หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1530 ทำเนียบเหนือภพ

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1530 ทำเนียบเหนือภพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แกก็ไม่สามารถดูถูกเหยียดหยามมหาพันภพได้”

เมื่อเสียงของเทพจักรพรรดิทั้งสองดังกึกก้อง ม่านรัศมีขนาดใหญ่ก็เคลื่อนลงมา แยกรัศมีปีศาจออกจากกัน

มู่เฉินและเหล่าจอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง คลื่นหลิงที่ไหลเวียนระหว่างฟ้าดินมาถึงระดับที่น่ากลัว

ซึ่งอยู่ในระดับที่แม้แต่จอมยุท์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายยังต้องเกรงกลัว

นอกจากนี้ยังมีพลังงานที่น่าทึ่งบรรจุอยู่ในคลื่นหลิงอีกด้วย แรงกดดันใกล้เคียงกับโลกมาก

ใบหน้าของเทพปีศาจดูเคร่งขรึมลงขณะมองไปที่คลื่นหลิง ม่านตาที่คล้ายกับหุบเหวค่อยๆ เย็นเยือกลง

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปในความว่างเปล่า เวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กำลังบีบกดลงมา

ขณะที่เมฆรัศมีหลิงโปรยลงมา พื้นที่ก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นแล้วค่อยๆ รวมตัวกัน ไม่ช้าทุกคนก็เห็นม่านขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือดินแดนวั้นมู่

“นั่นอะไร?”

ฉิงเทียนและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายคนอื่นๆ มองไปที่ม่านรัศมีที่กำจายกลิ่นอายลึกลับ ดูเหมือนว่าจะถูกสลักไว้ด้วยทิวทัศน์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

แรงกดดันที่น่ากลัวแทรกซึมเข้ามา หัวใจของทุกคนก็ไหวโยกด้วยความกลัวจากพลังงาน

เซียวเหยียนและหลินต้งมองไปที่ม่านลึกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นี่คือปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ”

“ปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ?” ทุกคนใจสั่น นี่คือโอกาสในตำนานที่ทำให้พวกเขาสามารถก้าวข้ามขอบเขตแห่งเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งรึ?

“จอมยุทธ์คนแรกที่สามารถสัมผัสถึงปณิธานเอกภพในมหาพันภพได้คือท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์” เซียวเหยียนมองไปที่ม่านรัศมีลึกลับขณะเอ่ยออกมา “และเขาก็ได้ตั้งชื่อปณิธานเอกภพว่า…”

“ทำเนียบเหนือภพ!”

“ทำเนียบเหนือภพ?” ใบหน้าของเหล่าจอมยุทธ์เปลี่ยนไป เนื่องจากเมื่อได้ยินชื่อก็ราวกับว่ามีพลังอันเหลือเชื่อตราตรึงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ทำให้พวกเขามองไปด้วยความปราถณา

“โลกเปรียบดังกระดาน… ตราบใดที่ใครสามารถจารึกชื่อไว้ได้ พวกเขาจะได้รับการยอมรับจากมหาพันภพและครอบครองพลังเอกภพนี้” หลินต้งอธิบาย

ทุกคนเงยหน้าขึ้นขณะมองไปม่านรัศมีลึกลับ ซึ่งก็คือทำเนียบเหนือภพพร้อมกับความเคารพในสายตา

ทำเนียบเหนือภพทั้งลึกลับและลึกซึ้ง แต่เมื่อทุกคนมองไปอย่างละเอียดก็จะเห็นคำโบราณหนึ่งบนม่านรัศมี…

“เยี่ย!”

“เยี่ย?! นั่นหมายความว่าอะไร?” ฉิงเทียนและคนที่เหลือหดดวงตา

“เยี่ย…คือแซ่ของท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์” เสียงของปู้สื่อสั่นพร่า

“ใช่แล้ว นั่นคือแซ่ของท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์ ในสมัยโบราณเขาสามารถสัมผัสได้ถึงปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ จึงกระตุ้นทำเนียบเหนือภพและสลักแซ่ของเขาเอาไว้”

เซียวเหยียนพยักหน้า “แต่น่าเสียดายที่ท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์ล้มเหลวในการจารึกชื่อเต็มของตนเองไว้บนทำเนียบเหนือภพ เขาสามารถจารึกแซ่ไว้ได้เท่านั้น มิฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องสละชีวิตเพื่อผนึกเทพปีศาจจักรพรรดิ”

ทุกคนอุทาน ในที่สุดก็เข้าใจ แท้จริงแล้วสิ่งที่เรียกว่า ‘เหนือระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง’ ก็คือการสัมผัสได้ถึงปณิธานเอกภพและกระตุ้นทำเนียบเหนือภพ สุดท้ายก็สลักชื่อไว้ ถ้าสำเร็จก็จะสามารถควบคุมพลังงานเอกภพ บรรลุเกินขอบเขตระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง…

“แม้แต่เทพจักรพรรดินิรันดร์ยังทิ้งแซ่ไว้ข้างหลังได้เท่านั้น…” ทุกคนสูดหายใจเย็นลึกสุดปอดแม้แต่คนที่ทรงพลังอย่างเทพจักรพรรดินิรันดร์ยังไม่สามารถจารึกชื่อเต็มได้ ดังนั้นพวกเขาบอกได้เลยว่าการจารึกชื่อไว้นั้นยากเย็นเพียงใด

เทพปีศาจมองไปที่ทำเนียบเหนือภพโดยไม่มีอารมณ์บนใบหน้า ก่อนจะมองไปที่เซียวเหยียนและหลินต้ง “ไม่คิดว่าพวกแกสองคนจะสามารถเรียกปณิธานเอกภพได้…”

“แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรู้สึกถึง หากแกไม่สามารถจารึกชื่อของตัวเองได้ ก็ช่างเป็นความพยายามที่ไร้ผล”

เซียวเหยียนและหลินต้งสบตากันก่อนที่จะยิ้มอ่อน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมั่นใจขณะที่หัวเราะร่า “ในเมื่อท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์สามารถบรรลุได้ ในฐานะคนรุ่นหลังพวกข้าก็ไม่ยอมอยู่เบื้องหลังคนรุ่นก่อนแน่นอน”

เมื่อเสียงหัวเราะสองเสียงดังก้อง เซียวเหยียนและหลินต้งก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ฟู่ ฟู่!

เพลิงโชติช่วงลุกโชนออกมาจากร่างกายของเซียวเหยียนเอิบอาบด้วยความลึกซึ้ง แทรกซึมรัศมีราชัน ราวกับว่าเป็นจักรพรรดิแห่งเพลิงทั้งหมด

นั่นคือเพลิงจักรพรรดิในตำนานแห่งเปลวเพลิงทั้งหมด!

เมื่อเพลิงจักรพรรดิปรากฏขึ้นท้องฟ้า อุณหภูมิของโลกก็เพิ่มสูงขึ้นราวกับหม้อต้มที่มีร่องรอยการหลอมละลาย

“วันนี้ข้าเซียวเหยียนจะฝากชื่อไว้บนทำเนียบเหนือภพ!”

เซียวเหยียนหัวเราะขณะที่เพลิงโชติช่วงรวมตัวกันกลายเป็นพู่กันขนาดใหญ่ที่ก่อจากเปลวไฟ จากนั้นเซียวเหยียนก็กอดอากาศ พู่กันมหึมาเคลื่อนผ่านมิติไปยังทำเนียบเหนือภพ

ตู้ม ตู้ม!

เมื่อพู่กันเข้าใกล้ หมอกลึกลับก็พล่านบนกระดาน แม้ว่าหมอกจะดูเบาบางแต่ก็ลึกซึ้งราวกับว่าสามารถบดบังทุกสิ่งได้

ปัง!

หลินต้งก็เคลื่อนไหวออกไปเช่นกัน รัศมีแสงเจิดจรัสระเบิดออกมาจากร่างกาย ทว่ากลับมีสีทั้งหมดแปดสีที่แตกต่างกัน ในเส้นแสงทุกสีจะเป็นตัวแทนของพลังหลิงทั้งหมดแปดประเภทที่หลอมรวมกันอย่างลงตัว

รัศมีทั้งแปดแปรผันกลายเป็นดัชนีใหญ่ ดัชนีแทงทะลุมิติราวกับว่ามีพลังงานไร้ขอบเขตขณะพุ่งลงไปที่ทำเนียบเหนือภพ

“เปิดซะ!”

เซียวเหยียนและหลินต้งร้องตะโกน เสียงของพวกเขาทำให้มิติแปรปรวน

ฮึ่ม ฮึ่ม!

หมอกลึกลับรอบๆ ทำเนียบเหนือภพกระเพื่อมไหวราวกับว่ากำลังป้องกันไม่ให้สิ่งใดเข้ามาใกล้ได้ แต่ด้วยพลังงานหลิงรอบเซียวเหยียนและหลินต้งแข็งแกร่งนัก สิ่งกีดขวางจึงถูกฉีกออกจากกัน

พู่กันเปลวไฟและดัชนีแปดสีฉีกผ่านหมอกพลิ้วลงบนทำเนียบเหนือภพภายใต้สายตาตกตะลึงของเหล่าจอมยุทธ์

แรงกดดันน่าเหลือเชื่อแผ่ซ่านมาจากทำเนียบเหนือภพ กระจายออกไประหว่างฟ้าดิน

ภายใต้แรงกดดันเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหมด แม้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายแบบฉิงเทียนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากพบว่ากระทั่งขยับนิ้วยังทำไม่ได้…

มีเพียงเซียวเหยียนและหลินต้งเท่านั้นที่ยังคงแสดงออกอย่างสงบขณะที่สะบัดมือไปมา

ทุกคนจับจ้องไปที่ทำเนียบเหนือภพพร้อมกับพู่กันและดัชนีพลิ้วลงไป ทำเนียบเหนือภพสั่นสะเทือน เสียงดังก้องไปทั่วมหาพันภพ

ยามนี้ทุกสรรพสิ่งมีชีวิตในมหาพันภพต่างสัมผัสได้ พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางทิศของดินแดนวั้นมู่

พู่กันและดัชนีเคลื่อนลงมาขีดเขียนลงบนทำเนียบเหนือภพ…

คลื่นหลิงทั่วภูมิภาคสั่นสะเทือนภายใต้สายตาของทุกคน บนทำเนียบเหนือภพมีเปลวไฟปะทุขึ้น ทุกการขีดเขียนดูสบายมั่นใจ แต่ทุกคนสามารถบอกได้ว่าการกระทำนี้ยากแค่ไหน

เพราะแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายภายใต้แรงกดดันของทำเนียบเหนือภพได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าการกระทำที่ยากอย่างการจารึกชื่อเอาไว้เลย

ขณะที่แสงหลิงแล่นแปลบปลาบ สีหน้าของเซียวเหยียนและหลินต้งก็เคร่งขรึมลง แขนของพวกเขาสั่นเทิ้ม ขณะที่หอบหายใจบีบพลังทั้งหมดในร่างกายออกไป…

ความสว่างบนทำเนียบเหนือภพหนาแน่นขึ้น ทุกคนสามารถเห็นอักษรสองตัวค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

เซียว!

หลิน!

เมื่อทั้งสองคำเสร็จสิ้นลง เซียวเหยียนและหลินต้งก็หยุดนิ่ง มองเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของพวกเขา

พวกเขามองไปที่แซ่ตนเองบนทำเนียบเหนือภพ แต่สีหน้าของพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่คลายลงกลับดูจริงจังมากขึ้น

นั่นเป็นเพราะเมื่อพวกเขาตวัดเส้นสายสุดท้ายเสร็จสิ้น พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันเหลือเชื่อที่โอบล้อมร่าง แรงกดดันนั้นทำให้พวกเขารู้สึกทนไม่ได้

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเทพจักรพรรดินิรันดร์จึงไม่ได้เขียนชื่อเต็มเอาไว้…

เพราะส่วนหลังนี่ยากเกินไป

พวกเขารู้สึกได้ว่าถ้าลุยเดินต่อไปเรื่อยๆ พู่กันและดัชนีจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากพลังงานเอกภพ…

ทั้งสองคนยืนอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลานานก่อนที่จะถอนหายใจโบกมือ พู่กันและดัชนีก็หายไป

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย หากทั้งสองทำขั้นตอนสุดท้ายสำเร็จ เซียวเหยียนและหลินต้งก็จะกลายเป็นเทพจอมยุทธ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในมหาพันภพที่สามารถจารึกชื่อสมบูรณ์ของตนเองเอาไว้ได้

นี่จะเป็นสิ่งที่เกินกว่าความสำเร็จของเทพจักรพรรดินิรันดร์

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ สิ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จในตอนนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว จากความสำเร็จนี่เทียบเท่ากับเทพจักรพรรดินิรันดร์เลยทีเดียว!

ตู้ม!

พร้อมกับการเคลื่อนไหวของพวกเขา ทำเนียบเหนือภพลึกลับก็สะท้อนด้วยเสียงดังกึกก้อง รัศมีลึกลับแผ่ออกมาปกคลุมอักษรแซ่ทั้งสองไว้…

ยามนี้เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายก็สามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่าง พวกเขามองเซียวเหยียนและหลินต้ง ก็เห็นพลังงานลึกลับพลุ่งพล่านลงมาปกคลุมทั้งสองเอาไว้

เมื่อมองไปที่พวกเขา ฉิงเทียนและคนอื่นๆ ก็รู้สึกถึงความเคารพในใจที่เพิ่มขึ้น

รัศมีลึกลับรวมตัวกันที่หว่างคิ้วของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงคราม

ซึ่งวาดอักขระเพลิงที่หว่างคิ้วของเซียวเหยียว ขณะที่อักขระเทวลิขิตวาดบนหน้าผากของหลินต้ง

อักษรทั้งสองคล้ายกับตราประทับของโลก ทำให้พวกเขาดูสูงส่งอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อทั้งสองคนกวาดสายตาไป แรงกดดันที่ไม่สามารถบรรยายได้ก็แทรกซึมเข้ามา ราวกับว่าเป็นจอมราชันของโลกนี้ พลังมหาศาลติดตามทุกการคลื่อนไหว ซึ่งเกินขอบเขตระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งไปแล้ว

ฉิงเทียน ปู้สื่อและจอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็มองไปที่ภาพนี้ด้วยความร้อนแรงและความคาดหวังในดวงตา

พวกเขาคิดว่าตนเองมาถึงที่สุดของขุมพลังแล้ว แต่ขณะนี้พวกเขาตระหนักว่ายังไม่ถึงจุดสิ้นสุด…

“นี่เหรอ ทำเนียบเหนือภพ…”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองกระดาน ร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกได้ถึงเลือดพลุ่งพล่านขณะที่มือกำแน่นพร้อมกับเสียงหนักแน่นดังก้องออกมา

“ในชีวิตนี้ที่สุดแห่งความปรารถนาของข้าคือจารึกชื่อตัวเองไว้บนทำเนียบเหนือภพนี้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1530 ทำเนียบเหนือภพ

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1530 ทำเนียบเหนือภพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“แกก็ไม่สามารถดูถูกเหยียดหยามมหาพันภพได้”

เมื่อเสียงของเทพจักรพรรดิทั้งสองดังกึกก้อง ม่านรัศมีขนาดใหญ่ก็เคลื่อนลงมา แยกรัศมีปีศาจออกจากกัน

มู่เฉินและเหล่าจอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง คลื่นหลิงที่ไหลเวียนระหว่างฟ้าดินมาถึงระดับที่น่ากลัว

ซึ่งอยู่ในระดับที่แม้แต่จอมยุท์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายยังต้องเกรงกลัว

นอกจากนี้ยังมีพลังงานที่น่าทึ่งบรรจุอยู่ในคลื่นหลิงอีกด้วย แรงกดดันใกล้เคียงกับโลกมาก

ใบหน้าของเทพปีศาจดูเคร่งขรึมลงขณะมองไปที่คลื่นหลิง ม่านตาที่คล้ายกับหุบเหวค่อยๆ เย็นเยือกลง

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปในความว่างเปล่า เวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลที่กำลังบีบกดลงมา

ขณะที่เมฆรัศมีหลิงโปรยลงมา พื้นที่ก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นแล้วค่อยๆ รวมตัวกัน ไม่ช้าทุกคนก็เห็นม่านขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือดินแดนวั้นมู่

“นั่นอะไร?”

ฉิงเทียนและจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายคนอื่นๆ มองไปที่ม่านรัศมีที่กำจายกลิ่นอายลึกลับ ดูเหมือนว่าจะถูกสลักไว้ด้วยทิวทัศน์และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

แรงกดดันที่น่ากลัวแทรกซึมเข้ามา หัวใจของทุกคนก็ไหวโยกด้วยความกลัวจากพลังงาน

เซียวเหยียนและหลินต้งมองไปที่ม่านลึกลับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นี่คือปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ”

“ปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ?” ทุกคนใจสั่น นี่คือโอกาสในตำนานที่ทำให้พวกเขาสามารถก้าวข้ามขอบเขตแห่งเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งรึ?

“จอมยุทธ์คนแรกที่สามารถสัมผัสถึงปณิธานเอกภพในมหาพันภพได้คือท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์” เซียวเหยียนมองไปที่ม่านรัศมีลึกลับขณะเอ่ยออกมา “และเขาก็ได้ตั้งชื่อปณิธานเอกภพว่า…”

“ทำเนียบเหนือภพ!”

“ทำเนียบเหนือภพ?” ใบหน้าของเหล่าจอมยุทธ์เปลี่ยนไป เนื่องจากเมื่อได้ยินชื่อก็ราวกับว่ามีพลังอันเหลือเชื่อตราตรึงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ทำให้พวกเขามองไปด้วยความปราถณา

“โลกเปรียบดังกระดาน… ตราบใดที่ใครสามารถจารึกชื่อไว้ได้ พวกเขาจะได้รับการยอมรับจากมหาพันภพและครอบครองพลังเอกภพนี้” หลินต้งอธิบาย

ทุกคนเงยหน้าขึ้นขณะมองไปม่านรัศมีลึกลับ ซึ่งก็คือทำเนียบเหนือภพพร้อมกับความเคารพในสายตา

ทำเนียบเหนือภพทั้งลึกลับและลึกซึ้ง แต่เมื่อทุกคนมองไปอย่างละเอียดก็จะเห็นคำโบราณหนึ่งบนม่านรัศมี…

“เยี่ย!”

“เยี่ย?! นั่นหมายความว่าอะไร?” ฉิงเทียนและคนที่เหลือหดดวงตา

“เยี่ย…คือแซ่ของท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์” เสียงของปู้สื่อสั่นพร่า

“ใช่แล้ว นั่นคือแซ่ของท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์ ในสมัยโบราณเขาสามารถสัมผัสได้ถึงปณิธานเอกภพแห่งมหาพันภพ จึงกระตุ้นทำเนียบเหนือภพและสลักแซ่ของเขาเอาไว้”

เซียวเหยียนพยักหน้า “แต่น่าเสียดายที่ท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์ล้มเหลวในการจารึกชื่อเต็มของตนเองไว้บนทำเนียบเหนือภพ เขาสามารถจารึกแซ่ไว้ได้เท่านั้น มิฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องสละชีวิตเพื่อผนึกเทพปีศาจจักรพรรดิ”

ทุกคนอุทาน ในที่สุดก็เข้าใจ แท้จริงแล้วสิ่งที่เรียกว่า ‘เหนือระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง’ ก็คือการสัมผัสได้ถึงปณิธานเอกภพและกระตุ้นทำเนียบเหนือภพ สุดท้ายก็สลักชื่อไว้ ถ้าสำเร็จก็จะสามารถควบคุมพลังงานเอกภพ บรรลุเกินขอบเขตระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่ง…

“แม้แต่เทพจักรพรรดินิรันดร์ยังทิ้งแซ่ไว้ข้างหลังได้เท่านั้น…” ทุกคนสูดหายใจเย็นลึกสุดปอดแม้แต่คนที่ทรงพลังอย่างเทพจักรพรรดินิรันดร์ยังไม่สามารถจารึกชื่อเต็มได้ ดังนั้นพวกเขาบอกได้เลยว่าการจารึกชื่อไว้นั้นยากเย็นเพียงใด

เทพปีศาจมองไปที่ทำเนียบเหนือภพโดยไม่มีอารมณ์บนใบหน้า ก่อนจะมองไปที่เซียวเหยียนและหลินต้ง “ไม่คิดว่าพวกแกสองคนจะสามารถเรียกปณิธานเอกภพได้…”

“แต่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรู้สึกถึง หากแกไม่สามารถจารึกชื่อของตัวเองได้ ก็ช่างเป็นความพยายามที่ไร้ผล”

เซียวเหยียนและหลินต้งสบตากันก่อนที่จะยิ้มอ่อน รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมั่นใจขณะที่หัวเราะร่า “ในเมื่อท่านเทพจักรพรรดินิรันดร์สามารถบรรลุได้ ในฐานะคนรุ่นหลังพวกข้าก็ไม่ยอมอยู่เบื้องหลังคนรุ่นก่อนแน่นอน”

เมื่อเสียงหัวเราะสองเสียงดังก้อง เซียวเหยียนและหลินต้งก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ฟู่ ฟู่!

เพลิงโชติช่วงลุกโชนออกมาจากร่างกายของเซียวเหยียนเอิบอาบด้วยความลึกซึ้ง แทรกซึมรัศมีราชัน ราวกับว่าเป็นจักรพรรดิแห่งเพลิงทั้งหมด

นั่นคือเพลิงจักรพรรดิในตำนานแห่งเปลวเพลิงทั้งหมด!

เมื่อเพลิงจักรพรรดิปรากฏขึ้นท้องฟ้า อุณหภูมิของโลกก็เพิ่มสูงขึ้นราวกับหม้อต้มที่มีร่องรอยการหลอมละลาย

“วันนี้ข้าเซียวเหยียนจะฝากชื่อไว้บนทำเนียบเหนือภพ!”

เซียวเหยียนหัวเราะขณะที่เพลิงโชติช่วงรวมตัวกันกลายเป็นพู่กันขนาดใหญ่ที่ก่อจากเปลวไฟ จากนั้นเซียวเหยียนก็กอดอากาศ พู่กันมหึมาเคลื่อนผ่านมิติไปยังทำเนียบเหนือภพ

ตู้ม ตู้ม!

เมื่อพู่กันเข้าใกล้ หมอกลึกลับก็พล่านบนกระดาน แม้ว่าหมอกจะดูเบาบางแต่ก็ลึกซึ้งราวกับว่าสามารถบดบังทุกสิ่งได้

ปัง!

หลินต้งก็เคลื่อนไหวออกไปเช่นกัน รัศมีแสงเจิดจรัสระเบิดออกมาจากร่างกาย ทว่ากลับมีสีทั้งหมดแปดสีที่แตกต่างกัน ในเส้นแสงทุกสีจะเป็นตัวแทนของพลังหลิงทั้งหมดแปดประเภทที่หลอมรวมกันอย่างลงตัว

รัศมีทั้งแปดแปรผันกลายเป็นดัชนีใหญ่ ดัชนีแทงทะลุมิติราวกับว่ามีพลังงานไร้ขอบเขตขณะพุ่งลงไปที่ทำเนียบเหนือภพ

“เปิดซะ!”

เซียวเหยียนและหลินต้งร้องตะโกน เสียงของพวกเขาทำให้มิติแปรปรวน

ฮึ่ม ฮึ่ม!

หมอกลึกลับรอบๆ ทำเนียบเหนือภพกระเพื่อมไหวราวกับว่ากำลังป้องกันไม่ให้สิ่งใดเข้ามาใกล้ได้ แต่ด้วยพลังงานหลิงรอบเซียวเหยียนและหลินต้งแข็งแกร่งนัก สิ่งกีดขวางจึงถูกฉีกออกจากกัน

พู่กันเปลวไฟและดัชนีแปดสีฉีกผ่านหมอกพลิ้วลงบนทำเนียบเหนือภพภายใต้สายตาตกตะลึงของเหล่าจอมยุทธ์

แรงกดดันน่าเหลือเชื่อแผ่ซ่านมาจากทำเนียบเหนือภพ กระจายออกไประหว่างฟ้าดิน

ภายใต้แรงกดดันเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหมด แม้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายแบบฉิงเทียนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก เนื่องจากพบว่ากระทั่งขยับนิ้วยังทำไม่ได้…

มีเพียงเซียวเหยียนและหลินต้งเท่านั้นที่ยังคงแสดงออกอย่างสงบขณะที่สะบัดมือไปมา

ทุกคนจับจ้องไปที่ทำเนียบเหนือภพพร้อมกับพู่กันและดัชนีพลิ้วลงไป ทำเนียบเหนือภพสั่นสะเทือน เสียงดังก้องไปทั่วมหาพันภพ

ยามนี้ทุกสรรพสิ่งมีชีวิตในมหาพันภพต่างสัมผัสได้ พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางทิศของดินแดนวั้นมู่

พู่กันและดัชนีเคลื่อนลงมาขีดเขียนลงบนทำเนียบเหนือภพ…

คลื่นหลิงทั่วภูมิภาคสั่นสะเทือนภายใต้สายตาของทุกคน บนทำเนียบเหนือภพมีเปลวไฟปะทุขึ้น ทุกการขีดเขียนดูสบายมั่นใจ แต่ทุกคนสามารถบอกได้ว่าการกระทำนี้ยากแค่ไหน

เพราะแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายภายใต้แรงกดดันของทำเนียบเหนือภพได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าการกระทำที่ยากอย่างการจารึกชื่อเอาไว้เลย

ขณะที่แสงหลิงแล่นแปลบปลาบ สีหน้าของเซียวเหยียนและหลินต้งก็เคร่งขรึมลง แขนของพวกเขาสั่นเทิ้ม ขณะที่หอบหายใจบีบพลังทั้งหมดในร่างกายออกไป…

ความสว่างบนทำเนียบเหนือภพหนาแน่นขึ้น ทุกคนสามารถเห็นอักษรสองตัวค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

เซียว!

หลิน!

เมื่อทั้งสองคำเสร็จสิ้นลง เซียวเหยียนและหลินต้งก็หยุดนิ่ง มองเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของพวกเขา

พวกเขามองไปที่แซ่ตนเองบนทำเนียบเหนือภพ แต่สีหน้าของพวกเขาไม่เพียงแต่ไม่คลายลงกลับดูจริงจังมากขึ้น

นั่นเป็นเพราะเมื่อพวกเขาตวัดเส้นสายสุดท้ายเสร็จสิ้น พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันเหลือเชื่อที่โอบล้อมร่าง แรงกดดันนั้นทำให้พวกเขารู้สึกทนไม่ได้

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเทพจักรพรรดินิรันดร์จึงไม่ได้เขียนชื่อเต็มเอาไว้…

เพราะส่วนหลังนี่ยากเกินไป

พวกเขารู้สึกได้ว่าถ้าลุยเดินต่อไปเรื่อยๆ พู่กันและดัชนีจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากพลังงานเอกภพ…

ทั้งสองคนยืนอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลานานก่อนที่จะถอนหายใจโบกมือ พู่กันและดัชนีก็หายไป

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดาย หากทั้งสองทำขั้นตอนสุดท้ายสำเร็จ เซียวเหยียนและหลินต้งก็จะกลายเป็นเทพจอมยุทธ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในมหาพันภพที่สามารถจารึกชื่อสมบูรณ์ของตนเองเอาไว้ได้

นี่จะเป็นสิ่งที่เกินกว่าความสำเร็จของเทพจักรพรรดินิรันดร์

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ สิ่งที่พวกเขาประสบความสำเร็จในตอนนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว จากความสำเร็จนี่เทียบเท่ากับเทพจักรพรรดินิรันดร์เลยทีเดียว!

ตู้ม!

พร้อมกับการเคลื่อนไหวของพวกเขา ทำเนียบเหนือภพลึกลับก็สะท้อนด้วยเสียงดังกึกก้อง รัศมีลึกลับแผ่ออกมาปกคลุมอักษรแซ่ทั้งสองไว้…

ยามนี้เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายก็สามารถสัมผัสได้ถึงบางอย่าง พวกเขามองเซียวเหยียนและหลินต้ง ก็เห็นพลังงานลึกลับพลุ่งพล่านลงมาปกคลุมทั้งสองเอาไว้

เมื่อมองไปที่พวกเขา ฉิงเทียนและคนอื่นๆ ก็รู้สึกถึงความเคารพในใจที่เพิ่มขึ้น

รัศมีลึกลับรวมตัวกันที่หว่างคิ้วของเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงคราม

ซึ่งวาดอักขระเพลิงที่หว่างคิ้วของเซียวเหยียว ขณะที่อักขระเทวลิขิตวาดบนหน้าผากของหลินต้ง

อักษรทั้งสองคล้ายกับตราประทับของโลก ทำให้พวกเขาดูสูงส่งอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อทั้งสองคนกวาดสายตาไป แรงกดดันที่ไม่สามารถบรรยายได้ก็แทรกซึมเข้ามา ราวกับว่าเป็นจอมราชันของโลกนี้ พลังมหาศาลติดตามทุกการคลื่อนไหว ซึ่งเกินขอบเขตระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งไปแล้ว

ฉิงเทียน ปู้สื่อและจอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็มองไปที่ภาพนี้ด้วยความร้อนแรงและความคาดหวังในดวงตา

พวกเขาคิดว่าตนเองมาถึงที่สุดของขุมพลังแล้ว แต่ขณะนี้พวกเขาตระหนักว่ายังไม่ถึงจุดสิ้นสุด…

“นี่เหรอ ทำเนียบเหนือภพ…”

มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองกระดาน ร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ เขารู้สึกได้ถึงเลือดพลุ่งพล่านขณะที่มือกำแน่นพร้อมกับเสียงหนักแน่นดังก้องออกมา

“ในชีวิตนี้ที่สุดแห่งความปรารถนาของข้าคือจารึกชื่อตัวเองไว้บนทำเนียบเหนือภพนี้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+