ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1377

Now you are reading ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar Chapter 1377 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 ใครจะเป็นผู้ประมูลสูงสุด? (กลาง)

ในประเทศจีน

ที่บ้านคุณยาย

พ่อแม่ของจางเย่ คุณตาคุณยาย ลุงป้าน้าอา น้องสาวทั้งหลาย ทุกคนต่างกำลังดูการถ่ายทอดสดอยู่ แต่ละคนกระตือรือร้นอย่างยิ่ง

“ไอ้หยา ลุ้นแทบตายแล้ว!”

“พี่ชายฉันเป็นอะไรไปเนี่ย!”

“เย่น้อยเอาใบชาไปแค่ห้ากรัมจริงเหรอ?”

“จบแล้ว จบแล้วล่ะ”

……

ณ เรือนสี่ประสานบ้านคุณอู๋

อู๋ฉางเหอและหลี่ฉินฉินก็กำลังดูอยู่เช่นกัน

“เย่น้อย มันทำอะไรของมัน!”

“คุณจะตะโกนทำไม”

“ต่อยไอ้ญี่ปุ่นตีไอ้เกาหลี ถลกแขนเสื้อขึ้นสิ!”

“ก็แค่งานประมูลเองนะ”

“แค่งานประมูลอะไรกัน นี่คือศักดิ์ศรีของประเทศเลยนะ!”

……

ที่ CCTV

ช่องข่าว

“จบหรือยัง?”

“ยังเลยครับ”

“ผลออกมาเมื่อไรรีบทำต้นฉบับนะ พร้อมรายงานข่าวได้เลย”

“ครับ เข้าใจแล้ว เฮ้อ จางเย่เขาไม่แสดงพลังอะไรเลยครับ”

……

ณ กรุงโซล

ภายในงานเลี้ยงการกุศล

การประมูลใกล้สิ้นสุดลงแล้ว

ดาราเอเชียระดับสูงหลายคนต่างทยอยเอาของออกมาประมูลแล้ว!

ดาราเกาหลีสตาร์คิงระดับเอสของเอเชียหยิบสมุดเนื้อเพลงในอัลบั้มใหม่ของเขาออกมาประมูล นี่คือต้นฉบับที่เขาใช้บันทึกและแก้ไขด้วยตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้ำค่าอย่างมาก และมีเพียงเล่มเดียวเท่านั้น

“หนึ่งแสนห้าหมื่น!”

“สองแสน!”

“สองแสนหนึ่งหมื่น!”

ราคาประมูลสูงเทียมฟ้า!

หวนคืนสู่อันดับหนึ่งอีกครั้ง!

สิ่งของที่ฉีเหม่ยหลัน สตาร์ควีนจากจีนเอามาประมูลคือต่างหูของเธอ มูลค่าตลาดของต่างหูเพียงอย่างเดียวก็ห้าหมื่นดอลลาร์แล้ว คนด้านล่างเสนอราคายื้อแย่งกันอย่างรวดเร็ว

“หนึ่งแสนหกหมื่น!”

“หนึ่งแสนเจ็ดหมื่น!”

“หนึ่งแสนเก้าหมื่น!”

แต่น่าเสียราคาซื้อขายสุดท้ายก็ยังคงไม่เกินสองแสนดอลลาร์

เสี่ยวตง “ไอ้หยา!”

เอมี่ “แย่แล้ว แย่แน่!”

ต้าฉี “อีกนิดเดียวเอง!”

ทีมดาราจีนเสียดายกันมาก

จากนั้นสิ่งของที่หนิงหลันเอามาประมูลก็ออกมาแล้ว แต่ราคาไม่สูงนัก ประมูลได้เพียงหนึ่งหมื่นดอลลาร์ สาเหตุหลักมาจากสิ่งที่เธอนำออกมานั้นแทบไม่มีความน่าสนใจเลย ความคิดของหนิงหลันกับจางเย่คล้ายกัน ทั้งสองคนไม่มีความสนอกสนใจต่องานเลี้ยงประมูลมากนัก จุดสำคัญคือมาเพื่อร่วมงานเฉยๆ

งานเขียนอักษรของหลี่เสี่ยวเสียนก็ได้เผยโฉมแล้ว

ตัวอักษรที่สง่างาม ตามเส้นทางของตัวอักษรกึ่งหวัดแกมบรรจง

ฮั่วตงฟางที่ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจด้านนี้กันแน่ “ตัวอักษรที่ดี”

หลี่เสี่ยวเสียนหน้าแดง “เขียนไปเรื่อยน่ะค่ะ”

เจี่ยงฮั่นเวยหัวเราะ “ไม่เลวจริงๆ”

ต้าฉี “ต่อไปนี้วงการบันเทิงเราจะมีผู้เชี่ยวชาญการเขียนอักษรแล้ว”

หลี่เสี่ยวเสียนถูกยกยอจนทำตัวไม่ถูกแล้ว

จางเย่ก็เงยหน้าขึ้นดูแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไร เขาก้มหน้าลงเช่นเดิม ตัวบรรจงกึ่งหวัดนี้มองไปคล้ายกับสวยงามมาก แต่ในสายตาของเขา ตัวอักษรนี้ไม่มีจิตวิญญาณอยู่เลย ทุกส่วนล้วนปิดตาย จางเย่เดาว่าหลี่เสี่ยวเสียนต้องเลียนแบบอาจารย์ด้านการเขียนตัวบรรจงกึ่งหวัดในสมัยโบราณของประเทศจีนอย่างแน่นอน และนั่นกลับทำให้สูญเสียเสน่ห์ของตัวเธอเอง การเขียนตัวอักษรแบบนี้ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี อาจจะดีกว่าคนที่เริ่มเขียนคนอื่นนิดหน่อย นับว่าค่อนข้างพอใช้

ในงานมีคนเข้าใจทางด้านนี้ไม่น้อย

ทางด้านญี่ปุ่น ชายคนหนึ่งอายุห้าสิบกว่าปีแสดงท่าทีดูถูก

ดาราสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งถาม “อาจารย์มิยาโมโตะ ตัวอักษรนี้มันทำไมเหรอคะ?”

มิยาโมโตะส่ายหัว “เปลืองกระดาษ”

ดาราชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งหัวเราะ “เทียบกับคุณ การเขียนอักษรทั้งหมดล้วนไม่เข้าขั้นทั้งนั้นแหละครับ”

การเขียนอักษรของหลี่เสี่ยวเสียนได้ราคาประมูลอยู่ที่หกพันดอลลาร์ ถือว่าไม่เลว

สุดท้าย ก็ขึ้นอยู่กับจางหย่วนฉีแล้ว

ความนิยมของจางหย่วนฉีในเอเชียและในประเทศต่างเป็นหนึ่งไม่มีสอง ครั้งนี้ที่เหล่าจางเอามาประมูลก็เหมือนกับปีก่อน เป็นการประมูลอาหารหนึ่งมื้อ ใครจ่ายราคาสูงก็สามารถไปกินอาหารกลางวันกับเธอได้ ทั้งเหล่าจางยังเป็นคนเลี้ยงอาหารอีกด้วย จะพาคนมากี่คนก็ได้ สั่งอาหารแพงแค่ไหนก็ได้ ดูเหมือนเหล่าจางจะใช้อาหารหนึ่งมื้อเป็นของประมูลในงานเลี้ยงการกุศลทุกปีจนกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้ว แต่ปีนี้จางหย่วนฉีกลับเพิ่มของประมูลอีกหนึ่งอย่าง เป็นการซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ที่เธอนำออกมาก็คือภาพเขียนอักษรเช่นกัน

สินค้าประมูลถูกนำออกมาแสดงแล้ว

ภาพเขียนอักษรตัวเดียวคือคำว่า ‘ฉัน’!

จางหย่วนฉียืนยิ้มอยู่บนเวที “ทุกท่าน แสดงความอ่อนด้อยแล้ว”

มีเสียงปรบมืออย่างต่อเนื่องจากผู้คนด้านล่าง

หลี่เสี่ยวเสียนตะลึง “พี่สาวจางก็เขียนอักษรเป็นเหรอ?”

เอมี่ “ตัวอักษรมีพลังมาก!”

ต้าฉี “เยี่ยมเลย! สุดยอดจริงๆ!”

จางเย่ดูแล้วก็แปลกใจเช่นกัน ตัวอักษรตัวนี้ใช้ได้ทีเดียว อย่างน้อยก็ดีกว่าลายมือของหลี่เสี่ยวเสียน มีกลิ่นอายของผู้เข้าสู่การเริ่มต้นที่แท้จริง อืม เหล่าจางนับว่าไม่เลวเลย

สามารถทานอาหารร่วมกับเธอ?

เธอเป็นคนเลี้ยง?

และยังได้ภาพตัวอักษรที่เธอเขียนเองอีกหนึ่ง?

นี่มันซื้อหนึ่งแถมสามแล้ว!

มีคนสนใจไม่น้อย!

นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง “หนึ่งแสน!”

นักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่ง “หนึ่งแสนห้าหมื่น!”

นักธุรกิจชาวจีนอีกคน “หนึ่งแสนแปดหมื่น!”

เถ้าแก่ชาวเกาหลีคนหนึ่ง “สองแสน!”

ในที่สุดเฉียนไห่เทาก็ลงมือแล้ว

ชายที่รวยที่สุดในประเทศจีนชูป้าย เสนอราคา “สามแสน!”

ในงานเกิดความโกลาหลทันที!

“ว้าว!”

“สูงกว่าปีก่อนหนึ่งแสนดอลลาร์?”

“ร่ำรวยสุดๆ ไปเลย!”

“ราคาสูงที่สุดในงานก็คืออันนี้ล่ะ!”

“เขาเป็นคนที่รวยที่สุดนี่!”

นักธุรกิจจีนมองหน้ากันและกัน ต่างก็ยิ้มและวางป้ายลง ไม่สู้แล้ว

เถ้าแก่และนักธุรกิจทั้งญี่ปุ่นเกาหลีลังเลหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

พิธีกรเคาะราคาแล้ว

สามแสนดอลลาร์ ทีมดาราจีนกลับคืนสู่ตำแหน่งผู้นำ!

เสี่ยวตงสรรเสริญ “พี่สาวจางร้ายกาจมาก!”

เอมี่ “ช่วงเวลาสำคัญยังต้องพึ่งพี่สาวจาง!”

ฮั่วตงฟางหัวเราะ “ครั้งนี้ยึดไว้ได้มั่นแน่!”

หนิงหลันยิ้ม “ต้องขอบคุณที่พี่สาวจางเขียนอักษรด้วย ถ้าไม่ได้อันดับหนึ่งก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว”

ต้าฉีปรบมือ “ถูกต้อง ด้านเกาหลีไม่มีคนดังออกมาแล้ว สามแสนดอลลาร์ อย่างน้อยก็สองล้านหยวนเข้าไปแล้ว งานเลี้ยงการกุศลเมื่อปีก่อน ราคาประมูลที่สูงที่สุดก็แค่สองแสนสี่หมื่นดอลลาร์เอง ยกเว้นแต่จะมีคนโง่เดินออกมา ไม่งั้นก็ยากที่จะไล่ตามจริงๆ”

ทีมดาราเกาหลี

ลีอันซูส่ายหัว

คนอื่นก็หัวเราะอย่างขมขื่น พวกเขาสู้ไม่ได้อย่างแน่นอน

ทีมดาราญี่ปุ่นมองหน้ากันไปมาอย่างไม่มีหาทางแล้วเช่นกัน

แต่ในขณะนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น!

มิยาโมโตะลุกยืนแล้วพูดอย่างดูถูก “แค่นี้ก็เรียกว่าการเขียนอักษรหรือ?”

ทุกคนต่างตกตะลึง และมองไปทางเขา

กล้องแพลนไปทางเขา คนนับไม่ถ้วนทั่วทั้งเอเชียก็ตะลึงเล็กน้อย

“ใครอ่ะ?”

“ไม่รู้จักเหมือนกัน”

“ฉันรู้จัก เป็นปรมาจารย์ด้านการเขียนอักษรของญี่ปุ่น!”

“หา? มิยาโมโตะคนนั้นน่ะเหรอ?”

“ถูกต้อง เขานั่นแหละ เพิ่งได้รับรางวัลเหรียญทองในการเขียนตัวอักษรระดับเอเชียด้วย!”

“หนึ่งในผู้เขียนอักษรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก? มิยาโมโตะเซ็นเซน่ะนะ?”

“เชี่ย นี่คือปรมาจารย์การเขียนอักษรตัวจริง!”

“ทำไมปีนี้เขาก็มาด้วยล่ะ?”

ในงานมีเสียงกระซิบกระซาบและชี้ไม้ชี้มือ

มีเรื่องดีแท้ๆ แต่ก็ดันมีคนมาขัด นี่คือฉากที่ไม่มีใครคาดคิดจริงๆ ระดับการเขียนอักษรของจางหย่วนฉีและหลี่เสี่ยวเสียนไม่ดี? นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว เดิมทีคนอื่นเขาก็ไม่ได้ทำงานด้านนี้โดยตรง นี่คือการประมูลเพื่อการกุศล ทุกคนต่างเข้าร่วม และช่วยเหลือด้วยความรู้สึกสนุกสนาน หากคุณเคร่งครัดว่าระดับของคนอื่นเขาย่ำแย่ ถ้าอย่างนั้นสินค้าประมูลที่นำมาประมูลกว่าครึ่งก็ต้องโดนโยนลงถังขยะไปแล้ว การประมูลครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการบริจาค ไม่ใช่การเปรียบเทียบระดับความเป็นมืออาชีพสักหน่อย

จางเย่หรี่ตาลง “ตาแก่นั่นเป็นใคร?”

หลี่เสี่ยวเสียนจำเขาได้แล้ว รีบอธิบายทันที “นี่คือปรมาจารย์ของการเขียนตัวอักษรที่แท้จริง ต่อหน้าเขาตัวอักษรของฉันกับพี่สาวจางก็น่าเกลียดจริงๆ นั่นแหละ…”

เอมี่โมโห “แต่ไม่ได้ทำลายเวทีแบบที่เขาทำนี่!”

เจี่ยงฮั่นเวยก็เริ่มโกรธเล็กน้อย “ยังถ่ายทอดสดอยู่นะ ทำอะไรน่ะ?”

แต่ว่ามิตาโมโตะเซ็นเซกลับไม่สนใจคำเตือน ราวกับมีทรายบดบังสายตาของเขาอยู่ เขาเดินขึ้นเวทีไปจริงๆ “ยังเพิ่มของประมูลได้อยู่ไหม?”

ล่ามก็ขึ้นมาช่วยแปลด้วย

พิธีกรชาวเกาหลียิ้มแย้ม “ได้แน่นอนครับ การประมูลยังไม่สิ้นสุด”

มิยาโมโตะเซ็นเซทำหน้านิ่ง “ดี วันนี้ผมไม่ได้เอาของอะไรมา ผมจะเขียนตัวอักษรในงานนี้เลย ขอให้ทุกคนได้รับชมดู และมีส่วนร่วมในการกุศลครั้งนี้ด้วย!”

“อะไรนะ?”

“เขียนขึ้นในงาน?”

“น่าสนใจจริงๆ”

“มีละครดีให้ดูแล้ว”

มีหลายคนดูด้วยความสนุกสนาน

ทีมดาราเกาหลีฟังแล้วก็ชอบใจอย่างมาก

ทีมดาราญี่ปุ่นก็ส่งเสียงเชียร์กันทุกคน!

ผู้จัดงานจัดการทันที พู่กัน หมึก และกระดาษรวมทั้งหินฝนหมึกถูกนำไปที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างมองไปยังเวที

เลนส์กล้องหลายตัวก็จับภาพบนเวทีเป็นพิเศษ

การเขียนตัวอักษรในจีนญี่ปุ่นและเกาหลี ได้รับอิทธิพลทั้งหมดมาจากประเทศจีน แต่ก็มีความแตกต่างเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นญี่ปุ่น ระหว่างที่พวกเขาฝึกคัดลายมือ ก็ใส่ใจกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปพร้อมกัน การเขียนตัวอักษรของพวกเขานั้นมีสองแบบ แบบแรกคือตัวหนังสือบรรจงเน้นความแข็งแกร่ง รูปแบบนี้เหมาะกับจิตวิญญาณของบูชิโดที่ซึมลึกถึงกระดูกสันหลังของญี่ปุ่น อีกแบบหนึ่งคือตัวหนังสือหวัด เน้นความสวยงาม พลิ้วไหว สไตล์ใบซากุระร่วงโรย รูปแบบนี้เหมาะกับความอ่อนโยนและความโศกเศร้าที่แฝงอยู่ในจิตวิญญาณของญี่ปุ่น

ฝนหมึก

ยกพู่กัน

มิยาโมโตะเซ็นเซเขียนตัวอักษรด้วยสีหน้าเย็นชา!

ระหว่างตัวอักษรญี่ปุ่นและตัวอักษรจีนมีจุดที่คล้ายคลึงกัน ยิ่งกับภาษาจีนตัวเต็มยิ่งคล้ายมาก แต่ก็มีส่วนที่แตกต่าง แต่โดยรวมก็สามารถทำความเข้าใจได้ เนื้อหาของบันทึกในญี่ปุ่นไม่มีความชัดเจน มีเพียงแค่ปีxx จำนวนxxคน ได้ทำเรื่องอะไรไว้ บางช่วงอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าจากคนมีชื่อเสียงในสมัยโบราณของญี่ปุ่นซึ่งซับซ้อนอย่างมาก แต่นี่ก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือสิ่งที่คงเหลือไว้นอกเหนือจากเรื่องเล่าในสมัยโบราณ!

คือตัวอักษร!

ทันทีที่มิยาโมโตะเซ็นเซจรดพู่กัน ในงานก็มีเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม!

“ตัวอักษรที่ดี!”

“นี่สิถึงจะเรียกว่าการเขียนอักษร!”

“ปรมาจารย์ของแท้!”

“เมฆเคลื่อนคล้อยสายน้ำรินไหล นี่ล่ะศิลปะขนานแท้!”

“เฮ้อ การเขียนอักษรของปรมาจารย์นี่ไม่เหมือนกันจริงๆ เพียงแค่เห็นเขาเขียนก็รู้สึกเพลิดเพลินแล้ว”

“มืออาชีพและมือสมัครเล่น ความห่างชั้นมันสูงเกินไปแล้ว”

“การเขียนอักษรของดาราจีน แม้แต่มือสมัครเล่นก็ยังไม่ถึงเลย”

“ทุกอย่างล้วนกลัวการเปรียบเทียบจริงๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด