หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1162 ฟื้นฟูกองทัพสังหารวิญญาณ

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1162 ฟื้นฟูกองทัพสังหารวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1162 ฟื้นฟูกองทัพสังหารวิญญาณ

โถงเก่าแก่รกร้าง

มีค่ายกลที่มีพลังงานหลิงรุนแรงห่อหุ้มไว้ มังกรเก้าตัวบินฉวัดเฉวียนอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับความผันผวนน่ากลัวที่เล็ดลอดออกมาจากพวกมัน ทำให้แม้แต่มิติยังสั่นสะท้านจากพลัง

ซูชิงหยิงตัวสั่นสะท้านภายใต้มังกรทั้งเก้าขณะเงยหน้าขึ้นมองไปที่มู่เฉินที่อยู่นอกค่ายกล ขณะนี้ชายหนุ่มยืนเอามือไพล่หลังมีรอยยิ้มบาง ทว่าเมื่อรอยยิ้มนั้นเข้าสู่ครรลองสายตาของซูชิงหยิงก็แสบตามาก

“ไม่คิดว่าเจ้าจะทำได้ถึงขนาดนี้!” ซูชิงหยิงกัดริมฝีปากขณะที่พูดอย่างยากลำบาก

มู่เฉินทำให้นางตกใจแท้จริง แม้ว่าซูชิงหยิงจะเตรียมการสำหรับมู่เฉินไว้ แต่นางก็ไม่คิดว่ามู่เฉินใช้ค่ายกลที่น่ากลัวนี้ในการป้องกันได้

จนถึงตอนนี้นางยังไม่อาจเชื่อกับความจริงที่อยู่ตรงหน้า เพราะนี่คือค่ายกลระดับจงซือที่เทียบได้กับระดับตี้จื้อจุนขั้นปลาย ด้วยความเข้าใจของมู่เฉินในเส้นทางศาสตร์ค่ายกลเขาจะบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างไร? เขาเป็นหลิงเจิ้นจงซือเหรอ?

ทว่ามู่เฉินก็ไม่ใส่ใจกับอารมณ์ของซูชิงหยิง เขามองไปที่นางและยิ้มอีกครั้ง “แม่นางซู ไม่รู้ว่าเจ้าสามารถช่วยข้าฟื้นฟูกองทัพสังหารวิญญาณได้หรือไม่?”

ซูชิงหยิงเหลือบมองไปที่มู่เฉินอย่างลึกซึ้งก่อนจะยิ้มพลางพยักหน้า “พี่มู่พูดอะไรแบบนั้น? คนอย่างข้าไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอก ในเมื่อข้าสัญญาไว้ก็ต้องทำตามแน่นอน”

เมื่อได้ยินคำพูดของนาง มู่เฉินก็ผายมือออกมาทำท่าเชื้อเชิญ

ซูชิงหยิงหันกลับไป และยื่นมือออกเผยให้เห็นแมลงหงส์ที่หลับใหลอยู่ในฝ่ามือพร้อมกับแววปวดใจในส่วนลึกของดวงตาเมื่อนางมองไปที่มัน

ทีแรกพลังงานดังกล่าวจะสามารถช่วยแมลงหงส์ในการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการได้ การบีบพลังออกมาจะทำให้มันได้รับการเสียหายใหญ่หลวง

แต่การเผชิญหน้ากับค่ายกลที่น่ากลัวซูชิงหยิงก็ไม่มีทางเลือก

มู่เฉินเจ้าเล่ห์เกินไป

ซูชิงหยิงถอนหายใจและไม่ลังเลอีกต่อไป นางวาดตราประทับขึ้นปลายนิ้วปริออกพร้อมกับหยดเลือดพรมลงบนร่างแมลงหงส์

หยดเลือดซึมเข้าร่างแมลงหงส์กลายเป็นลวดลายขลังบนร่างแมลง

กีด กีด!

แมลงหงส์ที่หลับใหลส่งเสียงร้องแหลมราวกับว่าเจ็บปวด สุดท้ายร่างกายสั่นสะท้าน เส้นใยเลือดก็พุ่งออกมาห่อหุ้มส่วนหนึ่งของกองทัพสังหารวิญญาณ

เส้นใยเลือดมุดเข้าไปในร่างนักรบสังหารวิญญาณ จากนั้นมู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังงานในร่างกายพวกเขา

ซูชิงหยิงรู้สึกโล่งใจขณะที่เช็ดเหงื่อบนหน้าผากก่อนที่จะหันไปหามู่เฉิน “พี่มู่ ตามที่เจ้าต้องการ”

ทว่ามู่เฉินยังคงไร้อารมณ์ขณะจ้องมองนาง

รอยยิ้มของซูชิงหยิงก็ค่อยๆ หดหายไป

“แม่นางซู กองทัพสังหารวิญญาณห้าพันนาย เจ้ากู้คืนเพียงสองร้อยนายเท่านั้น แม้ว่าพลังของพวกเขาจะเสียหาย แต่ก็ไม่เสียหายถึงระดับนี้ใช่ไหม?” มู่เฉินพูดเบาๆ

จากการรับรู้เขาตระหนักได้ว่ามีนักรบสังหารวิญญาณสองร้อยนายเท่านั้นที่มีพลังกลับคืนมา จำนวนนี้น้อยเกินไป แม้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ใบหน้าของซูชิงหยิงเปลี่ยนไป นางกักพลังไว้เยอะก็จริง เพราะพลังงานนั้นมีค่าสำหรับแมลงหงส์ซึ่งในอนาคตเมื่อนางบรรลุระดับตี้จื้อจุน มันจะช่วยในการพัฒนาพลังได้มาก

มู่เฉินมองไปที่ซูชิงหยิงเหยียดนิ้วออกสองนิ้ว “แม่นางซู ข้าต้องการนักรบสองพันนาย ตราบเท่าที่เจ้าเรียกจำนวนนี้ได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป”

“เจ้าบ้าไปแล้ว!” ใบหน้าของซูชิงหยิงเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว “นักรบสังหารวิญญาณสองพันนายไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควบคุมได้ โชคชะตานี้แบกรับไม่ไหวหรอก!”

หากนางดึงพลังนักรบสองพันนายออกมาจริงๆ ละก็ พลังงานในร่างแมลงหงส์จะหมดลงอย่างมาก ดังนั้นซูชิงหยิงจึงรู้สึกปวดใจกับเรื่องนี้ยิ่งนัก

“นั่นเป็นปัญหาที่ข้าต้องกังวลเอง” มู่เฉินพูดอย่างใจเย็นขณะจ้องมองไปที่ซูชิงหยิง “แม่นางซู ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะรู้คุณค่าของแมลงหงส์ ครั้งนี้ที่เจ้ามาวังสวรรค์บรรพกาลก็คงเพื่อสิ่งนี้ พลังงานในร่างกายก็ไม่ได้เป็นของมัน ทำไมต้องโลภมากด้วย?

“นี่คือสิ่งที่ข้าต้องการ ข้าจะไม่ยอมขยับไปไหนเด็ดขาด”

มู่เฉินหลับตาลงหลังจากพูดจบ เห็นได้ชัดว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเจรจาเนื่องจากตามการคาดการณ์ของเขา หากเขาไม่ได้จำนวนนักรบเท่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนำร่างหลักของมั่นถัวหลัวออกมา

ซูชิงหยิงมองไปที่มู่เฉินที่กำลังหลับตาก็กัดฟัน แต่นางรู้ว่าไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาจากทัศนคติของเขา ดังนั้นเธอจึงเค้นเสียงเย็นพลางวาดตราประทับ เสียงร้องแหลมคมดังมาจากแมลงหงส์อีกครั้ง เส้นใยเลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากมัน

รัศมีแมลงหงส์จางลงอย่างรวดเร็วทำให้ซูชิงหยิงรู้สึกปวดใจ

เส้นใยเลือดพุ่งเข้าไปในร่างนักรบสังหารวิญญาณและค่อยๆ ฟื้นฟูพลังของพวกเขา

“เสร็จแล้ว”

มู่เฉินลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนจะพยักหน้าไปทางซูชิงหยิง “ขอบคุณ”

ซูชิงหยิงหยุดเส้นใยสีแดงเข้มทันที รีบเก็บแมลงหงส์ก่อนจะมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาถากถางอย่างเย็นชา “ทำไมไม่เอาต่อแล้วล่ะ? น่าจะฟื้นฟูได้มากกว่านี้อีก”

มู่เฉินยิ้มบาง “ข้าคงรับไหว”

นักรบสังหารวิญญาณสองพันนายเป็นขีดจำกัดในการลองของเขาแล้ว

“พูดเหมือนจำนวนตอนนี้เจ้าสามารถควบคุมได้” ซูชิงหยิงเค้นเสียงเย็น เห็นได้ชัดนางไม่คิดว่ามู่เฉินจะสามารถสั่งการนักรบสังหารวิญญาณสองพันนายได้ เพราะนี่เป็นกองทัพที่ขัดเกลาโดยจอมพลสองซึ่งสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนไปนับสิบแล้ว

แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่มีชีวิตและสติปัญญา จำนวนนักรบก็ได้รับความเสียหายดังนั้นความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวมจึงลดลงอย่างมาก ถ้ามู่เฉินสามารถสั่งการพวกเขาได้จริง เขาก็ไม่ต้องกลัวใครแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้น

มู่เฉินยิ้มไม่ได้สนใจนาง เขาโบกมือค่ายกลก็พลิกผัน เส้นทางปรากฏขึ้น ซูชิงหยิงรีบพุ่งออกมา

หลุดออกมาจากค่ายกล ร่างกายตึงเครียดของซูชิงหยิงก็ผ่อนคลายลงก่อนจะมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาร้ายกาจพร้อมกับความไม่พอใจ

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสายตากินเลือดกินเนื้อของนาง มู่เฉินก็ไม่กลัวขณะที่จ้องกลับด้วยรอยยิ้ม

สายตาทั้งสองฟาดฟันกัน ความผันผวนของคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัวก็เล็ดลอดออกมาจากพวกเขา

ซูชิงหยิงจับแมลงหงส์พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “เมื่อไม่มีค่ายกลนี้เจ้าจะสู้กับข้าได้อย่างไร?”

มู่เฉินยิ้ม “น่าจะสู้เจ้าไม่ไหวหรอกมั้ง”

ถ้าซูชิงหยิงยอมจ่ายราคาด้วยแมลงหงส์จริงๆ เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากแน่นอน

เมื่อได้ยินคำตอบของมู่เฉิน ซูชิงหยิงก็อึ้งไปก่อนที่ท่าทางอ่อนลง นางไม่เชื่อคำพูดของมู่เฉินเพราะเขาเจ้าเล่ห์เกินไป หากต้องต่อสู้ด้วยการวางชีวิตจริงๆ พร้อมกับแมลงหงส์ นางก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถฆ่ามู่เฉินได้

การเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์เช่นนี้ หากนางไม่สามารถฆ่าเขาได้ ก็เป็นการดีที่สุดที่จะไม่มีเขาเป็นศัตรู มิฉะนั้นนางคงไม่พบกับความสงบสุขอีกต่อไป

ยกตัวอย่างเซี่ยหยู่ที่มู่เฉินตัดสินใจสังหารอย่างเด็ดขาด นั่นทำให้แม้แต่ซูชิงหยิงยังตกใจเล็กน้อย ดังนั้นจิตใต้สำนึกของนางได้แต่ย้ำว่าเป็นการดีที่สุดที่นางจะไม่เป็นศัตรูกับมู่เฉิน

“ข้าได้ช่วยเซี่ยหยู่มาก่อนหน้าหลังจากได้รับผลประโยชน์บางอย่างเขา ครั้งนี้ถือว่าไม่ติดหนี้บุญคุณต่อกัน” สุดท้ายซูชิงหยิงก็ถอนพลังงานออกไปก่อนจะเค้นเสียงเย็นชา

หลังจากพิจารณาในใจ ซูชิงหยิงก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

“ขอบคุณ” มู่เฉินยิ้ม จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ใส่ใจกับการที่ซูชิงหยิงขัดขวางจิ่วโยว เพราะถ้านางต้องการผนึกกำลังกับเซี่ยหยู่เพื่อฆ่าเขา เขาก็ไม่สามารถฆ่าเซี่ยหยู่ได้

ดังนั้นไม่จำเป็นที่เขาต้องสู้กับซูชิงหยิงด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้

ซูชิงหยิงไม่คิดอยู่ที่นี่อีกต่อไป สายตามองไปที่กองทัพสังหารวิญญาณในค่ายกลเอ่ยว่า “เห็นแก่การร่วมมือกัน ข้าขอเตือนอีกครั้ง อย่ากินคำใหญ่เกินกว่าจะเคี้ยว กองทัพสังหารวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุม”

เมื่อพูดจบนางก็หันออกจากห้องโถงทันที

มองภาพเงาที่จากไปมู่เฉินก็ไม่ได้คิดหยุดนาง เขาหันไปหากองทัพสังหารวิญญาณในช่วงสั้นๆ พร้อมกับไฟลุกโชนในส่วนลึกของดวงตา

ถ้าเขาสามารถสั่งการกองทัพได้ เขาก็จะสามารถเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นได้ต่อให้ยังไม่ได้บรรลุขุมพลังตี้จื้อจุน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเป็นการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา ในเวลานั้นเขาจะก้าวเข้าสู่ลำดับชั้นสูงของทวีปเทียนหลัวแท้จริง

คิดถึงจุดนี้ มู่เฉินก็หายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์ในใจ เขาก้าวเข้าสู่ค่ายกลก่อนที่ตรงไปที่กองทัพสังหารวิญญาณ

หลังจากซูชิงหยิงได้สมบัติและจากไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เขาได้รับของตัวเองบ้าง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด