[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษก่อนขึ้นภาค 2 จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างภาค 1 แบบไม่เรียงช่วงเวลา

____________________

 

ตอนพิเศษ 01

เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

 

 

  ผ่านมาได้สามเดือน หลังจากเซเลนถูกสั่งขังอยู่ในห้องเก็บของที่อาร์คุยล่าโดยราชินีที่ดูเหมือนเข้ากันไม่ค่อยได้ ในที่สุดฤดูร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น และเซเลนก็ได้แต่นอนเอกเขนกอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องรับการฝึกสอนในฐานะเจ้าหญิงอันน่าเบื่ออีกต่อไป

 

  แต่ก็ยังมีอีกปัญหา

 

“อ๊า! ร้อน!”

 

   เซเลนนอนอยู่บนเตียงคุณภาพต่ำ นอนแผ่เหมือนแมงกะพรุนเกยตื้นบนชายหาด

 

“ราเมง โซเม็ง…”

 

  ฤดูร้อนอันอบอ้าวได้ละลายความกระตือรือร้นออกจากเซเลนจนหมด เธอจึงได้แต่นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไป และอากาศแบบนี้ ยังไงโซเม็งก็เหมาะกว่าราเมง

 

  ห้องขังของเซเลนเดิมทีเป็นห้องเก็บของที่มีหน้าต่างแค่บานเดียวทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร แต่โชคยังดีที่อยู่ติดกับสวนที่รกเป็นป่า จึงมีลมเย็นๆพัดเข้ามาเป็นระยะ ความชื้นก็อยู่ในขั้นที่พอรับได้ แต่ก็ในฤดูร้อนก็ยังร้อนอยู่ดี

 

  เพื่อที่จะต่อสู้กับความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซเลนจึงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูร้อน หรือก็คือ ไม่สวมเครื่องแต่งกายใดๆเลย 

 

   เมื่อไม่มีใครเห็นก็ไม่จำเป็นต้องอาย เซเลนจึงใช้ชีวิตอย่างเปลือยเปล่าอยู่เกือบทั้งวัน ยกเว้นช่วงที่จะมีคนเข้ามาในห้อง เช่น เวลาอาหาร หรือทำความสะอาด

 

   เด็กทั่วไปมักทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สกปรกเปรอะเปื้อนด้วยความไม่ตั้งใจเป็นเรื่องปรกติ แต่เสื้อผ้าของเซเลนก็ยังสะอาดเหมือนใหม่ไม่ต่างกับชุดตุ๊กตา แม้แต่คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ก็รู้สึกถึงความผิดปรกติของเด็กคนนี้เช่นเดียวกับราชินี ทั้งที่จริง เสื้อผ้าพวกนั้นถูกถอดเก็บไว้ ไม่สกปรกเพราะไม่เคยถูกสวมใส่ต่างหาก

 

“ผม รำคาญ”

 

  เมื่อร่างกายได้เปลือยเปล่าหมดจดแล้วก็เหลืออีกอย่างที่ปกคลุมร่างกายเป็นแหล่งสะสมความร้อน เซเลนเอามือจับเส้นผมสีขาวยาวสลวยของเธอ เมื่อตอนที่ยังอยู่ในปราสาทได้ถูกสอนมาว่าค่านิยมของสุภาพสตรีคือต้องไว้ผมยาว เซเลนจึงอดทนปฏิบัติตามทั้งอย่างนั้น ทั้งที่ในชีวิตก่อนเซเลนจะตัดผมให้สั้นอยู่ตลอดเพราะไม่ชอบร้อนอับ

 

  ผมของเซเลนที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลัง พี่สาวของเธอ อาลัว เคยชมว่า ‘เส้นผมของเซเลนงดงามราวกับเส้นไหมที่ถูกย้อมด้วยแสงจันทร์’ แต่เซเลนไม่มีความสุนทรียะ จึงเห็นเป็นแค่เส้นโซเม็งที่กินไม่ได้เท่านั้น

 

“ผม แกะกะ ไม่เอา”

 

  ที่ผ่านมาก็ยอมทำตามกฎในวังมาตลอด แต่ไหนๆก็ถูกจับแยกออกมาแล้ว ก็ขอปล่อยตัวตามใจชอบเลยก็แล้วกัน เส้นผมยาวๆน่ารำคาญนี่ก็ขอตัดให้เกลี้ยงเลยก็แล้วกัน จากนั้นก็ไปยืนอยู่หน้ากระจกเก่าๆมีรอยแตกที่มุมห้อง และถือมีดหั่นอาหารที่ไม่ค่อยคมนักจากชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ได้รับมาพร้อมมื้ออาหาร

 

“คุณลูกค้า ทรงไหน?”

“สั้น”

 

  เซเลนเล่นอยู่คนเดียวหน้ากระจก เอามีดกะระยะตามความยาวของเส้นผม หากตัดให้สั้นจนเกินไปก็อาจจะทำให้อาลัวเห็นแล้วตกใจได้ จึงค่อยๆเล็มออกทีละนิดจนกว่าจะรู้สึกว่าพอดี เซเลนจึงรวบเส้นผมมาตัดทีละกระจุก เริ่มจากปอบผมทางด้านขวา

 

“อุหวา!?”

 

  แต่เซเลนก็เป็นคนที่ขาดความละเอียดอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อตัดครบรอบหัวแล้ว ความยาวของเส้นผมทางด้านซ้ายกับขวาก็ไม่เท่ากัน ทำให้เซเลนมองด้วยความรู้สึกแปลกๆ

 

“สมดุล!”

 

   ยิ่งมองยิ่งพิลึก เธอจึงตัดด้านซ้ายที่ยาวเกินไปออก ให้ยาวเท่ากันอีกครั้ง

 

“อุหวา!?”

 

   ปรากฏว่าข้างซ้ายที่เพิ่งตัดไปนั้น สั้นกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด! จึงตัดส่วนอื่นๆให้ยาวเสมอกัน… ขาว ซ้าย และกลับมาขวา ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะรู้ตัว หัวของเซเลนก็ดูเหมือนหอยเม่น

 

“อะ อ๊า!”

 

   แย่แล้ว แย่แน่ๆ เซเลนเอามือกุมหัวที่แปลกประหลาดทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เส้นผมที่ตัดออกไปแล้วก็ไม่สามารถนำมาต่อใหม่ได้ ต้องหาทางอื่นมาแก้ปัญหา

 

“ใช่แล้ว!”

 

   ต้องคิดหาวิธีที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงเหมือนกับไข่ของโคลัมบัส* ผมที่อยู่บนหัวก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ถ้าเอาออกให้หมดก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมดุล แบบเดียวกับถ้าทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ โลกก็จะปราศจากสงคราม อันที่จริงก็คือ คิดหาทางแก้ไขไม่ได้จึงต้องดันทุรังไปให้สุดทางนั่นเอง

 

  เซเลนตัดผมต่อไปด้วยมีดหั่นอาหารนั้น และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้ทรงผมสุดฮิตของนักเบสบอลระดับมัธยมต้น เป้าหมายคือโคชิเอ็ง

 

“เยี่ยม! ไม่มีปัญหา!”

 

  ทั้งๆที่มันควรจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เซเลนกลับพูดออกมาเองว่าไม่มีปัญหา ซ้ำยังดีใจที่ได้กำจัดผมยาวน่ารำคาญไปได้ เมื่อเธอโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง ลมเย็นๆก็พัดผ่านถึงหนังศีรษะทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบายเป็นอย่างมาก

 

“เซเลน เซเลน เป็นยังไงบ้าง?”

“เอ๋?”

 

   ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูกับเสียงเรียกที่เซเลนจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เสียงของพี่สาวสุดที่รักกำลังเรียกชื่อของเซเลน เสียงของอาลัวนั่นเอง ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจออาลัวทุกวันเหมือนเมื่อก่อนตั้งแต่ถูกขังไว้ที่นี่ แต่นานๆที ทางนั้นก็เป็นฝ่ายมาหาเอง เซเลนจึงไม่ได้คิดว่าโชคร้ายมากนัก

 

“ไม่เป็-…”

 

  ก่อนที่จะตอบไปว่า ไม่เป็นไร แต่ก็หยุดเอาไว้เพราะคิดถึงสภาพของตนเองในตอนนี้และเริ่มแตกตื่นขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอเปลือยเปล่าไปทั้งตัว รวมถึงหัวอีกด้วย ไม่มีทางที่จะให้อาลัวเห็นเธอในสภาพนี้ได้

 

“รอเดี๋ยว!”

 

  เซเลนรีบสวมเสื้อผ้า กวาดเส้นผมที่กระจายอยู่เต็มพื้นและโกยเข้าไปไว้ใต้เตียง ในส่วนนี้ยังราบรื่นอยู่ แต่ทรงผมที่เป็นปัญหาอยู่นี่ จะทำอย่างไรกับมันดี อย่างน้อย ขอแค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปก่อนก็ยังดี

 

“อ๊ะ นี่ไง!”

 

   บางที การเปลี่ยนแปลงทรงผมของเธอในครั้งนี้อาจจะส่งให้เซเลนมีความคิดเฉียบแหลมมากขึ้นเหมือนเณรชื่อดังที่มากด้วยปัญญา เธอจึงคิดได้และลงมือทำในทันที 

 

“ท่านพี่ ไม่เป็นไร เข้าได้”

 

  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากข้างในห้อง อาลัววางมือลงบนประตูผนึก เกิดเป็นลวดลายวงเวทย์จางๆบนประตู มันเคลื่อนไหวเล็กน้อยและประตูก็เปิดออก

 

“เซเลน สบายดีใช่ไหม? …อะไรอยู่บนหัวน่ะ?”

“เอ่อ เล่นอยู่”

 

  เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง อาลัวก็มองไปที่เซเลนด้วยความแปลกใจ บนหัวของเซเลนมีถังขยะตะกร้าสานคลุมอยู่จนมิด ดูเหมือนโคมูโซ**

 

“เพราะในนี้ไม่มีอะไรให้เล่นสินะ… งั้นเดี๋ยวคราวหน้า พี่จะเอาหนังสือหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆมาให้ อดทนรอหน่อยนะ”

“อือ ขอบคุณ…”

 

  ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ เซเลนจะดีใจที่อาลัวมาเยี่ยม และอยากให้อยู่ต่อนานๆ แต่ตอนนี้เธอต้องการให้กลับไปให้เร็วที่สุด ถึงอย่างนั้น จากที่เห็นอาลัวในตอนนี้ดูอารมณ์ดี อีกทั้งยังถืออะไรบางอย่างไว้ในมือ ไม่เหมือนกับมาเยี่ยมเฉยๆ

 

“ก่อนหน้านี้ได้ผลไม้หายากมา ก็เลยเอามาฝาก มาทานด้วยกันดีกว่า”

“อ่า”

 

  เซเลนมองลอดช่องเล็กๆของตะกร้าสาน ดูที่มือของอาลัวก็เห็นผลไม้รูปร่างคล้ายลูกแพร์ เธอคงตั้งใจนำมาแบ่งให้กับเซเลน

 

“ไม่เอา”

“เอ๋? ทำไมล่ะ? เซเลน ปรกติก็ชอบทานผลไม้ไม่ใช่เหรอ?”

“ชอบ แต่ไม่เอา…”

 

   เซเลนตอบตรงๆด้วยคำสั่นๆจนไม่รู้ถึงเจตนา เซเลนมักทานของกินเล่นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธได้อย่างง่ายๆโดยที่ไม่บอกเหตุผล ซึ่งจริงๆแล้วเธอในโหมดคอสเพลย์โคมูโซไม่สามารถรับประทานอาหารผ่านถังขยะที่ครอบหัวอยู่นี้ได้ หรือก็คือ ไม่ใช่ ‘ไม่อยากกิน’ แต่ ‘กินไม่ได้’ ต่างหาก

 

“หรือว่าไม่สบาย? ปวดท้องอยู่เหรอ มีไข้ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่ ไม่ใช่”

“ขอวัดไข้หน่อยนะ ยื่นหน้ามาสิ แล้วที่ใส่อยู่นั่นน่ะเอาออกซะเถอะ เดี๋ยวผมก็อับหมดหรอก”

“อ๊า!”

 

  เพราะเป็นห่วงเซเลน อาลัวจึงใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือผลไม้ ยกถังขยะที่ครอบหัวเซเลนอยู่ออกไป

 

“กรี๊ด!?”

 

   เสียงกรีดร้องดังลั่น ไม่ใช่แค่เส้นผมเสียหายเพราะอับชื้น แต่เส้นผมสีขาวเปล่งประกายงดงามของน้องสาวหายไปจนหมด ทำให้อาลัวตกใจเป็นลมล้มพับ ผลไม่ในมือตกกลิ้งลงบนพื้น

 

“ท่านพี่! เป็นอะไร!?”

“…”

 

   โชคยังดีที่อาลัวทรุดตัวลงไปทางเตียงพอดีจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เซเลนเป็นฝ่ายที่ต้องตกใจแทน ประตูผนึกก็ยังเปิดคาไว้ เซเลนจึงรีบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือกับชายชราที่เป็นคนสวนซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุที่สุด

 

  คนสวนตกใจที่เห็นเซเลนอยู่นอกห้องขัง ซ้ำยังไม่มีเส้นผม และตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตามไปแล้วเห็นอาลัวนอนหมดสติอยู่ในห้องขัง ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาจนแก่ชรา นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาทำงานหนักขนาดนี้ เมื่อชายชราปฐมพยาบาลอย่างง่ายๆ อาลัวก็ลืมตาลุกขึ้นนั่งได้ ทำให้คนสวนกับเซเลนโล่งใจขึ้นมามาก

 

   อาลัวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ส่ายศีรษะเบาๆ เรียบเรียงลำดับเรื่องราวและคว้าแขนของเซเลนที่อยู่ข้างๆเอาไว้แน่น

 

“เซเลน ไปกันเถอะ!”

“ไป? ที่ไหน? ทำไม?”

“หาหมอ!”

 

  พูดแล้วอาลัวก็ลงจากเตียงในทันที เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยลากเซเลนออกไปด้วยกัน คำสั่งของมารดาที่บอกว่าห้ามให้ใครรู้ว่าเซเลนมีตัวตน ก็ต้องขอฝ่าฝืนเพราะหน้าที่ของพี่สาวต้องมาก่อน

 

   อาลัวมุ่งหน้าไปปราสาทเพื่อให้หมอหลวงได้ตรวจอาการของเซเลน ซึ่งตามกฎระเบียบจะต้องขออนุญาตจากราชินีก่อน แต่อาการของน้องสาวผิดปรกติชัดเจน ต้องรีบส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็ว ไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นอีก

 

  หลังจากเซเลนได้รับการตรวจแล้ว หมอก็ได้ให้เธอนอนรอในห้องพักฟื้นและกลับมารายงานผลให้อาลัวได้รับทราบ

 

“เท่าที่ทราบ สุขภาพของท่านเซเลนปรกติดีทุกอย่าง ทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาครับ”

“ไม่มีทางปรกติได้หรอกค่ะ! ผมไม้ที่เป็นของโปรดของเธอก็ไม่อยากกิน แล้วยังตัดผมด้วยตัวเองออกจนหมดอีก! เพราะผิดปรกติถึงได้พามาหานี่ไงคะ…!”

“อืม… อาการเบื่ออาหารกับพฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่ไม่ได้เป็นผลจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย…”

 

   หมอที่กำลังอธิบายได้เงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้อาลัวเป็นกังวลมากขึ้น เด็กคนนั้นถูกขังมาหลายเดือนแล้ว  จะแสดงอาการป่วยออกมาตอนไหนก็ไม่แปลก

 

  “ปัญหาของท่านเซเลน เกรงกว่าจะมีสาเหตุจากข้างในครับ”

 

   หมอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง ซึ่งก็แปลว่า อาการป่วยของเซเลนเกิดจากข้างในหัวของเธอ การวินิจฉัยโดยหมอที่เก่งที่สุดในที่นี้ย่อมไม่มีทางพลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้อาลัวยอมรับได้

 

“คิดว่าหัวของเซเลนมีปัญหาเหรอคะ!? ไม่มีทาง! เด็กคนนี้หัวดีจะตาย! เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ!”

“ใจเย็นก่อน ท่านอาลัว ผมบอกออกไปไม่ชัดเจนเอง ความจริงก็คือ มันไม่ใช่การเจ็บป่วยทางร่างการ แต่เป็นที่จิตใจ”

“จิตใจ?”

 

   คำพูดของหมอทำให้อาลัวใจเย็นลง แต่หมอที่เก่งที่สุดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึง ‘อาการป่วย’ ของเซเลนให้อาลัวเข้าใจได้

 

“สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดสะสม อย่างสัตว์ตามธรรมชาติที่ถูกจับมาใส่กรงก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าบางทีพวกมันก็เล็มขนของตัวเองออกเกินความจำเป็น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางจิตใจของท่านเซเลนว่าจะทนรับแรงกดดันได้มากแค่ไหน”

“ไม่นะ…”

 

  คำพูดของหมอทำให้อาลัวเจ็บปวดอยู่ในใจ ตัวเธอเองก็เติบโตมาในฐานะเจ้าหญิง มีผู้คนคอยเอาใจกับคนรับใช้มากมาก แต่น้องสาวถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่า เส้นผมคือชีวิตสำหรับผู้หญิง และเซเลนก็ตัดมันออกไปทั้งหมดตามที่เห็น

 

   ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยามเก็บซ่อนเอาไว้ราวกับว่ามันเป็นเพียง ‘การละเล่น’ หากในตอนนั้นไม่ได้เปิดตะกร้าถังขยะขึ้นมา ความผิดปรกติของเซเลนก็จะไม่ถูกรับรู้ไปอีกนาน ความเป็นห่วงน้องสาวทำให้อาลัวเจ็บใจในความอ่อนหัดของตนเองและหลั่งน้ำตาออกมา

 

“ขอฝากเธอไว้เดี๋ยวนะคะ ฉันจะไปคุยกับท่านแม่… ราชินี! ถ้าปล่อยเอาไว้ เซเลนต้องตายแน่!”

“รับทราบ ทางนี้เองก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

 

  อาลัวปาดน้ำตาและวิ่งไปตามทางเดินในปราสาท คำสั่งของราชินีถือเป็นที่สุด แต่จะไม่ยอมให้เซเลนต้องรับเคราห์อยู่คนเดียวอีกต่อไป ครั้งนี้คือเส้นผม ครั้งหน้าคมมีดนั้นจะตัดสิ่งใด อาจจะเป็นลำคอหรือข้อมือ เมื่อคิดได้เช่นนี้ อาลัวก็หมดความอดทน มุ่งหน้าไปขอเข้าเฝ้าโดยตรงด้วยอารมณ์อันรุนแรง

 

   จากปรกติ อาลัวเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน กลับแสดงความโกรธออกมาขนาดนี้ก็ทำให้ราชินีแปลกใจเป็นอย่างมาก และก็ได้มีคำสั่งให้เซเลนที่ตัดผมออกจนหมด ย้ายกลับมากักบริเวณในปราสาทเป็นการชั่วคราวโดยไม่ให้มีใครพบเห็นในช่วงฤดูร้อนนี้

 

“ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้พี่ทำให้ได้เท่านี้ แต่จะพยายามให้มากขึ้น จะได้ช่วยเธอออกมาได้สักวันอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไร”

“เซเลน ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ไว้คราวหลังจะเอาผลไม้มาเยี่ยมอีกนะ”

“อือ!”

 

   ความจริงเซเลนก็ไม่ได้อยากออกมาจากห้องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ห้องนี้ไม่ร้อนอบอ้าวและพี่สาวก็มาเยี่ยมบ่อยขึ้น ก็เรียกได้ว่าน่ายินดี

 

  และก็ได้สัญญากับอาลัวว่าจะไม่ตัดผมอีก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไว้ใจและถูกคุมเข้มจากสิ่งของมีคมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เซเลนจึงไม่สามารถตัดผมเองได้อีกต่อไป แต่คำขอที่อยากได้ทรงผมที่เหมาะกับอากาศร้อนก็ได้รับการยอมรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความยาวของเส้นผมของเธอก็ถูกกำหนดไว้ที่ช่วงบ่า

 

“คิดไม่ถึง จริงๆ…”

 

  เซเลนก็รู้สึกเสียใจจากเรื่องนี้ ที่ทำให้อาลัวต้องมาคอยเป็นห่วงกับเรื่องที่ไม่จำเป็น และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ผมของเธอก็เริ่มยาวจนดูดีขึ้นมามาก เซเลนจึงถูกส่งกลับไปยังห้องขังอีกครั้ง

 

  เมื่อเห็นเซเลนยอมกลับเข้าคุกโดยไม่ปริปากบ่น อาลัวยิ่งพยายามหาหนทางที่จะช่วยน้องสาวของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คอยมองหาโอกาสที่จะทำเช่นนั้นอยู่เสมอมา

 

   ――และในสองปีให้หลัง โอกาสที่อาลัวรอคอย และจุดพลิกผันของเซเลน ก็เดินทางมาถึง

 

 

____________________

* คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เคยท้าแข่งตั้งไข่ไก่ไม่ให้กลิ้งกับเหล่าขุนนาง และอาศัยช่องโหว่ของกฎเอาชนะด้วยการทุบไข่ให้แตกก่อนนำไปวาง

 

**虚無僧(komuso) พระนิกายเซ็น มีเอกลักษณ์คือหมวกสานใบใหญ่คลุมทั้งหัวกับขลุ่ยไม้ไผ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษก่อนขึ้นภาค 2 จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างภาค 1 แบบไม่เรียงช่วงเวลา

____________________

 

ตอนพิเศษ 01

เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

 

 

  ผ่านมาได้สามเดือน หลังจากเซเลนถูกสั่งขังอยู่ในห้องเก็บของที่อาร์คุยล่าโดยราชินีที่ดูเหมือนเข้ากันไม่ค่อยได้ ในที่สุดฤดูร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น และเซเลนก็ได้แต่นอนเอกเขนกอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องรับการฝึกสอนในฐานะเจ้าหญิงอันน่าเบื่ออีกต่อไป

 

  แต่ก็ยังมีอีกปัญหา

 

“อ๊า! ร้อน!”

 

   เซเลนนอนอยู่บนเตียงคุณภาพต่ำ นอนแผ่เหมือนแมงกะพรุนเกยตื้นบนชายหาด

 

“ราเมง โซเม็ง…”

 

  ฤดูร้อนอันอบอ้าวได้ละลายความกระตือรือร้นออกจากเซเลนจนหมด เธอจึงได้แต่นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไป และอากาศแบบนี้ ยังไงโซเม็งก็เหมาะกว่าราเมง

 

  ห้องขังของเซเลนเดิมทีเป็นห้องเก็บของที่มีหน้าต่างแค่บานเดียวทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร แต่โชคยังดีที่อยู่ติดกับสวนที่รกเป็นป่า จึงมีลมเย็นๆพัดเข้ามาเป็นระยะ ความชื้นก็อยู่ในขั้นที่พอรับได้ แต่ก็ในฤดูร้อนก็ยังร้อนอยู่ดี

 

  เพื่อที่จะต่อสู้กับความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซเลนจึงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูร้อน หรือก็คือ ไม่สวมเครื่องแต่งกายใดๆเลย 

 

   เมื่อไม่มีใครเห็นก็ไม่จำเป็นต้องอาย เซเลนจึงใช้ชีวิตอย่างเปลือยเปล่าอยู่เกือบทั้งวัน ยกเว้นช่วงที่จะมีคนเข้ามาในห้อง เช่น เวลาอาหาร หรือทำความสะอาด

 

   เด็กทั่วไปมักทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สกปรกเปรอะเปื้อนด้วยความไม่ตั้งใจเป็นเรื่องปรกติ แต่เสื้อผ้าของเซเลนก็ยังสะอาดเหมือนใหม่ไม่ต่างกับชุดตุ๊กตา แม้แต่คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ก็รู้สึกถึงความผิดปรกติของเด็กคนนี้เช่นเดียวกับราชินี ทั้งที่จริง เสื้อผ้าพวกนั้นถูกถอดเก็บไว้ ไม่สกปรกเพราะไม่เคยถูกสวมใส่ต่างหาก

 

“ผม รำคาญ”

 

  เมื่อร่างกายได้เปลือยเปล่าหมดจดแล้วก็เหลืออีกอย่างที่ปกคลุมร่างกายเป็นแหล่งสะสมความร้อน เซเลนเอามือจับเส้นผมสีขาวยาวสลวยของเธอ เมื่อตอนที่ยังอยู่ในปราสาทได้ถูกสอนมาว่าค่านิยมของสุภาพสตรีคือต้องไว้ผมยาว เซเลนจึงอดทนปฏิบัติตามทั้งอย่างนั้น ทั้งที่ในชีวิตก่อนเซเลนจะตัดผมให้สั้นอยู่ตลอดเพราะไม่ชอบร้อนอับ

 

  ผมของเซเลนที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลัง พี่สาวของเธอ อาลัว เคยชมว่า ‘เส้นผมของเซเลนงดงามราวกับเส้นไหมที่ถูกย้อมด้วยแสงจันทร์’ แต่เซเลนไม่มีความสุนทรียะ จึงเห็นเป็นแค่เส้นโซเม็งที่กินไม่ได้เท่านั้น

 

“ผม แกะกะ ไม่เอา”

 

  ที่ผ่านมาก็ยอมทำตามกฎในวังมาตลอด แต่ไหนๆก็ถูกจับแยกออกมาแล้ว ก็ขอปล่อยตัวตามใจชอบเลยก็แล้วกัน เส้นผมยาวๆน่ารำคาญนี่ก็ขอตัดให้เกลี้ยงเลยก็แล้วกัน จากนั้นก็ไปยืนอยู่หน้ากระจกเก่าๆมีรอยแตกที่มุมห้อง และถือมีดหั่นอาหารที่ไม่ค่อยคมนักจากชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ได้รับมาพร้อมมื้ออาหาร

 

“คุณลูกค้า ทรงไหน?”

“สั้น”

 

  เซเลนเล่นอยู่คนเดียวหน้ากระจก เอามีดกะระยะตามความยาวของเส้นผม หากตัดให้สั้นจนเกินไปก็อาจจะทำให้อาลัวเห็นแล้วตกใจได้ จึงค่อยๆเล็มออกทีละนิดจนกว่าจะรู้สึกว่าพอดี เซเลนจึงรวบเส้นผมมาตัดทีละกระจุก เริ่มจากปอบผมทางด้านขวา

 

“อุหวา!?”

 

  แต่เซเลนก็เป็นคนที่ขาดความละเอียดอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อตัดครบรอบหัวแล้ว ความยาวของเส้นผมทางด้านซ้ายกับขวาก็ไม่เท่ากัน ทำให้เซเลนมองด้วยความรู้สึกแปลกๆ

 

“สมดุล!”

 

   ยิ่งมองยิ่งพิลึก เธอจึงตัดด้านซ้ายที่ยาวเกินไปออก ให้ยาวเท่ากันอีกครั้ง

 

“อุหวา!?”

 

   ปรากฏว่าข้างซ้ายที่เพิ่งตัดไปนั้น สั้นกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด! จึงตัดส่วนอื่นๆให้ยาวเสมอกัน… ขาว ซ้าย และกลับมาขวา ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะรู้ตัว หัวของเซเลนก็ดูเหมือนหอยเม่น

 

“อะ อ๊า!”

 

   แย่แล้ว แย่แน่ๆ เซเลนเอามือกุมหัวที่แปลกประหลาดทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เส้นผมที่ตัดออกไปแล้วก็ไม่สามารถนำมาต่อใหม่ได้ ต้องหาทางอื่นมาแก้ปัญหา

 

“ใช่แล้ว!”

 

   ต้องคิดหาวิธีที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงเหมือนกับไข่ของโคลัมบัส* ผมที่อยู่บนหัวก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ถ้าเอาออกให้หมดก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมดุล แบบเดียวกับถ้าทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ โลกก็จะปราศจากสงคราม อันที่จริงก็คือ คิดหาทางแก้ไขไม่ได้จึงต้องดันทุรังไปให้สุดทางนั่นเอง

 

  เซเลนตัดผมต่อไปด้วยมีดหั่นอาหารนั้น และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้ทรงผมสุดฮิตของนักเบสบอลระดับมัธยมต้น เป้าหมายคือโคชิเอ็ง

 

“เยี่ยม! ไม่มีปัญหา!”

 

  ทั้งๆที่มันควรจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เซเลนกลับพูดออกมาเองว่าไม่มีปัญหา ซ้ำยังดีใจที่ได้กำจัดผมยาวน่ารำคาญไปได้ เมื่อเธอโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง ลมเย็นๆก็พัดผ่านถึงหนังศีรษะทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบายเป็นอย่างมาก

 

“เซเลน เซเลน เป็นยังไงบ้าง?”

“เอ๋?”

 

   ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูกับเสียงเรียกที่เซเลนจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เสียงของพี่สาวสุดที่รักกำลังเรียกชื่อของเซเลน เสียงของอาลัวนั่นเอง ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจออาลัวทุกวันเหมือนเมื่อก่อนตั้งแต่ถูกขังไว้ที่นี่ แต่นานๆที ทางนั้นก็เป็นฝ่ายมาหาเอง เซเลนจึงไม่ได้คิดว่าโชคร้ายมากนัก

 

“ไม่เป็-…”

 

  ก่อนที่จะตอบไปว่า ไม่เป็นไร แต่ก็หยุดเอาไว้เพราะคิดถึงสภาพของตนเองในตอนนี้และเริ่มแตกตื่นขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอเปลือยเปล่าไปทั้งตัว รวมถึงหัวอีกด้วย ไม่มีทางที่จะให้อาลัวเห็นเธอในสภาพนี้ได้

 

“รอเดี๋ยว!”

 

  เซเลนรีบสวมเสื้อผ้า กวาดเส้นผมที่กระจายอยู่เต็มพื้นและโกยเข้าไปไว้ใต้เตียง ในส่วนนี้ยังราบรื่นอยู่ แต่ทรงผมที่เป็นปัญหาอยู่นี่ จะทำอย่างไรกับมันดี อย่างน้อย ขอแค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปก่อนก็ยังดี

 

“อ๊ะ นี่ไง!”

 

   บางที การเปลี่ยนแปลงทรงผมของเธอในครั้งนี้อาจจะส่งให้เซเลนมีความคิดเฉียบแหลมมากขึ้นเหมือนเณรชื่อดังที่มากด้วยปัญญา เธอจึงคิดได้และลงมือทำในทันที 

 

“ท่านพี่ ไม่เป็นไร เข้าได้”

 

  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากข้างในห้อง อาลัววางมือลงบนประตูผนึก เกิดเป็นลวดลายวงเวทย์จางๆบนประตู มันเคลื่อนไหวเล็กน้อยและประตูก็เปิดออก

 

“เซเลน สบายดีใช่ไหม? …อะไรอยู่บนหัวน่ะ?”

“เอ่อ เล่นอยู่”

 

  เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง อาลัวก็มองไปที่เซเลนด้วยความแปลกใจ บนหัวของเซเลนมีถังขยะตะกร้าสานคลุมอยู่จนมิด ดูเหมือนโคมูโซ**

 

“เพราะในนี้ไม่มีอะไรให้เล่นสินะ… งั้นเดี๋ยวคราวหน้า พี่จะเอาหนังสือหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆมาให้ อดทนรอหน่อยนะ”

“อือ ขอบคุณ…”

 

  ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ เซเลนจะดีใจที่อาลัวมาเยี่ยม และอยากให้อยู่ต่อนานๆ แต่ตอนนี้เธอต้องการให้กลับไปให้เร็วที่สุด ถึงอย่างนั้น จากที่เห็นอาลัวในตอนนี้ดูอารมณ์ดี อีกทั้งยังถืออะไรบางอย่างไว้ในมือ ไม่เหมือนกับมาเยี่ยมเฉยๆ

 

“ก่อนหน้านี้ได้ผลไม้หายากมา ก็เลยเอามาฝาก มาทานด้วยกันดีกว่า”

“อ่า”

 

  เซเลนมองลอดช่องเล็กๆของตะกร้าสาน ดูที่มือของอาลัวก็เห็นผลไม้รูปร่างคล้ายลูกแพร์ เธอคงตั้งใจนำมาแบ่งให้กับเซเลน

 

“ไม่เอา”

“เอ๋? ทำไมล่ะ? เซเลน ปรกติก็ชอบทานผลไม้ไม่ใช่เหรอ?”

“ชอบ แต่ไม่เอา…”

 

   เซเลนตอบตรงๆด้วยคำสั่นๆจนไม่รู้ถึงเจตนา เซเลนมักทานของกินเล่นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธได้อย่างง่ายๆโดยที่ไม่บอกเหตุผล ซึ่งจริงๆแล้วเธอในโหมดคอสเพลย์โคมูโซไม่สามารถรับประทานอาหารผ่านถังขยะที่ครอบหัวอยู่นี้ได้ หรือก็คือ ไม่ใช่ ‘ไม่อยากกิน’ แต่ ‘กินไม่ได้’ ต่างหาก

 

“หรือว่าไม่สบาย? ปวดท้องอยู่เหรอ มีไข้ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่ ไม่ใช่”

“ขอวัดไข้หน่อยนะ ยื่นหน้ามาสิ แล้วที่ใส่อยู่นั่นน่ะเอาออกซะเถอะ เดี๋ยวผมก็อับหมดหรอก”

“อ๊า!”

 

  เพราะเป็นห่วงเซเลน อาลัวจึงใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือผลไม้ ยกถังขยะที่ครอบหัวเซเลนอยู่ออกไป

 

“กรี๊ด!?”

 

   เสียงกรีดร้องดังลั่น ไม่ใช่แค่เส้นผมเสียหายเพราะอับชื้น แต่เส้นผมสีขาวเปล่งประกายงดงามของน้องสาวหายไปจนหมด ทำให้อาลัวตกใจเป็นลมล้มพับ ผลไม่ในมือตกกลิ้งลงบนพื้น

 

“ท่านพี่! เป็นอะไร!?”

“…”

 

   โชคยังดีที่อาลัวทรุดตัวลงไปทางเตียงพอดีจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เซเลนเป็นฝ่ายที่ต้องตกใจแทน ประตูผนึกก็ยังเปิดคาไว้ เซเลนจึงรีบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือกับชายชราที่เป็นคนสวนซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุที่สุด

 

  คนสวนตกใจที่เห็นเซเลนอยู่นอกห้องขัง ซ้ำยังไม่มีเส้นผม และตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตามไปแล้วเห็นอาลัวนอนหมดสติอยู่ในห้องขัง ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาจนแก่ชรา นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาทำงานหนักขนาดนี้ เมื่อชายชราปฐมพยาบาลอย่างง่ายๆ อาลัวก็ลืมตาลุกขึ้นนั่งได้ ทำให้คนสวนกับเซเลนโล่งใจขึ้นมามาก

 

   อาลัวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ส่ายศีรษะเบาๆ เรียบเรียงลำดับเรื่องราวและคว้าแขนของเซเลนที่อยู่ข้างๆเอาไว้แน่น

 

“เซเลน ไปกันเถอะ!”

“ไป? ที่ไหน? ทำไม?”

“หาหมอ!”

 

  พูดแล้วอาลัวก็ลงจากเตียงในทันที เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยลากเซเลนออกไปด้วยกัน คำสั่งของมารดาที่บอกว่าห้ามให้ใครรู้ว่าเซเลนมีตัวตน ก็ต้องขอฝ่าฝืนเพราะหน้าที่ของพี่สาวต้องมาก่อน

 

   อาลัวมุ่งหน้าไปปราสาทเพื่อให้หมอหลวงได้ตรวจอาการของเซเลน ซึ่งตามกฎระเบียบจะต้องขออนุญาตจากราชินีก่อน แต่อาการของน้องสาวผิดปรกติชัดเจน ต้องรีบส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็ว ไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นอีก

 

  หลังจากเซเลนได้รับการตรวจแล้ว หมอก็ได้ให้เธอนอนรอในห้องพักฟื้นและกลับมารายงานผลให้อาลัวได้รับทราบ

 

“เท่าที่ทราบ สุขภาพของท่านเซเลนปรกติดีทุกอย่าง ทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาครับ”

“ไม่มีทางปรกติได้หรอกค่ะ! ผมไม้ที่เป็นของโปรดของเธอก็ไม่อยากกิน แล้วยังตัดผมด้วยตัวเองออกจนหมดอีก! เพราะผิดปรกติถึงได้พามาหานี่ไงคะ…!”

“อืม… อาการเบื่ออาหารกับพฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่ไม่ได้เป็นผลจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย…”

 

   หมอที่กำลังอธิบายได้เงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้อาลัวเป็นกังวลมากขึ้น เด็กคนนั้นถูกขังมาหลายเดือนแล้ว  จะแสดงอาการป่วยออกมาตอนไหนก็ไม่แปลก

 

  “ปัญหาของท่านเซเลน เกรงกว่าจะมีสาเหตุจากข้างในครับ”

 

   หมอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง ซึ่งก็แปลว่า อาการป่วยของเซเลนเกิดจากข้างในหัวของเธอ การวินิจฉัยโดยหมอที่เก่งที่สุดในที่นี้ย่อมไม่มีทางพลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้อาลัวยอมรับได้

 

“คิดว่าหัวของเซเลนมีปัญหาเหรอคะ!? ไม่มีทาง! เด็กคนนี้หัวดีจะตาย! เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ!”

“ใจเย็นก่อน ท่านอาลัว ผมบอกออกไปไม่ชัดเจนเอง ความจริงก็คือ มันไม่ใช่การเจ็บป่วยทางร่างการ แต่เป็นที่จิตใจ”

“จิตใจ?”

 

   คำพูดของหมอทำให้อาลัวใจเย็นลง แต่หมอที่เก่งที่สุดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึง ‘อาการป่วย’ ของเซเลนให้อาลัวเข้าใจได้

 

“สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดสะสม อย่างสัตว์ตามธรรมชาติที่ถูกจับมาใส่กรงก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าบางทีพวกมันก็เล็มขนของตัวเองออกเกินความจำเป็น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางจิตใจของท่านเซเลนว่าจะทนรับแรงกดดันได้มากแค่ไหน”

“ไม่นะ…”

 

  คำพูดของหมอทำให้อาลัวเจ็บปวดอยู่ในใจ ตัวเธอเองก็เติบโตมาในฐานะเจ้าหญิง มีผู้คนคอยเอาใจกับคนรับใช้มากมาก แต่น้องสาวถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่า เส้นผมคือชีวิตสำหรับผู้หญิง และเซเลนก็ตัดมันออกไปทั้งหมดตามที่เห็น

 

   ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยามเก็บซ่อนเอาไว้ราวกับว่ามันเป็นเพียง ‘การละเล่น’ หากในตอนนั้นไม่ได้เปิดตะกร้าถังขยะขึ้นมา ความผิดปรกติของเซเลนก็จะไม่ถูกรับรู้ไปอีกนาน ความเป็นห่วงน้องสาวทำให้อาลัวเจ็บใจในความอ่อนหัดของตนเองและหลั่งน้ำตาออกมา

 

“ขอฝากเธอไว้เดี๋ยวนะคะ ฉันจะไปคุยกับท่านแม่… ราชินี! ถ้าปล่อยเอาไว้ เซเลนต้องตายแน่!”

“รับทราบ ทางนี้เองก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

 

  อาลัวปาดน้ำตาและวิ่งไปตามทางเดินในปราสาท คำสั่งของราชินีถือเป็นที่สุด แต่จะไม่ยอมให้เซเลนต้องรับเคราห์อยู่คนเดียวอีกต่อไป ครั้งนี้คือเส้นผม ครั้งหน้าคมมีดนั้นจะตัดสิ่งใด อาจจะเป็นลำคอหรือข้อมือ เมื่อคิดได้เช่นนี้ อาลัวก็หมดความอดทน มุ่งหน้าไปขอเข้าเฝ้าโดยตรงด้วยอารมณ์อันรุนแรง

 

   จากปรกติ อาลัวเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน กลับแสดงความโกรธออกมาขนาดนี้ก็ทำให้ราชินีแปลกใจเป็นอย่างมาก และก็ได้มีคำสั่งให้เซเลนที่ตัดผมออกจนหมด ย้ายกลับมากักบริเวณในปราสาทเป็นการชั่วคราวโดยไม่ให้มีใครพบเห็นในช่วงฤดูร้อนนี้

 

“ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้พี่ทำให้ได้เท่านี้ แต่จะพยายามให้มากขึ้น จะได้ช่วยเธอออกมาได้สักวันอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไร”

“เซเลน ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ไว้คราวหลังจะเอาผลไม้มาเยี่ยมอีกนะ”

“อือ!”

 

   ความจริงเซเลนก็ไม่ได้อยากออกมาจากห้องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ห้องนี้ไม่ร้อนอบอ้าวและพี่สาวก็มาเยี่ยมบ่อยขึ้น ก็เรียกได้ว่าน่ายินดี

 

  และก็ได้สัญญากับอาลัวว่าจะไม่ตัดผมอีก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไว้ใจและถูกคุมเข้มจากสิ่งของมีคมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เซเลนจึงไม่สามารถตัดผมเองได้อีกต่อไป แต่คำขอที่อยากได้ทรงผมที่เหมาะกับอากาศร้อนก็ได้รับการยอมรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความยาวของเส้นผมของเธอก็ถูกกำหนดไว้ที่ช่วงบ่า

 

“คิดไม่ถึง จริงๆ…”

 

  เซเลนก็รู้สึกเสียใจจากเรื่องนี้ ที่ทำให้อาลัวต้องมาคอยเป็นห่วงกับเรื่องที่ไม่จำเป็น และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ผมของเธอก็เริ่มยาวจนดูดีขึ้นมามาก เซเลนจึงถูกส่งกลับไปยังห้องขังอีกครั้ง

 

  เมื่อเห็นเซเลนยอมกลับเข้าคุกโดยไม่ปริปากบ่น อาลัวยิ่งพยายามหาหนทางที่จะช่วยน้องสาวของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คอยมองหาโอกาสที่จะทำเช่นนั้นอยู่เสมอมา

 

   ――และในสองปีให้หลัง โอกาสที่อาลัวรอคอย และจุดพลิกผันของเซเลน ก็เดินทางมาถึง

 

 

____________________

* คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เคยท้าแข่งตั้งไข่ไก่ไม่ให้กลิ้งกับเหล่าขุนนาง และอาศัยช่องโหว่ของกฎเอาชนะด้วยการทุบไข่ให้แตกก่อนนำไปวาง

 

**虚無僧(komuso) พระนิกายเซ็น มีเอกลักษณ์คือหมวกสานใบใหญ่คลุมทั้งหัวกับขลุ่ยไม้ไผ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษก่อนขึ้นภาค 2 จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างภาค 1 แบบไม่เรียงช่วงเวลา

____________________

 

ตอนพิเศษ 01

เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

 

 

  ผ่านมาได้สามเดือน หลังจากเซเลนถูกสั่งขังอยู่ในห้องเก็บของที่อาร์คุยล่าโดยราชินีที่ดูเหมือนเข้ากันไม่ค่อยได้ ในที่สุดฤดูร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น และเซเลนก็ได้แต่นอนเอกเขนกอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องรับการฝึกสอนในฐานะเจ้าหญิงอันน่าเบื่ออีกต่อไป

 

  แต่ก็ยังมีอีกปัญหา

 

“อ๊า! ร้อน!”

 

   เซเลนนอนอยู่บนเตียงคุณภาพต่ำ นอนแผ่เหมือนแมงกะพรุนเกยตื้นบนชายหาด

 

“ราเมง โซเม็ง…”

 

  ฤดูร้อนอันอบอ้าวได้ละลายความกระตือรือร้นออกจากเซเลนจนหมด เธอจึงได้แต่นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไป และอากาศแบบนี้ ยังไงโซเม็งก็เหมาะกว่าราเมง

 

  ห้องขังของเซเลนเดิมทีเป็นห้องเก็บของที่มีหน้าต่างแค่บานเดียวทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร แต่โชคยังดีที่อยู่ติดกับสวนที่รกเป็นป่า จึงมีลมเย็นๆพัดเข้ามาเป็นระยะ ความชื้นก็อยู่ในขั้นที่พอรับได้ แต่ก็ในฤดูร้อนก็ยังร้อนอยู่ดี

 

  เพื่อที่จะต่อสู้กับความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซเลนจึงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูร้อน หรือก็คือ ไม่สวมเครื่องแต่งกายใดๆเลย 

 

   เมื่อไม่มีใครเห็นก็ไม่จำเป็นต้องอาย เซเลนจึงใช้ชีวิตอย่างเปลือยเปล่าอยู่เกือบทั้งวัน ยกเว้นช่วงที่จะมีคนเข้ามาในห้อง เช่น เวลาอาหาร หรือทำความสะอาด

 

   เด็กทั่วไปมักทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สกปรกเปรอะเปื้อนด้วยความไม่ตั้งใจเป็นเรื่องปรกติ แต่เสื้อผ้าของเซเลนก็ยังสะอาดเหมือนใหม่ไม่ต่างกับชุดตุ๊กตา แม้แต่คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ก็รู้สึกถึงความผิดปรกติของเด็กคนนี้เช่นเดียวกับราชินี ทั้งที่จริง เสื้อผ้าพวกนั้นถูกถอดเก็บไว้ ไม่สกปรกเพราะไม่เคยถูกสวมใส่ต่างหาก

 

“ผม รำคาญ”

 

  เมื่อร่างกายได้เปลือยเปล่าหมดจดแล้วก็เหลืออีกอย่างที่ปกคลุมร่างกายเป็นแหล่งสะสมความร้อน เซเลนเอามือจับเส้นผมสีขาวยาวสลวยของเธอ เมื่อตอนที่ยังอยู่ในปราสาทได้ถูกสอนมาว่าค่านิยมของสุภาพสตรีคือต้องไว้ผมยาว เซเลนจึงอดทนปฏิบัติตามทั้งอย่างนั้น ทั้งที่ในชีวิตก่อนเซเลนจะตัดผมให้สั้นอยู่ตลอดเพราะไม่ชอบร้อนอับ

 

  ผมของเซเลนที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลัง พี่สาวของเธอ อาลัว เคยชมว่า ‘เส้นผมของเซเลนงดงามราวกับเส้นไหมที่ถูกย้อมด้วยแสงจันทร์’ แต่เซเลนไม่มีความสุนทรียะ จึงเห็นเป็นแค่เส้นโซเม็งที่กินไม่ได้เท่านั้น

 

“ผม แกะกะ ไม่เอา”

 

  ที่ผ่านมาก็ยอมทำตามกฎในวังมาตลอด แต่ไหนๆก็ถูกจับแยกออกมาแล้ว ก็ขอปล่อยตัวตามใจชอบเลยก็แล้วกัน เส้นผมยาวๆน่ารำคาญนี่ก็ขอตัดให้เกลี้ยงเลยก็แล้วกัน จากนั้นก็ไปยืนอยู่หน้ากระจกเก่าๆมีรอยแตกที่มุมห้อง และถือมีดหั่นอาหารที่ไม่ค่อยคมนักจากชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ได้รับมาพร้อมมื้ออาหาร

 

“คุณลูกค้า ทรงไหน?”

“สั้น”

 

  เซเลนเล่นอยู่คนเดียวหน้ากระจก เอามีดกะระยะตามความยาวของเส้นผม หากตัดให้สั้นจนเกินไปก็อาจจะทำให้อาลัวเห็นแล้วตกใจได้ จึงค่อยๆเล็มออกทีละนิดจนกว่าจะรู้สึกว่าพอดี เซเลนจึงรวบเส้นผมมาตัดทีละกระจุก เริ่มจากปอบผมทางด้านขวา

 

“อุหวา!?”

 

  แต่เซเลนก็เป็นคนที่ขาดความละเอียดอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อตัดครบรอบหัวแล้ว ความยาวของเส้นผมทางด้านซ้ายกับขวาก็ไม่เท่ากัน ทำให้เซเลนมองด้วยความรู้สึกแปลกๆ

 

“สมดุล!”

 

   ยิ่งมองยิ่งพิลึก เธอจึงตัดด้านซ้ายที่ยาวเกินไปออก ให้ยาวเท่ากันอีกครั้ง

 

“อุหวา!?”

 

   ปรากฏว่าข้างซ้ายที่เพิ่งตัดไปนั้น สั้นกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด! จึงตัดส่วนอื่นๆให้ยาวเสมอกัน… ขาว ซ้าย และกลับมาขวา ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะรู้ตัว หัวของเซเลนก็ดูเหมือนหอยเม่น

 

“อะ อ๊า!”

 

   แย่แล้ว แย่แน่ๆ เซเลนเอามือกุมหัวที่แปลกประหลาดทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เส้นผมที่ตัดออกไปแล้วก็ไม่สามารถนำมาต่อใหม่ได้ ต้องหาทางอื่นมาแก้ปัญหา

 

“ใช่แล้ว!”

 

   ต้องคิดหาวิธีที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงเหมือนกับไข่ของโคลัมบัส* ผมที่อยู่บนหัวก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ถ้าเอาออกให้หมดก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมดุล แบบเดียวกับถ้าทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ โลกก็จะปราศจากสงคราม อันที่จริงก็คือ คิดหาทางแก้ไขไม่ได้จึงต้องดันทุรังไปให้สุดทางนั่นเอง

 

  เซเลนตัดผมต่อไปด้วยมีดหั่นอาหารนั้น และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้ทรงผมสุดฮิตของนักเบสบอลระดับมัธยมต้น เป้าหมายคือโคชิเอ็ง

 

“เยี่ยม! ไม่มีปัญหา!”

 

  ทั้งๆที่มันควรจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เซเลนกลับพูดออกมาเองว่าไม่มีปัญหา ซ้ำยังดีใจที่ได้กำจัดผมยาวน่ารำคาญไปได้ เมื่อเธอโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง ลมเย็นๆก็พัดผ่านถึงหนังศีรษะทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบายเป็นอย่างมาก

 

“เซเลน เซเลน เป็นยังไงบ้าง?”

“เอ๋?”

 

   ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูกับเสียงเรียกที่เซเลนจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เสียงของพี่สาวสุดที่รักกำลังเรียกชื่อของเซเลน เสียงของอาลัวนั่นเอง ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจออาลัวทุกวันเหมือนเมื่อก่อนตั้งแต่ถูกขังไว้ที่นี่ แต่นานๆที ทางนั้นก็เป็นฝ่ายมาหาเอง เซเลนจึงไม่ได้คิดว่าโชคร้ายมากนัก

 

“ไม่เป็-…”

 

  ก่อนที่จะตอบไปว่า ไม่เป็นไร แต่ก็หยุดเอาไว้เพราะคิดถึงสภาพของตนเองในตอนนี้และเริ่มแตกตื่นขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอเปลือยเปล่าไปทั้งตัว รวมถึงหัวอีกด้วย ไม่มีทางที่จะให้อาลัวเห็นเธอในสภาพนี้ได้

 

“รอเดี๋ยว!”

 

  เซเลนรีบสวมเสื้อผ้า กวาดเส้นผมที่กระจายอยู่เต็มพื้นและโกยเข้าไปไว้ใต้เตียง ในส่วนนี้ยังราบรื่นอยู่ แต่ทรงผมที่เป็นปัญหาอยู่นี่ จะทำอย่างไรกับมันดี อย่างน้อย ขอแค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปก่อนก็ยังดี

 

“อ๊ะ นี่ไง!”

 

   บางที การเปลี่ยนแปลงทรงผมของเธอในครั้งนี้อาจจะส่งให้เซเลนมีความคิดเฉียบแหลมมากขึ้นเหมือนเณรชื่อดังที่มากด้วยปัญญา เธอจึงคิดได้และลงมือทำในทันที 

 

“ท่านพี่ ไม่เป็นไร เข้าได้”

 

  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากข้างในห้อง อาลัววางมือลงบนประตูผนึก เกิดเป็นลวดลายวงเวทย์จางๆบนประตู มันเคลื่อนไหวเล็กน้อยและประตูก็เปิดออก

 

“เซเลน สบายดีใช่ไหม? …อะไรอยู่บนหัวน่ะ?”

“เอ่อ เล่นอยู่”

 

  เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง อาลัวก็มองไปที่เซเลนด้วยความแปลกใจ บนหัวของเซเลนมีถังขยะตะกร้าสานคลุมอยู่จนมิด ดูเหมือนโคมูโซ**

 

“เพราะในนี้ไม่มีอะไรให้เล่นสินะ… งั้นเดี๋ยวคราวหน้า พี่จะเอาหนังสือหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆมาให้ อดทนรอหน่อยนะ”

“อือ ขอบคุณ…”

 

  ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ เซเลนจะดีใจที่อาลัวมาเยี่ยม และอยากให้อยู่ต่อนานๆ แต่ตอนนี้เธอต้องการให้กลับไปให้เร็วที่สุด ถึงอย่างนั้น จากที่เห็นอาลัวในตอนนี้ดูอารมณ์ดี อีกทั้งยังถืออะไรบางอย่างไว้ในมือ ไม่เหมือนกับมาเยี่ยมเฉยๆ

 

“ก่อนหน้านี้ได้ผลไม้หายากมา ก็เลยเอามาฝาก มาทานด้วยกันดีกว่า”

“อ่า”

 

  เซเลนมองลอดช่องเล็กๆของตะกร้าสาน ดูที่มือของอาลัวก็เห็นผลไม้รูปร่างคล้ายลูกแพร์ เธอคงตั้งใจนำมาแบ่งให้กับเซเลน

 

“ไม่เอา”

“เอ๋? ทำไมล่ะ? เซเลน ปรกติก็ชอบทานผลไม้ไม่ใช่เหรอ?”

“ชอบ แต่ไม่เอา…”

 

   เซเลนตอบตรงๆด้วยคำสั่นๆจนไม่รู้ถึงเจตนา เซเลนมักทานของกินเล่นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธได้อย่างง่ายๆโดยที่ไม่บอกเหตุผล ซึ่งจริงๆแล้วเธอในโหมดคอสเพลย์โคมูโซไม่สามารถรับประทานอาหารผ่านถังขยะที่ครอบหัวอยู่นี้ได้ หรือก็คือ ไม่ใช่ ‘ไม่อยากกิน’ แต่ ‘กินไม่ได้’ ต่างหาก

 

“หรือว่าไม่สบาย? ปวดท้องอยู่เหรอ มีไข้ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่ ไม่ใช่”

“ขอวัดไข้หน่อยนะ ยื่นหน้ามาสิ แล้วที่ใส่อยู่นั่นน่ะเอาออกซะเถอะ เดี๋ยวผมก็อับหมดหรอก”

“อ๊า!”

 

  เพราะเป็นห่วงเซเลน อาลัวจึงใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือผลไม้ ยกถังขยะที่ครอบหัวเซเลนอยู่ออกไป

 

“กรี๊ด!?”

 

   เสียงกรีดร้องดังลั่น ไม่ใช่แค่เส้นผมเสียหายเพราะอับชื้น แต่เส้นผมสีขาวเปล่งประกายงดงามของน้องสาวหายไปจนหมด ทำให้อาลัวตกใจเป็นลมล้มพับ ผลไม่ในมือตกกลิ้งลงบนพื้น

 

“ท่านพี่! เป็นอะไร!?”

“…”

 

   โชคยังดีที่อาลัวทรุดตัวลงไปทางเตียงพอดีจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เซเลนเป็นฝ่ายที่ต้องตกใจแทน ประตูผนึกก็ยังเปิดคาไว้ เซเลนจึงรีบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือกับชายชราที่เป็นคนสวนซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุที่สุด

 

  คนสวนตกใจที่เห็นเซเลนอยู่นอกห้องขัง ซ้ำยังไม่มีเส้นผม และตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตามไปแล้วเห็นอาลัวนอนหมดสติอยู่ในห้องขัง ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาจนแก่ชรา นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาทำงานหนักขนาดนี้ เมื่อชายชราปฐมพยาบาลอย่างง่ายๆ อาลัวก็ลืมตาลุกขึ้นนั่งได้ ทำให้คนสวนกับเซเลนโล่งใจขึ้นมามาก

 

   อาลัวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ส่ายศีรษะเบาๆ เรียบเรียงลำดับเรื่องราวและคว้าแขนของเซเลนที่อยู่ข้างๆเอาไว้แน่น

 

“เซเลน ไปกันเถอะ!”

“ไป? ที่ไหน? ทำไม?”

“หาหมอ!”

 

  พูดแล้วอาลัวก็ลงจากเตียงในทันที เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยลากเซเลนออกไปด้วยกัน คำสั่งของมารดาที่บอกว่าห้ามให้ใครรู้ว่าเซเลนมีตัวตน ก็ต้องขอฝ่าฝืนเพราะหน้าที่ของพี่สาวต้องมาก่อน

 

   อาลัวมุ่งหน้าไปปราสาทเพื่อให้หมอหลวงได้ตรวจอาการของเซเลน ซึ่งตามกฎระเบียบจะต้องขออนุญาตจากราชินีก่อน แต่อาการของน้องสาวผิดปรกติชัดเจน ต้องรีบส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็ว ไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นอีก

 

  หลังจากเซเลนได้รับการตรวจแล้ว หมอก็ได้ให้เธอนอนรอในห้องพักฟื้นและกลับมารายงานผลให้อาลัวได้รับทราบ

 

“เท่าที่ทราบ สุขภาพของท่านเซเลนปรกติดีทุกอย่าง ทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาครับ”

“ไม่มีทางปรกติได้หรอกค่ะ! ผมไม้ที่เป็นของโปรดของเธอก็ไม่อยากกิน แล้วยังตัดผมด้วยตัวเองออกจนหมดอีก! เพราะผิดปรกติถึงได้พามาหานี่ไงคะ…!”

“อืม… อาการเบื่ออาหารกับพฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่ไม่ได้เป็นผลจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย…”

 

   หมอที่กำลังอธิบายได้เงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้อาลัวเป็นกังวลมากขึ้น เด็กคนนั้นถูกขังมาหลายเดือนแล้ว  จะแสดงอาการป่วยออกมาตอนไหนก็ไม่แปลก

 

  “ปัญหาของท่านเซเลน เกรงกว่าจะมีสาเหตุจากข้างในครับ”

 

   หมอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง ซึ่งก็แปลว่า อาการป่วยของเซเลนเกิดจากข้างในหัวของเธอ การวินิจฉัยโดยหมอที่เก่งที่สุดในที่นี้ย่อมไม่มีทางพลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้อาลัวยอมรับได้

 

“คิดว่าหัวของเซเลนมีปัญหาเหรอคะ!? ไม่มีทาง! เด็กคนนี้หัวดีจะตาย! เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ!”

“ใจเย็นก่อน ท่านอาลัว ผมบอกออกไปไม่ชัดเจนเอง ความจริงก็คือ มันไม่ใช่การเจ็บป่วยทางร่างการ แต่เป็นที่จิตใจ”

“จิตใจ?”

 

   คำพูดของหมอทำให้อาลัวใจเย็นลง แต่หมอที่เก่งที่สุดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึง ‘อาการป่วย’ ของเซเลนให้อาลัวเข้าใจได้

 

“สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดสะสม อย่างสัตว์ตามธรรมชาติที่ถูกจับมาใส่กรงก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าบางทีพวกมันก็เล็มขนของตัวเองออกเกินความจำเป็น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางจิตใจของท่านเซเลนว่าจะทนรับแรงกดดันได้มากแค่ไหน”

“ไม่นะ…”

 

  คำพูดของหมอทำให้อาลัวเจ็บปวดอยู่ในใจ ตัวเธอเองก็เติบโตมาในฐานะเจ้าหญิง มีผู้คนคอยเอาใจกับคนรับใช้มากมาก แต่น้องสาวถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่า เส้นผมคือชีวิตสำหรับผู้หญิง และเซเลนก็ตัดมันออกไปทั้งหมดตามที่เห็น

 

   ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยามเก็บซ่อนเอาไว้ราวกับว่ามันเป็นเพียง ‘การละเล่น’ หากในตอนนั้นไม่ได้เปิดตะกร้าถังขยะขึ้นมา ความผิดปรกติของเซเลนก็จะไม่ถูกรับรู้ไปอีกนาน ความเป็นห่วงน้องสาวทำให้อาลัวเจ็บใจในความอ่อนหัดของตนเองและหลั่งน้ำตาออกมา

 

“ขอฝากเธอไว้เดี๋ยวนะคะ ฉันจะไปคุยกับท่านแม่… ราชินี! ถ้าปล่อยเอาไว้ เซเลนต้องตายแน่!”

“รับทราบ ทางนี้เองก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

 

  อาลัวปาดน้ำตาและวิ่งไปตามทางเดินในปราสาท คำสั่งของราชินีถือเป็นที่สุด แต่จะไม่ยอมให้เซเลนต้องรับเคราห์อยู่คนเดียวอีกต่อไป ครั้งนี้คือเส้นผม ครั้งหน้าคมมีดนั้นจะตัดสิ่งใด อาจจะเป็นลำคอหรือข้อมือ เมื่อคิดได้เช่นนี้ อาลัวก็หมดความอดทน มุ่งหน้าไปขอเข้าเฝ้าโดยตรงด้วยอารมณ์อันรุนแรง

 

   จากปรกติ อาลัวเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน กลับแสดงความโกรธออกมาขนาดนี้ก็ทำให้ราชินีแปลกใจเป็นอย่างมาก และก็ได้มีคำสั่งให้เซเลนที่ตัดผมออกจนหมด ย้ายกลับมากักบริเวณในปราสาทเป็นการชั่วคราวโดยไม่ให้มีใครพบเห็นในช่วงฤดูร้อนนี้

 

“ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้พี่ทำให้ได้เท่านี้ แต่จะพยายามให้มากขึ้น จะได้ช่วยเธอออกมาได้สักวันอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไร”

“เซเลน ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ไว้คราวหลังจะเอาผลไม้มาเยี่ยมอีกนะ”

“อือ!”

 

   ความจริงเซเลนก็ไม่ได้อยากออกมาจากห้องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ห้องนี้ไม่ร้อนอบอ้าวและพี่สาวก็มาเยี่ยมบ่อยขึ้น ก็เรียกได้ว่าน่ายินดี

 

  และก็ได้สัญญากับอาลัวว่าจะไม่ตัดผมอีก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไว้ใจและถูกคุมเข้มจากสิ่งของมีคมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เซเลนจึงไม่สามารถตัดผมเองได้อีกต่อไป แต่คำขอที่อยากได้ทรงผมที่เหมาะกับอากาศร้อนก็ได้รับการยอมรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความยาวของเส้นผมของเธอก็ถูกกำหนดไว้ที่ช่วงบ่า

 

“คิดไม่ถึง จริงๆ…”

 

  เซเลนก็รู้สึกเสียใจจากเรื่องนี้ ที่ทำให้อาลัวต้องมาคอยเป็นห่วงกับเรื่องที่ไม่จำเป็น และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ผมของเธอก็เริ่มยาวจนดูดีขึ้นมามาก เซเลนจึงถูกส่งกลับไปยังห้องขังอีกครั้ง

 

  เมื่อเห็นเซเลนยอมกลับเข้าคุกโดยไม่ปริปากบ่น อาลัวยิ่งพยายามหาหนทางที่จะช่วยน้องสาวของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คอยมองหาโอกาสที่จะทำเช่นนั้นอยู่เสมอมา

 

   ――และในสองปีให้หลัง โอกาสที่อาลัวรอคอย และจุดพลิกผันของเซเลน ก็เดินทางมาถึง

 

 

____________________

* คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เคยท้าแข่งตั้งไข่ไก่ไม่ให้กลิ้งกับเหล่าขุนนาง และอาศัยช่องโหว่ของกฎเอาชนะด้วยการทุบไข่ให้แตกก่อนนำไปวาง

 

**虚無僧(komuso) พระนิกายเซ็น มีเอกลักษณ์คือหมวกสานใบใหญ่คลุมทั้งหัวกับขลุ่ยไม้ไผ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.01: เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษก่อนขึ้นภาค 2 จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างภาค 1 แบบไม่เรียงช่วงเวลา

____________________

 

ตอนพิเศษ 01

เซเลนกับการออกบวชฤดูร้อน

 

 

  ผ่านมาได้สามเดือน หลังจากเซเลนถูกสั่งขังอยู่ในห้องเก็บของที่อาร์คุยล่าโดยราชินีที่ดูเหมือนเข้ากันไม่ค่อยได้ ในที่สุดฤดูร้อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น และเซเลนก็ได้แต่นอนเอกเขนกอย่างสบายใจเพราะไม่ต้องรับการฝึกสอนในฐานะเจ้าหญิงอันน่าเบื่ออีกต่อไป

 

  แต่ก็ยังมีอีกปัญหา

 

“อ๊า! ร้อน!”

 

   เซเลนนอนอยู่บนเตียงคุณภาพต่ำ นอนแผ่เหมือนแมงกะพรุนเกยตื้นบนชายหาด

 

“ราเมง โซเม็ง…”

 

  ฤดูร้อนอันอบอ้าวได้ละลายความกระตือรือร้นออกจากเซเลนจนหมด เธอจึงได้แต่นอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไป และอากาศแบบนี้ ยังไงโซเม็งก็เหมาะกว่าราเมง

 

  ห้องขังของเซเลนเดิมทีเป็นห้องเก็บของที่มีหน้าต่างแค่บานเดียวทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเท่าที่ควร แต่โชคยังดีที่อยู่ติดกับสวนที่รกเป็นป่า จึงมีลมเย็นๆพัดเข้ามาเป็นระยะ ความชื้นก็อยู่ในขั้นที่พอรับได้ แต่ก็ในฤดูร้อนก็ยังร้อนอยู่ดี

 

  เพื่อที่จะต่อสู้กับความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซเลนจึงปรับเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับฤดูร้อน หรือก็คือ ไม่สวมเครื่องแต่งกายใดๆเลย 

 

   เมื่อไม่มีใครเห็นก็ไม่จำเป็นต้องอาย เซเลนจึงใช้ชีวิตอย่างเปลือยเปล่าอยู่เกือบทั้งวัน ยกเว้นช่วงที่จะมีคนเข้ามาในห้อง เช่น เวลาอาหาร หรือทำความสะอาด

 

   เด็กทั่วไปมักทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่สกปรกเปรอะเปื้อนด้วยความไม่ตั้งใจเป็นเรื่องปรกติ แต่เสื้อผ้าของเซเลนก็ยังสะอาดเหมือนใหม่ไม่ต่างกับชุดตุ๊กตา แม้แต่คนรับใช้ที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้ก็รู้สึกถึงความผิดปรกติของเด็กคนนี้เช่นเดียวกับราชินี ทั้งที่จริง เสื้อผ้าพวกนั้นถูกถอดเก็บไว้ ไม่สกปรกเพราะไม่เคยถูกสวมใส่ต่างหาก

 

“ผม รำคาญ”

 

  เมื่อร่างกายได้เปลือยเปล่าหมดจดแล้วก็เหลืออีกอย่างที่ปกคลุมร่างกายเป็นแหล่งสะสมความร้อน เซเลนเอามือจับเส้นผมสีขาวยาวสลวยของเธอ เมื่อตอนที่ยังอยู่ในปราสาทได้ถูกสอนมาว่าค่านิยมของสุภาพสตรีคือต้องไว้ผมยาว เซเลนจึงอดทนปฏิบัติตามทั้งอย่างนั้น ทั้งที่ในชีวิตก่อนเซเลนจะตัดผมให้สั้นอยู่ตลอดเพราะไม่ชอบร้อนอับ

 

  ผมของเซเลนที่ตอนนี้ยาวถึงกลางหลัง พี่สาวของเธอ อาลัว เคยชมว่า ‘เส้นผมของเซเลนงดงามราวกับเส้นไหมที่ถูกย้อมด้วยแสงจันทร์’ แต่เซเลนไม่มีความสุนทรียะ จึงเห็นเป็นแค่เส้นโซเม็งที่กินไม่ได้เท่านั้น

 

“ผม แกะกะ ไม่เอา”

 

  ที่ผ่านมาก็ยอมทำตามกฎในวังมาตลอด แต่ไหนๆก็ถูกจับแยกออกมาแล้ว ก็ขอปล่อยตัวตามใจชอบเลยก็แล้วกัน เส้นผมยาวๆน่ารำคาญนี่ก็ขอตัดให้เกลี้ยงเลยก็แล้วกัน จากนั้นก็ไปยืนอยู่หน้ากระจกเก่าๆมีรอยแตกที่มุมห้อง และถือมีดหั่นอาหารที่ไม่ค่อยคมนักจากชุดอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ได้รับมาพร้อมมื้ออาหาร

 

“คุณลูกค้า ทรงไหน?”

“สั้น”

 

  เซเลนเล่นอยู่คนเดียวหน้ากระจก เอามีดกะระยะตามความยาวของเส้นผม หากตัดให้สั้นจนเกินไปก็อาจจะทำให้อาลัวเห็นแล้วตกใจได้ จึงค่อยๆเล็มออกทีละนิดจนกว่าจะรู้สึกว่าพอดี เซเลนจึงรวบเส้นผมมาตัดทีละกระจุก เริ่มจากปอบผมทางด้านขวา

 

“อุหวา!?”

 

  แต่เซเลนก็เป็นคนที่ขาดความละเอียดอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อตัดครบรอบหัวแล้ว ความยาวของเส้นผมทางด้านซ้ายกับขวาก็ไม่เท่ากัน ทำให้เซเลนมองด้วยความรู้สึกแปลกๆ

 

“สมดุล!”

 

   ยิ่งมองยิ่งพิลึก เธอจึงตัดด้านซ้ายที่ยาวเกินไปออก ให้ยาวเท่ากันอีกครั้ง

 

“อุหวา!?”

 

   ปรากฏว่าข้างซ้ายที่เพิ่งตัดไปนั้น สั้นกว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด! จึงตัดส่วนอื่นๆให้ยาวเสมอกัน… ขาว ซ้าย และกลับมาขวา ครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะรู้ตัว หัวของเซเลนก็ดูเหมือนหอยเม่น

 

“อะ อ๊า!”

 

   แย่แล้ว แย่แน่ๆ เซเลนเอามือกุมหัวที่แปลกประหลาดทั้งภายในและภายนอก แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เส้นผมที่ตัดออกไปแล้วก็ไม่สามารถนำมาต่อใหม่ได้ ต้องหาทางอื่นมาแก้ปัญหา

 

“ใช่แล้ว!”

 

   ต้องคิดหาวิธีที่คนทั่วไปคิดไม่ถึงเหมือนกับไข่ของโคลัมบัส* ผมที่อยู่บนหัวก็เหลือไม่ถึงครึ่งแล้ว ถ้าเอาออกให้หมดก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความสมดุล แบบเดียวกับถ้าทำให้มนุษย์สูญพันธุ์ โลกก็จะปราศจากสงคราม อันที่จริงก็คือ คิดหาทางแก้ไขไม่ได้จึงต้องดันทุรังไปให้สุดทางนั่นเอง

 

  เซเลนตัดผมต่อไปด้วยมีดหั่นอาหารนั้น และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้ทรงผมสุดฮิตของนักเบสบอลระดับมัธยมต้น เป้าหมายคือโคชิเอ็ง

 

“เยี่ยม! ไม่มีปัญหา!”

 

  ทั้งๆที่มันควรจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่เซเลนกลับพูดออกมาเองว่าไม่มีปัญหา ซ้ำยังดีใจที่ได้กำจัดผมยาวน่ารำคาญไปได้ เมื่อเธอโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง ลมเย็นๆก็พัดผ่านถึงหนังศีรษะทำให้รู้สึกสดชื่นเย็นสบายเป็นอย่างมาก

 

“เซเลน เซเลน เป็นยังไงบ้าง?”

“เอ๋?”

 

   ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูกับเสียงเรียกที่เซเลนจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เสียงของพี่สาวสุดที่รักกำลังเรียกชื่อของเซเลน เสียงของอาลัวนั่นเอง ถึงจะน่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เจออาลัวทุกวันเหมือนเมื่อก่อนตั้งแต่ถูกขังไว้ที่นี่ แต่นานๆที ทางนั้นก็เป็นฝ่ายมาหาเอง เซเลนจึงไม่ได้คิดว่าโชคร้ายมากนัก

 

“ไม่เป็-…”

 

  ก่อนที่จะตอบไปว่า ไม่เป็นไร แต่ก็หยุดเอาไว้เพราะคิดถึงสภาพของตนเองในตอนนี้และเริ่มแตกตื่นขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอเปลือยเปล่าไปทั้งตัว รวมถึงหัวอีกด้วย ไม่มีทางที่จะให้อาลัวเห็นเธอในสภาพนี้ได้

 

“รอเดี๋ยว!”

 

  เซเลนรีบสวมเสื้อผ้า กวาดเส้นผมที่กระจายอยู่เต็มพื้นและโกยเข้าไปไว้ใต้เตียง ในส่วนนี้ยังราบรื่นอยู่ แต่ทรงผมที่เป็นปัญหาอยู่นี่ จะทำอย่างไรกับมันดี อย่างน้อย ขอแค่เอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปก่อนก็ยังดี

 

“อ๊ะ นี่ไง!”

 

   บางที การเปลี่ยนแปลงทรงผมของเธอในครั้งนี้อาจจะส่งให้เซเลนมีความคิดเฉียบแหลมมากขึ้นเหมือนเณรชื่อดังที่มากด้วยปัญญา เธอจึงคิดได้และลงมือทำในทันที 

 

“ท่านพี่ ไม่เป็นไร เข้าได้”

 

  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากข้างในห้อง อาลัววางมือลงบนประตูผนึก เกิดเป็นลวดลายวงเวทย์จางๆบนประตู มันเคลื่อนไหวเล็กน้อยและประตูก็เปิดออก

 

“เซเลน สบายดีใช่ไหม? …อะไรอยู่บนหัวน่ะ?”

“เอ่อ เล่นอยู่”

 

  เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง อาลัวก็มองไปที่เซเลนด้วยความแปลกใจ บนหัวของเซเลนมีถังขยะตะกร้าสานคลุมอยู่จนมิด ดูเหมือนโคมูโซ**

 

“เพราะในนี้ไม่มีอะไรให้เล่นสินะ… งั้นเดี๋ยวคราวหน้า พี่จะเอาหนังสือหรือของเล่นเล็กๆน้อยๆมาให้ อดทนรอหน่อยนะ”

“อือ ขอบคุณ…”

 

  ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ เซเลนจะดีใจที่อาลัวมาเยี่ยม และอยากให้อยู่ต่อนานๆ แต่ตอนนี้เธอต้องการให้กลับไปให้เร็วที่สุด ถึงอย่างนั้น จากที่เห็นอาลัวในตอนนี้ดูอารมณ์ดี อีกทั้งยังถืออะไรบางอย่างไว้ในมือ ไม่เหมือนกับมาเยี่ยมเฉยๆ

 

“ก่อนหน้านี้ได้ผลไม้หายากมา ก็เลยเอามาฝาก มาทานด้วยกันดีกว่า”

“อ่า”

 

  เซเลนมองลอดช่องเล็กๆของตะกร้าสาน ดูที่มือของอาลัวก็เห็นผลไม้รูปร่างคล้ายลูกแพร์ เธอคงตั้งใจนำมาแบ่งให้กับเซเลน

 

“ไม่เอา”

“เอ๋? ทำไมล่ะ? เซเลน ปรกติก็ชอบทานผลไม้ไม่ใช่เหรอ?”

“ชอบ แต่ไม่เอา…”

 

   เซเลนตอบตรงๆด้วยคำสั่นๆจนไม่รู้ถึงเจตนา เซเลนมักทานของกินเล่นเป็นประจำ แต่ครั้งนี้กลับปฏิเสธได้อย่างง่ายๆโดยที่ไม่บอกเหตุผล ซึ่งจริงๆแล้วเธอในโหมดคอสเพลย์โคมูโซไม่สามารถรับประทานอาหารผ่านถังขยะที่ครอบหัวอยู่นี้ได้ หรือก็คือ ไม่ใช่ ‘ไม่อยากกิน’ แต่ ‘กินไม่ได้’ ต่างหาก

 

“หรือว่าไม่สบาย? ปวดท้องอยู่เหรอ มีไข้ด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่ ไม่ใช่”

“ขอวัดไข้หน่อยนะ ยื่นหน้ามาสิ แล้วที่ใส่อยู่นั่นน่ะเอาออกซะเถอะ เดี๋ยวผมก็อับหมดหรอก”

“อ๊า!”

 

  เพราะเป็นห่วงเซเลน อาลัวจึงใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือผลไม้ ยกถังขยะที่ครอบหัวเซเลนอยู่ออกไป

 

“กรี๊ด!?”

 

   เสียงกรีดร้องดังลั่น ไม่ใช่แค่เส้นผมเสียหายเพราะอับชื้น แต่เส้นผมสีขาวเปล่งประกายงดงามของน้องสาวหายไปจนหมด ทำให้อาลัวตกใจเป็นลมล้มพับ ผลไม่ในมือตกกลิ้งลงบนพื้น

 

“ท่านพี่! เป็นอะไร!?”

“…”

 

   โชคยังดีที่อาลัวทรุดตัวลงไปทางเตียงพอดีจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เซเลนเป็นฝ่ายที่ต้องตกใจแทน ประตูผนึกก็ยังเปิดคาไว้ เซเลนจึงรีบวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือกับชายชราที่เป็นคนสวนซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุที่สุด

 

  คนสวนตกใจที่เห็นเซเลนอยู่นอกห้องขัง ซ้ำยังไม่มีเส้นผม และตกใจยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตามไปแล้วเห็นอาลัวนอนหมดสติอยู่ในห้องขัง ตั้งแต่ใช้ชีวิตมาจนแก่ชรา นี่เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเขาทำงานหนักขนาดนี้ เมื่อชายชราปฐมพยาบาลอย่างง่ายๆ อาลัวก็ลืมตาลุกขึ้นนั่งได้ ทำให้คนสวนกับเซเลนโล่งใจขึ้นมามาก

 

   อาลัวที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาก็ส่ายศีรษะเบาๆ เรียบเรียงลำดับเรื่องราวและคว้าแขนของเซเลนที่อยู่ข้างๆเอาไว้แน่น

 

“เซเลน ไปกันเถอะ!”

“ไป? ที่ไหน? ทำไม?”

“หาหมอ!”

 

  พูดแล้วอาลัวก็ลงจากเตียงในทันที เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วโดยลากเซเลนออกไปด้วยกัน คำสั่งของมารดาที่บอกว่าห้ามให้ใครรู้ว่าเซเลนมีตัวตน ก็ต้องขอฝ่าฝืนเพราะหน้าที่ของพี่สาวต้องมาก่อน

 

   อาลัวมุ่งหน้าไปปราสาทเพื่อให้หมอหลวงได้ตรวจอาการของเซเลน ซึ่งตามกฎระเบียบจะต้องขออนุญาตจากราชินีก่อน แต่อาการของน้องสาวผิดปรกติชัดเจน ต้องรีบส่งให้ถึงมือแพทย์โดยเร็ว ไม่ยอมเสียเวลาไปกับเรื่องอื่นอีก

 

  หลังจากเซเลนได้รับการตรวจแล้ว หมอก็ได้ให้เธอนอนรอในห้องพักฟื้นและกลับมารายงานผลให้อาลัวได้รับทราบ

 

“เท่าที่ทราบ สุขภาพของท่านเซเลนปรกติดีทุกอย่าง ทางด้านร่างกายไม่มีปัญหาครับ”

“ไม่มีทางปรกติได้หรอกค่ะ! ผมไม้ที่เป็นของโปรดของเธอก็ไม่อยากกิน แล้วยังตัดผมด้วยตัวเองออกจนหมดอีก! เพราะผิดปรกติถึงได้พามาหานี่ไงคะ…!”

“อืม… อาการเบื่ออาหารกับพฤติกรรมทำร้ายตัวเองที่ไม่ได้เป็นผลจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย…”

 

   หมอที่กำลังอธิบายได้เงียบไปครู่หนึ่ง ทำให้อาลัวเป็นกังวลมากขึ้น เด็กคนนั้นถูกขังมาหลายเดือนแล้ว  จะแสดงอาการป่วยออกมาตอนไหนก็ไม่แปลก

 

  “ปัญหาของท่านเซเลน เกรงกว่าจะมีสาเหตุจากข้างในครับ”

 

   หมอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง ซึ่งก็แปลว่า อาการป่วยของเซเลนเกิดจากข้างในหัวของเธอ การวินิจฉัยโดยหมอที่เก่งที่สุดในที่นี้ย่อมไม่มีทางพลาด แต่ก็ยังไม่เพียงพอให้อาลัวยอมรับได้

 

“คิดว่าหัวของเซเลนมีปัญหาเหรอคะ!? ไม่มีทาง! เด็กคนนี้หัวดีจะตาย! เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ!”

“ใจเย็นก่อน ท่านอาลัว ผมบอกออกไปไม่ชัดเจนเอง ความจริงก็คือ มันไม่ใช่การเจ็บป่วยทางร่างการ แต่เป็นที่จิตใจ”

“จิตใจ?”

 

   คำพูดของหมอทำให้อาลัวใจเย็นลง แต่หมอที่เก่งที่สุดก็ยังไม่สามารถชี้ชัดถึง ‘อาการป่วย’ ของเซเลนให้อาลัวเข้าใจได้

 

“สาเหตุอาจจะมาจากความเครียดสะสม อย่างสัตว์ตามธรรมชาติที่ถูกจับมาใส่กรงก็มีตัวอย่างให้เห็นว่าบางทีพวกมันก็เล็มขนของตัวเองออกเกินความจำเป็น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางจิตใจของท่านเซเลนว่าจะทนรับแรงกดดันได้มากแค่ไหน”

“ไม่นะ…”

 

  คำพูดของหมอทำให้อาลัวเจ็บปวดอยู่ในใจ ตัวเธอเองก็เติบโตมาในฐานะเจ้าหญิง มีผู้คนคอยเอาใจกับคนรับใช้มากมาก แต่น้องสาวถูกปฏิบัติเยี่ยงนักโทษตั้งแต่อายุยังน้อย ว่ากันว่า เส้นผมคือชีวิตสำหรับผู้หญิง และเซเลนก็ตัดมันออกไปทั้งหมดตามที่เห็น

 

   ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยามเก็บซ่อนเอาไว้ราวกับว่ามันเป็นเพียง ‘การละเล่น’ หากในตอนนั้นไม่ได้เปิดตะกร้าถังขยะขึ้นมา ความผิดปรกติของเซเลนก็จะไม่ถูกรับรู้ไปอีกนาน ความเป็นห่วงน้องสาวทำให้อาลัวเจ็บใจในความอ่อนหัดของตนเองและหลั่งน้ำตาออกมา

 

“ขอฝากเธอไว้เดี๋ยวนะคะ ฉันจะไปคุยกับท่านแม่… ราชินี! ถ้าปล่อยเอาไว้ เซเลนต้องตายแน่!”

“รับทราบ ทางนี้เองก็จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”

 

  อาลัวปาดน้ำตาและวิ่งไปตามทางเดินในปราสาท คำสั่งของราชินีถือเป็นที่สุด แต่จะไม่ยอมให้เซเลนต้องรับเคราห์อยู่คนเดียวอีกต่อไป ครั้งนี้คือเส้นผม ครั้งหน้าคมมีดนั้นจะตัดสิ่งใด อาจจะเป็นลำคอหรือข้อมือ เมื่อคิดได้เช่นนี้ อาลัวก็หมดความอดทน มุ่งหน้าไปขอเข้าเฝ้าโดยตรงด้วยอารมณ์อันรุนแรง

 

   จากปรกติ อาลัวเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน กลับแสดงความโกรธออกมาขนาดนี้ก็ทำให้ราชินีแปลกใจเป็นอย่างมาก และก็ได้มีคำสั่งให้เซเลนที่ตัดผมออกจนหมด ย้ายกลับมากักบริเวณในปราสาทเป็นการชั่วคราวโดยไม่ให้มีใครพบเห็นในช่วงฤดูร้อนนี้

 

“ขอโทษด้วยนะ ตอนนี้พี่ทำให้ได้เท่านี้ แต่จะพยายามให้มากขึ้น จะได้ช่วยเธอออกมาได้สักวันอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไร”

“เซเลน ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอก ไว้คราวหลังจะเอาผลไม้มาเยี่ยมอีกนะ”

“อือ!”

 

   ความจริงเซเลนก็ไม่ได้อยากออกมาจากห้องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ห้องนี้ไม่ร้อนอบอ้าวและพี่สาวก็มาเยี่ยมบ่อยขึ้น ก็เรียกได้ว่าน่ายินดี

 

  และก็ได้สัญญากับอาลัวว่าจะไม่ตัดผมอีก แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไว้ใจและถูกคุมเข้มจากสิ่งของมีคมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เซเลนจึงไม่สามารถตัดผมเองได้อีกต่อไป แต่คำขอที่อยากได้ทรงผมที่เหมาะกับอากาศร้อนก็ได้รับการยอมรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความยาวของเส้นผมของเธอก็ถูกกำหนดไว้ที่ช่วงบ่า

 

“คิดไม่ถึง จริงๆ…”

 

  เซเลนก็รู้สึกเสียใจจากเรื่องนี้ ที่ทำให้อาลัวต้องมาคอยเป็นห่วงกับเรื่องที่ไม่จำเป็น และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง ผมของเธอก็เริ่มยาวจนดูดีขึ้นมามาก เซเลนจึงถูกส่งกลับไปยังห้องขังอีกครั้ง

 

  เมื่อเห็นเซเลนยอมกลับเข้าคุกโดยไม่ปริปากบ่น อาลัวยิ่งพยายามหาหนทางที่จะช่วยน้องสาวของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คอยมองหาโอกาสที่จะทำเช่นนั้นอยู่เสมอมา

 

   ――และในสองปีให้หลัง โอกาสที่อาลัวรอคอย และจุดพลิกผันของเซเลน ก็เดินทางมาถึง

 

 

____________________

* คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เคยท้าแข่งตั้งไข่ไก่ไม่ให้กลิ้งกับเหล่าขุนนาง และอาศัยช่องโหว่ของกฎเอาชนะด้วยการทุบไข่ให้แตกก่อนนำไปวาง

 

**虚無僧(komuso) พระนิกายเซ็น มีเอกลักษณ์คือหมวกสานใบใหญ่คลุมทั้งหัวกับขลุ่ยไม้ไผ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+