ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1387

Now you are reading ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar Chapter 1387 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
จางเย่ผู้ใจบุญ!

วันจันทร์

ตอนรุ่งเช้า

วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส

จางเย่กินข้าวเสร็จก็มาทำงานที่สตูดิโออย่างสบายใจ แต่ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไป ปัง ปัง ปัง พลุริบบิ้นและดอกไม้ก็กระจายเต็มไปหมด ทำเอาจางเย่ตกใจเกือบกระโดด ก่อนจะพบว่าที่แท้เป็นพนักงานของสตูดิโอที่ซื้อของเตรียมไว้และแอบอยู่ตรงประตู รอฉลองให้กับเขา

“ผู้กำกับจาง!”

“ยินดีด้วยครับ!”

“ขอแสดงความยินดีที่คุณได้เป็นทูตสันถวไมตรีแห่งเอเชียนะคะ!”

“พวกเราจะบินขึ้นไปแล้วจริงๆ!”

“จุดสูงสุดของเอเชีย ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว!”

“ตอนนี้ผู้คนในเอเชียต่างรู้จักคุณมากขึ้นแล้วค่ะ”

“ทริปเกาหลีครั้งนี้ ลำบากคุณแล้ว”

“อาจารย์จางผู้ยิ่งใหญ่!”

“ติดตามผู้กำกับจาง มีกินมีใช้!”

“จากนี้ไปเราจะทำให้ผู้คนในเอเชียต้องตกใจได้แล้ว!”

ถึงจางเย่จะมีความสุขมาก แต่เขาก็เบรกทุกคนไว้ก่อน “ใจเย็น ใจเย็นก่อน นี่เพิ่งถึงไหนเอง เป้าหมายของเราคือการก้าวไปสู่จุดสูงสุดของโลกนะ ระยะทางหมื่นลี้เพิ่งเดินได้ครึ่งทาง จากนี้เส้นทางยังอีกยาวไกล” เขากวาดตามองไปที่โต๊ะ เห็นขนมปังที่ไม่รู้ว่าใครกินเหลือครึ่งหนึ่งวางไว้อยู่ เขาก็พูดต่อว่า “อืม นี่ขนมปังของใครกินเหลือไว้? ทำไมถึงกินสิ้นเปลืองล่ะ นิสัยแบบนี้ไม่ดีนะ”

เสี่ยวหวังร้องอาคำหนึ่ง “ฉันจะรีบกินให้หมดค่ะ!”

จางเย่มองไปที่ถังขยะ “ไอ้หยา ใครดื่มน้ำแร่ขวดนี้? ดื่มแค่ครึ่งขวดก็เอาทิ้งแล้วเหรอ? เสียของนะ สิ้นเปลืองกันเกินไปแล้ว!”

ถงฟู่หน้าแดง “ผมทิ้งเองครับ ผม ต่อไปผมจะระวังนะครับ”

จางเย่เดินไปข้างหน้าสองก้าวตรงไปที่ถังขยะ “ไอ้หยา นี่ของใคร เหลือเมล็ดทานตะวันตั้งครึ่งถุง ทำไมถึงเอามาทิ้งแล้วล่ะ? ฟุ่มเฟือย ฟุ่มเฟือยจริงๆ ไม่รู้หรือไงว่าผู้คนที่ประสบภัยยังคงอาศัยอยู่ในความแร้นแค้น?”

เสี่ยวหวังอ้ำอึ้ง “เหมือนว่าคนที่ทิ้งจะเป็นคุณนะคะ”

จางเย่ตะลึง “ผมเหรอ?”

ถงฟู่มั่นใจ “คุณนั่นแหละครับ”

จางเย่ถาม “ทำไมผมถึงจำไม่ได้ล่ะ?”

เสี่ยวโจว “คุณบอกว่าเมล็ดทานตะวันปอกเปลือกแล้วไม่อร่อย คุณเลยให้ฉันทิ้งไปค่ะ”

จางเย่ชี้เธอ “คุณดูสิ คุณดู ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้ทิ้ง เสี่ยวโจว ผมขอตำหนิคุณ ผมให้คุณทิ้งเพราะผมกำลังทดสอบคุณไง คุณยังไม่รู้อีกเหรอ? นี่คือเมล็ดทานตะวันครึ่งถุงเชียวนะ ถ้าเอาไปวางไว้พื้นที่ยากจนแล้วกินอย่างประหยัด พอให้ครอบครัวสามคนกินได้หลายวันเลย”

เสี่ยวโจว “…”

จางจั่ว “…”

ฮาฉีฉี “…”

จางเย่แนะนำจากใจ “ครั้งนี้ผมยกโทษให้ ต่อไปห้ามทำอีกนะ”

เสี่ยวโจวที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้แต่ตอบว่า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะผู้กำกับจาง”

ฮาฉีฉีหัวเราะ “ต่อไปนี้พวกเราต้องระวังมากขึ้น ไม่อาจถ่วงแข้งถ่วงขาผู้กำกับจางได้ พวกเราเองก็ต้องมีส่วนในการกุศลด้วย เริ่มจากประหยัดก่อนก็แล้วกัน”

จางเย่ชี้ไม้ชี้มือ “ดูพี่สาวฮาที่มีอุดมการณ์ของพวกเราสิ ดูเอาไว้” แล้วมองไปทางจางจั่ว “พี่จั่ว คุณจัดประชุมหน่อยเถอะ ดึงจิตสำนึกและอุดมการณ์ของทุกคนออกมา ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น สถานะพวกเราตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เรื่องปัจจัยขั้นพื้นฐานต้องระลึกไว้”

จางจั่วหัวเราะ “ได้เลย เข้าใจแล้วครับ”

จางเย่เสแสร้งแกล้งทำอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็พอมีลักษณะของทูตสันถวไมตรีแห่งเอเชียบ้างแล้ว ตอนนี้เขาจะไม่ยอมให้มีสิ่งไหนมาขัดต่ออุดมการณ์เขาเด็ดขาด!

ช่วงสาย

ณ ห้องทำงาน

ฮาฉีฉีผลักประตูเข้ามา “ผู้กำกับจางคะ เจ้าหน้าที่จากสภากาชาดเอเชียติดต่อเรามาแล้วค่ะ พวกเขาได้ประสานงานที่นั่นไว้แล้ว งานแถลงข่าวจะจัดขึ้นที่ปักกิ่งในอีกสามวันค่ะ มีข่าวประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว และเป็นการถ่ายทอดสดนะคะ พวกเขาขอให้เราเตรียมตัวไว้ด้วย”

จางเย่หัวเราะ “อืม จะจัดอะไรใหญ่ขนาดนั้น?”

ฮาฉีฉียิ้ม “ทูตสันถวไมตรีหนึ่งเดียวในเอเชียนี่คะ ก็ต้องยิ่งใหญ่อยู่แล้ว พวกเขาเองก็ต้องการใช้ความนิยมของคุณเพื่อโปรโมตและทำให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมการกุศลด้วย”

จางเย่พยักหน้า “ได้ ต้องสนับสนุนแน่นอนอยู่แล้ว”

ฮาฉีฉี “โอเคค่ะ งั้นฉันจะหาคนมาจัดการนะคะ”

ในระหว่างวันนี้เครื่องแฟกซ์ของสตูดิโอทำงานไม่หยุด ทุกหน่วยงานต่างส่งข้อความแสดงความยินดี

สภากาชาดจีน

สภากาชาดญี่ปุ่น

สหพันธ์การกุศลแห่งประเทศจีน

สมาคมการกุศลเอกชนแห่งเกาหลี

สภากาชาดเกาหลี

องค์กรการกุศลเอกชน

และอีกมากมาย องค์กรการกุศลหลายแห่งในหลายประเทศต่างแสดงความยินดี ทั้งยังเชิญจางเย่ไปร่วมกิจกรรมของพวกเขาด้วย อาทิ องค์กรบางแห่งต้องการให้เขาช่วยจัดการประมูลนิทรรศการศิลปะเพื่อการกุศล บางสมาคมต้องการเชิญจางเย่ขึ้นไปยืนบนเวที และยังเชิญเขาไปชนบทเพื่อให้ความอบอุ่นกับเด็กๆ ในพื้นที่ภูเขาที่ยากไร้อีกด้วย

แม้แต่หน่วยงานรัฐบาลจีนก็ส่งจดหมายแสดงความยินดี เสี่ยวหวังเอามาให้ด้วยท่าทีตกใจมาก จางเย่ดูจดหมาย ตราประทับด้านล่างเป็นของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้อความเหล่านี้หมายถึงอะไรแน่นอนว่าจางเย่รู้ดี เขาเองก็ประหลาดใจที่ได้รับความเมตตาอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาเคยทะเลาะกับพวกเจ้าหน้าที่ ที่ใหญ่ที่สุดก็คงจะเป็นสมาคมสื่อฯ และกระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการกีฬาเขาก็ด่า และเคยทะเลาะด้วยมาแล้ว แต่ระดับสูงขึ้นไปนั้นเขาไม่เคยติดต่อมาก่อน นี่ถือเป็นครั้งแรก

เนื้อความจดหมายขอแสดงความยินดี นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังต่อจางเย่ด้านการทำกุศลในอนาคต แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นถ้อยคำที่ปกติทั่วไป แต่จางเย่ก็ให้ความสำคัญต่อมาก เขารีบเรียกประชุมทันที

ปรึกษากันไปด้วย และเรียนรู้ไปด้วย

ทุกคนต่างได้รับการล้างบาปทางความคิด!

สะอาด!

บริสุทธิ์!

สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น!

……

สถานี BTV

“เอ๊ะ”

“ทำไมเหรอ?”

“อาจารย์จางโพสต์เวยป๋อแล้ว!”

“อะไร? ทะเลาะกับใครอีกแล้วเหรอ?”

“รอบนี้ตีกับใคร?”

“เอ่อ ไม่ได้ทะเลาะ…”

……

บ้านจางเสีย

“แม่คะ”

“มีอะไรเหรอ?”

“จางเย่โพสต์ข้อความเวยป๋อหลายบรรทัดมากเลยค่ะ”

“อะไรนะ? เขาด่าใครอีกล่ะ?”

“เอ่อ เขาไม่ได้ด่าคนอื่นค่ะ”

“เป็นไปไม่ได้มั้ง? ไหนแม่ดูหน่อย”

……

บนเวยป๋อ

หลายคนเห็นแล้วก็พูดไม่ออก บัญชีเวยป๋อของจางเย่และบัญชีเวยป๋อทางการของสตูดิโอจางเย่เริ่มส่งต่อข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการกุศลต่างๆ อย่างเข้มข้น

‘ใครจะมาช่วยพวกเขา?’

‘โปรดยื่นมือของคุณเพื่อช่วยเหลือ!’

‘ผ้าห่มบนเตียงหนึ่งผืน อบอุ่นทั้งชีวิต!’

‘คุณยังกินอาหารอย่างสิ้นเปลืองอยู่ไหม?’

‘เด็กบนดอยไม่มีหนังสือเรียนอีกแล้ว!’

สิบข้อความ!

ห้าสิบข้อความ!

หนึ่งร้อยข้อความ!

ทั้งหมดถูกฟลัดข้อความ!

พวกเขาแชร์ข้อความทั้งหมดไปอีกหลากหลายที่!

สตูดิโอของจางเย่เปลี่ยนจากทีมที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ กลายเป็นแนวหน้าหลักขององค์กรการกุศลในเอเชียอย่างรวดเร็ว!

เป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง!

แต่คนในวงการต่างกลอกตาบน!

ชาวเน็ตก็กลอกตามองบน!

“พรูด!”

“นี่อย่างฮา!”

“อาจารย์จาง คุณอย่าเสแสร้งอีกเลยได้ไหม?”

“นายเป็นคนยังไง คนในประเทศมีใครยังไม่รู้บ้าง”

“อย่าแกล้งเลยน่าไม่มีประโยชน์หรอก! มีเวลานายก็เขียนตัวอักษรอีกแผ่นหนึ่งไปบริจาคยังจะดีกว่าอีก!”

“มาสไตล์นี้ฉันล่ะรับไม่ได้จริงๆ!”

“ฉันด้วย ก่อนหน้านี้แค่จางเย่เคลื่อนไหวในเวยป๋อนิดเดียว ภายในประเทศต้องปั่นป่วน ต้องมีการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น!”

“ใช่แล้ว เคยมีโพสต์ไหนของจางเย่ที่ไม่ด่าคนบ้าง!”

“@จางเย่ หยุดสร้างปัญหาแล้วไปนอนไป!”

“ไอ้หมอนี่กลับตัวเป็นคนดีแล้วเหรอ? ก๊าก! ทำไมฉันไม่เชื่อเลยสักนิด!”

“เขากลับตัวเป็นคนดี? งั้นแม่หมูก็คงปีนต้นไม้ได้แล้วล่ะ!”

“เสแสร้งฟ่ะ ฉันจะรอดูว่าหมอนี่จะแสร้งทำได้กี่วัน!”

“ถ้าเขาทนไม่ด่าคนได้ถึงหนึ่งเดือน ฉันจะเขียนชื่อฉันกลับหลังนับจากนี้ไป!”

“เอาเลย ครึ่งเดือนก็สุดๆ แล้วล่ะ!”

“เหอะๆ ฉันคิดว่าครึ่งเดือนก็พอแล้ว!”

เวยป๋อเป็นแอปพลิเคชันที่ดารานิยมใช้งาน แต่เวยป๋อของจางเย่กลับไม่เหมือนคนอื่น สถานะเวยป๋อของเขาในวงการบันเทิงมีความพิเศษมาก การต่อสู้นับไม่ถ้วนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ศึกสงคราม การปะทะฝีปากหลายครั้งที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการบันเทิง ทั้งหมดล้วนเกิดจากเวยป๋อของจางเย่ ดังนั้นทุกคนจึงชินกับการโพสต์ด่าคนอื่นของเขา นี่ถือเป็นเรื่องที่ผู้คนนิยมชมชอบด้วย ดังนั้นเมื่อเห็นเวยป๋อของจางเย่ไม่ได้ด่าใคร ทั้งยังเริ่มโพสต์กิจกรรมการกุศล ทุกคนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา นี่แม่งไม่เข้ากันเลยสักนิด!

ชาวเน็ตล้วนเหน็บแนม!

แฟนคลับของจางเย่ก็มาโห่ร้องด้วย!

……

หลังจากเห็นข้อความเหล่านั้น คนในสตูดิโอก็แทบจะหัวเราะ

แต่มจางเย่กลับแทบจะเป็นลม

ชั่วร้ายมาก! ไม่เคยเห็นใครขวางลำแบบนี้มาก่อนเลย!

ทำไมพี่ชายคนนี้จะเปลี่ยนมาทำการกุศลไม่ได้หา?

ชกต่อย?

ด่าคน?

ฮึ ฉันไม่ใช่ฉันคนเดิมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว!

จากวันนี้เป็นต้นไปพี่ชายจะไม่ด่าใครแล้ว ฉันคือคนที่ใจบุญดุจนักบวช!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด