หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1540 แกะรอยปีศาจและแปดเนตร

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1540 แกะรอยปีศาจและแปดเนตร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามปีผ่านไปนับตั้งแต่มหาพันภพโจมตีมิติปีศาจ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมากองทัพสมาพันธ์มหาพันภพทำลายล้างแปดในสามสิบสองเผ่าใหญ่และเผ่ารองลงมาหลายสิบเผ่า พวกเขาถือว่าทำให้กองทัพจักรวรรดิปีศาจอ่อนแอลงได้ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเลยทีเดียว

ทว่าเซียวเหยียนกับหลินต้งไม่ได้ยินดีกับชัยชนะเหล่านี้เลย ใบหน้าของพวกเขากลับดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่พบร่องรอยของเทพปีศาจจักรพรรดิในช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมานี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันทรงพลังที่ก่อตัวขึ้นอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อฟื้นคืนกำลัง…

พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าจักรวรรดิปีศาจจะเปิดฉากการโจมตีรุนแรงอย่างไรเมื่อเทพปีศาจฟื้นคืนสู่ร่างเก้าเนตรและชำระหนี้แค้นคืนมหาศาลให้กับสิ่งที่พวกเขาทำมาตลอดสามปี

ในเวลานั้นพายุเลือดจะกวาดล้างมหาพันภพแน่นอน

ในมิติปีศาจที่ตั้งอยู่ในทวีปรกร้าง การสั่นไหวของคลื่นหลิงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าทำให้ทวีปมีชีวิตชีวาขึ้น

ร่างเงาเหล่านี้ก็คือกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาสูงตระหง่าน สองตาปิดลงเปิดประสาทสัมผัสการรับรู้โยงใยผ่านมิติเพื่อตรวจจับพิภพเขตล่างที่มีความผันผวนแปลกประหลาด

กระบวนการนี้ใช้เวลาครึ่งวัน แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ดูเหมือนว่าเผ่าปีศาจจะถอนทัพออกไปไกลแล้ว

ความคิดนี้วูบผ่านในใจ ทั้งสองเตรียมจะถอนการค้นหา ทว่าทันใดนั้นหัวใจก็สั่นสะท้านเมื่อพวกเขาดึงรับรู้และเพ็งเข้าไปยังจุดพิกัดหนึ่ง

เมื่อสักครู่พวกเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนคุ้นเคย

นั่นเป็นของเทพปีศาจจักรพรรดิ!

“พบแล้ว!”

ขณะนี้แม้แต่เซียวเหยียนและหลินต้งก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคลื่นในใจ พวกเขาส่งพลังยิ่งใหญ่ออกมาทันทีเพื่อฉีกพิกัดมิติออกจากกัน

หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายที่บรรจุคลื่นจิตของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

พอมาถึงระดับของพวกเขา ต่อให้เจ้าตัวไม่อยู่ก็สามารถส่งการโจมตีออกไปได้อย่างรวดเร็วตราบใดที่อยู่ในระยะการรับรู้

คลื่นหลิงทรงพลังสองสายพุ่งเข้าไปในหลุมดำ ซัดเข้าใส่วังที่ลอยอยู่ในความมืดมิด ที่ภายนอกพวกเขาเห็นจอมปีศาจเซิ่งเทียนฉายสีหน้าเคร่งขรึมอยู่

ทว่าหลินต้งและเซียวเหยียนไม่ได้สนใจจอมปีศาจเซิ่งเทียนสักเล็กน้อย แต่เล็งไปที่ส่วนลึกที่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนที่น่ากลัวที่กำลังก่อตัวขึ้น

“เทพปีศาจจักรพรรดิ!”

คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายปลดปล่อยเสียงคำรามดังก้องขณะที่ครางกระหึ่มไม่หยุด

ความมืดที่ครอบงำถูกฉีกออกจากกัน มองเห็นร่างปีศาจร่างหนึ่งนั่งอยู่ นี่คือเทพปีศาจจักรพรรดิที่สัมผัสได้ถึงการโจมตีที่เข้ามา ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ดวงตาดำสนิทราวกับว่าสามารถกลืนกินแสงใดๆ ได้

“แกสองคนน่ารำคาญจริงๆ…” เทพปีศาจจักรพรรดิมองคลื่นหลิงขนาดมหึมาสองสายอย่างไม่แยแสพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันผุดที่ริมฝีปาก

“แต่พวกแกสองคนมาช้าเกินไป!”

เมื่อเทพปีศาจพูดจบ นอกจากดวงตาปกติสองดวงและสามดวงบนหน้าผาก ดวงตาบนฝ่ามือและหน้าอกก็เปิดออกด้วย

แปดตา!

เมื่อดวงตาชั่วร้ายทั้งแปดเปิดออกรัศมีปีศาจไร้ขอบเขตก็แผ่กระจายไปทั่วมิติสร้างกลุ่มควันขึ้นก่อนที่จะรวมตัวเป็นวงล้อมหึมาฉีกผ่านสวรรค์ในเส้นทางที่พุ่งผ่าน

ตู้ม!

เมื่อวงล้อปะทะคลื่นหลิงที่ลงมาจากฟากฟ้า พิภพเขตล่างแห่งนี้ก็สั่นสะเทือนใกล้จะพังทลายลง

“แค่คลื่นหลิงที่ซัดเข้ามายังคิดจะสู้กับแปดตาของข้าเรอะ? ฝันหวานไปแล้ว!”

เทพปีศาจหัวเราะร่าขณะวงล้อเร่งความเร็วขึ้น พิภพเขตล่างนี้ถูกฉีกออกจากกัน ในเวลาเดียวกันคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายก็ถูกบดขยี้

หลังจากทำลายคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสาย วงล้อก็ไม่ได้สลายไปแต่เกาะเข้ากับบางสิ่งและหายไป

ในอีกมิติหนึ่ง หลินต้งและเซียวเหยียนลืมตาขึ้นพร้อมกับสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง จากนั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นวงล้อปีศาจมหึมาฉีกผ่านท้องฟ้าเคลื่อนลงมาราวกับว่ากำลังพยายามแบ่งดินแดนออกเป็นสองส่วน

การโจมตีกะทันหันดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธ์สมาพันธ์มหาพันภพทันที ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกถึงพลังน่ากลัวที่บรรจุอยู่ในวงล้อ

ใบหน้าของเซียวเหยียนเย็นชาลงขณะมือประสานเข้าด้วยกัน เสื้อคลุมพลิ้วสะบัดพร้อมกับเพลิงจักรพรรดิลุกโชนพุ่งออกมาก่อร่างเป็นมังกรปะทะกับวงล้อปีศาจ

ตู้ม!

เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน มังกรเพลิงก็ขาดออกจากกันแต่วงล้อปีศาจจางลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลินต้งชกกำปั้นออกไปจากระยะไกล ทำให้มิติแตกร้าวในเส้นทางที่ผ่าน สุดท้ายวงล้อปีศาจก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

“ไม่เลว ไม่เลว เจ้าสองคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะปะทะกัน รออีกหน่อยนะ รอให้ดวงตาที่เก้าของข้าฟื้นฟูซะก่อน แล้วข้าจะไปหาพวกเจ้าถึงบ้านเลย”

“ฮ่าๆ พวกแกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจของข้าอย่างป่าเถื่อน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาข้าจะจ่ายคืนให้เป็นร้อยเท่า!”

วงล้อปีศาจพังลง แต่เสียงหัวเราะเทพปีศาจกลับดังก้องไปทั่วขอบฟ้า

จอมยุทธ์จากมหาพันภพต่างมีสีหน้าไม่น่าดู ความกลัวและความโกรธพล่านในดวงตาพวกเขา

หลินต้งและเซียวเหยียนแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาสามารถมองเห็นความเคร่งขรึมในดวงตาของกันและกัน ในการเผชิญหน้าช่วงสั้นๆ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเทพปีศาจจักรพรรดิที่เพิ่มขึ้น

ถ้าในอดีตเมื่อพวกเขาร่วมมือกันแล้วได้เปรียบ มิหนำซ้ำยังสามารถหาจุดอ่อนของเทพปีศาจและปราบปรามได้ ในตอนนี้พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไปแล้วถึงจะร่วมมือกันก็ตาม

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลาย พลังมีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งรวดเร็วกว่า

วาบ!

ฉิงเทียน ชิงซันและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งทั้งหมดมาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเทพจักรพรรดิทั้งสองพร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดรุนแรง “ท่านเทพจักรพรรดิอัคคี ท่านเทพจักรพรรดิสงคราม พวกเจ้าพบร่องรอยของเทพปีศาจหรือไม่?”

หลินต้งและเซียวเหยียนพยักหน้าตอบว่า “เจอแล้ว แต่ข้าเกรงว่าตอนนี้เทพปีศาจเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว ปีศาจตัวนี้ระวังตัวแจ ดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะอยู่ในสภาพพร้อมรบสูงสุด เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับพวกข้าสองคน”

“จากคำบอกของไอ้เทพปีศาจ ตอนนี้มันเปิดดวงตาดวงที่แปดได้แล้ว” สีหน้าของฉิงเทียนน่าเกลียดลง

หลินต้งและเซียวเหยียนถอนหายใจกับคำพูดเหล่านั้น

“แล้วตอนนี้เราควรทำอย่างไร? เราควรจะติดตามต่อไปหรือไม่?” จักรพรรดิมังกรแท้จริงถามขึ้น

หลินต้งและเซียวเหยียนส่ายหัวตอบว่า “เตรียมเถอะ กองทัพของเราเหนื่อยล้าตลอดสามปีมานี้ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ไอ้เทพปีศาจจะฟื้นตัวขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราควรจะฟื้นฟูพลังเต็มที่เตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ดีกว่า”

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเทพปีศาจได้อีกต่อไป แม้ว่าจะหาเจอก็ตาม ใครจะรู้พวกเขาอาจถูกลากเข้าสู่สงครามยาวนานและกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพอาจได้รับการตอบโต้กลับจากเผ่าปีศาจต่างๆ

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบหลังจากได้ยินคำพูดของเทพจักรพรรดิทั้งสอง ในช่วงสามปีที่ผ่านมานอกเหนือจากการกำจัดเผ่าปีศาจบางส่วน พวกเขาก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้ายได้

อีกก้าวเดียวเทพปีศาจก็จะเปิดดวงตาที่เก้าได้แล้ว

แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้วันนั้นมาถึง

“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ผู้อาวุโสปู้สื่อเพิ่งส่งข่าวมาว่ามู่เฉินบรรลุขั้นสามพิสุทธิ์ได้แล้ว ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนร่างมหารัศมีอนันด์และร่างมหาปราชญ์วิญญาณ หากเขาทำสำเร็จก็จะมีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นจอมยุทธ์คนที่สามบนทำเนียบ ถึงเวลานั้นเราอาจจะสามารถต่อสู้กับเทพปีศาจเก้าเนตรได้” เมื่อเห็นทุกคนไม่สบายใจเซียวเหยียนก็เอ่ยปลอบใจ

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่าทางของทุกคนก็คลายลง สายตาเต็มไปด้วยความหวัง

“ออกคำสั่งให้ทุกคนถอยทัพ”

ทุกคนประสานมือรับคำสั่งก่อนที่จะทะยานออกไป ร่างแสงนับไม่ถ้วนบินออกไปอย่างรวดเร็ว กองทัพสมาพันธ์มหาพันเริ่มถอยออกจากมิติปีศาจ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาพลางถอนหายใจขณะมองไปที่ร่างเงาผู้คน จากนั้นสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เนื่องจากพวกเขารู้ว่าความทุกข์ยากกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

หากพวกเขาประมาทในเวลานั้น มหาพันภพก็จะถูกทำลาย…

“เวลานี้ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับมู่เฉินแล้ว…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1540 แกะรอยปีศาจและแปดเนตร

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1540 แกะรอยปีศาจและแปดเนตร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามปีผ่านไปนับตั้งแต่มหาพันภพโจมตีมิติปีศาจ

ในช่วงสามปีที่ผ่านมากองทัพสมาพันธ์มหาพันภพทำลายล้างแปดในสามสิบสองเผ่าใหญ่และเผ่ารองลงมาหลายสิบเผ่า พวกเขาถือว่าทำให้กองทัพจักรวรรดิปีศาจอ่อนแอลงได้ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเลยทีเดียว

ทว่าเซียวเหยียนกับหลินต้งไม่ได้ยินดีกับชัยชนะเหล่านี้เลย ใบหน้าของพวกเขากลับดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป

นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่พบร่องรอยของเทพปีศาจจักรพรรดิในช่วงสามปีครึ่งที่ผ่านมานี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันทรงพลังที่ก่อตัวขึ้นอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อฟื้นคืนกำลัง…

พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าจักรวรรดิปีศาจจะเปิดฉากการโจมตีรุนแรงอย่างไรเมื่อเทพปีศาจฟื้นคืนสู่ร่างเก้าเนตรและชำระหนี้แค้นคืนมหาศาลให้กับสิ่งที่พวกเขาทำมาตลอดสามปี

ในเวลานั้นพายุเลือดจะกวาดล้างมหาพันภพแน่นอน

ในมิติปีศาจที่ตั้งอยู่ในทวีปรกร้าง การสั่นไหวของคลื่นหลิงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าทำให้ทวีปมีชีวิตชีวาขึ้น

ร่างเงาเหล่านี้ก็คือกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาสูงตระหง่าน สองตาปิดลงเปิดประสาทสัมผัสการรับรู้โยงใยผ่านมิติเพื่อตรวจจับพิภพเขตล่างที่มีความผันผวนแปลกประหลาด

กระบวนการนี้ใช้เวลาครึ่งวัน แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ดูเหมือนว่าเผ่าปีศาจจะถอนทัพออกไปไกลแล้ว

ความคิดนี้วูบผ่านในใจ ทั้งสองเตรียมจะถอนการค้นหา ทว่าทันใดนั้นหัวใจก็สั่นสะท้านเมื่อพวกเขาดึงรับรู้และเพ็งเข้าไปยังจุดพิกัดหนึ่ง

เมื่อสักครู่พวกเขารู้สึกได้ถึงความผันผวนคุ้นเคย

นั่นเป็นของเทพปีศาจจักรพรรดิ!

“พบแล้ว!”

ขณะนี้แม้แต่เซียวเหยียนและหลินต้งก็อดไม่ได้ที่จะเกิดคลื่นในใจ พวกเขาส่งพลังยิ่งใหญ่ออกมาทันทีเพื่อฉีกพิกัดมิติออกจากกัน

หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายที่บรรจุคลื่นจิตของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

พอมาถึงระดับของพวกเขา ต่อให้เจ้าตัวไม่อยู่ก็สามารถส่งการโจมตีออกไปได้อย่างรวดเร็วตราบใดที่อยู่ในระยะการรับรู้

คลื่นหลิงทรงพลังสองสายพุ่งเข้าไปในหลุมดำ ซัดเข้าใส่วังที่ลอยอยู่ในความมืดมิด ที่ภายนอกพวกเขาเห็นจอมปีศาจเซิ่งเทียนฉายสีหน้าเคร่งขรึมอยู่

ทว่าหลินต้งและเซียวเหยียนไม่ได้สนใจจอมปีศาจเซิ่งเทียนสักเล็กน้อย แต่เล็งไปที่ส่วนลึกที่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนที่น่ากลัวที่กำลังก่อตัวขึ้น

“เทพปีศาจจักรพรรดิ!”

คลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายปลดปล่อยเสียงคำรามดังก้องขณะที่ครางกระหึ่มไม่หยุด

ความมืดที่ครอบงำถูกฉีกออกจากกัน มองเห็นร่างปีศาจร่างหนึ่งนั่งอยู่ นี่คือเทพปีศาจจักรพรรดิที่สัมผัสได้ถึงการโจมตีที่เข้ามา ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ดวงตาดำสนิทราวกับว่าสามารถกลืนกินแสงใดๆ ได้

“แกสองคนน่ารำคาญจริงๆ…” เทพปีศาจจักรพรรดิมองคลื่นหลิงขนาดมหึมาสองสายอย่างไม่แยแสพร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันผุดที่ริมฝีปาก

“แต่พวกแกสองคนมาช้าเกินไป!”

เมื่อเทพปีศาจพูดจบ นอกจากดวงตาปกติสองดวงและสามดวงบนหน้าผาก ดวงตาบนฝ่ามือและหน้าอกก็เปิดออกด้วย

แปดตา!

เมื่อดวงตาชั่วร้ายทั้งแปดเปิดออกรัศมีปีศาจไร้ขอบเขตก็แผ่กระจายไปทั่วมิติสร้างกลุ่มควันขึ้นก่อนที่จะรวมตัวเป็นวงล้อมหึมาฉีกผ่านสวรรค์ในเส้นทางที่พุ่งผ่าน

ตู้ม!

เมื่อวงล้อปะทะคลื่นหลิงที่ลงมาจากฟากฟ้า พิภพเขตล่างแห่งนี้ก็สั่นสะเทือนใกล้จะพังทลายลง

“แค่คลื่นหลิงที่ซัดเข้ามายังคิดจะสู้กับแปดตาของข้าเรอะ? ฝันหวานไปแล้ว!”

เทพปีศาจหัวเราะร่าขณะวงล้อเร่งความเร็วขึ้น พิภพเขตล่างนี้ถูกฉีกออกจากกัน ในเวลาเดียวกันคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสายก็ถูกบดขยี้

หลังจากทำลายคลื่นหลิงยิ่งใหญ่สองสาย วงล้อก็ไม่ได้สลายไปแต่เกาะเข้ากับบางสิ่งและหายไป

ในอีกมิติหนึ่ง หลินต้งและเซียวเหยียนลืมตาขึ้นพร้อมกับสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรง จากนั้นเมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นวงล้อปีศาจมหึมาฉีกผ่านท้องฟ้าเคลื่อนลงมาราวกับว่ากำลังพยายามแบ่งดินแดนออกเป็นสองส่วน

การโจมตีกะทันหันดูดความสนใจของเหล่าจอมยุทธ์สมาพันธ์มหาพันภพทันที ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกถึงพลังน่ากลัวที่บรรจุอยู่ในวงล้อ

ใบหน้าของเซียวเหยียนเย็นชาลงขณะมือประสานเข้าด้วยกัน เสื้อคลุมพลิ้วสะบัดพร้อมกับเพลิงจักรพรรดิลุกโชนพุ่งออกมาก่อร่างเป็นมังกรปะทะกับวงล้อปีศาจ

ตู้ม!

เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน มังกรเพลิงก็ขาดออกจากกันแต่วงล้อปีศาจจางลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลินต้งชกกำปั้นออกไปจากระยะไกล ทำให้มิติแตกร้าวในเส้นทางที่ผ่าน สุดท้ายวงล้อปีศาจก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

“ไม่เลว ไม่เลว เจ้าสองคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่เราจะปะทะกัน รออีกหน่อยนะ รอให้ดวงตาที่เก้าของข้าฟื้นฟูซะก่อน แล้วข้าจะไปหาพวกเจ้าถึงบ้านเลย”

“ฮ่าๆ พวกแกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจของข้าอย่างป่าเถื่อน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาข้าจะจ่ายคืนให้เป็นร้อยเท่า!”

วงล้อปีศาจพังลง แต่เสียงหัวเราะเทพปีศาจกลับดังก้องไปทั่วขอบฟ้า

จอมยุทธ์จากมหาพันภพต่างมีสีหน้าไม่น่าดู ความกลัวและความโกรธพล่านในดวงตาพวกเขา

หลินต้งและเซียวเหยียนแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาสามารถมองเห็นความเคร่งขรึมในดวงตาของกันและกัน ในการเผชิญหน้าช่วงสั้นๆ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของเทพปีศาจจักรพรรดิที่เพิ่มขึ้น

ถ้าในอดีตเมื่อพวกเขาร่วมมือกันแล้วได้เปรียบ มิหนำซ้ำยังสามารถหาจุดอ่อนของเทพปีศาจและปราบปรามได้ ในตอนนี้พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไปแล้วถึงจะร่วมมือกันก็ตาม

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่ได้ผ่อนคลาย พลังมีการเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าเทพปีศาจเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งรวดเร็วกว่า

วาบ!

ฉิงเทียน ชิงซันและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งทั้งหมดมาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเทพจักรพรรดิทั้งสองพร้อมกับท่าทางเคร่งเครียดรุนแรง “ท่านเทพจักรพรรดิอัคคี ท่านเทพจักรพรรดิสงคราม พวกเจ้าพบร่องรอยของเทพปีศาจหรือไม่?”

หลินต้งและเซียวเหยียนพยักหน้าตอบว่า “เจอแล้ว แต่ข้าเกรงว่าตอนนี้เทพปีศาจเปลี่ยนตำแหน่งไปแล้ว ปีศาจตัวนี้ระวังตัวแจ ดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะอยู่ในสภาพพร้อมรบสูงสุด เขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับพวกข้าสองคน”

“จากคำบอกของไอ้เทพปีศาจ ตอนนี้มันเปิดดวงตาดวงที่แปดได้แล้ว” สีหน้าของฉิงเทียนน่าเกลียดลง

หลินต้งและเซียวเหยียนถอนหายใจกับคำพูดเหล่านั้น

“แล้วตอนนี้เราควรทำอย่างไร? เราควรจะติดตามต่อไปหรือไม่?” จักรพรรดิมังกรแท้จริงถามขึ้น

หลินต้งและเซียวเหยียนส่ายหัวตอบว่า “เตรียมเถอะ กองทัพของเราเหนื่อยล้าตลอดสามปีมานี้ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ไอ้เทพปีศาจจะฟื้นตัวขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราควรจะฟื้นฟูพลังเต็มที่เตรียมพร้อมสำหรับศึกใหญ่ดีกว่า”

นอกจากนี้พวกเขาก็ไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อเทพปีศาจได้อีกต่อไป แม้ว่าจะหาเจอก็ตาม ใครจะรู้พวกเขาอาจถูกลากเข้าสู่สงครามยาวนานและกองทัพสมาพันธ์มหาพันภพอาจได้รับการตอบโต้กลับจากเผ่าปีศาจต่างๆ

ทุกคนตกอยู่ในความเงียบหลังจากได้ยินคำพูดของเทพจักรพรรดิทั้งสอง ในช่วงสามปีที่ผ่านมานอกเหนือจากการกำจัดเผ่าปีศาจบางส่วน พวกเขาก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้ายได้

อีกก้าวเดียวเทพปีศาจก็จะเปิดดวงตาที่เก้าได้แล้ว

แต่พวกเขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้วันนั้นมาถึง

“ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง ผู้อาวุโสปู้สื่อเพิ่งส่งข่าวมาว่ามู่เฉินบรรลุขั้นสามพิสุทธิ์ได้แล้ว ตอนนี้เขากำลังฝึกฝนร่างมหารัศมีอนันด์และร่างมหาปราชญ์วิญญาณ หากเขาทำสำเร็จก็จะมีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นจอมยุทธ์คนที่สามบนทำเนียบ ถึงเวลานั้นเราอาจจะสามารถต่อสู้กับเทพปีศาจเก้าเนตรได้” เมื่อเห็นทุกคนไม่สบายใจเซียวเหยียนก็เอ่ยปลอบใจ

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ท่าทางของทุกคนก็คลายลง สายตาเต็มไปด้วยความหวัง

“ออกคำสั่งให้ทุกคนถอยทัพ”

ทุกคนประสานมือรับคำสั่งก่อนที่จะทะยานออกไป ร่างแสงนับไม่ถ้วนบินออกไปอย่างรวดเร็ว กองทัพสมาพันธ์มหาพันเริ่มถอยออกจากมิติปีศาจ

หลินต้งและเซียวเหยียนยืนอยู่บนภูเขาพลางถอนหายใจขณะมองไปที่ร่างเงาผู้คน จากนั้นสีหน้าพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เนื่องจากพวกเขารู้ว่าความทุกข์ยากกำลังจะมาถึงในไม่ช้า

หากพวกเขาประมาทในเวลานั้น มหาพันภพก็จะถูกทำลาย…

“เวลานี้ก็ได้แต่ฝากความหวังไว้กับมู่เฉินแล้ว…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+