[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 114 เรือหมีรุ่นใหม่ล่าสุดของจักรวรรดิโลลิ

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 114 เรือหมีรุ่นใหม่ล่าสุดของจักรวรรดิโลลิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

114 เรือเหาะรุ่นใหม่ล่าสุดของจักรวรรดิการบิน

 

“ดูเหมือนจะทำตามอย่างที่พูดไว้ได้จริงด้วยค่ะ ที่ว่าจะเตรียมเรือเหาะความเร็วสูงรุ่นใหม่ล่าสุดเอาไว้ให้”

 

……เรือเหาะความเร็วสูง……รุ่นล่าสุด……

 

“นี่คือเรือเหาะอย่างงั้นเหรอ?”

 

ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี……เป็นเรือเหาะที่รูปร่างไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ควรเรียกว่ารูปร่างเพรียวดีไหม หรือจะเรียกว่าเหมือนปลายปากกาดีล่ะ

 

เรือเหาะที่จอดอยู่ข้างหน้าพวกเรามีรูปร่างเรียบง่ายเกินไป เหมือนแท่งโลหะที่ส่วนปลายถูกลับจนโค้งมนแล้วตัดออกก่อนระหว่างที่ทำ

ทุกอย่างดูเหมือนจะทำมาจากโลหะ และก็เหมือนกับจะต้องเข้าไปอยู่ในนั้น

 

……ความจริงที่ว่าทั้งลำทำมาจากโลหะก็ทำให้ฉันกังวลแล้ว แต่ที่ทำให้ฉันกังวลยิ่งกว่าคือรูปร่างของเรือเหาะที่ดูไม่เหมือนเรือสักนิด

 

ถึงแม้จะมีหน้าต่างที่ทำให้มองเห็นภายนอกได้ แต่เรือที่ปิดสนิทแบบนั้นจะไม่เป็นไรจริง ๆ งั้นเหรอ? ไม่มีทางเห็นทิศทางการเดินทางหรือสภาพแวดล้อมได้เลย?

 

ขนาดนั้นไม่ได้ใหญ่มาก แต่ดูท่าทางแล้วน่าจะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วจากรูปทรงที่เหมือนจะทะลุผ่านได้ทุกสิ่ง

 

เหนืออื่นใดคือ แปลกจนแปลกประหลาด

 

“นี่เป็นรุ่นเน้นความเร็วใช่ไหม แล้วเลียบแบบมาจากอะไรน่ะ”

 

เน้นความเร็ว เลียบแบบมาจากอะไร

 

……อะ เข้าใจแล้ว ถ้าพิจารณาจากรูปร่างของสิ่งมีชีวิต รูปร่างนี้ก็สมเหตุสมผล

 

ฉันมั่นใจนิดหน่อย

ฉันไม่เคยเห็นเรือเหาะรูปร่างแบบนี้ แต่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างแบบนี้ ――การลอกเลียนการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในศิลปะการต่อสู้ ในบางครั้งการลอกเลียนแบบรูปร่างของสิ่งมีชีวิตก็สะดวกสบายและสมเหตุสมผล

 

“ริโนะซัง! รออยู่เลยครับ!”

 

ขณะที่ฉันกำลังยืนนิ่งอยู่หน้าเรือเหาะรูปร่างประหลาด ชายวัยกลางคนหน้าตาดีก็ลงมาตามทางลาด

 

“เราจะไปกันตอนนี้เลยดีไหมครับ!? อะ เด็กคนนี้ก็จะไปกับคุณด้วยงั้นสินะครับ!?”

 

ริโนกิส นักผจญภัยริโนะพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ และชายคนนั้นก็ชวยขึ้นเรือเหาะว่า「มาเลย มาเลยครับ!」

 

ท่าทางแบบนี้ ริโนกิสกับชายคนนี้รู้จักกันมาก่อนสินะ มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าเขาจะมาจากบริษัทเซโดนี

 

 

 

เมื่อเข้าไปด้านใน ความหนาวเย็นของอากาศภายนอกก็หายไป

ทางเข้าถูกปิดทันที ทางลาดถูกลากออกไป

 

ภายในเรือ……ตามที่คาดไว้ ค่อนข้างคับแคบ และให้ความรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่มาก และจากเพดานที่ต่ำ ดูเหมือนน่าจะมีการแบ่งเป็นชั้นบนและชั้นล่าง

ทั้งท่อโลหะทั้งผนังโลหะต่างเปิดเปลือย ยิ่งสร้างความกังวลให้กับคนแก่ชราอย่างฉัน ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าก้อนโลหะจะบินบนท้องฟ้าได้

 

“เป็นเรือเหาะที่รูปร่างแปลกประหลาดจริง ๆ เลยนะคะ”

 

ริโนกิสพูดขณะที่ถอดเสื้อคลุมกันหนาว ชายคนนั้นตอบด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจว่า「เป็นวิทยาการล่าสุดของจักรวรรดิการบินเลยนะครับ」

 

“เจ้านี่เร็วมาก เป็นเรือเหาะที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์เดียว คือการบินอย่างรวดเร็วล่ะครับ”

 

――ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเล็กน้อยจากริโนกิสก่อนหน้านี้แล้ว

 

เรือเหาะธรรมดาจะใช้เวลาเดินทางไปถึงแว็ง เดอ ครุชในสามถึงสี่วัน ซึ่งรวมถึงเวลาที่ใช้ในการเติมเสบียงระหว่างทางด้วย

ทว่า รุ่นใหม่ล่าสุดลำนี้ ดูเหมือนจะใช่เวลาเดินทางภายในไม่ถึงวัน

 

นี่เป็นเวลาเช้าตรู่ และพวกเขาบอกว่าจะเราจะไปถึงในช่วงเวลาอาหารเย็น

เท่ากับใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งวันเท่านั้นน่ะสิ

 

กำหนดการทั้งถูกร่างไว้ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทเซโดนีบอกว่าจะเตรียมเรือเหาะที่เร็วกว่าเรือเหาะธรรมดาให้ แต่……

การไปถึงในครึ่งวันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง และเร็วผิดปกติมาก

 

แน่นอน เป็นเซอร์ไพรส์ที่ทำให้มีความสุข

หากทำให้มีเวลาว่างมากกว่าที่คิดไว้ ฉันก็ยินดีที่จะรับไว้

 

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

 

“แปลกใจใช่ไหมล่ะ? โลกเล็กลงอีกครั้ง”

 

โลกเล็กลงอีกครั้ง เหรอ

 

หลังจากเรือเหาะถือกำเนิดขึ้นมา โจรสลัดแห่งท้องฟ้าก็ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และนั่นคือคำพูดของ ดิมิอาโร่ โจรสลัดอากาศที่เก่าแก่ที่สุด

 

ในสมัยนั้นการคมนาคมระหว่างเกาะลอยฟ้ามีน้อยและยากมาก ผู้คนในทุกประเทศต้องทนทุกข์กับทรราชย์อย่างไม่มีทางหนี

ผู้ที่ทำการปลดปล่อยและเปลี่ยนแปลงคือ ดิมิอาโร่ โจรสลัดอากาศ

 

ฮิลเดโทร่าเปรียบผู้คนเหมือนกับเลือดของแผ่นดิน

 

ตามคำพูดของเธอ ดิมิอาโร่ปล้นเอาเลือดของชาติขึ้นเรือของตน และพาจากไป

เขาได้ดูดเลือดที่ทรมานจาก ทรราชย์ เผด็จการ ความยากจน และความอดอยาก

 

นั่นคือจุดเริ่มต้น และหลังจากนั้นกลุ่มโจรสลัดอากาศก็ปรากฏตัวขึ้นทุกหนแห่ง เกิดการกบฏที่ไร้สงครามขึ้นทุกที่――พูดง่าย ๆ คือการหนีออกจากประเทศในตอนกลางคืนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

เป็นผลให้จักรวรรดิท้องฟ้ามิสการิสซึ่งปกครองกว่าสามสิบเปอร์เซ็นต์ของโลกในเวลานั้นต้องล่มสลายโดยไม่มีการต่อสู้

――เพราะเลือดที่หล่อเลี้ยงพวกเขาได้หายไปแล้ว

 

ฉันได้ยินในชั้นเรียนว่าบางทีในตอนท้ายอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น เนื่องจากการขาดแคลนสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีพ และอาหาร

แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่มีใครรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นนกันแน่

 

ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีประวัติศาสตร์เหล่านั้น เรือเหาะก็ยังคงมีวิวัฒนาการต่อไปแม้กระทั่งในปัจจุบัน

 

“แตว่า ม๊า ขอให้เป็นเรื่องที่คุยกันแค่ตรงนี้ ต้นทุนเชื้อเพลิงสูงเอามาก ๆ จนไม่คุ้มค่ากับการใช้ในชีวิตประจำวันเลยสักนิด แถมเพราะมุ่งเน้นไปที่ความเร็วเป็นหลัก จึงทำให้น้ำหนักที่บรรทุกได้น้อยลงไปด้วยเช่นกัน”

 

ฮา เข้าใจล่ะ

หรือก็คือยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ ยังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก 

 

“คุณทำเต็มที่เพื่อเตรียมเรือแบบนี้ให้ฉันคนเดียวเลยเหรอคะ?”

 

“แน่นอนครับ ทางบริษัทเซโดนีของเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนนักผจญภัยริโนะอย่างสุดความสามารถครับ”

 

อ้า กะแล้วว่าเขาเป็นพ่อค้า เพราะท่าทางของเขาดูไม่ใช่แค่ลูกเรือ

 

 

 

พวกเราขึ้นบันไดภายในเรือตามคำแนะนำของชายที่เหมือนพ่อค้า

 

ตามที่เดาไว้ เรือแบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นบนกับชั้นล่าง และชั้นบนมีความสว่างและตกแต่งอย่างดี ม๊า ฉันก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี

แต่มีหน้าต่างกลมเล็ก ๆ หลายบาน เมื่อมองออกไปทางกราบขวาก็จะสามารถมองเห็นท่าเรือเหาะได้

 

ด้านหน้า……กั้นด้วยผนัง คิดว่าบางทีพื้นที่ควบคุมคงอยู่ข้างหน้านั้น

 

“――โอ้ย ออกตัวได้”

 

ชายที่ดูเหมือนพ่อค้าตะโกนสั่งไปยังข้างหน้า ลักษณะการพูดแบบนั้นทำให้แน่ใจว่าเป็นอย่างที่คิด

 

“แล้วคิดว่ายังไงบ้าง แม่หนู นี่น่ะเป็นเรือเหาะที่หายากมากแม้แต่ในจักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุชเลยนะ ม๊า ถึงจะดูต่างจากแบบปกตินิดหน่อยก็เถอะนะ”

 

โอ้ คราวนี้หันมาคุยกับฉันแล้ว ……อาจเป็นเพราะว่าฉันมองไปรอบ ๆ มากเกินไป

 

เรื่องนั้นช่วยไม่ได้

ฉันจินตนาการไม่ออกแต่แรกแล้วว่าก้อนโลหะจะบินได้ยังไง แต่เรือเหาะลำนี้แปลกประหลาดยิ่งกว่าเสียอีก

 

“เป็นรูปร่างของนกหรือปลาใช่ไหมคะ?”

 

ถึงจะไม่มีหางหรือครีบ แต่รูปร่างก็คล้ายกับปาก หรือนกที่พับปีก

 

“โอ้ เฉียบแหลมมาก ใช่แล้วใช่แล้ว ดูเหมือนว่าการออกแบบมีพื้นฐานมาจากแนวคิดแบบนั้นแหละ”

 

เมื่อฉันมองออกไปข้างนอก ท่าเรือก็จางหายลงไปด้านล่าง

ฉันไม่รู้ตัวเลย เพราะไม่มีลม ไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่มีเสียง แต่เห็นได้ชัดว่าเคลื่อนที่ออกมาแล้ว

 

“เธอควรจับตามองข้างนอกให้ดี ๆ ――เรือลำนี้ สามารถเร่งความเร็วได้ในชั่วอึกใจได้ด้วยแรงระเบิด”

 

แรงระเบิด……?

 

 

 

ขณะที่ชายคนนั้นพูด เขาก็มองออกไปนอกหน้าต่าง ……ริโนกิส ไม่เห็นจำเป็นต้องมามองหน้าต่างบานเดียวกันเลย ใกล้เกินไปแล้ว

 

หลังจากบรรลุความสูงระดับหนึ่งแล้ว เสียงสะท้อนดังจากท่อสื่อสารที่วิ่งไปตามผนัง

 

――「เราจะเริ่มเร่งความเร็วแล้ว จะมีอาการสั่นอย่างมาก ดังนั้นกรุณาจับบางสิ่งเอาไว้หรือกรุณานอนราบกับพื้น」

 

ตั้งแต่เริ่มต้นจากการเตือนไปจนถึงการนับถอยหลัง ฉันยึดอยู่กับกรอบหน้าต่าง ……ริโนกิสไม่จำเป็นต้องมาช่วยจับฉันไว้ก็ได้ อย่ามาเนียนโอบไหล่สิ

 

――「สาม、สอง、หนึ่ง、――จุดระเบิด」

 

ซูมมมมมมม!!

 

ตัวเรือสั่นสะเทือนอย่างมากพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังกว่า 「เสียงอัสนีบาต」

ฉันต้องอดทนต่อความรู้สึกที่เหมือนถูกดึงไปข้างหลังจากแรงกระชากขนาดใหญ่ในแนวนอน

 

ทว่า มากไปกว่านั้น――

 

“…………”

 

ท่าเรือเหาะบนเกาะหลักของดินแดนลิสตันซึ่งควรจะมองเห็นอยู่ด้านล่างหายไปในพริบตา

 

“ฟู๊ว ไม่เป็นไรแล้วล่ะครับ ริโนะซัง”

 

ฉันเดาว่ามีระบบจัดการกันลมที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียว จนทำฉันไม่รู้สึกว่ากำลังเคลื่อนที่เลยแม้แต่น้อย 

ยังไงก็ตาม การรับรู้ผ่านการมองเห็นยังปกติ

 

เกาะลอยฟ้าที่มองเห็นได้ในระยะไกลกำลังเคลื่อนที่ถอยหลังด้วยความเร็วมหาศาล

ไม่ เรือเหาะลำนี้ต่างหากที่กำลังเคลื่อนที่

 

“……ครึ่งวันสินะ”

 

ด้วยความเร็วนี้จะใช้เวลาครึ่งวันอย่างแน่นอน

เร็วกว่าเรือเหาะทุกลำที่ฉันเคยขึ้นอย่างท่วมท้น

 

เป็นเรือเหาะที่มีเทคโนโลยีที่น่าทึ่งมาก

……คงจะสะดวกดีหากมีสักลำ แต่ถึงจะเป็นสำหรับงานฉลองเข้าเรียนก็คงไม่มีทางซื้อได้อยู่ดี

 

 

 

 

 

 

 

ฝนตกยาวๆจนทำเข้าโหมดจำศีล แปลไปหลับไป ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด