A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน 1704 โยนภูเขา

Now you are reading A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน Chapter 1704 โยนภูเขา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทว่าร่างกายของเขาพลันถูกหมอกลำแสงห้าสีม้วนเอาไว้ บรรยากาศรอบด้านเปลี่ยนเป็นแข็งแน่นราวกับเหล็กกล้า พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งกดลงมาบนร่างในเวลาเดียวกัน ไม่อาจขยับตัวได้เลยสักนิด

อสรพิษไฟฟ้าสีม่วงห้าสายเปล่งแสงสว่างวาบ ดีดตัวออกพร้อมกับเสียงฟ้าร้องคำรามที่น่าตกตะลึง

หานลี่พลันตกอยู่ในอันตราย

ทว่าถึงอย่างไรเสียเขาก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆ สีหน้าซีดขาวพลันสลายหายไปในทันที แววตากลับฉายแววเย็นชา จมูกแค่นเสียงหึด้วยความเย็นชาออกมา

ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบขึ้นบนเรือนร่าง เงาเทวรูปสามเศียรหกกรปรากฏขึ้นบนเรือนร่างอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้เทวรูปที่ปรากฏกลับไม่เหมือนกับก่อนหน้า

คาดไม่ถึงว่าตัวของเทวรูปจะเปล่งแสงระยิบระยับ ราวกับว่าถูกฉาบด้วยสีทอง เฉกเช่นเทวรูปสีทองบริสุทธิ์

นั่นคือร่างเทวรูปทองคำที่หานลี่เพิ่งหลอมขึ้น

ยามนี้หานลี่ได้รับประโยชน์จึงอ้าปากออกพ่นลำแสงสีดำออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกลายเป็นไอสีดำจมหายเข้าไปในร่างสีทอง

เดิมดวงตาของเศียรหนึ่งในสามเศียรเทวรูปเป็นสีขมุกขมัว ฉับพลันนั้นพลันเปลี่ยนเป็นเปล่งประกาย และมีไอสีดำแฝงอยู่บนใบหน้า

มันพลันพลิ้วกาย ร่างสีทองเรืองรองสูงสองสามจั้งต้านทานอยู่เบื้องหน้าของหานลี่

ส่วนประจุไฟฟ้าสีม่วงสองสามสายพลันเปล่งแสงสว่างวาบ แต่แขนทั้งห้าของร่างทองกลับโบกสะบัดไปมาพร้อมกันอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด

หลังจากเสียง “ตูมๆ” พลันดังขึ้น เสาลำแสงสีทองห้าสายพ่นออกมาจากใจกลางฝ่ามือ แล้วพุ่งเข้ามา

ลำแสงสีทองและสายฟ้าสีม่วงปะทะเข้าด้วยกันอยู่ไกลๆ ทันที

แม้ว่าสายฟ้าสีม่วงจะร้ายกาจ แต่ก็ยังคงถูกเสาลำแสงโจมตีจนสลายหายไปกว่าครึ่ง แต่ตัวของเสาลำแสงก็สลายหายไปเช่นกัน

จากสถานการณ์นี้หานลี่แค่ควบคุมร่างทองสำแดงการโจมตีออกมาอีกครั้ง ก็สามารถหลุดออกจากอันตรายครั้งนี้ได้แล้ว

แต่ประจุไฟฟ้าที่ชำรุดกลับไม่ให้โอกาสร่างทองได้ปล่อยระลอกคลื่นครั้งที่สอง

เสียง “ครืด” ดังขึ้นอีกครั้ง อสรพิษไฟฟ้าสีม่วงมาอยู่ใกล้แค่คืบ แล้วโจมตีลงมาอย่างรุนแรง

แต่ยามเส้นยาแดงผ่าแปดนั้น แขนของร่างทองของหานลี่กลับรางเลือน ชั่วครู่สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ครู่ต่อมาประจุไฟฟ้าสีม่วงห้าสายพลันสั่นเทา ถูกฝ่ามือสีทองทั้งห้าเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น พลางตะปบลงมา

พวกมันดูเหมือนจะทะลักออกมาจากกลางอากาศ แล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

นิ้วทั้งห้าออกแรง หลังจากสายฟ้าอัสนีดังขึ้น ก็ถูกตะปบแล้วสลายออก

เส้นไหมสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมา ส่วนน้อยโจมตีไปยังร่างสีทองของเทวรูป

แต่เส้นไหมไฟฟ้าเหล่านี้แค่กะพริบวาบแล้วก็สลายหายไป ไม่อาจทำอันตรายร่างทองได้เลยสักนิด

ทว่าเสาทั้งห้าที่อยู่ไกลออกไปกลับเปล่งเสียงฟ้าคำรามออกมาไม่หยุด ทันใดนั้นประจุไฟฟ้าอีกห้าสายก็ปรากฏออกมา หมายจะพุ่งออกไปอีกครั้ง

แต่การล่าช้านี้ หานลี่ที่ถูกม่านลำแสงห้าสีกักเอาไว้กลับเพียงพอแล้ว

จากความแข็งแกร่งของกายเนื้อของเขาและอิทธิฤทธิ์สายเต๋าจะถูกกักไว้ในเขตอาคมได้อย่างไร

ทันใดนั้นก็เห็นเขาบริกรรมคาถาอย่างรวดเร็ว ลำแสงสีดำไหลวนโคจรบนเกราะมาร ร่างกายขยายใหญ่ขึ้น ฉับพลันนั้นทั่วเรือนร่างก็มีขนสีเหลืองทองแข็งๆ งอกออกมา

ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ เขี้ยวสองข้างงอกออกมาจากริมฝีปาก

คาดไม่ถึงว่าเขาจะกลายเป็นวานรยักษ์สูงสิบจั้งเศษ

ขนสีทองตาสีฟ้า เขี้ยวเต็มปาก หน้าตาน่ากลัวมาก

ทว่าภายใต้เนตรวิญญาณวารีกระจ่างก็ยังคงเห็นเงาร่างเดิมของหานลี่อย่างชัดเจน ยังคงมีสีหน้าราบเรียบเหมือนดังตอนที่ไม่ได้แปลงร่าง

เกราะมารเหนือฟ้าบนร่างของวานรยักษ์ ขยายใหญ่ขึ้นตามขนาดตัวเช่นกัน และยิ่งไปกว่านั้นใบหน้ายังมีหนามๆ ยาวสองสามฉื่องอกออกมา เปล่งแสงเย็นเยียบ ทำให้ผู้คนเห็นแล้วรู้สึกหนาวสะท้าน

นั่นคือเคล็ดวิชาลวงตาของวานรยักษ์ภูเขาที่หานลี่เพิ่งฝึกฝนใหม่จากคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้ง

หานลี่รู้สึกเพียงว่าความร้อนระอุทะลักออกมาจากจุดตันเถียน ไหลวนไปตามจุดชีพจรต่างๆ อย่างรวดเร็ว

ระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นสี่ห้าเท่า

ต้องเข้าใจว่ากายเนื้อของหานลี่เดิมก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ยามนี้เพิ่มขึ้นกว่าครึ่ง ระดับความน่ากลัวแค่ไหนไม่ต้องคิดก็รู้แล้ว

ครู่ต่อมาเขาที่กลายเป็นวานรยักษ์พลันสำแดงอิทธิฤทธิ์ที่น่าตกตะลึงออกมา

เห็นเพียงวานรยักษ์ร้องคำรามต่ำๆ ออกมา แขนที่มีขนปุกปุยทั้งสองโบกสะบัดไปมากลางอากาศ

ชั่วขณะนั้นม่านลำแสงห้าที่กักเขาเอาไว้พลันสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง เปล่งเสียงร้องคำรามแล้วสลายตัวออก

แต่หมอกลำแสงห้าสีรอบด้านที่อยู่ไกลออกไปพลันเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วหมุนวนกดลงมาอีกครั้ง ไม่ให้โอกาสหานลี่ได้หายใจเลยสักนิด

วานรยักษ์บินมาอยู่เหนือวิหคเพลิงสีเงินอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด มือหนึ่งชี้ออกไป อีกมือหนึ่งกลับตะปบไปทางยอดเขาสีดำกลางอากาศ

หลังจากเสียงเพรียกไพเราะของวิหคเพลิงดังขึ้น ก็หมุนวนรอบหนึ่ง กลายเป็นดวงแสงเพลิงขนาดยักษ์ร่อนลงมาจากกลางอากาศอีกครั้ง ดูจากจุดที่ร่อนลงมาคาดไม่ถึงว่าจะเป็นวานรยักษ์สีทอง

ยอดเขาสีดำพลันพลิ้วไหว เสียง “สวบ” ดังขึ้น สลายหายไปจากกลางอากาศ

หลังจากเสียงอึกทึกดังขึ้น เปลวเพลิงสีเงินพลันระเบิดออกใกล้กับวานรยักษ์ ระลอกคลื่นสีเงินพวยพุ่งออกมา

เมื่อครู่ที่คิดจะเข้าใกล้หมอกลำแสงห้าสี พลันถูกเปลวเพลิงดันออกไปในพริบตา ยามนั้นไม่อาจเข้าใกล้วานรยักษ์ได้แม้แต่น้อย

วานรยักษ์สีทองในทะเลเพลิงกลับพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง กลางอากาศมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ยอดเขาสีดำสูงสิบจั้งเศษเปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้นกลางอากาศ คาดไม่ถึงว่าจะถูกฝ่ามือที่มีขนปุกปุยข้างหนึ่งถือเอาไว้อย่างง่ายดาย

ราวกับภูเขาลูกนี้เบาหวิวอย่างไรอย่างนั้น!

ทันใดนั้นหานลี่พลันกระทำเรื่องที่คนนอกเห็นเข้าแล้วตกต้องใจจนขวัญผวา

เห็นเพียงเขาที่กลายเป็นวานรยักษ์ แววตาฉายแววโหดเหี้ยม ฉับพลันนั้นแขนที่รองยอดเขาอยู่ก็บิดเบี้ยว ออกแรงกายครึ่งหนึ่งโยนภูเขาเทวะดูดปราณออกไปราวกับเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง

นี่ไม่ต้องใช้เคล็ดวิชาอันใดกระตุ้นสมบัติอาคม แต่ใช้พลังกายเนื้อของหานลี่โยนออกไปเท่านั้น

แม้ว่าภูเขาเทวะดูดปราณจะไม่ได้ใหญ่จนถึงขีดสุดของมัน ไม่ได้ปล่อยน้ำหนักทั้งหมดออกมา แต่ก็มีน้ำหนักกว่าแสนชั่ง ถูกหานลี่ใช้แรงโยนออกไปแล้วก็เกิดเสียงระเบิดแหลมๆ ดังขึ้นกลางอากาศ

ชั่วพริบตานั้นยอดเขาสีดำก็กลายเป็นเงาสีดำพุ่งออกไป ทุกแห่งที่กวาดผ่านไป พลันเกิดเสียงพายุหมุนสีขาวแหวกผ่านอากาศดังขึ้น รอยบากสีขาวหนาๆ สายหนึ่งเปล่งแสงสว่างวาบผ่านยอดเขา แล้วปรากฏขึ้นกลางอากาศ

มองรอยบากนั้นจากไกลๆ มันบิดเบี้ยวไปมาไม่หยุด ระลอกคลื่นที่รุนแรงแผ่ออกมาจากด้านใน ราวกับว่ารอยแยกห้วงเวลาสายหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

เห็นได้ชัดว่าหานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ก็เพราะต้องการออกแรงมหาศาลนี้! แต่เป้าหมายที่เขาโยนออกไป กลับเป็นหนึ่งในเสาสีทองอมม่วงห้าเสานั้น

แม้ว่าเสาต้นนั้นจะมีสายฟ้าแผ่ออกมาในพริบตา และปล่อยประจุไฟฟ้าสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาโจมตีหมอกขนาดยักษ์ แต่ยอดเขาสีดำกลับทำเป็นมองไม่เห็น ความเร็วไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

ครู่ต่อมายอดเขาสีดำพลันทลายสายฟ้าสีม่วงบนเสาไป ทุบลงไปที่ตัวเสาอย่างแรง

ลำแสงสีม่วงและดำตัดสลับกันไปมา ชั่วขณะนั้นเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังขึ้น!

ลำแสงเจิดจ้าจนแสบตาสีดำ เทา ม่วงสามสีระเบิดออกจากเสา ราวกับมีดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้น ทำให้ผู้คนไม่อาจประสานสายตาตรงๆ ได้

แต่หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์พลันดวงตาฉายแสงสีฟ้าสว่างวาบ มองเห็นสถานการณ์ด้านในลำแสงอย่างชัดเจน แขนขยับโดยไม่พูดจา มือข้างหนึ่งตะปบไปยังลำแสงนั้นอีกครั้ง แล้วพลิกฝ่ามืออย่างรวดเร็ว

เสียง “ครืดๆ” ดังขึ้น

ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ ของชิ้นยักษ์เปล่งแสงสว่างวาบแล้วปรากฏขึ้น พลางร่อนลงมาบนฝ่ามือของวานรยักษ์อีกครั้ง

นั่นคือยอดเขาสีดำที่ถูกโยนออกไปก่อนหน้า

ผิวของภูเขาลูกนี้เป็นสีดำสนิท แต่ไม่มีร่องรอยได้รับความเสียหายเลยสักนิด แค่นี้ก็เห็นได้ถึงระดับความแข็งแกร่งของภูเขาเทวะดูดปราณแล้ว

การเคลื่อนไหวของวานรยักษ์แทบจะไม่หยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย มันร้องตะโกนออกมา ออกแรงมหาศาลสะบัดออกไป แล้วโยนยอดเขาขึ้นอีกครั้ง

เป้าในครั้งนี้คือเสาสีม่วงอีกต้นหนึ่ง

ดังนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้น อีกเสียงหนึ่งคือยอดเขากระแทกเข้ากับมัน

ลำแสงเจิดจ้าจนแสบตา ปริแตกเช่นกัน

ยามนี้ลำแสงบนเสาต้นแรกพลันสลายหายไป เผยด้านในออกมาอย่างชัดเจน

เห็นเพียงเสาสีม่วงอมทองสูบสิบจั้งเศษ ท่อนบนกายไปเกือบครึ่ง พื้นดินรอบด้านมีเศษหินแต่ก็ไม่ใช่หินแตกกระจายอยู่ เป็นเศษสีม่วงที่ดูเหมือนทองแต่ก็ไม่ใช่ทอง

แม้ว่าเสาต้นนี้จะใช้ขั้นตอนที่มหัศจรรย์นิรนามสร้างขึ้น แต่ระดับความแข็งแกร่งก็ไม่อาจเทียบกับสมบัติวิเศษอย่างภูเขาเทวะดูดปราณได้

ถึงอย่างไรเสียสมบัตินี้ก็เป็นสมบัติของฟ้าดี ตัวมันก็แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบอยู่แล้ว ประกอบกับผสมศิลาสีเทาขาวนิรนามไปด้วย รวมทั้งใช้เคล็ดวิชาลับในการหลอมของแดนเซียนหลอมไปถึงสองครั้ง

ต่อให้หานลี่อยากทำลาย เกรงว่าก็ต้องสำแดงมากกว่านี้ขั้นหนึ่ง ทำได้เพียงใช้เพลิงวิญญาณหลอมมันทีละนิดๆ ถึงจะเป็นไปได้

และยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีเมื่อครู่ ภูเขาลูกนี้ยังนำพลังมหาศาลจากหานลี่ที่กลายเป็นเป็นวานรยักษ์มาด้วย

หากเสาต้นนี้ยังไม่อาจถูกทำลายได้ในสถานการณ์เช่นนี้ เกรงว่าหานลี่คงหันหลังกลับในทันที ไม่สนใจเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกแน่

เช่นนั้น! หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ขนสีทอง พลันใช้ภูเขาเทวะดูดปราณเป็นอาวุธโยนออกไปห้าครั้ง ทุบเสาทั้งห้าจนพังทลายในพริบตา

ม่านลำแสงห้าสีที่เดิมปกคลุมอยู่ทั่วสวนสมุนไพรไร้ซึ่งพลังสนับสนุนของเสาก็ถูกวิหคเพลิงสีเงินกลืนกิน แล้วสลายหายไป

เขตอาคมนี้นับว่าถูกอาศัยใช้พลังมหาศาลทำลายลงแล้ว

วานรยักษ์ขนสีทองมองเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น มือพลันร่ายอาคมทันที ผิวเปล่งแสงสีทองสว่างวาบ ร่างกายหดเล็กลงอีกครั้ง เส้นขนางลง

ชั่วพริบตาหานลี่ก็กลับมาเป็นดังเดิมท่ามกลางลำแสงวิญญาณ กำจัดพลังของคาถาตื่นจากจำศีลแปลงกายสิบสองครั้งไป

เขากวาดสายตาไปยังซากของเสาเหล่านั้นอีกครั้ง สายตาเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา

เขาเพิ่งจะผสมกับโลหิตเที่ยงแท้วานรยักษ์ภูเขาได้ไม่นาน หลังจากแปลงกายเป็นวานรยักษ์แล้วคาดไม่ถึงว่าจะมีอิทธิฤทธิ์ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ช่างอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ

ดูแล้วการแปลงกายนี้คงเหมาะสมกับเขามากกว่าเคล็ดวิชาการแปลงกายชนิดอื่นๆ

ถึงอย่างไรเสียหลังจากแปลงกายเป็นจิตวิญญาณเที่ยงแท้อื่น ก็ทำให้เขามีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้นสองสามชนิด หรือสัมผัสได้ถึงพลังฟ้าดินมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เหมือนกับการแปลงกายเป็นวานรยักษ์ภูเขา ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของกายเนื้อได้

มิเช่นนั้นหากรู้ประโยชน์ของการแปลงกายตั้งแต่แรก เขาคงไม่เสียเวลาอันใด ใช้วิธีการนี้ทำลายเขตอาคมนี้ไปแล้ว คงไม่ต้องเสี่ยงอันตรายเหมือนก่อนหน้าอีก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด