ราชินีพลิกสวรรค์ 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”

น้ำเสียงของมหาเทพตี้จวินเผยถึงความเย็นชาและใบหน้าอันสง่างามก็ตึงเครียดขึ้น ปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ให้คนแปลกหน้าทะลุทะลวงเข้ามาได้

เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยดวงตาอันสดใสประดุจดวงดาว

โดยปราศจากความเกียจคร้านและความยั่วยวนที่ปรากฏก่อนหน้านี้และเผยให้เห็นเพียงความสุขที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ทำให้ความรู้สึกนี้ปรากฏตรงมุมปากของนาง

เมื่อจดจ่อไปยังมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ตี้จวินจึงขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจว่านางกำลังหัวเราะเรื่องอะไร “โดนคนคิดไม่ซื่อ ยังจะมีความสุขได้อีกหรือ”

“ข้ามีความสุข เพราะท่านโกรธ” เจียงหลีมองเขาอย่างจริงจัง

ครานี้ นางจะไม่ยอมให้เขาหนีไปได้อีกแน่!

“…” ริมฝีปากของตี้จวินปิดแน่นจนเป็นเส้นตรง และคิ้วขมวดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปเนินเขา เขาโมโห นางจึงมีความสุขอย่างนั้นหรือ นี่มันตรรกะอะไรกัน

“ท่านเป็นห่วงข้าใช่ไหม” เจียงหลีลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เขา

ทันใดนั้น นางก็เขยิบเข้าใกล้ จนทำให้ดวงตาที่สงบนิ่งของตี้จวินขยับเล็กน้อย “เจ้าคิดมากไปแล้ว”

“ไม่ ไม่ใช่ว่าข้าคิดมากไป แต่ท่านไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก! ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โดยเกือบจะแนบติดเขาอยู่แล้ว

ตี้จวินหรี่ตาลงเล็กน้อยและทั้งสองก็สบตากัน จนปรากฏภาพความทรงจำที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในใจของพวกเขาทั้งสอง

เขาเป็นห่วงหรือ

เขาจะเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร

เหอ! ไร้สาระ!

ชายผู้นั้นปฏิเสธในใจและปฏิเสธที่จะยอมรับคำพูดของเจียงหลีอย่างแน่วแน่

“เหตุใดท่านถึงไม่กล้ายอมรับ หากท่านไม่เป็นห่วงข้า ทำไมท่านไม่ฆ่าข้าซะ ท่านกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าข้าหรือ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าอีกก้าว โดยใช้สายตาบีบบังคับเขา

การยกตัวข่มท่านของเจียงหลี ทำให้เขาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว และดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้ไกลออกไป

หลังจากเขาเดินถอยหลัง นางกลับเขยิบเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว “ข้าบอกแล้ว ท่านไม่ฆ่าข้าหรอก เพราะใจของท่าน ไม่ให้ทำเช่นนั้น”

“เจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! ” ตี้จวินเอ่ยอย่างเย็นชา ซึ่งน้ำเสียงนั้นยากที่จะเก็บซ่อนความลนลานหวาดกลัวนี้ไว้ได้

“หยิ่งผยองหรือ” เจียงหลียิ้ม “ข้าหยิ่งผยองมาตั้งแต่เกิด ท่านไม่ใช่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านสูงศักดิ์เพียงใด และไม่รู้ว่าท่านเก่งกาจแค่ไหน แต่ท่านกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรู้จักใจตัวเองเลยหรือ”

“นั่นเป็นเพียงการยึดติด! ” ใช่! แค่การยึดติดของชาติที่แล้ว!

ตี้จวินฝืนอธิบาย

ซึ่งดูเหมือนว่าจะอธิบายให้ทั้งเจียงหลีและตัวเองฟัง

เพื่อโน้มน้าวเจียงหลี และโน้มน้าวตัวเองด้วย

“การยึดติดหรือ หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าหลายครั้งเช่นนี้ทำไม” เจียงหลีมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“…” ทำไมหรือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน

“ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ชายอื่น ทำไมท่านถึงโกรธจนอยากฆ่าผู้ชายที่คิดร้ายต่อข้า ทำไม…ท่านไม่ปฏิเสธการที่ข้าเข้าใกล้” เจียงหลีเดินหน้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าเข้าใกล้เขา

ดวงตาสีเขียวครามหรี่ลงช้าๆ และปรากฏจิตสังหารขึ้นในดวงตาของเขา “อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า” เขาเตือน

เจียงหลีหัวเราะเยาะและมองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านจะฆ่าข้า คงไม่รอถึงวันนี้ ครั้งแรกท่านฆ่าไม่ลง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน”

“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เลยรึ” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน

เจียงหลียักคิ้วโดยไม่ตอบ แต่มุมคิ้วและมุมปากของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ทำไมท่านถึงไม่กล้าเผชิญกับใจตัวเอง” เจียงหลีถามกลับ นางยื่นมือออกไปเปิดเสื้อของเขา ซึ่งเผยให้เห็นรอยฟัน “มันยังอยู่ นั่นหมายความว่าท่านยังมีข้าอยู่ในใจ”

เขาจ้องมองไปที่นางด้วยดวงตาที่สงบนิ่งจนน่ากลัว “คนที่มีใจให้กับเจ้าคือลู่เจี้ย” เขาปัดมือที่ถือเสื้อออกและพูดจาอันโหดร้ายขึ้น

“ท่านคือลู่เจี้ย” เจียงหลีตอบกลับ

“เขาเป็นเพียงหนึ่งในชีวิตจากทุกภพของข้า” ตี้จวินเอ่ยอย่างไม่แยแส

ปรากฏน้ำตาในดวงตาของเจียงหลีและจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโมโห “นั่นก็คือท่านเช่นกัน! หากท่านไม่ใช่เขา ก็คืนเขามาให้ข้า! ”

ในส่วนลึกของดวงตาตี้จวินปรากฏแสงเย็นวาบกวาดผ่าน และหัวเราะเยาะขึ้นทันที “คนที่เจ้าชอบก็คือลู่เจี้ย”

“…” เจียงหลีตะลึงจนพูดไม่ออก

เขาเดินเข้าใกล้นาง จ้องตานางและพูดเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าใกล้ชิดข้า ยั่วยวนข้า ทำไปเพราะลู่เจี้ยเท่านั้น”

เป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น!

ความโกรธในใจของตี้จวินราวกับเสียงคำรามของสัตว์ดุร้าย เขากลับพ่ายแพ้ให้กับร่างแยก!

เจียงหลีจ้องมองเขาอย่างมึนงง โดยมองเห็นทั้งแววตาของความเกรี้ยวโกรธที่อดกลั้นเอาไว้และความเย็นชาก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

ทันใดนั้น นางก็หัวเราะ “คิกคิก” ขึ้นมา

รอยยิ้มของนางทำให้น้ำแข็งในดวงตาของเขาละลาย ดวงตาของเขาลึกจนมองไม่เห็น และสงสัยว่าทำไมนางถึงหัวเราะ เพราะเขาพูดแทงใจดำนางหรือ

หงุดหงิด!

ความหงุดหงิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้เขาโมโห

“ท่านกำลังหึงตัวท่านเองอยู่จริงๆ ด้วย” เจียงหลียิ้มอย่างมีความสุข

แต่ตี้จวินกลับแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาดูแย่มาก

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ท่านก็มิอาจปกปิดมันได้ ท่าน…” เจียงหลียื่นมือออกไปจับฝ่ามือใหญ่ของเขาและมองเขาด้วยดวงตาที่สดใส แล้วพูดอย่างช้าๆ และจริงจังว่า “ตกหลุมรักข้าเสียแล้ว”

รักหรือ

รักคืออะไร!

เขาชักมือกลับทันทีและมองไปที่หญิงสาวซึ่งกำลังยิ้มอย่างโอ้อวดให้กับเขาอย่างไร้ความรู้สึก

“ท่านโกรธและอึดอัด เพราะท่านคิดว่าความทรงจำระหว่างข้ากับท่านเป็นของร่างแยกลู่เจี้ย มิใช่ของท่าน” เจียงหลีพูด

“หุบปาก! ” เขาเตือนด้วยความโกรธ

“ข้าไม่! ” เจียงหลียกคางขึ้นและมองเขาอย่างท้าทาย

“ข้าจะฆ่าเจ้า” ตี้จวินสบถคำพูดเย็นชาออกจากปาก

เจียงหลียิ้มอย่างเฉยเมย “ฆ่าเถิด หากฆ่าข้าแล้ว ท่านจะรู้ใจตัวเอง ท่านก็ลงมือฆ่าข้าได้เลย”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ” เขาย้อนถาม

เจียงหลีกลับพูดว่า “การฆ่าข้า ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าท่านกล้าหรือไม่กล้า แต่ขึ้นอยู่กับท่านอยากทำหรือไม่อยากทำ”

ตู้ม!

หัวใจของชายผู้นั้นดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างหนัก

คำพูดของเจียงหลีราวกับค้อนหนักทุบเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มหัวใจของเขา ใช่ ก็แค่เจียงหลีคนเดียว ทำไมถึงไม่กล้าฆ่าเล่า ไม่ฆ่า ก็เพียงเพราะเขาไม่อยากฆ่าเท่านั้น

“ข้าไม่สับสน ท่านสับสนอะไร” เจียงหลีเดินเขยิบเข้าใกล้เขาโดยไม่กลัวตาย ดวงตาของนางปรากฏความร้อนรนเล็กน้อย “ไม่ว่าท่านจะเป็นร่างอวตารหรือมหาเทพก็ตาม คนที่ข้าชอบก็มีแค่ท่านเท่านั้น แม้จะเป็นร่างอวตาร แต่ก็เกิดจากตัวท่านเอง พฤติกรรมและความคิดทั้งหมดของเขาเกี่ยวโยงอย่างใกล้ชิดกับร่างหลักของท่านก็คือเขาและเขาก็คือท่าน หากพูดว่าท่านได้รับผลกระทบจากร่างอวตาร สู้พูดว่าในหลายภพหลายชาติที่ผ่านมา ท่านได้ตกหลุมรักเข้าแล้วจะเหมาะเสียกว่า”

เพล้ง!

ดูเหมือนจะมีรอยแตกบนใบหน้าอันสง่างามนั่น โดยทำลายสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นไปแล้ว

ตกหลุมรักหรือ

“ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงฆ่าข้าไม่ลง ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดข้า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงต้องการให้ข้าเป็นของท่านเพียงคนเดียว!” คำพูดของเจียงหลีในแต่ละประโยค ล้วนทำให้สีหน้าของเขาปรากฏรอยแตกเพิ่มขึ้น

หลังจากพูดจบ เจียงหลีได้ถอยหลังหนึ่งก้าวและเริ่มรักษาระยะห่างของพวกเขาทั้งสอง แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “หากท่านยังคงปฏิเสธข้า ข้าก็จะจากไปทันที และสัญญาว่านับตั้งแต่นี้ต่อไป จะลืมท่านไปให้สิ้น”

เพียงพริบตา…

ดวงตาอันดุดันของชายผู้นี้ ได้กวาดมองไปที่นาง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”

น้ำเสียงของมหาเทพตี้จวินเผยถึงความเย็นชาและใบหน้าอันสง่างามก็ตึงเครียดขึ้น ปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ให้คนแปลกหน้าทะลุทะลวงเข้ามาได้

เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยดวงตาอันสดใสประดุจดวงดาว

โดยปราศจากความเกียจคร้านและความยั่วยวนที่ปรากฏก่อนหน้านี้และเผยให้เห็นเพียงความสุขที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ทำให้ความรู้สึกนี้ปรากฏตรงมุมปากของนาง

เมื่อจดจ่อไปยังมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ตี้จวินจึงขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจว่านางกำลังหัวเราะเรื่องอะไร “โดนคนคิดไม่ซื่อ ยังจะมีความสุขได้อีกหรือ”

“ข้ามีความสุข เพราะท่านโกรธ” เจียงหลีมองเขาอย่างจริงจัง

ครานี้ นางจะไม่ยอมให้เขาหนีไปได้อีกแน่!

“…” ริมฝีปากของตี้จวินปิดแน่นจนเป็นเส้นตรง และคิ้วขมวดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปเนินเขา เขาโมโห นางจึงมีความสุขอย่างนั้นหรือ นี่มันตรรกะอะไรกัน

“ท่านเป็นห่วงข้าใช่ไหม” เจียงหลีลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เขา

ทันใดนั้น นางก็เขยิบเข้าใกล้ จนทำให้ดวงตาที่สงบนิ่งของตี้จวินขยับเล็กน้อย “เจ้าคิดมากไปแล้ว”

“ไม่ ไม่ใช่ว่าข้าคิดมากไป แต่ท่านไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก! ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โดยเกือบจะแนบติดเขาอยู่แล้ว

ตี้จวินหรี่ตาลงเล็กน้อยและทั้งสองก็สบตากัน จนปรากฏภาพความทรงจำที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในใจของพวกเขาทั้งสอง

เขาเป็นห่วงหรือ

เขาจะเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร

เหอ! ไร้สาระ!

ชายผู้นั้นปฏิเสธในใจและปฏิเสธที่จะยอมรับคำพูดของเจียงหลีอย่างแน่วแน่

“เหตุใดท่านถึงไม่กล้ายอมรับ หากท่านไม่เป็นห่วงข้า ทำไมท่านไม่ฆ่าข้าซะ ท่านกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าข้าหรือ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าอีกก้าว โดยใช้สายตาบีบบังคับเขา

การยกตัวข่มท่านของเจียงหลี ทำให้เขาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว และดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้ไกลออกไป

หลังจากเขาเดินถอยหลัง นางกลับเขยิบเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว “ข้าบอกแล้ว ท่านไม่ฆ่าข้าหรอก เพราะใจของท่าน ไม่ให้ทำเช่นนั้น”

“เจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! ” ตี้จวินเอ่ยอย่างเย็นชา ซึ่งน้ำเสียงนั้นยากที่จะเก็บซ่อนความลนลานหวาดกลัวนี้ไว้ได้

“หยิ่งผยองหรือ” เจียงหลียิ้ม “ข้าหยิ่งผยองมาตั้งแต่เกิด ท่านไม่ใช่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านสูงศักดิ์เพียงใด และไม่รู้ว่าท่านเก่งกาจแค่ไหน แต่ท่านกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรู้จักใจตัวเองเลยหรือ”

“นั่นเป็นเพียงการยึดติด! ” ใช่! แค่การยึดติดของชาติที่แล้ว!

ตี้จวินฝืนอธิบาย

ซึ่งดูเหมือนว่าจะอธิบายให้ทั้งเจียงหลีและตัวเองฟัง

เพื่อโน้มน้าวเจียงหลี และโน้มน้าวตัวเองด้วย

“การยึดติดหรือ หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าหลายครั้งเช่นนี้ทำไม” เจียงหลีมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“…” ทำไมหรือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน

“ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ชายอื่น ทำไมท่านถึงโกรธจนอยากฆ่าผู้ชายที่คิดร้ายต่อข้า ทำไม…ท่านไม่ปฏิเสธการที่ข้าเข้าใกล้” เจียงหลีเดินหน้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าเข้าใกล้เขา

ดวงตาสีเขียวครามหรี่ลงช้าๆ และปรากฏจิตสังหารขึ้นในดวงตาของเขา “อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า” เขาเตือน

เจียงหลีหัวเราะเยาะและมองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านจะฆ่าข้า คงไม่รอถึงวันนี้ ครั้งแรกท่านฆ่าไม่ลง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน”

“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เลยรึ” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน

เจียงหลียักคิ้วโดยไม่ตอบ แต่มุมคิ้วและมุมปากของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ทำไมท่านถึงไม่กล้าเผชิญกับใจตัวเอง” เจียงหลีถามกลับ นางยื่นมือออกไปเปิดเสื้อของเขา ซึ่งเผยให้เห็นรอยฟัน “มันยังอยู่ นั่นหมายความว่าท่านยังมีข้าอยู่ในใจ”

เขาจ้องมองไปที่นางด้วยดวงตาที่สงบนิ่งจนน่ากลัว “คนที่มีใจให้กับเจ้าคือลู่เจี้ย” เขาปัดมือที่ถือเสื้อออกและพูดจาอันโหดร้ายขึ้น

“ท่านคือลู่เจี้ย” เจียงหลีตอบกลับ

“เขาเป็นเพียงหนึ่งในชีวิตจากทุกภพของข้า” ตี้จวินเอ่ยอย่างไม่แยแส

ปรากฏน้ำตาในดวงตาของเจียงหลีและจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโมโห “นั่นก็คือท่านเช่นกัน! หากท่านไม่ใช่เขา ก็คืนเขามาให้ข้า! ”

ในส่วนลึกของดวงตาตี้จวินปรากฏแสงเย็นวาบกวาดผ่าน และหัวเราะเยาะขึ้นทันที “คนที่เจ้าชอบก็คือลู่เจี้ย”

“…” เจียงหลีตะลึงจนพูดไม่ออก

เขาเดินเข้าใกล้นาง จ้องตานางและพูดเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าใกล้ชิดข้า ยั่วยวนข้า ทำไปเพราะลู่เจี้ยเท่านั้น”

เป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น!

ความโกรธในใจของตี้จวินราวกับเสียงคำรามของสัตว์ดุร้าย เขากลับพ่ายแพ้ให้กับร่างแยก!

เจียงหลีจ้องมองเขาอย่างมึนงง โดยมองเห็นทั้งแววตาของความเกรี้ยวโกรธที่อดกลั้นเอาไว้และความเย็นชาก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

ทันใดนั้น นางก็หัวเราะ “คิกคิก” ขึ้นมา

รอยยิ้มของนางทำให้น้ำแข็งในดวงตาของเขาละลาย ดวงตาของเขาลึกจนมองไม่เห็น และสงสัยว่าทำไมนางถึงหัวเราะ เพราะเขาพูดแทงใจดำนางหรือ

หงุดหงิด!

ความหงุดหงิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้เขาโมโห

“ท่านกำลังหึงตัวท่านเองอยู่จริงๆ ด้วย” เจียงหลียิ้มอย่างมีความสุข

แต่ตี้จวินกลับแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาดูแย่มาก

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ท่านก็มิอาจปกปิดมันได้ ท่าน…” เจียงหลียื่นมือออกไปจับฝ่ามือใหญ่ของเขาและมองเขาด้วยดวงตาที่สดใส แล้วพูดอย่างช้าๆ และจริงจังว่า “ตกหลุมรักข้าเสียแล้ว”

รักหรือ

รักคืออะไร!

เขาชักมือกลับทันทีและมองไปที่หญิงสาวซึ่งกำลังยิ้มอย่างโอ้อวดให้กับเขาอย่างไร้ความรู้สึก

“ท่านโกรธและอึดอัด เพราะท่านคิดว่าความทรงจำระหว่างข้ากับท่านเป็นของร่างแยกลู่เจี้ย มิใช่ของท่าน” เจียงหลีพูด

“หุบปาก! ” เขาเตือนด้วยความโกรธ

“ข้าไม่! ” เจียงหลียกคางขึ้นและมองเขาอย่างท้าทาย

“ข้าจะฆ่าเจ้า” ตี้จวินสบถคำพูดเย็นชาออกจากปาก

เจียงหลียิ้มอย่างเฉยเมย “ฆ่าเถิด หากฆ่าข้าแล้ว ท่านจะรู้ใจตัวเอง ท่านก็ลงมือฆ่าข้าได้เลย”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ” เขาย้อนถาม

เจียงหลีกลับพูดว่า “การฆ่าข้า ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าท่านกล้าหรือไม่กล้า แต่ขึ้นอยู่กับท่านอยากทำหรือไม่อยากทำ”

ตู้ม!

หัวใจของชายผู้นั้นดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างหนัก

คำพูดของเจียงหลีราวกับค้อนหนักทุบเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มหัวใจของเขา ใช่ ก็แค่เจียงหลีคนเดียว ทำไมถึงไม่กล้าฆ่าเล่า ไม่ฆ่า ก็เพียงเพราะเขาไม่อยากฆ่าเท่านั้น

“ข้าไม่สับสน ท่านสับสนอะไร” เจียงหลีเดินเขยิบเข้าใกล้เขาโดยไม่กลัวตาย ดวงตาของนางปรากฏความร้อนรนเล็กน้อย “ไม่ว่าท่านจะเป็นร่างอวตารหรือมหาเทพก็ตาม คนที่ข้าชอบก็มีแค่ท่านเท่านั้น แม้จะเป็นร่างอวตาร แต่ก็เกิดจากตัวท่านเอง พฤติกรรมและความคิดทั้งหมดของเขาเกี่ยวโยงอย่างใกล้ชิดกับร่างหลักของท่านก็คือเขาและเขาก็คือท่าน หากพูดว่าท่านได้รับผลกระทบจากร่างอวตาร สู้พูดว่าในหลายภพหลายชาติที่ผ่านมา ท่านได้ตกหลุมรักเข้าแล้วจะเหมาะเสียกว่า”

เพล้ง!

ดูเหมือนจะมีรอยแตกบนใบหน้าอันสง่างามนั่น โดยทำลายสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นไปแล้ว

ตกหลุมรักหรือ

“ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงฆ่าข้าไม่ลง ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดข้า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงต้องการให้ข้าเป็นของท่านเพียงคนเดียว!” คำพูดของเจียงหลีในแต่ละประโยค ล้วนทำให้สีหน้าของเขาปรากฏรอยแตกเพิ่มขึ้น

หลังจากพูดจบ เจียงหลีได้ถอยหลังหนึ่งก้าวและเริ่มรักษาระยะห่างของพวกเขาทั้งสอง แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “หากท่านยังคงปฏิเสธข้า ข้าก็จะจากไปทันที และสัญญาว่านับตั้งแต่นี้ต่อไป จะลืมท่านไปให้สิ้น”

เพียงพริบตา…

ดวงตาอันดุดันของชายผู้นี้ ได้กวาดมองไปที่นาง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”

น้ำเสียงของมหาเทพตี้จวินเผยถึงความเย็นชาและใบหน้าอันสง่างามก็ตึงเครียดขึ้น ปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ให้คนแปลกหน้าทะลุทะลวงเข้ามาได้

เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยดวงตาอันสดใสประดุจดวงดาว

โดยปราศจากความเกียจคร้านและความยั่วยวนที่ปรากฏก่อนหน้านี้และเผยให้เห็นเพียงความสุขที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ทำให้ความรู้สึกนี้ปรากฏตรงมุมปากของนาง

เมื่อจดจ่อไปยังมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ตี้จวินจึงขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจว่านางกำลังหัวเราะเรื่องอะไร “โดนคนคิดไม่ซื่อ ยังจะมีความสุขได้อีกหรือ”

“ข้ามีความสุข เพราะท่านโกรธ” เจียงหลีมองเขาอย่างจริงจัง

ครานี้ นางจะไม่ยอมให้เขาหนีไปได้อีกแน่!

“…” ริมฝีปากของตี้จวินปิดแน่นจนเป็นเส้นตรง และคิ้วขมวดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปเนินเขา เขาโมโห นางจึงมีความสุขอย่างนั้นหรือ นี่มันตรรกะอะไรกัน

“ท่านเป็นห่วงข้าใช่ไหม” เจียงหลีลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เขา

ทันใดนั้น นางก็เขยิบเข้าใกล้ จนทำให้ดวงตาที่สงบนิ่งของตี้จวินขยับเล็กน้อย “เจ้าคิดมากไปแล้ว”

“ไม่ ไม่ใช่ว่าข้าคิดมากไป แต่ท่านไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก! ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โดยเกือบจะแนบติดเขาอยู่แล้ว

ตี้จวินหรี่ตาลงเล็กน้อยและทั้งสองก็สบตากัน จนปรากฏภาพความทรงจำที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในใจของพวกเขาทั้งสอง

เขาเป็นห่วงหรือ

เขาจะเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร

เหอ! ไร้สาระ!

ชายผู้นั้นปฏิเสธในใจและปฏิเสธที่จะยอมรับคำพูดของเจียงหลีอย่างแน่วแน่

“เหตุใดท่านถึงไม่กล้ายอมรับ หากท่านไม่เป็นห่วงข้า ทำไมท่านไม่ฆ่าข้าซะ ท่านกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าข้าหรือ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าอีกก้าว โดยใช้สายตาบีบบังคับเขา

การยกตัวข่มท่านของเจียงหลี ทำให้เขาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว และดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้ไกลออกไป

หลังจากเขาเดินถอยหลัง นางกลับเขยิบเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว “ข้าบอกแล้ว ท่านไม่ฆ่าข้าหรอก เพราะใจของท่าน ไม่ให้ทำเช่นนั้น”

“เจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! ” ตี้จวินเอ่ยอย่างเย็นชา ซึ่งน้ำเสียงนั้นยากที่จะเก็บซ่อนความลนลานหวาดกลัวนี้ไว้ได้

“หยิ่งผยองหรือ” เจียงหลียิ้ม “ข้าหยิ่งผยองมาตั้งแต่เกิด ท่านไม่ใช่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านสูงศักดิ์เพียงใด และไม่รู้ว่าท่านเก่งกาจแค่ไหน แต่ท่านกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรู้จักใจตัวเองเลยหรือ”

“นั่นเป็นเพียงการยึดติด! ” ใช่! แค่การยึดติดของชาติที่แล้ว!

ตี้จวินฝืนอธิบาย

ซึ่งดูเหมือนว่าจะอธิบายให้ทั้งเจียงหลีและตัวเองฟัง

เพื่อโน้มน้าวเจียงหลี และโน้มน้าวตัวเองด้วย

“การยึดติดหรือ หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าหลายครั้งเช่นนี้ทำไม” เจียงหลีมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“…” ทำไมหรือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน

“ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ชายอื่น ทำไมท่านถึงโกรธจนอยากฆ่าผู้ชายที่คิดร้ายต่อข้า ทำไม…ท่านไม่ปฏิเสธการที่ข้าเข้าใกล้” เจียงหลีเดินหน้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าเข้าใกล้เขา

ดวงตาสีเขียวครามหรี่ลงช้าๆ และปรากฏจิตสังหารขึ้นในดวงตาของเขา “อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า” เขาเตือน

เจียงหลีหัวเราะเยาะและมองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านจะฆ่าข้า คงไม่รอถึงวันนี้ ครั้งแรกท่านฆ่าไม่ลง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน”

“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เลยรึ” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน

เจียงหลียักคิ้วโดยไม่ตอบ แต่มุมคิ้วและมุมปากของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ทำไมท่านถึงไม่กล้าเผชิญกับใจตัวเอง” เจียงหลีถามกลับ นางยื่นมือออกไปเปิดเสื้อของเขา ซึ่งเผยให้เห็นรอยฟัน “มันยังอยู่ นั่นหมายความว่าท่านยังมีข้าอยู่ในใจ”

เขาจ้องมองไปที่นางด้วยดวงตาที่สงบนิ่งจนน่ากลัว “คนที่มีใจให้กับเจ้าคือลู่เจี้ย” เขาปัดมือที่ถือเสื้อออกและพูดจาอันโหดร้ายขึ้น

“ท่านคือลู่เจี้ย” เจียงหลีตอบกลับ

“เขาเป็นเพียงหนึ่งในชีวิตจากทุกภพของข้า” ตี้จวินเอ่ยอย่างไม่แยแส

ปรากฏน้ำตาในดวงตาของเจียงหลีและจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโมโห “นั่นก็คือท่านเช่นกัน! หากท่านไม่ใช่เขา ก็คืนเขามาให้ข้า! ”

ในส่วนลึกของดวงตาตี้จวินปรากฏแสงเย็นวาบกวาดผ่าน และหัวเราะเยาะขึ้นทันที “คนที่เจ้าชอบก็คือลู่เจี้ย”

“…” เจียงหลีตะลึงจนพูดไม่ออก

เขาเดินเข้าใกล้นาง จ้องตานางและพูดเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าใกล้ชิดข้า ยั่วยวนข้า ทำไปเพราะลู่เจี้ยเท่านั้น”

เป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น!

ความโกรธในใจของตี้จวินราวกับเสียงคำรามของสัตว์ดุร้าย เขากลับพ่ายแพ้ให้กับร่างแยก!

เจียงหลีจ้องมองเขาอย่างมึนงง โดยมองเห็นทั้งแววตาของความเกรี้ยวโกรธที่อดกลั้นเอาไว้และความเย็นชาก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

ทันใดนั้น นางก็หัวเราะ “คิกคิก” ขึ้นมา

รอยยิ้มของนางทำให้น้ำแข็งในดวงตาของเขาละลาย ดวงตาของเขาลึกจนมองไม่เห็น และสงสัยว่าทำไมนางถึงหัวเราะ เพราะเขาพูดแทงใจดำนางหรือ

หงุดหงิด!

ความหงุดหงิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้เขาโมโห

“ท่านกำลังหึงตัวท่านเองอยู่จริงๆ ด้วย” เจียงหลียิ้มอย่างมีความสุข

แต่ตี้จวินกลับแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาดูแย่มาก

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ท่านก็มิอาจปกปิดมันได้ ท่าน…” เจียงหลียื่นมือออกไปจับฝ่ามือใหญ่ของเขาและมองเขาด้วยดวงตาที่สดใส แล้วพูดอย่างช้าๆ และจริงจังว่า “ตกหลุมรักข้าเสียแล้ว”

รักหรือ

รักคืออะไร!

เขาชักมือกลับทันทีและมองไปที่หญิงสาวซึ่งกำลังยิ้มอย่างโอ้อวดให้กับเขาอย่างไร้ความรู้สึก

“ท่านโกรธและอึดอัด เพราะท่านคิดว่าความทรงจำระหว่างข้ากับท่านเป็นของร่างแยกลู่เจี้ย มิใช่ของท่าน” เจียงหลีพูด

“หุบปาก! ” เขาเตือนด้วยความโกรธ

“ข้าไม่! ” เจียงหลียกคางขึ้นและมองเขาอย่างท้าทาย

“ข้าจะฆ่าเจ้า” ตี้จวินสบถคำพูดเย็นชาออกจากปาก

เจียงหลียิ้มอย่างเฉยเมย “ฆ่าเถิด หากฆ่าข้าแล้ว ท่านจะรู้ใจตัวเอง ท่านก็ลงมือฆ่าข้าได้เลย”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ” เขาย้อนถาม

เจียงหลีกลับพูดว่า “การฆ่าข้า ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าท่านกล้าหรือไม่กล้า แต่ขึ้นอยู่กับท่านอยากทำหรือไม่อยากทำ”

ตู้ม!

หัวใจของชายผู้นั้นดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างหนัก

คำพูดของเจียงหลีราวกับค้อนหนักทุบเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มหัวใจของเขา ใช่ ก็แค่เจียงหลีคนเดียว ทำไมถึงไม่กล้าฆ่าเล่า ไม่ฆ่า ก็เพียงเพราะเขาไม่อยากฆ่าเท่านั้น

“ข้าไม่สับสน ท่านสับสนอะไร” เจียงหลีเดินเขยิบเข้าใกล้เขาโดยไม่กลัวตาย ดวงตาของนางปรากฏความร้อนรนเล็กน้อย “ไม่ว่าท่านจะเป็นร่างอวตารหรือมหาเทพก็ตาม คนที่ข้าชอบก็มีแค่ท่านเท่านั้น แม้จะเป็นร่างอวตาร แต่ก็เกิดจากตัวท่านเอง พฤติกรรมและความคิดทั้งหมดของเขาเกี่ยวโยงอย่างใกล้ชิดกับร่างหลักของท่านก็คือเขาและเขาก็คือท่าน หากพูดว่าท่านได้รับผลกระทบจากร่างอวตาร สู้พูดว่าในหลายภพหลายชาติที่ผ่านมา ท่านได้ตกหลุมรักเข้าแล้วจะเหมาะเสียกว่า”

เพล้ง!

ดูเหมือนจะมีรอยแตกบนใบหน้าอันสง่างามนั่น โดยทำลายสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นไปแล้ว

ตกหลุมรักหรือ

“ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงฆ่าข้าไม่ลง ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดข้า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงต้องการให้ข้าเป็นของท่านเพียงคนเดียว!” คำพูดของเจียงหลีในแต่ละประโยค ล้วนทำให้สีหน้าของเขาปรากฏรอยแตกเพิ่มขึ้น

หลังจากพูดจบ เจียงหลีได้ถอยหลังหนึ่งก้าวและเริ่มรักษาระยะห่างของพวกเขาทั้งสอง แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “หากท่านยังคงปฏิเสธข้า ข้าก็จะจากไปทันที และสัญญาว่านับตั้งแต่นี้ต่อไป จะลืมท่านไปให้สิ้น”

เพียงพริบตา…

ดวงตาอันดุดันของชายผู้นี้ ได้กวาดมองไปที่นาง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 321 ท่านเคยถามใจของท่านหรือไม่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เขาคิดไม่ซื่อกับเจ้า”

น้ำเสียงของมหาเทพตี้จวินเผยถึงความเย็นชาและใบหน้าอันสง่างามก็ตึงเครียดขึ้น ปรากฏกลิ่นอายที่ไม่ให้คนแปลกหน้าทะลุทะลวงเข้ามาได้

เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยดวงตาอันสดใสประดุจดวงดาว

โดยปราศจากความเกียจคร้านและความยั่วยวนที่ปรากฏก่อนหน้านี้และเผยให้เห็นเพียงความสุขที่กลั่นออกมาจากหัวใจ ทำให้ความรู้สึกนี้ปรากฏตรงมุมปากของนาง

เมื่อจดจ่อไปยังมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย ตี้จวินจึงขมวดคิ้ว เพราะไม่เข้าใจว่านางกำลังหัวเราะเรื่องอะไร “โดนคนคิดไม่ซื่อ ยังจะมีความสุขได้อีกหรือ”

“ข้ามีความสุข เพราะท่านโกรธ” เจียงหลีมองเขาอย่างจริงจัง

ครานี้ นางจะไม่ยอมให้เขาหนีไปได้อีกแน่!

“…” ริมฝีปากของตี้จวินปิดแน่นจนเป็นเส้นตรง และคิ้วขมวดค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปเนินเขา เขาโมโห นางจึงมีความสุขอย่างนั้นหรือ นี่มันตรรกะอะไรกัน

“ท่านเป็นห่วงข้าใช่ไหม” เจียงหลีลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เขา

ทันใดนั้น นางก็เขยิบเข้าใกล้ จนทำให้ดวงตาที่สงบนิ่งของตี้จวินขยับเล็กน้อย “เจ้าคิดมากไปแล้ว”

“ไม่ ไม่ใช่ว่าข้าคิดมากไป แต่ท่านไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก! ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว โดยเกือบจะแนบติดเขาอยู่แล้ว

ตี้จวินหรี่ตาลงเล็กน้อยและทั้งสองก็สบตากัน จนปรากฏภาพความทรงจำที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันในใจของพวกเขาทั้งสอง

เขาเป็นห่วงหรือ

เขาจะเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆ ได้อย่างไร

เหอ! ไร้สาระ!

ชายผู้นั้นปฏิเสธในใจและปฏิเสธที่จะยอมรับคำพูดของเจียงหลีอย่างแน่วแน่

“เหตุใดท่านถึงไม่กล้ายอมรับ หากท่านไม่เป็นห่วงข้า ทำไมท่านไม่ฆ่าข้าซะ ท่านกลับมาที่นี่อีกครั้งไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าข้าหรือ” เจียงหลีเดินไปข้างหน้าอีกก้าว โดยใช้สายตาบีบบังคับเขา

การยกตัวข่มท่านของเจียงหลี ทำให้เขาถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว และดึงระยะห่างระหว่างคนทั้งสองให้ไกลออกไป

หลังจากเขาเดินถอยหลัง นางกลับเขยิบเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว “ข้าบอกแล้ว ท่านไม่ฆ่าข้าหรอก เพราะใจของท่าน ไม่ให้ทำเช่นนั้น”

“เจ้าหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! ” ตี้จวินเอ่ยอย่างเย็นชา ซึ่งน้ำเสียงนั้นยากที่จะเก็บซ่อนความลนลานหวาดกลัวนี้ไว้ได้

“หยิ่งผยองหรือ” เจียงหลียิ้ม “ข้าหยิ่งผยองมาตั้งแต่เกิด ท่านไม่ใช่เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านสูงศักดิ์เพียงใด และไม่รู้ว่าท่านเก่งกาจแค่ไหน แต่ท่านกลับไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะรู้จักใจตัวเองเลยหรือ”

“นั่นเป็นเพียงการยึดติด! ” ใช่! แค่การยึดติดของชาติที่แล้ว!

ตี้จวินฝืนอธิบาย

ซึ่งดูเหมือนว่าจะอธิบายให้ทั้งเจียงหลีและตัวเองฟัง

เพื่อโน้มน้าวเจียงหลี และโน้มน้าวตัวเองด้วย

“การยึดติดหรือ หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านถึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกครั้ง หากไม่ใช่เพราะเป็นห่วง จะมาปรากฏตัวต่อหน้าข้าหลายครั้งเช่นนี้ทำไม” เจียงหลีมองเขาอย่างเย้ยหยัน

“…” ทำไมหรือ เขาก็ไม่รู้เช่นกัน

“ทำไมท่านถึงไม่ยอมให้ข้าเข้าใกล้ชายอื่น ทำไมท่านถึงโกรธจนอยากฆ่าผู้ชายที่คิดร้ายต่อข้า ทำไม…ท่านไม่ปฏิเสธการที่ข้าเข้าใกล้” เจียงหลีเดินหน้าประชิดเขาอีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าเข้าใกล้เขา

ดวงตาสีเขียวครามหรี่ลงช้าๆ และปรากฏจิตสังหารขึ้นในดวงตาของเขา “อย่าบังคับให้ข้าต้องฆ่าเจ้า” เขาเตือน

เจียงหลีหัวเราะเยาะและมองไปที่เขาอย่างไม่เกรงกลัว “หากท่านจะฆ่าข้า คงไม่รอถึงวันนี้ ครั้งแรกท่านฆ่าไม่ลง วันนี้ก็เช่นเดียวกัน”

“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เลยรึ” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประชดประชัน

เจียงหลียักคิ้วโดยไม่ตอบ แต่มุมคิ้วและมุมปากของนางเต็มไปด้วยความมั่นใจ

“ทำไมท่านถึงไม่กล้าเผชิญกับใจตัวเอง” เจียงหลีถามกลับ นางยื่นมือออกไปเปิดเสื้อของเขา ซึ่งเผยให้เห็นรอยฟัน “มันยังอยู่ นั่นหมายความว่าท่านยังมีข้าอยู่ในใจ”

เขาจ้องมองไปที่นางด้วยดวงตาที่สงบนิ่งจนน่ากลัว “คนที่มีใจให้กับเจ้าคือลู่เจี้ย” เขาปัดมือที่ถือเสื้อออกและพูดจาอันโหดร้ายขึ้น

“ท่านคือลู่เจี้ย” เจียงหลีตอบกลับ

“เขาเป็นเพียงหนึ่งในชีวิตจากทุกภพของข้า” ตี้จวินเอ่ยอย่างไม่แยแส

ปรากฏน้ำตาในดวงตาของเจียงหลีและจ้องมองเขาด้วยสีหน้าโมโห “นั่นก็คือท่านเช่นกัน! หากท่านไม่ใช่เขา ก็คืนเขามาให้ข้า! ”

ในส่วนลึกของดวงตาตี้จวินปรากฏแสงเย็นวาบกวาดผ่าน และหัวเราะเยาะขึ้นทันที “คนที่เจ้าชอบก็คือลู่เจี้ย”

“…” เจียงหลีตะลึงจนพูดไม่ออก

เขาเดินเข้าใกล้นาง จ้องตานางและพูดเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าใกล้ชิดข้า ยั่วยวนข้า ทำไปเพราะลู่เจี้ยเท่านั้น”

เป็นเพียงร่างอวตารเท่านั้น!

ความโกรธในใจของตี้จวินราวกับเสียงคำรามของสัตว์ดุร้าย เขากลับพ่ายแพ้ให้กับร่างแยก!

เจียงหลีจ้องมองเขาอย่างมึนงง โดยมองเห็นทั้งแววตาของความเกรี้ยวโกรธที่อดกลั้นเอาไว้และความเย็นชาก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

ทันใดนั้น นางก็หัวเราะ “คิกคิก” ขึ้นมา

รอยยิ้มของนางทำให้น้ำแข็งในดวงตาของเขาละลาย ดวงตาของเขาลึกจนมองไม่เห็น และสงสัยว่าทำไมนางถึงหัวเราะ เพราะเขาพูดแทงใจดำนางหรือ

หงุดหงิด!

ความหงุดหงิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้เขาโมโห

“ท่านกำลังหึงตัวท่านเองอยู่จริงๆ ด้วย” เจียงหลียิ้มอย่างมีความสุข

แต่ตี้จวินกลับแข็งทื่อ ใบหน้าของเขาดูแย่มาก

“ไม่ว่าท่านจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ท่านก็มิอาจปกปิดมันได้ ท่าน…” เจียงหลียื่นมือออกไปจับฝ่ามือใหญ่ของเขาและมองเขาด้วยดวงตาที่สดใส แล้วพูดอย่างช้าๆ และจริงจังว่า “ตกหลุมรักข้าเสียแล้ว”

รักหรือ

รักคืออะไร!

เขาชักมือกลับทันทีและมองไปที่หญิงสาวซึ่งกำลังยิ้มอย่างโอ้อวดให้กับเขาอย่างไร้ความรู้สึก

“ท่านโกรธและอึดอัด เพราะท่านคิดว่าความทรงจำระหว่างข้ากับท่านเป็นของร่างแยกลู่เจี้ย มิใช่ของท่าน” เจียงหลีพูด

“หุบปาก! ” เขาเตือนด้วยความโกรธ

“ข้าไม่! ” เจียงหลียกคางขึ้นและมองเขาอย่างท้าทาย

“ข้าจะฆ่าเจ้า” ตี้จวินสบถคำพูดเย็นชาออกจากปาก

เจียงหลียิ้มอย่างเฉยเมย “ฆ่าเถิด หากฆ่าข้าแล้ว ท่านจะรู้ใจตัวเอง ท่านก็ลงมือฆ่าข้าได้เลย”

“เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ” เขาย้อนถาม

เจียงหลีกลับพูดว่า “การฆ่าข้า ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าท่านกล้าหรือไม่กล้า แต่ขึ้นอยู่กับท่านอยากทำหรือไม่อยากทำ”

ตู้ม!

หัวใจของชายผู้นั้นดูเหมือนจะถูกกระแทกอย่างหนัก

คำพูดของเจียงหลีราวกับค้อนหนักทุบเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มหัวใจของเขา ใช่ ก็แค่เจียงหลีคนเดียว ทำไมถึงไม่กล้าฆ่าเล่า ไม่ฆ่า ก็เพียงเพราะเขาไม่อยากฆ่าเท่านั้น

“ข้าไม่สับสน ท่านสับสนอะไร” เจียงหลีเดินเขยิบเข้าใกล้เขาโดยไม่กลัวตาย ดวงตาของนางปรากฏความร้อนรนเล็กน้อย “ไม่ว่าท่านจะเป็นร่างอวตารหรือมหาเทพก็ตาม คนที่ข้าชอบก็มีแค่ท่านเท่านั้น แม้จะเป็นร่างอวตาร แต่ก็เกิดจากตัวท่านเอง พฤติกรรมและความคิดทั้งหมดของเขาเกี่ยวโยงอย่างใกล้ชิดกับร่างหลักของท่านก็คือเขาและเขาก็คือท่าน หากพูดว่าท่านได้รับผลกระทบจากร่างอวตาร สู้พูดว่าในหลายภพหลายชาติที่ผ่านมา ท่านได้ตกหลุมรักเข้าแล้วจะเหมาะเสียกว่า”

เพล้ง!

ดูเหมือนจะมีรอยแตกบนใบหน้าอันสง่างามนั่น โดยทำลายสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกนั้นไปแล้ว

ตกหลุมรักหรือ

“ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงฆ่าข้าไม่ลง ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงปรากฏตัวต่อหน้าข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้ชายทุกคนที่ใกล้ชิดข้า ท่านตกหลุมรัก ดังนั้นท่านจึงต้องการให้ข้าเป็นของท่านเพียงคนเดียว!” คำพูดของเจียงหลีในแต่ละประโยค ล้วนทำให้สีหน้าของเขาปรากฏรอยแตกเพิ่มขึ้น

หลังจากพูดจบ เจียงหลีได้ถอยหลังหนึ่งก้าวและเริ่มรักษาระยะห่างของพวกเขาทั้งสอง แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “หากท่านยังคงปฏิเสธข้า ข้าก็จะจากไปทันที และสัญญาว่านับตั้งแต่นี้ต่อไป จะลืมท่านไปให้สิ้น”

เพียงพริบตา…

ดวงตาอันดุดันของชายผู้นี้ ได้กวาดมองไปที่นาง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+