ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar 1438 : คุณอู๋ขาหักเสียแล้ว

Now you are reading ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I’m really a superstar Chapter 1438 : คุณอู๋ขาหักเสียแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 1438 : คุณอู๋ขาหักเสียแล้ว

สายวันต่อมา

จางเย่และคณะเดินทางกลับประเทศจีน ขณะที่เดินทาง ทุกคนยังคงงุนงงเพราะพวกเขาไม่เข้าใจวงการการ์ตูนนี้ แต่เมื่อรู้ว่าจะได้เดินทางกลับบ้าน ทุกคนต่างก็ยินดีไม่น้อย

พอลงจากเครื่อง พวกเขาก็ขับรถกลับไปที่สตูดิโอ

จางจั่วกับคนอื่นๆ กำลังรออยู่แล้ว

“ผู้กำกับจาง!”

“ไอ้หยา กลับมากันแล้วเหรอ?”

“ไม่บาดเจ็บใช่ไหมคะ?”

“อย่าไปต่างประเทศอีกเลยนะ ทุกคนสะพรึงกันไปหมดแล้ว”

“โชคดีนะที่เที่ยวนี้ไม่เกิดอะไรขึ้น”

“พรืด ชื่อเสียงระดับทวีปของคุณยังสูงขึ้นอีกต่างหาก”

ชื่อเสียงของจางเย่ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใกล้ระดับ S ของเอเชีย ดังนั้นสตูดิโอแห่งนี้จึงมีชื่อโด่งดังยิ่งขึ้นเช่นกัน มีแต่คำเชิญร่วมงานจากทั่วสารทิศ จางเย่ไม่อยู่สิบวัน มีงานกองสุมไว้เต็มเอี๊ยด มีหลายเรื่องยังต้องให้จางเย่ดูแลด้วยตนเอง

อู่อี้ถามอย่างเป็นกังวล “อ้อ เรื่องการ์ตูนเป็นไงบ้าง?”

ฮาฉีฉีพูดอย่างยินดี “ประสบความสำเร็จสุดๆ!”

จางจั่วตาเป็นประกาย “จริงเหรอ?”

เสี่ยวหวังตื่นเต้น “การ์ตูนของอาจารย์จางได้ตีพิมพ์ต่อเนื่อง แถมยังได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นตั้งแต่ตอนแรกเลย เป็นอันดับหนึ่งในโพลความนิยมของนิตยสารโชเน็นเลยนะ” พอเห็นทุกคนไม่ตอบสนอง เธอก็เสริมขึ้น “พวกคุณอาจจะยังไม่เข้าใจ เอาอย่างนี้ รู้จักเรื่องราชันย์เทพประยุทธ์ใช่ไหม?”

อู่อี้กะพริบตาปริบ “ฉันดูอนิเมะเรื่องนี้”

เสี่ยวหวังเสริม “ใช่ นี่เป็นการ์ตูนที่สนุกมากๆ แต่ราชันย์เทพประยุทธ์ได้อันดับสองตามหลังวันพีซล่ะ!”

ทุกคนตัวสั่นเทิ้ม!

เขาทำได้จริงๆ?

การ์ตูนของผู้กำกับจางโด่งดังขึ้นมาแล้วจริงๆ เหรอ?

ฮาฉีฉี “เพิ่งออกมาแค่ตอนเดียว แต่ทางกองบรรณาธิการของโชเน็นก็ให้ความสำคัญอย่างมากแล้ว ทางกองบรรณาธิการโทรหาเราหลายสายมาก ดูเหมือนจะให้ความสำคัญสุดๆ ไปเลย ใครจะไปรู้ล่ะ? เราอาจจะได้เห็นวันพีซกลายเป็นอนิเมะก็ได้ ถ้าเกิดเป็นอย่างนั้นก็จะยิ่งบุกเข้าไปโด่งดังทั่วทวีปเอเชียจริงๆ ตอนนี้ก็รอดูว่าวันพีซจะดังได้แค่ไหน เรื่องนี้ทุกคนยังไม่แน่นอน คงต้องดูกันต่อไปแล้วล่ะ”

การ์ตูนนั้นมีความดังหลายระดับ

ดังเล็กน้อย

ดังมาก

ดังระดับประเทศ ล้วนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

วันพีซเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ทุกอย่างจึงยังยังคงไม่แน่นอน

จางจั่ว “ผู้กำกับจางครับ สิบวันนี้มีงานรออยู่…”

จางเย่หัวเราะ “ไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ผมต้องรีบกลับบ้านก่อนล่ะ แม่บ่นมาหลายวันแล้ว กลับไปรายงานตัวก่อนแล้วกัน เดี๋ยวค่อยกลับมาจัดการงานพวกนี้นะ”

จางจั่ว “ครับ งั้นก็รีบกลับบ้านนะครับ”

เขาหยิบกระเป๋าตัวเองก่อนขับรถกลับบ้าน

ที่บ้าน

จางเย่เอากุญแจออกมาเปิดประตู พอเข้าไปเขาก็ร้องลั่น “ลูกพี่กลับมาแล้ว!”

แต่ทว่าเขากลับพบว่าบรรยากาศมีอะไรแปลกไป กลายเป็นพ่อแม่เขาอยู่ที่นี่ พ่อแม่คุณอู๋ก็อยู่ที่นี่ ก่อนเห็นว่าภรรยาของเขานั่งอยู่บนโซฟา พันขาข้างหนึ่งอยู่ด้วยผ้าขาวและเฝือก ข้างๆ ยังมีไม้ค้ำคู่หนึ่ง

แม่ฮึ่มใส่ “แกยังรู้จักกลับมาด้วยเรอะ?”

จางเย่สะพรึง “ไอ้หยา เมียจ๋า! เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”

อู๋เจ๋อชิง “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ล้มน่ะ”

จางเย่กระโดดผลุงไปถึงหน้าคุณอู๋ ย่อตัวลงข้างๆ จับขาเธอเบาๆ “ล้มได้ไงกัน?”

อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “เดินไม่ระวังน่ะสิ แต่ลูกยังดีอยู่ ไม่ต้องห่วงหรอก”

จางเย่ถลึงตา “คุณไม่สบายก็ไม่ดีเหมือนกันนะ”

อู๋เจ๋อชิง “ฉันสบายดี ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ”

“คุณก็เป็นซะแบบนี้ ยังจะดีกว่านี้ไม่ได้ได้ยังไง?” จางเย่ปวดใจ เขาหันไปบ่นแม่ “ทำไมแม่ไม่ยอมบอกผมล่ะ!”

แม่เขากลอกตา “ก็ฉันบอกแล้วว่าให้แกรีบกลับบ้านไง!”

จางเย่นึกขึ้นได้ “เพราะแบบนี้แม่เลยจิกให้ผมรีบกลับเหรอ? งั้นก็บอกสิแม่! ถ้าบอกตรงๆ ผมกลับมาตั้งแต่สองวันที่แล้วแล้ว!”

พ่อว่า “เจ๋อชิงนั่นแหละที่ยืนยันไม่ให้เราบอก”

จางเย่โมโห “ล้มมากี่วันแล้วเนี่ย?”

แม่เบ้ปาก “สองวัน”

หลี่ฉินฉิน “ข้อเท้าเธอหัก อย่างอื่นยังดีอยู่”

อู๋ฉางเหอ “หมอดัดข้อเท้าใส่เฝือกให้แล้ว แต่คงต้องพักหลายเดือน” ก่อนมองบุตรี “ทำไมเดินลงบันไดไม่ระวังกันนะ?”

จางเย่พูดขึ้นทันที “ล้มที่บันไดไหน?”

แม่ขำ “ทำไม? แกจะไปพังบันไดเรอะ?”

จางเย่กัดฟัน “ผมจะพังแ่งให้ยับเลย!”

ทุกคนหัวเราะ

จางเย่มองภรรยาเขาอยู่เนิ่นนาน แสดงความกังวลต่อการบาดเจ็บของเธอและดูเอกซเรย์จากโรงพยาบาล ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเขามี ‘น้ำแร่สุขภาพ’ เหลืออยู่จากลอตเตอรี่ ถ้าให้คุณอู๋ดื่มก็ควรจะช่วยให้เธอหายได้โดยไว แต่คิดๆ กังวลอยู่นานจางเย่ก็รู้ว่าเขาใช้กับเธอไม่ได้ เขาเคยใช้กับเหล่าเหราเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายในของเธอก็จริง แต่ว่าอาการบาดเจ็บภายในมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อีกทั้งเหราอ้ายหมิ่นเองก็พักฟื้นมานานแล้ว เธอจะหายในทันทีก็ไม่แปลก แต่ว่าอาการข้อเท้าหักของคุณอู๋เพิ่งเกิดขึ้นได้สองวัน ผลเอกซเรย์ก็ยังมีอยู่ ถ้าเธอลุกขึ้นมาเดินมาวิ่งได้ทั้งๆ ที่ไม่นานนี้ยังต้องใช้ไม้ค้ำ อย่างนั้นจะอธิบายได้อย่างไร?

 เวลาเที่ยง

พวกเขาทานอาหาร

ทุกคนคุยกันเรื่องที่จะดูแลอู๋เจ๋อชิงช่วงนี้อย่างไรดี

หลี่ฉินฉินแนะ “ฉางเหอกับฉันจะพาเจ๋อชิงกลับบ้าน ที่นี่มีสองชั้น ให้เธอขึ้นลงคงไม่สะดวก อยู่กับเราเราจะได้ดูแลได้”

อู๋เจ๋อชิงยิ้ม “ไม่ต้องค่ะ หนูดูแลตัวเองได้”

หลี่ฉินฉินส่ายหน้า “เธอคนเดียวไม่ได้หรอกนะ”

แม่จางเย่ค้าน “ให้พ่อเย่น้อยกับฉันดูแลเอง สองวันนี้เราก็ดูแลได้นี่นา?”

อู๋ฉางเหอ “คุณสองคนอายุไม่น้อยแล้ว เดินทางไปๆ มาๆ ทำอาหารทำงานบ้านต้องไม่ดีแน่ ทำไมไม่ให้พวกเราดูแลล่ะ?”

ทั้งสองครอบครัวถกเถียงกันเนิ่นนาน

สุดท้ายจางเย่ก็ตัดสินใจ

จางเย่วางตะเกียบ “ไม่ต้องเถียงกันแล้ว เมียผม ผมก็ต้องดูแลเองสิ”

แม่มองเขา “ไอ้หนู ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เชื่อแกนะ ถ้าเธอไม่บาดเจ็บอะไรฉันรู้ว่าแกทำได้ แต่ว่าเจ๋อชิงขึ้นลงบันไดยังยาก อย่าว่าแต่ซักผ้าทำกับข้าวเลย แกจะดูแลเองเหรอ? ฝีมือทำกับข้าวแบบแกเนี่ยนะ? แม้แต่หมูยังอดตาย!”

พ่อก็ว่า “เจ๋อชิงตั้งท้องแล้ว อาหารนอกบ้านมีแต่ผงชูรส ให้กินมากก็ไม่ดี เธอกินยาเยอะก็ไม่ได้ ได้แต่รอให้เธอฟื้นตัวด้วยตัวเอง แกทำกับข้าวทำน้ำแกงบำรุงให้เธอก็ไม่เป็น เพราะงั้นลืมไปได้เลย อย่างมากคือฉันกับแม่แกจะมาดูแลทุกวัน”

จางเย่กลอกตา “ไม่ต้องหรอกน่า ยังไงเรื่องนี้พ่อแม่ก็ไม่ต้องกังวลหรอก”

หลี่ฉินฉิน “ไม่ได้ เธอมีงานให้ทำเยอะมากแล้ว จะไปหาเวลาที่ไหนอีก?”

แต่จางเย่กลับว่า “ผมจะพักไว้ก่อน ตั้งแต่วันนี้ไปอีกหลายเดือน ผมจะอยู่บ้านดูแลภรรยา ไม่ไปไหน เพราะงั้นคนอื่นไม่ต้องพูดแล้ว!”

ซักผ้า?

ฉันจะเรียนรู้!

งานบ้าน?

ฉันจะเรียนรู้!

ทำกับข้าว?

ฉันจะเรียนรู้!

นี่เมียฉัน! ฉันจะไม่ยอมให้ใครดูแลนอกจากตัวฉันเองหรอก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด