[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 101 ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกินหมีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณทั้งหมดในทีเดียว

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 101 ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกินหมีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณทั้งหมดในทีเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

101 ท้ายที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะรับทั้งร่างกายและจิตใจทั้งหมดในทีเดียว

 

“เส้นทางได้รับการตัดสินใจแล้ว”

 

ใกล้จะได้เวลาอาหารกลางวันแล้วสินะ

พวกเรามาถึงเกาะแห่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เวลาพึ่งผ่านไปได้เพียงครึ่งวันเองเท่านั้น

 

ฉันกลับมาที่ห้องก่อน เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการพูดคุยกับพระราชาให้กับริโนกิสที่กลับมาอย่างหมดแรง

จากนั้น ค่อนพูดคุยเกี่ยวกับแผนการหาเงิน

 

“เส้นทางเหรอคะ?”

 

ริโนกิสรีบอาบน้ำเพื่อล้างเหงื่ออย่างรวดเร็ว และสวมชุดสาวใช้ตามปกติ

 

“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าสัตว์อสูรหรือบุกเบิกเกาะลอยฟ้าล่ะนะ”

 

ค่อนข้างไม่มีทางเลือกอื่น

 

“ม๊า ก็ตั้งพันล้านครัมแหละ”

 

ใช่

ฮิลเดโทร่าบอกว่าถึงแม้จะทำงานอย่างหนัก แต่ก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่มีทางไปถึง ในกรณีนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งแสวงโชคอย่างรวดเร็ว

 

“พูดตามตรง ดิฉันคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่บ้ามากที่จะจ่ายด้วยตัวคนเดียวแบบนี้”

 

เป็นแบบนั้นเลยเหรอ

ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าหนึ่งพันล้านครัมมีค่าแค่ไหนอยู่ดี

 

“เงินเดือนของริโนกิสเท่าไหร่เหรอ?”

 

“คุณหนู เป็นคำถามที่เสียมารยาทมากเลยนะค……อะ ค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ ดิฉันได้รับเงินเดือนจากตระกูลลิสตันราวสี่แสนครัมต่อเดือนค่ะ”

 

ริโนกิสรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว เธอน่าจะเข้าใจจุดประสงค์ของฉันที่ไม่ได้ถามเพราะความอยากรู้อยากเห็น

 

“สี่แสนครัม เยอะไหม?”

 

“ในฐานะสาวใช้ของตระกูลลิสตันก็ถือว่าค่อนข้างสูงค่ะ เมื่อก่อนดิฉันทำงานเป็นพยาบาลให้กับคุณหนูด้วย ดังนั้น ชั่วโมงการทำงานของดิฉันจึงยาวนานค่ะ

ยังไงก็ตาม ตอนนี้ดิฉันอยู่ดูแลคุณหนูที่สถาบันกาศึกษาตลอดเวลา จึงได้รับเบี้ยเลี้ยงสำหรับงานดังกล่าวรวมอยู่ในเงินเดือนขั้นพื้นฐานด้วยค่ะ ดังนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลัง”

 

ฟุมู๊ว……เดือนละสี่แสนคือเยอะแล้วสินะ

 

“แล้วเงินเดือนของคนทั่วไปล่ะ?”

 

“ซ้า……ดิฉันได้ยินมาว่าหากได้สามแสนก็ถือว่าสูงมากแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ตามก็ขึ้นอยู่กับอาชีพด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนค่ะ”

 

…………

 

ฟุมุ

 

“ถ้าคำรวณด้วยรายได้ระดับนั้น พันล้านครัมก็เป็นจำนวนที่มากเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“ห่างไกลจากคำว่ามากเลยค่ะ นั่นเป็นเงินจำนวนมหาศาลเลยต่างหากค่ะ ดิฉันคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่เกินสามัญสำนึกไปแล้วด้วยซ้ำ”

 

……งั้นเหรอ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วทำไมฮิลเดโทร่าถึงดูตกใจนัก

 

“จะว่าไปแล้ว เบี้ยเลี้ยงรายเดือนของฉันอยู่ที่ห้าพันครัมใช่ไหม?”

 

“ตั้งแต่ที่เข้าสถาบันก็กลายเป็นหนึ่งหมื่อนครัมค่ะ”

 

เห๊ ขึ้นให้ด้วยสินะ แต่ก็ใช้ไม่ได้ ……กะแล้วว่ายังไงฉันก็ยังไม่เข้าใจว่ามาก สมเหตุสมผล หรือน้อยอยู่ดี

 

 

 

ดัง นั้น

 

“มีสัตว์อสูรที่มูลค่าพันล้านอยู่หรือเปล่า?”

 

ปัญหาตอนนี้ไม่เกี่ยวกับว่าฉันรู้สึกยังไงเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่จะทำยังไงให้สามารถสร้างรายได้หนึ่งพันล้านครัมในสองปี

ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะทำเงินเร็ว ๆ……

 

“ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่น่าจะมีสัตว์อสูรชั้นสูงที่มีราคาระดับหลายสิบล้านครัมอยู่”

 

“เข้าใจแล้ว นั่นคือเป้าหมาย”

 

“ดิฉันไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ……”

 

ย่อมมีเหตุผลว่าทำไมของที่แพงถึงได้แพง

จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำ

 

พระราชาบอกว่าสองปีให้หลัง ไม่ใช่หนึ่งปีอย่างที่ฉันตั้งใจไว้

กล่าวอีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าระยะเวลาในการเตรียมเงินเพิ่มขึ้น และเป็นการสร้างหลักประกัน หากฉันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ น่าจะสามารถหารายได้ประมาณหนึ่งพันล้านครัมได้อย่างแน่นอน

 

และหากลองคิดดูดี ๆ แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าเป็นข้อดีในอีกแง่มุมหนึ่งเลยทีเดียว

 

“เน๊ ริโนกิส เธอพร้อมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้กับฉันไหม?”

 

“……เอ๊ะ!? นะ แน่นอนอยู่แล้วสิคะ!?”

 

“จ๊า――อ้า ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าหรอก อย่าถอดสิ อย่าถอด ……ฉันบอกว่าไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าไง”

 

ฉันนึกว่าเธอจะทำตัวเป็นลูกศิษย์ที่ถูกกระตุ้นให้พูดขวานผ่าซากด้วยความไม่ไว้วางใจเหมือนอย่างเคย

 

“นี่คือความจริงใจของดิฉันค่ะ”

 

เปลือยกายเนี่ยนะ? จริงใจแบบไหนกัน? ทำไมต้องถอดด้วย? เธอตั้งใจจะถอดเสื้อผ้าเพื่ออะไรกัน?

 

ม๊า ยังไงก็ได้

ฉันเหนื่อยที่จะจริงจังกับเธอแล้ว

 

“เธอต้องบรรณาการให้ฉัน ประมาณหนึ่งพันล้านครัมนั่น”

 

“……ขอประทานโทษด้วยค่ะ ดิฉันมีเงินเก็บอยู่แค่สิบล้านครัมเท่านั้น……เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะรีบเพิ่มด้วยการไปพนัน……”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ”

 

ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบรวบรวมเสื้อผ้าที่ริโนกิสถอดด้วยเหตุผลบางอย่าง แล้วโยนกลับไป

 

“――จงกลายเป็นนักผจญภัย หาเงิน และสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ระหว่างที่ฉันกำลังอยู่ที่สถาบันซะ ถือว่าเป็นการฝึกสำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในอีกสองปีข้างหน้า และแน่นอนว่าเป็นแผนหาเงินด้วยเช่นกัน

 

จงกลายเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุด

ได้เวลาที่นักผจญภัยที่สามารถทำเงินได้หลายพันล้านครัมปรากฎตัวแล้ว

 

จงทำให้ทุกย่างก้าวของเธอกลายเป็นที่ได้รับการจับตามอง กลายเป็นเสียงเล่าลือตามสายลม กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่รู้จักไม่เพียงแค่อาณาจักรอาร์ตัวร์แต่ร่วมถึงต่างประเทศด้วย

เธอจะกลายเป็นโฆษณาที่มีชีวิต ทำให้การแข่งขันมีชีวิตชีวาขึ้นและคว้าชนะไป”

 

นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่เวลามาเปลือยกายในสถานที่แบบนี้ ลูกศิษย์เอ๋ย

 

“ปกติฉันก็อยากที่จะลงมือทำเอง แต่ตอนนี้ไม่มีทางที่จะทำได้ ดังนั้นฉันต้องขอฝากไว้ที่ลูกศิษย์อย่างเธอ ทำเพื่อฉันได้ไหม?”

 

“……จะทำก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่าถ้าปล่ยอคุณหนูไว้คนเดียวแล้ว……ใครจะเป็นคนดูแลกันคะ……”

 

“ในสถาบันการศึกษา เธอไม่จำเป็นต้องดูแลฉันตลอดเวลาจริงไหม? ถ้าเป็นการทำความสะอาดห้องหรือซักผ้า ฉันจะขอให้ลินเนตต์ทำให้ในเวลาว่าง แถมยังมีคนรับใช้คนอื่นอยู่ในหอพักด้วยเหมือนกัน”

 

ลินเนตต์ สาวใช้ส่วนตัวของพี่ชาย แม้จะอยู่คนละหอพักแต่เรียกได้ว่าแทบจะอยู่ในที่เดียวกันเลยทีเดียว

เธออาจจะมีเวลาว่างบ้างในตอนที่พี่ชายเข้าไปเรียนอยู่ที่สถาบัน ดังนั้นถ้าฉันขอ เธอก็น่าจะทำให้ ม๊า ต่อให้เธอไม่ทำให้ก็ไม่เป็นไร

 

“แล้วใครจะไปด้วยระหว่างการถ่ายทำล่ะคะ?”

 

“มีทีมงานถ่ายทำอยู่ด้วยกันตลอดจริงไหมล่ะ? ถ้าจำเป็นพวกเขาก็จะทำให้ ยังไงแต่แรกแล้วก็แทบไม่มีเวลาว่างระหว่างถ่ายทำอยู่แล้ว”

 

“ดิฉันกำลังทำงานสำคัญที่สุดคือการเฝ้าดูการทำงานอย่างหนักของคุณหนู!”

 

อืม งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นไม่เป็นไร

 

“เธอไม่จำเป็นต้องดูแลฉันแล้ว เพราะงั้นจงไปหาเงินเพื่อมาบรรณาการฉันเถอะ”

 

“……คุณหนู ดิฉัน……”

 

ริโนกิสรับเสื้อผ้าด้วยความโศกเศร้า เธอดูเขินอายและขมวดคิ้วอย่างเศร้าสร้อย

 

“……คุณหนูที่ดึงดังเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้ ชอบค่ะ……”

 

อ้า เหรอ

ฉันไม่คิดว่าเธอควรจะเขินอายตอนที่พูดทำนองนั้น

 

 

 

ฮิลเดโทร่ามาฉันตอนมื้อกลางวัน

 

ดูเหมือนว่าเธอคาดเดาว่าอาจจะเกิดการพูดคุยที่ซับซ้อนเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ ดังนั้นเธอจึงเสนอให้นำอาหารมาที่ห้องของฉัน และพูดคุยกันระหว่างทานอาหารที่นี่ และฉันก็ตกลง

 

ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะคุยกับเรเลียเรดมาก่อนแล้ว แต่ก็ต้องยอมแพ้ เพราะดูเหมือนจะยังคงเก็บตัวไม่เลิก

 

“เช่นนั้นแล้ว? คุณจะทำยังไงเพื่อเงินหนึ่งพันล้านครัมหรือคะ?”

 

“เรื่องนั่น ริโนกิสจะ――”

 

การสนทนาของเราดำเนินต่อไปอีกนานหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขนมปังปิ้งโปะด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ เมนูที่ง่ายเกินจนทำให้รู้สึกขี้เกียจล้างกะทะ(ข้ออ้างล้วนๆ) ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 101 ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกินหมีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณทั้งหมดในทีเดียว

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 101 ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจที่จะกินหมีทั้งร่างกายและจิตวิญญาณทั้งหมดในทีเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

101 ท้ายที่สุดฉันก็ตัดสินใจที่จะรับทั้งร่างกายและจิตใจทั้งหมดในทีเดียว

 

“เส้นทางได้รับการตัดสินใจแล้ว”

 

ใกล้จะได้เวลาอาหารกลางวันแล้วสินะ

พวกเรามาถึงเกาะแห่งนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เวลาพึ่งผ่านไปได้เพียงครึ่งวันเองเท่านั้น

 

ฉันกลับมาที่ห้องก่อน เพื่ออธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการพูดคุยกับพระราชาให้กับริโนกิสที่กลับมาอย่างหมดแรง

จากนั้น ค่อนพูดคุยเกี่ยวกับแผนการหาเงิน

 

“เส้นทางเหรอคะ?”

 

ริโนกิสรีบอาบน้ำเพื่อล้างเหงื่ออย่างรวดเร็ว และสวมชุดสาวใช้ตามปกติ

 

“ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าสัตว์อสูรหรือบุกเบิกเกาะลอยฟ้าล่ะนะ”

 

ค่อนข้างไม่มีทางเลือกอื่น

 

“ม๊า ก็ตั้งพันล้านครัมแหละ”

 

ใช่

ฮิลเดโทร่าบอกว่าถึงแม้จะทำงานอย่างหนัก แต่ก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่มีทางไปถึง ในกรณีนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมุ่งแสวงโชคอย่างรวดเร็ว

 

“พูดตามตรง ดิฉันคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่บ้ามากที่จะจ่ายด้วยตัวคนเดียวแบบนี้”

 

เป็นแบบนั้นเลยเหรอ

ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าหนึ่งพันล้านครัมมีค่าแค่ไหนอยู่ดี

 

“เงินเดือนของริโนกิสเท่าไหร่เหรอ?”

 

“คุณหนู เป็นคำถามที่เสียมารยาทมากเลยนะค……อะ ค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ ดิฉันได้รับเงินเดือนจากตระกูลลิสตันราวสี่แสนครัมต่อเดือนค่ะ”

 

ริโนกิสรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว เธอน่าจะเข้าใจจุดประสงค์ของฉันที่ไม่ได้ถามเพราะความอยากรู้อยากเห็น

 

“สี่แสนครัม เยอะไหม?”

 

“ในฐานะสาวใช้ของตระกูลลิสตันก็ถือว่าค่อนข้างสูงค่ะ เมื่อก่อนดิฉันทำงานเป็นพยาบาลให้กับคุณหนูด้วย ดังนั้น ชั่วโมงการทำงานของดิฉันจึงยาวนานค่ะ

ยังไงก็ตาม ตอนนี้ดิฉันอยู่ดูแลคุณหนูที่สถาบันกาศึกษาตลอดเวลา จึงได้รับเบี้ยเลี้ยงสำหรับงานดังกล่าวรวมอยู่ในเงินเดือนขั้นพื้นฐานด้วยค่ะ ดังนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งก่อนและหลัง”

 

ฟุมู๊ว……เดือนละสี่แสนคือเยอะแล้วสินะ

 

“แล้วเงินเดือนของคนทั่วไปล่ะ?”

 

“ซ้า……ดิฉันได้ยินมาว่าหากได้สามแสนก็ถือว่าสูงมากแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ตามก็ขึ้นอยู่กับอาชีพด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนค่ะ”

 

…………

 

ฟุมุ

 

“ถ้าคำรวณด้วยรายได้ระดับนั้น พันล้านครัมก็เป็นจำนวนที่มากเลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“ห่างไกลจากคำว่ามากเลยค่ะ นั่นเป็นเงินจำนวนมหาศาลเลยต่างหากค่ะ ดิฉันคิดว่าเป็นจำนวนเงินที่เกินสามัญสำนึกไปแล้วด้วยซ้ำ”

 

……งั้นเหรอ ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วทำไมฮิลเดโทร่าถึงดูตกใจนัก

 

“จะว่าไปแล้ว เบี้ยเลี้ยงรายเดือนของฉันอยู่ที่ห้าพันครัมใช่ไหม?”

 

“ตั้งแต่ที่เข้าสถาบันก็กลายเป็นหนึ่งหมื่อนครัมค่ะ”

 

เห๊ ขึ้นให้ด้วยสินะ แต่ก็ใช้ไม่ได้ ……กะแล้วว่ายังไงฉันก็ยังไม่เข้าใจว่ามาก สมเหตุสมผล หรือน้อยอยู่ดี

 

 

 

ดัง นั้น

 

“มีสัตว์อสูรที่มูลค่าพันล้านอยู่หรือเปล่า?”

 

ปัญหาตอนนี้ไม่เกี่ยวกับว่าฉันรู้สึกยังไงเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่จะทำยังไงให้สามารถสร้างรายได้หนึ่งพันล้านครัมในสองปี

ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะทำเงินเร็ว ๆ……

 

“ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่น่าจะมีสัตว์อสูรชั้นสูงที่มีราคาระดับหลายสิบล้านครัมอยู่”

 

“เข้าใจแล้ว นั่นคือเป้าหมาย”

 

“ดิฉันไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ……”

 

ย่อมมีเหตุผลว่าทำไมของที่แพงถึงได้แพง

จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำ

 

พระราชาบอกว่าสองปีให้หลัง ไม่ใช่หนึ่งปีอย่างที่ฉันตั้งใจไว้

กล่าวอีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าระยะเวลาในการเตรียมเงินเพิ่มขึ้น และเป็นการสร้างหลักประกัน หากฉันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ น่าจะสามารถหารายได้ประมาณหนึ่งพันล้านครัมได้อย่างแน่นอน

 

และหากลองคิดดูดี ๆ แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าเป็นข้อดีในอีกแง่มุมหนึ่งเลยทีเดียว

 

“เน๊ ริโนกิส เธอพร้อมมอบหัวใจและจิตวิญญาณให้กับฉันไหม?”

 

“……เอ๊ะ!? นะ แน่นอนอยู่แล้วสิคะ!?”

 

“จ๊า――อ้า ไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าหรอก อย่าถอดสิ อย่าถอด ……ฉันบอกว่าไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้าไง”

 

ฉันนึกว่าเธอจะทำตัวเป็นลูกศิษย์ที่ถูกกระตุ้นให้พูดขวานผ่าซากด้วยความไม่ไว้วางใจเหมือนอย่างเคย

 

“นี่คือความจริงใจของดิฉันค่ะ”

 

เปลือยกายเนี่ยนะ? จริงใจแบบไหนกัน? ทำไมต้องถอดด้วย? เธอตั้งใจจะถอดเสื้อผ้าเพื่ออะไรกัน?

 

ม๊า ยังไงก็ได้

ฉันเหนื่อยที่จะจริงจังกับเธอแล้ว

 

“เธอต้องบรรณาการให้ฉัน ประมาณหนึ่งพันล้านครัมนั่น”

 

“……ขอประทานโทษด้วยค่ะ ดิฉันมีเงินเก็บอยู่แค่สิบล้านครัมเท่านั้น……เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะรีบเพิ่มด้วยการไปพนัน……”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นสิ”

 

ฉันลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบรวบรวมเสื้อผ้าที่ริโนกิสถอดด้วยเหตุผลบางอย่าง แล้วโยนกลับไป

 

“――จงกลายเป็นนักผจญภัย หาเงิน และสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ระหว่างที่ฉันกำลังอยู่ที่สถาบันซะ ถือว่าเป็นการฝึกสำหรับการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในอีกสองปีข้างหน้า และแน่นอนว่าเป็นแผนหาเงินด้วยเช่นกัน

 

จงกลายเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุด

ได้เวลาที่นักผจญภัยที่สามารถทำเงินได้หลายพันล้านครัมปรากฎตัวแล้ว

 

จงทำให้ทุกย่างก้าวของเธอกลายเป็นที่ได้รับการจับตามอง กลายเป็นเสียงเล่าลือตามสายลม กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่รู้จักไม่เพียงแค่อาณาจักรอาร์ตัวร์แต่ร่วมถึงต่างประเทศด้วย

เธอจะกลายเป็นโฆษณาที่มีชีวิต ทำให้การแข่งขันมีชีวิตชีวาขึ้นและคว้าชนะไป”

 

นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่เวลามาเปลือยกายในสถานที่แบบนี้ ลูกศิษย์เอ๋ย

 

“ปกติฉันก็อยากที่จะลงมือทำเอง แต่ตอนนี้ไม่มีทางที่จะทำได้ ดังนั้นฉันต้องขอฝากไว้ที่ลูกศิษย์อย่างเธอ ทำเพื่อฉันได้ไหม?”

 

“……จะทำก็ได้อยู่หรอกค่ะ แต่ว่าถ้าปล่ยอคุณหนูไว้คนเดียวแล้ว……ใครจะเป็นคนดูแลกันคะ……”

 

“ในสถาบันการศึกษา เธอไม่จำเป็นต้องดูแลฉันตลอดเวลาจริงไหม? ถ้าเป็นการทำความสะอาดห้องหรือซักผ้า ฉันจะขอให้ลินเนตต์ทำให้ในเวลาว่าง แถมยังมีคนรับใช้คนอื่นอยู่ในหอพักด้วยเหมือนกัน”

 

ลินเนตต์ สาวใช้ส่วนตัวของพี่ชาย แม้จะอยู่คนละหอพักแต่เรียกได้ว่าแทบจะอยู่ในที่เดียวกันเลยทีเดียว

เธออาจจะมีเวลาว่างบ้างในตอนที่พี่ชายเข้าไปเรียนอยู่ที่สถาบัน ดังนั้นถ้าฉันขอ เธอก็น่าจะทำให้ ม๊า ต่อให้เธอไม่ทำให้ก็ไม่เป็นไร

 

“แล้วใครจะไปด้วยระหว่างการถ่ายทำล่ะคะ?”

 

“มีทีมงานถ่ายทำอยู่ด้วยกันตลอดจริงไหมล่ะ? ถ้าจำเป็นพวกเขาก็จะทำให้ ยังไงแต่แรกแล้วก็แทบไม่มีเวลาว่างระหว่างถ่ายทำอยู่แล้ว”

 

“ดิฉันกำลังทำงานสำคัญที่สุดคือการเฝ้าดูการทำงานอย่างหนักของคุณหนู!”

 

อืม งั้นเหรอ ถ้าอย่างงั้นไม่เป็นไร

 

“เธอไม่จำเป็นต้องดูแลฉันแล้ว เพราะงั้นจงไปหาเงินเพื่อมาบรรณาการฉันเถอะ”

 

“……คุณหนู ดิฉัน……”

 

ริโนกิสรับเสื้อผ้าด้วยความโศกเศร้า เธอดูเขินอายและขมวดคิ้วอย่างเศร้าสร้อย

 

“……คุณหนูที่ดึงดังเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้ ชอบค่ะ……”

 

อ้า เหรอ

ฉันไม่คิดว่าเธอควรจะเขินอายตอนที่พูดทำนองนั้น

 

 

 

ฮิลเดโทร่ามาฉันตอนมื้อกลางวัน

 

ดูเหมือนว่าเธอคาดเดาว่าอาจจะเกิดการพูดคุยที่ซับซ้อนเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ ดังนั้นเธอจึงเสนอให้นำอาหารมาที่ห้องของฉัน และพูดคุยกันระหว่างทานอาหารที่นี่ และฉันก็ตกลง

 

ดูเหมือนว่าเธอพยายามจะคุยกับเรเลียเรดมาก่อนแล้ว แต่ก็ต้องยอมแพ้ เพราะดูเหมือนจะยังคงเก็บตัวไม่เลิก

 

“เช่นนั้นแล้ว? คุณจะทำยังไงเพื่อเงินหนึ่งพันล้านครัมหรือคะ?”

 

“เรื่องนั่น ริโนกิสจะ――”

 

การสนทนาของเราดำเนินต่อไปอีกนานหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขนมปังปิ้งโปะด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ เมนูที่ง่ายเกินจนทำให้รู้สึกขี้เกียจล้างกะทะ(ข้ออ้างล้วนๆ) ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+