[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 14

เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

 

 

   ก่อนหมดวัน คาเงะโทระสั่งคนรับใช้ให้จัดการตามคำขอของเซเลนที่ได้คุยกันก่อนหน้า และงานของวันนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น คนรับใช้ที่ไม่ได้พักอยู่ในบ้านก็เริ่มเดินทางกลับบ้านของแต่ละคน เวรยามที่ต้องทำหน้าทีรักษาความปลอดภัยให้กับคาเงะโทระและฮิโนเอะนั้นจะมีห้องพักให้ในเขตรั้วบ้าน แต่คนรับใช้ส่วนใหญ่จะมีบ้านของตัวเองอยู่ในเมือง บ้านตระกูลของคาเงะโทระไม่ได้ใหญ่โตขนาดมีพื้นที่ให้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ได้ตลอดเวลา

 

   หนึ่งในสาวใช้ของคาเงะโทระที่คอยรับใช้อยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำก็กลับไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ เธอเดินเลี้ยวไปตามมุมถนนอันมืดมิดอยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา และเธอก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านตระกูลนักรบตระกูลอื่นในตัวเมือง แตกต่างจากบ้านของคาเงะโทระที่อยู่ติดกับพื้นที่เกษตรกรรม

 

  จากนั้นเธอก็อ้อมไปทางประตูหลังที่เป็นทางเข้าออกสำหรับคนรับใช้ เมื่อผ่านกำแพงเข้ามาด้านในก็เดินต่อไปผ่านสวนจนมาถึงอาคารที่เหมือนโรงเก็บของในส่วนที่พักอาศัย เข้าใกล้ประตูที่ปิดสนิทของอาคารนั้น และเธอก็

 

“เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้”

 

   หลังพูดออกไปไม่นาน บานประตูก็ถูกแง้มเปิดจากด้านใน ข้างในโรงเก็บของไม่มีแสงสว่างใดๆ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั้น แสงจันทร์เพียงเล็กน้อยที่ลอดผ่านประตูที่เปิดเข้าไปทำให้มองเห็นชายผู้หนึ่งที่ปกปิดทั้งร่างกายด้วยเสื้อผ้าสีดำจนเหลือแต่ดวงตาอันน่าขนลุกจ้องมองมา

 

“ช้าเกินไปแล้ว จะให้รออีกนานแค่ไหน”

 

   ชายในชุดดำพูดเสียงดุดัน

 

“ขออภัย เจ้าบ้านของทางนั้นค่อนข้างขี้ระแวง”

“เอาเถอะ อย่างน้อยก็ขอให้เป็นข่าวดีว่าถึงเวลาให้พวกข้าลงมือได้สักที”

“ใช่แล้ว ถึงเวลาของพวกท่านแล้ว”

 

   หญิงสาวแสยะยิ้ม แต่ชายในชุดดำก็ไม่มีการตอบสนอง ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุม หญิงสาวได้พูดต่อไป

 

“นายใหญ่ก็ใจดำเหลือเกิน ฮิโนเอะได้อยู่อย่างสงบสุขทั้งที แต่อีกไม่นานก็ได้เวลาตายเสียแล้ว”

“พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของทานุกิเฒ่านั่นเท่านั้น เรื่องอื่นข้าไม่สน”

 

   หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ชายในชุดดำก็ยังคงเย็นชา

 

“การดำรงอยู่ของผู้ครอบครองพลังต้องสาปที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตระกูล เป็นเรื่องที่นายใหญ่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของข้า เพียงแค่จ่ายเงินมาใครครบก็พอ”

“เงินที่ว่า นายใหญ่ก็ได้มาจากคาเงะโทระ เด็กก็เป็นของทางนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“หากลงมือเองก็จะเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ถึงต้องจ้างพวกเราอยู่นี่ไงล่ะ ตั้งใจทำตามคำสั่งให้สำเร็จก็พอ”

 

   ชายในชุดดำตอบอย่างไร้ความลังเล ทั้งหมดนี้คือการสนทนาของนักโจรกรรมทั้งสองที่ถูกจ้างมา หญิงสาวที่แฝงตัวเป็นสาวใช้เข้าไปหาข้อมูลและอำนวยความสะดวกจากภายใน กับชายผู้ที่จะนำกลุ่มนักลอบสังหารเข้าไปลงมือ ทั้งหมดได้ถูกเตรียมการจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

 

“ได้ยินมาว่าฮิโนเอะสามารถอ่านใจคนอื่นได้ แต่ก็ยังเป็นเด็กอ่อนหัด คงคิดว่าทุกคนที่รับใช้คาเงะโทระจะเป็นพวกเดียวกันหมด วันนี้ตอนเจอกันยังทักทายตามปรกติเลย”

 

   หญิงสาวเยาะเย้ยให้กับความไว้ใจของฮิโนเอะ ในตอนที่เข้าไปทำงานให้กับคาเงะโทระช่วงแรกๆก็กลัวว่าแผนการนี้จะถูกเปิดเผย แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเป็นเช่นนั้นเลย ทุกอย่างราบรื่นจนบางครั้งยังสงสัยว่าฮิโนเอะมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆหรือ

 

   ผู้ว่าจ้างก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อแท้ๆของฮิโนเอะ ที่คิดว่าฮิโนเอะคือสายเลือดอันด่างพร้อยของตระกูล ทั้งที่ตามกฎหมาย ฮิโนเอะเป็นคนของบ้านคาเงะโทระอย่างถูกต้อง แต่ตราบใดที่ฮิโนเอะยังมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นจุดอ่อนสำหรับกล่าวหาตระกูลของเขาได้ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปคือตัวกาลกิณีสำหรับประเทศนี้ ต้องกำจัดอย่างเงียบๆก่อนจะเป็นภัยย้อนกลับมาทำร้ายตระกูล

 

“แล้วเหตุผลที่เลือกเวลานี้ล่ะ? เจ้าคาเงะโทระนั่นถึงจะอ่อนเอแต่ก็ไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม ออกจะฉลาดจนไม่เผยช่องว่างด้วยซ้ำ”

“หึหึ รู้เรื่องแขกจากต่างแดนแล้วใช่ไหม? เมื่อกี้ได้รับคำสั่งจากคาเงะโทระว่า ‘วันนี้มีเวลาเตรียมการไม่มาก พรุ่งนี้ให้ออกหาซื้อของสดแต่เช้าสำหรับงานเลี้ยงในตอนค่ำ’ น่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่เลยล่ะ”

“แล้วมันยังไง?”

 

   ขายในชุดดำถามต่อไป หญิงสาวจึงแนะนำแผนของเธอต่อ

 

“งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแผ่นดินใหญ่เชียวนะ ต้องจัดให้เต็มที่อยู่แล้ว ทั้งเวรยาม คนรับใช้ ผู้ติดตามระดับล่างก็ร่วมฉลองได้ทุกคน และในคำสั่งที่ให้ซื้อก็มีสุราอยู่ด้วย เหมาะกับไอ้นี่พอดีเลย”

 

  สิ่งที่หญิงสาวหยิบออกมาจากข้างในเสื้อของเธอคือห่อเล็กๆ เมื่อคลายออกก็เห็นผงสีขาวอยู่ข้างใน

 

“ยาเปลี่ยนผัน น่ะเหรอ”

“รู้ก็ดีแล้ว ผลผลิตของผู้ครอบครองพลังต้องสาปคนหนึ่งก่อนจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ มีผลทำให้นิสัยกลับตาลปัตร คนขี้ขลาดจะกล้าหาญจนออกรบได้ ซึ่งในทางกลับกัน คนกล้าหาญจะขี้ขลาด คนขยันจะขี้เกียจ”

 

   เธอยังบอกอีกว่าต้องลำบากเพียงใดกว่าจะได้มันมา แม้อาคมจะเป็นสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล แต่ก็ยังถูกใช้กันอย่างลับๆ สิ่งที่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์นั้นมักจะถูกใช้ประโยชน์ในเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีนักเป็นประจำ และพลังต้องสาปบางประเภทยังมีผลทำให้ประสาทหลอนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้คนจึงรังเกียจและมองในแง่ร้ายจนเป็นอคติ

 

“ใส่มันในสุราและให้พวกยามกินเข้าไป สุนัขเฝ้าบ้านของคาเงะโทระที่ตั้งใจทำงานกันอย่างขันแข็งรอบคอบก็จะไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเป็นแค่ฝูงวัวเชื่องๆ”

“เวรยามก็จะหละหลวม จะเข้าหรือออกก็ไม่มีใครมาขวาง”

“งานเลี้ยงต้อนรับทูตจากแผ่นดินใหญ่ทำให้ยามทั้งหลายปล่อยตัวไปตามบรรยากาศมากเกินไป และ ‘บังเอิญ’ มีโจรบุกเข้าไปในช่วงนั้นพอดีจนฮิโนเอะต้องรับเคราะห์”

 

   หญิงสาวพูดถึงแผนการสังหารฮิโนเอะได้อย่างหน้าตาเฉย ชายชุดดำไม่พูดอะไร เพียงแค่หรี่ตาลงเล็กน้อย ถึงจะปกปิดใบหน้าเอาไว้แต่ก็รู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มให้กับแผนการนี้

 

“ทูตจากแผ่นดินใหญ่มีเด็กอยู่สองคนที่วางยาด้วยสุราไม่ได้ จะทำยังไงกับเด็กพวกนั้น?”

“ถามแปลกๆ เด็กตัวแค่นั้นจะทำอะไรได้? กินอิ่มแล้วก็นอนหลับ เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้เรื่องหรอก”

“…ข้าคิดเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเท่านั้น ถ้าเจ้ายืนยันเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”

 

  ชายชุดดำตัดสินใจใช้โอกาสที่หญิงสาวผู้นี้สร้างให้ เพื่อสังหารฮิโนเอะเท่านั้น เด็กกับผู้หญิงอ่อนแอใครๆก็จัดการได้ ยิ่งเป็นเด็กที่ไม่เคยจับดาบก็ไม่มีทางต่อกรกับพวกเขาได้เลย

 

“หึหึ น่าสงสารฮิโนเอะเหลือเกิน อุตส่าห์มีเพื่อนทั้งที คงต้องให้ไปหาใหม่ในนรกแล้วล่ะ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปไม่มีสิทธิ์หาความสุขใส่ตัว”

“อย่าพูดดัง กำแพงมีหูประตูมีตา”

 

  หญิงสาวไม่ใส่ใจมากนักเพราะเธอระวังตัวอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลาก่อนจะมาถึง แต่เมือถูกเตือนก็จะเงียบลง งานของเธอเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ให้ใครรับรู้ การเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องรวดเร็ว แม่นยำ และเงียบงัน

 

   หลังจากนี้ หญิงสาวและชายชุดดำก็เริ่มพูดคุยถึงรายระเอียดต่างๆที่จะต้องลงมือทำในวันพรุ่งนี้ ขั้นตอนการลอบสังหารฮิโนเอะกำลังถูกวางแผนท่ามกลางความมืดภายในบ้านเกิดของฮิโนเอะเอง โดยไม่มีใครรับรู้

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“อุหวา อู อา~ ”

“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

   รุ่งเช้า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เซเลน มารี และฮิโนเอะ ก็มาแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆติดกับภูเขาที่อยู่ถัดไปข้างหลังบ้านของคาเงะโทระ  ระยะทางก็ไม่ไกล มีถนนเข้าไปในป่า ขึ้นไปบนตัวเขาเล็กน้อยก็จะพบสถานที่เช่นนี้หลายแห่ง เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ตระกูลของคาเงะโทระครอบครอง รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแห่งนี้ด้วย

 

“การที่ท่านคาเงะโทระไม่ซื้อที่พักอาศัยในตัวเมืองไม่ใช่เพราะสภาพการเงิน แต่เพราะไม่ต้องการออกห่างสถานที่นี้เจ้าค่ะ”

 

   ฮิโนเอะกล่าว

 

   จริงๆแล้วในตอนนี้ฮิโนเอะจะต้องอยู่ช่วยงานของคนรับใช้คนอื่นๆ แต่มีสาวใช้คนหนึ่งบอกกับเธอว่า ‘ใช้เวลากับเพื่อนๆให้เต็มที่เถอะ’ เธอจึงใช้โอกาสนี้มาแช่น้ำพุร้อนกับเพื่อนเป็นครั้งแรก อนึ่ง น่าเสียดายที่บ่อนี้เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีความขุ่น ถึงจะมีภาพก็ไม่เห็นส่วนสำคัญใดๆ

 

“เอ่อ น้ำร้อนพอดีหรือไม่เจ้าคะ? แต่ถึงยังไงข้าน้อยก็คงทำอะไรกับมันไม่ได้…”

“ก็ดีนะ เพิ่งเคยอาบน้ำในที่โล่งครั้งแรกเลย แต่ถ้าติดเป็นนิสัยขึ้นมามันจะไม่ดี”

“ถ้าชอบ… ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”

“ส่วนเซเลน… ไม่ต้องถามก็รู้”

 

   ฮิโนเอะโล่งใจที่ทุกคนชอบ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติเป็นของแปลกใหม่สำหรับมารีที่คุ้นเคยกับอ่างอาบน้ำหินอ่อนในพระราชวัง ส่วนเซเลน แม้จะดูเหมือนเด็กผู้หญิงแต่ข้างในก็เป็นชายวัยกลางคน จึงชอบที่จะนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเฉยๆราวกับแมงกะพรุนลอยไปตามคลื่น

 

“คือว่า… หลังจากนี้ จะไปเดินชมในเมืองกันไหมเจ้าคะ? ท่านคาเงะโทระอนุญาตแล้ว ให้พาคนคุ้มกันไปด้วย”

“อืม ดีเหมือนกัน ฉันเองก็อยากเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนี้ด้วย”

“ไม่เอา”

 

   เซเลนปฏิเสธคำชวนของฮิโนเอะอย่างเรียบง่าย ถึงจะยอมออกมาแช่น้ำพุร้อนกับฮิโนเอะ แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ยังเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม และไม่มีความสนใจในวัฒนธรรมใดๆอยู่แล้วด้วย

 

   แต่ก็ยังแอบดีใจที่โลลิผมดำชวนไปเดท เพราะเมื่อวานก็เดินมาทั้งวันจนเหนื่อยแล้ว และมื้อเย็นของวันนี้ก็มีของที่พลาดไม่ได้อีก ถ้าวันนี้ต้องออกไปเดินในเมืองก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้าจนกินได้ไม่เต็มที่

 

   การ ‘เตรียมกระเพาะสำหรับซาชิมิ’ อาจฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เซเลนยังจำได้ในครั้งก่อน เจ้าหญิงเอนเต้บอกมาแค่ ‘อาหารจานพิเศษ ’ เท่านั้น เธอจึงไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ พอมารู้ที่หลังว่าเป็นเอ็นไก่ทอด ก็กินไม่ไหวจนปวดท้อง

 

   คราวนี้ไม่เหมือนกัน เพราะรู้ล่วงหน้าว่าศัตรูคือ ‘ซาชิมิ’ และ ‘เม่นทะเล’ ดังนั้นเธอจะคว้าชัยชนะให้ได้ในครั้งนี้ จึงต้องออมแรงไว้สู้ศึกจริง เหมือนนักกีฬาเข้าค่ายเก็บตัวก่อนแข่ง

 

“อื่ม… เซเลนไม่ถูกกับแสงแดดน่ะ ให้เธอได้พักผ่อนอยู่เฉยๆดีกว่า”

“ข้าน้อยก็เคยได้ยินมาว่าคนผิวขาวจะอ่อนไหวต่อแสงแดดได้ง่าย ท่านเซเลนคงลำบากมากเลยสินะเจ้าคะ”

“ไม่หนิ”

 

   เซเลนตอบฮิโนเอะไปอย่างสั้นๆ เซเลนแค่อยากแช่น้ำพุร้อนต่อไปอีกหน่อย และเรื่องที่ลำบากจริงๆก็เป็นเรื่องเจ้าชายต่างหาก ส่วนอาการแพ้แดดนั้น ทำให้เธอนอนกลางวันได้โดยไม่มีใครว่าอะไร ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ

 

“งั้นก็ เดี๋ยวพวกฉันไปกันก่อนก็แล้วกัน เธอกลับถูกนะ เซเลน”

“งื้อ”

 

   เซเลนตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้แปลกๆจนมารีและฮิโนเอะเกือบหลุดหัวเราะออกมา  เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนและเช็ดตัวให้แห้งเรียบร้อยแล้ว มารีที่ใส่ชุดสีแดงในตอนแรกก็เปลี่ยนมาใส่ชุดที่ฮิโนเอะเตรียมมาให้เธอ ชุดยูกาตะสีแดงลายดอกไม้ที่ฮิโนเอะพิจารณาตามรสนิยมชองมารี

 

“สายจัง คนอย่างฉันใส่อะไรก็ดูดีไปหมดจริงๆ”

“เหมาะมากจริงๆเจ้าค่ะ”

“คิดไม่ถึงเลยว่าของจริงจะสวยขนาดนี้ เคยเห็นแต่ผ้าโทรมๆที่คุมะฮาจิเอามาใส่จนคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นทั้งหมดเสียอีก”

“นักรบที่ทำตัวสมถะเช่นนั้นก็มีอยู่ไม่น้อยเจ้าค่ะ… แล้วก็ หากท่านชอบเครื่องแต่งกายของประเทศนี้ จะไปดูร้านกิโมโนในเมืองกันไหมเจ้าคะ?”

“ได้! ไปกันเลย! ถ้าดีจริงจะซื้อให้หมด! ไปกันเดี๋ยวนี้เลย ฮิโนเอะ!”

“เอ๋ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ!”

 

   ชุดยูกาตะของจริงดึงความสนใจของมารีไปได้ทั้งหมด เสื้อผ้าชนิดนี้แตกต่างจากชุดประจำของเธออย่างมาก เธอออกเดินไปในชุดยูกาตะและรองเท้าเดิมที่ดูไม่เข้ากัน ลงเนินเขาออกจากป่าไปตามทางโดยมีฮิโนเอะตามไปติดๆ เหลือแต่เซเลนที่ยังนอนแผ่อยู่กลางน้ำพุร้อน

 

   ทางด้านของบัตเลอร์ที่กลับมาในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพราะการออกสำรวจใช้เวลานานกว่าที่คิด เขาจึงยังเหนื่อยและหลับอยู่ในกล่องที่เซเลนเตรียมไว้ให้

   บริเวณโดยรอบมีระดับการรักษาความปลอดภัยสูง จึงปล่อยให้เซเลนอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องกังวล ทั้งที่จริง สิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือตัวเซเลนเอง

 

“อา”

 

   เมื่อได้อยู่คนเดียว เซเลนก็ยังแช่น้ำพุร้อนต่อไปจนตัวเริ่มเปลี่ยนสีเหมือนอาหารในหม้อต้มใกล้สุก ถึงการถ้ำมองสาวสวยซึ่งๆหน้าได้อย่างถูกกฎหมายจะน่าตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายก็ยังเด็กเกินไป ยังต้องรออีกหลายปี เพียงแค่นี้ยังไม่พอให้เซเลนเกิดความรู้สึกใดๆได้

 

   ไหนๆก็ได้มาแช่น้ำด้วยกันแล้ว ก็อยากจะขอลองชิมน้ำร้อนตรงที่สาวน้อยทั้งหลายเคยแช่หน่อย ว่ากันว่ากินแล้วสุขภาพแข็งแรงอายุยืน จึงอ้าปากให้น้ำเข้าไปเล็กน้อย และก็รู้สึกคึกคักเหมือนได้รับพลังงานบางอย่างเข้ามา แสดงว่ามันได้ผลจริงๆ(ล่ะมั้ง)

 

  หลังจากนั้นเซเลนก็แช่อยู่ต่ออีกนาน จนเรียกได้ว่านานเกินไปจนผิวขาวๆของเซเลนเปลี่ยนเป็นสีชมพูจากหลอดเลือดที่ขยายกว้างจนเลือดลมไหลเวียนผ่านใต้ผิวหนังปริมาณมาก ใครมาเห็นก็อาจจะเข้าใจว่าเป็นปีศาจชมพูได้

 

   ปีศาจชมพูตนนั้นขึ้นจากน้ำมาเช็ดตัวให้แห้งและแต่งกายด้วยชุดสีขาวตัวเดิมที่ใส่เป็นประจำ จากการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ทำให้เซเลนรู้ว่าประเทศนี้เกลียดชังทุกอย่างที่เกี่ยวกับเวทมนตร์

 

  เสื้อผ้าเสริมเวทมนตร์ก็ต้องไม่มีในประเทศนี้แน่นอน จริงๆแล้วเธอก็อยากได้ชุดยูกาตะแบบเก่าๆใส่สบายตามประสาคนแก่มากกว่า แต่ก็นำมาเป็นตัวเลือกไม่ได้จนต้องกลับมาใส่ชุดนี้

 

“อื่ม! เบียร์!”

 

   เมื่อแช่น้ำพุร้อนจนผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ที่แล้ว ขณะที่เดินลงเนินเขากลับไปตามทางเดิน เซเลนก็พูดสิ่งที่เธอต้องการเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการท่องเที่ยวครั้งนี้ ใช้แล้ว เบียร์ไงล่ะ หลังแช่น้ำต้องเบียร์เท่านั้น

 

“เฮ้อ…”

 

   แต่ก็เป็นความหวังลมๆแล้งๆ ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางได้มา ตอนที่ไปวัลเบิร์ดก็เคยลองขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน ใครที่ไหนจะให้เด็กดื่มของมึนเมา เงาเลี้ยงครั้งนี้มีได้แค่น้ำตาแทนเหล้าเท่านั้น

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

   หลังจากเก็บกวาดจากมื้อเข้า มื้อกลางวัน และเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับที่จะจัดขึ้นในมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเหล่าคนรับใช้ก็ได้เวลาพัก เพื่อที่จะได้มีแรงผ่านช่วงเวลาที่วุ่นวายต่อจากนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคาเงะโทระอย่างครบครัน วัตถุดิบที่ได้มาจากตลาดยังแหวกว่ายเตรียมพร้อมอยู่ในอ่างเพื่อคงความสดก่อนที่จะถูกพ่อครัวมืออาชีพเปลี่ยนสภาพหลังจากนี้

 

   เวลาพักผ่อนอันมีค่า ไม่มีใครคิดปฏิเสธช่วงเวลานี้ เมื่อไม่มีใครอยู่ในโรงครัว สาวใช้คนหนึ่งกลับเข้ามาอย่างเงียบๆ เบื้องหน้าของเธอคือสุราถังใหญ่สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ หน้าที่ของเธอคือผสมสิ่งที่เรียกว่ายาเปลี่ยนผันลงไปในถังนั้น เธอเปิดฝาถัง แกะห่อและเทผงสีขาวลงไป และใช้เครื่องครัวใกล้ๆคนให้เข้ากัน ยาตัวนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่มีรส เมื่อผสมลงไปแล้วก็จะไม่ทางดูออกได้เลย

 

“เอ้า เตรียมฉลองกันได้แล้ว”

 

   เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อถึงเวลา ยามทั้งหลายก็ไม่ต่างกับของประดับ ฮิโนเอะก็จะตายไปอย่างไร้ทางตอบโต้ เพียงเท่านี้ก็จะได้รับค่าจ้างจำนวนมากจากเจ้านายอีกคน และเธอก็จะนำเงินที่ได้รับมาไปใช้อย่างเพลิดเพลิน การ ‘ฉลอง’ ที่ว่านั้น มีความหมายเพื่อตัวเธอเอง

 

   งานใหญ่ในครั้งนี้เสร็จลงเมื่อใด ก็ไปรอรับรางวัลต่อได้ทันที มองเห็นอนาคตอันสดใสอยู่ไม่ไกล หลังจากปิดฝาถังให้เข้าที่แล้ว สาวใช้คนนั้นก็ออกประตูกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว

 

“น้ำ ขอน้ำ”

 

   ช่วงเวลาเดียวกันกับสาวใช้ที่ออกไป เซเลนก็เปิดประตูเข้ามาจากอีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับสวน เพราะแช่น้ำร้อนมานานจึงต้องการเครื่องดื่มเย็นๆ ในเมื่อขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ นมหวานก็ไม่น่าจะมี สุดท้ายก็ต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างช่วยไม่ได้

 

“ไม่อยู่?”

 

   ถึงอย่างนั้น ทั้งๆที่เธอต้องการแค่น้ำดื่ม แต่เมื่อพูดออกไปก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา มองไปรอบๆก็ไม่มีใคร ในเมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว เซเลนไม่มีทางกลับไปรอเฉยๆและกลับมาใหม่อีกครั้ง แค่น้ำเปล่า หามาดื่มเองก็ได้ เซเลนจึงเข้าไปในโรงครัวอย่างเงียบๆ

 

“นี่ไง!”

 

   เธอเชื่อว่าในเมื่อเป็นพื้นที่สำหรับประกอบอาหาร จึงต้องมีน้ำดื่มเตรียมไว้อย่างเพียงพอ ในที่สุดก็เห็นถังใส่น้ำอยู่ตรงนั้น จึงหยิบกระบวยใกล้ๆ เตรียมตักน้ำขึ้นมาดื่มกิน

 

“…หืม?”

 

   แต่แล้ว เซเลนก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ กระบวยที่ถืออยู่นี้มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ แม้ว่าเซเลนตามปรกติจะเฉื่อยสักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ จมูกของเธอจะไวยิ่งกว่าสุนัข

 

“นี่มัน… สาเก!?”

 

   มีสาเกอยู่แถวนี้แน่นอน วินาทีถัดมาสมาธิของเซเลนก็พุ่งสูงขึ้นจนเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นสาเกจางๆที่ออกมาจากถังใบใหญ่ เธอจึงลากเก้าอีขึ้นไปยืนเกาะขอบถังและออกแรงดันฝาหนักๆด้านบนให้เคลื่อนออกเพื่อดูของที่อยู่ข้างใน

 

“โอ้ว!?”

 

   เซเลนตะโกนออกมาเสียงดัง เหล้า! สาเก! แอลกอฮอล์! อะไรก็ตามที่ทำให้เมินถังน้ำข้างๆไปได้อย่างสมบูรณ์ เซเลนจุ่มกระบวยลงไปตักของเหลวในถัง ยกขึ้นมาจิบเบาๆให้รสชาติกระจายอยู่ในปาก

 

“นี่แหละ ของดี!”

 

   ความรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เซเลนตัวสั่นน้ำตาไหล ถึงจะพยายามกลั้นน้ำตายังไงก็ไหลออกมาไม่หยุด เธออดทนรอสิ่งนี้มานานหลายปี ไม่มีทางที่จะอดใจไหว เธอจึงยกกระบวยในมือขึ้นดื่มเข้าไปอีกอึก

 

“ฮ่า! สุดยอดจริงๆ ให้ตายเถอะ!”

 

   จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สนแล้ว เซเลนถึงกับหลุดคำอุทานที่ไม่เข้ากับเธอออกมา และเตรียมยกกระบวยขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

 

“โอ๊ะ!”

 

   น่าแปลกที่เซเลนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทั้งๆที่มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่เธอก็ปิดฝา ลากเก้าอี้กลับไปไว้ที่เดิม จัดทุกอย่างให้เข้าที่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เกือบไป…”

 

   เกือบควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่และดื่มต่อไปจนเมามาย ลองคิดดูให้ดีๆ สิ่งที่ทำอยู่นี้คือการลักขโมย ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ เซเลนชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ หากเธอเป็นฝ่ายที่ถูกขโมยเครื่องดื่มเสียเอง ต้องโกรธมากแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็สำนึกผิดขึ้นมาทันที

 

   ยิ่งไปกว่านั้น หากมัวแต่หลงไปกับของมึนเมาอยู่ตรงนี้ ก็จะสูญเสียโอกาสเดียวที่จะได้กินซาชิมิกับเม่นทะเลไป ในเมื่อเหล้านั้นหาที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ซาชิมิ นอกจากที่นี่ตอนนี้ ก็หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

“อุ แย่จัง”

 

  สุดท้ายแล้วเซเลนก็กลับห้องไปแต่โดยดีหลังจากดื่มไปได้นิดหน่อยพอดับกระหาย ครั้งนี้จะยอมให้ไปก่อน ถอยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 14

เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

 

 

   ก่อนหมดวัน คาเงะโทระสั่งคนรับใช้ให้จัดการตามคำขอของเซเลนที่ได้คุยกันก่อนหน้า และงานของวันนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น คนรับใช้ที่ไม่ได้พักอยู่ในบ้านก็เริ่มเดินทางกลับบ้านของแต่ละคน เวรยามที่ต้องทำหน้าทีรักษาความปลอดภัยให้กับคาเงะโทระและฮิโนเอะนั้นจะมีห้องพักให้ในเขตรั้วบ้าน แต่คนรับใช้ส่วนใหญ่จะมีบ้านของตัวเองอยู่ในเมือง บ้านตระกูลของคาเงะโทระไม่ได้ใหญ่โตขนาดมีพื้นที่ให้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ได้ตลอดเวลา

 

   หนึ่งในสาวใช้ของคาเงะโทระที่คอยรับใช้อยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำก็กลับไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ เธอเดินเลี้ยวไปตามมุมถนนอันมืดมิดอยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา และเธอก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านตระกูลนักรบตระกูลอื่นในตัวเมือง แตกต่างจากบ้านของคาเงะโทระที่อยู่ติดกับพื้นที่เกษตรกรรม

 

  จากนั้นเธอก็อ้อมไปทางประตูหลังที่เป็นทางเข้าออกสำหรับคนรับใช้ เมื่อผ่านกำแพงเข้ามาด้านในก็เดินต่อไปผ่านสวนจนมาถึงอาคารที่เหมือนโรงเก็บของในส่วนที่พักอาศัย เข้าใกล้ประตูที่ปิดสนิทของอาคารนั้น และเธอก็

 

“เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้”

 

   หลังพูดออกไปไม่นาน บานประตูก็ถูกแง้มเปิดจากด้านใน ข้างในโรงเก็บของไม่มีแสงสว่างใดๆ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั้น แสงจันทร์เพียงเล็กน้อยที่ลอดผ่านประตูที่เปิดเข้าไปทำให้มองเห็นชายผู้หนึ่งที่ปกปิดทั้งร่างกายด้วยเสื้อผ้าสีดำจนเหลือแต่ดวงตาอันน่าขนลุกจ้องมองมา

 

“ช้าเกินไปแล้ว จะให้รออีกนานแค่ไหน”

 

   ชายในชุดดำพูดเสียงดุดัน

 

“ขออภัย เจ้าบ้านของทางนั้นค่อนข้างขี้ระแวง”

“เอาเถอะ อย่างน้อยก็ขอให้เป็นข่าวดีว่าถึงเวลาให้พวกข้าลงมือได้สักที”

“ใช่แล้ว ถึงเวลาของพวกท่านแล้ว”

 

   หญิงสาวแสยะยิ้ม แต่ชายในชุดดำก็ไม่มีการตอบสนอง ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุม หญิงสาวได้พูดต่อไป

 

“นายใหญ่ก็ใจดำเหลือเกิน ฮิโนเอะได้อยู่อย่างสงบสุขทั้งที แต่อีกไม่นานก็ได้เวลาตายเสียแล้ว”

“พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของทานุกิเฒ่านั่นเท่านั้น เรื่องอื่นข้าไม่สน”

 

   หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ชายในชุดดำก็ยังคงเย็นชา

 

“การดำรงอยู่ของผู้ครอบครองพลังต้องสาปที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตระกูล เป็นเรื่องที่นายใหญ่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของข้า เพียงแค่จ่ายเงินมาใครครบก็พอ”

“เงินที่ว่า นายใหญ่ก็ได้มาจากคาเงะโทระ เด็กก็เป็นของทางนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“หากลงมือเองก็จะเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ถึงต้องจ้างพวกเราอยู่นี่ไงล่ะ ตั้งใจทำตามคำสั่งให้สำเร็จก็พอ”

 

   ชายในชุดดำตอบอย่างไร้ความลังเล ทั้งหมดนี้คือการสนทนาของนักโจรกรรมทั้งสองที่ถูกจ้างมา หญิงสาวที่แฝงตัวเป็นสาวใช้เข้าไปหาข้อมูลและอำนวยความสะดวกจากภายใน กับชายผู้ที่จะนำกลุ่มนักลอบสังหารเข้าไปลงมือ ทั้งหมดได้ถูกเตรียมการจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

 

“ได้ยินมาว่าฮิโนเอะสามารถอ่านใจคนอื่นได้ แต่ก็ยังเป็นเด็กอ่อนหัด คงคิดว่าทุกคนที่รับใช้คาเงะโทระจะเป็นพวกเดียวกันหมด วันนี้ตอนเจอกันยังทักทายตามปรกติเลย”

 

   หญิงสาวเยาะเย้ยให้กับความไว้ใจของฮิโนเอะ ในตอนที่เข้าไปทำงานให้กับคาเงะโทระช่วงแรกๆก็กลัวว่าแผนการนี้จะถูกเปิดเผย แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเป็นเช่นนั้นเลย ทุกอย่างราบรื่นจนบางครั้งยังสงสัยว่าฮิโนเอะมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆหรือ

 

   ผู้ว่าจ้างก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อแท้ๆของฮิโนเอะ ที่คิดว่าฮิโนเอะคือสายเลือดอันด่างพร้อยของตระกูล ทั้งที่ตามกฎหมาย ฮิโนเอะเป็นคนของบ้านคาเงะโทระอย่างถูกต้อง แต่ตราบใดที่ฮิโนเอะยังมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นจุดอ่อนสำหรับกล่าวหาตระกูลของเขาได้ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปคือตัวกาลกิณีสำหรับประเทศนี้ ต้องกำจัดอย่างเงียบๆก่อนจะเป็นภัยย้อนกลับมาทำร้ายตระกูล

 

“แล้วเหตุผลที่เลือกเวลานี้ล่ะ? เจ้าคาเงะโทระนั่นถึงจะอ่อนเอแต่ก็ไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม ออกจะฉลาดจนไม่เผยช่องว่างด้วยซ้ำ”

“หึหึ รู้เรื่องแขกจากต่างแดนแล้วใช่ไหม? เมื่อกี้ได้รับคำสั่งจากคาเงะโทระว่า ‘วันนี้มีเวลาเตรียมการไม่มาก พรุ่งนี้ให้ออกหาซื้อของสดแต่เช้าสำหรับงานเลี้ยงในตอนค่ำ’ น่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่เลยล่ะ”

“แล้วมันยังไง?”

 

   ขายในชุดดำถามต่อไป หญิงสาวจึงแนะนำแผนของเธอต่อ

 

“งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแผ่นดินใหญ่เชียวนะ ต้องจัดให้เต็มที่อยู่แล้ว ทั้งเวรยาม คนรับใช้ ผู้ติดตามระดับล่างก็ร่วมฉลองได้ทุกคน และในคำสั่งที่ให้ซื้อก็มีสุราอยู่ด้วย เหมาะกับไอ้นี่พอดีเลย”

 

  สิ่งที่หญิงสาวหยิบออกมาจากข้างในเสื้อของเธอคือห่อเล็กๆ เมื่อคลายออกก็เห็นผงสีขาวอยู่ข้างใน

 

“ยาเปลี่ยนผัน น่ะเหรอ”

“รู้ก็ดีแล้ว ผลผลิตของผู้ครอบครองพลังต้องสาปคนหนึ่งก่อนจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ มีผลทำให้นิสัยกลับตาลปัตร คนขี้ขลาดจะกล้าหาญจนออกรบได้ ซึ่งในทางกลับกัน คนกล้าหาญจะขี้ขลาด คนขยันจะขี้เกียจ”

 

   เธอยังบอกอีกว่าต้องลำบากเพียงใดกว่าจะได้มันมา แม้อาคมจะเป็นสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล แต่ก็ยังถูกใช้กันอย่างลับๆ สิ่งที่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์นั้นมักจะถูกใช้ประโยชน์ในเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีนักเป็นประจำ และพลังต้องสาปบางประเภทยังมีผลทำให้ประสาทหลอนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้คนจึงรังเกียจและมองในแง่ร้ายจนเป็นอคติ

 

“ใส่มันในสุราและให้พวกยามกินเข้าไป สุนัขเฝ้าบ้านของคาเงะโทระที่ตั้งใจทำงานกันอย่างขันแข็งรอบคอบก็จะไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเป็นแค่ฝูงวัวเชื่องๆ”

“เวรยามก็จะหละหลวม จะเข้าหรือออกก็ไม่มีใครมาขวาง”

“งานเลี้ยงต้อนรับทูตจากแผ่นดินใหญ่ทำให้ยามทั้งหลายปล่อยตัวไปตามบรรยากาศมากเกินไป และ ‘บังเอิญ’ มีโจรบุกเข้าไปในช่วงนั้นพอดีจนฮิโนเอะต้องรับเคราะห์”

 

   หญิงสาวพูดถึงแผนการสังหารฮิโนเอะได้อย่างหน้าตาเฉย ชายชุดดำไม่พูดอะไร เพียงแค่หรี่ตาลงเล็กน้อย ถึงจะปกปิดใบหน้าเอาไว้แต่ก็รู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มให้กับแผนการนี้

 

“ทูตจากแผ่นดินใหญ่มีเด็กอยู่สองคนที่วางยาด้วยสุราไม่ได้ จะทำยังไงกับเด็กพวกนั้น?”

“ถามแปลกๆ เด็กตัวแค่นั้นจะทำอะไรได้? กินอิ่มแล้วก็นอนหลับ เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้เรื่องหรอก”

“…ข้าคิดเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเท่านั้น ถ้าเจ้ายืนยันเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”

 

  ชายชุดดำตัดสินใจใช้โอกาสที่หญิงสาวผู้นี้สร้างให้ เพื่อสังหารฮิโนเอะเท่านั้น เด็กกับผู้หญิงอ่อนแอใครๆก็จัดการได้ ยิ่งเป็นเด็กที่ไม่เคยจับดาบก็ไม่มีทางต่อกรกับพวกเขาได้เลย

 

“หึหึ น่าสงสารฮิโนเอะเหลือเกิน อุตส่าห์มีเพื่อนทั้งที คงต้องให้ไปหาใหม่ในนรกแล้วล่ะ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปไม่มีสิทธิ์หาความสุขใส่ตัว”

“อย่าพูดดัง กำแพงมีหูประตูมีตา”

 

  หญิงสาวไม่ใส่ใจมากนักเพราะเธอระวังตัวอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลาก่อนจะมาถึง แต่เมือถูกเตือนก็จะเงียบลง งานของเธอเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ให้ใครรับรู้ การเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องรวดเร็ว แม่นยำ และเงียบงัน

 

   หลังจากนี้ หญิงสาวและชายชุดดำก็เริ่มพูดคุยถึงรายระเอียดต่างๆที่จะต้องลงมือทำในวันพรุ่งนี้ ขั้นตอนการลอบสังหารฮิโนเอะกำลังถูกวางแผนท่ามกลางความมืดภายในบ้านเกิดของฮิโนเอะเอง โดยไม่มีใครรับรู้

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“อุหวา อู อา~ ”

“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

   รุ่งเช้า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เซเลน มารี และฮิโนเอะ ก็มาแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆติดกับภูเขาที่อยู่ถัดไปข้างหลังบ้านของคาเงะโทระ  ระยะทางก็ไม่ไกล มีถนนเข้าไปในป่า ขึ้นไปบนตัวเขาเล็กน้อยก็จะพบสถานที่เช่นนี้หลายแห่ง เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ตระกูลของคาเงะโทระครอบครอง รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแห่งนี้ด้วย

 

“การที่ท่านคาเงะโทระไม่ซื้อที่พักอาศัยในตัวเมืองไม่ใช่เพราะสภาพการเงิน แต่เพราะไม่ต้องการออกห่างสถานที่นี้เจ้าค่ะ”

 

   ฮิโนเอะกล่าว

 

   จริงๆแล้วในตอนนี้ฮิโนเอะจะต้องอยู่ช่วยงานของคนรับใช้คนอื่นๆ แต่มีสาวใช้คนหนึ่งบอกกับเธอว่า ‘ใช้เวลากับเพื่อนๆให้เต็มที่เถอะ’ เธอจึงใช้โอกาสนี้มาแช่น้ำพุร้อนกับเพื่อนเป็นครั้งแรก อนึ่ง น่าเสียดายที่บ่อนี้เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีความขุ่น ถึงจะมีภาพก็ไม่เห็นส่วนสำคัญใดๆ

 

“เอ่อ น้ำร้อนพอดีหรือไม่เจ้าคะ? แต่ถึงยังไงข้าน้อยก็คงทำอะไรกับมันไม่ได้…”

“ก็ดีนะ เพิ่งเคยอาบน้ำในที่โล่งครั้งแรกเลย แต่ถ้าติดเป็นนิสัยขึ้นมามันจะไม่ดี”

“ถ้าชอบ… ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”

“ส่วนเซเลน… ไม่ต้องถามก็รู้”

 

   ฮิโนเอะโล่งใจที่ทุกคนชอบ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติเป็นของแปลกใหม่สำหรับมารีที่คุ้นเคยกับอ่างอาบน้ำหินอ่อนในพระราชวัง ส่วนเซเลน แม้จะดูเหมือนเด็กผู้หญิงแต่ข้างในก็เป็นชายวัยกลางคน จึงชอบที่จะนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเฉยๆราวกับแมงกะพรุนลอยไปตามคลื่น

 

“คือว่า… หลังจากนี้ จะไปเดินชมในเมืองกันไหมเจ้าคะ? ท่านคาเงะโทระอนุญาตแล้ว ให้พาคนคุ้มกันไปด้วย”

“อืม ดีเหมือนกัน ฉันเองก็อยากเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนี้ด้วย”

“ไม่เอา”

 

   เซเลนปฏิเสธคำชวนของฮิโนเอะอย่างเรียบง่าย ถึงจะยอมออกมาแช่น้ำพุร้อนกับฮิโนเอะ แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ยังเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม และไม่มีความสนใจในวัฒนธรรมใดๆอยู่แล้วด้วย

 

   แต่ก็ยังแอบดีใจที่โลลิผมดำชวนไปเดท เพราะเมื่อวานก็เดินมาทั้งวันจนเหนื่อยแล้ว และมื้อเย็นของวันนี้ก็มีของที่พลาดไม่ได้อีก ถ้าวันนี้ต้องออกไปเดินในเมืองก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้าจนกินได้ไม่เต็มที่

 

   การ ‘เตรียมกระเพาะสำหรับซาชิมิ’ อาจฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เซเลนยังจำได้ในครั้งก่อน เจ้าหญิงเอนเต้บอกมาแค่ ‘อาหารจานพิเศษ ’ เท่านั้น เธอจึงไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ พอมารู้ที่หลังว่าเป็นเอ็นไก่ทอด ก็กินไม่ไหวจนปวดท้อง

 

   คราวนี้ไม่เหมือนกัน เพราะรู้ล่วงหน้าว่าศัตรูคือ ‘ซาชิมิ’ และ ‘เม่นทะเล’ ดังนั้นเธอจะคว้าชัยชนะให้ได้ในครั้งนี้ จึงต้องออมแรงไว้สู้ศึกจริง เหมือนนักกีฬาเข้าค่ายเก็บตัวก่อนแข่ง

 

“อื่ม… เซเลนไม่ถูกกับแสงแดดน่ะ ให้เธอได้พักผ่อนอยู่เฉยๆดีกว่า”

“ข้าน้อยก็เคยได้ยินมาว่าคนผิวขาวจะอ่อนไหวต่อแสงแดดได้ง่าย ท่านเซเลนคงลำบากมากเลยสินะเจ้าคะ”

“ไม่หนิ”

 

   เซเลนตอบฮิโนเอะไปอย่างสั้นๆ เซเลนแค่อยากแช่น้ำพุร้อนต่อไปอีกหน่อย และเรื่องที่ลำบากจริงๆก็เป็นเรื่องเจ้าชายต่างหาก ส่วนอาการแพ้แดดนั้น ทำให้เธอนอนกลางวันได้โดยไม่มีใครว่าอะไร ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ

 

“งั้นก็ เดี๋ยวพวกฉันไปกันก่อนก็แล้วกัน เธอกลับถูกนะ เซเลน”

“งื้อ”

 

   เซเลนตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้แปลกๆจนมารีและฮิโนเอะเกือบหลุดหัวเราะออกมา  เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนและเช็ดตัวให้แห้งเรียบร้อยแล้ว มารีที่ใส่ชุดสีแดงในตอนแรกก็เปลี่ยนมาใส่ชุดที่ฮิโนเอะเตรียมมาให้เธอ ชุดยูกาตะสีแดงลายดอกไม้ที่ฮิโนเอะพิจารณาตามรสนิยมชองมารี

 

“สายจัง คนอย่างฉันใส่อะไรก็ดูดีไปหมดจริงๆ”

“เหมาะมากจริงๆเจ้าค่ะ”

“คิดไม่ถึงเลยว่าของจริงจะสวยขนาดนี้ เคยเห็นแต่ผ้าโทรมๆที่คุมะฮาจิเอามาใส่จนคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นทั้งหมดเสียอีก”

“นักรบที่ทำตัวสมถะเช่นนั้นก็มีอยู่ไม่น้อยเจ้าค่ะ… แล้วก็ หากท่านชอบเครื่องแต่งกายของประเทศนี้ จะไปดูร้านกิโมโนในเมืองกันไหมเจ้าคะ?”

“ได้! ไปกันเลย! ถ้าดีจริงจะซื้อให้หมด! ไปกันเดี๋ยวนี้เลย ฮิโนเอะ!”

“เอ๋ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ!”

 

   ชุดยูกาตะของจริงดึงความสนใจของมารีไปได้ทั้งหมด เสื้อผ้าชนิดนี้แตกต่างจากชุดประจำของเธออย่างมาก เธอออกเดินไปในชุดยูกาตะและรองเท้าเดิมที่ดูไม่เข้ากัน ลงเนินเขาออกจากป่าไปตามทางโดยมีฮิโนเอะตามไปติดๆ เหลือแต่เซเลนที่ยังนอนแผ่อยู่กลางน้ำพุร้อน

 

   ทางด้านของบัตเลอร์ที่กลับมาในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพราะการออกสำรวจใช้เวลานานกว่าที่คิด เขาจึงยังเหนื่อยและหลับอยู่ในกล่องที่เซเลนเตรียมไว้ให้

   บริเวณโดยรอบมีระดับการรักษาความปลอดภัยสูง จึงปล่อยให้เซเลนอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องกังวล ทั้งที่จริง สิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือตัวเซเลนเอง

 

“อา”

 

   เมื่อได้อยู่คนเดียว เซเลนก็ยังแช่น้ำพุร้อนต่อไปจนตัวเริ่มเปลี่ยนสีเหมือนอาหารในหม้อต้มใกล้สุก ถึงการถ้ำมองสาวสวยซึ่งๆหน้าได้อย่างถูกกฎหมายจะน่าตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายก็ยังเด็กเกินไป ยังต้องรออีกหลายปี เพียงแค่นี้ยังไม่พอให้เซเลนเกิดความรู้สึกใดๆได้

 

   ไหนๆก็ได้มาแช่น้ำด้วยกันแล้ว ก็อยากจะขอลองชิมน้ำร้อนตรงที่สาวน้อยทั้งหลายเคยแช่หน่อย ว่ากันว่ากินแล้วสุขภาพแข็งแรงอายุยืน จึงอ้าปากให้น้ำเข้าไปเล็กน้อย และก็รู้สึกคึกคักเหมือนได้รับพลังงานบางอย่างเข้ามา แสดงว่ามันได้ผลจริงๆ(ล่ะมั้ง)

 

  หลังจากนั้นเซเลนก็แช่อยู่ต่ออีกนาน จนเรียกได้ว่านานเกินไปจนผิวขาวๆของเซเลนเปลี่ยนเป็นสีชมพูจากหลอดเลือดที่ขยายกว้างจนเลือดลมไหลเวียนผ่านใต้ผิวหนังปริมาณมาก ใครมาเห็นก็อาจจะเข้าใจว่าเป็นปีศาจชมพูได้

 

   ปีศาจชมพูตนนั้นขึ้นจากน้ำมาเช็ดตัวให้แห้งและแต่งกายด้วยชุดสีขาวตัวเดิมที่ใส่เป็นประจำ จากการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ทำให้เซเลนรู้ว่าประเทศนี้เกลียดชังทุกอย่างที่เกี่ยวกับเวทมนตร์

 

  เสื้อผ้าเสริมเวทมนตร์ก็ต้องไม่มีในประเทศนี้แน่นอน จริงๆแล้วเธอก็อยากได้ชุดยูกาตะแบบเก่าๆใส่สบายตามประสาคนแก่มากกว่า แต่ก็นำมาเป็นตัวเลือกไม่ได้จนต้องกลับมาใส่ชุดนี้

 

“อื่ม! เบียร์!”

 

   เมื่อแช่น้ำพุร้อนจนผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ที่แล้ว ขณะที่เดินลงเนินเขากลับไปตามทางเดิน เซเลนก็พูดสิ่งที่เธอต้องการเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการท่องเที่ยวครั้งนี้ ใช้แล้ว เบียร์ไงล่ะ หลังแช่น้ำต้องเบียร์เท่านั้น

 

“เฮ้อ…”

 

   แต่ก็เป็นความหวังลมๆแล้งๆ ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางได้มา ตอนที่ไปวัลเบิร์ดก็เคยลองขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน ใครที่ไหนจะให้เด็กดื่มของมึนเมา เงาเลี้ยงครั้งนี้มีได้แค่น้ำตาแทนเหล้าเท่านั้น

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

   หลังจากเก็บกวาดจากมื้อเข้า มื้อกลางวัน และเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับที่จะจัดขึ้นในมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเหล่าคนรับใช้ก็ได้เวลาพัก เพื่อที่จะได้มีแรงผ่านช่วงเวลาที่วุ่นวายต่อจากนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคาเงะโทระอย่างครบครัน วัตถุดิบที่ได้มาจากตลาดยังแหวกว่ายเตรียมพร้อมอยู่ในอ่างเพื่อคงความสดก่อนที่จะถูกพ่อครัวมืออาชีพเปลี่ยนสภาพหลังจากนี้

 

   เวลาพักผ่อนอันมีค่า ไม่มีใครคิดปฏิเสธช่วงเวลานี้ เมื่อไม่มีใครอยู่ในโรงครัว สาวใช้คนหนึ่งกลับเข้ามาอย่างเงียบๆ เบื้องหน้าของเธอคือสุราถังใหญ่สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ หน้าที่ของเธอคือผสมสิ่งที่เรียกว่ายาเปลี่ยนผันลงไปในถังนั้น เธอเปิดฝาถัง แกะห่อและเทผงสีขาวลงไป และใช้เครื่องครัวใกล้ๆคนให้เข้ากัน ยาตัวนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่มีรส เมื่อผสมลงไปแล้วก็จะไม่ทางดูออกได้เลย

 

“เอ้า เตรียมฉลองกันได้แล้ว”

 

   เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อถึงเวลา ยามทั้งหลายก็ไม่ต่างกับของประดับ ฮิโนเอะก็จะตายไปอย่างไร้ทางตอบโต้ เพียงเท่านี้ก็จะได้รับค่าจ้างจำนวนมากจากเจ้านายอีกคน และเธอก็จะนำเงินที่ได้รับมาไปใช้อย่างเพลิดเพลิน การ ‘ฉลอง’ ที่ว่านั้น มีความหมายเพื่อตัวเธอเอง

 

   งานใหญ่ในครั้งนี้เสร็จลงเมื่อใด ก็ไปรอรับรางวัลต่อได้ทันที มองเห็นอนาคตอันสดใสอยู่ไม่ไกล หลังจากปิดฝาถังให้เข้าที่แล้ว สาวใช้คนนั้นก็ออกประตูกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว

 

“น้ำ ขอน้ำ”

 

   ช่วงเวลาเดียวกันกับสาวใช้ที่ออกไป เซเลนก็เปิดประตูเข้ามาจากอีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับสวน เพราะแช่น้ำร้อนมานานจึงต้องการเครื่องดื่มเย็นๆ ในเมื่อขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ นมหวานก็ไม่น่าจะมี สุดท้ายก็ต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างช่วยไม่ได้

 

“ไม่อยู่?”

 

   ถึงอย่างนั้น ทั้งๆที่เธอต้องการแค่น้ำดื่ม แต่เมื่อพูดออกไปก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา มองไปรอบๆก็ไม่มีใคร ในเมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว เซเลนไม่มีทางกลับไปรอเฉยๆและกลับมาใหม่อีกครั้ง แค่น้ำเปล่า หามาดื่มเองก็ได้ เซเลนจึงเข้าไปในโรงครัวอย่างเงียบๆ

 

“นี่ไง!”

 

   เธอเชื่อว่าในเมื่อเป็นพื้นที่สำหรับประกอบอาหาร จึงต้องมีน้ำดื่มเตรียมไว้อย่างเพียงพอ ในที่สุดก็เห็นถังใส่น้ำอยู่ตรงนั้น จึงหยิบกระบวยใกล้ๆ เตรียมตักน้ำขึ้นมาดื่มกิน

 

“…หืม?”

 

   แต่แล้ว เซเลนก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ กระบวยที่ถืออยู่นี้มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ แม้ว่าเซเลนตามปรกติจะเฉื่อยสักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ จมูกของเธอจะไวยิ่งกว่าสุนัข

 

“นี่มัน… สาเก!?”

 

   มีสาเกอยู่แถวนี้แน่นอน วินาทีถัดมาสมาธิของเซเลนก็พุ่งสูงขึ้นจนเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นสาเกจางๆที่ออกมาจากถังใบใหญ่ เธอจึงลากเก้าอีขึ้นไปยืนเกาะขอบถังและออกแรงดันฝาหนักๆด้านบนให้เคลื่อนออกเพื่อดูของที่อยู่ข้างใน

 

“โอ้ว!?”

 

   เซเลนตะโกนออกมาเสียงดัง เหล้า! สาเก! แอลกอฮอล์! อะไรก็ตามที่ทำให้เมินถังน้ำข้างๆไปได้อย่างสมบูรณ์ เซเลนจุ่มกระบวยลงไปตักของเหลวในถัง ยกขึ้นมาจิบเบาๆให้รสชาติกระจายอยู่ในปาก

 

“นี่แหละ ของดี!”

 

   ความรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เซเลนตัวสั่นน้ำตาไหล ถึงจะพยายามกลั้นน้ำตายังไงก็ไหลออกมาไม่หยุด เธออดทนรอสิ่งนี้มานานหลายปี ไม่มีทางที่จะอดใจไหว เธอจึงยกกระบวยในมือขึ้นดื่มเข้าไปอีกอึก

 

“ฮ่า! สุดยอดจริงๆ ให้ตายเถอะ!”

 

   จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สนแล้ว เซเลนถึงกับหลุดคำอุทานที่ไม่เข้ากับเธอออกมา และเตรียมยกกระบวยขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

 

“โอ๊ะ!”

 

   น่าแปลกที่เซเลนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทั้งๆที่มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่เธอก็ปิดฝา ลากเก้าอี้กลับไปไว้ที่เดิม จัดทุกอย่างให้เข้าที่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เกือบไป…”

 

   เกือบควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่และดื่มต่อไปจนเมามาย ลองคิดดูให้ดีๆ สิ่งที่ทำอยู่นี้คือการลักขโมย ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ เซเลนชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ หากเธอเป็นฝ่ายที่ถูกขโมยเครื่องดื่มเสียเอง ต้องโกรธมากแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็สำนึกผิดขึ้นมาทันที

 

   ยิ่งไปกว่านั้น หากมัวแต่หลงไปกับของมึนเมาอยู่ตรงนี้ ก็จะสูญเสียโอกาสเดียวที่จะได้กินซาชิมิกับเม่นทะเลไป ในเมื่อเหล้านั้นหาที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ซาชิมิ นอกจากที่นี่ตอนนี้ ก็หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

“อุ แย่จัง”

 

  สุดท้ายแล้วเซเลนก็กลับห้องไปแต่โดยดีหลังจากดื่มไปได้นิดหน่อยพอดับกระหาย ครั้งนี้จะยอมให้ไปก่อน ถอยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

Now you are reading [นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์ Chapter 46.14: เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนพิเศษ 14

เซเลน สู่แดนตะวันออก (ตอน6)

 

 

   ก่อนหมดวัน คาเงะโทระสั่งคนรับใช้ให้จัดการตามคำขอของเซเลนที่ได้คุยกันก่อนหน้า และงานของวันนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น คนรับใช้ที่ไม่ได้พักอยู่ในบ้านก็เริ่มเดินทางกลับบ้านของแต่ละคน เวรยามที่ต้องทำหน้าทีรักษาความปลอดภัยให้กับคาเงะโทระและฮิโนเอะนั้นจะมีห้องพักให้ในเขตรั้วบ้าน แต่คนรับใช้ส่วนใหญ่จะมีบ้านของตัวเองอยู่ในเมือง บ้านตระกูลของคาเงะโทระไม่ได้ใหญ่โตขนาดมีพื้นที่ให้คนจำนวนมากอาศัยอยู่ได้ตลอดเวลา

 

   หนึ่งในสาวใช้ของคาเงะโทระที่คอยรับใช้อยู่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำก็กลับไปด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มุ่งตรงกลับบ้านเหมือนคนอื่นๆ เธอเดินเลี้ยวไปตามมุมถนนอันมืดมิดอยู่หลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามมา และเธอก็มาหยุดอยู่หน้าบ้านตระกูลนักรบตระกูลอื่นในตัวเมือง แตกต่างจากบ้านของคาเงะโทระที่อยู่ติดกับพื้นที่เกษตรกรรม

 

  จากนั้นเธอก็อ้อมไปทางประตูหลังที่เป็นทางเข้าออกสำหรับคนรับใช้ เมื่อผ่านกำแพงเข้ามาด้านในก็เดินต่อไปผ่านสวนจนมาถึงอาคารที่เหมือนโรงเก็บของในส่วนที่พักอาศัย เข้าใกล้ประตูที่ปิดสนิทของอาคารนั้น และเธอก็

 

“เมฆบังดวงจันทร์ ลมพัดกลีบดอกไม้”

 

   หลังพูดออกไปไม่นาน บานประตูก็ถูกแง้มเปิดจากด้านใน ข้างในโรงเก็บของไม่มีแสงสว่างใดๆ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั้น แสงจันทร์เพียงเล็กน้อยที่ลอดผ่านประตูที่เปิดเข้าไปทำให้มองเห็นชายผู้หนึ่งที่ปกปิดทั้งร่างกายด้วยเสื้อผ้าสีดำจนเหลือแต่ดวงตาอันน่าขนลุกจ้องมองมา

 

“ช้าเกินไปแล้ว จะให้รออีกนานแค่ไหน”

 

   ชายในชุดดำพูดเสียงดุดัน

 

“ขออภัย เจ้าบ้านของทางนั้นค่อนข้างขี้ระแวง”

“เอาเถอะ อย่างน้อยก็ขอให้เป็นข่าวดีว่าถึงเวลาให้พวกข้าลงมือได้สักที”

“ใช่แล้ว ถึงเวลาของพวกท่านแล้ว”

 

   หญิงสาวแสยะยิ้ม แต่ชายในชุดดำก็ไม่มีการตอบสนอง ท่ามกลางความเงียบที่ปกคลุม หญิงสาวได้พูดต่อไป

 

“นายใหญ่ก็ใจดำเหลือเกิน ฮิโนเอะได้อยู่อย่างสงบสุขทั้งที แต่อีกไม่นานก็ได้เวลาตายเสียแล้ว”

“พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของทานุกิเฒ่านั่นเท่านั้น เรื่องอื่นข้าไม่สน”

 

   หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ชายในชุดดำก็ยังคงเย็นชา

 

“การดำรงอยู่ของผู้ครอบครองพลังต้องสาปที่ถือกำเนิดขึ้นมาในตระกูล เป็นเรื่องที่นายใหญ่ไม่อาจยอมรับได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของข้า เพียงแค่จ่ายเงินมาใครครบก็พอ”

“เงินที่ว่า นายใหญ่ก็ได้มาจากคาเงะโทระ เด็กก็เป็นของทางนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“หากลงมือเองก็จะเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ถึงต้องจ้างพวกเราอยู่นี่ไงล่ะ ตั้งใจทำตามคำสั่งให้สำเร็จก็พอ”

 

   ชายในชุดดำตอบอย่างไร้ความลังเล ทั้งหมดนี้คือการสนทนาของนักโจรกรรมทั้งสองที่ถูกจ้างมา หญิงสาวที่แฝงตัวเป็นสาวใช้เข้าไปหาข้อมูลและอำนวยความสะดวกจากภายใน กับชายผู้ที่จะนำกลุ่มนักลอบสังหารเข้าไปลงมือ ทั้งหมดได้ถูกเตรียมการจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

 

“ได้ยินมาว่าฮิโนเอะสามารถอ่านใจคนอื่นได้ แต่ก็ยังเป็นเด็กอ่อนหัด คงคิดว่าทุกคนที่รับใช้คาเงะโทระจะเป็นพวกเดียวกันหมด วันนี้ตอนเจอกันยังทักทายตามปรกติเลย”

 

   หญิงสาวเยาะเย้ยให้กับความไว้ใจของฮิโนเอะ ในตอนที่เข้าไปทำงานให้กับคาเงะโทระช่วงแรกๆก็กลัวว่าแผนการนี้จะถูกเปิดเผย แต่ก็ไม่มีท่าทีจะเป็นเช่นนั้นเลย ทุกอย่างราบรื่นจนบางครั้งยังสงสัยว่าฮิโนเอะมีความสามารถเช่นนั้นจริงๆหรือ

 

   ผู้ว่าจ้างก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากพ่อแท้ๆของฮิโนเอะ ที่คิดว่าฮิโนเอะคือสายเลือดอันด่างพร้อยของตระกูล ทั้งที่ตามกฎหมาย ฮิโนเอะเป็นคนของบ้านคาเงะโทระอย่างถูกต้อง แต่ตราบใดที่ฮิโนเอะยังมีชีวิตอยู่ก็จะเป็นจุดอ่อนสำหรับกล่าวหาตระกูลของเขาได้ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปคือตัวกาลกิณีสำหรับประเทศนี้ ต้องกำจัดอย่างเงียบๆก่อนจะเป็นภัยย้อนกลับมาทำร้ายตระกูล

 

“แล้วเหตุผลที่เลือกเวลานี้ล่ะ? เจ้าคาเงะโทระนั่นถึงจะอ่อนเอแต่ก็ไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม ออกจะฉลาดจนไม่เผยช่องว่างด้วยซ้ำ”

“หึหึ รู้เรื่องแขกจากต่างแดนแล้วใช่ไหม? เมื่อกี้ได้รับคำสั่งจากคาเงะโทระว่า ‘วันนี้มีเวลาเตรียมการไม่มาก พรุ่งนี้ให้ออกหาซื้อของสดแต่เช้าสำหรับงานเลี้ยงในตอนค่ำ’ น่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองครั้งใหญ่เลยล่ะ”

“แล้วมันยังไง?”

 

   ขายในชุดดำถามต่อไป หญิงสาวจึงแนะนำแผนของเธอต่อ

 

“งานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแผ่นดินใหญ่เชียวนะ ต้องจัดให้เต็มที่อยู่แล้ว ทั้งเวรยาม คนรับใช้ ผู้ติดตามระดับล่างก็ร่วมฉลองได้ทุกคน และในคำสั่งที่ให้ซื้อก็มีสุราอยู่ด้วย เหมาะกับไอ้นี่พอดีเลย”

 

  สิ่งที่หญิงสาวหยิบออกมาจากข้างในเสื้อของเธอคือห่อเล็กๆ เมื่อคลายออกก็เห็นผงสีขาวอยู่ข้างใน

 

“ยาเปลี่ยนผัน น่ะเหรอ”

“รู้ก็ดีแล้ว ผลผลิตของผู้ครอบครองพลังต้องสาปคนหนึ่งก่อนจะถูกเนรเทศออกนอกประเทศ มีผลทำให้นิสัยกลับตาลปัตร คนขี้ขลาดจะกล้าหาญจนออกรบได้ ซึ่งในทางกลับกัน คนกล้าหาญจะขี้ขลาด คนขยันจะขี้เกียจ”

 

   เธอยังบอกอีกว่าต้องลำบากเพียงใดกว่าจะได้มันมา แม้อาคมจะเป็นสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล แต่ก็ยังถูกใช้กันอย่างลับๆ สิ่งที่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์นั้นมักจะถูกใช้ประโยชน์ในเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีนักเป็นประจำ และพลังต้องสาปบางประเภทยังมีผลทำให้ประสาทหลอนได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นผู้คนจึงรังเกียจและมองในแง่ร้ายจนเป็นอคติ

 

“ใส่มันในสุราและให้พวกยามกินเข้าไป สุนัขเฝ้าบ้านของคาเงะโทระที่ตั้งใจทำงานกันอย่างขันแข็งรอบคอบก็จะไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเป็นแค่ฝูงวัวเชื่องๆ”

“เวรยามก็จะหละหลวม จะเข้าหรือออกก็ไม่มีใครมาขวาง”

“งานเลี้ยงต้อนรับทูตจากแผ่นดินใหญ่ทำให้ยามทั้งหลายปล่อยตัวไปตามบรรยากาศมากเกินไป และ ‘บังเอิญ’ มีโจรบุกเข้าไปในช่วงนั้นพอดีจนฮิโนเอะต้องรับเคราะห์”

 

   หญิงสาวพูดถึงแผนการสังหารฮิโนเอะได้อย่างหน้าตาเฉย ชายชุดดำไม่พูดอะไร เพียงแค่หรี่ตาลงเล็กน้อย ถึงจะปกปิดใบหน้าเอาไว้แต่ก็รู้ได้ว่าเขากำลังยิ้มให้กับแผนการนี้

 

“ทูตจากแผ่นดินใหญ่มีเด็กอยู่สองคนที่วางยาด้วยสุราไม่ได้ จะทำยังไงกับเด็กพวกนั้น?”

“ถามแปลกๆ เด็กตัวแค่นั้นจะทำอะไรได้? กินอิ่มแล้วก็นอนหลับ เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้เรื่องหรอก”

“…ข้าคิดเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเท่านั้น ถ้าเจ้ายืนยันเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร”

 

  ชายชุดดำตัดสินใจใช้โอกาสที่หญิงสาวผู้นี้สร้างให้ เพื่อสังหารฮิโนเอะเท่านั้น เด็กกับผู้หญิงอ่อนแอใครๆก็จัดการได้ ยิ่งเป็นเด็กที่ไม่เคยจับดาบก็ไม่มีทางต่อกรกับพวกเขาได้เลย

 

“หึหึ น่าสงสารฮิโนเอะเหลือเกิน อุตส่าห์มีเพื่อนทั้งที คงต้องให้ไปหาใหม่ในนรกแล้วล่ะ ผู้ครอบครองพลังต้องสาปไม่มีสิทธิ์หาความสุขใส่ตัว”

“อย่าพูดดัง กำแพงมีหูประตูมีตา”

 

  หญิงสาวไม่ใส่ใจมากนักเพราะเธอระวังตัวอย่างเต็มที่อยู่ตลอดเวลาก่อนจะมาถึง แต่เมือถูกเตือนก็จะเงียบลง งานของเธอเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ให้ใครรับรู้ การเคลื่อนไหวทุกอย่างต้องรวดเร็ว แม่นยำ และเงียบงัน

 

   หลังจากนี้ หญิงสาวและชายชุดดำก็เริ่มพูดคุยถึงรายระเอียดต่างๆที่จะต้องลงมือทำในวันพรุ่งนี้ ขั้นตอนการลอบสังหารฮิโนเอะกำลังถูกวางแผนท่ามกลางความมืดภายในบ้านเกิดของฮิโนเอะเอง โดยไม่มีใครรับรู้

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

“อุหวา อู อา~ ”

“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”

 

   รุ่งเช้า หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เซเลน มารี และฮิโนเอะ ก็มาแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆติดกับภูเขาที่อยู่ถัดไปข้างหลังบ้านของคาเงะโทระ  ระยะทางก็ไม่ไกล มีถนนเข้าไปในป่า ขึ้นไปบนตัวเขาเล็กน้อยก็จะพบสถานที่เช่นนี้หลายแห่ง เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ตระกูลของคาเงะโทระครอบครอง รวมถึงบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแห่งนี้ด้วย

 

“การที่ท่านคาเงะโทระไม่ซื้อที่พักอาศัยในตัวเมืองไม่ใช่เพราะสภาพการเงิน แต่เพราะไม่ต้องการออกห่างสถานที่นี้เจ้าค่ะ”

 

   ฮิโนเอะกล่าว

 

   จริงๆแล้วในตอนนี้ฮิโนเอะจะต้องอยู่ช่วยงานของคนรับใช้คนอื่นๆ แต่มีสาวใช้คนหนึ่งบอกกับเธอว่า ‘ใช้เวลากับเพื่อนๆให้เต็มที่เถอะ’ เธอจึงใช้โอกาสนี้มาแช่น้ำพุร้อนกับเพื่อนเป็นครั้งแรก อนึ่ง น่าเสียดายที่บ่อนี้เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีความขุ่น ถึงจะมีภาพก็ไม่เห็นส่วนสำคัญใดๆ

 

“เอ่อ น้ำร้อนพอดีหรือไม่เจ้าคะ? แต่ถึงยังไงข้าน้อยก็คงทำอะไรกับมันไม่ได้…”

“ก็ดีนะ เพิ่งเคยอาบน้ำในที่โล่งครั้งแรกเลย แต่ถ้าติดเป็นนิสัยขึ้นมามันจะไม่ดี”

“ถ้าชอบ… ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”

“ส่วนเซเลน… ไม่ต้องถามก็รู้”

 

   ฮิโนเอะโล่งใจที่ทุกคนชอบ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติเป็นของแปลกใหม่สำหรับมารีที่คุ้นเคยกับอ่างอาบน้ำหินอ่อนในพระราชวัง ส่วนเซเลน แม้จะดูเหมือนเด็กผู้หญิงแต่ข้างในก็เป็นชายวัยกลางคน จึงชอบที่จะนอนแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนเฉยๆราวกับแมงกะพรุนลอยไปตามคลื่น

 

“คือว่า… หลังจากนี้ จะไปเดินชมในเมืองกันไหมเจ้าคะ? ท่านคาเงะโทระอนุญาตแล้ว ให้พาคนคุ้มกันไปด้วย”

“อืม ดีเหมือนกัน ฉันเองก็อยากเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนี้ด้วย”

“ไม่เอา”

 

   เซเลนปฏิเสธคำชวนของฮิโนเอะอย่างเรียบง่าย ถึงจะยอมออกมาแช่น้ำพุร้อนกับฮิโนเอะ แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ยังเป็นคนไม่ชอบเข้าสังคม และไม่มีความสนใจในวัฒนธรรมใดๆอยู่แล้วด้วย

 

   แต่ก็ยังแอบดีใจที่โลลิผมดำชวนไปเดท เพราะเมื่อวานก็เดินมาทั้งวันจนเหนื่อยแล้ว และมื้อเย็นของวันนี้ก็มีของที่พลาดไม่ได้อีก ถ้าวันนี้ต้องออกไปเดินในเมืองก็อาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้าจนกินได้ไม่เต็มที่

 

   การ ‘เตรียมกระเพาะสำหรับซาซิมิ’ อาจฟังดูเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เซเลนยังจำได้ในครั้งก่อน เจ้าหญิงเอนเต้บอกมาแค่ ‘อาหารจานพิเศษ ’ เท่านั้น เธอจึงไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ พอมารู้ที่หลังว่าเป็นเอ็นไก่ทอด ก็กินไม่ไหวจนปวดท้อง

 

   คราวนี้ไม่เหมือนกัน เพราะรู้ล่วงหน้าว่าศัตรูคือ ‘ซาซิมิ’ และ ‘เม่นทะเล’ ดังนั้นเธอจะคว้าชัยชนะให้ได้ในครั้งนี้ จึงต้องออมแรงไว้สู้ศึกจริง เหมือนนักกีฬาเข้าค่ายเก็บตัวก่อนแข่ง

 

“อื่ม… เซเลนไม่ถูกกับแสงแดดน่ะ ให้เธอได้พักผ่อนอยู่เฉยๆดีกว่า”

“ข้าน้อยก็เคยได้ยินมาว่าคนผิวขาวจะอ่อนไหวต่อแสงแดดได้ง่าย ท่านเซเลนคงลำบากมากเลยสินะเจ้าคะ”

“ไม่หนิ”

 

   เซเลนตอบฮิโนเอะไปอย่างสั้นๆ เซเลนแค่อยากแช่น้ำพุร้อนต่อไปอีกหน่อย และเรื่องที่ลำบากจริงๆก็เป็นเรื่องเจ้าชายต่างหาก ส่วนอาการแพ้แดดนั้น ทำให้เธอนอนกลางวันได้โดยไม่มีใครว่าอะไร ถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ

 

“งั้นก็ เดี๋ยวพวกฉันไปกันก่อนก็แล้วกัน เธอกลับถูกนะ เซเลน”

“งื้อ”

 

   เซเลนตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้แปลกๆจนมารีและฮิโนเอะเกือบหลุดหัวเราะออกมา  เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำพุร้อนและเช็ดตัวให้แห้งเรียบร้อยแล้ว มารีที่ใส่ชุดสีแดงในตอนแรกก็เปลี่ยนมาใส่ชุดที่ฮิโนเอะเตรียมมาให้เธอ ชุดยูกาตะสีแดงลายดอกไม้ที่ฮิโนเอะพิจารณาตามรสนิยมชองมารี

 

“สายจัง คนอย่างฉันใส่อะไรก็ดูดีไปหมดจริงๆ”

“เหมาะมากจริงๆเจ้าค่ะ”

“คิดไม่ถึงเลยว่าของจริงจะสวยขนาดนี้ เคยเห็นแต่ผ้าโทรมๆที่คุมะฮาจิเอามาใส่จนคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นทั้งหมดเสียอีก”

“นักรบที่ทำตัวสมถะเช่นนั้นก็มีอยู่ไม่น้อยเจ้าค่ะ… แล้วก็ หากท่านชอบเครื่องแต่งกายของประเทศนี้ จะไปดูร้านกิโมโนในเมืองกันไหมเจ้าคะ?”

“ได้! ไปกันเลย! ถ้าดีจริงจะซื้อให้หมด! ไปกันเดี๋ยวนี้เลย ฮิโนเอะ!”

“เอ๋ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้เจ้าค่ะ!”

 

   ชุดยูกาตะของจริงดึงความสนใจของมารีไปได้ทั้งหมด เสื้อผ้าชนิดนี้แตกต่างจากชุดประจำของเธออย่างมาก เธอออกเดินไปในชุดยูกาตะและรองเท้าเดิมที่ดูไม่เข้ากัน ลงเนินเขาออกจากป่าไปตามทางโดยมีฮิโนเอะตามไปติดๆ เหลือแต่เซเลนที่ยังนอนแผ่อยู่กลางน้ำพุร้อน

 

   ทางด้านของบัตเลอร์ที่กลับมาในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น เพราะการออกสำรวจใช้เวลานานกว่าที่คิด เขาจึงยังเหนื่อยและหลับอยู่ในกล่องที่เซเลนเตรียมไว้ให้

   บริเวณโดยรอบมีระดับการรักษาความปลอดภัยสูง จึงปล่อยให้เซเลนอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องกังวล ทั้งที่จริง สิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือตัวเซเลนเอง

 

“อา”

 

   เมื่อได้อยู่คนเดียว เซเลนก็ยังแช่น้ำพุร้อนต่อไปจนตัวเริ่มเปลี่ยนสีเหมือนอาหารในหม้อต้มใกล้สุก ถึงการถ้ำมองสาวสวยซึ่งๆหน้าได้อย่างถูกกฎหมายจะน่าตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายก็ยังเด็กเกินไป ยังต้องรออีกหลายปี เพียงแค่นี้ยังไม่พอให้เซเลนเกิดความรู้สึกใดๆได้

 

   ไหนๆก็ได้มาแช่น้ำด้วยกันแล้ว ก็อยากจะขอลองชิมน้ำร้อนตรงที่สาวน้อยทั้งหลายเคยแช่หน่อย ว่ากันว่ากินแล้วสุขภาพแข็งแรงอายุยืน จึงอ้าปากให้น้ำเข้าไปเล็กน้อย และก็รู้สึกคึกคักเหมือนได้รับพลังงานบางอย่างเข้ามา แสดงว่ามันได้ผลจริงๆ(ล่ะมั้ง)

 

  หลังจากนั้นเซเลนก็แช่อยู่ต่ออีกนาน จนเรียกได้ว่านานเกินไปจนผิวขาวๆของเซเลนเปลี่ยนเป็นสีชมพูจากหลอดเลือดที่ขยายกว้างจนเลือดลมไหลเวียนผ่านใต้ผิวหนังปริมาณมาก ใครมาเห็นก็อาจจะเข้าใจว่าเป็นปีศาจชมพูได้

 

   ปีศาจชมพูตนนั้นขึ้นจากน้ำมาเช็ดตัวให้แห้งและแต่งกายด้วยชุดสีขาวตัวเดิมที่ใส่เป็นประจำ จากการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ทำให้เซเลนรู้ว่าประเทศนี้เกลียดชังทุกอย่างที่เกี่ยวกับเวทมนตร์

 

  เสื้อผ้าเสริมเวทมนตร์ก็ต้องไม่มีในประเทศนี้แน่นอน จริงๆแล้วเธอก็อยากได้ชุดยูกาตะแบบเก่าๆใส่สบายตามประสาคนแก่มากกว่า แต่ก็นำมาเป็นตัวเลือกไม่ได้จนต้องกลับมาใส่ชุดนี้

 

“อื่ม! เบียร์!”

 

   เมื่อแช่น้ำพุร้อนจนผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ที่แล้ว ขณะที่เดินลงเนินเขากลับไปตามทางเดิน เซเลนก็พูดสิ่งที่เธอต้องการเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการท่องเที่ยวครั้งนี้ ใช้แล้ว เบียร์ไงล่ะ หลังแช่น้ำต้องเบียร์เท่านั้น

 

“เฮ้อ…”

 

   แต่ก็เป็นความหวังลมๆแล้งๆ ตอนนี้เธอเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ พยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางได้มา ตอนที่ไปวัลเบิร์ดก็เคยลองขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล ครั้งนี้ก็ไม่น่าจะต่างกัน ใครที่ไหนจะให้เด็กดื่มของมึนเมา เงาเลี้ยงครั้งนี้มีได้แค่น้ำตาแทนเหล้าเท่านั้น

 

 

   ◆ ◇ ◆ ◇ ◆

 

 

   หลังจากเก็บกวาดจากมื้อเข้า มื้อกลางวัน และเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับที่จะจัดขึ้นในมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดเหล่าคนรับใช้ก็ได้เวลาพัก เพื่อที่จะได้มีแรงผ่านช่วงเวลาที่วุ่นวายต่อจากนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาได้ปฏิบัติตามคำสั่งของคาเงะโทระอย่างครบครัน วัตถุดิบที่ได้มาจากตลาดยังแหวกว่ายเตรียมพร้อมอยู่ในอ่างเพื่อคงความสดก่อนที่จะถูกพ่อครัวมืออาชีพเปลี่ยนสภาพหลังจากนี้

 

   เวลาพักผ่อนอันมีค่า ไม่มีใครคิดปฏิเสธช่วงเวลานี้ เมื่อไม่มีใครอยู่ในโรงครัว สาวใช้คนหนึ่งกลับเข้ามาอย่างเงียบๆ เบื้องหน้าของเธอคือสุราถังใหญ่สำหรับงานเลี้ยงคืนนี้ หน้าที่ของเธอคือผสมสิ่งที่เรียกว่ายาเปลี่ยนผันลงไปในถังนั้น เธอเปิดฝาถัง แกะห่อและเทผงสีขาวลงไป และใช้เครื่องครัวใกล้ๆคนให้เข้ากัน ยาตัวนี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่นและไม่มีรส เมื่อผสมลงไปแล้วก็จะไม่ทางดูออกได้เลย

 

“เอ้า เตรียมฉลองกันได้แล้ว”

 

   เท่านี้ก็เรียบร้อย เมื่อถึงเวลา ยามทั้งหลายก็ไม่ต่างกับของประดับ ฮิโนเอะก็จะตายไปอย่างไร้ทางตอบโต้ เพียงเท่านี้ก็จะได้รับค่าจ้างจำนวนมากจากเจ้านายอีกคน และเธอก็จะนำเงินที่ได้รับมาไปใช้อย่างเพลิดเพลิน การ ‘ฉลอง’ ที่ว่านั้น มีความหมายเพื่อตัวเธอเอง

 

   งานใหญ่ในครั้งนี้เสร็จลงเมื่อใด ก็ไปรอรับรางวัลต่อได้ทันที มองเห็นอนาคตอันสดใสอยู่ไม่ไกล หลังจากปิดฝาถังให้เข้าที่แล้ว สาวใช้คนนั้นก็ออกประตูกลับเข้าไปในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว

 

“น้ำ ขอน้ำ”

 

   ช่วงเวลาเดียวกันกับสาวใช้ที่ออกไป เซเลนก็เปิดประตูเข้ามาจากอีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับสวน เพราะแช่น้ำร้อนมานานจึงต้องการเครื่องดื่มเย็นๆ ในเมื่อขอเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ นมหวานก็ไม่น่าจะมี สุดท้ายก็ต้องเป็นน้ำเปล่าอย่างช่วยไม่ได้

 

“ไม่อยู่?”

 

   ถึงอย่างนั้น ทั้งๆที่เธอต้องการแค่น้ำดื่ม แต่เมื่อพูดออกไปก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา มองไปรอบๆก็ไม่มีใคร ในเมื่อมาถึงตรงนี้แล้ว เซเลนไม่มีทางกลับไปรอเฉยๆและกลับมาใหม่อีกครั้ง แค่น้ำเปล่า หามาดื่มเองก็ได้ เซเลนจึงเข้าไปในโรงครัวอย่างเงียบๆ

 

“นี่ไง!”

 

   เธอเชื่อว่าในเมื่อเป็นพื้นที่สำหรับประกอบอาหาร จึงต้องมีน้ำดื่มเตรียมไว้อย่างเพียงพอ ในที่สุดก็เห็นถังใส่น้ำอยู่ตรงนั้น จึงหยิบกระบวยใกล้ๆ เตรียมตักน้ำขึ้นมาดื่มกิน

 

“…หืม?”

 

   แต่แล้ว เซเลนก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปรกติ กระบวยที่ถืออยู่นี้มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ แม้ว่าเซเลนตามปรกติจะเฉื่อยสักแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องนี้ จมูกของเธอจะไวยิ่งกว่าสุนัข

 

“นี่มัน… สาเก!?”

 

   มีสาเกอยู่แถวนี้แน่นอน วินาทีถัดมาสมาธิของเซเลนก็พุ่งสูงขึ้นจนเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นสาเกจางๆที่ออกมาจากถังใบใหญ่ เธอจึงลากเก้าอีขึ้นไปยืนเกาะขอบถังและออกแรงดันฝาหนักๆด้านบนให้เคลื่อนออกเพื่อดูของที่อยู่ข้างใน

 

“โอ้ว!?”

 

   เซเลนตะโกนออกมาเสียงดัง เหล้า! สาเก! แอลกอฮอล์! อะไรก็ตามที่ทำให้เมินถังน้ำข้างๆไปได้อย่างสมบูรณ์ เซเลนจุ่มกระบวยลงไปตักของเหลวในถัง ยกขึ้นมาจิบเบาๆให้รสชาติกระจายอยู่ในปาก

 

“นี่แหละ ของดี!”

 

   ความรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เซเลนตัวสั่นน้ำตาไหล ถึงจะพยายามกลั้นน้ำตายังไงก็ไหลออกมาไม่หยุด เธออดทนรอสิ่งนี้มานานหลายปี ไม่มีทางที่จะอดใจไหว เธอจึงยกกระบวยในมือขึ้นดื่มเข้าไปอีกอึก

 

“ฮ่า! สุดยอดจริงๆ ให้ตายเถอะ!”

 

   จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สนแล้ว เซเลนถึงกับหลุดคำอุทานที่ไม่เข้ากับเธอออกมา และเตรียมยกกระบวยขึ้นมาดื่มอีกครั้ง

 

“โอ๊ะ!”

 

   น่าแปลกที่เซเลนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ทั้งๆที่มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่เธอก็ปิดฝา ลากเก้าอี้กลับไปไว้ที่เดิม จัดทุกอย่างให้เข้าที่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เกือบไป…”

 

   เกือบควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่และดื่มต่อไปจนเมามาย ลองคิดดูให้ดีๆ สิ่งที่ทำอยู่นี้คือการลักขโมย ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจ เซเลนชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชีวิตจิตใจ หากเธอเป็นฝ่ายที่ถูกขโมยเครื่องดื่มเสียเอง ต้องโกรธมากแน่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็สำนึกผิดขึ้นมาทันที

 

   ยิ่งไปกว่านั้น หากมัวแต่หลงไปกับของมึนเมาอยู่ตรงนี้ ก็จะสูญเสียโอกาสเดียวที่จะได้กินซาซิมิกับเม่นทะเลไป ในเมื่อเหล้านั้นหาที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ซาซิมิ นอกจากที่นี่ตอนนี้ ก็หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

 

“อุ แย่จัง”

 

  สุดท้ายแล้วเซเลนก็กลับห้องไปแต่โดยดีหลังจากดื่มไปได้นิดหน่อยพอดับกระหาย ครั้งนี้จะยอมให้ไปก่อน ถอยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+