ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1472 : ทำการปล้นชิงครั้งสุดท้าย!

Now you are reading ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar Chapter 1472 : ทำการปล้นชิงครั้งสุดท้าย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1472 : ทำการปล้นชิงครั้งสุดท้าย!

วันนี้

ข่าวเผยแพร่ออกมา

‘จางเย่พาภรรยาไปโรงพยาบาล’

‘วันครบกำหนดคลอดของภรรยาจางเย่กำลังใกล้เข้ามา’

‘สตูดิโอจางเย่เผย : จางเย่อาจลาจากวงการบันเทิงไปสักพักในเร็วๆ นี้’

ในฐานะบุคคลที่เป็นดั่งพายุของวงการบันเทิง สื่อมวลชนและประชาชนมักติดตามความคืบหน้าล่าสุดของจางเย่อยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้จางเย่เพิ่งพุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับสามของเอเชียระดับ A ด้วยเส้นทางของแอนิเมชัน ทำให้เขายิ่งได้รับความสนใจอย่างสูง

บนเวยป๋อ

“จอมตอกหน้าจางจะไปเลี้ยงลูกแล้วเหรอ?”

“เหลือเวลาแค่สองเดือนกว่า?”

“หมอนี่จะเป็นพ่อคนแล้วจริงๆ”

“ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลย รอคอยการเกิดมาของจางเย่น้อยอยู่นะ”

“ฮ่าๆ กลัวก็แต่จะเหมือนพ่อเขาเกินไป เป็นตัวปัญหาเหมือนกันน่ะสิ”

“การลาของเขาครั้งนี้ใช้เวลาปีครึ่งใช่ไหม?”

“ไม่มีเวลาขึ้นจุดสูงสุดของเอเชียแล้วสิ”

“แย่ละ คะแนนนิยมไม่พอ เวลาก็กระชั้นชิดอีก”

“ก่อนไปก็ฝากผลงานไว้ให้พวกเราหน่อยสิ”

“ใช่แล้ว @จางเย่ จัดคอนเสิร์ตเถอะ”

“ใช่ๆๆ ฉันอยากดูคอนเสิร์ตของจางเย่นะ เขาไม่เคยจัดมาก่อนเลยนี่!”

“สิ้นปีแล้ว จัดสักงานเถอะ!”

“ฉันอยากฟังเพลงใหม่!”

ทันใดนั้นผู้คนจำนวนมากก็ตอบรับ และเรียกร้องให้จางเย่จัดงานคอนเสิร์ต

……

ที่สตูดิโอ

พ่อกับแม่มา ‘สอดส่องดูแล’

“เจ๋อชิงล่ะ?” แม่ถาม

จางเย่ยิ้ม “ลาคลอดก่อนกำหนดเรียบร้อยแล้ว แม่ยายผมอยากให้อู๋ไปอยู่ด้วยสองสามวัน ผมเพิ่งไปส่งเธอมา”

พ่อยื่นคำขาด “เวลาเหลือไม่มากแล้ว ลูกก็ควรยับยั้งจิตใจได้แล้วนะ”

แม่อืมในลำคอคำหนึ่ง “งานของแกน่ะ อันไหนจัดการได้ก็ทำให้เสร็จซะ”

“เข้าใจแล้ว” จางเย่หยิบมือถือขึ้นมาดูปฏิทิน “สองเดือนนี้ผมจัดการเรียบร้อยแน่นอน แล้วก็จะเตรียมตัวให้ดี ต่อไปนี้ลูกพี่จะเป็นคุณพ่อแบบเต็มเวลาแล้ว”

แม่ขำ “แกน่ะเหรอ? พอเถอะ ฉันยังเชื่อเจ๋อชิงมากกว่า ให้แกเลี้ยงลูก ยังไม่รู้แกจะสอนอะไรให้ลูกบ้าง”

พนักงานของสตูดิโอที่อยู่รอบๆ ต่างแอบหัวเราะ

จางเย่ไม่ชอบใจนัก “ผมสอนไม่ดีตรงไหน? เขียนหนังสือผมก็สอนได้นี่? ต่อให้การเขียนอักษรของอู๋ดีกว่านี้ แต่จะดีไปกว่าผมเหรอ? ผมไม่เชื่อหรอก”

แม่เบ้ปาก “แกอย่ามาโม้เลย กลัวแต่แกสอนเสร็จแล้ว ที่เด็กเขียนได้คำแรกจะไม่ใช่ชื่อของตัวเอง แต่เป็นคำว่า ‘ต่อยตี’ แทนน่ะสิ!”

จางเย่ “…”

พนักงานของสตูดิโอ “ฮ่าๆๆ!”

แม่กลับไปแล้ว จางเย่จึงกลับมายืดได้

จางเย่ฮึดฮัด “เมื่อกี้ใครหัวเราะ? หา?”

ทุกคนแสร้งทำเป็นไม่รู้ “ไม่มีนี่”

จางเย่ “เรื่องที่คุยตะกี้ พวกเธอคิดหาวิธีเข้าสิ”

ฮาฉีฉีทำอะไรไม่ถูก “คิดหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว อยากขึ้นจุดสูงสุดของวงการบันเทิงของเอเชียภายในปีนี้ ไม่มีหวังเลยค่ะ สิ่งสำคัญที่เราขาดไปก็คือคะแนนนิยมและความสนใจจากเกาหลี แม้ว่าชื่อเสียงของการ์ตูนจะเจาะเข้าสู่ตลาดที่นั่นได้ แต่คนเกาหลีที่ชอบการ์ตูนกลับมีจำนวนน้อย คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจ บวกกับคำสั่งแบนคุณยังอยู่ ผลงานของเราก็เข้าไปไม่ได้ สำหรับเรื่องข่าวของคุณก็คงถูกปิดกั้นด้วยเช่นกัน ทำอะไรไม่ได้จริงๆ เราคิดมาหมดแล้วค่ะ”

จางจั่วกะพริบตา “ผู้กำกับจาง ถ้ายังไงก็ลืมไปดีไหม?”

จางเย่กลอกตา “ขาดแค่ก้าวเดียวเองนะ”

อู่อี้ “แต่ก้าวนี้ใหญ่มากเลยนะครับ”

ฮาฉีฉีพูด “เมื่อกี้คุณอาก็กำหนดเส้นตายในการทำงานให้คุณแล้ว ฉันคำนวนดูแล้วพวกเราสามารถรับงานสุดท้ายได้อีกแค่งานเดียวแล้วล่ะค่ะ”

เกาหลีใต้?

ขาดแค่เกาหลีใต้แล้ว?

จางเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีวิธีดีๆ เขาแค่รู้สึกว่าน่าเสียดาย ตอนนี้เข้าใกล้ประตูขาดอีกแค่ก้าวเดียว แต่กลับขึ้นไปไม่ได้ อีกอย่างเขากำลังจะออกจากวงการบันเทิงไปสักพัก คาดว่าคะแนนนิยมที่มีอยู่จะรักษาไว้ได้ยากแล้ว ถ้ายังไม่รีบขึ้นไปตอนนี้ ถึงเวลากลับมาอีกครั้งต้องพยายามไล่ตาม ต้องกลับไปตั้งต้นใหม่ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเสียดาย ถ้าหากตอนนี้จางเย่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของเอเชียได้ในรวดเดียว อนาคตถึงคะแนนนิยมจะลดลงสักเล็กน้อยก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เขาขึ้นสู่จุดสูงสุดทั้งในจีนและระดับเอเชียเป็นเรียบร้อย ตำแหน่งนี้ได้บันทึกไว้ในประวัติส่วนตัวแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง  เมื่อจางเย่กลับมา เขาก็สามารถเข้าสู่วงการบันเทิงระดับนานาชาติได้อย่างสบายใจ

ถ่ายหนัง?

ทำรายการวาไรตี้ต่างประเทศ?

ร้องเพลงป๊อปสากล?

ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้เขาไปทำอยู่!

แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยากแล้ว

จางเย่พูดกับตัวเอง “เวลาพอแค่ให้ปล้นชิงเป็นครั้งสุดท้าย?”

ปล้นชิง?

การทำงานลักษณะนี้ ในวงการบันเทิงมีแค่จางเย่คนเดียวเท่านั้น แต่พอคนในสตูดิโอคิดอย่างละเอียด คำพูดนี้ก็เหมาะสมจริงๆ อย่างน้อยสำหรับจางเย่ คำนี้ก็เหมือนตัวตนของเขาที่สุด

ฮาฉีฉี “ใช่ค่ะ ยังปล้นได้อีกครั้ง”

จางเย่เบ้ปาก “งั้นทำอะไรดี?”

เสี่ยวหวังพูด “หลายคนอยากให้คุณจัดคอนเสิร์ตค่ะ”

“ใช่ค่ะใช่” เสี่ยวโจวฮึกเหิม “มีคนแนะนำเข้ามาเยอะมากว่าอยากให้คุณจัดสักงานก่อนอำลาน่ะค่ะ”

จางจั่วก็พยักหน้า “ดีเหมือนกันนะ ประการแรก เราไม่เคยจัดคอนเสิร์ตเลย ทั้งมินิคอนเสิร์ต หรือคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบ เราไม่เคยจัดเลยสักครั้ง ประการที่สองถือเป็นการชี้แจงต่อประชาชนก่อนจะจากไป หลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่คุณเดบิวต์ ทุกคนต่างสนับสนุนมาตลอด เป็นการขอบคุณพวกเขาไปในตัว”

ฮาฉีฉียิ้ม “ไม่แน่ว่าถ้าคอนเสิร์ตเกิดประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ เพลงแพร่ไปถึงเกาหลี ระดับความสนใจทางฝั่งเกาหลีอาจจะถล่มทลายขึ้นมาก็ได้นะคะ”

จางเย่หน้าชื่นตาบาน “เป็นไปได้ใช่ไหม?”

ฮาฉีฉีเหงื่อไหล “แน่นอนว่าไม่ค่ะ”

จางเย่ “…”

จางจั่วหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “ผู้กำกับจาง เราจะปล่อยคะแนนนิยมไปไม่ได้นะครับ”

ฟังจบจางเย่ก็พยักหน้า “พี่จั่วพูดถูก ดี งั้นก็ไปปล้นครั้งสุดท้ายกัน พวกเราจะจัดคอนเสิร์ต เอาให้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำได้ ต้องทำให้ดีที่สุด!”

“ได้เลย” ฮาฉีฉีหัวเราะ “ฉันจะไปวางแผน เริ่มเตรียมการตั้งแต่วันนี้เลยค่ะ!”

จางจั่วถาม “จัดงานที่ไหนดีครับ? คุณต้องติดต่อนัดหมายกับฝ่ายผู้จัดงานล่วงหน้า บางที่ก็เข้าไม่ได้ง่ายๆ แต่ด้วยความนิยมของเรา เราสามารถเลือกสถานที่จัดงานที่ใหญ่ที่สุดในจีนได้ตามต้องการ”

จางเย่ “สถานที่จัดงานที่ดีที่สุดอยู่ที่ไหน?”

หนึ่งสองสามสี่

ทุกคนต่างเสนอออกมา

สุดท้ายจางเย่ก็ยังไม่พอใจ

ฮาฉีฉี “แต่ก็มีเท่านี้นะคะ?”

จางเย่ “ใช่ครับ ไม่มีที่อื่นแล้ว”

จางเย่กลับพูดประโยคที่ทำให้ทุกคนแปลกใจ “ยังมีอีกที่หนึ่ง ฉันจะจัดงานที่สนามกีฬารังนก[1]!”

ทุกคนหน้าตาสับสนมึนงง

รังนก?

รังนกอะไร?

จางเย่ชะงัก เพิ่งนึกได้ว่าโลกนี้ไม่มีสนามกีฬารังนก เขาจีงเปลี่ยนคำพูด “คอนเสิร์ตของพวกเราจะจัดที่สนามกีฬาโอลิมปิก ฉันจะไปติดต่อเอง!”

“อะไรนะ?”

“สนามกีฬาโอลิมปิก?”

“คุณ คุณแน่ใจเหรอคะ?”

“เชี่ย ที่นั่นจัดไม่ได้มั้งครับ?”

“ไม่เคยมีใครจัดงานคอนเสิร์ตที่นั่นเลยนะคะ!”

“นั่นเป็นสนามที่จุคนได้ถึงหนึ่งแสนคนเลยนะ!”

ทุกคนต่างตกตะลึง!

ถ้าจัดงานที่สนามนั้นจริงๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ!

ตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้ว่าผู้กำกับจางไม่ได้ล้มเลิกความคิดที่จะปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเอเชียลงเลย การปล้นชิงครั้งสุดท้าย เขายังอยากลองพุ่งชนตำแหน่งดาราระดับ S ของเอเชียให้ได้!

————–

[1]สนามกีฬารังนก (Bird s Nest Stadium) เรียกอีกชื่อก็คือ สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (The Beijing National Stadium) เป็นสนามกีฬาหลักที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ตั้งอยู่ใจกลาง Olympic Complex จะเปิดไฟสวยงามในตอนกลางคืน ภายนอกมีลักษณะคล้ายกับ “รังนก” ที่มีโครงตาข่ายเหล็กเหมือนกิ่งไม้ เมื่อโอลิมปิก 2008 จบลง สนามกีฬารังนกแห่งนี้ได้ถูกเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมอีกแห่งหนึ่งของมหานครปักกิ่ง บางโอกาสยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาทั้งในประเทศและจากต่างประเทศอีกเช่นกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด