[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 11 เดบิวต์ไอดอลโลลิ ส่วนแรก

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 11 เดบิวต์ไอดอลโลลิ ส่วนแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

11 เดบิวต์ภาพสะท้อนเวทมนตร์ ส่วนแรก

 

จุดเริ่มต้นคือเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนนับจากตอนนี้

 

เนียซึ่งเดิมอ่อนแอป่วยหนัก และแม้หลังจากพบแพทย์หลายคนแล้วก็ยังไร้ซึ่งความหวังในการรักษา และหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเธอทำได้แค่รอความตายเพียงเท่านั้น

 

――พ่อแม่ได้ประกาศว่า「พวกเรากำลังมองหาหนทางรักษาเนีย」ผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์อย่างกว้างขวาง

 

ภาพสะท้อนของภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้ อันที่จริง ถ่ายทำโดยช่องที่เป็นหนึ่งในเครือบริษัทภายในดินแดน*นิสตัน*

 

ไม่สิ พูดตรง ๆ งานของพ่อแม่คือ การสร้างภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่สามารถดูได้ด้วยแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และจัดฉายบนช่องดินแดน*นิสตัน*ภาพสะท้อนเวทมนตร์

 

หรือก็คือ พ่อแม่ของฉันเป็นเจ้าของบริษัทกระจายเสียง

นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงดูยุ่งทุกวัน เพราะพวกเขาทำงานเกี่ยวกับภาพเวทมนตร์

 

จำนวนของช่องคือ จำนวนของอาณาเขตที่เริ่มต้นทำธุรกิจภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้

 

จนถึงตอนนี้มีเพียงสองแห่งคือ เมืองหลวงอาร์ตัวร์ และอาณาเขตริสตันขุนนางระดับขั้นที่สี่เท่านั้น  ―― แต่พ่อแม่ของฉันซึ่งรู้สึกถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในธุรกิจนี้อย่างรวดเร็ว จึงนำเข้ามาเผยแพร่ในดินแทนทันที

 

เป็นการยากที่จะพูดว่าสามารถทำให้แพร่หลายได้โดยทั่วไป เนื่องจากปัญหาค่าใช้จ่ายในการถ่ายและทำภาพสะท้อน ทั้งการสร้างแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ และยังการออกอากาศ

 

หากพูดตรงไปตรงมา ในตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ให้ผู้อยู่อาศัยและองค์กรที่มีเงินได้ทดลองซื้อแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อตัดสินใจว่าควรมีส่วนร่วมกับพวกเราด้วยหรือไม่

 

พ่อแม่ได้ใช้ความสัมพันธ์ อำนาจ และทรัพยากรทางการเงินอย่างเต็มที่ และเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับสิทธิ์จากการผลักดัน แม้ว่าจะยังเป็นเพียงขั้นตอนทดสอบก็ตาม

 

ฉันไม่รู้จักพ่อแม่ที่เยือกเย็นแบบนั้น แต่ท้ายที่สุด พ่อแม่ที่บ้านก็แตกต่างจากพ่อแม่ที่ทำงาน

เขามองการณ์ไกล หรือบางทีพวกเขาจะมีพรสวรรค์พิเศษเกี่ยวกับงานของพวกเขา อาจมีทั้งด้านที่เอาแต่ใจและด้านที่เข้มงวด

 

ยังไงก็ตาม ทั้งภาพสะท้อนเวทมนตร์และแผ่นคริสตัลเวทมนตร์

 

เป็นความคิดที่น่าทึ่งมาก

แม้ในฐานะมือสมัครเล่นอย่างฉัน เมื่อพูดถึงเครื่องมือเวทมนตร์ที่มีความเป็นไปได้มากมาย ―― พูดตรง ๆ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลิ่นเหมือนเงินจำนวนมหาศาล

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะแพร่กระจายช้ามาก เพราะเป็นแนวคิดที่ทั้งใหม่เกินไป และต้นทุนยังสูงเกินไป

 

ม๊า ฉันยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอีกมากมาย เพราะไม่มีใครที่จะคุยเรื่องแบบนี้กับเด็กที่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้

 

ฉันคิดว่า เพราะว่ามีการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวด้วยความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวออกไปอย่างกว้างขวาง…….ทั่วราชอาณาจักรอาร์ตัวร์ พ่อแม่จึงคิดว่าตัวเองมีภาระผูกพันที่ต้องประกาศ「ผลลัพธ์」ออกไปด้วยเช่นกัน

 

ผลลัพธ์ของการเรียกหาการรักษาให้ลูกสาวในวงกว้างและไม่เลือกปฏิบัติผ่านภาพสะท้อน

 

แต่เนียตัวจริงที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย

ชายสวมฮู้ดดำน่าสงสัยคงจะใช้ศาสตร์มืดต้องห้ามเพื่อยืดอายุของเธอชั่วคราว ――เพียงไม่กี่วัน ซึ่งเป็นการจัดการที่ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย

 

และโดยบังเอิญ ฉันถูกเรียกตัวมาเพื่อรับหน้าที่ยืดอายุ และได้รับบทบาทให้「ต้องตายอีกครั้ง」

 

――มีปาฏิหาริย์

 

ฉันทำได้ ฉันสามารถขับไล่เงื้อมมือของยมทูตที่พยายามจะคว้าตัวฉันกลับไปได้

 

ถึงแม้ว่าฉันจะไร้ซึ่งความทรงจำ จำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง แต่สามัญสำนึกของโลกนี้ก็ค่อนข้างน่าสงสัยเช่นกัน และฉันไม่สามารถแม้แต่จะมองเข้าไปในความทรงจำของร่างกายนี้ได้

เรียกอย่างสามัญได้เลยว่า ฉันเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์

 

ยังไงก็ตามถึงจะถูกเรียกมาโดยบังเอิญ ฉันสามารถใช้「คิ」ได้

 

ฉันรู้วิธีการรักษาอาการป่วยของเนีย

ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝน「คิ」ฉันคงตายไปพร้อมกับร่างของเนีย「อีกครั้ง」ไปนานแล้ว

 

เมื่อพิจารณาความน่าจะเป็นแล้ว น่าจะเป็นปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ

เป็นปาฏิหาริย์ที่สามารถเรียกฉันที่มีสามารถรักษามาจากวิญญาณที่หลับใหลอยู่มากมาย

 

นี่เป็นการเล่นตลกของโชคชะตาเช่นนั้นหรือ

หรือเป็นความตั้งใจของใครบางคนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

 

คิดอย่างนั้นอาจจะเหมาะสมกว่า

 

ก็อยากจะเรียกว่าถูกเลือกตามอำเภอใจ แต่ฉันรู้สึกว่าเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะคิดว่าฉันได้รับการนำทาง

 

――หรือเป็นเพราะฉันแข็งแกร่งเกินไป

 

เพราะแข็งแกร่งเกินไป ฉันจึงมีบาปหนาที่ทำให้ถูกมอบหมายชีวิตแสนแปลกประหลาดนี้……คงจะไม่ใช่ความคิดแบบนั้นใช่ไหม

 

ฟุมุ

ฉันไม่รังเกียจที่จะตัดสินใจว่าเหตุผลแบบนั้นเหมาะสมกว่าอย่างอื่น ไม่สิ อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้

 

ม๊า ถึงจะคิดไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น

 

 

 

ผลลัพธ์ของการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวอย่างกว้างขวาง

เนียที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย

 

ฉันเข้ามา รักษา และเริ่มใช้ชีวิตเหมือนเป็นเนีย

 

――ผลลัพธ์นี้จะต้องถูกเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์

 

พ่อแม่ขอให้ฉันทำหน้าที่นี้และปรากฏตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ ต้องการให้บอกจากปากของฉันเอง ว่าฉันหายจากอาการป่วยและยังมีชีวิตอยู่

 

บางทีถ้าฉันบอกว่าฉันทำไม่ได้ คิดว่าพวกเขาอาจจะคิดวิธีอย่างอื่นให้

 

แต่ฉันจะไม่พูดแบบนั้น เพราะฉันทำได้ 

 

ยิ่งถ้ามันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ฉันก็ต้องทำให้สมกับเป็นเนีย

เพราะเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องแสดงความกตัญญูต่อเธอเพื่อแลกกับที่ได้รับร่างกายของเธอมา

 

ดังนั้น ฉันจะไปปรากฎตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ และรายงานการรอดชีวิต

 

 

 

เมื่อฉันออกจากคฤหาสน์เพื่อมาเดินเล่น ริโนกิสก็ยื่นดาบไม้ให้ฉัน

 

“จ๊า ขอความกรุณาด้วยค่ะ!”

 

“ค๊า ค๊า”

 

ฉันลุกขึ้นจากรถเข็นและ ฟันแท่งไม้ที่เธอถืออยู่ด้วยการเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวโดยไม่ส่งเสียง อ้า เหนื่อยแล้ว เหนื่อย

 

วันนี้ก็เช่นกัน ฉันโชว์เทคนิค「ฟันแท่งไม้ด้วยดาบไม้」ที่ริโนกิสหลงรักให้ ม๊า แต่ก็ดูเหมือนจะเหมาะกับการกายภาพบำบัดด้วยเช่นกัน

 

ตั้งแต่ที่ฉันแสดงให้พี่นีลที่กลับมาจากตอนวันหยุดฤดูร้อนดู ตั้งแต่นั้นมาเธอก็รบกวนฉันมากขึ้น

 

“คุณหนูไปเรียนเรื่องนี้มาจากไหนกันคะ?”

 

ริโนกิสที่กำลังสังเกตพื้นผิวที่โดนตัดอยู่ได้ถามคำถามนี้มานับครั้งไม่ถ้วน

 

“พอรู้สึกตัวก็รู้อยู่แล้วล่ะ คงเป็นจากหนังสือสักเล่มนั่นแหละ”

 

“แต่คุณหนูคะ คุณยังอ่านตัวอักษรยาก ๆ ไม่ได้เลย”

 

“ก็มีสมุดภาพไม่ใช่เหรอ”

 

“ไม่มีหนังสือภาพที่ไหนให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีตัดไม้ด้วยไม้ไว้หรอกนะคะ”

 

“อย่าถามมากสิ หนึ่งในความลับของหญิงสาวไง”

 

“ดะ เด็กห้าขวบก็รู้จักมีความลับของหญิงสาวแล้ว……”

 

ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย

ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

 

แต่ปัญหาคือพลังหญิงสาวของริโนกิสนั้นต่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะอยู่ในวัยแรกรุ่นอันสดใส อายุสิบห้าหรือสิบหกปี

ทั้งที่ชอบเรื่องราวความรัก-ความเกลียดชังอันน่าเบื่อหน่าย แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกถึงความเป็นหญิงมากขนาดนี้กัน

 

ไม่ไหวไม่ไหว ฉันกลับมานั่งรถเข็น เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า――ฉันก็เห็นเรือเหาะย้อนยุคขนาดเล็กลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามที่ลมหนาวพัดมา

 

ดูเหมือนว่าพี่ชายของฉันจะกลับมาแล้ว เพราะว่าสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ได้เข้าสู่วันหยุดฤดูหนาวแล้ว

 

นั่นหมายถึงการถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์จะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้

เพราะเป็นเรื่องที่จะทำหลังจากที่ทั้งครอบครัวมารวมกันที่หน้าคฤหาสน์

 

 

 

แม้จะบอกว่าคิดไว้แล้ว แต่ก็อยากจะบอกว่าเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้เหมือนกัน

 

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พี่นีลกลับมา ทีมถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่เรียกว่าทีมช่างภาพก็มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว

 

วันนี้พ่อแม่อยู่บ้านแทนที่จะไปทำงาน และพี่นีลก็กลับมาแล้ว

และฉันผู้ได้รับตราประทับของการรักษาที่สมบูรณ์จากแพทย์ กับเหล่าข้ารับใช้ที่เริ่มจากริโนกิสสาวใช้ส่วนตัว

 

สมาชิกหลักของตระกูลลิสตันมารวมตัวกันที่หน้าคฤหาสน์แล้ว

 

 

 

 

ปล. ช่วงนี้หายไปนาน เพราะคนแปลต้องไปช่วยดูแลคนแก่อายุ90+ เลยทำให้ไม่ค่อยว่างแปล พอได้ไปดูแลแล้วรู้สึกชาบูๆริโนกิสเลยที่ดูแลเนียคนก่อนมาได้ 6 เดือน
คนแปลไปช่วยดูแลแค่ช่วงกลางคืนก็เกือบประสาทกินแล้ว เจอความเอาแต่ใจของคนแก่ที่ตื่นมางอแงรายชั่วโมงตั้งแต่ดึกยันเช้าจนนอนไม่พอ
แถมถามอะไรก็ไม่เคยจะตอบให้ตรงตัวว่าจะเอาอะไรให้ทำอะไร แล้วพอทำไม่ได้ดั่งใจก็งอแง ยิ่งชวนประสาทเสีย
แล้วยังต้องไปช่วยอีกพักใหญ่ๆ เพราะงั้นตอนต่อไปก็หายยาวๆ ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 11 เดบิวต์ไอดอลโลลิ ส่วนแรก

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 11 เดบิวต์ไอดอลโลลิ ส่วนแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

11 เดบิวต์ภาพสะท้อนเวทมนตร์ ส่วนแรก

 

จุดเริ่มต้นคือเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนนับจากตอนนี้

 

เนียซึ่งเดิมอ่อนแอป่วยหนัก และแม้หลังจากพบแพทย์หลายคนแล้วก็ยังไร้ซึ่งความหวังในการรักษา และหลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเธอทำได้แค่รอความตายเพียงเท่านั้น

 

――พ่อแม่ได้ประกาศว่า「พวกเรากำลังมองหาหนทางรักษาเนีย」ผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์อย่างกว้างขวาง

 

ภาพสะท้อนของภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้ อันที่จริง ถ่ายทำโดยช่องที่เป็นหนึ่งในเครือบริษัทภายในดินแดน*นิสตัน*

 

ไม่สิ พูดตรง ๆ งานของพ่อแม่คือ การสร้างภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่สามารถดูได้ด้วยแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และจัดฉายบนช่องดินแดน*นิสตัน*ภาพสะท้อนเวทมนตร์

 

หรือก็คือ พ่อแม่ของฉันเป็นเจ้าของบริษัทกระจายเสียง

นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงดูยุ่งทุกวัน เพราะพวกเขาทำงานเกี่ยวกับภาพเวทมนตร์

 

จำนวนของช่องคือ จำนวนของอาณาเขตที่เริ่มต้นทำธุรกิจภาพสะท้อนเวทมนตร์นี้

 

จนถึงตอนนี้มีเพียงสองแห่งคือ เมืองหลวงอาร์ตัวร์ และอาณาเขตริสตันขุนนางระดับขั้นที่สี่เท่านั้น  ―― แต่พ่อแม่ของฉันซึ่งรู้สึกถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในธุรกิจนี้อย่างรวดเร็ว จึงนำเข้ามาเผยแพร่ในดินแทนทันที

 

เป็นการยากที่จะพูดว่าสามารถทำให้แพร่หลายได้โดยทั่วไป เนื่องจากปัญหาค่าใช้จ่ายในการถ่ายและทำภาพสะท้อน ทั้งการสร้างแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ และยังการออกอากาศ

 

หากพูดตรงไปตรงมา ในตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ให้ผู้อยู่อาศัยและองค์กรที่มีเงินได้ทดลองซื้อแผ่นคริสตัลเวทมนตร์และเฝ้าดูสถานการณ์เพื่อตัดสินใจว่าควรมีส่วนร่วมกับพวกเราด้วยหรือไม่

 

พ่อแม่ได้ใช้ความสัมพันธ์ อำนาจ และทรัพยากรทางการเงินอย่างเต็มที่ และเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับสิทธิ์จากการผลักดัน แม้ว่าจะยังเป็นเพียงขั้นตอนทดสอบก็ตาม

 

ฉันไม่รู้จักพ่อแม่ที่เยือกเย็นแบบนั้น แต่ท้ายที่สุด พ่อแม่ที่บ้านก็แตกต่างจากพ่อแม่ที่ทำงาน

เขามองการณ์ไกล หรือบางทีพวกเขาจะมีพรสวรรค์พิเศษเกี่ยวกับงานของพวกเขา อาจมีทั้งด้านที่เอาแต่ใจและด้านที่เข้มงวด

 

ยังไงก็ตาม ทั้งภาพสะท้อนเวทมนตร์และแผ่นคริสตัลเวทมนตร์

 

เป็นความคิดที่น่าทึ่งมาก

แม้ในฐานะมือสมัครเล่นอย่างฉัน เมื่อพูดถึงเครื่องมือเวทมนตร์ที่มีความเป็นไปได้มากมาย ―― พูดตรง ๆ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีกลิ่นเหมือนเงินจำนวนมหาศาล

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะแพร่กระจายช้ามาก เพราะเป็นแนวคิดที่ทั้งใหม่เกินไป และต้นทุนยังสูงเกินไป

 

ม๊า ฉันยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอีกมากมาย เพราะไม่มีใครที่จะคุยเรื่องแบบนี้กับเด็กที่ไม่สามารถเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้

 

ฉันคิดว่า เพราะว่ามีการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวด้วยความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวออกไปอย่างกว้างขวาง…….ทั่วราชอาณาจักรอาร์ตัวร์ พ่อแม่จึงคิดว่าตัวเองมีภาระผูกพันที่ต้องประกาศ「ผลลัพธ์」ออกไปด้วยเช่นกัน

 

ผลลัพธ์ของการเรียกหาการรักษาให้ลูกสาวในวงกว้างและไม่เลือกปฏิบัติผ่านภาพสะท้อน

 

แต่เนียตัวจริงที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย

ชายสวมฮู้ดดำน่าสงสัยคงจะใช้ศาสตร์มืดต้องห้ามเพื่อยืดอายุของเธอชั่วคราว ――เพียงไม่กี่วัน ซึ่งเป็นการจัดการที่ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย

 

และโดยบังเอิญ ฉันถูกเรียกตัวมาเพื่อรับหน้าที่ยืดอายุ และได้รับบทบาทให้「ต้องตายอีกครั้ง」

 

――มีปาฏิหาริย์

 

ฉันทำได้ ฉันสามารถขับไล่เงื้อมมือของยมทูตที่พยายามจะคว้าตัวฉันกลับไปได้

 

ถึงแม้ว่าฉันจะไร้ซึ่งความทรงจำ จำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง แต่สามัญสำนึกของโลกนี้ก็ค่อนข้างน่าสงสัยเช่นกัน และฉันไม่สามารถแม้แต่จะมองเข้าไปในความทรงจำของร่างกายนี้ได้

เรียกอย่างสามัญได้เลยว่า ฉันเป็นคนนอกโดยสมบูรณ์

 

ยังไงก็ตามถึงจะถูกเรียกมาโดยบังเอิญ ฉันสามารถใช้「คิ」ได้

 

ฉันรู้วิธีการรักษาอาการป่วยของเนีย

ถ้าฉันไม่ได้ฝึกฝน「คิ」ฉันคงตายไปพร้อมกับร่างของเนีย「อีกครั้ง」ไปนานแล้ว

 

เมื่อพิจารณาความน่าจะเป็นแล้ว น่าจะเป็นปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ

เป็นปาฏิหาริย์ที่สามารถเรียกฉันที่มีสามารถรักษามาจากวิญญาณที่หลับใหลอยู่มากมาย

 

นี่เป็นการเล่นตลกของโชคชะตาเช่นนั้นหรือ

หรือเป็นความตั้งใจของใครบางคนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น

 

คิดอย่างนั้นอาจจะเหมาะสมกว่า

 

ก็อยากจะเรียกว่าถูกเลือกตามอำเภอใจ แต่ฉันรู้สึกว่าเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะคิดว่าฉันได้รับการนำทาง

 

――หรือเป็นเพราะฉันแข็งแกร่งเกินไป

 

เพราะแข็งแกร่งเกินไป ฉันจึงมีบาปหนาที่ทำให้ถูกมอบหมายชีวิตแสนแปลกประหลาดนี้……คงจะไม่ใช่ความคิดแบบนั้นใช่ไหม

 

ฟุมุ

ฉันไม่รังเกียจที่จะตัดสินใจว่าเหตุผลแบบนั้นเหมาะสมกว่าอย่างอื่น ไม่สิ อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้

 

ม๊า ถึงจะคิดไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

 

ยิ่งไปกว่านั้น

 

 

 

ผลลัพธ์ของการประกาศหาทางรักษาให้ลูกสาวอย่างกว้างขวาง

เนียที่อยู่บนปากขอบเหวความเป็นความตายได้เสียชีวิตไปในนาทีสุดท้าย

 

ฉันเข้ามา รักษา และเริ่มใช้ชีวิตเหมือนเป็นเนีย

 

――ผลลัพธ์นี้จะต้องถูกเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านภาพสะท้อนเวทมนตร์

 

พ่อแม่ขอให้ฉันทำหน้าที่นี้และปรากฏตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ ต้องการให้บอกจากปากของฉันเอง ว่าฉันหายจากอาการป่วยและยังมีชีวิตอยู่

 

บางทีถ้าฉันบอกว่าฉันทำไม่ได้ คิดว่าพวกเขาอาจจะคิดวิธีอย่างอื่นให้

 

แต่ฉันจะไม่พูดแบบนั้น เพราะฉันทำได้ 

 

ยิ่งถ้ามันเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องการ ฉันก็ต้องทำให้สมกับเป็นเนีย

เพราะเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องแสดงความกตัญญูต่อเธอเพื่อแลกกับที่ได้รับร่างกายของเธอมา

 

ดังนั้น ฉันจะไปปรากฎตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ และรายงานการรอดชีวิต

 

 

 

เมื่อฉันออกจากคฤหาสน์เพื่อมาเดินเล่น ริโนกิสก็ยื่นดาบไม้ให้ฉัน

 

“จ๊า ขอความกรุณาด้วยค่ะ!”

 

“ค๊า ค๊า”

 

ฉันลุกขึ้นจากรถเข็นและ ฟันแท่งไม้ที่เธอถืออยู่ด้วยการเหวี่ยงเพียงครั้งเดียวโดยไม่ส่งเสียง อ้า เหนื่อยแล้ว เหนื่อย

 

วันนี้ก็เช่นกัน ฉันโชว์เทคนิค「ฟันแท่งไม้ด้วยดาบไม้」ที่ริโนกิสหลงรักให้ ม๊า แต่ก็ดูเหมือนจะเหมาะกับการกายภาพบำบัดด้วยเช่นกัน

 

ตั้งแต่ที่ฉันแสดงให้พี่นีลที่กลับมาจากตอนวันหยุดฤดูร้อนดู ตั้งแต่นั้นมาเธอก็รบกวนฉันมากขึ้น

 

“คุณหนูไปเรียนเรื่องนี้มาจากไหนกันคะ?”

 

ริโนกิสที่กำลังสังเกตพื้นผิวที่โดนตัดอยู่ได้ถามคำถามนี้มานับครั้งไม่ถ้วน

 

“พอรู้สึกตัวก็รู้อยู่แล้วล่ะ คงเป็นจากหนังสือสักเล่มนั่นแหละ”

 

“แต่คุณหนูคะ คุณยังอ่านตัวอักษรยาก ๆ ไม่ได้เลย”

 

“ก็มีสมุดภาพไม่ใช่เหรอ”

 

“ไม่มีหนังสือภาพที่ไหนให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีตัดไม้ด้วยไม้ไว้หรอกนะคะ”

 

“อย่าถามมากสิ หนึ่งในความลับของหญิงสาวไง”

 

“ดะ เด็กห้าขวบก็รู้จักมีความลับของหญิงสาวแล้ว……”

 

ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย

ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

 

แต่ปัญหาคือพลังหญิงสาวของริโนกิสนั้นต่ำอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะอยู่ในวัยแรกรุ่นอันสดใส อายุสิบห้าหรือสิบหกปี

ทั้งที่ชอบเรื่องราวความรัก-ความเกลียดชังอันน่าเบื่อหน่าย แต่ทำไมถึงไม่รู้สึกถึงความเป็นหญิงมากขนาดนี้กัน

 

ไม่ไหวไม่ไหว ฉันกลับมานั่งรถเข็น เมื่อแหงนหน้ามองท้องฟ้า――ฉันก็เห็นเรือเหาะย้อนยุคขนาดเล็กลอยอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามที่ลมหนาวพัดมา

 

ดูเหมือนว่าพี่ชายของฉันจะกลับมาแล้ว เพราะว่าสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ได้เข้าสู่วันหยุดฤดูหนาวแล้ว

 

นั่นหมายถึงการถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์จะเริ่มขึ้นในเร็ว ๆ นี้

เพราะเป็นเรื่องที่จะทำหลังจากที่ทั้งครอบครัวมารวมกันที่หน้าคฤหาสน์

 

 

 

แม้จะบอกว่าคิดไว้แล้ว แต่ก็อยากจะบอกว่าเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้เหมือนกัน

 

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พี่นีลกลับมา ทีมถ่ายภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่เรียกว่าทีมช่างภาพก็มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว

 

วันนี้พ่อแม่อยู่บ้านแทนที่จะไปทำงาน และพี่นีลก็กลับมาแล้ว

และฉันผู้ได้รับตราประทับของการรักษาที่สมบูรณ์จากแพทย์ กับเหล่าข้ารับใช้ที่เริ่มจากริโนกิสสาวใช้ส่วนตัว

 

สมาชิกหลักของตระกูลลิสตันมารวมตัวกันที่หน้าคฤหาสน์แล้ว

 

 

 

 

ปล. ช่วงนี้หายไปนาน เพราะคนแปลต้องไปช่วยดูแลคนแก่อายุ90+ เลยทำให้ไม่ค่อยว่างแปล พอได้ไปดูแลแล้วรู้สึกชาบูๆริโนกิสเลยที่ดูแลเนียคนก่อนมาได้ 6 เดือน
คนแปลไปช่วยดูแลแค่ช่วงกลางคืนก็เกือบประสาทกินแล้ว เจอความเอาแต่ใจของคนแก่ที่ตื่นมางอแงรายชั่วโมงตั้งแต่ดึกยันเช้าจนนอนไม่พอ
แถมถามอะไรก็ไม่เคยจะตอบให้ตรงตัวว่าจะเอาอะไรให้ทำอะไร แล้วพอทำไม่ได้ดั่งใจก็งอแง ยิ่งชวนประสาทเสีย
แล้วยังต้องไปช่วยอีกพักใหญ่ๆ เพราะงั้นตอนต่อไปก็หายยาวๆ ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+