หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1527 เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัว

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1527 เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงคำรามดังก้อง

ราวกับพายุโหมกระหน่ำออกมา ทำให้หมู่เมฆแตกสลาย ขณะที่บดบังแสง

ในดินแดนวั้นมู่จอมยุทธ์ทุกคนเงยหน้าขึ้นด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว เมื่อมองไปที่เทพปีศาจ พวกเขารู้สึกได้ถึงความน่ากลัวสุดพรรณนาจากอีกฝ่าย

แม้แต่จอมยุทธ์ระดับหมัวเฮอเทียนและชิงเหยี่ยนจิ้งยังมีสีหน้าซีดขาวด้วยความครั่นคร้าม

เนื่องจากชื่อเสียงของเทพปีศาจจักรพรรดิยิ่งใหญ่เกินไป ในสมัยโบราณจักรวรรดิปีศาจต่างมิติภายใต้การนำทัพของเขาทำให้มหาพันภพพ่ายแพ้ยับเยิน หากไม่ใช่เพราะเทพจักรพรรดินิรันดร์จักรวาลแห่งนี้คงตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน…

ย้อนกลับไปตอนนั้นเทพจักรพรรดินิรันดร์ได้สละชีวิตเพื่อผนึกเทพปีศาจจักรพรรดิ แต่ใครจะคิดว่าสี่หมื่นเก้าพันปีต่อมา เทพปีศาจคนนี้จะได้รับการปลดปล่อยในช่วงเวลาสุดท้าย

“เหลือหอกอีกสามเล่มเท่านั้นเอง!” เสียงของไท่หมิงสั่นพร่าด้วยความไม่เต็มใจ พวกเขารอเพียงหอกอีกสามเล่มเท่านั้นก็จะดับชีวิตเทพปีศาจจักรพรรดิได้ แต่ความพยายามทั้งหมดกลับสลายกลายเป็นอากาศธาตุในเวลานี้

“หรือว่านี่เป็นชะตากรรมของมหาพันภพจริงๆ?”

จอมยุทธ์หลายคนออกอาการเศร้าสลด

ที่ด้านนอกดินแดนวั้นมู่ ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อก็รู้สึกได้ถึงรัศมีปีศาจน่าสะพรึงกลัว สีหน้าของพวกเขาก็ดูน่าเกลียดลงเช่นกัน

“สี่หมื่นเก้าพันปี! การทำงานหนักกว่าสี่หมื่นเก้าพันปีของผู้พิทักษ์หมื่นสุสานหมดสิ้นกันแล้ว!” จักรพรรดิอมตะตัวสั่นสะท้านขณะกู่ร้อง

เขารู้สึกไม่เต็มใจ เนื่องจากอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หากพวกเขาสามารถยืนหยัดได้จนถึงหอกเล่มสุดท้ายซัดลงมา ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาพันภพก็จะถูกทำลายไปตลอดกาล

แต่ตอนนี้เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัวใต้หล้าอีกครั้ง แล้วมหาพันภพจะใช้อะไรในการหยุดปีศาจตัวนี้ได้?

สีหน้าของฉิงเทียนและชิงซันก็มืดมนลงพร้อมกับแสงอ่อนจางวูบไหวในดวงตา พวกเขาได้ทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ใครจะคิดว่ากองทัพปีศาจจะมีแผนสำรองมากมายในวันนี้…

ทว่าฉิงเทียนไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงสงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วดินแดนวั้นมู่ “ทุกคนฟังคำสั่ง เข้าควบคุมค่ายกลดับแสงพันปีศาจเพื่อฆ่าไอ้ปีศาจนี่ซะ! มันเพิ่งหลุดออกมา ยังอ่อนแออยู่มาก!”

เมื่อเหล่าจอมยุทธ์ผู้สิ้นหวังได้ยินเสียงของเขา พวกเขาก็ตื่นจากภวังค์พลางสบตากันก่อนที่จะกัดฟันและหมุนเวียนคลื่นหลิงในร่างกายเทลงไปในโลงศพ

จากบันทึกโบราณต่างๆ พวกเขารู้ว่าเทพปีศาจจักรพรรดิน่ากลัวเพียงใด ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ห้ามปล่อยให้ไอ้ปีศาจตัวนี้รอดไปได้ มิฉะนั้นจะเป็นการทำลายล้างมหาพันภพหากมันฟื้นขึ้นมา

ตู้ม ตู้ม!

ควบคู่กับการหมุนค่ายกล อักขระโบราณนับไม่ถ้วนก็รวมเข้าด้วยกันก่อนที่จะกลายเป็นลวดลายโบราณที่เต็มไปด้วยพลังลึกลับ

เทพปีศาจเงยหน้าขึ้นพร้อมกับความชั่วร้ายสุดพรรณนาในแววตา เมื่อมองไปที่ค่ายกลเสียงคำรามก็สะท้อนก้องขึ้นอีกครั้ง “ไอ้เทพจักรพรรดินิรันดร์ตายไปนานแล้ว พวกแกคิดว่าสามารถผนึกข้าด้วยค่ายกลกระจอกที่มันทิ้งไว้ข้างหลังเรอะ? ปัญญาอ่อนเกินไปแล้ว!”

เขาลอยตัวขึ้นไปในอากาศ รัศมีปีศาจแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมา แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็จะถูกฆ่าตายทันทีหากไปติดอยู่ในนั้น

“หยุดมัน!”

หมัวเฮอเทียนและคนอื่นๆ ร้องลั่น

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ลวดลายโบราณถูกกระตุ้นพุ่งเข้าไปล้อมรอบตัวเทพปีศาจที่พยายามหลบหนีจากดินแดนวั้นมู่

“ไสหัวไป!” เมื่อเห็นลวดลายโบราณกำลังพล่านเข้ามา เทพปีศาจก็แผดเสียงตะโกนพร้อมกับซัดรัศมีปีศาจที่สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้อย่างง่ายดาย

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ลวดลายโบราณเปล่งประกายแวววาวกลายเป็นม่านแสงทรงกลมห่อหุ้มเทพปีศาจเอาไว้

ชี่ ชี่!

รัศมีปีศาจปะทะเข้ากับม่านแสง เกิดเสียงดังฉ่าคล้ายกับหิมะต้องลาวา สลายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ หม้วเฮอเทียนและคนอื่นๆ ก็เร้าพลังขึ้นมาทันที เนื่องจากดูเหมือนว่าค่ายกลดับแสงพันปีศาจจะมีผลกับเทพปีศาจจักรพรรดิมาก

แสงเย็นเยือกวูบวาบไปทั่วดวงตาเทพปีศาจขณะที่เสียงดังก้อง “ต่อให้ตอนนี้เป็นสภาพที่อ่อนแอที่สุดของข้า แต่คิดว่าจะสามารถดักข้าไว้ได้ด้วยลวดลายเหล่านี้เรอะ?

“ลำแสงปีศาจโลกาวินาศ!”

เสียงคำรามดังก้องระหว่างฟ้าดิน เทพปีศาจอ้าปากปล่อยลำแสงปีศาจพวยพุ่งออกมา ลำแสงปีศาจนี้มีขนาดประมาณร้อยจั้ง เมื่อปรากฏขึ้นสวรรค์และโลกก็แยกออกจากกันพร้อมกับคลื่นหลิงถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเจอสิ่งน่ากลัว

ลำแสงปีศาจปะทะเข้ากับม่านแสงเบื้องบน พลังงานสองสายชนกันจังใหญ่ ลำแสงปีศาจกระจายความผันผวนที่ไม่สามารถอธิบายได้ มิติแตกออก กระทั่งเวลายังเฉื่อยลงภายใต้ลำแสงปีศาจนี้

ลวดลายโบราณเปล่งรัศมีออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่เสริมความแข็งแกร่งของม่านแสงพยายามที่จะต้านทาน

ทว่าลำแสงปีศาจน่ากลัวเกินไป หลังจากสิบกว่าลมหายใจม่านแสงก็เริ่มจางหายไปพร้อมกับรอยแตกปรากฏขึ้นบนลวดลาย

“ต่อให้ไอ้เทพจักรพรรดินิรันดร์ฟื้นขึ้นมาในวันนี้ มันก็อย่าคิดจะได้หยุดข้า!” เทพปีศาจคำรามเสียงดัง ลำแสงปีศาจขยายออก พริบตาก็ทะลุผ่านปราการม่านแสง

ลำแสงปีศาจนำพาร่างเทพปีศาจลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพุ่งออกจากดินแดนวั้นมู่

ที่ด้านนอกปราการดินแดนวั้นมู่ แถวแสงที่สร้างขึ้นจากค่ายกลก็เหลือชั้นสุดท้ายเท่านั้น ขณะนี้ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อมองไปที่ร่างเทพปีศาจด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ หากพุ่งผ่านปราการนี้ไปได้ เทพปีศาจจักรพรรดิก็จะเป็นอิสระแล้ว

“เราต้องหยุดมัน มิฉะนั้นเมื่อไรที่ไอ้เทพปีศาจนั่นหลุดไปได้ ก็จะไม่มีใครสามารถปราบปรามมันได้อีกต่อไป!” ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน

“ฮ่าๆ พวกข้าจะยอมให้พวกแกขัดขวางท่านเทพได้อย่างไร? อยู่ตรงนี้และดูเฉยๆ!” แต่เมื่อทั้งสามกำลังจะทะยานออกไป เสียงหัวเราะก็ดังก้องขึ้น จอมปีศาจเซิ่งเทียนสาดสายตามองมาอย่างเย็นชา พร้อมกับการโบกมือ เขานำประมุขเผ่าปีศาจส่วนหนึ่งพุ่งเข้ามา

รัศมีปีศาจรุนแรงพวยพุ่งขึ้นกวาดเข้าใส่ยอดยุทธ์ทั้งสาม

ทว่าพวกฉิงเทียนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหยุดและเผชิญหน้ากับเผ่าปีศาจ

ตู้ม ตู้ม!

ในเวลาเดียวกันร่างเงาของเทพปีศาจจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นใต้ขบวนแถวแสง ลำแสงปีศาจพุ่งออกมา เมื่อสัมผัสก็ทำให้เกิดความผันผวนรุนแรง แต่ไม่สามารถทะลุผ่านและค่อยๆ จางหายไป

“ถ้าข้าฟื้นเต็มกำลังก็สามารถทำลายได้ด้วยฝ่ามือเดียว แต่ตอนนี้คงต้องใช้พลังแก่นปีศาจแล้วเท่านั้น” ดวงตาเทพปีศาจไม่มีการกระเพื่อมใดๆ ขณะที่มองปราการชั้นสุดท้าย

พูดจบ รัศมีสีดำก็แยกออกจากร่างกายก่อร่างเป็นผลึกสีดำขนาดเท่ากำปั้นที่เบื้องหน้า

แม้ว่าผลึกสีดำจะไม่ได้เด่นตาอะไร แต่กลับมีความผันผวนของการทำลายล้างก่อตัวขึ้น

ที่ด้านหลังผลึกสีดำร่างเทพปีศาจก็หดตัวลงจนเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ชัดว่าได้เร้าพลังงานส่วนใหญ่ไปแล้ว

“ไป”

เทพปีศาจสะบัดนิ้ว ผลึกก็พุ่งออกไปปะทะกับขบวนแถวแสง

ขณะที่ประสานงากันก็ไม่มีความวุ่นวายใดๆ แต่ผลึกสีดำกลับแผ่ซ่านด้วยวงรัศมีดำมืดที่ผันผวน…

ความผันผวนดูเหมือนจะบรรจุด้วยพลังลึกลับ เมื่อกวาดออกขบวนแถวแสงที่ไม่ได้รับผลกระทบใดจากจอมปีศาจทั้งหลายก็เริ่มปรวนแปรแล้ว

เมื่อการสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น แถวแสงก็เริ่มบางลง

ผลึกสีดำอ่อนกำลังและหดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อมีขนาดเท่ากับเมล็ดพืชในที่สุดแถวแสงก็สลายหายไป กลายเป็นวงรัศมีว่างเปล่า

เมื่อมองไปที่วงรัศมีว่างเปล่าบนอากาศ เหล่าจอมยุทธ์ในดินแดนวั้นมู่ก็มีสีหน้าซีดขาวสุดขีด

ขณะมองไปที่วงรัศมีว่างเปล่า ดวงตาไม่แยแสของเทพปีศาจจักรพรรดิก็วูบไหว ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองดินแดนวั้นมู่ “ปู้ซิ่ว แกสละชีวิตเมื่อสี่หมื่นเก้าพันปีก่อนเพื่อผนึกข้า แต่คราวนี้ใครหน้าไหนในมหาพันภพจะหยุดข้าได้? ข้าเคยพูดไว้แล้วว่ามหาพันภพจะต้องเป็นของข้า…”

เพียงแค่เคลื่อนไหว รัศมีปีศาจเชี่ยวกรากก็พุ่งออกมาจากวงรัศมี ทันใดนั้นรัศมีปีศาจก็เริ่มกระจายออก หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการของค่ายกลดับแสงพันปีศาจ

ขณะนี้ทุกคนในมหาพันภพรู้สึกถึงความกลัวพลุ่งพล่านในหัวใจ

ยามนี้เทพปีศาจจักรพรรดิชั่วร้ายเผยตัวแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 1527 เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัว

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 1527 เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงคำรามดังก้อง

ราวกับพายุโหมกระหน่ำออกมา ทำให้หมู่เมฆแตกสลาย ขณะที่บดบังแสง

ในดินแดนวั้นมู่จอมยุทธ์ทุกคนเงยหน้าขึ้นด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว เมื่อมองไปที่เทพปีศาจ พวกเขารู้สึกได้ถึงความน่ากลัวสุดพรรณนาจากอีกฝ่าย

แม้แต่จอมยุทธ์ระดับหมัวเฮอเทียนและชิงเหยี่ยนจิ้งยังมีสีหน้าซีดขาวด้วยความครั่นคร้าม

เนื่องจากชื่อเสียงของเทพปีศาจจักรพรรดิยิ่งใหญ่เกินไป ในสมัยโบราณจักรวรรดิปีศาจต่างมิติภายใต้การนำทัพของเขาทำให้มหาพันภพพ่ายแพ้ยับเยิน หากไม่ใช่เพราะเทพจักรพรรดินิรันดร์จักรวาลแห่งนี้คงตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน…

ย้อนกลับไปตอนนั้นเทพจักรพรรดินิรันดร์ได้สละชีวิตเพื่อผนึกเทพปีศาจจักรพรรดิ แต่ใครจะคิดว่าสี่หมื่นเก้าพันปีต่อมา เทพปีศาจคนนี้จะได้รับการปลดปล่อยในช่วงเวลาสุดท้าย

“เหลือหอกอีกสามเล่มเท่านั้นเอง!” เสียงของไท่หมิงสั่นพร่าด้วยความไม่เต็มใจ พวกเขารอเพียงหอกอีกสามเล่มเท่านั้นก็จะดับชีวิตเทพปีศาจจักรพรรดิได้ แต่ความพยายามทั้งหมดกลับสลายกลายเป็นอากาศธาตุในเวลานี้

“หรือว่านี่เป็นชะตากรรมของมหาพันภพจริงๆ?”

จอมยุทธ์หลายคนออกอาการเศร้าสลด

ที่ด้านนอกดินแดนวั้นมู่ ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อก็รู้สึกได้ถึงรัศมีปีศาจน่าสะพรึงกลัว สีหน้าของพวกเขาก็ดูน่าเกลียดลงเช่นกัน

“สี่หมื่นเก้าพันปี! การทำงานหนักกว่าสี่หมื่นเก้าพันปีของผู้พิทักษ์หมื่นสุสานหมดสิ้นกันแล้ว!” จักรพรรดิอมตะตัวสั่นสะท้านขณะกู่ร้อง

เขารู้สึกไม่เต็มใจ เนื่องจากอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น หากพวกเขาสามารถยืนหยัดได้จนถึงหอกเล่มสุดท้ายซัดลงมา ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาพันภพก็จะถูกทำลายไปตลอดกาล

แต่ตอนนี้เทพปีศาจจักรพรรดิเผยตัวใต้หล้าอีกครั้ง แล้วมหาพันภพจะใช้อะไรในการหยุดปีศาจตัวนี้ได้?

สีหน้าของฉิงเทียนและชิงซันก็มืดมนลงพร้อมกับแสงอ่อนจางวูบไหวในดวงตา พวกเขาได้ทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่ใครจะคิดว่ากองทัพปีศาจจะมีแผนสำรองมากมายในวันนี้…

ทว่าฉิงเทียนไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงสงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วดินแดนวั้นมู่ “ทุกคนฟังคำสั่ง เข้าควบคุมค่ายกลดับแสงพันปีศาจเพื่อฆ่าไอ้ปีศาจนี่ซะ! มันเพิ่งหลุดออกมา ยังอ่อนแออยู่มาก!”

เมื่อเหล่าจอมยุทธ์ผู้สิ้นหวังได้ยินเสียงของเขา พวกเขาก็ตื่นจากภวังค์พลางสบตากันก่อนที่จะกัดฟันและหมุนเวียนคลื่นหลิงในร่างกายเทลงไปในโลงศพ

จากบันทึกโบราณต่างๆ พวกเขารู้ว่าเทพปีศาจจักรพรรดิน่ากลัวเพียงใด ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ห้ามปล่อยให้ไอ้ปีศาจตัวนี้รอดไปได้ มิฉะนั้นจะเป็นการทำลายล้างมหาพันภพหากมันฟื้นขึ้นมา

ตู้ม ตู้ม!

ควบคู่กับการหมุนค่ายกล อักขระโบราณนับไม่ถ้วนก็รวมเข้าด้วยกันก่อนที่จะกลายเป็นลวดลายโบราณที่เต็มไปด้วยพลังลึกลับ

เทพปีศาจเงยหน้าขึ้นพร้อมกับความชั่วร้ายสุดพรรณนาในแววตา เมื่อมองไปที่ค่ายกลเสียงคำรามก็สะท้อนก้องขึ้นอีกครั้ง “ไอ้เทพจักรพรรดินิรันดร์ตายไปนานแล้ว พวกแกคิดว่าสามารถผนึกข้าด้วยค่ายกลกระจอกที่มันทิ้งไว้ข้างหลังเรอะ? ปัญญาอ่อนเกินไปแล้ว!”

เขาลอยตัวขึ้นไปในอากาศ รัศมีปีศาจแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมา แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็จะถูกฆ่าตายทันทีหากไปติดอยู่ในนั้น

“หยุดมัน!”

หมัวเฮอเทียนและคนอื่นๆ ร้องลั่น

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ลวดลายโบราณถูกกระตุ้นพุ่งเข้าไปล้อมรอบตัวเทพปีศาจที่พยายามหลบหนีจากดินแดนวั้นมู่

“ไสหัวไป!” เมื่อเห็นลวดลายโบราณกำลังพล่านเข้ามา เทพปีศาจก็แผดเสียงตะโกนพร้อมกับซัดรัศมีปีศาจที่สามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้อย่างง่ายดาย

ฮึ่ม ฮึ่ม!

ลวดลายโบราณเปล่งประกายแวววาวกลายเป็นม่านแสงทรงกลมห่อหุ้มเทพปีศาจเอาไว้

ชี่ ชี่!

รัศมีปีศาจปะทะเข้ากับม่านแสง เกิดเสียงดังฉ่าคล้ายกับหิมะต้องลาวา สลายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นผลลัพธ์นี้ หม้วเฮอเทียนและคนอื่นๆ ก็เร้าพลังขึ้นมาทันที เนื่องจากดูเหมือนว่าค่ายกลดับแสงพันปีศาจจะมีผลกับเทพปีศาจจักรพรรดิมาก

แสงเย็นเยือกวูบวาบไปทั่วดวงตาเทพปีศาจขณะที่เสียงดังก้อง “ต่อให้ตอนนี้เป็นสภาพที่อ่อนแอที่สุดของข้า แต่คิดว่าจะสามารถดักข้าไว้ได้ด้วยลวดลายเหล่านี้เรอะ?

“ลำแสงปีศาจโลกาวินาศ!”

เสียงคำรามดังก้องระหว่างฟ้าดิน เทพปีศาจอ้าปากปล่อยลำแสงปีศาจพวยพุ่งออกมา ลำแสงปีศาจนี้มีขนาดประมาณร้อยจั้ง เมื่อปรากฏขึ้นสวรรค์และโลกก็แยกออกจากกันพร้อมกับคลื่นหลิงถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว ราวกับเจอสิ่งน่ากลัว

ลำแสงปีศาจปะทะเข้ากับม่านแสงเบื้องบน พลังงานสองสายชนกันจังใหญ่ ลำแสงปีศาจกระจายความผันผวนที่ไม่สามารถอธิบายได้ มิติแตกออก กระทั่งเวลายังเฉื่อยลงภายใต้ลำแสงปีศาจนี้

ลวดลายโบราณเปล่งรัศมีออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่เสริมความแข็งแกร่งของม่านแสงพยายามที่จะต้านทาน

ทว่าลำแสงปีศาจน่ากลัวเกินไป หลังจากสิบกว่าลมหายใจม่านแสงก็เริ่มจางหายไปพร้อมกับรอยแตกปรากฏขึ้นบนลวดลาย

“ต่อให้ไอ้เทพจักรพรรดินิรันดร์ฟื้นขึ้นมาในวันนี้ มันก็อย่าคิดจะได้หยุดข้า!” เทพปีศาจคำรามเสียงดัง ลำแสงปีศาจขยายออก พริบตาก็ทะลุผ่านปราการม่านแสง

ลำแสงปีศาจนำพาร่างเทพปีศาจลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพุ่งออกจากดินแดนวั้นมู่

ที่ด้านนอกปราการดินแดนวั้นมู่ แถวแสงที่สร้างขึ้นจากค่ายกลก็เหลือชั้นสุดท้ายเท่านั้น ขณะนี้ฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อมองไปที่ร่างเทพปีศาจด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ หากพุ่งผ่านปราการนี้ไปได้ เทพปีศาจจักรพรรดิก็จะเป็นอิสระแล้ว

“เราต้องหยุดมัน มิฉะนั้นเมื่อไรที่ไอ้เทพปีศาจนั่นหลุดไปได้ ก็จะไม่มีใครสามารถปราบปรามมันได้อีกต่อไป!” ทั้งสามคนพูดพร้อมกัน

“ฮ่าๆ พวกข้าจะยอมให้พวกแกขัดขวางท่านเทพได้อย่างไร? อยู่ตรงนี้และดูเฉยๆ!” แต่เมื่อทั้งสามกำลังจะทะยานออกไป เสียงหัวเราะก็ดังก้องขึ้น จอมปีศาจเซิ่งเทียนสาดสายตามองมาอย่างเย็นชา พร้อมกับการโบกมือ เขานำประมุขเผ่าปีศาจส่วนหนึ่งพุ่งเข้ามา

รัศมีปีศาจรุนแรงพวยพุ่งขึ้นกวาดเข้าใส่ยอดยุทธ์ทั้งสาม

ทว่าพวกฉิงเทียนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากหยุดและเผชิญหน้ากับเผ่าปีศาจ

ตู้ม ตู้ม!

ในเวลาเดียวกันร่างเงาของเทพปีศาจจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นใต้ขบวนแถวแสง ลำแสงปีศาจพุ่งออกมา เมื่อสัมผัสก็ทำให้เกิดความผันผวนรุนแรง แต่ไม่สามารถทะลุผ่านและค่อยๆ จางหายไป

“ถ้าข้าฟื้นเต็มกำลังก็สามารถทำลายได้ด้วยฝ่ามือเดียว แต่ตอนนี้คงต้องใช้พลังแก่นปีศาจแล้วเท่านั้น” ดวงตาเทพปีศาจไม่มีการกระเพื่อมใดๆ ขณะที่มองปราการชั้นสุดท้าย

พูดจบ รัศมีสีดำก็แยกออกจากร่างกายก่อร่างเป็นผลึกสีดำขนาดเท่ากำปั้นที่เบื้องหน้า

แม้ว่าผลึกสีดำจะไม่ได้เด่นตาอะไร แต่กลับมีความผันผวนของการทำลายล้างก่อตัวขึ้น

ที่ด้านหลังผลึกสีดำร่างเทพปีศาจก็หดตัวลงจนเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ชัดว่าได้เร้าพลังงานส่วนใหญ่ไปแล้ว

“ไป”

เทพปีศาจสะบัดนิ้ว ผลึกก็พุ่งออกไปปะทะกับขบวนแถวแสง

ขณะที่ประสานงากันก็ไม่มีความวุ่นวายใดๆ แต่ผลึกสีดำกลับแผ่ซ่านด้วยวงรัศมีดำมืดที่ผันผวน…

ความผันผวนดูเหมือนจะบรรจุด้วยพลังลึกลับ เมื่อกวาดออกขบวนแถวแสงที่ไม่ได้รับผลกระทบใดจากจอมปีศาจทั้งหลายก็เริ่มปรวนแปรแล้ว

เมื่อการสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น แถวแสงก็เริ่มบางลง

ผลึกสีดำอ่อนกำลังและหดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อมีขนาดเท่ากับเมล็ดพืชในที่สุดแถวแสงก็สลายหายไป กลายเป็นวงรัศมีว่างเปล่า

เมื่อมองไปที่วงรัศมีว่างเปล่าบนอากาศ เหล่าจอมยุทธ์ในดินแดนวั้นมู่ก็มีสีหน้าซีดขาวสุดขีด

ขณะมองไปที่วงรัศมีว่างเปล่า ดวงตาไม่แยแสของเทพปีศาจจักรพรรดิก็วูบไหว ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองดินแดนวั้นมู่ “ปู้ซิ่ว แกสละชีวิตเมื่อสี่หมื่นเก้าพันปีก่อนเพื่อผนึกข้า แต่คราวนี้ใครหน้าไหนในมหาพันภพจะหยุดข้าได้? ข้าเคยพูดไว้แล้วว่ามหาพันภพจะต้องเป็นของข้า…”

เพียงแค่เคลื่อนไหว รัศมีปีศาจเชี่ยวกรากก็พุ่งออกมาจากวงรัศมี ทันใดนั้นรัศมีปีศาจก็เริ่มกระจายออก หลังจากที่ได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการของค่ายกลดับแสงพันปีศาจ

ขณะนี้ทุกคนในมหาพันภพรู้สึกถึงความกลัวพลุ่งพล่านในหัวใจ

ยามนี้เทพปีศาจจักรพรรดิชั่วร้ายเผยตัวแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+