หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 928 จิ่วโยวขึ้นประลอง

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 928 จิ่วโยวขึ้นประลอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บนลานประลองกว้างใหญ่

เมื่อร่างบอบบางของจิ่วโยวปรากฏตัวขึ้น รูปปั้นรูปหนึ่งก็กลับมามีชีวิตแล้วร่อนลงมาขณะปลดปล่อยรังสีน่าสะพรึงออกไป

พวกมู่เฉินรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว

สัตว์อสูรตัวนี้มีร่างกายประหนึ่งหอคอย แสงสีทองวาวโรจน์เปล่งอยู่รอบๆ ราวกับว่าถูกปั้นขึ้นมาจากทองคำที่ไม่สามารถทำลายได้ มันมีหัวเป็นสิงโตสีทอง สิ่งเดียวบนร่างที่ไม่ใช่สีทองก็คือดวงตาสีแดงก่ำประหนึ่งเลือดที่อัดแน่นไปด้วยความดุร้าย

เมื่อร่างสีทองปรากฏขึ้น รัศมีที่น่ากลัวก็แผ่ออกไป

“หนึ่งในสิบมารอสูรแห่งวังสวรรค์บรรพกาล…ปีศาจราชสีห์ทองคำ” มั่นถัวหลัวมองร่างสีทองนั้นก่อนจะพูดช้าๆ “สัตว์อสูรตัวนี้มีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก มิหนำซ้ำความแข็งแกร่งยังมากกว่ามารอสูรตัวอื่นๆ”

เมื่อคนอื่นได้ยินคำพูดของนาง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหดดวงตาลง

“แต่ในฐานะวิหคอนธโลกันตร์ สายเลือดของจิ่วโยวก็แข็งแกร่งกว่าปีศาจราชสีทองคำ ดังนั้นหากปะทะกัน นางไม่เสียเปรียบแน่” มั่นถัวหลัวพยักหน้าเบา ๆ

“จิ่วโยวเป็นอัจฉริยะของเผ่าวิหคโลกันตร์ นางสามารถพัฒนาร่างเป็นวิหคอนธโลกันตร์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นเรื่องหาได้ยากแม้แต่ในเผ่าพันธุ์ของนาง ดังนั้นหากโอกาสเอื้ออำนวยนาง ในอนาคตนางอาจสามารถทำลายขีดจำกัดปลุกสายเลือดวิหคอมตะได้…” เทียนจิ้วพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

เหล่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ แอบเดาะลิ้นเมื่อได้ยินบทสนทนา วิหคอมตะเป็นเทพอสูรชั้นสูงในมหาพันภพซึ่งอยู่ในลำดับต้นๆ ของบันทึกเทพอสูร สัตว์เทพทุกตัวที่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับนั้นล้วนเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในมหาพันภพ

สายตาของมู่เฉินจ้องเขม็งไปยังร่างเพรียวบางของจิ่วโยว เขาสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงทรงพลังที่กำจายออกมาจากร่างของนางก็ถอนหายใจ ตอนที่เขากับจิ่วโยวเข้าอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาเพิ่งบรรลุขุมพลังจื้อจุน ขณะที่นางเพิ่งจะเสร็จสิ้นการวิวัฒนาการโดยที่พลังทะยานขึ้นไปเทียบเท่ากับระดับจื้อจุนขั้นห้า

ในเวลานั้นมู่เฉินไม่ได้รับความสนใจมากนัก ขณะที่จิ่วโยวเองก็รั้งตำแหน่งสุดท้ายในหมู่ผู้บัญชาการ แต่ใครจะคิดว่าในเวลาเพียงสองปีสั้นๆ จอมยุทธ์หน้าใหม่ที่ไม่มีความสำคัญจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการ ส่วนจิ่วโยวก็เติบโตขึ้นจนบรรลุระดับจื้อจุนขั้นหกได้?

แม้ว่ามู่เฉินจะชนะในการเปรียบเทียบพัฒนาการระหว่างพวกเขา แต่จิ่วโยวเป็นเทพอสูร วิธีการฝึกฝนของเทพอสูรไม่เหมือนกับมนุษย์ บางทีพัฒนาการของพวกเขาอาจจะล่าช้า แต่เมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาสามารถเจาะคอขวดไปได้ ความเร็วในการพัฒนาของพวกเขาก็จะยิ่งกว่าน่าประหลาดใจ

ในปีที่ผ่านมาจิ่วโยวเพาะบ่มพลังแบบขมขื่นอยู่เกือบตลอดเวลา คนอื่นอาจไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มู่เฉินรู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนาง นอกเหนือจากซิวหลัวและเลี่ยซันซึ่งสามารถปราบปรามนางได้แล้ว ผู้บัญชาการคนอื่นๆ เทียบนางไม่ติดเลย…

อย่างไรก็ตามการประลองในวันนี้อาจเปลี่ยนสถานะของนางในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ได้

บนลานประลอง

จิ่วโยวมองร่างเงาสีทองเข้ม แววตาเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ พวกนางแพ้การประลองไปสี่รอบแล้ว นั่นหมายความว่าต้องการชัยชนะถึงสามรอบจากห้ารอบเพื่อจะสามารถเจาะโครงสร้างของค่ายกลได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะสามในห้ารอบ ดังนั้นถ้านางแพ้โอกาสของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะต่ำเตี้ยลงไปอีก

ดังนั้นนางจะแพ้ไม่ได้

จิ่วโยวสูดลมหายใจเย็นเข้าสุดปอด นางกำมือกระบี่ขนสีดำก็ปรากฏขึ้นในพริบตา เปลวไฟสีม่วงลุกโชนบนใบมีดยาว นี่คือเพลิงอมตะ

ตู้ม!

เมื่อจิ่วโยวเริ่มเร้าคลื่นหลิง ม่านตาสีแดงฉานของปีศาจราชสีห์ทองคำก็จ้องเขม็งมา ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าโจมตีโดยไม่รอให้จิ่วโยวลงมือ

แสงสีทองเจิดจ้าระเบิดออก ปีศาจราชสีห์ทองคำก็กระแทกฝ่าเท้าลงบนพื้น ทำให้เกิดเสียงลมฉีกผ่านอากาศทั่วลานประลอง ร่างแข็งแกร่งปรากฏตัวต่อหน้าจิ่วโยว จากนั้นมันก็ควงกำปั้นสีทองซัดลงมาอย่างไม่ลังเล

กำปั้นพุ่งลงมาทำให้เกิดการระเบิดในชั้นบรรยากาศ พลังของกำปั้นทำให้แผ่นพื้นเบื้องล่างแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นสามารถบอกได้ว่าพลังหมัดของปีศาจราชสีห์ทองคำทรงพลังเพียงใด

แสงสีทองสะท้อนในดวงตาของจิ่วโยวที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย กระบี่ขนนกสีดำยกขึ้นมาปกป้องร่างนางเอาไว้

เคร้ง!

เสียงโลหะปะทะกันระเบิดออก กระบี่ขนนกสีดำถูกหมัดของปีศาจราชสีห์ทองคำซัดจนโค้งอย่างเห็นได้ชัด ทว่าก็ไม่ได้แตกหักลง

ชี่! ชี่!

สายตาจิ่วโยวเย็นเยือกลง เปลวไฟสีม่วงพวยพุ่งบนกระบี่ขนนกสีดำยึดกับกำปั้นของปีศาจราชสีห์ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงชี่ๆ กระจายออกไป แสงสีทองบนกำปั้นของปีศาจราชสีห์จางลงเล็กน้อย

แม้ว่าการป้องกันของปีศาจราชสีห์จะทรงพลัง แต่เพลิงอมตะของจิ่วโยวก็ไม่ได้เป็นแค่เปลวไฟธรรมดา

โฮก!

ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดจากกำปั้นทำให้ปีศาจราชสีห์แผดเสียงคำรามลั่น หมัดแข็งแกร่งกว่าเดิมส่งร่างจิ่วโยวถอยกรูดออกไป

“กีด!”

เมื่อจิ่วโยวถูกผลักกลับ คลื่นหลิงอันไร้ขอบเขตก็รวมตัวกันอยู่ข้างหลังนาง ก่อร่างเป็นวิหคอนธโลกันตร์ขนาดใหญ่ วิหคยักษ์กางปีกออก พริบตาขนสีดำที่มีเปลวไฟสีม่วงลุกโชนก็พุ่งออกไปห่อหุ้มร่างปีศาจราชสีห์เอาไว้

ขนสีดำเหล่านี้สร้างขึ้นมาจากคลื่นหลิงของจิ่วโยว ซึ่งสามารถฉีกเหล็กเฉือนหินจนป่นปี้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกยกระดับโดยเพลิงอมตะที่ครอบงำ พลังอำนาจก็ลึกซึ้งขึ้นมากจนแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ไม่กล้าที่จะดูถูก

โฮก!

ปีศาจราชสีห์ทองคำรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจเพลิงอมตะนัก มันส่งเสียงคำรามราวกับเกลียวสายฟ้าม้วนตัวแสงสีทองกระจายออกมาจากร่าง ก่อเป็นระฆังทองคำขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างมันไว้ภายใน

ระฆังทองคำไหลเวียนด้วยแสงสีทองอยู่รอบๆ ทำให้ดูเหมือนไม่สามารถทำลายได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการป้องกันของปีศาจราชสีห์ทองคำ

เคร้ง! เคร้ง!

ขนนกสีดำที่มีเพลิงสีม่วงลุกโชนซัดเข้าใส่ระฆังทองคำ ทำให้เกิดเสียงโลหะดังลั่นต่อเนื่อง ขณะที่ระลอกคลื่นสั่นสะเทือนบนพื้นผิวระฆัง ทว่าระฆังก็ไม่ได้ถูกทำลาย

“ความสามารถในการป้องกันแข็งแกร่งมากจริงๆ ผู้บัญชาการจิ่วโยว นาง…”

เมื่อคนที่เหลือเห็นภาพนี้ก็ขมวดคิ้วทันที แม้แต่การโจมตีของจิ่วโยวก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของปีศาจราชสีห์ได้ ถ้าสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป จิ่วโยวก็จะสูญเสียคลื่นหลิงจำนวนมาก ถึงตอนนั้นถ้านางเปิดเผยช่องโหว่ใดๆ ปีศาจราชสีห์ทองคำก็จะจับทางได้ จากนั้นก็ปล่อยสายฟ้าโจมตีเพื่อตัดสิน

แต่ขณะที่พวกเขากำลังขมวดคิ้ว ดวงตาของมั่นถัวหลัวกลับสว่างวาบขึ้น

มู่เฉินเองก็รู้สึกถึงสิ่งนี้เช่นกัน เขาเลื่อนสายตาก็มองเห็นว่าเมื่อขนนกสีดำปกคลุมไปทั่ว บริเวณรอบตัวปีศาจราชสีห์ก็เต็มไปด้วยขนนกสีดำ

เพลิงสีม่วงลุกโชนบนขนนกสีดำเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมองดูยุ่งเหยิง แต่มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนที่ผิดปกติในฐานะจั้นเจิ้นซือ

เคร้ง! เคร้ง!

ฝนขนนกสีดำซัดลงมากระทั่งชิ้นสุดท้าย ปิดกั้นระฆังทองคำไว้ทุกทิศทาง ตัวระฆังเริ่มแตกร้าว

เมื่อระฆังแตกออก ร่างแข็งแกร่งของปีศาจราชสีห์ซึ่งปกคลุมไปด้วยรัศมีร้ายกาจก็ยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิมดวงตาแดงฉานจับจ้องไปที่จิ่วโยว รอยยิ้มดุร้ายปรากฏบนใบหน้า

การโจมตีที่ทรงพลังของจิ่วโยวลดลง ต่อไปถึงตามันในการปล่อยการโจมตีที่รวดเร็วเพื่อทำให้คู่ต่อสู้แหลกลาญแล้ว

โฮก!

ปีศาจราชสีห์ทองคำทุบหน้าอกอย่างหนักทำให้เกิดเสียงดังสนั่น แสงสีทองระเบิดออกทุกทิศทาง คลื่นหลิงก็รุนแรงขึ้นทบทวีคูณ

แต่ขณะที่มารอสูรกำลังจะปลดปล่อยการโจมตี รอยยิ้มเย็นก็โค้งขึ้นบนใบหน้าของจิ่วโยว มือของนางประสานกัน

ฟู่! ฟู่!

ทันทีที่จิ่วโยวสร้างตราประทับ ขนนกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระจัดกระจายไปรอบๆ ร่างปีศาจราชสีห์ก็ลุกโชติช่วงด้วยเพลิงสีม่วงเจิดจรัส ก่อตัวเป็นหม้อกลั่นสีม่วงห่อหุ้มปีศาจราชสีห์ไว้ภายใน

“หม้อกลั่นเพลิงอมตะ!”

อ้ากกกก!

ในช่วงเวลาที่หม้อกลั่นขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น ปีศาจราชสีห์ก็ส่งเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพชออกมาจากข้างใน ร่างกำยำเริ่มแสดงสัญญาณของการถูกชำระ

เวลาเดียวกันพื้นดินที่อยู่ใต้หม้อกลั่นก็แห้งผากจากอุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัว ก่อนที่รอยร้าวจะปรากฏขึ้น

ด้านนอกลานประลองผู้บัญชาการคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นจนสุดขั้วปอด เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกได้ว่าหม้อกลั่นสีม่วงน่ากลัวเพียงใด หากพวกเขาติดกับอยู่ข้างใน แม้จะเร้าร่างเทห์สวรรค์ก็คงได้รับการชำระไม่ต่างกัน

เพลิงอมตะครอบงำอย่างแท้จริง!

“โฮก!”

ปีศาจราชสีห์ทองคำคำรามอย่างบ้าคลั่ง พยายามกระเสือกกระสนออกจากวงล้อมของคลื่นหลิง ทว่าจิ่วโยวไม่ให้โอกาสที่จะทำเช่นนั้น ใบหน้าของนางเย็นชาลง ก่อนที่นางจะกำกำปั้น ทันใดนั้นหม้อกลั่นก็เริ่มหดตัวลงแล้วก็ระเบิดด้วยความปั่นป่วนครั้งใหญ่

เพลิงสีม่วงพุ่งออกไปทุกทิศทาง พุ่งไปปะทะบนกำแพงแสงที่ล้อมรอบลานประลอง ทำให้เกิดระลอกคลื่นเป็นวง

อุณหภูมิภายในตำหนักร้อนขึ้นมากในขณะนี้

จิ่วโยวยืนอยู่ลานประลอง มองไปข้างหน้าก็เห็นปีศาจราชสีห์ทองคำหายไปแล้ว มีเพียงแอ่งของเหลวทองคำทิ้งเอาไว้ต่างหน้า

ชี่! ชี่!

ของเหลวสีทองแตกออก กลายเป็นแสงสีทองพุ่งมารอบร่างจิ่วโยว จากนั้นก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายนาง

แสงสีทองเหล่านี้ก็คือแก่นคลื่นหลิงที่ถูกทิ้งไว้โดยปีศาจราชสีห์ทองคำ

จิ่วโยวยืนนิ่งบนลานประลองประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตา ทันใดนั้นมู่เฉินและคนอื่นๆ ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นหลิงของนางที่ได้รับการขัดเกลาและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่านางได้รับประโยชน์ไม่น้อยจากการประลองรอบนี้

เมื่อคนที่แพ้เห็นภาพนี้ก็ต่างรู้สึกอิจฉา แต่ก็รู้ว่าจิ่วโยวพึ่งพาตัวเองเพื่อรับโอกาสนี้ด้วยการเค้นพลังทุกหยาดหยดที่มี ตอนแรกพวกเขาก็มีโอกาสเช่นนั้น แต่น่าเสียดาย… ที่ไม่มีพลังพอที่จะคว้ามาได้

แต่ไม่ว่าอย่างไร การประลองรอบหก ในที่สุดอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง

ต่อจากนี้พวกเขาจะต้องเอาชนะอีกสองรอบถึงจะสามารถทำลายค่ายกลและเข้าไปในส่วนลึกของขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน แต่…หลังจากการประลองหกรอบ ก็เหลือเพียงสี่ในสิบผู้บัญชาการที่ยังไม่ได้ลงชิงชัย ซึ่งจากระดับของทั้งสี่ถือว่าค่อนข้างอ่อนแอในหมู่ผู้บัญชาการ…

พวกเขาจะสามารถได้ชัยชนะสองรอบสุดท้ายจริงเหรอ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 928 จิ่วโยวขึ้นประลอง

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 928 จิ่วโยวขึ้นประลอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 928 จิ่วโยวขึ้นประลอง

บนลานประลองกว้างใหญ่

เมื่อร่างบอบบางของจิ่วโยวปรากฏตัวขึ้น รูปปั้นรูปหนึ่งก็กลับมามีชีวิตแล้วร่อนลงมาขณะปลดปล่อยรังสีน่าสะพรึงออกไป

พวกมู่เฉินรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว

สัตว์อสูรตัวนี้มีร่างกายประหนึ่งหอคอย แสงสีทองวาวโรจน์เปล่งอยู่รอบๆ ราวกับว่าถูกปั้นขึ้นมาจากทองคำที่ไม่สามารถทำลายได้ มันมีหัวเป็นสิงโตสีทอง สิ่งเดียวบนร่างที่ไม่ใช่สีทองก็คือดวงตาสีแดงก่ำประหนึ่งเลือดที่อัดแน่นไปด้วยความดุร้าย

เมื่อร่างสีทองปรากฏขึ้น รัศมีที่น่ากลัวก็แผ่ออกไป

“หนึ่งในสิบมารอสูรแห่งวังสวรรค์บรรพกาล…ปีศาจราชสีห์ทองคำ” มั่นถัวหลัวมองร่างสีทองนั้นก่อนจะพูดช้าๆ “สัตว์อสูรตัวนี้มีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก มิหนำซ้ำความแข็งแกร่งยังมากกว่ามารอสูรตัวอื่นๆ”

เมื่อคนอื่นได้ยินคำพูดของนาง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหดดวงตาลง

“แต่ในฐานะวิหคอนธโลกันตร์ สายเลือดของจิ่วโยวก็แข็งแกร่งกว่าปีศาจราชสีทองคำ ดังนั้นหากปะทะกัน นางไม่เสียเปรียบแน่” มั่นถัวหลัวพยักหน้าเบา ๆ

“จิ่วโยวเป็นอัจฉริยะของเผ่าวิหคโลกันตร์ นางสามารถพัฒนาร่างเป็นวิหคอนธโลกันตร์ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นเรื่องหาได้ยากแม้แต่ในเผ่าพันธุ์ของนาง ดังนั้นหากโอกาสเอื้ออำนวยนาง ในอนาคตนางอาจสามารถทำลายขีดจำกัดปลุกสายเลือดวิหคอมตะได้…” เทียนจิ้วพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

เหล่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ แอบเดาะลิ้นเมื่อได้ยินบทสนทนา วิหคอมตะเป็นเทพอสูรชั้นสูงในมหาพันภพซึ่งอยู่ในลำดับต้นๆ ของบันทึกเทพอสูร สัตว์เทพทุกตัวที่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับนั้นล้วนเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในมหาพันภพ

สายตาของมู่เฉินจ้องเขม็งไปยังร่างเพรียวบางของจิ่วโยว เขาสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงทรงพลังที่กำจายออกมาจากร่างของนางก็ถอนหายใจ ตอนที่เขากับจิ่วโยวเข้าอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาเพิ่งบรรลุขุมพลังจื้อจุน ขณะที่นางเพิ่งจะเสร็จสิ้นการวิวัฒนาการโดยที่พลังทะยานขึ้นไปเทียบเท่ากับระดับจื้อจุนขั้นห้า

ในเวลานั้นมู่เฉินไม่ได้รับความสนใจมากนัก ขณะที่จิ่วโยวเองก็รั้งตำแหน่งสุดท้ายในหมู่ผู้บัญชาการ แต่ใครจะคิดว่าในเวลาเพียงสองปีสั้นๆ จอมยุทธ์หน้าใหม่ที่ไม่มีความสำคัญจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการ ส่วนจิ่วโยวก็เติบโตขึ้นจนบรรลุระดับจื้อจุนขั้นหกได้?

แม้ว่ามู่เฉินจะชนะในการเปรียบเทียบพัฒนาการระหว่างพวกเขา แต่จิ่วโยวเป็นเทพอสูร วิธีการฝึกฝนของเทพอสูรไม่เหมือนกับมนุษย์ บางทีพัฒนาการของพวกเขาอาจจะล่าช้า แต่เมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาสามารถเจาะคอขวดไปได้ ความเร็วในการพัฒนาของพวกเขาก็จะยิ่งกว่าน่าประหลาดใจ

ในปีที่ผ่านมาจิ่วโยวเพาะบ่มพลังแบบขมขื่นอยู่เกือบตลอดเวลา คนอื่นอาจไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มู่เฉินรู้ดีว่าด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของนาง นอกเหนือจากซิวหลัวและเลี่ยซันซึ่งสามารถปราบปรามนางได้แล้ว ผู้บัญชาการคนอื่นๆ เทียบนางไม่ติดเลย…

อย่างไรก็ตามการประลองในวันนี้อาจเปลี่ยนสถานะของนางในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ได้

บนลานประลอง

จิ่วโยวมองร่างเงาสีทองเข้ม แววตาเฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ พวกนางแพ้การประลองไปสี่รอบแล้ว นั่นหมายความว่าต้องการชัยชนะถึงสามรอบจากห้ารอบเพื่อจะสามารถเจาะโครงสร้างของค่ายกลได้

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะชนะสามในห้ารอบ ดังนั้นถ้านางแพ้โอกาสของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็จะต่ำเตี้ยลงไปอีก

ดังนั้นนางจะแพ้ไม่ได้

จิ่วโยวสูดลมหายใจเย็นเข้าสุดปอด นางกำมือกระบี่ขนสีดำก็ปรากฏขึ้นในพริบตา เปลวไฟสีม่วงลุกโชนบนใบมีดยาว นี่คือเพลิงอมตะ

ตู้ม!

เมื่อจิ่วโยวเริ่มเร้าคลื่นหลิง ม่านตาสีแดงฉานของปีศาจราชสีห์ทองคำก็จ้องเขม็งมา ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าโจมตีโดยไม่รอให้จิ่วโยวลงมือ

แสงสีทองเจิดจ้าระเบิดออก ปีศาจราชสีห์ทองคำก็กระแทกฝ่าเท้าลงบนพื้น ทำให้เกิดเสียงลมฉีกผ่านอากาศทั่วลานประลอง ร่างแข็งแกร่งปรากฏตัวต่อหน้าจิ่วโยว จากนั้นมันก็ควงกำปั้นสีทองซัดลงมาอย่างไม่ลังเล

กำปั้นพุ่งลงมาทำให้เกิดการระเบิดในชั้นบรรยากาศ พลังของกำปั้นทำให้แผ่นพื้นเบื้องล่างแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังนั้นสามารถบอกได้ว่าพลังหมัดของปีศาจราชสีห์ทองคำทรงพลังเพียงใด

แสงสีทองสะท้อนในดวงตาของจิ่วโยวที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย กระบี่ขนนกสีดำยกขึ้นมาปกป้องร่างนางเอาไว้

เคร้ง!

เสียงโลหะปะทะกันระเบิดออก กระบี่ขนนกสีดำถูกหมัดของปีศาจราชสีห์ทองคำซัดจนโค้งอย่างเห็นได้ชัด ทว่าก็ไม่ได้แตกหักลง

ชี่! ชี่!

สายตาจิ่วโยวเย็นเยือกลง เปลวไฟสีม่วงพวยพุ่งบนกระบี่ขนนกสีดำยึดกับกำปั้นของปีศาจราชสีห์ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงชี่ๆ กระจายออกไป แสงสีทองบนกำปั้นของปีศาจราชสีห์จางลงเล็กน้อย

แม้ว่าการป้องกันของปีศาจราชสีห์จะทรงพลัง แต่เพลิงอมตะของจิ่วโยวก็ไม่ได้เป็นแค่เปลวไฟธรรมดา

โฮก!

ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดจากกำปั้นทำให้ปีศาจราชสีห์แผดเสียงคำรามลั่น หมัดแข็งแกร่งกว่าเดิมส่งร่างจิ่วโยวถอยกรูดออกไป

“กีด!”

เมื่อจิ่วโยวถูกผลักกลับ คลื่นหลิงอันไร้ขอบเขตก็รวมตัวกันอยู่ข้างหลังนาง ก่อร่างเป็นวิหคอนธโลกันตร์ขนาดใหญ่ วิหคยักษ์กางปีกออก พริบตาขนสีดำที่มีเปลวไฟสีม่วงลุกโชนก็พุ่งออกไปห่อหุ้มร่างปีศาจราชสีห์เอาไว้

ขนสีดำเหล่านี้สร้างขึ้นมาจากคลื่นหลิงของจิ่วโยว ซึ่งสามารถฉีกเหล็กเฉือนหินจนป่นปี้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกยกระดับโดยเพลิงอมตะที่ครอบงำ พลังอำนาจก็ลึกซึ้งขึ้นมากจนแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ไม่กล้าที่จะดูถูก

โฮก!

ปีศาจราชสีห์ทองคำรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจเพลิงอมตะนัก มันส่งเสียงคำรามราวกับเกลียวสายฟ้าม้วนตัวแสงสีทองกระจายออกมาจากร่าง ก่อเป็นระฆังทองคำขนาดใหญ่ห่อหุ้มร่างมันไว้ภายใน

ระฆังทองคำไหลเวียนด้วยแสงสีทองอยู่รอบๆ ทำให้ดูเหมือนไม่สามารถทำลายได้ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการป้องกันของปีศาจราชสีห์ทองคำ

เคร้ง! เคร้ง!

ขนนกสีดำที่มีเพลิงสีม่วงลุกโชนซัดเข้าใส่ระฆังทองคำ ทำให้เกิดเสียงโลหะดังลั่นต่อเนื่อง ขณะที่ระลอกคลื่นสั่นสะเทือนบนพื้นผิวระฆัง ทว่าระฆังก็ไม่ได้ถูกทำลาย

“ความสามารถในการป้องกันแข็งแกร่งมากจริงๆ ผู้บัญชาการจิ่วโยว นาง…”

เมื่อคนที่เหลือเห็นภาพนี้ก็ขมวดคิ้วทันที แม้แต่การโจมตีของจิ่วโยวก็ไม่สามารถทำลายการป้องกันของปีศาจราชสีห์ได้ ถ้าสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป จิ่วโยวก็จะสูญเสียคลื่นหลิงจำนวนมาก ถึงตอนนั้นถ้านางเปิดเผยช่องโหว่ใดๆ ปีศาจราชสีห์ทองคำก็จะจับทางได้ จากนั้นก็ปล่อยสายฟ้าโจมตีเพื่อตัดสิน

แต่ขณะที่พวกเขากำลังขมวดคิ้ว ดวงตาของมั่นถัวหลัวกลับสว่างวาบขึ้น

มู่เฉินเองก็รู้สึกถึงสิ่งนี้เช่นกัน เขาเลื่อนสายตาก็มองเห็นว่าเมื่อขนนกสีดำปกคลุมไปทั่ว บริเวณรอบตัวปีศาจราชสีห์ก็เต็มไปด้วยขนนกสีดำ

เพลิงสีม่วงลุกโชนบนขนนกสีดำเหล่านั้น นอกจากนี้ยังมองดูยุ่งเหยิง แต่มู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนที่ผิดปกติในฐานะจั้นเจิ้นซือ

เคร้ง! เคร้ง!

ฝนขนนกสีดำซัดลงมากระทั่งชิ้นสุดท้าย ปิดกั้นระฆังทองคำไว้ทุกทิศทาง ตัวระฆังเริ่มแตกร้าว

เมื่อระฆังแตกออก ร่างแข็งแกร่งของปีศาจราชสีห์ซึ่งปกคลุมไปด้วยรัศมีร้ายกาจก็ยังคงยืนอยู่ที่จุดเดิมดวงตาแดงฉานจับจ้องไปที่จิ่วโยว รอยยิ้มดุร้ายปรากฏบนใบหน้า

การโจมตีที่ทรงพลังของจิ่วโยวลดลง ต่อไปถึงตามันในการปล่อยการโจมตีที่รวดเร็วเพื่อทำให้คู่ต่อสู้แหลกลาญแล้ว

โฮก!

ปีศาจราชสีห์ทองคำทุบหน้าอกอย่างหนักทำให้เกิดเสียงดังสนั่น แสงสีทองระเบิดออกทุกทิศทาง คลื่นหลิงก็รุนแรงขึ้นทบทวีคูณ

แต่ขณะที่มารอสูรกำลังจะปลดปล่อยการโจมตี รอยยิ้มเย็นก็โค้งขึ้นบนใบหน้าของจิ่วโยว มือของนางประสานกัน

ฟู่! ฟู่!

ทันทีที่จิ่วโยวสร้างตราประทับ ขนนกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนที่กระจัดกระจายไปรอบๆ ร่างปีศาจราชสีห์ก็ลุกโชติช่วงด้วยเพลิงสีม่วงเจิดจรัส ก่อตัวเป็นหม้อกลั่นสีม่วงห่อหุ้มปีศาจราชสีห์ไว้ภายใน

“หม้อกลั่นเพลิงอมตะ!”

อ้ากกกก!

ในช่วงเวลาที่หม้อกลั่นขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น ปีศาจราชสีห์ก็ส่งเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพชออกมาจากข้างใน ร่างกำยำเริ่มแสดงสัญญาณของการถูกชำระ

เวลาเดียวกันพื้นดินที่อยู่ใต้หม้อกลั่นก็แห้งผากจากอุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัว ก่อนที่รอยร้าวจะปรากฏขึ้น

ด้านนอกลานประลองผู้บัญชาการคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นจนสุดขั้วปอด เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกได้ว่าหม้อกลั่นสีม่วงน่ากลัวเพียงใด หากพวกเขาติดกับอยู่ข้างใน แม้จะเร้าร่างเทห์สวรรค์ก็คงได้รับการชำระไม่ต่างกัน

เพลิงอมตะครอบงำอย่างแท้จริง!

“โฮก!”

ปีศาจราชสีห์ทองคำคำรามอย่างบ้าคลั่ง พยายามกระเสือกกระสนออกจากวงล้อมของคลื่นหลิง ทว่าจิ่วโยวไม่ให้โอกาสที่จะทำเช่นนั้น ใบหน้าของนางเย็นชาลง ก่อนที่นางจะกำกำปั้น ทันใดนั้นหม้อกลั่นก็เริ่มหดตัวลงแล้วก็ระเบิดด้วยความปั่นป่วนครั้งใหญ่

เพลิงสีม่วงพุ่งออกไปทุกทิศทาง พุ่งไปปะทะบนกำแพงแสงที่ล้อมรอบลานประลอง ทำให้เกิดระลอกคลื่นเป็นวง

อุณหภูมิภายในตำหนักร้อนขึ้นมากในขณะนี้

จิ่วโยวยืนอยู่ลานประลอง มองไปข้างหน้าก็เห็นปีศาจราชสีห์ทองคำหายไปแล้ว มีเพียงแอ่งของเหลวทองคำทิ้งเอาไว้ต่างหน้า

ชี่! ชี่!

ของเหลวสีทองแตกออก กลายเป็นแสงสีทองพุ่งมารอบร่างจิ่วโยว จากนั้นก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายนาง

แสงสีทองเหล่านี้ก็คือแก่นคลื่นหลิงที่ถูกทิ้งไว้โดยปีศาจราชสีห์ทองคำ

จิ่วโยวยืนนิ่งบนลานประลองประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตา ทันใดนั้นมู่เฉินและคนอื่นๆ ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นหลิงของนางที่ได้รับการขัดเกลาและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่านางได้รับประโยชน์ไม่น้อยจากการประลองรอบนี้

เมื่อคนที่แพ้เห็นภาพนี้ก็ต่างรู้สึกอิจฉา แต่ก็รู้ว่าจิ่วโยวพึ่งพาตัวเองเพื่อรับโอกาสนี้ด้วยการเค้นพลังทุกหยาดหยดที่มี ตอนแรกพวกเขาก็มีโอกาสเช่นนั้น แต่น่าเสียดาย… ที่ไม่มีพลังพอที่จะคว้ามาได้

แต่ไม่ว่าอย่างไร การประลองรอบหก ในที่สุดอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง

ต่อจากนี้พวกเขาจะต้องเอาชนะอีกสองรอบถึงจะสามารถทำลายค่ายกลและเข้าไปในส่วนลึกของขุมทรัพย์ตี้จื้อจุน แต่…หลังจากการประลองหกรอบ ก็เหลือเพียงสี่ในสิบผู้บัญชาการที่ยังไม่ได้ลงชิงชัย ซึ่งจากระดับของทั้งสี่ถือว่าค่อนข้างอ่อนแอในหมู่ผู้บัญชาการ…

พวกเขาจะสามารถได้ชัยชนะสองรอบสุดท้ายจริงเหรอ?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+