ปล้นสวรรค์ 196 ไพ่บิน

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 196 ไพ่บิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปล้นสวรรค์ SPH:บทที่ 196 ไพ่บิน

 

ที่หน้าจอ เขาเห็นแค่ข้อมือที่สั่นไหวของเย่หยูตามมา ด้วยเสียงร้องโหยหวนของบลูส์ ปืนที่ตกบนพื้น และเขากุมข้อมือไว้และร้องครวญครางไม่หยุด

 

ที่หน้าจอในห้องไลฟ์สดมีเครื่องหายคําถามผุดขึ้นเต็มไปหมด ทุกคนไม่เข้าใจเลยว่าเย่หยูใช้วิธีอะไรถึงทําให้บลูส์ที่เกือบคลังวางปืนลงได้ ในยามนั้น มันก็ทําให้ทุกคนหันไปสนใจ

 

“รางวัลครูใหญ่สําหรับคนเก่ง ลูกผู้ชายเย่หยูสุดยอดไปเลย”

 

“ฉันอยากรู้ว่าทําไมบลูส์ถึงทิ้งปืนแล้วกุมมือแบบนั้น”

 

กลุ่มคนดูที่งงงวยพากันเลื่อนสายตาไปดูรูปภาพของครูใหญ่ ไม่รู้เลยว่าครูใหญ่เปลี่ยนภาพโปรไฟล์จากรูปถ่ายปกติไปเป็นภาพเบลอเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่

 

ทุกคนคลิกบนภาพนั้นแล้วต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

เห็นได้ชัดว่า รูปนั้นเป็นรูปสกรีนช็อตจากจอภาพในห้องไลฟ์สด มีวงกลมสีแดงปรากฏที่มุมหนึ่งของรูป ซึ่งเป็นตําแหน่งเดียวกับที่บลูส์กุมข้อมือขวาของเขาไว้ ที่กลางข้อมือขวาของบลูส์ มีไพ่เจาะเข้าไปลึก เหลือแต่มุมไพ่ที่โผล่ขึ้นมา

 

ไพ่เอหัวใจ!

 

นี่เป็นมุมไพ่ที่ปรากฏขึ้นมา

 

“นี่เป็นไพ่ธรรมดางั้นเหรอ”

 

“น่าจะใช่ถูกไหม ถ้านายมองดูให้ดีๆนะ นั่นไม่ใช่ไพ่โพธิ์แดงเหรอ”

 

“จึ๊… เป็นไปได้เหรอว่าเย่หยูแค่ขว้างไพ่ใบนี้ออกไป”

 

“นี่มันสุดยอดไปเลยนะ แค่ไพ่ใบบางๆ ก็เจาะเข้าที่ข้อมือของเจ้าบลูส์ได้”

 

“ใช้พลังภายในแบบไหนกัน ถ้าขว้างเข้าที่ลําคอ ขว้างทีเดียวอาจตายได้เลยนะ”

 

“เยี่ยมยอด น้องชาย แม้แต่ไพ่ก็ยังนํามาใช้เป็นอาวุธได้ นี่ต้องเป็นกําลังภายในขั้นแกร่งกล้าแน่นอน

 

อาเข่อซึ่งยืนอยู่ในตรอก ก็มองไปที่เย่หยูด้วยสีหน้าตกใจเช่นกัน เธอเห็นมันกับตา เย่หยูใช้ไพ่ใบเดียวเจาะทะลุข้อมือของบลูส์ ตอนนี้ถ้าเธอได้ยินเสียงหวีดหวิวบาดหู เธอจะขนหัวลุกซู่เป็นแน่ ไม่สงสัยเลยว่าทําไมเย่หยูไม่กลัวปืนในมือของบลูส์ เพราะฝีมือการขว้างไพ่ของเย่หยื่นั่น เทียบได้กับอาวุธปืนร้ายกาจ หรืออาจร้ายกว่าด้วยซ้ํา ใครจะคิดว่าไพ่ใบเล็กๆ เมื่ออยู่ในมือของเย่หยู จะแสดงอานุภาพเอาชนะปืนได้ เมื่อเห็นฝรั่งทั้งสามคนร้องครวญครางไม่หยุด อาเข่อก็รีบวิ่งไปอยู่ข้างๆเย่หยู เธอถอนใจออกมาอย่างโล่งออกแล้วสงบจิตใจได้ในที่สุด

 

“เย่หยู ทําไมถึงมาอยู่ในอเมริกาได้ล่ะ”

 

เย่หยูมองอาเข่อแล้วหัวเราะเบาๆ “ฉันมาเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์ ส่วนเธอนะ ไม่ได้ไลฟ์สดจากที่บ้านนี่นา ทําไมถึงออกจากประเทศล่ะ”

 

ดวงตาของอาเข่อทอประกายวาววามเมื่อมองเย่หยูแล้วพูดเบาๆว่า “เพื่อนฉันอาซุยเชิญฉันมาสู่แดนโรแมนติกเพื่อไลฟ์สด ที่แรกคือสหรัฐอเมริกา ฉันไม่คิดว่าจะบังเอิญได้พบเธอแบบนี้”

 

อาเข่อยิ้มหวานอย่างยินดี “โชคดีนะที่ฉันพบเธอเข้า ไม่อย่างนั้น กับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าต้องทํายังไง”

 

เย่หยูดูสีหน้าของอาเข่อแล้วกล่าวด้วยน้ําเสียงเจือความขบขันว่า “เธอนี่ใจกล้าจริงๆ เธอเดินทางมาต่างประเทศคน เดียว”

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนพยายามยืนพิงกําแพง หนึ่งในนั้นแขนหัก ส่วนอีกคนยกมือกุมหน้าอก ส่วนคนสุดท้ายกุมข้อมือไว้แน่น ทั้งสามได้แต่มองเย่หยูอย่างหวาดกลัว ราวกับเห็นมังกรก่อนยุคประวัติศาสตร์

 

ทั้งหมดถูกเย่หยูทําให้กลัวจนสติแตก ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเย่หยู บลูส์และเพื่อนๆ อีกสองคนไม่กล้าขยับตัวแม้สักนิด เย่หยูมองไปที่คนทั้งสามที่มีสีหน้าหวาดกลัวแล้วบอกกับอาเข่อว่า “ต่อไปนะ ถ้าเธอเจอคนประเภทนี้อีก เธอต้องโทรแจ้งตํารวจทันที และต้องไม่กลัวเจ้าขยะพวกนี้ทําเป็นแต่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่ไม่กล้ากับคนที่เก่งกว่า”

 

อาเข่อพยักหน้า “ได้ ฉันเข้าใจ”

 

“ได้จ้ะ” จู่ๆ อาเข่อก็นึกอะไรขึ้นได้และพูดว่า “เย่หยู ถ้าหากเธอทําร้ายพวกเขาหนักแบบนี้แล้วเจอตํารวจเข้าล่ะ นี่อเมริกานะ มันจะไม่ดีสําหรับเราแน่นอน”

 

สีหน้าของเย่หยูยังคงเดิมเมื่อเขาหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีของฉันเอง”

 

เจ้าฝรั่งทั้งสามเพื่อได้ยินคําว่าแจ้งตํารวจ พวกเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ฮ่าๆ โทรแจ้งตํารวจ เจ้าหนุ่มจีนบ้านหักแขนฉัน เราต้องโทรเรียกตํารวจมาจับเขา”

 

“เจ้าเด็กจีนสารเลว หน้าอกฉันยังเจ็บอยู่เลย ซี่โครงฉันต้องหักแน่ ถ้าตํารวจมาถึง ฉันจะสั่งสอนเจ้าเด็กจีนคนนี้เอง”

 

“โทรเรียกตํารวจเหรอ ความคิดดี เขาจะถูกต้องข้อหาอะไรบ้างนะ เจตนาทําร้ายคนให้บาดเจ็บ อืม นี่เป็นอาชญากรรมร้ายแรงแน่”

 

แววตาของบลูส์และเพื่อนอีกสองคนทอแววไม่แน่ใจเมื่อพยายามคิดหาวิธี เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพวกเขา เย่หยูก็รู้ว่าทั้งสามคนมีเจตนาไม่ดีแน่ แต่เย่หนูไม่กลัวพวกเขาพูดจาไร้สาระต่อหน้าตํารวจ เพราะการขู่เอาชีวิตจะทําให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ดีขึ้น

 

“พวกนายทั้งสามคนรอให้ตํารวจมาถึงสินะ ถูกไหม” เย่หยูมองทั้งสามคนด้วยสายตาเย้ยหยัน

 

บลูส์ตัวสั่นไปทั้งร่าง และรู้สึกปวดบริเวณช่วงเอวมากขึ้น เขาลนลานพูดแก้ต่างให้ตัวเอง

 

“ไม่จริงมันจะเป็นไปได้อย่างไร”

 

เย่หยูกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันรู้เจตนาของพวกนายดี” เขามองฝรั่งทั้งสามแล้วพูดขึ้นในทันทีว่า “ถ้าเราเจอตํารวจ สายตรวจ พวกนายจะตรงไปแจ้งเหตุ และกล่าวหาว่าฉันเจตนาทําร้ายคนให้บาดเจ็บใช่ไหม”

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนตกใจและกลัวอย่างมาก เจ้าหนุ่มจีนคนนี้รู้เรื่องนี้ด้วย

 

พอได้ยินเช่นนั้น อาเข่อเริ่มวิตกและรีบถามเย่หยูว่า “เย่หยู เธอมีแผนการอะไร” ฉันกลัวว่าพวกสายตรวจใกล้มาถึง แล้ว”

 

ดวงตาของเย่หยูลึกล้ําดุจน้ําในสระ เขามองบลูส์กับเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาคงเดิม

 

ตอนนั้นเองที่ทั้งสามหน้าซีดเผือดเหมือนคนตายและทั้ง ร่างสั่นระเบิกเมื่อเย่หยูกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉันเชื่อว่าพวกเขารู้ว่าจะต้องพูดอะไร” เย่หยูสะบัดมือ ไพ่โปกเกอร์ทั้งสามก็ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้ว

 

พี่บ!

 

สะบัดข้อมือเพียงครั้ง ไพ่ทั้งสามใบก็พุ่ง เฉียดลําคอของบลูส์และเพื่อนทั้งสอง แล้วฝังลึกเข้าไปในกําแพงด้านหลัง

 

ฉีก!

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนแข้งขาอ่อนยวบ จนล้มทรุดลงกับ

 

ยามนั้นเอง ทันทีที่เย่หมูลงมือ ทั้งสามคนรู้สึกเหมือนเทพแห่งความตายยืนอยู่ที่หลังของพวกเขา ลมหายใจเย็นยะเยือกรดอยู่บนต้นคอ

 

เขากล้าลงมือฆ่าจริงๆแน่”

 

บลูส์มองไปที่เย่หยูซึ่งยืนที่เดิมแบบไม่เชื่อสายตา สุดท้ายเขาก็เข้าใจแล้วว่า หนุ่มจีนคนนี้ไม่สนใจเรื่องความเป็นและความตาย

 

ตอนนี้เขายังไม่ตายและได้รับบาดเจ็บแค่ที่ข้อมือ นั่นอาจเพราะเขามันน่ารังเกียจ บลูส์มีสีหน้าแตกตื่นเมื่อหันไป ดูเพื่อนอีกสองคน แจ็คกับอีกคนกลัวสุดขีดจนถึงกับปัสสาวะราดเพราะไฟบินของเยี่หยู

 

เขาตวัดมืออีกครั้ง และไพ่อีกสามใบก็ปรากฏขึ้น ดูจากสภาพอันน่าสังเวชของอีกฝ่ายแล้ว เย่หยูกล่าวอย่างเย็นชาว่า “บอกฉันทีสิ พวกนายได้รับบาดเจ็บยังไง”

 

แจ็คหน้าซีดเผือด ลูกกระเดือกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างไม่รู้ตัว และกล่าวอย่างระวังว่า “เราเจออุบัติเหตุ พูดสั้นๆ คุณไม่มีส่วนในเรื่องนี้

 

“ใช่ ใช่แล้ว ใช่ ผมเดินล้มลงไปเองก็เลยซี่โครงหัก คุณไม่ได้ทําร้ายผมแน่”

 

“ดีมาก” เย่หยูพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วเลื่อนสายตามาที่บลูส์ ยิ้มบางๆ และถามว่า “ตานายแล้ว ข้อมือนายบาดเจ็บได้ยังไง”

 

บลูส์มองไฟที่ยังฝังอยู่ในข้อมือ เขาควรทํายังไงดี เพราะไพ่ยังฝังอยู่ที่ข้อมือแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อแน่ถ้าเขาบอกว่าเขาล้มลงไป เขาต้องคิดหาคําอธิบายที่ฟังแล้วน่าเชื่อถือ

 

บลูส์กลอกตาแล้วรีบพูดขึ้น “เป็นการฝังเข็ม ผมฝึกฝังเข็มด้วยไฟ”

 

เย่หยูจ้องเขาด้วยสายตาว่างเปล่า เหตุผลนี้ดูจะไปไกลมากจนไม่น่าเชื่อ แต่ช่างเถอะ พวกเขาไม่กล้าบอกความจริงอยู่แล้ว

 

อาเข่อมองบลูส์ด้วยสีหน้างุนงง ที่เขาพูดเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแบบนั้นออกมาดังๆ

 

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงโห่ร้องยินดีจากห้องไลฟ์สดของอาเข่อ

 

“เทพเย่หยู สุดยอดเลย พวกคนร้ายยอมแพ้ในทันที”

 

“ให้ตายสิ ใช้ไฟฝังเข็มเนี่ยนะ ตลกมาก”

 

“ฮ่าๆ เจ้าฝรั่งทั้งสามต้องอยากมีชีวิตอยู่ต่อแบบสุดๆ”

 

“พวกเขากล้าพูดความจริงไหมล่ะ เขาไม่เห็นเย่หูขว้างไพ่พร้อมกัน และทุกใบเฉียวคอของพวกเขาไป มันสุดยอดจริงๆ”

 

“นายไม่เห็นพลังของไพ่เหรอ กําแพงนั่นหนามาก แต่ไพ่ปักลงไปเกินครึ่งใบ”

 

“…..ด้วยความแรงแบบนี้ พอมันโดนนายเข้า ตัวเป็นหลุมแน่”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ปล้นสวรรค์ 196 ไพ่บิน

Now you are reading ปล้นสวรรค์ Chapter 196 ไพ่บิน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปล้นสวรรค์ SPH:บทที่ 196 ไพ่บิน

 

ที่หน้าจอ เขาเห็นแค่ข้อมือที่สั่นไหวของเย่หยูตามมา ด้วยเสียงร้องโหยหวนของบลูส์ ปืนที่ตกบนพื้น และเขากุมข้อมือไว้และร้องครวญครางไม่หยุด

 

ที่หน้าจอในห้องไลฟ์สดมีเครื่องหายคําถามผุดขึ้นเต็มไปหมด ทุกคนไม่เข้าใจเลยว่าเย่หยูใช้วิธีอะไรถึงทําให้บลูส์ที่เกือบคลังวางปืนลงได้ ในยามนั้น มันก็ทําให้ทุกคนหันไปสนใจ

 

“รางวัลครูใหญ่สําหรับคนเก่ง ลูกผู้ชายเย่หยูสุดยอดไปเลย”

 

“ฉันอยากรู้ว่าทําไมบลูส์ถึงทิ้งปืนแล้วกุมมือแบบนั้น”

 

กลุ่มคนดูที่งงงวยพากันเลื่อนสายตาไปดูรูปภาพของครูใหญ่ ไม่รู้เลยว่าครูใหญ่เปลี่ยนภาพโปรไฟล์จากรูปถ่ายปกติไปเป็นภาพเบลอเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่

 

ทุกคนคลิกบนภาพนั้นแล้วต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

เห็นได้ชัดว่า รูปนั้นเป็นรูปสกรีนช็อตจากจอภาพในห้องไลฟ์สด มีวงกลมสีแดงปรากฏที่มุมหนึ่งของรูป ซึ่งเป็นตําแหน่งเดียวกับที่บลูส์กุมข้อมือขวาของเขาไว้ ที่กลางข้อมือขวาของบลูส์ มีไพ่เจาะเข้าไปลึก เหลือแต่มุมไพ่ที่โผล่ขึ้นมา

 

ไพ่เอหัวใจ!

 

นี่เป็นมุมไพ่ที่ปรากฏขึ้นมา

 

“นี่เป็นไพ่ธรรมดางั้นเหรอ”

 

“น่าจะใช่ถูกไหม ถ้านายมองดูให้ดีๆนะ นั่นไม่ใช่ไพ่โพธิ์แดงเหรอ”

 

“จึ๊… เป็นไปได้เหรอว่าเย่หยูแค่ขว้างไพ่ใบนี้ออกไป”

 

“นี่มันสุดยอดไปเลยนะ แค่ไพ่ใบบางๆ ก็เจาะเข้าที่ข้อมือของเจ้าบลูส์ได้”

 

“ใช้พลังภายในแบบไหนกัน ถ้าขว้างเข้าที่ลําคอ ขว้างทีเดียวอาจตายได้เลยนะ”

 

“เยี่ยมยอด น้องชาย แม้แต่ไพ่ก็ยังนํามาใช้เป็นอาวุธได้ นี่ต้องเป็นกําลังภายในขั้นแกร่งกล้าแน่นอน

 

อาเข่อซึ่งยืนอยู่ในตรอก ก็มองไปที่เย่หยูด้วยสีหน้าตกใจเช่นกัน เธอเห็นมันกับตา เย่หยูใช้ไพ่ใบเดียวเจาะทะลุข้อมือของบลูส์ ตอนนี้ถ้าเธอได้ยินเสียงหวีดหวิวบาดหู เธอจะขนหัวลุกซู่เป็นแน่ ไม่สงสัยเลยว่าทําไมเย่หยูไม่กลัวปืนในมือของบลูส์ เพราะฝีมือการขว้างไพ่ของเย่หยื่นั่น เทียบได้กับอาวุธปืนร้ายกาจ หรืออาจร้ายกว่าด้วยซ้ํา ใครจะคิดว่าไพ่ใบเล็กๆ เมื่ออยู่ในมือของเย่หยู จะแสดงอานุภาพเอาชนะปืนได้ เมื่อเห็นฝรั่งทั้งสามคนร้องครวญครางไม่หยุด อาเข่อก็รีบวิ่งไปอยู่ข้างๆเย่หยู เธอถอนใจออกมาอย่างโล่งออกแล้วสงบจิตใจได้ในที่สุด

 

“เย่หยู ทําไมถึงมาอยู่ในอเมริกาได้ล่ะ”

 

เย่หยูมองอาเข่อแล้วหัวเราะเบาๆ “ฉันมาเข้าแข่งขันคณิตศาสตร์ ส่วนเธอนะ ไม่ได้ไลฟ์สดจากที่บ้านนี่นา ทําไมถึงออกจากประเทศล่ะ”

 

ดวงตาของอาเข่อทอประกายวาววามเมื่อมองเย่หยูแล้วพูดเบาๆว่า “เพื่อนฉันอาซุยเชิญฉันมาสู่แดนโรแมนติกเพื่อไลฟ์สด ที่แรกคือสหรัฐอเมริกา ฉันไม่คิดว่าจะบังเอิญได้พบเธอแบบนี้”

 

อาเข่อยิ้มหวานอย่างยินดี “โชคดีนะที่ฉันพบเธอเข้า ไม่อย่างนั้น กับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าต้องทํายังไง”

 

เย่หยูดูสีหน้าของอาเข่อแล้วกล่าวด้วยน้ําเสียงเจือความขบขันว่า “เธอนี่ใจกล้าจริงๆ เธอเดินทางมาต่างประเทศคน เดียว”

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนพยายามยืนพิงกําแพง หนึ่งในนั้นแขนหัก ส่วนอีกคนยกมือกุมหน้าอก ส่วนคนสุดท้ายกุมข้อมือไว้แน่น ทั้งสามได้แต่มองเย่หยูอย่างหวาดกลัว ราวกับเห็นมังกรก่อนยุคประวัติศาสตร์

 

ทั้งหมดถูกเย่หยูทําให้กลัวจนสติแตก ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเย่หยู บลูส์และเพื่อนๆ อีกสองคนไม่กล้าขยับตัวแม้สักนิด เย่หยูมองไปที่คนทั้งสามที่มีสีหน้าหวาดกลัวแล้วบอกกับอาเข่อว่า “ต่อไปนะ ถ้าเธอเจอคนประเภทนี้อีก เธอต้องโทรแจ้งตํารวจทันที และต้องไม่กลัวเจ้าขยะพวกนี้ทําเป็นแต่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า แต่ไม่กล้ากับคนที่เก่งกว่า”

 

อาเข่อพยักหน้า “ได้ ฉันเข้าใจ”

 

“ได้จ้ะ” จู่ๆ อาเข่อก็นึกอะไรขึ้นได้และพูดว่า “เย่หยู ถ้าหากเธอทําร้ายพวกเขาหนักแบบนี้แล้วเจอตํารวจเข้าล่ะ นี่อเมริกานะ มันจะไม่ดีสําหรับเราแน่นอน”

 

สีหน้าของเย่หยูยังคงเดิมเมื่อเขาหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีของฉันเอง”

 

เจ้าฝรั่งทั้งสามเพื่อได้ยินคําว่าแจ้งตํารวจ พวกเขาก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ฮ่าๆ โทรแจ้งตํารวจ เจ้าหนุ่มจีนบ้านหักแขนฉัน เราต้องโทรเรียกตํารวจมาจับเขา”

 

“เจ้าเด็กจีนสารเลว หน้าอกฉันยังเจ็บอยู่เลย ซี่โครงฉันต้องหักแน่ ถ้าตํารวจมาถึง ฉันจะสั่งสอนเจ้าเด็กจีนคนนี้เอง”

 

“โทรเรียกตํารวจเหรอ ความคิดดี เขาจะถูกต้องข้อหาอะไรบ้างนะ เจตนาทําร้ายคนให้บาดเจ็บ อืม นี่เป็นอาชญากรรมร้ายแรงแน่”

 

แววตาของบลูส์และเพื่อนอีกสองคนทอแววไม่แน่ใจเมื่อพยายามคิดหาวิธี เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของพวกเขา เย่หยูก็รู้ว่าทั้งสามคนมีเจตนาไม่ดีแน่ แต่เย่หนูไม่กลัวพวกเขาพูดจาไร้สาระต่อหน้าตํารวจ เพราะการขู่เอาชีวิตจะทําให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ดีขึ้น

 

“พวกนายทั้งสามคนรอให้ตํารวจมาถึงสินะ ถูกไหม” เย่หยูมองทั้งสามคนด้วยสายตาเย้ยหยัน

 

บลูส์ตัวสั่นไปทั้งร่าง และรู้สึกปวดบริเวณช่วงเอวมากขึ้น เขาลนลานพูดแก้ต่างให้ตัวเอง

 

“ไม่จริงมันจะเป็นไปได้อย่างไร”

 

เย่หยูกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “ฉันรู้เจตนาของพวกนายดี” เขามองฝรั่งทั้งสามแล้วพูดขึ้นในทันทีว่า “ถ้าเราเจอตํารวจ สายตรวจ พวกนายจะตรงไปแจ้งเหตุ และกล่าวหาว่าฉันเจตนาทําร้ายคนให้บาดเจ็บใช่ไหม”

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนตกใจและกลัวอย่างมาก เจ้าหนุ่มจีนคนนี้รู้เรื่องนี้ด้วย

 

พอได้ยินเช่นนั้น อาเข่อเริ่มวิตกและรีบถามเย่หยูว่า “เย่หยู เธอมีแผนการอะไร” ฉันกลัวว่าพวกสายตรวจใกล้มาถึง แล้ว”

 

ดวงตาของเย่หยูลึกล้ําดุจน้ําในสระ เขามองบลูส์กับเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาคงเดิม

 

ตอนนั้นเองที่ทั้งสามหน้าซีดเผือดเหมือนคนตายและทั้ง ร่างสั่นระเบิกเมื่อเย่หยูกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉันเชื่อว่าพวกเขารู้ว่าจะต้องพูดอะไร” เย่หยูสะบัดมือ ไพ่โปกเกอร์ทั้งสามก็ปรากฏขึ้นระหว่างนิ้ว

 

พี่บ!

 

สะบัดข้อมือเพียงครั้ง ไพ่ทั้งสามใบก็พุ่ง เฉียดลําคอของบลูส์และเพื่อนทั้งสอง แล้วฝังลึกเข้าไปในกําแพงด้านหลัง

 

ฉีก!

 

บลูส์กับเพื่อนอีกสองคนแข้งขาอ่อนยวบ จนล้มทรุดลงกับ

 

ยามนั้นเอง ทันทีที่เย่หมูลงมือ ทั้งสามคนรู้สึกเหมือนเทพแห่งความตายยืนอยู่ที่หลังของพวกเขา ลมหายใจเย็นยะเยือกรดอยู่บนต้นคอ

 

เขากล้าลงมือฆ่าจริงๆแน่”

 

บลูส์มองไปที่เย่หยูซึ่งยืนที่เดิมแบบไม่เชื่อสายตา สุดท้ายเขาก็เข้าใจแล้วว่า หนุ่มจีนคนนี้ไม่สนใจเรื่องความเป็นและความตาย

 

ตอนนี้เขายังไม่ตายและได้รับบาดเจ็บแค่ที่ข้อมือ นั่นอาจเพราะเขามันน่ารังเกียจ บลูส์มีสีหน้าแตกตื่นเมื่อหันไป ดูเพื่อนอีกสองคน แจ็คกับอีกคนกลัวสุดขีดจนถึงกับปัสสาวะราดเพราะไฟบินของเยี่หยู

 

เขาตวัดมืออีกครั้ง และไพ่อีกสามใบก็ปรากฏขึ้น ดูจากสภาพอันน่าสังเวชของอีกฝ่ายแล้ว เย่หยูกล่าวอย่างเย็นชาว่า “บอกฉันทีสิ พวกนายได้รับบาดเจ็บยังไง”

 

แจ็คหน้าซีดเผือด ลูกกระเดือกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างไม่รู้ตัว และกล่าวอย่างระวังว่า “เราเจออุบัติเหตุ พูดสั้นๆ คุณไม่มีส่วนในเรื่องนี้

 

“ใช่ ใช่แล้ว ใช่ ผมเดินล้มลงไปเองก็เลยซี่โครงหัก คุณไม่ได้ทําร้ายผมแน่”

 

“ดีมาก” เย่หยูพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วเลื่อนสายตามาที่บลูส์ ยิ้มบางๆ และถามว่า “ตานายแล้ว ข้อมือนายบาดเจ็บได้ยังไง”

 

บลูส์มองไฟที่ยังฝังอยู่ในข้อมือ เขาควรทํายังไงดี เพราะไพ่ยังฝังอยู่ที่ข้อมือแบบนี้ ไม่มีใครเชื่อแน่ถ้าเขาบอกว่าเขาล้มลงไป เขาต้องคิดหาคําอธิบายที่ฟังแล้วน่าเชื่อถือ

 

บลูส์กลอกตาแล้วรีบพูดขึ้น “เป็นการฝังเข็ม ผมฝึกฝังเข็มด้วยไฟ”

 

เย่หยูจ้องเขาด้วยสายตาว่างเปล่า เหตุผลนี้ดูจะไปไกลมากจนไม่น่าเชื่อ แต่ช่างเถอะ พวกเขาไม่กล้าบอกความจริงอยู่แล้ว

 

อาเข่อมองบลูส์ด้วยสีหน้างุนงง ที่เขาพูดเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นแบบนั้นออกมาดังๆ

 

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงโห่ร้องยินดีจากห้องไลฟ์สดของอาเข่อ

 

“เทพเย่หยู สุดยอดเลย พวกคนร้ายยอมแพ้ในทันที”

 

“ให้ตายสิ ใช้ไฟฝังเข็มเนี่ยนะ ตลกมาก”

 

“ฮ่าๆ เจ้าฝรั่งทั้งสามต้องอยากมีชีวิตอยู่ต่อแบบสุดๆ”

 

“พวกเขากล้าพูดความจริงไหมล่ะ เขาไม่เห็นเย่หูขว้างไพ่พร้อมกัน และทุกใบเฉียวคอของพวกเขาไป มันสุดยอดจริงๆ”

 

“นายไม่เห็นพลังของไพ่เหรอ กําแพงนั่นหนามาก แต่ไพ่ปักลงไปเกินครึ่งใบ”

 

“…..ด้วยความแรงแบบนี้ พอมันโดนนายเข้า ตัวเป็นหลุมแน่”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+