป

แต่ว่าในที่สุดนางก็กัดฟันสู้ต่อ

กระดูกในร่างกายนางได้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจนน่าตกใจ เดิมที่เป็นกระดูกสีขาวนวล ไม่นึกเลยว่าจะแปรสภาพเป็นกระดูกหยกที่วาววับ เส้นลมปราณก็ขยายออก กล้ามเนื้อก็หดแน่นยิ่งขึ้น

“อ้ะ!”

ทันใดนั้นความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ขึ้นไปที่ศีรษะทำให้เจียงหลีทนไม่ไหวจึงตะโกนร้องออกมา

แต่ทว่า ในตอนนี้แสงสีทองทั้งเก้าที่อยู่ข้างหลังนาง จู่ๆ ก็มีแสงสีเทาเปล่งประกายออกมาอยู่รอบๆ ตัวนาง แต่เป็นเพียงแค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้นแล้วก็หายไป แต่เจียงหลีกลับสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าความรู้สึกในการฝึกฝนของนางชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ความรู้สึกร้อนแผดเผา ที่เหมือนดั่งกระแสน้ำหายไป เจียงหลีนอนลงบนเตียงอย่างใกล้จะสิ้นใจ เสมือนว่านางได้รับบทลงโทษที่โหดร้ายทารุณมากมายจนเสร็จสิ้นแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงได้รู้สึกว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ “นี่มันน้ำศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน ครั้งหน้าคงไม่ดื่มอีกแล้ว!” นางลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างยากลำบาก เจียงหลีมองไปยังจดหมายฉบับนั้น

เวทย์อาคมหายากอย่างนั้นรึ เจียงหลีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เลิกมองจดหมายฉบับนั้น นางในตอนนี้ไม่ได้ไร้ทักษะการต่อสู้แต่อย่างใด สิ่งที่นางต้องทำตอนนี้คือรีบเพิ่มขั้นพลังโดยเร็ว ทำรากฐานพลังให้ดี แล้วสุดท้ายค่อยๆ ศึกษาเวทย์อาคมนี้

ดังนั้นในที่สุดนางก็มองไปยังกล่องสุดท้าย

ก้อนผลึกหินข้างในกล่องนั้นคือพลังจิตของคนๆ หนึ่งที่เกือบจะสำเร็จบรรลุเป็นเนี่ยนจง หลังจากที่นางดูดซับแล้วหลอมรวมเข้ากับผลึกหินพลังจิต พลังจิตของนางจะเพิ่มขึ้นแล้วสามารถเข้าสู่ขั้นเนี่ยนไซว่ได้หรือไม่

เจียงหลีมีความคาดหวัง นางอดรนทนไม่ไหวแล้วจึงหยิบผลึกหินขึ้นมาจากในกล่องนั้น กำไว้ในมือทั้งสองข้างและสัมผัสกับพลังจิตในผลึกหินนั้น

เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ เริ่มดูดซับพลังจิตในผลึกหินอย่างไม่รอช้า

ตกอยู่ในการบำเพ็ญแล้วเวลาก็ค่อยๆ ล่วงเลยไป

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าโดยไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เหมือนว่านางอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิด ไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งรอบตัวและไม่มีเสียงของสรรพสิ่งใด เหมือนกับว่าหลงเหลือแค่นางเพียงคนเดียวอย่างไรอย่างนั้น

ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ร่างกายของนางยังคงดูดซับพลังจิตอย่างต่อเนื่องแต่ว่าทำไมนางถึงได้มาอยู่ที่นี่

“ที่นี่คือที่ไหนกัน” เจียงหลีพูดพึมพำกับตัวเอง

พลังจิตของนางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขั้นพลังก็เพิ่มสูงขึ้นทีละขั้นๆ ในความเป็นจริง นางนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างกุมหินพลังจิตไว้อยู่และหินก็เล็กลงเรื่อยๆ พลังที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้นกลายเป็นหมอกบางเบาที่มีแสงแวววาวปกคลุมตัวนางและถูกนางดูดซับ

เปรี๊ยะ!

เปรี๊ยะๆ!

ในพลังวิญญาณของเจียงหลีได้มีเสียงแตกร้าวของอาณาเขตเนี่ยนซือดังขึ้นไม่หยุด

ขั้นฝึกฝนเนี่ยนซือของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในตอนที่ผลึกหินในมือนางเหลือแค่ครึ่งเดียว พลังขั้นเนี่ยนซือของนางได้บรรลุไปถึงจุดสูงสุดของขั้นเนี่ยนเจี้ยงแล้ว

แล้วก็บรรลุจากขั้นเนี่ยนเจี้ยงไปขั้นเนี่ยนไซว่ อาณาเขตขั้นพลังนี้บรรลุยากขึ้นเป็นอย่างมาก

แต่โชคดีที่เจียงหลีได้ชำระล้างไขกระดูกของทักษะพรสวรรค์และร่างกายก่อนแล้ว การดูดซับและการรับรู้ของนางในตอนนี้ก็เหนือกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ในตอนที่ผลึกหินในมือนางได้กลายเป็นผงแวววาวอยู่กลางฝ่ามือของนางแล้วถูกนางดูดซับจนหมด พลังจิตที่บ้าคลั่งในร่างกายของนางก็โจมตีขั้นเนี่ยนไซว่

เปรี๊ยะๆ!

บรรลุแล้ว!

แต่ทว่า ในขณะนั้นที่เจียงหลีได้บรรลุขั้นเนี่ยนไซว่ สถานที่อันมืดมิดนั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

นางหรี่ตาทั้งสองข้าง มองคนที่อยู่ข้างหน้าที่ค่อยๆ ปรากฏตัวชัดเจนขึ้น

นี่น่าจะเป็นผู้หญิงที่งดงามมากคนหนึ่ง เจียงหลีจ้องมองคนๆ นั้น อุทานในใจ นางไม่สามารถมองเห็นคนๆ นั้นได้อย่างชัดเจน แต่ดูจากเรือนร่างของนางแล้ว นางเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ สูงโปร่ง ขาเรียวยาว ไม่มีทางขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด

“พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ” เสียงที่เลือนรางพูดกับจียงหลี

ทันใดนั้นเจียงหลีก็หรี่ตาลง นางจำเสียงนี้ได้! นี่เป็นเสียงของวิญญาณอีกดวงที่มาจากสามร้อยปีข้างหน้า! “คือเจ้า!”

“ข้าเอง ดูแล้วช่วงนี้เจ้าก็ไม่ได้ละทิ้งการฝึกฝนจนมากเกินไป” วิญญาณอีกดวงพูดขึ้น

เจียงหลีมุมปากกระตุกเล็กน้อย

นางไม่ลืมที่จะฝึกฝนอย่างแน่นอนแต่ก็ไม่ใช่จะฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เนี่ยนไซว่ก็ยังต้องพึ่งพลังจิตของผู้อื่นในการบรรลุ

เพียงแต่นี่ก็เป็นการพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณอีกดวงไม่สามารถรับรู้ถึงการกระทำที่ผ่านมาของนางได้

อาจจะเหมือนกับที่วิญญาณอีกดวงได้เคยพูดไว้ นางเป็นเพียงจิตสำนึกที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อบอกให้นางรู้ถึงจิตสำนึกทั้งหมด แม้แต่จะเรียกว่าวิญญาณยังเรียกไม่ได้เลย

“เรื่องที่เจ้าพูดเมื่อครั้งก่อน” เจียงหลีถามหยั่งเชิง

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 373 ของมีค่าที่ผีเฒ่าทิ้งไว้

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 373 ของมีค่าที่ผีเฒ่าทิ้งไว้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เช่นนั้นก็ไม่เกิดเป็นคนแล้วกัน

ในตอนที่จักรพรรดิเซ่าตี้พูดคำนี้ออกมา เสินอวี่และอวี้ฉีก็ล้วนแต่มองเขาด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก

อะไรกันที่ทำให้องค์จักรพรรดิที่พวกเขาเคารพนับถือยอมได้ถึงเพียงนี้

ในชั่วขณะนั้น พวกเขาทั้งสองไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย

“ไปเตรียมการได้” เซ่าตี้ออกคำสั่ง

เสินอวี่และอวี้ฉีทำได้เพียงกลืนความตกใจนั้นลงไป แล้วถอยออกไปทำตามคำสั่งขององค์จักรพรรดิอย่างเงียบๆ

ณ ราชวงศ์จยาเซียน จักรพรรดินีพระองค์หนึ่งที่ถูกโยนลงไปในอ่างอาบน้ำแล้วแช่อยู่ในนั้นทั้งคืน เอ๊ะ ทำไมถึงแช่อยู่ในนั้นทั้งคืน เรื่องนี้ต้องถามตัวเจียงหลีเอง

วันรุ่งขึ้น นางด่าผู้ชายคนหนึ่งในใจทั้งวันแล้วก็สะสางงานบ้านเมืองที่ดองไว้จนเกือบจะหมด พอตกเย็นถึงได้มีเวลาเอาสิ่งของทั้งสามอย่างที่ได้มาจากสุสานโบราณมาดูอย่างละเอียด

ผีเฒ่าหลิงจงตนนั้นบอกว่าของมีค่าทั้งสามอย่างคือน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายและกระดูกได้ สองคือเวทย์อาคมหายากและสามคือผลึกหินพลังจิตที่ฮูหยินของเขาทิ้งเอาไว้ให้

เจียงหลีวางกล่องทั้งสามใบไว้ตรงหน้าตัวเอง แล้วนางก็นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลัง มือหนึ่งท้าวคาง ปากก็พูดพึมพำ “ผีเฒ่าหลิงจงรู้ว่าข้าฝึกฝนพลังจิต สามารถตรวจสอบสิ่งของในกล่องได้ แน่นอนว่าคงไม่ได้ทำของปลอมขึ้นมา ดูท่าเขาแล้วคงจะคิดว่าข้าคงตายอยู่ในสุสานโบราณกระมัง”

เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสุสานโบราณขึ้นมาแววตาของเจียงหลีพลันเปลี่ยนเป็นดุดันทันที

อยู่มาได้ตั้งสองชาติไม่นึกเลยว่าจะโดนผีเฒ่าต้มจนเปื่อยเยี่ยงนี้!

โทษที่นางจิตใจดีเกินไปรึ

แต่ว่าตอนนี้สุสานโบราณได้พังทลายลงไปแล้ว นางก็คงไม่สามารถกลับไปแก้แค้นผีเฒ่าตนนั้นได้ ยังโชคดีที่คำสัญญาของเขามีประโยชน์ นางถึงได้เอากลับมาได้ มิฉะนั้นคงขาดทุนย่อยยับ

กล่องทั้งสามใบถูกเปิดออกแล้ว

หนึ่งในนั้นเป็นของเหลวที่บรรจุอยู่ในขวดหยกใส ส่วนอีกกล่องหนึ่งมีจดหมายวางไว้อยู่ กล่องสุดท้ายก็คือ ‘ผลึกหิน’ ที่แวววาวดุจดวงดาวอย่างไรอย่างนั้น ส่วนขนาดก็ประมาณกำปั้นเด็กทารก

สายตาของเจียงหลีมองไปรอบๆ ของทั้งสามสิ่งนี้ สุดท้ายก็เลือกให้ความสนใจกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วางอยู่ในกล่องนั้น

“ลองเจ้าก่อนก็แล้วกัน” เจียงหลีเลิกคิ้ว เอาขวดหยกออกมาจากกล่องนั้น เพ่งมองขวดหยกที่อยู่ในมืออย่างพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งจึงจะเปิดฝาขวดออกแล้วก็กลืนของเหลวในขวดที่ไม่รู้ว่าคืออะไรลงไป

ซี๊ดดด!

เพิ่งจะดื่มเข้าไป ทันใดนั้นในร่างกายของเจียงหลีก็รู้สึกเหมือนโดนไฟแผดเผา เจ็บปวดจนคลายมือออก ขวดที่ว่างเปล่าก็ตกลงไปในกล่องจนเกิดเสียงดังขึ้น

“นี่คงไม่ใช่ยาพิษหรอกกระมัง!” เจียงหลีเจ็บปวดจนหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วล้มลงบนเตียง

ชั่วพริบตาเดียว เสื้อผ้าของเจียงหลีก็เปียกเหงื่อเต็มไปหมดราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำอย่างไรอย่างนั้น

สมควรตาย!

เจ็บปวดเหลือเกิน!

มือของเจียงหลีกำผ้าห่มไว้แน่น ใบหน้าซีดขาวจนเขียวคร้าม สิ่งที่เรียกว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์นั้นกำลังเปลี่ยนแปลงร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เส้นเลือดไปถึงกระดูกตั้งแต่เลือดเนื้อไปถึงผิวหนัง

ภายในร่างกายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ของเจียงหลี น้ำศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเปลวไฟสีเงิน เผาไหม้อยู่ในร่างกายของนาง ราวกับคลื่นในทะเลที่ซัดสาดอย่างรุนแรง จู่โจมทุกส่วนภายในร่างกายของนางอย่างไม่หยุดหย่อน

เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา เจียงหลีเจ็บปวดจนเกือบจะหมดสติไป

แต่ว่าในที่สุดนางก็กัดฟันสู้ต่อ

กระดูกในร่างกายนางได้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจนน่าตกใจ เดิมที่เป็นกระดูกสีขาวนวล ไม่นึกเลยว่าจะแปรสภาพเป็นกระดูกหยกที่วาววับ เส้นลมปราณก็ขยายออก กล้ามเนื้อก็หดแน่นยิ่งขึ้น

“อ้ะ!”

ทันใดนั้นความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ขึ้นไปที่ศีรษะทำให้เจียงหลีทนไม่ไหวจึงตะโกนร้องออกมา

แต่ทว่า ในตอนนี้แสงสีทองทั้งเก้าที่อยู่ข้างหลังนาง จู่ๆ ก็มีแสงสีเทาเปล่งประกายออกมาอยู่รอบๆ ตัวนาง แต่เป็นเพียงแค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้นแล้วก็หายไป แต่เจียงหลีกลับสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าความรู้สึกในการฝึกฝนของนางชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ความรู้สึกร้อนแผดเผา ที่เหมือนดั่งกระแสน้ำหายไป เจียงหลีนอนลงบนเตียงอย่างใกล้จะสิ้นใจ เสมือนว่านางได้รับบทลงโทษที่โหดร้ายทารุณมากมายจนเสร็จสิ้นแล้ว

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางถึงได้รู้สึกว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ “นี่มันน้ำศักดิ์สิทธิ์อะไรกัน ครั้งหน้าคงไม่ดื่มอีกแล้ว!” นางลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างยากลำบาก เจียงหลีมองไปยังจดหมายฉบับนั้น

เวทย์อาคมหายากอย่างนั้นรึ เจียงหลีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เลิกมองจดหมายฉบับนั้น นางในตอนนี้ไม่ได้ไร้ทักษะการต่อสู้แต่อย่างใด สิ่งที่นางต้องทำตอนนี้คือรีบเพิ่มขั้นพลังโดยเร็ว ทำรากฐานพลังให้ดี แล้วสุดท้ายค่อยๆ ศึกษาเวทย์อาคมนี้

ดังนั้นในที่สุดนางก็มองไปยังกล่องสุดท้าย

ก้อนผลึกหินข้างในกล่องนั้นคือพลังจิตของคนๆ หนึ่งที่เกือบจะสำเร็จบรรลุเป็นเนี่ยนจง หลังจากที่นางดูดซับแล้วหลอมรวมเข้ากับผลึกหินพลังจิต พลังจิตของนางจะเพิ่มขึ้นแล้วสามารถเข้าสู่ขั้นเนี่ยนไซว่ได้หรือไม่

เจียงหลีมีความคาดหวัง นางอดรนทนไม่ไหวแล้วจึงหยิบผลึกหินขึ้นมาจากในกล่องนั้น กำไว้ในมือทั้งสองข้างและสัมผัสกับพลังจิตในผลึกหินนั้น

เจียงหลีหายใจเข้าลึกๆ เริ่มดูดซับพลังจิตในผลึกหินอย่างไม่รอช้า

ตกอยู่ในการบำเพ็ญแล้วเวลาก็ค่อยๆ ล่วงเลยไป

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าโดยไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เหมือนว่านางอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิด ไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งรอบตัวและไม่มีเสียงของสรรพสิ่งใด เหมือนกับว่าหลงเหลือแค่นางเพียงคนเดียวอย่างไรอย่างนั้น

ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ร่างกายของนางยังคงดูดซับพลังจิตอย่างต่อเนื่องแต่ว่าทำไมนางถึงได้มาอยู่ที่นี่

“ที่นี่คือที่ไหนกัน” เจียงหลีพูดพึมพำกับตัวเอง

พลังจิตของนางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขั้นพลังก็เพิ่มสูงขึ้นทีละขั้นๆ ในความเป็นจริง นางนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างกุมหินพลังจิตไว้อยู่และหินก็เล็กลงเรื่อยๆ พลังที่ซ่อนอยู่ข้างในนั้นกลายเป็นหมอกบางเบาที่มีแสงแวววาวปกคลุมตัวนางและถูกนางดูดซับ

เปรี๊ยะ!

เปรี๊ยะๆ!

ในพลังวิญญาณของเจียงหลีได้มีเสียงแตกร้าวของอาณาเขตเนี่ยนซือดังขึ้นไม่หยุด

ขั้นฝึกฝนเนี่ยนซือของนางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ในตอนที่ผลึกหินในมือนางเหลือแค่ครึ่งเดียว พลังขั้นเนี่ยนซือของนางได้บรรลุไปถึงจุดสูงสุดของขั้นเนี่ยนเจี้ยงแล้ว

แล้วก็บรรลุจากขั้นเนี่ยนเจี้ยงไปขั้นเนี่ยนไซว่ อาณาเขตขั้นพลังนี้บรรลุยากขึ้นเป็นอย่างมาก

แต่โชคดีที่เจียงหลีได้ชำระล้างไขกระดูกของทักษะพรสวรรค์และร่างกายก่อนแล้ว การดูดซับและการรับรู้ของนางในตอนนี้ก็เหนือกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ในตอนที่ผลึกหินในมือนางได้กลายเป็นผงแวววาวอยู่กลางฝ่ามือของนางแล้วถูกนางดูดซับจนหมด พลังจิตที่บ้าคลั่งในร่างกายของนางก็โจมตีขั้นเนี่ยนไซว่

เปรี๊ยะๆ!

บรรลุแล้ว!

แต่ทว่า ในขณะนั้นที่เจียงหลีได้บรรลุขั้นเนี่ยนไซว่ สถานที่อันมืดมิดนั้นก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

นางหรี่ตาทั้งสองข้าง มองคนที่อยู่ข้างหน้าที่ค่อยๆ ปรากฏตัวชัดเจนขึ้น

นี่น่าจะเป็นผู้หญิงที่งดงามมากคนหนึ่ง เจียงหลีจ้องมองคนๆ นั้น อุทานในใจ นางไม่สามารถมองเห็นคนๆ นั้นได้อย่างชัดเจน แต่ดูจากเรือนร่างของนางแล้ว นางเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ สูงโปร่ง ขาเรียวยาว ไม่มีทางขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด

“พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ” เสียงที่เลือนรางพูดกับจียงหลี

ทันใดนั้นเจียงหลีก็หรี่ตาลง นางจำเสียงนี้ได้! นี่เป็นเสียงของวิญญาณอีกดวงที่มาจากสามร้อยปีข้างหน้า! “คือเจ้า!”

“ข้าเอง ดูแล้วช่วงนี้เจ้าก็ไม่ได้ละทิ้งการฝึกฝนจนมากเกินไป” วิญญาณอีกดวงพูดขึ้น

เจียงหลีมุมปากกระตุกเล็กน้อย

นางไม่ลืมที่จะฝึกฝนอย่างแน่นอนแต่ก็ไม่ใช่จะฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เนี่ยนไซว่ก็ยังต้องพึ่งพลังจิตของผู้อื่นในการบรรลุ

เพียงแต่นี่ก็เป็นการพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณอีกดวงไม่สามารถรับรู้ถึงการกระทำที่ผ่านมาของนางได้

อาจจะเหมือนกับที่วิญญาณอีกดวงได้เคยพูดไว้ นางเป็นเพียงจิตสำนึกที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อบอกให้นางรู้ถึงจิตสำนึกทั้งหมด แม้แต่จะเรียกว่าวิญญาณยังเรียกไม่ได้เลย

“เรื่องที่เจ้าพูดเมื่อครั้งก่อน” เจียงหลีถามหยั่งเชิง

……………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+