[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 74.51 คริสต์มาสขุมนรก

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 74.51 คริสต์มาสขุมนรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ

คริสต์มาสขุมนรก

 

 

   ถึงจะมีความยากลำบากและเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ราชินีไอโรเน่คืนดีกับเซเลนได้สำเร็จ ทุกคนกลับมายังเฮลิฟาลเต้ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

  หลังจากกลับมาก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังมีบางคนที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย!

 

“วันนี้ คริสต์มาส”

 

  วันธรรมดาวันหนึ่ง เซเลนพูดออกมาโดยไม่มีที่มาที่ไป แน่นอนว่าในโลกที่เซเลนอาศัยอยู่นี้ไม่มีศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีวันคริสต์มาส แต่เธอก็ไม่สนใจ

 

  มองในทางกลับกัน เซเลนคิดว่า ในเมื่อวันคริสต์มาสยังไม่มีอยู่จริง ก็หมายความว่าสามารถกำหนดวันนี้ให้เป็นวันคริสต์มาสได้

 

“ของขวัญ ท่านพี่”

 

   จริงๆก็น่าจะได้ฉลองวันคริสต์มาสตั้งนานแล้ว แต่ดันถูกเจ้าชายลากไปเที่ยวบ้านนอก ซ้ำยังประสบอุบัติเหตุเจ็บตัว จนตอนนี้อาการโรคขาดหน้าอกของเซเลนได้กำเริบขึ้นมา

 

   ต้องรีบบรรเทาอาการโดยเร็ว แต่น่าเสียดาย จะไปหาอาลัวที่โรงเรียนโดยไม่มีข้ออ้างมันก็ดูไม่ดี เอาเป็นว่าไปมอบของขวัญเนื่องในโอกาสอะไรสักอย่างก็แล้วกัน เพิ่มค่าความประทับใจได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็ขอใช้ประโยชน์จากวันคริสต์มาสที่กำหนดเอาเองนี้ให้คุ้ม

 

“คุกกี้! ทำเอง!”

 

   ถ้าทำได้ก็อยากทำสตรอเบอรี่ช็อตเค้กที่เป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวมากกว่า แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับเซเลน จึงต้องลดระดับลงมา เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เซเลนก็ลุกลงจากเตียง

 

   สมัยที่ยังอยู่ในวัยกลางคน เซเลนเคยอยากลองทำอะไรแปลกใหม่ จึงได้ลองอบคุกกี้ด้วยตัวเอง และมันก็ออกมาเป็นคุกกี้… หรืออะไรที่ดูคล้ายๆและพอกินได้ ครั้งนี้เซเลนมองโลกในแง่ดีว่า ขนมทำมือมันมีค่าที่ใจ ไม่ใช่รสชาติ 

 

[“องค์หญิง จะออกไปเองหรือครับ? ให้กระผมตามไปด้วย”]

“อื่ม บัตเลอร์ พักเถอะ”

 

   เซเลนตอบกลับบัตเลอร์ทีอยู่ในตะกร้าข้างเตียง บัตเลอร์เป็นที่รู้จักภายในปราสาทบ้างแล้ว จะไปด้วยกันก็ไม่เป็นไร แต่ที่ที่จะไปคือห้องครัวของปราสาท จะให้คนอื่นเห็นว่ามีหนูอยู่ใกล้ที่ทำอาหาร มันจะดูไม่ดี

 

[“รับทราบครับ กระผมจะรออยู่ที่นี่ โปรดระวังของมีคมและเปลวไฟด้วยครับ”]

“อือ”

 

  เซเลนพยักหน้าและออกเดินไปที่ห้องครัว ขอใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำคุกกี้จากคนครัวที่อยู่แถวนั้น

 

  ด้วยตำแหน่งของเซเลนซึ่งเป็นเจ้าหญิงแสงจันทร์ ไม่ว่าจะขออะไรก็ไม่มีใครคิดปฏิเสธ ในเวลานี้เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ การเตรียมของสำหรับมื้อเย็นก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ห้องครัวจึงโล่งพอประมาณ

 

“เอ้า ฮืบ”

 

   เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเซเลนยังไม่สามารใช้ครัวได้ จึงต้องลากแท่นเหยียบมายืนทุกครั้งที่ทำอาหาร อันดับแรกก็ผสมแป้งตามอัตราส่วนที่กะเอาคร่าวๆเท่าที่จำได้

 

  แน่นอนว่าไม่ได้ทำตามสูตรที่แท้จริง เพียงแต่ให้ส่วนผสมจากความจำอันเลือนรางของเซเลนที่เดาเอาว่ามันน่าจะใช่ ถึงอย่างนั้น มันก็ยังออกมาเป็นแป้งที่เหมือนกับแป้งคุกกี้จนได้ 

 

  หลังจากที่ทำแป้งคุกกี้สำเร็จแล้ว เซเลนกอดอกคิดถึงขั้นตอนต่อไปด้วยมือที่เปื้อนไปด้วยแป้ง ทั้งที่เธอสวมชุดราคาแพงสีขาวบริสุทธิ์ แต่มันก็ถูกใช้ไม่ต่างจากผ้ากันเปื้อน ซึ่งเซเลนก็ไม่สนใจ

 

  คุกกี้รูปร่างวงกลมดูธรรมดาเกินไป ทำให้อาลัวทั้งที ก็อยากให้ของที่ดูน่ารัก น่าจะทำให้ผู้รับดีใจมากกว่า ดังนั้น จึงต้องทำให้ออกมาดูน่ารักที่สุด

 

“ช้าง!”

 

   เอาเป็นคุกกี้รูปสัตว์นี่แหละ… ช้างก็น่าจะดี เซเลนคิดขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเซเลนเองก็มีช้างติดตัวอยู่ ถึงตอนนี้จะไม่มีแล้วก็เถอะ แต่ช้างตัวนั้นยังชูงวงอยู่ในใจของเธอ

 

   ของขวัญแสดงความในใจของเซเลนที่จะมอบให้อาลัวในครั้งนี้ มาจากแรงจูงใจที่ไม่ค่อยใสสะอาดนัก

 

“ช้าง… รุ่นผลิตจำนวนมาก(zosan… zosan*)! หุหุหุ”

 

   การทำคุกกี้ช้าง ก็คือการผลิตช้างจำนวนมาก เซเลนไม่พลาดโอกาสเล่นมุขฝืดๆเข่นเคย

 

   เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มลงมือทำคุกกี้ช้างในทันที ตอนนี้เอง ที่เพิ่งรู้ตัวว่าแผนการนี้มียังมีช่องโหว่

 

“ไม่มี!”

 

   เซเลนเอามือก่ายหน้าผากและพูดออกมาเสียงดัง การทำคุกกี้ให้เป็นรูปร่าง จำเป็นต้องมีแม่พิมพ์ แต่ก็ไม่มี ในตอนที่เคยทำคุกกี้ด้วยตัวเอง เธอทำอย่างลวกๆให้พอกินได้ แค่ตัดเป็นก้อนโดยไม่สนใจรูปร่าง จึงลืมไปว่าต้องมีแม่พิมพ์

 

   แล้วช้างรุ่นผลิตจำนวนมากจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่พิมพ์ แม้แต่รูปร่างสัดส่วนของช้างเอง เซเลนก็จำไม่ค่อยได้

 

“ต้องทำ!”

 

   ถึงอย่างนั้น เซเลนก็ไม่ล้มเลิกความคิดนี้ ถ้าไม่มีแม่พิมพ์ก็ต้องปั้นออกมาด้วยมือ เซเลนจึงปั้นให้เป็นรูปร่างของช้างตามที่นึกขึ้นได้ ใช้ทั้งเวลาและสมาธิ ให้ออกมาเป็นช้างที่ทำจากแป้งคุกกี้ให้ได้

 

“เสร็จแล้ว นี่มัน…! อ๊ะ! ไม่ใช่สิ! ”

 

   อันที่จริงมันควรจะเป็นคุกกี้รูปช้างหลายๆชิ้น แต่ต้องใช้แป้งค่อยๆแต่งเติมให้ได้รูปร่างช้างตามที่ต้องการ จึงออกมาเป็นคุกกี้ปริศนาขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว มองในอีกมุมหนึ่ง ขนาดของมันสมก็เป็นช้างดี

 

“ช่างมัน! นี่แหละ!”

 

   นี่แหละคุกกี้ช้าง คุกกี้ช้างแน่นอน เซเลนคิดปลอบใจตัวเองและยัดคุกกี้ช้างทั้งตัวเข้าไปในเตาอบ โชคดีที่คนครัวใช้งานเตาอบตัวนี้ในช่วงกลางวัน มันจึงยังหลงเหลือถ่านไฟให้อุณหภูมิสูงพอใช้งานต่อได้ทันที ที่เหลือก็แค่รอ

 

“อุ… เหนื่อย”

 

   ทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักก็ยังเหนื่อย เซเลนปาดเหงื่อบนหน้าผาก รู้สึกภูมิใจผลงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี้ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เพราะนำไปเทียบกับตัวเธอตมปรกติที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

 

“เหลือแค่ รอ”

 

   หลังจากนำเข้าแต่อบแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำได้นอกจากรอให้มันสุก เซเลนลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ ถ้ามีกลิ่นหอมโชยมาเมื่อไหร่ก็ได้เวลานำคุกกี้แสนอร่อยไปมอบให้อาลัว

 

   ตื่นเต้นเกินไปก็ไม่ดี คงต้องผ่อนคลายลงสักหน่อย เซเลนหลับตาลงและเอนหลังพิงเก้าอี้ กะไว้ว่าอีกสักห้านาทีค่อยลืมตาขึ้นมา

 

“ท่านเซเลนครับ ท่านเซเลน”

“หนวกหู”

 

  คนที่พยายามเรียกเซเลนเป็นพ่อครัวคนหนึ่ง เพราะรู้สึกรำคาญที่ถูกเรียกเสียงดังอยู่ใกล้ๆจึงได้ลืมตาขึ้นมา เซเลนขยี้ตาด้วยความหงุดหงิด

 

“อะไร?”

“ได้เวลาเตรียมอาหารเย็นแล้วครับ คือว่า พวกเราขอใช้พื้นที่ตรงนี้”

“เอ๋”

 

   เมื่อได้ยินเข่นนั้น เซเลนก็นึกขึ้นมาได้และเริ่มมองไปรอบๆ ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน นั่นหมายความว่า…

 

“แย่แล้ว!!”

“ท่านเซเลน!?”

 

   เซเลนลุกลงจากเก้าอี้ไปเปิดเตาอบทันที

 

“อ๊า!”

“ท่านเซเลนครับ! จับเตาอบด้วยมือเปล่าไม่ได้ครับ!”

 

   ฝาเตาอบเหล็กที่ปิดไว้ขณะใช้งานจะมีความร้อนสูง ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่มของเด็กไหม้ได้ง่ายๆ จึงชักมืออกทันทีและจับอีกครั้งด้วยถุงมือจับของร้อน

 

“ช้าง!”

 

   โชคดีที่ไฟมอดดับไปแล้ว แต่คุกกี้ช้างข้างในได้อาบเพลิงนรกจนไหม้เกรียมดูเหมือนถ่าน กลายเป็นอดีตคุกกี้ช้าง 

 

“เอ่อ… ขออภัยด้วยครับ ควรให้มีคนอยู่คอยรับใช้เวลาที่ท่านทำอาหาร”

 

   พ่อครัวเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจึงขอโทษโดยรู้สึกผิด แต่คนผิดจริงๆคือเซเลน ซึ่งเซเลนก็เข้าใจดี เธอจึงส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร

 

“เฮ้อ… ของขวัญ…”

 

   น่าเสียดายจริงๆ ตั๋วกอดอาลัวถูกเผาจนไหม้ เซเลนอยากจะร้องไห้แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง

 

“ใส่ห่อ จะเอา”

“เอ๋? แต่ว่า มันกินไม่ได้แล้วนะครับ”

“ไม่เป็นไร”

 

   ก้อนถ่านที่ควรจะเป็นคุกกี้ถูกเซเลนเก็บใส่ถุงเท่าที่เก็บได้ เพราะเซเลนเป็นคนประเภทที่เสียดายข้าวของทุกอย่างจนไม่อยากทิ้ง ยิ่งน้ำตาลและเนยชั้นดีที่ใช้ไป ไม่อยากให้เสียเปล่า

 

   เสร็จเรื่องแล้ว เซเลนขอบคุณพ่อครัวคนนั้นและออกไปพร้อมถุงใส่ก้อนถ่านในมือ มันเอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นขยะ ถึงอย่างนั้นก็ยังเสียดาย

 

“นั่นไง!”

 

   เซเลนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ วิธีกำจัดของเสียที่เข้าท่าที่สุด เซเลนออกวิ่งไปตามทางเดิน ทั้งที่เป็นถึงเจ้าหญิงแต่ก็ดูไม่สำรวมเลยสักนิด

 

  เป้าหมายอยู่ห่างออกไปจนเซเลนถึงกับหอบ เมื่อมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง เธอก็เคาะประตู

 

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ? เซเลนมาหาผมเองแบบนี้ ไม่บ่อยเลยนะครับ”

 

   เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับมิลานอยู่ข้างใน ทั้งที่เป็นห้องของเจ้าชาย ก็ควรรักษามารยาทเอาไว้สักหน่อย แต่เซเลนก็ไม่สนใจ ส่งถุงที่ถือมาด้วยให้กับมิลาน

 

“คุกกี้ ทำเอง เจ้าชาย เอาไป!”

“เธอทำคุกกี้? มาให้ผมหรือครับ?”

“ใช่ ไม่ค่อยดี”

 

   ไม่ใช่ไม่ค่อยดี แต่มันไม่ควรนับเป็นอาหารเลยด้วยซ้ำ เซเลนยัดถุงคุกกี้ใส่ในมือของมิลาน และวิ่งหนีออกไปทันที เซเลนยัดเยียดของกลางให้มิลานเรียบร้อย ขยะถูกกำจัดเสร็จสิ้น

 

“เซเลนทำเอง?”

 

  เหลือไว้เพียงมิลานที่ยังงงกับการปรากฏตัวและจากไปอย่างกะทันหันของเซเลน เธอลำบากทำคุกกี้มาให้ และเห็นได้ว่าเหนื่อยหอบอยู่เล็กน้อยจากการที่รีบนำมันมาส่ง

 

“ท่านแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนทำขนมให้ท่านพ่ออยู่บ่อยๆ เป็นความรู้สึกแบบนี้สินะ”

 

   เมื่อคิดถึงเรื่องที่เคยได้ฟัง มิลานยิ้มออกมาและกลับเข้าไปในห้อง

 

   เขาอยู่ระหว่างจัดการเอกสารทางการทูตระหว่างประเทศ มีเรื่องให้ชื่นใจแบบนี้ก็ช่วยเยียวยาได้ดีเหมือนกัน แต่เมื่อเปิดถุงดู มิลานหัวเราะออกมาเบาๆเพราะได้เห็นภายในมีแต่ก้อนถ่านสีดำ

 

“น่าจะกินไม่ได้ แต่จะเก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”

 

  ซากของกินที่ไหม้เกรียมของเซเลนถูกมิลานเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง มันถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา หลังจากเคร่งเครียดจากการทำงาน มิลานมองดูมันและคิดถึงความเอาใจใส่ของเซเลนอย่างมีความสุข

 

   ถึงจะมีค่าแค่เป็นขยะ แต่มิลานก็ใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่า แม้จะไม่ได้ใช้งานตามแบบที่มันควรจะเป็นก็ตาม

 

“เถ้าถ่าน เจ้าหญิง** ทำเอานึกถึงนิทานเรื่องนั้นเลยนะ…”

 

  นิทานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ถูกครอบครัวกดขี่ แต่ก็ได้พบรักกับเจ้าชายและสุดท้ายก็ได้แต่งงานไปเป็นเจ้าหญิง 

 

“แล้วผมจะเป็นเจ้าชายแบบที่เด็กคนนั้นหวังไว้ได้หรือเปล่า”

 

  เซเลนเป็นเจ้าหญิงผู้สมบูรณ์แบบด้วยตัวเธอเองอยู่แล้ว แต่ตัวเขาทำอะไรที่เรียกได้ว่าคู่ควรกับเธอแล้วหรือยัง มิลานกังวลเรื่องนี้มาตลอด

 

“เอาเถอะ คิดไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่ต้องพยายามต่อไปเท่านั้น”

 

มิลานพูดกับถุงห่อคุกกี้ดำเป็นถ่านพลางคิดถึงเซเลน อีกครั้งที่เซเลนพยายามก่อกวนเขาทางอ้อม และมิลานก็เข้าใจเจตนาของเธอผิดไป ขยะชิ้นนี้จึงถูกเก็บไว้ในฐานะเครื่องรางไปอีกระยะหนึ่ง

 

 

____________________

* ออกเสียงเหมือนกัน

ぞうさん (zosan) = ช้าง

増産 (zosan) = เพิ่มปริมาณการผลิต

 

** 灰かぶり姫 (haikaburihime(เจ้าหญิงกองขี้เถ้า)) = ชื่อภาษาญี่ปุ่นของ ซินเดอเรลล่า

ตัวแรก 灰 = ขี้เถ้า, ตัวสุดท้าย 姫 = เจ้าหญิง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 74.51 คริสต์มาสขุมนรก

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 74.51 คริสต์มาสขุมนรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ

คริสต์มาสขุมนรก

 

 

   ถึงจะมีความยากลำบากและเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ราชินีไอโรเน่คืนดีกับเซเลนได้สำเร็จ ทุกคนกลับมายังเฮลิฟาลเต้ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

  หลังจากกลับมาก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังมีบางคนที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย!

 

“วันนี้ คริสต์มาส”

 

  วันธรรมดาวันหนึ่ง เซเลนพูดออกมาโดยไม่มีที่มาที่ไป แน่นอนว่าในโลกที่เซเลนอาศัยอยู่นี้ไม่มีศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีวันคริสต์มาส แต่เธอก็ไม่สนใจ

 

  มองในทางกลับกัน เซเลนคิดว่า ในเมื่อวันคริสต์มาสยังไม่มีอยู่จริง ก็หมายความว่าสามารถกำหนดวันนี้ให้เป็นวันคริสต์มาสได้

 

“ของขวัญ ท่านพี่”

 

   จริงๆก็น่าจะได้ฉลองวันคริสต์มาสตั้งนานแล้ว แต่ดันถูกเจ้าชายลากไปเที่ยวบ้านนอก ซ้ำยังประสบอุบัติเหตุเจ็บตัว จนตอนนี้อาการโรคขาดหน้าอกของเซเลนได้กำเริบขึ้นมา

 

   ต้องรีบบรรเทาอาการโดยเร็ว แต่น่าเสียดาย จะไปหาอาลัวที่โรงเรียนโดยไม่มีข้ออ้างมันก็ดูไม่ดี เอาเป็นว่าไปมอบของขวัญเนื่องในโอกาสอะไรสักอย่างก็แล้วกัน เพิ่มค่าความประทับใจได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็ขอใช้ประโยชน์จากวันคริสต์มาสที่กำหนดเอาเองนี้ให้คุ้ม

 

“คุกกี้! ทำเอง!”

 

   ถ้าทำได้ก็อยากทำสตรอเบอรี่ช็อตเค้กที่เป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวมากกว่า แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับเซเลน จึงต้องลดระดับลงมา เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เซเลนก็ลุกลงจากเตียง

 

   สมัยที่ยังอยู่ในวัยกลางคน เซเลนเคยอยากลองทำอะไรแปลกใหม่ จึงได้ลองอบคุกกี้ด้วยตัวเอง และมันก็ออกมาเป็นคุกกี้… หรืออะไรที่ดูคล้ายๆและพอกินได้ ครั้งนี้เซเลนมองโลกในแง่ดีว่า ขนมทำมือมันมีค่าที่ใจ ไม่ใช่รสชาติ 

 

[“องค์หญิง จะออกไปเองหรือครับ? ให้กระผมตามไปด้วย”]

“อื่ม บัตเลอร์ พักเถอะ”

 

   เซเลนตอบกลับบัตเลอร์ทีอยู่ในตะกร้าข้างเตียง บัตเลอร์เป็นที่รู้จักภายในปราสาทบ้างแล้ว จะไปด้วยกันก็ไม่เป็นไร แต่ที่ที่จะไปคือห้องครัวของปราสาท จะให้คนอื่นเห็นว่ามีหนูอยู่ใกล้ที่ทำอาหาร มันจะดูไม่ดี

 

[“รับทราบครับ กระผมจะรออยู่ที่นี่ โปรดระวังของมีคมและเปลวไฟด้วยครับ”]

“อือ”

 

  เซเลนพยักหน้าและออกเดินไปที่ห้องครัว ขอใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำคุกกี้จากคนครัวที่อยู่แถวนั้น

 

  ด้วยตำแหน่งของเซเลนซึ่งเป็นเจ้าหญิงแสงจันทร์ ไม่ว่าจะขออะไรก็ไม่มีใครคิดปฏิเสธ ในเวลานี้เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ การเตรียมของสำหรับมื้อเย็นก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ห้องครัวจึงโล่งพอประมาณ

 

“เอ้า ฮืบ”

 

   เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเซเลนยังไม่สามารใช้ครัวได้ จึงต้องลากแท่นเหยียบมายืนทุกครั้งที่ทำอาหาร อันดับแรกก็ผสมแป้งตามอัตราส่วนที่กะเอาคร่าวๆเท่าที่จำได้

 

  แน่นอนว่าไม่ได้ทำตามสูตรที่แท้จริง เพียงแต่ให้ส่วนผสมจากความจำอันเลือนรางของเซเลนที่เดาเอาว่ามันน่าจะใช่ ถึงอย่างนั้น มันก็ยังออกมาเป็นแป้งที่เหมือนกับแป้งคุกกี้จนได้ 

 

  หลังจากที่ทำแป้งคุกกี้สำเร็จแล้ว เซเลนกอดอกคิดถึงขั้นตอนต่อไปด้วยมือที่เปื้อนไปด้วยแป้ง ทั้งที่เธอสวมชุดราคาแพงสีขาวบริสุทธิ์ แต่มันก็ถูกใช้ไม่ต่างจากผ้ากันเปื้อน ซึ่งเซเลนก็ไม่สนใจ

 

  คุกกี้รูปร่างวงกลมดูธรรมดาเกินไป ทำให้อาลัวทั้งที ก็อยากให้ของที่ดูน่ารัก น่าจะทำให้ผู้รับดีใจมากกว่า ดังนั้น จึงต้องทำให้ออกมาดูน่ารักที่สุด

 

“ช้าง!”

 

   เอาเป็นคุกกี้รูปสัตว์นี่แหละ… ช้างก็น่าจะดี เซเลนคิดขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเซเลนเองก็มีช้างติดตัวอยู่ ถึงตอนนี้จะไม่มีแล้วก็เถอะ แต่ช้างตัวนั้นยังชูงวงอยู่ในใจของเธอ

 

   ของขวัญแสดงความในใจของเซเลนที่จะมอบให้อาลัวในครั้งนี้ มาจากแรงจูงใจที่ไม่ค่อยใสสะอาดนัก

 

“ช้าง… รุ่นผลิตจำนวนมาก(zosan… zosan*)! หุหุหุ”

 

   การทำคุกกี้ช้าง ก็คือการผลิตช้างจำนวนมาก เซเลนไม่พลาดโอกาสเล่นมุขฝืดๆเข่นเคย

 

   เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มลงมือทำคุกกี้ช้างในทันที ตอนนี้เอง ที่เพิ่งรู้ตัวว่าแผนการนี้มียังมีช่องโหว่

 

“ไม่มี!”

 

   เซเลนเอามือก่ายหน้าผากและพูดออกมาเสียงดัง การทำคุกกี้ให้เป็นรูปร่าง จำเป็นต้องมีแม่พิมพ์ แต่ก็ไม่มี ในตอนที่เคยทำคุกกี้ด้วยตัวเอง เธอทำอย่างลวกๆให้พอกินได้ แค่ตัดเป็นก้อนโดยไม่สนใจรูปร่าง จึงลืมไปว่าต้องมีแม่พิมพ์

 

   แล้วช้างรุ่นผลิตจำนวนมากจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่พิมพ์ แม้แต่รูปร่างสัดส่วนของช้างเอง เซเลนก็จำไม่ค่อยได้

 

“ต้องทำ!”

 

   ถึงอย่างนั้น เซเลนก็ไม่ล้มเลิกความคิดนี้ ถ้าไม่มีแม่พิมพ์ก็ต้องปั้นออกมาด้วยมือ เซเลนจึงปั้นให้เป็นรูปร่างของช้างตามที่นึกขึ้นได้ ใช้ทั้งเวลาและสมาธิ ให้ออกมาเป็นช้างที่ทำจากแป้งคุกกี้ให้ได้

 

“เสร็จแล้ว นี่มัน…! อ๊ะ! ไม่ใช่สิ! ”

 

   อันที่จริงมันควรจะเป็นคุกกี้รูปช้างหลายๆชิ้น แต่ต้องใช้แป้งค่อยๆแต่งเติมให้ได้รูปร่างช้างตามที่ต้องการ จึงออกมาเป็นคุกกี้ปริศนาขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว มองในอีกมุมหนึ่ง ขนาดของมันสมก็เป็นช้างดี

 

“ช่างมัน! นี่แหละ!”

 

   นี่แหละคุกกี้ช้าง คุกกี้ช้างแน่นอน เซเลนคิดปลอบใจตัวเองและยัดคุกกี้ช้างทั้งตัวเข้าไปในเตาอบ โชคดีที่คนครัวใช้งานเตาอบตัวนี้ในช่วงกลางวัน มันจึงยังหลงเหลือถ่านไฟให้อุณหภูมิสูงพอใช้งานต่อได้ทันที ที่เหลือก็แค่รอ

 

“อุ… เหนื่อย”

 

   ทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักก็ยังเหนื่อย เซเลนปาดเหงื่อบนหน้าผาก รู้สึกภูมิใจผลงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี้ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เพราะนำไปเทียบกับตัวเธอตมปรกติที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

 

“เหลือแค่ รอ”

 

   หลังจากนำเข้าแต่อบแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำได้นอกจากรอให้มันสุก เซเลนลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ ถ้ามีกลิ่นหอมโชยมาเมื่อไหร่ก็ได้เวลานำคุกกี้แสนอร่อยไปมอบให้อาลัว

 

   ตื่นเต้นเกินไปก็ไม่ดี คงต้องผ่อนคลายลงสักหน่อย เซเลนหลับตาลงและเอนหลังพิงเก้าอี้ กะไว้ว่าอีกสักห้านาทีค่อยลืมตาขึ้นมา

 

“ท่านเซเลนครับ ท่านเซเลน”

“หนวกหู”

 

  คนที่พยายามเรียกเซเลนเป็นพ่อครัวคนหนึ่ง เพราะรู้สึกรำคาญที่ถูกเรียกเสียงดังอยู่ใกล้ๆจึงได้ลืมตาขึ้นมา เซเลนขยี้ตาด้วยความหงุดหงิด

 

“อะไร?”

“ได้เวลาเตรียมอาหารเย็นแล้วครับ คือว่า พวกเราขอใช้พื้นที่ตรงนี้”

“เอ๋”

 

   เมื่อได้ยินเข่นนั้น เซเลนก็นึกขึ้นมาได้และเริ่มมองไปรอบๆ ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน นั่นหมายความว่า…

 

“แย่แล้ว!!”

“ท่านเซเลน!?”

 

   เซเลนลุกลงจากเก้าอี้ไปเปิดเตาอบทันที

 

“อ๊า!”

“ท่านเซเลนครับ! จับเตาอบด้วยมือเปล่าไม่ได้ครับ!”

 

   ฝาเตาอบเหล็กที่ปิดไว้ขณะใช้งานจะมีความร้อนสูง ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่มของเด็กไหม้ได้ง่ายๆ จึงชักมืออกทันทีและจับอีกครั้งด้วยถุงมือจับของร้อน

 

“ช้าง!”

 

   โชคดีที่ไฟมอดดับไปแล้ว แต่คุกกี้ช้างข้างในได้อาบเพลิงนรกจนไหม้เกรียมดูเหมือนถ่าน กลายเป็นอดีตคุกกี้ช้าง 

 

“เอ่อ… ขออภัยด้วยครับ ควรให้มีคนอยู่คอยรับใช้เวลาที่ท่านทำอาหาร”

 

   พ่อครัวเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจึงขอโทษโดยรู้สึกผิด แต่คนผิดจริงๆคือเซเลน ซึ่งเซเลนก็เข้าใจดี เธอจึงส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร

 

“เฮ้อ… ของขวัญ…”

 

   น่าเสียดายจริงๆ ตั๋วกอดอาลัวถูกเผาจนไหม้ เซเลนอยากจะร้องไห้แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง

 

“ใส่ห่อ จะเอา”

“เอ๋? แต่ว่า มันกินไม่ได้แล้วนะครับ”

“ไม่เป็นไร”

 

   ก้อนถ่านที่ควรจะเป็นคุกกี้ถูกเซเลนเก็บใส่ถุงเท่าที่เก็บได้ เพราะเซเลนเป็นคนประเภทที่เสียดายข้าวของทุกอย่างจนไม่อยากทิ้ง ยิ่งน้ำตาลและเนยชั้นดีที่ใช้ไป ไม่อยากให้เสียเปล่า

 

   เสร็จเรื่องแล้ว เซเลนขอบคุณพ่อครัวคนนั้นและออกไปพร้อมถุงใส่ก้อนถ่านในมือ มันเอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นขยะ ถึงอย่างนั้นก็ยังเสียดาย

 

“นั่นไง!”

 

   เซเลนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ วิธีกำจัดของเสียที่เข้าท่าที่สุด เซเลนออกวิ่งไปตามทางเดิน ทั้งที่เป็นถึงเจ้าหญิงแต่ก็ดูไม่สำรวมเลยสักนิด

 

  เป้าหมายอยู่ห่างออกไปจนเซเลนถึงกับหอบ เมื่อมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง เธอก็เคาะประตู

 

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ? เซเลนมาหาผมเองแบบนี้ ไม่บ่อยเลยนะครับ”

 

   เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับมิลานอยู่ข้างใน ทั้งที่เป็นห้องของเจ้าชาย ก็ควรรักษามารยาทเอาไว้สักหน่อย แต่เซเลนก็ไม่สนใจ ส่งถุงที่ถือมาด้วยให้กับมิลาน

 

“คุกกี้ ทำเอง เจ้าชาย เอาไป!”

“เธอทำคุกกี้? มาให้ผมหรือครับ?”

“ใช่ ไม่ค่อยดี”

 

   ไม่ใช่ไม่ค่อยดี แต่มันไม่ควรนับเป็นอาหารเลยด้วยซ้ำ เซเลนยัดถุงคุกกี้ใส่ในมือของมิลาน และวิ่งหนีออกไปทันที เซเลนยัดเยียดของกลางให้มิลานเรียบร้อย ขยะถูกกำจัดเสร็จสิ้น

 

“เซเลนทำเอง?”

 

  เหลือไว้เพียงมิลานที่ยังงงกับการปรากฏตัวและจากไปอย่างกะทันหันของเซเลน เธอลำบากทำคุกกี้มาให้ และเห็นได้ว่าเหนื่อยหอบอยู่เล็กน้อยจากการที่รีบนำมันมาส่ง

 

“ท่านแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนทำขนมให้ท่านพ่ออยู่บ่อยๆ เป็นความรู้สึกแบบนี้สินะ”

 

   เมื่อคิดถึงเรื่องที่เคยได้ฟัง มิลานยิ้มออกมาและกลับเข้าไปในห้อง

 

   เขาอยู่ระหว่างจัดการเอกสารทางการทูตระหว่างประเทศ มีเรื่องให้ชื่นใจแบบนี้ก็ช่วยเยียวยาได้ดีเหมือนกัน แต่เมื่อเปิดถุงดู มิลานหัวเราะออกมาเบาๆเพราะได้เห็นภายในมีแต่ก้อนถ่านสีดำ

 

“น่าจะกินไม่ได้ แต่จะเก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”

 

  ซากของกินที่ไหม้เกรียมของเซเลนถูกมิลานเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง มันถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา หลังจากเคร่งเครียดจากการทำงาน มิลานมองดูมันและคิดถึงความเอาใจใส่ของเซเลนอย่างมีความสุข

 

   ถึงจะมีค่าแค่เป็นขยะ แต่มิลานก็ใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่า แม้จะไม่ได้ใช้งานตามแบบที่มันควรจะเป็นก็ตาม

 

“เถ้าถ่าน เจ้าหญิง** ทำเอานึกถึงนิทานเรื่องนั้นเลยนะ…”

 

  นิทานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ถูกครอบครัวกดขี่ แต่ก็ได้พบรักกับเจ้าชายและสุดท้ายก็ได้แต่งงานไปเป็นเจ้าหญิง 

 

“แล้วผมจะเป็นเจ้าชายแบบที่เด็กคนนั้นหวังไว้ได้หรือเปล่า”

 

  เซเลนเป็นเจ้าหญิงผู้สมบูรณ์แบบด้วยตัวเธอเองอยู่แล้ว แต่ตัวเขาทำอะไรที่เรียกได้ว่าคู่ควรกับเธอแล้วหรือยัง มิลานกังวลเรื่องนี้มาตลอด

 

“เอาเถอะ คิดไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่ต้องพยายามต่อไปเท่านั้น”

 

มิลานพูดกับถุงห่อคุกกี้ดำเป็นถ่านพลางคิดถึงเซเลน อีกครั้งที่เซเลนพยายามก่อกวนเขาทางอ้อม และมิลานก็เข้าใจเจตนาของเธอผิดไป ขยะชิ้นนี้จึงถูกเก็บไว้ในฐานะเครื่องรางไปอีกระยะหนึ่ง

 

 

____________________

* ออกเสียงเหมือนกัน

ぞうさん (zosan) = ช้าง

増産 (zosan) = เพิ่มปริมาณการผลิต

 

** 灰かぶり姫 (haikaburihime(เจ้าหญิงกองขี้เถ้า)) = ชื่อภาษาญี่ปุ่นของ ซินเดอเรลล่า

ตัวแรก 灰 = ขี้เถ้า, ตัวสุดท้าย 姫 = เจ้าหญิง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 74.51 คริสต์มาสขุมนรก

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 74.51 คริสต์มาสขุมนรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ

คริสต์มาสขุมนรก

 

 

   ถึงจะมีความยากลำบากและเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้ราชินีไอโรเน่คืนดีกับเซเลนได้สำเร็จ ทุกคนกลับมายังเฮลิฟาลเต้ได้อย่างไม่มีปัญหา

 

  หลังจากกลับมาก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังมีบางคนที่ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย!

 

“วันนี้ คริสต์มาส”

 

  วันธรรมดาวันหนึ่ง เซเลนพูดออกมาโดยไม่มีที่มาที่ไป แน่นอนว่าในโลกที่เซเลนอาศัยอยู่นี้ไม่มีศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีวันคริสต์มาส แต่เธอก็ไม่สนใจ

 

  มองในทางกลับกัน เซเลนคิดว่า ในเมื่อวันคริสต์มาสยังไม่มีอยู่จริง ก็หมายความว่าสามารถกำหนดวันนี้ให้เป็นวันคริสต์มาสได้

 

“ของขวัญ ท่านพี่”

 

   จริงๆก็น่าจะได้ฉลองวันคริสต์มาสตั้งนานแล้ว แต่ดันถูกเจ้าชายลากไปเที่ยวบ้านนอก ซ้ำยังประสบอุบัติเหตุเจ็บตัว จนตอนนี้อาการโรคขาดหน้าอกของเซเลนได้กำเริบขึ้นมา

 

   ต้องรีบบรรเทาอาการโดยเร็ว แต่น่าเสียดาย จะไปหาอาลัวที่โรงเรียนโดยไม่มีข้ออ้างมันก็ดูไม่ดี เอาเป็นว่าไปมอบของขวัญเนื่องในโอกาสอะไรสักอย่างก็แล้วกัน เพิ่มค่าความประทับใจได้ด้วย เพราะฉะนั้นก็ขอใช้ประโยชน์จากวันคริสต์มาสที่กำหนดเอาเองนี้ให้คุ้ม

 

“คุกกี้! ทำเอง!”

 

   ถ้าทำได้ก็อยากทำสตรอเบอรี่ช็อตเค้กที่เป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวมากกว่า แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับเซเลน จึงต้องลดระดับลงมา เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เซเลนก็ลุกลงจากเตียง

 

   สมัยที่ยังอยู่ในวัยกลางคน เซเลนเคยอยากลองทำอะไรแปลกใหม่ จึงได้ลองอบคุกกี้ด้วยตัวเอง และมันก็ออกมาเป็นคุกกี้… หรืออะไรที่ดูคล้ายๆและพอกินได้ ครั้งนี้เซเลนมองโลกในแง่ดีว่า ขนมทำมือมันมีค่าที่ใจ ไม่ใช่รสชาติ 

 

[“องค์หญิง จะออกไปเองหรือครับ? ให้กระผมตามไปด้วย”]

“อื่ม บัตเลอร์ พักเถอะ”

 

   เซเลนตอบกลับบัตเลอร์ทีอยู่ในตะกร้าข้างเตียง บัตเลอร์เป็นที่รู้จักภายในปราสาทบ้างแล้ว จะไปด้วยกันก็ไม่เป็นไร แต่ที่ที่จะไปคือห้องครัวของปราสาท จะให้คนอื่นเห็นว่ามีหนูอยู่ใกล้ที่ทำอาหาร มันจะดูไม่ดี

 

[“รับทราบครับ กระผมจะรออยู่ที่นี่ โปรดระวังของมีคมและเปลวไฟด้วยครับ”]

“อือ”

 

  เซเลนพยักหน้าและออกเดินไปที่ห้องครัว ขอใช้อุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำคุกกี้จากคนครัวที่อยู่แถวนั้น

 

  ด้วยตำแหน่งของเซเลนซึ่งเป็นเจ้าหญิงแสงจันทร์ ไม่ว่าจะขออะไรก็ไม่มีใครคิดปฏิเสธ ในเวลานี้เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ การเตรียมของสำหรับมื้อเย็นก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ห้องครัวจึงโล่งพอประมาณ

 

“เอ้า ฮืบ”

 

   เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเซเลนยังไม่สามารใช้ครัวได้ จึงต้องลากแท่นเหยียบมายืนทุกครั้งที่ทำอาหาร อันดับแรกก็ผสมแป้งตามอัตราส่วนที่กะเอาคร่าวๆเท่าที่จำได้

 

  แน่นอนว่าไม่ได้ทำตามสูตรที่แท้จริง เพียงแต่ให้ส่วนผสมจากความจำอันเลือนรางของเซเลนที่เดาเอาว่ามันน่าจะใช่ ถึงอย่างนั้น มันก็ยังออกมาเป็นแป้งที่เหมือนกับแป้งคุกกี้จนได้ 

 

  หลังจากที่ทำแป้งคุกกี้สำเร็จแล้ว เซเลนกอดอกคิดถึงขั้นตอนต่อไปด้วยมือที่เปื้อนไปด้วยแป้ง ทั้งที่เธอสวมชุดราคาแพงสีขาวบริสุทธิ์ แต่มันก็ถูกใช้ไม่ต่างจากผ้ากันเปื้อน ซึ่งเซเลนก็ไม่สนใจ

 

  คุกกี้รูปร่างวงกลมดูธรรมดาเกินไป ทำให้อาลัวทั้งที ก็อยากให้ของที่ดูน่ารัก น่าจะทำให้ผู้รับดีใจมากกว่า ดังนั้น จึงต้องทำให้ออกมาดูน่ารักที่สุด

 

“ช้าง!”

 

   เอาเป็นคุกกี้รูปสัตว์นี่แหละ… ช้างก็น่าจะดี เซเลนคิดขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเซเลนเองก็มีช้างติดตัวอยู่ ถึงตอนนี้จะไม่มีแล้วก็เถอะ แต่ช้างตัวนั้นยังชูงวงอยู่ในใจของเธอ

 

   ของขวัญแสดงความในใจของเซเลนที่จะมอบให้อาลัวในครั้งนี้ มาจากแรงจูงใจที่ไม่ค่อยใสสะอาดนัก

 

“ช้าง… รุ่นผลิตจำนวนมาก(zosan… zosan*)! หุหุหุ”

 

   การทำคุกกี้ช้าง ก็คือการผลิตช้างจำนวนมาก เซเลนไม่พลาดโอกาสเล่นมุขฝืดๆเข่นเคย

 

   เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มลงมือทำคุกกี้ช้างในทันที ตอนนี้เอง ที่เพิ่งรู้ตัวว่าแผนการนี้มียังมีช่องโหว่

 

“ไม่มี!”

 

   เซเลนเอามือก่ายหน้าผากและพูดออกมาเสียงดัง การทำคุกกี้ให้เป็นรูปร่าง จำเป็นต้องมีแม่พิมพ์ แต่ก็ไม่มี ในตอนที่เคยทำคุกกี้ด้วยตัวเอง เธอทำอย่างลวกๆให้พอกินได้ แค่ตัดเป็นก้อนโดยไม่สนใจรูปร่าง จึงลืมไปว่าต้องมีแม่พิมพ์

 

   แล้วช้างรุ่นผลิตจำนวนมากจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่มีแม่พิมพ์ แม้แต่รูปร่างสัดส่วนของช้างเอง เซเลนก็จำไม่ค่อยได้

 

“ต้องทำ!”

 

   ถึงอย่างนั้น เซเลนก็ไม่ล้มเลิกความคิดนี้ ถ้าไม่มีแม่พิมพ์ก็ต้องปั้นออกมาด้วยมือ เซเลนจึงปั้นให้เป็นรูปร่างของช้างตามที่นึกขึ้นได้ ใช้ทั้งเวลาและสมาธิ ให้ออกมาเป็นช้างที่ทำจากแป้งคุกกี้ให้ได้

 

“เสร็จแล้ว นี่มัน…! อ๊ะ! ไม่ใช่สิ! ”

 

   อันที่จริงมันควรจะเป็นคุกกี้รูปช้างหลายๆชิ้น แต่ต้องใช้แป้งค่อยๆแต่งเติมให้ได้รูปร่างช้างตามที่ต้องการ จึงออกมาเป็นคุกกี้ปริศนาขนาดใหญ่เพียงชิ้นเดียว มองในอีกมุมหนึ่ง ขนาดของมันสมก็เป็นช้างดี

 

“ช่างมัน! นี่แหละ!”

 

   นี่แหละคุกกี้ช้าง คุกกี้ช้างแน่นอน เซเลนคิดปลอบใจตัวเองและยัดคุกกี้ช้างทั้งตัวเข้าไปในเตาอบ โชคดีที่คนครัวใช้งานเตาอบตัวนี้ในช่วงกลางวัน มันจึงยังหลงเหลือถ่านไฟให้อุณหภูมิสูงพอใช้งานต่อได้ทันที ที่เหลือก็แค่รอ

 

“อุ… เหนื่อย”

 

   ทั้งที่งานก็ไม่ได้หนักก็ยังเหนื่อย เซเลนปาดเหงื่อบนหน้าผาก รู้สึกภูมิใจผลงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่นี้ แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เพราะนำไปเทียบกับตัวเธอตมปรกติที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

 

“เหลือแค่ รอ”

 

   หลังจากนำเข้าแต่อบแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำได้นอกจากรอให้มันสุก เซเลนลงนั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆ ถ้ามีกลิ่นหอมโชยมาเมื่อไหร่ก็ได้เวลานำคุกกี้แสนอร่อยไปมอบให้อาลัว

 

   ตื่นเต้นเกินไปก็ไม่ดี คงต้องผ่อนคลายลงสักหน่อย เซเลนหลับตาลงและเอนหลังพิงเก้าอี้ กะไว้ว่าอีกสักห้านาทีค่อยลืมตาขึ้นมา

 

“ท่านเซเลนครับ ท่านเซเลน”

“หนวกหู”

 

  คนที่พยายามเรียกเซเลนเป็นพ่อครัวคนหนึ่ง เพราะรู้สึกรำคาญที่ถูกเรียกเสียงดังอยู่ใกล้ๆจึงได้ลืมตาขึ้นมา เซเลนขยี้ตาด้วยความหงุดหงิด

 

“อะไร?”

“ได้เวลาเตรียมอาหารเย็นแล้วครับ คือว่า พวกเราขอใช้พื้นที่ตรงนี้”

“เอ๋”

 

   เมื่อได้ยินเข่นนั้น เซเลนก็นึกขึ้นมาได้และเริ่มมองไปรอบๆ ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง แสดงว่าพระอาทิตย์กำลังตกดิน นั่นหมายความว่า…

 

“แย่แล้ว!!”

“ท่านเซเลน!?”

 

   เซเลนลุกลงจากเก้าอี้ไปเปิดเตาอบทันที

 

“อ๊า!”

“ท่านเซเลนครับ! จับเตาอบด้วยมือเปล่าไม่ได้ครับ!”

 

   ฝาเตาอบเหล็กที่ปิดไว้ขณะใช้งานจะมีความร้อนสูง ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่มของเด็กไหม้ได้ง่ายๆ จึงชักมืออกทันทีและจับอีกครั้งด้วยถุงมือจับของร้อน

 

“ช้าง!”

 

   โชคดีที่ไฟมอดดับไปแล้ว แต่คุกกี้ช้างข้างในได้อาบเพลิงนรกจนไหม้เกรียมดูเหมือนถ่าน กลายเป็นอดีตคุกกี้ช้าง 

 

“เอ่อ… ขออภัยด้วยครับ ควรให้มีคนอยู่คอยรับใช้เวลาที่ท่านทำอาหาร”

 

   พ่อครัวเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจึงขอโทษโดยรู้สึกผิด แต่คนผิดจริงๆคือเซเลน ซึ่งเซเลนก็เข้าใจดี เธอจึงส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไร

 

“เฮ้อ… ของขวัญ…”

 

   น่าเสียดายจริงๆ ตั๋วกอดอาลัวถูกเผาจนไหม้ เซเลนอยากจะร้องไห้แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเธอเอง

 

“ใส่ห่อ จะเอา”

“เอ๋? แต่ว่า มันกินไม่ได้แล้วนะครับ”

“ไม่เป็นไร”

 

   ก้อนถ่านที่ควรจะเป็นคุกกี้ถูกเซเลนเก็บใส่ถุงเท่าที่เก็บได้ เพราะเซเลนเป็นคนประเภทที่เสียดายข้าวของทุกอย่างจนไม่อยากทิ้ง ยิ่งน้ำตาลและเนยชั้นดีที่ใช้ไป ไม่อยากให้เสียเปล่า

 

   เสร็จเรื่องแล้ว เซเลนขอบคุณพ่อครัวคนนั้นและออกไปพร้อมถุงใส่ก้อนถ่านในมือ มันเอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นขยะ ถึงอย่างนั้นก็ยังเสียดาย

 

“นั่นไง!”

 

   เซเลนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ วิธีกำจัดของเสียที่เข้าท่าที่สุด เซเลนออกวิ่งไปตามทางเดิน ทั้งที่เป็นถึงเจ้าหญิงแต่ก็ดูไม่สำรวมเลยสักนิด

 

  เป้าหมายอยู่ห่างออกไปจนเซเลนถึงกับหอบ เมื่อมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง เธอก็เคาะประตู

 

“เกิดอะไรขึ้นหรือครับ? เซเลนมาหาผมเองแบบนี้ ไม่บ่อยเลยนะครับ”

 

   เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับมิลานอยู่ข้างใน ทั้งที่เป็นห้องของเจ้าชาย ก็ควรรักษามารยาทเอาไว้สักหน่อย แต่เซเลนก็ไม่สนใจ ส่งถุงที่ถือมาด้วยให้กับมิลาน

 

“คุกกี้ ทำเอง เจ้าชาย เอาไป!”

“เธอทำคุกกี้? มาให้ผมหรือครับ?”

“ใช่ ไม่ค่อยดี”

 

   ไม่ใช่ไม่ค่อยดี แต่มันไม่ควรนับเป็นอาหารเลยด้วยซ้ำ เซเลนยัดถุงคุกกี้ใส่ในมือของมิลาน และวิ่งหนีออกไปทันที เซเลนยัดเยียดของกลางให้มิลานเรียบร้อย ขยะถูกกำจัดเสร็จสิ้น

 

“เซเลนทำเอง?”

 

  เหลือไว้เพียงมิลานที่ยังงงกับการปรากฏตัวและจากไปอย่างกะทันหันของเซเลน เธอลำบากทำคุกกี้มาให้ และเห็นได้ว่าเหนื่อยหอบอยู่เล็กน้อยจากการที่รีบนำมันมาส่ง

 

“ท่านแม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนทำขนมให้ท่านพ่ออยู่บ่อยๆ เป็นความรู้สึกแบบนี้สินะ”

 

   เมื่อคิดถึงเรื่องที่เคยได้ฟัง มิลานยิ้มออกมาและกลับเข้าไปในห้อง

 

   เขาอยู่ระหว่างจัดการเอกสารทางการทูตระหว่างประเทศ มีเรื่องให้ชื่นใจแบบนี้ก็ช่วยเยียวยาได้ดีเหมือนกัน แต่เมื่อเปิดถุงดู มิลานหัวเราะออกมาเบาๆเพราะได้เห็นภายในมีแต่ก้อนถ่านสีดำ

 

“น่าจะกินไม่ได้ แต่จะเก็บเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”

 

  ซากของกินที่ไหม้เกรียมของเซเลนถูกมิลานเก็บรักษาอย่างระมัดระวัง มันถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา หลังจากเคร่งเครียดจากการทำงาน มิลานมองดูมันและคิดถึงความเอาใจใส่ของเซเลนอย่างมีความสุข

 

   ถึงจะมีค่าแค่เป็นขยะ แต่มิลานก็ใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่า แม้จะไม่ได้ใช้งานตามแบบที่มันควรจะเป็นก็ตาม

 

“เถ้าถ่าน เจ้าหญิง** ทำเอานึกถึงนิทานเรื่องนั้นเลยนะ…”

 

  นิทานเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ถูกครอบครัวกดขี่ แต่ก็ได้พบรักกับเจ้าชายและสุดท้ายก็ได้แต่งงานไปเป็นเจ้าหญิง 

 

“แล้วผมจะเป็นเจ้าชายแบบที่เด็กคนนั้นหวังไว้ได้หรือเปล่า”

 

  เซเลนเป็นเจ้าหญิงผู้สมบูรณ์แบบด้วยตัวเธอเองอยู่แล้ว แต่ตัวเขาทำอะไรที่เรียกได้ว่าคู่ควรกับเธอแล้วหรือยัง มิลานกังวลเรื่องนี้มาตลอด

 

“เอาเถอะ คิดไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่ต้องพยายามต่อไปเท่านั้น”

 

มิลานพูดกับถุงห่อคุกกี้ดำเป็นถ่านพลางคิดถึงเซเลน อีกครั้งที่เซเลนพยายามก่อกวนเขาทางอ้อม และมิลานก็เข้าใจเจตนาของเธอผิดไป ขยะชิ้นนี้จึงถูกเก็บไว้ในฐานะเครื่องรางไปอีกระยะหนึ่ง

 

 

____________________

* ออกเสียงเหมือนกัน

ぞうさん (zosan) = ช้าง

増産 (zosan) = เพิ่มปริมาณการผลิต

 

** 灰かぶり姫 (haikaburihime(เจ้าหญิงกองขี้เถ้า)) = ชื่อภาษาญี่ปุ่นของ ซินเดอเรลล่า

ตัวแรก 灰 = ขี้เถ้า, ตัวสุดท้าย 姫 = เจ้าหญิง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+