ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1353

Now you are reading ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar Chapter 1353 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
เรียกเลือดครั้งที่สิบ!

ตอนช่วงสายของวันเดียวกันนั้นเอง

โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นของพ่อแม่จางเย่กำลังฉายรายการคืนส่งปีรีรัน ฟังเสียงแล้วดูเหมือนจะฉายไปถึงเพลง ‘เวลาไปที่ไหน’ ของจางหย่วนฉีอยู่

เสียงร้องของแม่ดังจากนอกห้อง

“ลูก แกตื่นรึยัง?”

“ตื่นแล้วครับแม่”

“มากินข้าวมา”

“ครับ อู๋ล่ะ?”

“ทำกับข้าวให้แกนั่นแหละ ออกมาเร็ว”

“โอเค กำลังไป”

เช้านี้เป็นเกี๊ยวไส้กุยช่าย

พอจางเย่ออกมาจากห้องก็ได้กลิ่นหอมของอาหารแล้ว

คุณอู๋ถือตะเกียบคู่หนึ่ง “ไม่นอนอีกหน่อยล่ะ?”

จางเย่ถอนหายใจ “ผมก็อยากนอนนะ แต่ว่าเมื่อเช้ามีสายเข้าทั้งเช้า มีแต่คนโทรเข้ามาขอบคุณ จะนอนลงยังไง”

อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “นั่นสิ ได้ยินเสียงโทรศัพท์เธอดังอยู่ มากินข้าวเถอะ”

จางเย่หันหน้าไปด้านข้าง “พ่อ เมื่อวานกลับกันมากี่โมงน่ะ?”

พ่อวางหนังสือพิมพ์ลง “เกือบตีสองล่ะมั้ง”

“ทำไมออกจากบ้านไปแล้วไม่ปิดโทรทัศน์กันล่ะ?” จางเย่ถาม

พ่อหัวเราะ “แม่แกไม่ยอม บอกว่าจะได้เพิ่มเรตติ้ง”

แม่พูดด้วยความยินดี “โทรทัศน์บ้านน้ารองน้าสามแกก็เปิดทิ้งไว้ เมื่อวานฉันบอกทุกคนเองว่าให้ทำแบบนี้ก่อนไปบ้านยายแก”

จางเย่ปรบมือ “สุดยอดมากแม่”

แม่หัวเราะ

พ่อเขาพูด “จะได้เพิ่มมาเท่าไหร่กันเชียว แค่เปิดโทรทัศน์ในครอบครัวน่ะ?”

แม่มองค้อนใส่ “แกจะไปรู้อะไร ได้สักนิดก็ยังดีน่า!”

จางเย่ถาม “ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลย เป็นยังไงบ้าง?”

“แน่นอนว่าต้องมีแต่คนชมอยู่แล้ว!” แม่พูดอย่างตื่นเต้น แล้วชี้ไปที่กองหนังสือพิมพ์บนโต๊ะเตี้ย “อ่านเองนะ เมื่อเช้าฉันเพิ่งซื้อมา ข่าวในเน็ตกับโทรทัศน์ก็พูดถึงแต่แกกับรายการคืนส่งปีเมื่อคืน คนในวงการหลายคนบอกว่ารายการคืนส่งปีของแกคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดตั้งแต่มีมา แม้แต่ที่ทุกคนคิดว่าทำได้ดีที่สุดเมื่อยี่สิบสามสิบปีก่อน ถ้าเปรียบเทียบกันที่คุณภาพการแสดง งานศิลปะหรือความบันเทิงก็ไม่ดีเท่าของแก!”

จางเย่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ผู้ชมนี่สายตามีแววจริงๆ”

หลังเสร็จสิ้นมื้ออาหาร

จางเย่นั่งบนโซฟา เปิดดูหนังสือพิมพ์ทีละฉบับ ทั้งปักกิ่งไทม์ นครหลวงพาดหัวเช้า ประชาชนรายวัน ล้วนแต่ให้การชมเชยรายการคืนส่งปีอย่างสูง

จางเย่พึงพอใจกับการประเมินของทุกคน ถ้ารายการคืนส่งปีปีนี้ถูกตั้งคำถามและวิจารณ์ อย่างนั้นก็เป็นเรื่องตลกมากแล้ว คนอื่นๆ อาจไม่ทราบที่มาของการแสดงเหล่านี้ แต่จางเย่รู้ดี การแสดงเหล่านี้มาจากรายการคืนส่งปีของโลกของเขา ผ่านการแข่งขัน ผ่านการคัดเลือกเข้มข้น รายการที่ไม่ได้มาตรฐานต่างถูกคัดออก ที่เหลือล้วนเป็นรายการที่ดีเลิศ ตอนที่จางเย่ทำก็ยังเลือกรายการ คัดขึ้นมาอีกรอบ เลือกที่มีชื่อเสียงที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุดในบรรดารายการของโลกของเขา นั่นคือการเลือกเอาของที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่ของชั้นเลิศ!

สี่สิบรายการนี้ เขาผลิตเองทั้งนั้น!

กวนอิมพันมือ?

มายากลของหลิวเชี่ยน?

ขายไม้ค้ำ?

ในฤดูใบไม้ผลิ?

มีรายการไหนบ้างที่ไม่โด่งดัง?

มีรายการไหนบ้างไม่ใช่ที่สุดของความคลาสสิก?

แล้วรายการคืนส่งปีของปีนี้จะไม่สนุกได้ยังไง?

ไม่สนุกก็แปลกแล้ว จางเย่เอารายการดังในรอบทศวรรษจากโลกใบเก่าของเขามาเป็นรายการของปีปีเดียว เรียกได้ว่าเอารายการที่มีทั้งหมดมาใช้แล้ว แน่นอนว่าเขาย่อมไม่คิดจะยุ่งกับรายการคืนส่งปีในปีต่อๆ ไปอีก ปล่อยให้ผู้กำกับดวงซวยวุ่นวายไปเถอะ เป็นแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว ไม่คิดจะทำอีกรอบแน่นอน งานนี้ทั้งหนักทั้งเครียด ตลอดสองเดือนนี้เขาไม่ได้นอนดีๆ เลยสักคืน

รายการคืนส่งปีจบแล้ว ในที่สุดจางเย่ก็ได้โอกาสพักเสียที ตอนนี้ทั้งร่างของเขาผ่อนคลาย อยากจะพักอีกแบบนี้สักหลายวัน มีความสุขกับตรุษจีนให้เต็มที่

ใกล้เที่ยงแล้ว

พ่อแม่ต่างแต่งตัวเสร็จแล้ว

พ่อ “เย่น้อย เจ๋อชิง พวกเราไปบ้านป้าแกก่อนนะ”

จางเย่ถาม “เที่ยงนี้ไปกินที่บ้านป้าเหรอ?”

“อืม ฉันกับพ่อแกจะไปช่วยทำอาหารก่อน” แม่ว่า

“ได้ งั้นผมกับคุณอู๋เดี๋ยวตามไป” จางเย่ตอบ

“ไม่ต้องรีบ พวกเธอรอเที่ยงแล้วค่อยไปก็ได้” แม่ว่า

“โอเค” จางเย่ตอบ

แม่เตือน “คืนนี้แกยังต้องไปบ้านยายนะ เมื่อวานแกไม่ได้ไป อย่าลืมไปสวัสดีปีใหม่ล่ะ อาบน้ำแล้วเก็บของซะ”

จางเย่ “ครับ”

พ่อแม่ไปแล้ว

พอปิดประตู ก็เหลือแค่จางเย่กับอู๋เจ๋อชิงแล้ว

อู๋เจ๋อชิงเก็บจานอาหารเช้า

จางเย่หัวเราะอย่างมีเลศนัยขณะสวมกอดเธอจากด้านหลัง “อู๋”

อู๋เจ๋อชิงไม่หันหน้ากลับ ทางหนึ่งเก็บจานพลางหัวเราะไปด้วย “มีอะไร? ทำไมหัวเราะน่าสงสัยแบบนั้นล่ะ?”

“พรืด หมายความว่ายังไงกัน? ดูที่คุณพูดสิ ไอ้หยา เลิกเก็บจานได้แล้ว” จางเย่มองคุณอู๋ในชุดอยู่บ้านอย่างหื่นกระหาย

อู๋เจ๋อชิงหัวเราะ “หึๆ ยังไงก็จะเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?”

จางเย่กะพริบตาปริบ “ลูกพี่ไม่ได้กลับบ้านมาตั้งสองเดือน แค่กๆ เธอไม่มีอะไรให้ฉันหน่อยเหรอ?”

“ให้อะไร?” คุณอู๋ถาม

“มาๆ คุยกันในห้องดีกว่า” จางเย่ลากเธอเข้าห้องนอน

“เดี๋ยว มือยังสกปรกอยู่เลยนะ”

“ไอ้หยา เร็วเข้าสิ เราสองคนเดี๋ยวต้องออกไปอีกนะ”

“ฟ้ายังแจ้งอยู่เลย”

“ปิดผ้าม่านหน่อยก็มืดแล้วน่า”

“เวลาไม่พอหรอก”

“ยังเหลืออีกตั้งชั่วโมงหนึ่งแน่ะ”

“คิกๆ เธอนี่นะ”

“เร็วๆๆ เฮอรี่-อัปปุ!”

เขาถึงกับพูดภาษาอังกฤษทำเอาอู๋เจ๋อชิงประหลาดใจ

“เย่น้อย”

“หืม?”

“ถ้าพูดภาษาอังกฤษไม่ชัด ไม่ต้องใช้ก็ได้นะ”

“ผมออกเสียงผิดเหรอ?”

“แค่ไม่ดีเท่าไรน่ะ”

“อ้อ งั้นผมจะขยันเรียนนะ”

“ทำไมจู่ๆ ถึงอยากเรียนภาษาอังกฤษล่ะ?”

“อย่าเอาแต่ยืนเฉยๆ สิ ถอดเสื้อไปค่อยคุยไปก็ได้น่า อ้อ คืองี้ ถ้าผมได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการ เป้าต่อไปก็ต้องเป็นระดับโลก การรู้ภาษาอังกฤษรัสเซียสเปนไว้บ้างต้องมีประโยชน์แน่ ผมเตรียมจะเรียนทั้งหมดเลย ไม่ใช่ว่าผมอยากคุยกับพวกเขานะ แต่ว่าอย่างน้อยจะได้รู้ว่าใครด่าผม ผมต้องเริ่มเรียนที่คำด่าก่อน เดี๋ยวจะไปหาว่ามีคอร์สเรียนคำด่าภาษาอังกฤษแบบเร่งด่วนรึเปล่า ถ้ามีผมจะรีบลงเรียนเตรียมไว้เลย เฮ้อ เป็นดาราคิดว่าง่ายเหรอ? ต้องเรียนนี่นั่นตั้งหลายอย่าง เป็นดารานี่ ไม่ใช่ใครๆ ก็เป็นได้จริงๆ”

“ฮึๆ ในวงการบันเทิง นอกจากเธอแล้วคงไม่มีใครเรียนภาษาต่างประเทศเพื่อด่าคนแล้วล่ะ”

“ไอ้หยา เร็วๆๆ เข้าเถอะ ไม่มีเวลาแล้วนะ!”

“รู้แล้ว ได้ๆ”

ปิดประตู

รูดม่าน

สิบนาที

ยี่สิบนาที

ครึ่งชั่วโมง

ในห้องนั้นเบ่งบานเช่นวสันตฤดู

ผ่านไปสองเดือน ในที่สุดจางเย่ก็ได้เรียกเลือดจากคุณอู๋เป็นครั้งที่สิบ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด