หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 850 ร่างแสงดาวปฐมกาล

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 850 ร่างแสงดาวปฐมกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 850 ร่างแสงดาวปฐมกาล

บนขอบฟ้า

ร่างมู่เฉินพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่ ขณะที่แสงสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากด้านหลัง ก่อตัวเป็นดอกไม้ที่น่าหลงใหลและลึกลับ

ดอกไม้ค่อยๆ คลี่บานพร้อมกับลวดลายโบราณปกคลุมไปทั่วกลีบดอก ขณะที่ดอกไม้พลิ้วไหว กระทั่งท้องฟ้าก็ดูเหมือนมืดลง พลังลึกลับแผ่ออกมาเงียบๆ

ทุกคนรู้สึกถึงคลื่นอันตรายหนาแน่นในเวลานี้ พวกเขามองไปที่ดอกไม้ลึกลับน่าหลงใหลที่อยู่เบื้องหลังมู่เฉินด้วยแววตาตกตะลึง

“ทำไมไอ้เวรนี่ถึงมีทักษะมากขนาดนี้?!” ใบหน้าสูป้าเขียวคล้ำขณะที่มองภาพนี้ สายตาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดอย่างยิ่ง นั่นเพราะเขาสามารถบอกได้ว่าทักษะที่มู่เฉินใช้ครั้งนี้ทรงพลังยิ่งกว่าวิชาเก้ามังกรคชสารที่ใช้มาก่อนหน้าเสียอีก!

วิชาเก้ามังกรคชสารก็เป็นกระบวนท่าระดับเสินซู่ขั้นเกือบเต็มแล้ว แบบนี้ไม่ได้หมายความมู่เฉินมีกระบวนท่าเสินซู่ขั้นเต็มอยู่กับตัวหรอกหรือ?!

ความจริงข้อนี้ทำให้สูป้าหนังตากระตุกไม่หยุด นั่นเพราะเขารู้ดีว่าวิชาระดับนี้ล้ำค่าและหายากมากแค่ไหน แม้แต่ในหมู่ตึกเทวะก็ยังเป็นวิชาชั้นยอดที่กระทั่งคนอย่างเขายังเข้าถึงได้ยาก

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือกระบวนท่าระดับเสินซู่ขั้นเต็มใช่ว่าได้รับมาแล้วจะประสบผลสำเร็จในการฝึกฝน นั่นเพราะมันมีเงื่อนไขเข้มงวดมากสำหรับผู้ฝึก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝึกฝนได้สำเร็จ

ดังนั้นเมื่อสูป้าเห็นมู่เฉินมีวิชาล้ำค่าในระดับเสินซู่ขั้นเต็มและยังสามารถฝึกฝนได้สำเร็จ กระทั่งคนอย่างเขายังอดรู้สึกไม่ได้ที่จะอิจฉาในหัวใจ

ขณะที่ทุกสายตาพุ่งไปยังดอกไม้ลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมู่เฉินด้วยอาการตกใจ มู่เฉินกลับเลียคราบเลือดที่มุมปาก ม่านตาสีดำลึกล้ำที่ไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ จ้องตรงไปที่ฟังยี่ที่มีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงไปรุนแรง

มู่เฉินไม่ลังเลขณะประสานมือกันเข้าด้วยกัน ดอกแมนดาลาด้านหลังก็เบ่งบาน เกสรดอกไม้เล็งไปที่ฟังยี่

วาบ!

ใบหน้าของฟังยี่เขียวคล้ำ เขาส่งแรงถอยกลับไปอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นภาพมายาบนท้องฟ้า เขาสัมผัสได้ว่ากระบวนท่านี้ของมู่เฉินทรงพลังปานใด เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ แม้แต่คนอย่างเขายังต้องเลือกที่จะหลบไปก่อน

ฟังยี่เคยได้เห็นการโจมตีลึกลับนี้ของมู่เฉินในเขตหลงเฟิ่งมาก่อน ตอนนั้นท่าไม้ตายของโยวหมิงก็ถูกต้านไว้ด้วยกระบวนท่านี้ของมู่เฉิน ดังนั้นฟังยี่จึงรู้ซึ้งถึงพลังดี

นอกจากนี้มู่เฉินยังแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนที่สู้กับโยวหมิง ดังนั้นกระบวนท่าเดียวกันจึงทรงประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหลายเท่า

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

มู่เฉินมองไปที่ฟังยี่ที่ถอยห่างอย่างไม่แยแส จากนั้นก็หลับตาลงช้าๆ ระลอกเสียงเยือกเย็นกระเพื่อมภายในใจซึ่งอัดแน่นด้วยจิตสังหาร

“แสงบุปผาทำลายฟ้า!”

มู่เฉินเหยียดนิ้วออกกดลงบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ จังหวะนั้นมิติที่เบื้องล่างปลายนิ้วก็แตกออกเป็นเสี่ยงราวกับกระจก รอยแตกพล่านออกมา

ปัง!

ดอกแมนดาลาที่อยู่ด้านหลังก็เบ่งบานอย่างสมบูรณ์ วินาทีต่อมาเกสรดอกไม้สั่นไหวพร้อมกับแสงสีม่วงเข้มยิงออกมา

เมื่อแสงสีม่วงเข้มพุ่งผ่านขอบฟ้า ทั่วบริเวณก็มืดลง ราวกับแสงธรรมชาติถูกกลืนกินโดยแสงสีม่วง ช่างเป็นฉากที่ประหลาดนัก

ความเร็วของแสงสีม่วงไม่สามารถพรรณนาได้ ดูราวกับงูเลื้อยที่ทำให้มิติแตกออกในเส้นทางผ่าน ระยะทางราวกับถูกมันมองข้าม

แค่พริบตาเดียวแสงทำลายล้างก็มาถึงที่เบื้องหน้าฟังยี่

ใบหน้าฟังยี่เคร่งเครียดลง เขาสูดหายใจเข้าลึก ฝ่ามือวาดตราประทับวูบไหว คลื่นหลิงเชี่ยวกรากกวาดออก ก่อร่างเป็นภาพดวงดาวขนาดพันจั้งที่เบื้องหน้า

“ภาพดาวเคลื่อนฟ้า!”

แผนภาพดวงดาวกระจายออก ช่างลึกซึ้งและลึกลับมาก เกิดการไหลเวียนของคลื่นหลิงทรงพลัง

ตู้ม!

แสงสีม่วงพุ่งออกอย่างไม่ลังเล กระแทกเข้ากับแผนภาพดวงดาวภายใต้สายตาตื่นตะลึงนับไม่ถ้วน

แคร็ก!

ทันทีที่ปะทะกัน ก็เกิดรอยแตกบนภาพดวงดาวที่ทรงพลัง รอยแตกกระจายออกไปด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง ครอบคลุมทั้งแผนภาพในเวลาไม่กี่อึดใจ

บึ้ม!

ขณะที่รอยแตกกระจายออกไปถึงขีดสุด แผนภาพดวงดาวก็สลายแล้วร่วงกราวกลายเป็นประกายแสงพร่างพราย ฉากนี้งดงามตระการตามาก

ฟิ้ว!

ลำแสงทำลายล้างทะลุผ่านจุดแสงทั่วฟ้าอย่างไม่ลดกำลัง ซัดเข้าที่ร่างเลือนรางที่ซ่อนอยู่ในนั้น ทันใดนั้นท้องฟ้าแถบนั้นก็ราวกับพังทลายลง

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนท่าทางเปลี่ยนไปรุนแรง เผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ แม้แต่ฟังยี่ที่อยู่ในขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุด ก็ต้องได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน

“น่าเกรงขามจริง” ในหุบเขาใบหน้าของหวูเทียนอยู่ในอาการตกตะลึงกับฉากนี้ สายตาหันมองร่างที่มีผมยาวเหยียดสีดำด้วยความยากลำบาก แม้เขาจะเคยเห็นว่ามู่เฉินทรงพลังเพียงใดในพิธีมอบยศราชัน แต่ก็ยังไม่อยากเชื่อว่ามู่เฉินจะสามารถบีบจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุดมาอยู่ในจุดนี้ได้

ต้องรู้ว่าเมื่อปีก่อนตอนที่มู่เฉินเพิ่งเข้าร่วมกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาเป็นเพียงไอ้หนูน้อยที่เพิ่งบรรลุระดับจื้อจุน แต่ตอนนี้เขาไม่มีความกลัวแม้จะต้องประจันหน้ากับเจ้าบันทึกจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือ

พัฒนาการของเขาทำให้แม้แต่คนที่ภาคภูมิใจในตนเองอย่างหวูเทียนก็พูดไม่ออก

ทุกสายตายามนี้รวมกันอยู่บนท้องฟ้าที่ประกายแสงพร่างพราว

จิ่วโยว สูป้าและเสี่ยยิงก็ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเฉียบคมกำลังจ้องมองไปที่คลื่นหลิงที่ผันผวนรุนแรง

มู่เฉินยืนบนท้องฟ้า ปาดเลือดที่มุมปากออก ม่านตาสีดำจับจ้องไปที่แสงพราวระยับ เหมือนจะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มาจากจุดนั้น ราวกับว่าคนที่อยู่ข้างในอันตรธานหายไป

ฟังยี่ถูกฆ่าไปแล้วเหรอ?

มู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย ทว่าอึดใจต่อมาม่านตาก็หดเกร็ง

ปัง!

จังหวะเดียวกันนั้นประกายแสงในอีกมุมหนึ่งบนท้องฟ้าก็ระเบิดออก แสงผันผวนบ้าคลั่ง ร่างใหญ่ร่างหนึ่งทะยานออกมาปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉิน ฝ่ามือขนาดใหญ่ราวภูเขาฟาดลงมาใส่อย่างจัง

การโจมตีเกิดขึ้นกะทันหัน กระทั่งมู่เฉินที่อยู่ในสภาวะฤทัยปีศาจ ก็ยังไม่ทันตั้งตัว ทว่าก่อนที่ฝ่ามือจะซัดใส่ร่าง ร่างเขาก็เปล่งประกายด้วยแสงสีทอง เกราะมังกรหงส์ถูกเรียกออกมา

เคร้ง!

ฝ่ามือกระแทกลงมาราวกับภูเขา ทำให้มิติกระเพื่อม แรงอันไร้ปรานีกระแทกใส่มู่เฉิน ทันใดนั้นเสียงปะทะของโลหะก็ดังขึ้น ร่างของมู่เฉินดิ่งพสุธาลงมาบนยอดเขาจนวินาศสันตะโร รอยแตกกระจายอย่างรวดเร็วบนพื้นดิน

การพลิกผันฉับพลัน ทำให้ทุกคนตกใจไป จนมู่เฉินตกลงมาบนพื้นแล้ว พวกเขาถึงได้สติกลับมา แล้วรีบเงยหน้าขึ้นมอง บนท้องฟ้ามีร่างใหญ่โตแผ่แรงกดดันของคลื่นหลิงที่น่าอัศจรรย์

ร่างนั้นมีขนาดพันจั้งโดยมีภาพสลักดวงดาวนับไม่ถ้วนบนพื้นผิว กลุ่มดาวเชื่อมต่อซึ่งกันและกัน ราวกับกลายเป็นแผนภาพดวงดาวที่ลึกซึ้ง

แต่ขณะนี้แขนซ้ายของร่างนั้นถูกทำลาย ทำให้กลายเป็นยักษ์แขนเดียว!

“นั่นคือ?!”

สายตามากมายจ้องมองไปที่ยักษ์แขนเดียว จากนั้นเสียงอุทานก็ดังก้องออกไป “นั่นมันร่างแสงดาวปฐมกาล?”

“ร่างแสงดาวปฐมกาลอันดับหกสิบห้าของทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง?!”

“ใช่ ว่ากันว่าร่างแสงดาวปฐมกาลนี้เป็นร่างเทห์สวรรค์ชั้นยอดของหมู่ตึกเทวะ ไม่คิดว่าฟังยี่จะฝึกฝนได้สำเร็จ แต่ปกติน้อยคนมากที่บีบให้เขาต้องงัดร่างเทห์สวรรค์นี้ออกมา”

“อันดับหกสิบห้า ร่างเทห์สวรรค์นี้ทรงพลังมาก ว่ากันว่าเมื่อฝึกจนถึงขั้นสูงสุด ก็สามารถเปลี่ยนร่างให้กลายเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ภายใต้แสงดาวร่างแสงดาวปฐมกาลก็จะอยู่ยงคงกระพัน”

“อืม ไม่แปลกใจเลยที่สามารถต้านกระบวนท่าก่อนหน้าของมู่เฉินได้ ที่แท้ฟังยี่ก็งัดไม้เด็ดออกมาแล้วนี่เอง”

“…”

ภายใต้ความโกลาหล ร่างของฟังยี่ก็ปรากฏบนหัวของร่างใหญ่โตในพริบตา ใบหน้าเขาซีดลงหลายส่วน เห็นชัดว่าได้รับบาดเจ็บจากกระบวนท่าเมื่อครู่ของมู่เฉินด้วยเช่นกัน

มันหนักหนาจนแม้แต่เร้าร่างเทห์สวรรค์ออกมาแล้วยังต้องจ่ายราคาด้วยแขนข้างหนึ่งที่ถูกทำลาย ซึ่งทำให้พลังอำนาจของร่างแสงดาวปฐมกาลอ่อนแอลงจากเดิม

สายตามืดครึ้มของฟังยี่มองลงไปบนพื้นดินที่ยุบตัว เขารู้สึกได้ถึงความอ่อนล้าของคลื่นหลิงในร่างกาย แม้เขาจะไม่เคยประเมินมู่เฉินต่ำ แต่ก็เกินความคาดหมายที่ตัวเองถูกบีบให้อยู่ในสถานการณ์นี้สำหรับการต่อสู้ครั้งนี้

“สามารถบีบข้าให้มาถึงจุดนี้ได้ อันดับสามในบันทึกมังกรหงส์เจ้าก็สมควรได้รับแล้ว”

เสียงของฟังยี่เย็นชาลงพร้อมกับจิตสังหารพลุ่งพล่านในดวงตาเต็มพิกัด เขารู้ว่าถ้าไม่กำจัดมู่เฉินในครั้งนี้ ชื่อเสียงของอีกฝ่ายจะเติบโตแบบฉุดไม่อยู่แน่

ถึงเวลานั้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนอย่างฟังยี่จะกลายเป็นหินรองเท้าให้กับมู่เฉิน

เห็นได้ชัดนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาทนได้

ดังนั้นฟังยี่จึงวาดตราประทับเร็วรี่ แสงดาวพร่างพราวระเบิดออกจากแผนภาพดวงดาวบนร่างแสงดาวปฐมกาล จากนั้นแสงดาวก็พุ่งมารวมกันบนฝ่ามือใหญ่โต ก่อร่างเป็นหอกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว

“หอกแสงดาว!”

“ข้าจะจบศึกด้วยกระบวนท่านี้!”

ฟังยี่คำรามออกมาจากลำคอ ฝ่าเท้ากระทืบลงไป ร่างเขาราวกับรวมเข้ากับร่างแสงดาวปฐมกาล ส่งเสียงหวีดหวิวพร้อมกับแสงดาวปกคลุมทั่วท้องฟ้า หอกที่เต็มไปด้วยดวงดาวกวนตัวด้วยระลอกคลื่นขนาดใหญ่ ซัดลงมาบนพื้นดินที่พังทลาย

จอมยุทธ์หลายคนสวมสีหน้าหนักหน่วง ทุกคนบอกได้ว่าฟังยี่เร้าการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดแล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะสังหารมู่เฉินที่กำลังบาดเจ็บให้จงได้

การต่อสู้ระหว่างม้ามืดกับเจ้าบันทึกมาถึงจุดชี้เป็นชี้ตายแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด